เพลงขวัญรู้สึกเหมือนกับว่าสวรรค์กำลังกลั่นแกล้ง เธอเพิ่งเสียยายไปไม่ถึง 10 วันแล้วยังต้องมารับรู้อีกว่าตนเองนั้นเป็นหนี้เขาอยู่ถึงสองล้านนี่ยังไม่นับรวมเงินค่าใช้จ่ายที่เขาโอนให้ทุกเดือน หญิงสาวคิดมาตลอดว่าเงินที่ยายส่งให้ในแต่ละเดือนนั้นเป็นเงินที่บิดาและมารดาทิ้งไว้ให้
ในเมื่อทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วเพลงขวัญก็คิดว่าเธอควรจะเลิกเรียนออกมาหางานทำเพราะดีกว่า
“นายหัวคะหนูขออยู่ที่บ้านต่อได้ไหม ส่วนเงินที่ติดหนี้หนูจะหามาคืนให้”
“แล้วเธอคิดว่าเงินมากขนาดนั้นจะมาจากไหนล่ะ เธอยังเรียนอยู่นะเพลงขวัญ”
“หนูจะเลิกเรียนแล้วไปหางานทำ”
“แต่ยายเธอสั่งไว้ว่ายังไงฉันก็ต้องช่วยส่งเธอให้เธอเรียนจนจบ”
“แต่ยายมาอยู่แล้วนี่คะ หนูมีสิทธิ์ตัดสินใจเองว่าจะเรียนหรือไม่เรียน”
“คนที่เขาเรียนจบสูงๆ บางครั้งก็ยังหางานยากเลย แล้วเธอคิดว่าเขาจะจ้างคนที่เรียนไม่จบอย่างเธอเหรอ”
“นายหัวอยู่แต่ในสวนในป่าจะรู้อะไร งานบางอย่างเขาก็ไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษาหรอกนะ เขาดูที่ความสามารถ”
“แล้วเธอมีความสามารถอะไร ถึงจะงานได้กัน”
“ถึงหนูยังเรียนไม่จบแต่หนูก็ใช้ภาษาได้ดี หนูจะไปทำงานบนเรือสำราญกับรุ่นพี่” เพราะเธอรู้จักรุ่นพี่คนหนึ่งเรียนอยู่ปีสาม เขาดร็อปเรียนเพื่อไปทำงานที่ร้านสปาบนเรือสำราญ เงินเดือนและค่าคอมมิชชันที่ได้ในแต่ละเดือนก็แสนกว่าบาท ถ้าเธอได้ไปทำงานบนเรือเหมือนรุ่นพี่ก็คงปลดหนี้ได้ไม่ยาก
“กว่าจะได้ไปมันไม่ใช่ง่ายๆ นะ เพลงขวัญเธอต้องเรียนก่อนเขาถึงจะให้ไป”
“หนูรู้เรียนแค่เดือนเดียวเอง”
“แล้วเธอคิดว่าจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อคอร์สเรียน”
คำถามของนายหัวอารัณย์ทำเธอนิ่งเพราะเงินเก็บที่มีอยู่ก็เหลือไม่ถึงสองหมื่นแล้วเธอจะไปหาเงินที่ไหน ถึงแม้ช่วงปิดเทอมเธอจะรับแปลนิยายและพิสูจน์อักษรแต่รายได้ก็ไม่คงที่ ถ้าต้องเสียค่าเรียนอีกหลายหมื่นก็คงอีกนานกว่าจะเก็บเงินครบ
“หนูจะไปทำงานกับเจ๊อ้อย”
“ฉันไม่คิดเลยว่าเด็กอย่างเธอจะคิดอะไรตื้นๆ แบบนั้น ถ้ายายเธอรู้ก็คงเสียใจมาก
“หนูว่ายายคงเข้าใจ คนเราก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดกันทั้งนั้น”
“ฉันว่ามันมักง่ายเกินไปนะ”
“ไม่ได้มักง่ายเลยเขาเรียกใช้ความสวยให้เป็นประโยชน์ไงล่ะ หนูรู้ว่าเด็กที่ร้านเจ๊อ้อยแต่ละคนนั้นได้เงินคืนหนึ่งเยอะแค่ไหน”
