คนตัวสูงหัวเราะออกมา รู้สึกชอบใจที่ทำให้เธอเขินออกมาได้ขนาดนี้“แค่คำว่าออกกำลังกาย ทำไมเธอต้องหน้าแดงด้วยนิว นี่เธอกำลังคิดถึงการออกกำลังกายอะไรอ่ะ บอกฉันมาดี ๆ นะ”
“บะ บ้า ฉันไม่ได้คิดอะไรลามกเหมือนนายนะ ไอ้ผู้ชายเจ้าเล่ห์” “ฉันบอกตอนไหนว่าคิดลามก เธอต่างหากที่คิดลามกกับฉัน นี่เธอกลายเป็นผู้หญิงแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่นินิว” “ลงไปเลยนะ ถ้าจะมาพูดจาไม่เข้าหูแบบนี้” “งั้นก็แปลว่าถ้าฉันนั่งเงียบ เธอจะไปกินข้าวกับฉันใช่หรือเปล่า” เขายังคงหว่านล้อมให้เธอทำตามความต้องการของตัวเองไม่หยุด ซึ่งพอเขาพูดแบบนั้นเธอเองก็ไม่มีคำโต้แย้งอะไรกับเขาอีก จำต้องออกรถเพื่อไปกินข้าวกับเขาตามที่เขาต้องการ “จะไปกินที่ไหน?” “ที่ไหนก็ได้ที่เธอคิดว่าอร่อย เธอก็รู้ว่าฉันไม่ได้อยู่เมืองไทยนานแล้ว ฉันไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ร้านไหนอร่อยบ้าง” “อย่ามาโกหกเลย ผู้ชายแบบนายผู้หญิงในสต๊อกคงเพียบ” “ต่อให้มีผู้หญิงในสต๊อกมากแค่ไหน ก็ไม่เท่ามีเธอแค่คนเดียวนะ” ใบหน้านินิวร้อนผ่าวทันที เธอไม่รู้หรอกว่าเขาพูดจริงหรือพูดเล่น แต่คำพูดของเขากำลังทำให้เธอใจเต้นรัวจนควบคุมตัวเองไม่ได้ “อยากจะยิ้มก็ยิ้มออกมาเถอะ ไม่ต้องกลั้นยิ้มหรอก” “ไหนบอกว่าจะนั่งเงียบ ยิ่งนายพูดฉันยิ่งไม่มีสมาธิขับรถ” “ก็เธอเขิน” นินิวกำลังนั่งนับหนึ่งถึงสิบในใจ เมื่อโดนเขาพูดจากวนประสาทไม่หยุด ส่วนออสตินก็ยิ่งได้ใจเมื่อเห็นเธอเขินเพราะคำพูดของเขา แสดงว่าเธอเองก็ต้องมีความรู้สึกดี ๆ ให้เขาอยู่บ้าง ไม่งั้นคงไม่เขินหน้าแดงก่ำขนาดนี้ เธอพาเขามาทานข้าวร้านข้าวต้มริมทาง ที่พามาร้านนี้เพราะเธออยากจะเอาคืนที่เขาทำให้เธอเขิน อยากจะรู้ว่าผู้ชายที่รวยระดับเขาจะทานอาหารร้านข้างทางแบบนี้ได้หรือเปล่า เป็นร้านที่เธอมาทานกับพี่แจงผู้จัดการส่วนตัวเป็นประจำจนติดใจในรสชาติอาหารของที่นี่ “กินร้านนี้นะ ฉันอยากกินข้าวต้ม” “ร้านนี้เหรอ?”สายตาคมจ้องมองออกไปนอกกระจกรถด้วยแววตาสงสัย เขาไม่คิดว่าดาราดังระดับเธอจะชอบทานอาหารร้านข้างทางแบบนี้“เธอกล้าลงไปเหรอ” “ถ้านายกินไม่ได้ก็รอบนรถนี่แหละ เดี๋ยวฉันซื้อใส่ถุงมาให้” “ฉันกินได้ แต่ที่ถามว่าเธอกล้าลงไป หมายถึงเธอไม่กลัวเจอพวกแฟนคลับหรือไง” “นี่มันสมัยไหนแล้วออสติน ดาราก็แค่คนเดินดินธรรมดานะ ฉันไม่ยึดติดกับชื่อเสียงอะไรพวกนี้หรอก ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะได้เงินเยอะแค่นั้นแหละ วันไหนฉันมีผัวรวย ฉันจะเลิกเป็นดาราให้นายดูเลย” “เธอจะเลิกจริงเหรอ?” “จริงสิ ฉันไม่ได้คิดจะเป็นดาราไปตลอดชีวิตนะ มันไม่ใช่ทุกอย่างสำหรับฉัน ที่ฉันต้องการคืออยากมีลูก อยากมีครอบครัวที่อบอุ่นต่างหาก” แววตาคมวูบไหวจ้องมองเธอ ขณะที่กำลังพูดเรื่องความฝันของตัวเองด้วยแววตาเป็นประกาย“กับไอ้พระเอกละครนั่นนะเหรอ” “ใคร? พี่ขุนนะเหรอ ฉันไม่ได้ชอบเขา” “งั้นฉันก็มีสิทธิ์จะเป็นคนนั้นของเธอนะสิ” นินิวหันไปสบตาคมของเขา ก่อนที่จะยกกำมือเล็กทุบเข้าที่อกแกร่งเขาทันที “โอ้ย!!! นิวเธอตีฉันทำไม” “อย่ามาพูดจาอะไรน่าขนลุกนะ ก่อนจะคิดเป็นพ่อของลูกใคร นายควรเคลียร์ผู้หญิงในสต๊อกตัวเองให้ได้ก่อน เพิ่งกลับมาได้ไม่กี่วัน ก็มีสาวหมายตานายเพิ่มอีกคนแล้วนะและดูเหมือนว่าคนนี้จะจับนายไม่ปล่อยด้วย” “โมนานะเหรอ” “แล้วนายคิดว่าฉันหมายถึงใคร?” “เธอหึงฉันหรือไง ถึงได้พูดแบบนี้” “หึงบ้า หึงบออะไรของนาย พูดให้มันดี ๆ นะ”เธอหลบสายตาของเขา“แล้วจะกินไหมข้าวต้ม ไหนบอกว่าหิว” “ก็ไปสิ เธอกินได้ ฉันก็กินได้” ทั้งสองคนลงจากรถ ท่ามกลางสายตาของคนในร้านที่จ้องมองมายังบุคคลมาใหม่สองคนที่รูปร่าง หน้าตาและการแต่งตัวดีเกินกว่าจะมานั่งทานร้านข้าวต้มข้างทางแบบนี้ “อ้าว หนูนิว วันนี้พาใครมาด้วย” เฮียหมูเจ้าของร้านข้าวต้มเอ่ยทักเธอ พลางสายตาก็หันไปมองออสตินตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอกับเฮียหมูสนิทกันเพราะอย่างที่บอกว่าเธอชอบมาทานข้าวต้มร้านนี้ ทานมามากกว่าห้าปีแล้วด้วย “เฮียเอากับข้าวเหมือนเดิมนะคะ แต่เพิ่มคะน้าหมูกรอบอีกหนึ่งจาน ขอหมูกรอบจุก ๆ แล้วก็ข้าวสวยหนึ่งจานค่ะ” “โอเค ว่าแต่ยังไม่ตอบเลยว่าพ่อหนุ่มคนนี้เป็นใคร?” “เพื่อนนิวเองค่ะ” “แต่ผมไม่อยากเป็นเพื่อนครับ”ออสตินเอ่ยแทรกออกไปทันที “อย่าไปฟังเขาเลยค่ะเฮีย ชอบพูดอะไรไม่เข้าท่า” เธอรีบลากแขนคนตัวสูงให้เดินไปนั่งโต๊ะในสุด ที่ไกลสายตาคนอื่นในร้าน ซึ่งเป็นโต๊ะประจำของเธอเวลามาทานที่ร้าน“ถ้านายยังไม่หยุดพูดอะไรแบบนี้ ฉันจะไม่คุยกับนายอีกต่อไป” “ฉันพูดเรื่องจริง” “จริงบ้า จริงบออะไร เราเพิ่งเจอกันสองวันเองนะออสติน” “ก็ใช่ไง แล้วเธอทำไมถึงยังจำได้ว่าฉันชอบกินคะน้าหมูกรอบ แล้วก็จำได้ว่าฉันไม่ชอบกินข้าวต้ม” นินิวเม้มปากแน่น เงียบเสียงลง เธอลืมตัวไปว่าจดจำเรื่องพวกนี้ของเขาได้ทุกอย่าง ไม่คิดว่าเขาจะสนใจด้วยที่เธอจำรายละเอียดเล็กน้อยพวกนี้ได้ “เธอกำลังทำให้ฉันหวั่นไหวรู้ไหม”เสียงทุ้มที่พูดประโยคนั้นออกมา ทำให้ลมหายใจเธอติดขัดทันที ก่อนจะรู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นร้อนของคนตัวสูงที่วางลงบนมือเล็กของเธอ “นายนะเหรอหวั่นไหว ไม่ใช่ว่านายก็อยากให้ฉันเป็นผู้หญิงในสต็อกของนายหรอกเหรอ ตอนเช้าควงอีกคน ตอนเย็นควงอีกคน ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร” “บอกมาคำเดียวว่าเธออยากให้ฉันหยุดเจอกับโมนา ไม่อยากให้ไปไหนมาไหนด้วย ขอแค่เธอบอกมาฉันจะทำตามที่เธอต้องการทุกอย่าง” “อย่าพยายามเลย นายกับฉันถ้าจะไปถึงจุดนั้นได้ เราสองคนต้องเรียนรู้กันอีกเยอะ อีกอย่างฉันก็ไม่เชื่อด้วยว่านายรู้สึกอะไรแบบที่นายพูดจริง ๆ มันยังเร็วเกินไป” “แล้วถ้าฉันพิสูจน์ให้เธอเห็นล่ะ อยากรู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน เธอถึงจะเชื่อ ที่ฉันกลับมาเมืองไทยก็เพราะเธอนะนิว” “เพราะฉัน?”นินิวทวนประโยคนั้นเหมือนไม่เชื่อหูตัวเองว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้หลุดออกมาจากปากของเขา“นายสมองฟั่นเฟือนไปแล้วเหรอ ฉันจะไปมีอิทธิพลอะไรกับนายขนาดนั้น เราไม่ได้เจอกันมาแปดปีแล้วนะ ไม่ใช่วันสองวัน” “แต่ฉันรู้เรื่องของเธอมาตลอด” “เอ๊ะ!! เดี๋ยวก่อนนะ ตอนที่พี่แจงเอาบทละครไปให้ฉัน พี่แจงบอกฉันว่าสปอนเซอร์รายใหญ่ เป็นคนระบุมาว่าต้องการให้ฉันเล่นละครเรื่องนี้ คงไม่ได้หมายถึงนายหรอกนะ” “…..”ชายหนุ่มเงียบไม่ตอบ แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะเป็นคำตอบว่าเรื่องที่เธอสงสัยมันคือเรื่องจริง “ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรติน ตอนนายไปจากที่นี่ นายไม่ได้ร่ำลาหรือแม้แต่บอกฉันด้วยซ้ำว่านายจะไปเรียนต่อเมืองนอก แต่พอนายกลับมา นายกลับมาบอกว่ากลับมาที่นี่เพราะฉัน ทั้งที่ตอนเรียนนายเอาแต่ควงผู้หญิงคนอื่นไปทั่ว จนทุกคนในโรงเรียนลือกันว่านายทำผู้หญิงท้อง” “ฉันไม่ได้ทำใครท้อง” “จะยังไงก็ช่าง ยังไงเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว” “แต่เธอยังติดใจเรื่องนี้อยู่ เมื่อวานที่เธอปั้นปึ่งใส่ฉันตั้งแต่เจอกันครั้งแรก ก็เพราะเธอยังโกรธเรื่องนี้ใช่ไหม” “…..” “อยากให้ฉันทำอะไรให้เธอหายโกรธบอกมาเลยดีกว่านิว ขอแค่เราสองคนอย่าเป็นแบบนี้เลยนะ” “เป็นแบบนี้ เป็นแบบไหน เราก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมไง นายเองก็ต้องการแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”นินิวเอ่ยออกไปด้วยความไม่พอใจ ก่อนที่เด็กเสิร์ฟจะทยอยยกอาหารที่เธอสั่งมาเสิร์ฟพอดี ทำให้บรรยากาศอึมครึมบนโต๊ะอาหารกลับมาดีอีกครั้ง เพราะน้ำย่อยในกระเพาะกำลังทำงานอย่างหนัก แค่เพียงได้กลิ่นอาหารโชยเข้าจมูก"เอาล่ะ เรื่องของอนาคตก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้หิวกันหรือยัง แม่จะได้ไปทำกับข้าวเลย" "หิวแล้วค่ะ"เสียงใสของนิรินเอ่ยออกมาเป็นคนแรก "งั้นรินกับพ่อไปช่วยแม่ดีกว่า ส่วนนิวก็นั่งคุยเป็นเพื่อน เอ่อ...