“พี่วี!” พรรณดาราตามตะปบมือที่ดึงรั้งเสื้อคลุมออกจากร่างตัวเอง ทว่าเธอก็ไม่อาจสู้แรงเขาได้ ในที่สุดเสื้อคลุมของเธอก็ถูกเขาถอดโยนทิ้งลงบนพื้นระเบียงจนได้
“ทีนี้ก็ไม่รุ่มร่ามแล้ว” กวีจับบ่าบอบบาง ดันร่างสาวออกห่างเพียงนิด แล้วกวาดสายตาโลมเลียอย่างไม่ปิดบัง แสงจันทร์ว่านวลสวยแล้ว แต่ยังไม่เทียมเท่าเมียรักในชุดนอนสายเดี่ยวสีครีม แม้ความยาวจะคลุมถึงหัวเข่า แต่เพราะผ้าบางเบาเนื้อนุ่มทำให้มองเห็นทรวดทรงองค์เอวชัดเจน
“หยุดมองได้แล้ว จะพูดอะไรก็พูดมาสักที หนูหนาวนะ” แก้มสาวร้อนผ่าว เมื่อถูกตาคมปลาบจับจ้องราวกับจะมองให้ทะลุชุดนอนที่สวมอยู่ เธออุตส่าห์สวมชุดคลุมรัดกุมแล้ว เพราะรู้ว่าเขาจ้องจะเอาเปรียบอยู่ตลอดเวลา แต่เขาก็ยังหน้าด้านหน้ามึนมาถอดมันออกจนได้
“หนาวเหรอครับ มามะพี่จะกอดให้หายหนาว” กวีดึงร่างนุ่มมากอดแนบอก เขารัดรั้งเธอไว้แนบแน่น กดจูบเรือนผมหอมกรุ่นหนักๆซ้ำๆ
“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมนะ” กวีกระซิบเสียงพร่า มือไม้เริ่มลูบไล้ร่างงามไปทั่ว
“พี่ไม่เคยมีคนอื่น พี่มีหนูคนเดียว สองปีที่ผ่านมางานยุ่งมาก มีเรื่องวุ่นวายเยอะแยะ พี่อย
พรรณดาราขยุ้มเส้นผมดกหนาเต็มสองมือ หญิงสาวแหงนเงยหน้า ขบกัดริมฝีปากล่างไว้แน่น กันเสียงดังน่าอายเล็ดลอดออกมา เพราะกลัวว่าลูกน้อยจะได้ยินเสียงแล้วตกใจตื่น กระนั้นการรุกรานจากปลายลิ้นสากแบบไม่มีเว้นวรรคให้พักหายใจของสามีก็ทำให้เธอเผลอหลุดครางเสียงพร่าผะแผ่วออกมาเป็นบางครั้งจนได้“พี่วี...อา...” พรรณดาราเด้งสะโพกเข้าหาปากร้อน ปลายทางสุขสมเข้ามาใกล้ทุกขณะ ใกล้จนเธอต้องเร่งเร้าเขาด้วยการจับศีรษะสามีขยับโยกในจังหวะที่ต้องการ ยิ่งเขารุกรานด้วยการประกบดูดเนินเนื้อเต็มคำ พร้อมกับเกร็งปลายลิ้นแล้วสอดแทงกลางร่องรักระรัว พรรณดาราก็ลืมสิ้นทุกสิ่งอย่าง หญิงสาวปล่อยตัวเองล่องลอยไปกับสัมผัสเร่งเร้า วาบหวาม วูบไหวในช่องท้อง จนต้องเกร็งแขม่วแล้วคลายอยู่หลายครั้ง กลีบเนื้อนุ่มไหวระริก เบ่งบาน หญิงสาวห่อปาก หอบหายใจหนัก เมื่อความสุขสมซ่านกระสันถาโถมเข้าใส่อย่างรุนแรง ไม่นานเธอก็ระเบิดพร่าง หวีดร้องออกมาเบาๆ สะโพกอวบแอ่นเกร็งค้าง มือบางกดศีรษะเขาให้ซุกซบแนบสนิทอยู่กลางเรือนกาย พรรณดาราปรนเปรอคนที่จัดการส่งเธอไปแตะเส้นวิมานด้วยการพร่างพรมหยาดน้ำหวานให้เขาได้ลิ้มรสจนอิ่มเอมหลังจากจัดการกับน
“ชู่ว์! อย่าเสียงดังสิครับที่รัก เดี๋ยวลูกก็ตื่นหรอก”“พี่วี! อย่าแกล้งสิ” พรรณดาราบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่เบาลง“จะเอายังไงเนี่ยที่รัก แรงก็ว่า ช้าก็บ่น แบบนี้ดีไหม...หืม” กวีโหมห่มสะโพกในจังหวะถี่กระชั้นอย่างต้องการแกล้ง เมียรักต้านทานเขาไม่ไหวจนต้องหมอบลง ไขว่คว้าเอาเสื้อคลุมมากอดแล้วแนบใบหน้าลงกับพื้น หากสะโพกยังลอยเด่นเพราะถูกจับตรึงไว้ด้วยมือแข็งแรง“อื้อ! คะ คนบ้า!” พรรณดาราเกร็งตัว สั่นกระเพื่อมไปทั้งกาย“อ๊ะ! นะ...