เจ๊อ้อยที่ทั้งสองคนพูดถึงคือเจ้าของร้านคาราโอเกะในตัวอำเภอที่หน้าร้านเปิดให้กินเหล้าร้องเพลงแต่ก็มีเด็กสาวๆ ไว้คอยบริการบรรดาผู้ชายที่รักสนุกด้วย
“ถ้าอยากจะขายตัวมากนักทำไมไม่ขายให้ฉันล่ะ”
“นายหัวบอกเองว่าไม่ชอบเด็ก แล้วอีกอย่างขายให้นายหัวก็ได้แค่เงินจากนายหัวคนเดียว แต่ไปที่ร้านเจ๊อ้อยหนูจะได้เงินจากหลายๆ คน”
“เธอพูดออกมาไม่อายปากเลยนะเพลงขวัญ”
“นายหัวไม่เคยได้ยินเหรอคะ ว่าด้านได้อายอด” เพลงขวัญไม่คิดจะไปทำงานแบบนั้นเพียงแต่เธอเห็นว่าเขาห้ามก็อยากจะยั่วให้เขาโมโหเล่นๆเพราะ
“ฉันจะยกหนี้ให้ทั้งหมดแล้วก็คืนบ้านกับที่ดินให้ด้วย”
“แลกกับอะไร อย่าบอกนะคะว่านายหัวจะกลืนน้ำลายตัวเองแล้วอยากจะได้หนูเป็นเมีย”
“ใครจะอยากได้เด็กอย่างเธอเป็นเมียกัน”
“แล้วเพราะอะไรล่ะคะ”
“เพราะฉันรับปากยายเธอไว้ว่าจะดูแลเธอจนกว่าเรียนจบ เงินแค่นั้นมันไม่ได้มากมายอะไรเลยแล้วบ้านของเธอกับที่ของเธอมันก็มีไม่ถึงไร่ฉันจะเอาไปทำไมล่ะ”
“แต่หนูไม่อยากรับของใครฟรีๆ”
“ถ้าเธอเรียนจบก็ค่อยหาเงินมาจ่ายให้ฉันก็ได้”
“หนูขอคิดดูก่อน”
“ได้สิ ฉันให้เวลาเธอคิด”
“นายหัวจะไม่ไล่หนูออกจากบ้านใช่ไหม”
“อือ จะให้เธออยู่ต่อ แต่เธอนั่นแหละจะกล้าอยู่ต่อไหม”
“นั่นมันบ้านของหนูทำไมหนูจะไม่กล้า”
“ฉันรู้ว่าเธอเก่ง แต่ก็อย่าลืมนะว่าแถวนี้พวกผู้ชายมันเยอะ แล้วขาวๆ อวบๆ อย่างเธอมันก็เป็นพิมพ์นิยมเสียด้วยสิ จะเข้าออกบ้านไปมาไหนก็ระวังด้วยเวลานอนก็ปิดประตูหน้าต่างให้ดี”
“นายหัวไม่ต้องมาขู่หนูหรอกค่ะ หนูนอนคนเดียวมาตั้งหลายคืนแล้วไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรเลย”
“เพราะทุกคนคิดว่าเธอกลับกรุงเทพไปแล้ว แต่วันนี้เธอไปที่ตลาดแถมยังคุยกับป้านงค์ด้วย ฉันว่าป่านนี้พวกผู้ชายก็คงรู้กันหมดแล้วว่าเธอยังอยู่ที่บ้านหลังนั้น”
“นายหัวจะพูดให้หนูกลัวแล้วให้หนูมาขอนายหัวอยู่ที่นี่ใช่ไหม อย่าคิดว่าหนูรู้ไม่ทัน”
“ฉันอยู่คนเดียวก็สบายดีแล้ว ฉันจะอยากให้เธอมาอยู่ด้วยทำไมล่ะ”
“ไม่รู้สิ นายหัวอาจจะกำลังคิดไม่ซื่อกับหนูก็ได้”
“ฉันเหนื่อยจะพูดกับเธอแล้วนะเพลงขวัญ แล้วแต่เธอละกันว่าจะเอายังไง”
“หนูก็เหนื่อยเหมือนกัน งั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“อือ ก่อนกลับกรุงเทพแวะมาหาหาฉันด้วย” เขาสั่งตามหลัง
