“น้องพริ้งจะจุ๊บแก้มข้างนี้ พี่พร้อมจุ๊บหน้าผาก ส่วนคุณแม่จุ๊บแก้มข้างนี้นะคะ” น้องพริ้งมอบหมายหน้าที่ในการเพิ่มพลังให้ป๊ะป๋าแก่ทุกคน นิ้วน้อยๆจิ้มไปบนใบหน้าบิดาขณะที่พูดไปด้วย
“หนึ่ง สอง สาม จุ๊บได้เลยค่า” น้องพริ้งเป็นผู้ให้สัญญาณในการเริ่มปฏิบัติการ
กวียิ้มแก้มแทบแตกเมื่อถูกลูกเมียรุมจุ๊บพร้อมกัน เมื่อทั้งสามผละออกไป เขาก็ถอนหายใจอย่างมีความสุข
“ป๊ะป๋ารู้สึกยังไงบ้างคะ” น้องพริ้งถามเสียงใส เด็กหญิงมั่นใจว่าป๊ะป๋าได้รับการเติมพลังเต็มเปี่ยมแล้วแน่ๆ ทว่า...
“ป๊ะป๋ารู้สึกว่าแก้มข้างนี้ได้รับพลังน้อยมาก” คนเจ้าเล่ห์จิ้มแก้มข้างที่คุณแม่ของลูกๆเป็นคนจุ๊บ
พรรณดารากะพริบตาปริบๆ เมื่อถูกสายตาสองคู่ของลูกมองมาอย่างตำหนิ
“คุณแม่ต้องจุ๊บแรงๆสิครับ ป๊ะป๋าจะได้มีพลังเยอะๆ”
“คุณแม่ตั้งใจหน่อยสิคะ ต้องจุ๊บแรงๆค่ะ”
พรรณดารายิ้มจืดเจื่อน เมื่อถูกลูกๆต่อว่า เธอว่าเธอก็จุ๊บตามปกตินะ นอกเสียจากว่าใครบางคนจะจงใจใช้ลูกเป็นเครื่องมือในการเอาเปรียบเธอ
“คุณแม่คงไม่รักป๊ะป๋า เลยไม่อยากเพิ่มพลังให้” กวีบอกเสียงเศร้า ปั้นหน้าน่าสงสาร
“คุณ
“พี่วี ปล่อย...” แม้จะโมโหที่เขาทำให้ตกใจ แต่พรรณดาราก็มีสติพอที่จะไม่ตวาดแหวสามีต่อหน้าคนอื่น หญิงสาวบอกเขาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่านัยน์ตาคู่สวยราวกับมีเปลวเพลิงน้อยๆลุกโชนอยู่ในนั้น“พี่มารับไปรับลูก” กวีไม่ทำตามความต้องการของหญิงสาว เขาเห็นตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านแล้วว่าเธอนั่งคุยกับผู้ชาย ให้มานั่งรอรับลูก กลับมีผู้ชายมาคุยด้วยแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน ทักทายกันตามมารยาทก็น่าจะพอแล้ว นี่อะไรนั่งคุยเป็นกิจจะลักษณะ แถมยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้มันอีกด้วย เธอไม่รู้หรือไงว่าเขาหวง“รู้แล้วค่ะ ก็กำลังจะไปอยู่นี่ไงคะ พี่วีปล่อยก่อนสิ” พรรณดาราพยายามจัดการกับความรู้สึกอยากข่วนหน้าสามีไว้อย่างที่สุด เธอรู้ว่าเขาหวง และเริ่มพาลอีกแล้ว หญิงสาวเงยหน้ามองสบสายตาคนนิสัยไม่ดี“ไม่ เดินไปด้วยกันอย่างนี้แหละ” กวีจ้องเธอด้วยสายตาดุ เขาไม่ยอมปล่อย ซ้ำยังกระชับไหล่บาง กอดเธอแนบกายยิ่งกว่าเดิมณัฐพลมองดูคู่สามีภรรยาเล่นสงครามสายตากันอย่างงงๆ“เอ่อ...ผมขอตัวไปดูลูกค้าทางโน้นก่อนนะครับพี่หนูพรรณ เชิญคุณกวีตามสบายนะครับ” ณัฐพลรู้พอๆกับหลายๆคนรู้ว่า กวีหวงเมียแค่ไหน และพร้อมจะเอ
กวีเดินออกมาจากห้องนอน เขามองหาคุณแม่ของลูกๆ ก็พบว่าเธอออกไปนั่งเล่นอยู่ที่เก้าอี้ริมสระน้ำพรรณดาราถอนหายใจเบาๆ ทุกอย่างในห้องนี้ยังเหมือนเดิม และเธอคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดี เพราะที่นี่เปรียบเสมือนบ้านอีกหลังของสามี เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน เขาแทบจะกินนอนที่นี่เลยด้วยซ้ำ คุณปู่กัมพลและคุณย่ากิ่งแก้วเคยฟ้องเธอว่า หากเขาไม่ได้แต่งงานกับเธอ ท่านก็คงไม่ได้เจอหน้าลูกชายบ่อยๆหรอก เพราะหลังจากแต่งงานกัน เขาก็กลับไปกินข้าว ไปนอนที่บ้านทุกวัน ยกเว้นวันไหนยุ่งจริงๆ เขาจะค้างที่นี่ และบ่อยครั้งที่เธอพาลูกๆมานอนเป็นเพื่อนเขา“เล่นน้ำกับพี่ไหม” กวีถามพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้ข้างกัน พรรณดาราหันไปมองค้อนให้เขาอย่างรู้ทัน ดวงตาเป็นประกายวิบวับนั่นทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ แทบจะทุกที่ในห้องนี้แหละมั้งที่เขาสร้างความทรงจำวาบหวามร่วมกันกับเธอ“ลูกหลับแล้วหรือคะ” หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะไม่อยากติดกับดักที่เขาพยายามล่อลวง“หลับแล้วครับ”พี่พร้อมกับน้องพริ้งอ้อนให้ป๊ะป๋าเป็นคนกล่อมนอน เธอจึงปล่อยให้เขาจัดการลูกเอง ดูซิกลับมาหาเธอกับลูกได้ไม่นาน
“อื้อ! พี่วี หนูเจ็บนะ” พรรณดาราประท้วงเมื่อเขากัดขย้ำเนื้อหน้าอกจนเจ็บแปลบ“ขอโทษครับ” กวีสูดลมหายใจลึก แลบลิ้นเลียร่องรอยฟันซี่คมของตนบนเนินอกอวบปลอบประโลม มือร้อนผ่าวลูบต้นขาเนียนด้านใน เลื่อนสูงขึ้นไปจนถึงเนินเนื้อสาว“พี่วี...” พรรณดารากระซิบเรียกเสียงพร่าขาดห้วง เมื่อสามียังคงเอาแต่ลูบไล้ต้นขาด้านใน ป่ายปัดไปมาผ่านจุดกึ่งกลาง หญิงสาวเกร็งแขม่วท้องและคลายออกหลายครั้งแล้ว เขาก็ยังไม่แตะต้องตอบสนองอย่างที่เธอต้องการ“เอาอะไรดีครับ ลิ้น นิ้ว หรือ...” คำสุดท้ายในประโยคคำถามวาบหวิวกวีกระซิบเสียงเบาแหบพร่า พรรณดารายิ้มยั่ว หญิงสาวผลักอกกว้างออกห่าง“ไม่เอาสักอย่างค่ะ”ในเมื่อเขาแกล้ง เธอก็จะไม่ง้อ แล้วทีนี้ก็อย่าหวังว่าเธอจะยอมรับความช่วยเหลือจากเขาง่ายๆพรรณดาราขยับตัวยกเท้าสองข้างขึ้นมาวางบนขอบสระ ชันหัวเข่าขึ้นแล้วแยกกว้าง หญิงสาวเอนตัวเล็กน้อยพร้อมเท้าแขนข้างหนึ่งไปด้านหลัง แล้วเลื่อนมืออีกข้างลงไปกลางกาย กรีดนิ้วกลางผ่าแยกกลีบเนื้ออ่อนนุ่มขยับขึ้นลงช้าๆกวีมองภาพเร้าอารมณ์ตรงหน
“ตายแล้ว คุณแม่นอนตื่นสายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ทำไมไม่มีใครปลุกคุณแม่ล่ะคะ”“ป๊ะป๋าห้ามปลุกครับ ป๊ะป๋าบอกว่าคุณแม่เหนื่อย เพราะต้องดูแลพวกเรา ต้องให้คุณแม่พักผ่อนเยอะๆ แล้วตอนนี้คุณแม่หายเหนื่อยหรือยังครับ”พรรณดารายิ้มให้ลูกชาย ยื่นมือไปลูบศีรษะเล็กเบาๆด้วยความรักเอ็นดู“หายแล้วครับคนเก่ง”“ถ้าหายเหนื่อยแล้วก็ลุกไปกินข้าวกันเถอะค่า” น้องพริ้งจับมือคุณแม่ดึงเบาๆ พรรณดาราขยับลุกขึ้นจากเตียง พี่พร้อมรีบวิ่งมาจับมือคุณแม่อีกข้าง ช่วยกันจูงคุณแม่ตรงไปยังโต๊ะที่มีอาหารมื้อเช้าวางอยู่เต็มกวีที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วยิ้มหวานให้คนเพิ่งตื่น