หนูเจ็บ หะ...หัวเข่า” พรรณดาราบอกกระท่อนกระแท่น เพราะแรงปานม้าคึกที่โหมกระหน่ำอยู่เบื้องหลังทำให้เธอเปล่งเสียงออกมาแทบไม่เป็นคำ“งั้นมาอยู่ข้างบน” กวีผู้ใจดี ยอมพลิกกายนอนหงาย ดันร่างภรรยาขึ้นนั่งคร่อมเหนือร่างตน“พี่วี!”“ขย่มลงมาอย่าบ่น” กวีบอกเสียงเข้ม เขาตบแก้มก้นเด้งหยุ่นดังเพียะ!พรรณดาราขึงตาดุใส่เขา กระนั้นก็ยอมทำตามที่เขาบอก หญิงสาววางสองมือลงบนอกกว้าง ตั้งหัวเข่าสองข้างชันขึ้น วางสองเท้ากับตั้งมั่นกับพื้นระเบียงก่อนเริ่มขยับโยกเชื่องช้า และค่อยเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ จนเสียงสะโพกอวบหนั่นแน่นกระทบห
“ไปกับพี่อีกครั้งนะครับที่รัก” พรรณดาราส่ายหน้าเร็วๆ มือไม้พยายามผลักเขาออกเป็นพัลวัน แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น เพราะเมื่อสามีเริ่มรุกอย่างเอาแต่ใจอีกครั้ง คนที่คิดว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว ก็กลับไหวขึ้นมาดื้อๆ เขาสาดส่งแรงมาเท่าไร เธอก็ขยับโยกเด้งสะโพกเข้าหารองรับอย่างเท่าเทียมเท่านั้น และในเมื่อไม่มีใครยอมใคร ณ ริมระเบียงห้องนอนจึงร้อนระอุด้วยเปลวไฟพิศวาสเกือบค่อนคืนวันรุ่งขึ้น คนของกวีนำเสื้อผ้ามาให้เขาตั้งแต่ตะวันยังไม่ทันขึ้นพ้นขอบฟ้า และนำรถตู้มาจอดรอที่ไร่ภูอิงฟ้าด้วยตามคำสั่งของเขา วันนี้เขาจะไปส่งลูกที่โรงเรียนกับเมียรัก ชายหนุ่มอาบน้ำแต่งตัวเสร็จตั้งแต่เช้าตรู่ แล้วจึงปลุกลูกๆและภรรยา เขาอุ้มลูกทั้งสองไว้คนละข้างพาไปส่งถึงบ้านหลังใหญ่ พรรณดาราเดินตามไปด้วยใบหน้าบูดบึ้ง เธอทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย แถมยังรู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม แต่ก็จำต้องฝืนใจตื่น เดินตามเขาไป เพื่อเตรียมตัวให้ลูกๆไปโรงเรียนกวีช่วยอาบน้ำแต่งตัวให้พี่พร้อมกับน้องพริ้ง เมื่อเสร็จแล้วจึงพาลูกทั้งสองลงไปรับประทานอาหารเช้ารอผู้เป็นแม่ซึ่งเพิ่งเขาห้องน้ำไปหลังจากตรวจดูความเรียบร
พรรณดาราเดินตามสามีลงมาจากเรือนไม้ ทั้งคู่เดินอ้อมไปด้านหลังตรงระเบียงห้องนอน ต่างพากันก้มๆเงยๆช่วยกันหาอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อไม่มีวี่แววว่าจะเห็น เจ้าของกางเกงในก็เริ่มร้อนรนและชักจะหมดความอดทน เธอโกรธเขามาก โกรธมากจริงๆด้วย ชอบทำอะไรพิเรนทร์อยู่เรื่อย แล้วกะอีแคกางเกงในตัวเล็ก ถอดดีๆก็ได้ ไม่เห็นต้องดึงทึ้งให้มันเสียหาย อีกอย่างในเมื่อเขาเป็นคนถอดมันออกจากตัวเธอ เขาก็ต้องรับผิดชอบใส่คืนให้ หรือไม่ก็ต้องเก็บให้เป็นที่เป็นทางกว่านี้สิ ถ้ามีคนอื่นมาเห็นมันหล่นอยู่ในห้อง หรือตกอยู่แถวนี้ ใครๆก็คงพากันเดาออกว่าเมื่อคืนนี้เธอกับเขาทำอะไรกันที่นี่ ถึงจะยังเป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมายก็ตามเถอะ แต่ในเมื่อใครๆยังเข้าใจว่าเธอกับเขาแยกกันอยู่แล้ว เรื่องแบบนี้มันไม่สมควรเกิดขึ้น จนกว่าจะเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยพรรณดาราโมโหจนห้ามใจไม่อยู่ หญิงสาวหนีบเนื้อบิดเอวของตัวการที่ทำกางเกงในหายสุดแรง“โอ๊ย! พี่เจ็บนะครับ” กวีโอดครวญเสียงอ่อย“นี่ยังน้อยไป หนูล่ะอยากบีบคอพี่วีนัก” พรรณดาราขึงตาใส่สามี หญิงสาวถอนหายใจแรงด้วยความหงุดหงิด“ใจร้าย พี่ไม่ได้ตั้งใจทำมันหายสักหน่อย”
พี่พร้อมพยักหน้าเข้าใจ เด็กชายตัวน้อยหันไปมองมารดาแล้วถามด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน“แล้วคุณแม่รู้รหัสลับของแก๊งเราหรือยังครับ เวลาจะมาเอาของสำคัญกับป๊ะป๋า คุณแม่ต้องบอกรหัสลับก่อนนะครับ ไม่อย่างนั้นป๊ะป๋าจะไม่ให้นะครับ”“เอ่อ...” พรรณดาราไม่ทราบว่าป๊ะป๋าเจ้าเล่ห์แอบไปตั้งรหัสลับใหม่กับลูกๆว่าอย่างไร หญิงสาวจึงส่ายหน้าเพราะไม่รู้จริงๆ“รหัสลับคือ...”“ชู่ว์! พี่พร้อมคะ อย่าพูดเสียงดังสิคะ เห็นไหมว่ามีคนอื่นอยู่ในรถด้วยนะคะ เดี๋ยวเขาก็รู้รหัสลับของแก๊งเราหรอก” น้องพริ้งรีบปรามพี่ชาย เด็กหญิงตัวน้อยทำปากจู๋ แล้วใช้นิ้วชี้ป้อมๆสั้นๆแตะริมฝีปากคนของกวีเหลือบมองกระจกหลังแวบหนึ่งถึงกับแอบอมยิ้ม เมื่อคุณหนูทำท่าทางมีพิรุธกระซิบกระซาบกับพี่ชาย แต่เสียงกระซิบไม่ได้เบาเลยสักนิดพี่พร้อมพยักหน้าเร็วๆ“พี่เข้าใจแล้ว งั้นคุณแม่ครับเอียงหูมาครับ ผมจะกระซิบเบาๆ”พรรณดารายิ้มหวานให้ลูกรัก ยอมทำตามที่เจ้าตัวน้อยบอกพี่พร้อมใช้สองมือป้องปาก ขยับเข้าไปใกล้มารดา แล้วกระซิบบอกรหัสลับของแก๊งเบาๆ“รหัสลับของแก๊งปลากะพงคำรามคือ เราร
“งั้นก็ไปคุยกับมันให้เข้าใจ พี่จะรอ แต่ห้ามนาน และระหว่างรอ พี่จะไปรับส่งหนูกับลูกทุกวัน”“พูดเฉยๆ ไม่ต้องลูบก็ได้ค่ะ” พรรณดาราหยิกมือที่ลูบไล้อยู่แถวสะโพกมนของเธอ“ซี้ด! มือหนักขึ้นหรือเปล่าเนี่ย” กวียิ้มใส่นัยน์ตาคู่ดุที่มองเขาอยู่“เอาไว้หนูจะคุยกับพี่เพลิงอีกทีนะคะ แต่ตอนนี้พี่วีไปทำงานได้แล้ว” แม้จะเคยตั้งมั่นไว้ว่าจะไม่กลับไปอยู่กับเขาอีกแล้ว ทว่าพอเขากลับมาใกล้ชิด เธอก็กลับหวั่นไหว คำอธิบายเรื่องราวที่ค้างมานานแม้จะคลุมเครือแต่เธอก็ยังเลือกที่จะเชื่อเขา เธอทำทุกอย่างเพื่อลูก เธออยากให้ลูกมีพ่อ เธอไม่ได้ทำไปเพราะหัวใจไม่เคยลืมเขาได้สักหน่อย“ขอกำลังใจหน่อยสิ” กวีอุ้มร่างน่าฟัดของภรรยาขึ้นมานั่งบนตัก“ไหนบอกว่ามีงานด่วนไงคะ มาโอ้เอ้อยู่อย่างนี้ เดี๋ยวก็งานก็มีปัญหาหรอก” พรรณดาราพยายามแกะมือที่เริ่มจะบีบคลึงสะโพกเธอหนักขึ้นออก“ใครมีงานด่วนเหรอ” กวีถามหน้าตายพรรณดาราอยากจะหยิกเนื้อเขาแรงๆนัก ที่บอกว่ามีงานด่วน แสดงว่าโกหกใช่ไหม เขากลัวเธออาละวาด กลัวต้องกลับไปส่งเธอที่ไร่“อ้อ! จริงสิ มีงานด่วนนี่นา พี่นี่ขี้ลืมจริงๆเลย” เ