เราชื่ออะไรนะลูก" ประโยคหลังนิสาหันไปถามชายหนุ่มแฟนของลูกสาว เพราะจำได้ว่ายังไม่ได้มีการแนะนำตัวกันอย่างเป็นทางการ "ออสตินครับ" "รูปก็งาม นามก็เพราะ เข้าตำราทุกอย่างเลย พี่นิวตาถึงที่สุด" นิรินยกหัวแม่โป้งให้พี่สาว ยังคงพูดออกมาด้วยอาการชื่นชม ดวงตาของเธอเป็นประกายอยู่ตลอดเวลา รู้สึกดีใจที่พี่สาวของตัวเองมีคนดูแลบ้าง ไม่ใช่ถนัดแต่ดูแลคนอื่น โดยเฉพาะครอบครัว "แซวอยู่นั่น ไปได้แล้วยัยริน" เมื่อคล้อยหลังทั้งสามคนไป ออสตินก็ฉวยจังหวะทีเผลอหอมแก้มเธออีกฟอด เขาเห็นเธอเขินหน้าแดงตั้งแต่เมื่อกี้ เลยรู้สึกหมั่นเขี้ยวแก้มป่อง ๆ ของเธออีกแล้ว "หยุดได้แล้วออสติน เกรงใจพ่อกับแม่ฉันบ้าง" "ก็เธออยากน่ารักทำไม ฉันก็อดใจไม่ไหวนะสิ" เขาพูดออกมาหน้าตาเฉย ก่อนจะเดินตามเธอเข้าไปนั่งในห้องนั่งเล่นของบ้าน เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างเธอที่โซฟาตัวยาวที่มีพื้นที่เหลือว่าง แต่ทว่าเขาขยับนั่งเบียดเธอจนชิด
“อีตาบ้า!! นายมันชอบทำให้ฉันอาย”มือเล็กยกขึ้นทุบอกแกร่งชายหนุ่มรัว ๆ เพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายของตัวเอง “อายอะไร คนเป็นแฟนกันแสดงความรัก มันน่าอายตรงไหนนิว อีกอย่างฉันก็อยากทำแบบนี้กับเธอมาตั้งนานแล้ว ไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่แต่ในคอนโด มันน่าตื่นเต้นดีออกนะ เธอว่าไหม” “ตื่นเต้นกับผีนะสิ นู่นนายเห็นไหม พ่อกับแม่ฉันก็ออกมายืนมองอยู่ด้วย อีกอย่างพวกท่านก็ยังไม่รู้เลยว่าฉันมีแฟน” ออสตินมองไปด้านหลังของนินิว เห็นพ่อกับแม่ของเธอยืนอยู่ตรงหน้าบ้านจริงและกำลังมองมาทางนี้พอดี เขาเลยรีบยกมือไหว้ท่านทั้งสองคนเพื่อฝากตัวเป็นลูกเขยทันที “ไม่เข้ามาคุยกันในบ้านล่ะนิว” เป็นนิสาที่เดินเข้ามาถาม เพราะไม่อยากให้ลูกสาวยืนพูดคุยกับผู้ชายตรงหน้าบ้าน ถึงยังไงนินิวก็เป็นดารามีคนรู้จักหน้าตาไม่น้อย "แล้วพ่อหนุ่มคนนี้เป็นใครล่ะ" ประโยคนี้เธอหันมาถามชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดี ที่ยืนยิ้มแป้นมองเธออยู่ การแต่งตัวและรถที่ขับบ่งบอกถึงฐานะทางบ้านที่ไม่ธรรมดา "ผมเป็นแฟนนิวครับ" "ตายแล้ว!! จริงเหรอนิว" นิสายกมือขึ้นทาบอก ด้วยไม่อยากเชื่อว่าลูกสาวของเธอจะเปิดใจยอมรับผู้ชายคนไหนเป็นแฟน โดยเฉพาะผู้ชายที่หน้าตาแล