เขาปล่อยให้เธอนอนตื่นสายโดยไม่ปลุก เพราะรู้ว่าเมื่อคืนนี้เธอหมดพลังกับเขาไปเยอะ ชายหนุ่มจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้ลูกทั้งสองเสร็จแล้ว จึงบอกลูกๆไปปลุกคุณแม่คนสวยมารับประทานอาหารเช้าพร้อมกัน“คุณแม่นั่งตรงนี้นะครับ” พี่พร้อมจัดการเลื่อนเก้าอี้ให้คุณแม่ให้นั่งข้างป๊ะป๋า“นี่น้ำส้มของคุณแม่ค่ะ” น้องพริ้งเขย่งเท้า ค่อยๆยื่นมือไปดึงแก้วน้ำส้มบนโต๊ะมาไว้ใกล้ๆคุณแม่พรรณดาราเอ่ยคำขอบคุณ พร้อมทั้งหอมแก้มลูกทั้งสอง เด
พรรณดาราเดินตามเด็กหิ้วกระเป๋าขึ้นไปบนห้อง หญิงสาวจะตามไปจัดกระเป๋าของลูกๆและของเธอเอง แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเดินเข้าไปในห้องที่เคยนอนประจำแล้วไม่พบกระเป๋า กวีเดินตามมายืนกอดอกพิงกรอบประตู มองสีหน้าแปลกใจของเธอยิ้มๆ“เด็กเอากระเป๋าลูกไปไว้ห้องคุณปู่คุณย่าแล้ว”“แล้วกระเป๋าหนูล่ะคะ”“อยู่ในห้องพี่”“หนูไม่นอนกับพี่วี” พรรณดาราสวนกลับทันควัน ขืนนอนกับเขาเธอได้อ่อนเปลี้ยเพลียแรงอีกแน่ๆ แล้วคืนนี้นอนบ้านที่มีพ่อกับแม่เขาอยู่ด้วย หากเธอตื่นสายอีกเหมือนคราวที่แล้วคงได้อายพวกท่านอีกแน่นอน“แต่พี่จะนอนกับหนู” กวีตอบยียวนพรรณดาราสะบัดค้อนให้คนเอาแต่ใจ ที่จริงอยากกระโดดข่วนหน้าเขาด้วยซ้ำ“เป็นอะไร กลัวตุ๊กแกในห้องพี่เหรอครับ”พรรณดาราขึงตาใส่ตุ๊กแกตัวใหญ่ที่ตามติดมาถึงนี่ กวีขยับเข้าไปยืนใกล้ภรรยา เขาโน้มใบหน้าลงกระซิบชิดใบหูเล็ก“คืนนี้พี่จะบอกตุ๊กแกให้กินตับหนูเบาๆนะครับ พี่สัญญา”สองสัปดาห์ต่อมาคนที่ไปตามง้อเมียถึงกรุงเทพก็ง้อเมียสำเร็จ เพลิงตะวันพาลูกเมียกลับมาถึงไร่ภูอิงฟ้าในตอนบ่าย ปู่ทวด
“พี่เพลิงดูอะไรอยู่คะ” หยาดพิรุณอุ้มลูกเดินตามสามีออกมาเพื่อจะเดินกลับบ้านไปด้วยกัน หญิงสาวมองตามสายตาสามีแล้วยื่นมือไปแตะต้นแขนเขา“พี่เพลิงสัญญากับน้ำฝนแล้วนะคะว่าจะไม่ยุ่งเรื่องนี้ ปล่อยให้พี่หนูพรรณได้ตัดสินใจเองเถอะค่ะ น้ำฝนสงสารพี่หนูพรรณ สงสารหลาน”เพลิงตะวันถอนหายใจแรง เขาหันมายิ้มให้ภรรยา รับลูกมาอุ้มแนบอก ก้มลงหอมแก้มนุ่มฟอดใหญ่“ครับ น้ำฝนว่ายังไง พี่ก็ว่าตามนั้น”หยาดพิรุณยิ้มหวานให้สามี“น่ารักแบบนี้ต้องให้รางวัล”คำว่ารางวัลทำให้คนที่ห่างเมียไปนานหลายวันยิ้มกว้าง เพลิงตะวันไม่สนใจน้อง ไม่สนใจหลานอีกต่อไป ชายหนุ่มคว้ามือนุ่มของเมียมากุมไว้แน่น แล้วรีบจับจูงเดินกลับบ้านไปอย่างรวดเร็ว ในหัวก็คิดวิธีที่จะทำให้ลูกชายหลับโดยเร็วที่สุด เขาจะได้อ้าแขนรอรับรางวัลจากเมียให้ชุ่มปอดกว่าจะทำใจให้กล้าพอที่จะคุยกับพี่ชายได้ พรรณดาราก็ทำใจอยู่หลายวัน วันนี้ก่อนจะไปนอนที่บ้านสามีหญิงสาวจึงตัดสินใจที่จะบอกพี่เพลิงว่าเธอตัดสินใจที่จะกลับไปอยู่กับสามี เธอทำเพื่อลูกๆพรรณดาราเดินมาหาพี่ชายที่บ้านอยู่ติดกัน หลังจากที่