“เดี๋ยวพี่เอาไปทิ้งให้เอง รับรองด้วยเกียรติของสามีที่แสนดีที่สุดในจักรวาลว่ากางเกงในตัวน้อยของหนูจะไม่ตกไปอยู่ในที่ที่อันตรายแน่นอน”“งั้นก็ปล่อยหนูได้แล้วค่ะ” เสียงแหบพร่าของเขาทำให้พรรณดาราเริ่มไม่ค่อยไว้ใจ หญิงสาวดันอกกว้าง เพื่อจะพาตัวเองลุกขึ้น ทว่าเจ้าของตักก็ยังไม่ยอมปล่อย แถมเขายังกอดรัดเธอแน่นกว่าเดิมด้วยซ้ำ“ขอรางวัลหน่อยสิครับ” กวีออดอ้อนเสียงหวาน ยามได้ใกล้ชิดกับภรรยา เขาแทบไม่อยากปล่อยเธอไปไหน อยากจะกอดไว้แนบกายตลอดไป“รางวัลอะไรคะ”“ก็ค่าจัดการกางเกงในของหนูไง”พรรณดาราถอนหายใจ เธอกับเขาถกเถียงเรื่องกางเกงในเจ้าปัญหามานานเกินไปแล้ว หญิงสาวต้องการยุติหัวข้อการถกเถียงเพียงเท่านี้ สองแขนเรียวจึงยกขึ้นโอบลำคอแกร่ง โน้มลำคอเขาลงมาแล้วหอมแก้มเขาหนึ่งครั้ง ให้เป็นรางวัลที่เขาร้องขอ แต่พอเธอจะผละออกมา มือแข็งแรงกลับช้อนท้ายทอยเธอตรึงไว้ ฉับพลันเขาก็เบี่ยงหน้าเคลื่อนริมฝีปากมาแนบประกบทันที กวีฉกฉวยเอารางวัลเป็นจูบหวานๆจากปากนุ่มเนิ่นนานจนฉ่ำใจ“ไม่เห็นต้องลำบากเทียวไปเทียวมารับส่งหนูกับลูกแบบนี้เลย”
“ป๊ะป๋า” พี่พร้อมร้องเรียกเมื่อเห็นป๊ะป๋าอุ้มน้องสาวเดินมาแต่ไกล พรรณดาราหันไปยิ้มให้สามีที่รีบสาวเท้าเดินเร็วขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าเธอนั่งอยู่กับใคร ใบหน้าบอกบุญไม่รับของเขาทำให้พรรณดาราอยากจะหนีบเนื้อแรงๆอีกสักครั้ง คนไม่มีมารยาท“กลับบ้าน” กวีพูดกับแม่ของลูก แต่สายตาดุกลับจ้องหน้าคนที่บังอาจมานั่งคุยกับเมียของเขา“หนูขอตัวก่อนนะคะคุณมนัส สวัสดีค่ะ” พรรณดารายกมือไหว้ แล้วหันไปบอกลูกๆไหว้ลาด้วย หญิงสาวยืนขึ้น สาดสายตาดุมองไปยังคนที่ยืนหัวโด่ไม่ยอมทักทายเจ้าของโรงเรียน แถมยังจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไร้มารยาท“สวัสดีครับคุณกวี” กลับกลายเป็นว่าผู้สูงวัยกว่าต้องลุกขึ้นยืนและเป็นฝ่ายเอ่ยทักทายก่อน พรรณดาราแทบจะมุดพื้นหนีเพราะอับอายกับการทำตัวไม่เหมาะสมของสามี“ครับ” กวีตอบรับคำทักทายห้วนๆสั้นๆ ใครจะอยากไปญาติดีกับมัน มองดูก็รู้ว่ามันคิดอะไรๆกับเมียเขา ไม่งั้นมันจะมานั่งประจ๋อประแจ๋ด้วยเหรอ นี่คงคิดว่าเขาเลิกกับเมียแล้วจริงๆล่ะสิ เลยคิดจะมาพูดคุยทำคะแนน ไอ้ฟาย! กูยังไม่เลิกกับเมียโว้ย และก็ไม่มีวันเลิกด้วย แก่แล้วก็ควรสำเหนียกได้ว่าผัวเขาทั้งหล่อทั้งรวยแถมยังปึ๋งปั๋