นินิวขับรถมาถึงบ้านพ่อกับแม่ตอนสิบโมงเช้า ก่อนที่จะมาเธอได้โทรมาบอกแม่เอาไว้แล้ว เมื่อมาถึงท่านเลยทำอาหารไว้รอเธอหลายอย่าง วันนี้โชคดีหน่อยที่น้องสาวของเธอก็อยู่ที่บ้านด้วย เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาว “โอ้โห อาหารเยอะขนาดนี้จะกินหมดเหรอจ๊ะ” อาหารน่าตาหน้ากินหลายอย่างวางเรียงรายบนโต๊ะอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมนูที่เธอชอบทานทั้งสิ้น เห็นทีวันนี้เธอคงต้องพับเก็บการไดเอ็ทลงกล่องไปก่อน ขอเกเรทานอาหารตามใจปากสักวัน “แม่ไม่รู้ว่านิวอยากกินอะไร เลยทำทุกเมนูเลย กินเยอะ ๆ นะ พักนี้นิวดูผอมไปหน่อยนะลูก” นิสาคนเป็นแม่ยิ้มกริ่ม ดีใจที่ลูกสาวคนโตกลับบ้าน แต่ก็ไม่วายบ่นเรื่องที่ลูกสาวชอบอดข้าวลดน้ำหนัก ปกติถ้ามีเวลาเธอก็จะชวนคนเป็นสามีไปหาลูกสาวที่คอนโดอยู่บ่อย ๆ แต่ช่วงนี้รู้ว่าลูกถ่ายละครทุกวัน กลัวว่าจะไปกวนเวลาพักผ่อนของลูก เลยตัดสินใจไม่ไปหา “จริงพี่นิว วันนี้รินเป็นลูกมือของแม่เองเลยนะ อันไหนอร่อยแม่ทำ อันไหนไม่อร่อยรินทำ ฮ่า! ฮ่า!” นิรินน้องสาวของเธอพูดออกมาเชิงหยอกล้อ โดยนินิวได้หันไปมองด้วยความเอ็นดู คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่ตัดสินใจกลับบ้านวันนี้ เพราะหากไม่ใช่วันหยุดยาว เธอก็จะไม่ได้เห็นหน้านิ
"พรุ่งนี้ฉันจะกลับบ้านนะ" นินิวเอ่ยบอกออสตินขณะที่กำลังนอนกอดก่ายกันบนที่นอน หลังจากเธอโดนเขารังแกในห้องน้ำไปหลายยก "เธอพักกองเหรอ?" "อืม สามวัน" "ฉันก็เหงานะสิ เธอไม่อยู่"กิจวัตรประจำวันของเขาตอนนี้คือทำงานที่บริษัท เลิกงานหรือมีเวลาว่างไปกองถ่าย ตอนเย็นก็มาขลุกอยู่คอนโดนินิว เป็นแบบนี้จนเขารู้สึกชินไปแล้ว พอรู้ว่าจะไม่ได้เจอหน้าเธอสามวัน ไม่ได้นอนกอดกันแบบนี้ ก็รู้สึกใจโหวง ๆ ทันที "งานนายก็มีให้ทำ อีกอย่างกองถ่ายไม่ได้หยุดเสียหน่อย คนอื่นยังมีคิวถ่าย" "ที่ฉันไปกองถ่ายทุกวัน ไม่ได้ไปเพราะเป็นสปอนเซอร์ ฉันไปเพราะอยากเห็นหน้าเธอ" "แหวะ!! หยุดพูดอะไรเลี่ยน ๆ สักทีเหอะ" "เลี่ยนตรงไหน เธอยังไม่ชินที่ฉันพูดแบบนี้อีกเหรอ ฉันเลี่ยนได้กว่านี้อีกนะ ถ้าเธออยากฟัง" เขาเอาหน้าไปซุกตรงอกอวบของเธอ"ถ้าทนคิดถึงไม่ไหว ขอไปหาได้หรือเปล่า" "นายกล้าไปเหรอ อีกอย่างบ้านฉันก็ไม่ได้สบายเหมือนที่นี่ด้วย เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ แถวชานเมืองเองนะ คงไม่เหมาะกับฐานะเศรษฐีรวยล้นฟ้าแบบนายหรอก" นินิวเอ่ยบอกเขาไปตรง ๆ ถึงเธอจะทำงานหาเงินได้มากแค่ไหน แต่พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ต้องการบ้านหลังใหญ่โต เธอเสนอจะซื้อให้ท่า