เพลงขวัญมองห้องที่ไม่เหมือนเดิมแล้วหันกลับมามองเจ้าของห้องแล้วก็ต้องตกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นว่าตอนนี้นายหัวอารัณย์นั้นคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอ“เพลงแต่งงานกับฉันนะ”เขาส่งแหวนแต่งงานที่ด้านบนประดับด้วยเพชรเม็ดโตยื่นมาตรงหน้า เพลงขวัญทำตัวไม่ถูกเพราะเมื่อก่อนหน้านี้เธอก็ตื่นเต้นดีใจ และประหลาดใจที่นายหัวพาไปจดทะเบียนสมรสมาครั้งหนึ่งแล้วหญิงสาวยืนนิ่งราวกับต้องมนตร์สะกด เธอสบตาเขาแล้วใจเต้นแรงไม่คิดมาก่อนว่าตนเองจะถูกขอแต่งงานทั้งที่ระหว่างเธอกับเขามันข้ามขั้นตอนมานานแล้ว“นายหัวคะ”“ตกลงไหมเพลงแต่งงานกับฉันไหม” เขาถามย้ำอีกครั้งใบหน้าหล่อเรียบเฉยทั้งที่ใจเต้นแรงเขาพาเธอไปจดทะเบียนสมรสแล้วค่อยขอแต่งงานซึ่งมันเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างประหลาดอยู่ไม่น้อย“ตกลงค่ะ” หญิงสาวตอบรับนายหัวนายอารัณย์ยิ้มอย่างดีใจก่อนจะสวมแหวานลงบนนิ้วนางทับไปกับแหวนแต่งงานจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นกอดเธอแน่น“ฉันควรขอเธอแต่งงานก่อนแล้วค่อยพาไปจดทะเบียน แต่ตอนนั้นฉันไม่มีแหวนแล้วชลทีก็ไม่ว่างจะเข้าเมืองมาเป็นพยานด้วย มันอาจจะสลับขั้นตอนไปบ้าง แต่ที่ฉันทำทุกอย่างก็เพราะรักเธอนะเพลงขวัญฉันรักเธอมาก” เขากล่าวด้วยเสี
วันนี้ก็ครบกำหนดที่เพลงขวัญจะต้องกลับไปเรียนแล้วเธอมีเที่ยวบินในตอนเย็นแต่ก็ถูกนายหัวปลุกตื่นตั้งแต่เช้า“นายหัวคะว่าเพลงจะบินก็อีกหลายชั่วโมงทำไมนายหัวต้องปลุกแต่เช้าด้วยคะ เพลงยังง่วงอยู่เลย” เพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบจะตีสองเช้าวันนี้เพลงขวัญก็เลยอิดออดไม่อยากจะลุกจากที่นอน“ฉันให้เธอเลือกจะลุกจากที่นอนตอนนี้หรือจะให้ฉันรุกเข้าหาเธออีกครั้ง”“โอ๊ย นายหัวทางเลือกของนายหัวแต่ละทางเพลงละเหนื่อยจริงๆ เลยค่ะ”“เอาล่ะอย่ามัวเสียเวลา วันนี้ฉันจะต้องไปทำธุระอีกหลายที่” เขาบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังจนเพียงขวัญรู้สึกผิดที่เอาแต่งอแงไม่ยอมลุกจากเตียง“เพลงขอโทษ เพลงไม่รู้ว่านายหัวมีธุระต้องรีบไป ไม่โกรธกันนะคะ” หญิงสาวลุกจากที่นอนแล้วเข้ามากอดเขาอีกทั้งยังหอมไปที่แก้มเขาอย่างประจบ“ฉันเคยโกรธเธอที่ไหนล่ะ” เขาจูบไปที่ขมับของเธออย่างรักใคร ช่วงเวลาที่เพียงขวัญมาอยู่กับมันช่างผ่านไปเร็วจนเขารู้สึกใจหายที่เธอจะต้องกลับไปเรียน“เพลงจะรีบอาบน้ำนะคะ” หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะรีบลงมาทานอาหารเช้ากับเขา ซึ่งป้าแววกับบุหลันเตรียมไว้รอแล้ว“หนูเพลงไหนบอกป้าว่ามีไปเที่ยวบินตอนเย็นไงล่ะ แล้วท