พลอยชมพูกะพริบตาปริบๆ รีบลงจากเตียงแล้วเดินไปที่หน้าต่าง พอหญิงสาวเปิดม่านออกก็มองเห็นเขายืนโบกไม้โบกมืออยู่ข้างล่าง เธอปิดม่านแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อกลางวันแค่เธอคุยกับเขานิดเดียว แถมยังมีผู้คนอยู่ด้วยตั้งมากมาย พบรักยังจับเธอไปลงโทษด้วยบทรักเร่าร้อนท้าแสงแดด นี่ถ้ามาเห็นเธอคุยกับเขาที่หน้าบ้าน เธอจะโดนอะไรอีกไหมเนี่ยแต่สุดท้ายแล้วพลอยชมพูก็ต้องลงไปคุยกับเพื่อนชายที่ซุ้มไม้หน้าบ้าน เธออุตส่าห์ทำตัวเป็นผู้ฟัง ไม่ซักไม่ถาม วิศรุตถามคำเธอก็ตอบคำ หวังว่าเขาจะเบื่อแล้วกลับห้องพักไปก่อนที่เจ้าของบ้านจะกลับมา แต่อีตานี่ก็หน้าด้านหน้าทนกว่าที่คิด ขุดเรื่องตั้งแต่สมัยปีมะโว้มาคุยกับเธอได้เป็นคุ้งเป็นแคว แหม...รู้สึกคิดถูกมากๆที่ไม่สนใจเขาตั้งแต่ตอนที่เขาเข้ามาจีบใหม่ๆ เพราะไม่งั้นเธออาจจะเบื่อตายไปเลยก็ได้ เธอไม่ชอบผู้ชายพูดมาก เพราะลำพังตัวเธอเองก็พูดมากอยู่แล้ว เธอชอบคนที่พร้อมจะฟังมากกว่า เหมือนคุณพบนั่นไง พอคิดถึงคนที่ฟังเธอเสียเป็นส่วนมาก เขาก็โผล่มาพอดีพบรักจอดรถกอล์ฟที่หน้าบ้าน แล้วเดินหน้าบึ้งเข้ามาหาเธอกับวิศรุตที่ซุ้มไม้“ที่นี่เป็นที่พักส่วนตัวของผม ไม่
“เดือนนี้ไม่หักแล้ว จะให้เพิ่มด้วย” พบรักบอกยิ้มๆ“ให้เพิ่มทำไม ติ๊บไม่ได้ทำงานอะไรเพิ่มสักหน่อย” คนไม่อยากเอาเปรียบนายจ้างปฏิเสธไม่รับเงินค่าจ้างเพิ่มโดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรเพิ่มพบรักถอนหายใจบางเบา เขาลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งเก้าอี้ข้างหญิงสาว ดูเหมือนเธอจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเหตุการณ์เร่าร้อนที่เขาและเธอเพิ่งทำกันไปเมื่อครู่ใหญ่“กระติ๊บ” พบรักจับมือบางทั้งสองข้างมากุมไว้ เขามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาดุ ไม่พอใจที่เธอไม่เรียกร้องอะไรจากเขาเลย ทั้งๆที่เขาอยากให้เธอเรียกร้องเอาทุกอย่างจากเขา เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ทั้งตัว หัวใจ เงินทอง ทรัพย์สมบัติต่างๆ เขาพร้อมจะยกให้เธอทั้งหมด“อะ...อะไรคะ” พลอยชมพูเอนตัวหลบคนที่อยู่ดีๆก็เดินมาจับมือถือแขนเธอ ที่จริงเธอก็ไม่ควรตกใจอะไรหรอก เพราะมากกว่ามือเขาก็จับมาแล้ว แต่บอกตรงๆว่าเธอยังไม่ชิน ถึงจะไม่ได้รังเกียจเขา แต่ก็ใช่ว่าเธอจะชอบที่เขาเข้ามาใกล้ชิดแบบนี้ เพราะมันทำให้หัวใจเธอสั่น“คุณไม่คิดจะเรียกร้องอะไรจากผมหน่อยหรือ”พลอยชมพูมองหน้าเขานิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนระบายยิ้มหวานสดใสให้เขา“แล้วคุณพบอยากใ
พลอยชมพูหลับตา แหงนเงยหน้าเชิดสูง พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความซ่านเสียวสะใจ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่รู้สึกไปกับเขามากมายขนาดนี้ และเมื่อเขาเริ่มโยกกายถอดถอนสลับเติมเต็มในจังหวะเชื่องช้า หญิงสาวก็ครางเบาๆอย่างกับลูกแมวน้อย มันเสียวสะท้านก็จริง ทว่าเธอคิดว่ามันอ่อนโยนเกินไป หญิงสาวจึงโยกสะโพกกลับไปด้านหลัง ในจังหวะที่เขาสอดเสยเข้าหาเธอพอดี