“ไปกันใหญ่แล้วนิว” นินิวสะบัดแขนแกร่งของออสตินที่รีบลุกขึ้นเดินมาจับเธอ ตอนที่เธอกำลังจะเดินเข้าห้อง“ปล่อยติน ฉันจะไปอาบน้ำ” “แต่เธอกินข้าวไม่หมดเลยนะ” "ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าไม่อยากงี่เง่า แต่นายก็ยังทำให้ฉันเป็นแบบนี้" คนตัวสูงเข้าไปสวมกอดเธอจากด้านหลังทันที เขาวางคางเกยไว้กับไหล่บางของเธอพลางพูดเสียงอ้อน "ขอโทษ ต่อไปฉันจะบอกเธอทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ ฉันจะไม่โกหกเธออีก" ฟอด!! เขาฉวยโอกาสหอมแก้มป่องฟอดใหญ่ เธอเองก็ไม่ได้อิดออดอะไร เพราะไม่ได้โกรธเขาขนาดนั้น "ฉันจะให้โอกาสนายแก้ตัว แต่หากหลังจากนี้นายยังมีอะไรปิดบังอีก ฉันจะไม่ทนแล้วนะ" "ไม่มี หลังจากนี้ไม่มีอีกแล้ว ฉันขาดเธอไม่ได้ เธอก็รู้" นินิวอมยิ้มเหลือบตามองคนขี้อ้อน ที่กำลังคลอเคลียเธอไม่ห่าง "อาบน้ำด้วยกันไหม" "อาบน้ำอย่างเดียวนะ" คนตัวเล็กเอ่ยดักทางคนหื่นที่จ้องจะจับเธอกินตลอดเวลา เห็นสีหน้าเซ็ง ๆ ของเขาก็เดาได้ทันทีว่าเขาคิดไม่ซื่อกับเธอจริง ๆ อ่างน้ำอุ่นที่เต็มไปด้วยฟองสีขาวลอยละล่อง ส่งไอร้อนระเหยปกคลุมไปทั่วห้องน้ำหรูหรา แสงไฟสลัวสะท้อนกับผิวกระเบื้องเงางาม ออสตินเอนกายลงในอ่างน้ำขนาดใหญ่ ข้า
หลังจากถ่ายละครเสร็จ วันนี้เลิกกองถ่านค่อนข้างดึก ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว นินิวเลยบอกคนขับรถตู้ของพี่แจงที่มารับเธอให้แวะร้านข้าวต้มเจ้าประจำข้างทาง เพราะถ่ายละครลากยาวตลอดช่วงบ่าย ทำให้เธอรู้สึกหิวมากกว่าทุกวัน "เอาเหมือนเดิมนะคะเฮีย” เฮียเจ้าของร้านพยักหน้าเข้าใจ แต่ทว่ายังคงจ้องหน้าเธอไม่หยุด เหมือนมีอะไรอยากจะพูดกับเธอ “มีอะไรหรือเปล่าคะ เห็นเฮียมองหน้าหนูแปลก ๆ" เฮียเจ้าของร้านทำสีหน้าหนักใจ เพราะไม่รู้ว่าเรื่องนี้ควรถามออกไปหรือเปล่า แต่เพราะไม่อยากให้ลูกค้าประจำที่เขาเอ็นดูเหมือนลูกหลานอย่างนินิวต้องถูกอีกฝ่ายหลอกเลยตัดสินถามออกไป “ผู้ชายที่มากับเราครั้งก่อน เขาเป็นแฟนเราหรือเปล่า” “เฮียถามทำไมคะ มีอะไรบอกหนูได้เลยค่ะ หรือว่าเขามาค้างค่าอาหารเฮีย เดี๋ยวหนูจ่ายให้เองค่ะ”นินิวรีบหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าสะพาย เพราะคิดว่าออสตินมาทานข้าวแล้วไม่มีเงินสดจ่ายเฮียเจ้าของร้าน “ไม่ใช่หนู วันก่อนเขามาทานข้าวที่นี่ดึกแล้ว น่าจะเกือบห้าทุ่ม เขามากับผู้หญิงท่าทางดูดี แต่นิสัยน่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่” นินิวชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ“เป็นเพื่อนร่วมงานกันค่ะ” “อ๋อเห