เข้าสัปดาห์ที่สองที่เพลงขวัญมาอยู่ในสวนยางพาราวันนี้นายหัวมีนัดจะพาเธอไปเรียนขับรถเพิ่มเติมหลังจากที่หญิงสาวเรียนที่กรุงเทพมาบ้างแล้ว“พร้อมใหม่เพลงขวัญ” เขาถามหลังจากที่เมื่อวานพาเธอออกไปขับบนถนนแล้วเธอบอกว่าไม่อยากจะหัดขับอีกแล้ว“ตอบไม่พร้อมได้ไหมคะ”“เธอจะไม่พร้อมทุกวันไม่ได้หรอกนะเพลง”“พร้อมก็ได้ค่ะ แล้ววันนี้เราจะขับไปทางไหนคะ”“ว่าจะไปแถวท้ายสวน เพราะไม่ค่อยมีคนเธอจะได้ไม่เกร็งมาก”“ก็ได้ค่ะนายหัว แล้วจะให้เพลงขับตั้งแต่ตรงนี้หรือไปถึงท้ายสวนค่อยเริ่มคะ”“ฉันขับไปให้ก่อนก็ได้ตรงนี้ยังมีคนผ่านไปผ่านมาเดี๋ยวจะไปเฉี่ยวชนใครเขาเข้า”“ได้ค่ะ” เพลงขวัญกระโดดขึ้นไปนั่งข้างคนขับขณะที่นายหัวก็ขึ้นไปนั่งบนรถจากนั้นก็ขับออกไปจากบริเวณหน้าบ้าน “เอาละ เหยียบเบรกไว้นะแล้วเลื่อนคันเกียร์มาที่ตำแหน่ง D เบรกมือ ค่อยๆ ปล่อยเบรกที่เท้าทีละนิดนะ ตามองไปข้างหน้าสิ อย่ามองเท้า” “ก็เพลงกลัวพลาดนี่คะ” “ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ตรงนี้ไม่มีใครถ้ามันจะชนก็แค่ชนต้นยางเท่านั้นแหละ” “ค่ะ ตอนนี้เพลงปล่อยเบรกแล้วต้องทำยังไงต่อ” “ตามองไปข้างหน้า กดคันเร่งท
เพลงขวัญรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่วันนี้เธอได้กลับมายังสุราษฎร์ธานีอีกครั้งเพราะหลังจากที่ออกจากหนีออกจากบ้านไปเมื่อหลายเดือนก่อนก็ยังไม่มีโอกาสได้ติดต่อใครที่นี่อีกเลยสักคน“เพลงทำไมดูเหมือนไม่ดีใจเลยล่ะที่ได้กลับบ้าน” นายหัวอารัณย์ถามเมื่อเห็นว่าคนรักนั้นเอาแต่นั่งหน้าเครียดมาตั้งแต่เขาไปรับที่สนามบิน“ดีใจสิคะนายหัว แต่เพลงก็ตื่นเต้นด้วยเพลงไม่รู้ว่าป้าแววกับพี่บุหลันจะมองเพลงยังไง”“สองคนนั้นเขารู้เรื่องแล้วฉันเล่าให้เขาฟังหมดแล้ว”“เหรอคะแล้วป้าแววว่ายังไงบ้าง”“ก็ไม่เห็นว่ายังไงป้าเขาก็ดีใจที่เพลงได้ฉันช่วยดูแล”“แล้วพี่บุหลันล่ะคะบุหลันก็ดีใจเพราะถึงแม้ว่าจะแปลกใจไปบ้างเพราะฉันชอบพูดอยู่ตลอดเวลาว่าไม่อยากมีเมียเด็ก แต่พอพวกเขารู้ก็ไม่มีใครว่าอะไรนะ”“เพลงไม่รู้จะทำตัวยังไง”“ก็ทำตัวเหมือนเดิมเธอเคยเป็นยังไงก็เป็นยังนั้น ไม่ต้องเกร็ง”“จริงๆ นายหัวน่าจะรอบอกเรื่องนี้ตอนเพลงเรียนจบ”“ถ้าฉันรอบอกตอนเธอเรียนจบแล้วพาเธอกลับมาบ้านครั้งนี้ฉันกับเธอจะได้สวีทกันไหมล่ะ”“แหมเวลาอยู่ในห้องแล้วค่อยสวีทก็ได้”“ไม่ล่ะ ต่อไปนี้ฉันกับเธอจะไปไหนมาไหนด้วยกันในฐานะคนรัก” เขาจับมือเล