“ไม่ได้ด่าแล้วหนีทำไม แน่จริงกลับมาพูดกันให้รู้เรื่องสิ ไอ้เพลิง!” กวียังไม่ยอมหยุด ก็ก่อนที่เมียเขาจะเดินมาหามันเธอยังยิ้มพูดคุยปกติอยู่เลย แต่พอมาเจอมัน เธอกลับร้องไห้ขี้มูกโป่ง ไม่ใช่มันแล้วจะเป็นใครที่ทำให้เมียเขาต้องร้องไห้เสียน้ำตาแบบนี้“พี่วี!” พรรณดาราผลักคนที่เธอกอดไว้ออกสุดแรง หญิงสาวมองหน้าเขาด้วยสายตาคาดโทษ คนอะไรไม่มีเหตุผล ไม่ฟังคนอื่นบ้างเลย เอาแต่เอะอะโวยวายอยู่นั่นแหละ“ไอ้เพลิงมันว่าอะไรหนู บอกพี่มา พี่จะไปจัดการมันให้” คนห่วงเมียจนขาดสติไม่สังเกตสักนิดว่า เมียโมโหจนจะกลายร่างเป็นนางยักษ์เขมือบหัวเขาอยู่แล้ว“พี่เพลิงไม่ได้ว่าอะไรหนู” พรรณดาราพยายามอธิบายอย่างใจเย็นทั้งที่ในใจเดือดปุดๆ“อ้าว! แล้วหนูร้องไห้ทำไมครับ” กวีถามเสียงอ่อนลง เห็นตาดุๆของเธอแล้วชักเสียวสันหลัง“แล้วทีเมื่อกี้ทำไมไม่ถามก่อน ไปโวยวายพี่เพลิงทำไมคะ คนอะไรชอบใช้อารมณ์เป็นใหญ่”“ก็พอเห็นหนูร้องไห้แล้วพี่ใจไม่ดี”พรรณดารามองค้อนคนแก้ตัวเสียงอ่อย นี่แหละเขา ไม่ว่าอะไรก็ขอให้ได้พาลคนอื่นก่อน แล้วค่อยมาคุยมาถามทีหลัง แบบนี้ต้องปล่อยให้คาใจต่อไป เธอจะ
เพลิงตะวันยิ้มเยาะ แล้วหมุนตัวเดินเข้าบ้านไปก่อน ปล่อยให้คนถูกด่าว่าเป็นสากกะเบือมองตามด้วยความอาฆาตแค้น ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้เพลิง!“ไม่มีชีวิตคู่ของใครสมบูรณ์แบบไปทุกอย่างหรอก ทุกคนต้องเจอบททดสอบกันทั้งนั้น ชีวิตคู่จะไปต่อหรือสิ้นสุดลง ขึ้นอยู่กับเราสองคนว่ารักกันมากพอที่จะจับมือกันฝ่าฟันบททดสอบไปได้หรือเปล่า ที่ผ่านมาก็ขอให้เป็นบทเรียน ต่อไปมีอะไรก็คุยกันดีๆนะลูก” แม่พราวบอกสอนลูกสาวและลูกเขย ทั้งยกมือซับน้ำตาที่หางตาอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรที่ทำให้ลูกสาวตัดสินใจกลับไปคืนดีกับลูกเขย ท่านก็ถือว่านี่เป็นเรื่องที่น่ายินดี หลานๆจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกเสียที แม้ตัวเองจะต้องทนคิดถึงหลานตัวน้อย ท่านก็ยอม เพราะดูจากการเกาะติดนั่งตักคนเป็นพ่ออย่างแน่นเหนียว ไม่ยอมลุกไปไหนเลยของหลานทั้งสองคนแล้ว ก็พอรู้ได้ว่าอยากกลับไปอยู่กับพ่อเขาขนาดไหน แล้วยายพราวจะกล้าขัดขวางความสุขของหลานๆได้อย่างไร“ขอบคุณครับคุณแม่ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้ลูกสาวคุณแม่ต้องเสียใจอีก”“จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ไหมกวี ไม่มีอะไรที่พ่อต้องกังวลใช่ไหม” พ่อนนท์ถามลูก