เสียงเนื้อสะโพกหนั่นแน่นปะทะกับหน้าขาจึงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่างคนต่างใส่แรงเข้าหากันไม่มีใครยอมใคร แต่คนแรงน้อยกว่าสูญเสียอธิปไตยในน่านน้ำตัวเองไปหลายครั้ง กว่าเธอจะรีดรัดคนแข็งแกร่งห้าวหาญจนเขายอมพ่ายแพ้ก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง “ไปเดินอีท่าไหนให้หกล้มหัวเข่าถลอกแบบนี้คะ” ลำดวนถามคนที่ตนกำลังทำแผลให้ หญิงสาวนั่งอยู่บนโซฟาในบ้านพักของเจ้าของรีสอร์ตพลอยชมพูตวัดสายตาดุขึ้นมองตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องหัวเข่าถลอก เขายืนกอดอกตีหน้านิ่งอยู่ใกล้ๆ แต่เมื่อสบสายตากับเธอ เขาก็ยิ้มบางบนใบหน้า แถมยังยักคิ้วข้างหนึ่งใส่เธอด้วย คนเจ็บตัวเพราะความหื่นปรอทแตกของเขาจึงสะบัดค้อนให้จนคอแทบเคล็ด
ใบหน้าที่หลับตาพริ้ม อ้าปากเผยอครางเสียงหวานดังผะแผ่ว ทำให้พบรักเร่งมือเพื่อส่งเธอไปสุดปลายทางล่วงหน้าก่อน เขาสอดนิ้วกลางเข้าสู่ร่องสาวคับแน่น ชักเข้าออกกระทุ้งแรง รับรู้ได้ถึงกล้ามเนื้ออ่อนที่บีบรัดรอบจากปลายสุดโคนนิ้ว ชายหนุ่มสูดลมหายใจยาว เขาแข็งขึงทรมาน อยากจะพาสัดส่วนที่ขยายใหญ่โตสอดลึกในตัวเธอแล้ว ทว่าก็ได้แต่ยับยั้งใจไว้ก่อน ความสดใหม่ของเธอทำให้เขาต้องรีดเค้นน้ำหวานออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เธอต้องเจ็บตัวมากเหมือนครั้งแรก“คุณพบ!” พลอยชมพูหลับตาแน่น เงยหน้าขึ้นครวญครางเรียกชื่อคนที่กำลังปรนเปรอเธอด้วยนิ้วมืออย่างดุดัน เมื่อไม่อาจต้านทานบทเพลงกามาที่บรรเลงโดยนิ้วเรียวยาวที่พร่างพรมลงใจกลางความเป็นหญิง สะโพกสวยก็ขยับเร็วเพื่อจะไปให้ถึงบทสุดท้ายของเพลงรัก เผลอให้ความร่วมมือไปโดยไม่รู้ตัว“กระติ๊บ...” พบรักจับจ้องมองใบหน้าน่ารักไม่วางตา เขากระซิบเรียกเธอซ้ำๆ จูบปลายคางเล็ก แล้วอ้าปากงับเบาๆ เร่งขยับซอยนิ้วมือกระทั่งส่งเธอข้ามพ้นขอบเขตความอดกลั้น หญิงสาวระเบิดตัวเองหยาดน้ำใสฉีดล้นซอกขาเปรอะเปื้อนเต็มหน้าตักเขาพลอยชมพูหอบหายใจแฮกๆ หญิงสาวเอนกายซวนซบอกกว
“อุ๊ย!” พลอยชมพูมัวแต่โมโหคนที่ไม่ยอมปล่อยเธอสักที หญิงสาวเลยมองเมินไปยังพื้นที่สีเขียวโล่งกว้างตรงหน้า โดยไม่ทันระวังตัว พบรักก็รวบเอวคอดดึงตัวเธอขึ้นไปนั่งบนตักเขา แล้วกักกอดไว้แน่น แผ่นหลังนุ่มแนบไปกับอกกว้างกำยำ“คุณพบ! จะทำอะไรคะ ปล่อยนะ” พลอยชมพูหันหน้าไปต่อว่าเขา ใบหน้าสาวบูดบึ้งไม่พอใจอย่างที่สุด“นั่งพักสักหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับ”“จะนั่งก็นั่งดีๆสิคะ ทำไมต้องมากอดคนอื่นแบบนี้”“คนอื่นที่ไหน เมียทั้งคน”ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง มองหน้าคนที่เรียกตัวเองว่าเมียด้วยสายตาแตกตื่น พบรักมองสีหน้าตกใจของเธอแล้วยิ้มขำ พอเห็นคนที่เอาแต่ตกตะลึงตาค้างกับตำแหน่งใหม่ที่เขามอบให้ แถมริมฝีปากอิ่มที่เผยอน้อยๆนั่นก็ยั่วใจเขาเหลือเกิน ชายหนุ่มจึงอดใจไม่ไหว เขาโน้มใบหน้าลงไปใกล้อีกนิด หวังจะชิมความหวานจากปากนุ่ม แต่ดูเหมือนคนกำลังจะถูกเขารังแกจะรู้ตัวเสียก่อน มือบางสองข้างจึงถูกยกขึ้นมาปิดกั้นปากเขาไว้แล้วดันออกสุดแรงจนหน้าแทบหัน“จะทำอะไรคะ” พลอยชมพูถามเสียงขุ่น หญิงสาวดึงมือกลับมาเช็ดๆถูๆกับกางเกง มองค้อนคนจ้องจะเอาเปรียบเธอปากเขานุ่มชะมัด บ้าจริ