นายตลอดระยะเวลาหยุดยาวสามวันเพลงขวัญแทบไม่มี โอกาสลุกจากที่นอนเลยเพราะนายหัวอารัณย์ตักตวงความสุขจากร่างกายของเธอจนหญิงสาวไม่มีแม้แต่แรงจะเดินไปเข้าห้องน้ำ“นายหัวขาเพลงไม่ไหวแล้วนะคะ” หญิงสาวร้องขอหลังจากที่เขาร่วมรักกับเธออีกครั้งในเวลาเจ็ดโมงเช้าหลังจากที่เพิ่งเข้านอนไปในเวลาเกือบจะตีสอง เธอไม่รู้ว่าเขาไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนถึงได้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และที่แปลกก็คือเธอยอมเขาทุกครั้ง เพราะเธอเองก็มีความสุขมากเหมือนกัน“เพลงเธอก็รู้เราจะไม่ได้เจอกันอีกนานเลยนะ”“แต่นายหัวขาเพลงไม่ไหวแล้วจริงๆ” หญิงสาวอ้อนเสียงหวาน“ขออีกครั้งเดียวครั้งเดียวนะเพลง” นายหัวหนุ่มทำเสียงอ้อนกลับ เพราะร่างกายของเขาต้องการปลดปล่อยออกมาให้ได้มากที่สุด“จะไม่ปรานีเพลงหน่อยเหรอคะ เพลงไม่ไหวแล้ว”“ปากเธอบอกให้ปรานีแต่ตอดถี่แบบนี้ฉันชักไม่แน่ใจแล้วว่าเธอต้องการแบบไหนกันแน่”“ก็มันเสียวนี่คะ นายหัวทำให้เพลงเสียว”“ฉันรู้ว่าฉันทำให้เธอเสียว ฉันเองก็เสียวไม่ต่างจากเธอหรอก”นายหัวหนุ่มกระแทกกระทั้นเข้าหาโพรงถ้ำติดๆ กันอย่างไม่ยั้งจนในที่สุดทั้งสองก็ระเบิดอารมณ์ออกมาพร้อมๆ กันอีกครั้งร่างกายของเพลงขวัญอ่อน
นายหัวอารัณย์ขึ้นมาหาเพลงขวัญหลังจากเธอสอบเสร็จแต่เพราะไม่ได้บอกเธอว่าจะมาเที่ยวบินไหน พอมาถึงห้องจึงไม่เจอกับคนรัก “นายหัวขาเพลงขอโทษ เพลงนึกว่านายหัวจะมาพรุ่งนี้ เพลงเลยออกมาฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนค่ะ” เสียงหวานอ้อนมาตามสายเมื่อเขาโทรหา “ฉันผิดเองที่ไม่บอกว่าจะมาวันไหน แล้วเธอจะกลับดึกหรือเปล่า ฉันคิดถึงอยากเจอ” “ไม่เกินเที่ยงคืนค่ะ ได้ไหมคะ” “ได้สิ แล้วจะกินเหล้าไหม” “นิดหน่อยค่ะ แต่รับรองว่าไม่เมา” “แล้วจะกลับยังไงล่ะ” “ตาจะไปส่งค่ะ” “ถ้าขับรถกลับกันไม่ไหวก็โทรบอกนะ ฉันจะไปรับ” เขาบอกอย่างห่วงใย ชายหนุ่มรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่มาแล้วไม่เจอเพลงขวัญ แต่เรื่องนี้จะโทษว่าเป็นความผิดของเธอก็ไม่ได้เพราะตามกำหนดเดิมเขาจะมาถึงพรุ่งนี้เย็น เพลงขวัญกลับมาถึงคอนโดในเวลาห้าทุ่มครึ่ง เธอรีบเข้าไปอาบน้ำเพราะตอนนี้เนื้อตัวของตนมีแต่กลิ่นบุหรี่พอออกมาจากห้องน้ำนายหัวหนุ่มที่เมื่อครู่ยังหลับอยู่ก็ตื่นมานั่งรอเธออยู่แล้ว หญิงสาวรีบขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วสวมกอดเขาด้วยความคิดถึง“คิดถึงนายห