“เป็นธรรมดาที่คนสวยอย่างติ๊บจะมีคนมาชอบค่ะ” ตอบแล้วเธอก็เดินกลับไปที่ซิงค์ล้างจาน ลงมือล้างโดยไม่หันมาสนใจคนมีปัญหาคาใจกับแขกที่เข้าพักอีก พบรักรู้สึกถึงความร้อนที่แล่นพล่านอยู่บนหัว เธอรู้ว่าไอ้หมอนั่นชอบ แล้วเธอล่ะชอบมันไหม “แล้วติ๊บชอบมันไหม มันหน้าตาดีนะ” พลอยชมพูสะดุ้งตกใจเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาประชิดด้านหลัง และเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงขุ่นไม่พอใจ “ไม่ค่ะ เฉยๆ ก็บอกแล้วว่าติ๊บทั้งสวยทั้งน่ารัก ก็ต้องมีผู้ชายมาชอบเยอะสิคะ แต่ภูมิต้านทานเรื่องผู้ชายติ๊บสูงค่ะ เพราะที่บ้านมีแต่ผู้ชายหน้าตาดี พ่อติ๊บก็หล่อ ยิ่งพี่ต่ายนี่หล่อแบบ...” พลอยชมพูเงยขึ้นมองหน้าคนที่ยืนหน้าเคร่งอยู่เบื้องหลังตัวเองสายตาครุ่นคิดา “อืม...พี่ต่ายนี่หล่อแบบเอาคุณพบสักสิบคนมามัดรวมกันก็ยังหล่อไม่เท่าพี่ต่ายเลยค่ะ” หัวคิ้วเข้มย่นแทบจะชนกัน เมื่อถูกสาวเปรียบเทียบความหล่อของตนกับพี่ชายของเธอแบบไม่ไว้หน้ากันเลย พบรักขยับตัวเข้าใกล้ ใช้แขนสองข้างกักกันเธอไว้กับเค
พลอยชมพูกะพริบตาปริบๆ รีบลงจากเตียงแล้วเดินไปที่หน้าต่าง พอหญิงสาวเปิดม่านออกก็มองเห็นเขายืนโบกไม้โบกมืออยู่ข้างล่าง เธอปิดม่านแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อกลางวันแค่เธอคุยกับเขานิดเดียว แถมยังมีผู้คนอยู่ด้วยตั้งมากมาย พบรักยังจับเธอไปลงโทษด้วยบทรักเร่าร้อนท้าแสงแดด นี่ถ้ามาเห็นเธอคุยกับเขาที่หน้าบ้าน เธอจะโดนอะไรอีกไหมเนี่ยแต่สุดท้ายแล้วพลอยชมพูก็ต้องลงไปคุยกับเพื่อนชายที่ซุ้มไม้หน้าบ้าน เธออุตส่าห์ทำตัวเป็นผู้ฟัง ไม่ซักไม่ถาม วิศรุตถามคำเธอก็ตอบคำ หวังว่าเขาจะเบื่อแล้วกลับห้องพักไปก่อนที่เจ้าของบ้านจะกลับมา แต่อีตานี่ก็หน้าด้านหน้าทนกว่าที่คิด ขุดเรื่องตั้งแต่สมัยปีมะโว้มาคุยกับเธอได้เป็นคุ้งเป็นแคว แหม...รู้สึกคิดถูกมากๆที่ไม่สนใจเขาตั้งแต่ตอนที่เขาเข้ามาจีบใหม่ๆ เพราะไม่งั้นเธออาจจะเบื่อตายไปเลยก็ได้ เธอไม่ชอบผู้ชายพูดมาก เพราะลำพังตัวเธอเองก็พูดมากอยู่แล้ว เธอชอบคนที่พร้อมจะฟังมากกว่า เหมือนคุณพบนั่นไง พอคิดถึงคนที่ฟังเธอเสียเป็นส่วนมาก เขาก็โผล่มาพอดีพบรักจอดรถกอล์ฟที่หน้าบ้าน แล้วเดินหน้าบึ้งเข้ามาหาเธอกับวิศรุตที่ซุ้มไม้“ที่นี่เป็นที่พักส่วนตัวของผม ไม่
“เดือนนี้ไม่หักแล้ว จะให้เพิ่มด้วย” พบรักบอกยิ้มๆ“ให้เพิ่มทำไม ติ๊บไม่ได้ทำงานอะไรเพิ่มสักหน่อย” คนไม่อยากเอาเปรียบนายจ้างปฏิเสธไม่รับเงินค่าจ้างเพิ่มโดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรเพิ่มพบรักถอนหายใจบางเบา เขาลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งเก้าอี้ข้างหญิงสาว ดูเหมือนเธอจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเหตุการณ์เร่าร้อนที่เขาและเธอเพิ่งทำกันไปเมื่อครู่ใหญ่“กระติ๊บ” พบรักจับมือบางทั้งสองข้างมากุมไว้ เขามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาดุ ไม่พอใจที่เธอไม่เรียกร้องอะไรจากเขาเลย ทั้งๆที่เขาอยากให้เธอเรียกร้องเอาทุกอย่างจากเขา เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ทั้งตัว หัวใจ เงินทอง ทรัพย์สมบัติต่างๆ เขาพร้อมจะยกให้เธอทั้งหมด“อะ...