“ไอ้หมอนั่นใคร”เสียงเข้มไม่พอใจที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้พลอยชมพูสะดุ้ง หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนหมุนตัวกลับไปยืนประจันหน้ากับเจ้าของรีสอร์ตนิสัยเสียที่กล้าเรียกลูกค้าว่าไอ้หมอนั่น“ลูกค้าค่ะ”“รู้แล้วว่ามันเป็นลูกค้า มันรู้จักกระติ๊บด้วยเหรอ”“เป็นเพื่อนกันสมัยเรียนปอโทค่ะ”“เมื่อกี้มันขอเบอร์ด้วย”“ค่ะ” พลอยชมพูตอบแล้วหันไปคว้าถาดมาถือ เดินหนีคนช่างซัก“จะไปไหน” พบรักเดินตามติดต้อยๆ“เอาถาดไปเก็บค่ะ”“ผมช่วย” พบรักแย่งถาดจากมือบาง แต่ลูกจ้างสาวไม่ยอม พลอยชมพูดึงเอาไว้แน่น“ไม่ต้องค่ะ”“ต้อง” พบรักใช้แรงที่มีมากกว่าดึงถาดมาจากมือเธอจนได้ พลอยชมพูมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ คนบ้าอะไรเนี่ย คนจะทำงาน เขาจะมาวุ่นวายวอแวอะไรกับเธอนักหนา“งั้นก็ฝากไปเก็บด้วยนะคะ ติ๊บจะไปช่วยพี่น้ำตาลค่ะ” พลอยชมพูสะบัดหน้าเดินหนีเอาดื้อๆ พบรักมองตามเธอ แล้วก้มมองถาดในมือ เรื่องอะไรจะเอาไปเก็บ เธอไม่ไป เขาก็ไม่ไป ชายหนุ่มพยักหน้าเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลให้มารับถาดไปเก็บ แล้วเดินตามไปยังเคาน์เตอร์ที่พลอยชมพูยืนอยู่กับกลุ่
“ผมก็เป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเหมือนกัน” คนไม่อยากให้สาวทำงานลำบากรีบเอ่ยอ้างพลอยชมพูเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจลึก นี่เธอกำลังคุยกับผู้ใหญ่อายุสี่สิบหรือเด็กอายุสิบขวบกันแน่นะ“ติ๊บจะไปช่วยงานคนอื่นแล้ว ห้ามตามมานะคะ ไม่อย่างงั้นติ๊บจะหนีกลับบ้านจริงๆด้วย” พลอยชมพูหันหลังเดินออกจากห้องไปทันทีที่พูดจบ คนที่ถูกเธอขู่ไม่กล้าลุกเดินตามไป พบรักทำได้เพียงถอนหายใจมองตามตาละห้อย เขากลัวเธอหนีกลับบ้าน กลัวเธอไม่อยู่ให้เขารับผิดชอบเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานเจ้าของรีสอร์ตได้แล้ว พลอยชมพูถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก บางทีเธอก็ไม่เข้าใจว่า การที่เธอเอาเรื่องนี้มาขู่เขานี่ถูกต้องแล้วใช่ไหม คือเธออดสงสัยไม่ได้ว่าตรรกะการได้เสียระหว่างเธอกับเขามันดูเพี้ยนๆ เขาต้องการรับผิดชอบ ในขณะที่เธอยังไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น และยังไม่อยากตัดสินใจอะไรตอนนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเสียใจ แต่ที่มากกว่าความเสียใจคือ เธอกลัวครอบครัวรู้ กลัวพวกท่านจะผิดหวังในตัวเธอ แต่จะให้ร้องไห้คร่ำครวญจมอยู่ในห้วงทุกข์ตลอดเวลาก็ดูจะไม่ใช่ ไม่น่าทำ เธอโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีภูมิคุ้มกันภาวะจิตใจและอาร