อะไรคะ” พลอยชมพูเอนตัวหลบคนที่อยู่ดีๆก็เดินมาจับมือถือแขนเธอ ที่จริงเธอก็ไม่ควรตกใจอะไรหรอก เพราะมากกว่ามือเขาก็จับมาแล้ว แต่บอกตรงๆว่าเธอยังไม่ชิน ถึงจะไม่ได้รังเกียจเขา แต่ก็ใช่ว่าเธอจะชอบที่เขาเข้ามาใกล้ชิดแบบนี้ เพราะมันทำให้หัวใจเธอสั่น“คุณไม่คิดจะเรียกร้องอะไรจากผมหน่อยหรือ”พลอยชมพูมองหน้าเขานิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนระบายยิ้มหวานสดใสให้เขา“แล้วคุณพบอยากใ
พลอยชมพูหลับตา แหงนเงยหน้าเชิดสูง พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความซ่านเสียวสะใจ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่รู้สึกไปกับเขามากมายขนาดนี้ และเมื่อเขาเริ่มโยกกายถอดถอนสลับเติมเต็มในจังหวะเชื่องช้า หญิงสาวก็ครางเบาๆอย่างกับลูกแมวน้อย มันเสียวสะท้านก็จริง ทว่าเธอคิดว่ามันอ่อนโยนเกินไป หญิงสาวจึงโยกสะโพกกลับไปด้านหลัง ในจังหวะที่เขาสอดเสยเข้าหาเธอพอดี เสียงเนื้อสะโพกหนั่นแน่นปะทะกับหน้าขาจึงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่างคนต่างใส่แรงเข้าหากันไม่มีใครยอมใคร แต่คนแรงน้อยกว่าสูญเสียอธิปไตยในน่านน้ำตัวเองไปหลายครั้ง กว่าเธอจะรีดรัดคนแข็งแกร่งห้าวหาญจนเขายอมพ่ายแพ้ก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง “ไปเดินอีท่าไหนให้หกล้มหัวเข่าถลอกแบบนี้คะ” ลำดวนถามคนที่ตนกำลังทำแผลให้ หญิงสาวนั่งอยู่บนโซฟาในบ้านพักของเจ้าของรีสอร์ตพลอยชมพูตวัดสายตาดุขึ้นมองตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องหัวเข่าถลอก เขายืนกอดอกตีหน้านิ่งอยู่ใกล้ๆ แต่เมื่อสบสายตากับเธอ เขาก็ยิ้มบางบนใบหน้า แถมยังยักคิ้วข้างหนึ่งใส่เธอด้วย คนเจ็บตัวเพราะความหื่นปรอทแตกของเขาจึงสะบัดค้อนให้จนคอแทบเคล็ด
ใบหน้าที่หลับตาพริ้ม อ้าปากเผยอครางเสียงหวานดังผะแผ่ว ทำให้พบรักเร่งมือเพื่อส่งเธอไปสุดปลายทางล่วงหน้าก่อน เขาสอดนิ้วกลางเข้าสู่ร่องสาวคับแน่น ชักเข้าออกกระทุ้งแรง รับรู้ได้ถึงกล้ามเนื้ออ่อนที่บีบรัดรอบจากปลายสุดโคนนิ้ว ชายหนุ่มสูดลมหายใจยาว เขาแข็งขึงทรมาน อยากจะพาสัดส่วนที่ขยายใหญ่โตสอดลึกในตัวเธอแล้ว ทว่าก็ได้แต่ยับยั้งใจไว้ก่อน ความสดใหม่ของเธอทำให้เขาต้องรีดเค้นน้ำหวานออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เธอต้องเจ็บตัวมากเหมือนครั้งแรก“คุณพบ!” พลอยชมพูหลับตาแน่น เงยหน้าขึ้นครวญครางเรียกชื่อคนที่กำลังปรนเปรอเธอด้วยนิ้วมืออย่างดุดัน เมื่อไม่อาจต้านทานบทเพลงกามาที่บรรเลงโดยนิ้วเรียวยาวที่พร่างพรมลงใจกลางความเป็นหญิง สะโพกสวยก็ขยับเร็วเพื่อจะไปให้ถึงบทสุดท้ายของเพลงรัก เผลอให้ความร่วมมือไปโดยไม่รู้ตัว“กระติ๊บ...” พบรักจับจ้องมองใบหน้าน่ารักไม่วางตา เขากระซิบเรียกเธอซ้ำๆ จูบปลายคางเล็ก แล้วอ้าปากงับเบาๆ เร่งขยับซอยนิ้วมือกระทั่งส่งเธอข้ามพ้นขอบเขตความอดกลั้น หญิงสาวระเบิดตัวเองหยาดน้ำใสฉีดล้นซอกขาเปรอะเปื้อนเต็มหน้าตักเขาพลอยชมพูหอบหายใจแฮกๆ หญิงสาวเอนกายซวนซบอกกว
“อุ๊ย!” พลอยชมพูมัวแต่โมโหคนที่ไม่ยอมปล่อยเธอสักที หญิงสาวเลยมองเมินไปยังพื้นที่สีเขียวโล่งกว้างตรงหน้า โดยไม่ทันระวังตัว พบรักก็รวบเอวคอดดึงตัวเธอขึ้นไปนั่งบนตักเขา แล้วกักกอดไว้แน่น แผ่นหลังนุ่มแนบไปกับอกกว้างกำยำ“คุณพบ! จะทำอะไรคะ ปล่อยนะ” พลอยชมพูหันหน้าไปต่อว่าเขา ใบหน้าสาวบูดบึ้งไม่พอใจอย่างที่สุด“นั่งพักสักหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับ”“จะนั่งก็นั่งดีๆสิคะ ทำไมต้องมากอดคนอื่นแบบนี้”“คนอื่นที่ไหน เมียทั้งคน”ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง มองหน้าคนที่เรียกตัวเองว่าเมียด้วยสายตาแตกตื่น พบรักมองสีหน้าตกใจของเธอแล้วยิ้มขำ พอเห็นคนที่เอาแต่ตกตะลึงตาค้างกับตำแหน่งใหม่ที่เขามอบให้ แถมริมฝีปากอิ่มที่เผยอน้อยๆนั่นก็ยั่วใจเขาเหลือเกิน ชายหนุ่มจึงอดใจไม่ไหว เขาโน้มใบหน้าลงไปใกล้อีกนิด หวังจะชิมความหวานจากปากนุ่ม แต่ดูเหมือนคนกำลังจะถูกเขารังแกจะรู้ตัวเสียก่อน มือบางสองข้างจึงถูกยกขึ้นมาปิดกั้นปากเขาไว้แล้วดันออกสุดแรงจนหน้าแทบหัน“จะทำอะไรคะ” พลอยชมพูถามเสียงขุ่น หญิงสาวดึงมือกลับมาเช็ดๆถูๆกับกางเกง มองค้อนคนจ้องจะเอาเปรียบเธอปากเขานุ่มชะมัด บ้าจริ
“ไอ้หมอนั่นใคร”เสียงเข้มไม่พอใจที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้พลอยชมพูสะดุ้ง หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนหมุนตัวกลับไปยืนประจันหน้ากับเจ้าของรีสอร์ตนิสัยเสียที่กล้าเรียกลูกค้าว่าไอ้หมอนั่น“ลูกค้าค่ะ”“รู้แล้วว่ามันเป็นลูกค้า มันรู้จักกระติ๊บด้วยเหรอ”“เป็นเพื่อนกันสมัยเรียนปอโทค่ะ”“เมื่อกี้มันขอเบอร์ด้วย”“ค่ะ” พลอยชมพูตอบแล้วหันไปคว้าถาดมาถือ เดินหนีคนช่างซัก“จะไปไหน” พบรักเดินตามติดต้อยๆ“เอาถาดไปเก็บค่ะ”“ผมช่วย” พบรักแย่งถาดจากมือบาง แต่ลูกจ้างสาวไม่ยอม พลอยชมพูดึงเอาไว้แน่น“ไม่ต้องค่ะ”“ต้อง” พบรักใช้แรงที่มีมากกว่าดึงถาดมาจากมือเธอจนได้ พลอยชมพูมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ คนบ้าอะไรเนี่ย คนจะทำงาน เขาจะมาวุ่นวายวอแวอะไรกับเธอนักหนา“งั้นก็ฝากไปเก็บด้วยนะคะ ติ๊บจะไปช่วยพี่น้ำตาลค่ะ” พลอยชมพูสะบัดหน้าเดินหนีเอาดื้อๆ พบรักมองตามเธอ แล้วก้มมองถาดในมือ เรื่องอะไรจะเอาไปเก็บ เธอไม่ไป เขาก็ไม่ไป ชายหนุ่มพยักหน้าเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลให้มารับถาดไปเก็บ แล้วเดินตามไปยังเคาน์เตอร์ที่พลอยชมพูยืนอยู่กับกลุ่