“ยังไม่หิวค่ะ” พลอยชมพูบอกเสียงเบา หญิงสาวไม่รู้จะทำตัวเช่นไร จึงได้แต่ยืนขัดเขินทั้งกังวลอยู่กลางห้อง รอให้เขาเริ่มพูดเรื่องนั้นขึ้นก่อน“กระติ๊บ”“คะ” คนถูกเรียกสะดุ้ง หันไปมองเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ปลายเตียงของเขา“มานั่งตรงนี้ เราต้องคุยกัน” พบรักตบมือลงข้างๆที่ตัวเองนั่งอยู่“คุณพบพูดมาเลยค่ะ ยืนอยู่ตรงนี้ ติ๊บก็ได้ยิน”“ถ้าไม่มานั่งดีๆ ผมจะเดินไปอุ้ม”คำขู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำให้ใบหน้างามงอง้ำ พลอยชมพูพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะยอมเดินไปนั่งข้างเขา ซึ่งหญิงสาวทิ้งระยะห่างพองาม พบรักเองก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้เธอมานั่งชิดตัวติดกัน“กระติ๊บอยากให้ผมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง” พบรักเอ่ยถามตรงๆไม่อ้อมค้อม คนที่ต้องตอบคำถามอึ้งไปไม่เป็น รับผิดชอบอย่างไรงั้นหรือ แต่งงานคงไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไรนัก เพราะหากชีวิตคู่ของเธอเริ่มต้นจากการเสียตัวเพราะความเมา มันก็คงจบไม่สวยเท่าไรหรอกมั้ง เธอกับเขายังรู้จักกันไม่ดีพอ ยังไม่มากพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน“อย่าเพิ่งปฏิเสธความรับผิดชอบจากผม เราค่อยๆเรียนรู้กันไปก่อนได้ไหม”พลอยชมพูเ
เพลิงตะวันจับตามองน้องสาวตั้งแต่เธอเดินออกจากประตูบ้านมา กระทั่งเดินมานั่งที่เก้าอี้ซึ่งอยู่ในซุ้มไม้ที่เขากับภรรยานั่งอยู่ก่อนแล้ว“ช้า!” คนใจร้อนและหัวร้อนง่ายว่าน้อง แล้วมองอย่างจับพิรุธ“ติ๊บเป็นผู้หญิงนะพี่เพลิง จะให้วิ่งผ่านน้ำหรือไงเล่า มันก็ต้องให้เวลากันหน่อยสิคะ” พลอยชมพูว่าแล้วทำปากยื่นให้พี่ชาย“น้ำฝนไม่เห็นอาบนานเหมือนติ๊บเลย” คนข้องใจยังคงหาเรื่องจับผิดน้องต่อ“ที่อาบไม่นานเพราะพี่เพลิงเข้าไปอาบด้วยหรือเปล่าคะ อาบไม่นาน เพราะทำอย่างอื่นด้วย” ถึงเธอจะเพิ่งเสียพรหมจรรย์มาเมื่อคืนนี้เอง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลย เรื่องแบบนี้ถึงไม่อยากรู้แต่ก็ได้รู้ เพราะทั้งเพื่อนฝูงคุยกัน ทั้งหนังทั้งละครมีฉากแบบนี้ออกเยอะแยะ และพลอยชมพูก็ฉลาดพอที่จะดึงน้องสาวเข้ามาจัดการพี่เพลิง“พี่ติ๊บ!” หยาดพิรุณอุทานเรียกพี่สาวด้วยน้ำเสียงตกใจ แล้วหันไปมองสามีด้วยสายตาดุ เพราะเขานั่นแหละไปจุกจิกวุ่นวายถามจับผิดพี่สาวเธออยู่ได้ พี่ติ๊บเลยสวนหมัดกลับมา แต่แทนที่หมัดนี้จะโดนเขา กลับมาฮุกเข้าใต้ลิ้นปี่เธอเสียนี่“ตื่นสายโด่งขนาดนี้ พี่พบเขายังจ