“ผมก็เป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเหมือนกัน” คนไม่อยากให้สาวทำงานลำบากรีบเอ่ยอ้างพลอยชมพูเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจลึก นี่เธอกำลังคุยกับผู้ใหญ่อายุสี่สิบหรือเด็กอายุสิบขวบกันแน่นะ“ติ๊บจะไปช่วยงานคนอื่นแล้ว ห้ามตามมานะคะ ไม่อย่างงั้นติ๊บจะหนีกลับบ้านจริงๆด้วย” พลอยชมพูหันหลังเดินออกจากห้องไปทันทีที่พูดจบ คนที่ถูกเธอขู่ไม่กล้าลุกเดินตามไป พบรักทำได้เพียงถอนหายใจมองตามตาละห้อย เขากลัวเธอหนีกลับบ้าน กลัวเธอไม่อยู่ให้เขารับผิดชอบเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานเจ้าของรีสอร์ตได้แล้ว พลอยชมพูถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก บางทีเธอก็ไม่เข้าใจว่า การที่เธอเอาเรื่องนี้มาขู่เขานี่ถูกต้องแล้วใช่ไหม คือเธออดสงสัยไม่ได้ว่าตรรกะการได้เสียระหว่างเธอกับเขามันดูเพี้ยนๆ เขาต้องการรับผิดชอบ ในขณะที่เธอยังไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น และยังไม่อยากตัดสินใจอะไรตอนนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเสียใจ แต่ที่มากกว่าความเสียใจคือ เธอกลัวครอบครัวรู้ กลัวพวกท่านจะผิดหวังในตัวเธอ แต่จะให้ร้องไห้คร่ำครวญจมอยู่ในห้วงทุกข์ตลอดเวลาก็ดูจะไม่ใช่ ไม่น่าทำ เธอโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีภูมิคุ้มกันภาวะจิตใจและอาร
“ยังไม่หิวค่ะ” พลอยชมพูบอกเสียงเบา หญิงสาวไม่รู้จะทำตัวเช่นไร จึงได้แต่ยืนขัดเขินทั้งกังวลอยู่กลางห้อง รอให้เขาเริ่มพูดเรื่องนั้นขึ้นก่อน“กระติ๊บ”“คะ” คนถูกเรียกสะดุ้ง หันไปมองเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ปลายเตียงของเขา“มานั่งตรงนี้ เราต้องคุยกัน” พบรักตบมือลงข้างๆที่ตัวเองนั่งอยู่“คุณพบพูดมาเลยค่ะ ยืนอยู่ตรงนี้ ติ๊บก็ได้ยิน”“ถ้าไม่มานั่งดีๆ ผมจะเดินไปอุ้ม”คำขู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำให้ใบหน้างามงอง้ำ พลอยชมพูพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะยอมเดินไปนั่งข้างเขา ซึ่งหญิงสาวทิ้งระยะห่างพองาม พบรักเองก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้เธอมานั่งชิดตัวติดกัน“กระติ๊บอยากให้ผมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง” พบรักเอ่ยถามตรงๆไม่อ้อมค้อม คนที่ต้องตอบคำถามอึ้งไปไม่เป็น รับผิดชอบอย่างไรงั้นหรือ แต่งงานคงไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไรนัก เพราะหากชีวิตคู่ของเธอเริ่มต้นจากการเสียตัวเพราะความเมา มันก็คงจบไม่สวยเท่าไรหรอกมั้ง เธอกับเขายังรู้จักกันไม่ดีพอ ยังไม่มากพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน“อย่าเพิ่งปฏิเสธความรับผิดชอบจากผม เราค่อยๆเรียนรู้กันไปก่อนได้ไหม”พลอยชมพูเ