“อืม...” พลอยไพลินครางเบาๆในลำคอ หญิงสาวรู้สึกก้ำกึ่งอยู่ระหว่างความฝันกับความจริง หากนี่คือฝัน มันคือความฝันอันแสนหวามไหว รสจูบหวานซาบซ่านเคยคุ้นทำให้เธอจูบตอบทั้งที่ยังหลับตา แต่หากนี่คือความจริง ช่างเป็นความจริงที่น่าเคลิบเคลิ้ม เธอมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า บทจูบอ่อนหวานซ่านอารมณ์กำลังปั่นหัวเธอให้หลงละเมอ จนมิอาจถอนตัวถอนใจผลักไสคนที่มอบจูบให้เธอได้
วาโยแทบคลั่งเมื่อน้องเริ่มจูบตอบ ชายหนุ่มพลิกกายขึ้นทาบทับอยู่เหนือร่างสาว ความหวานล้ำที่ได้รับ บวกกับความใกล้ชิดมากกว่าครั้งไหน อีกทั้งบรรยากาศก็เป็นใจทำให้เลือดในกายหนุ่มร้อนฉ่า เขาไม่รู้เลยว่าครั้งนี้เขาจะหยุดตัวเองได้หรือเปล่า ไม่รู้เลยว่ามันจะเลยเถิดไปไกลถึงจุดไหน วาโยรู้เพียงว่า หากให้ถอนจูบออกมาตอนนี้ เขาต้องลงแดงตายแน่ๆ
ความอึดอัดเพราะโดนโถมทับไว้ทั้งตัว กับจูบที่ค่อยๆทวีความดุดันขึ้นเรื่อยๆทำให้สติที่พร่าเลือนเริ่มชัดเจนขึ้นทีละน้อย พลอยไพลินเบิกตาโพลงในความมืด หัวอกหัวใจสั่นไหวระรัว กลัวพี่ชายเจ้าเล่ห์จะทำมากกว่าที่เคยทำ
อาการขัดขืนโวยวาย การดิ้นยุกยิก และความพยายามเบี่ยงหน้าหนีทำให้วาโยครางขัดใจ ทว่าชายหนุ่
พลอยไพลินถอนหายใจแรง เขาต้อนเธอให้จนมุมจนได้ แต่หญิงสาวยอมแต่โดยดี เมื่อเขาขยับกายลงจากร่างเธอ แล้วกกกอดเธอไว้แนบอก แม้จะหวาดหวั่น เกรงว่าเขาจะทำอะไรเกินเลย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า อ้อมกอดพี่โยอบอุ่นและเธอรู้สึกปลอดภัยจากอันตรายภายนอก เพียงแต่ไม่รู้สึกปลอดภัยต่อหัวใจเท่านั้นเอง“สาบานเลยว่า ครั้งต่อไปที่เราได้นอนเตียงเดียวกัน พี่จะไม่ปล่อยให้เต็นได้นอนสบายแบบนี้แน่”คำขู่แสนวาบหวามของคนเป็นพี่ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวสั่นไหว พลอยไพลินไม่กล้าแย้ง ไม่กล้ากระดุกกระดิกร่างกาย ตอนนี้เธอตกเป็นรองอยู่ การสงบปากสงบคำไว้ดีที่สุดแล้ว แต่...สาบานเลยว่า เธอจะไม่มีวันนอนเตียงเดียวกับเขาอีกครั้งแน่นอนพลอยไพลินรู้สึกเหมือนจะละลาย เพราะสายตาร้อนแรงของคนเป็นพี่ เธอกับเขากำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าที่ระเบียงส่วนตัว ท่ามกลางบรรยากาศสายน้ำไหลเอื่อย อ้อมกอดขุนเขาป่าไม้ แต่แทนที่จะสนใจมื้อเช้าแสนอร่อยตรงหน้า เขากลับเอาแต่จ้องมองเธออยู่ได้“พี่โยไม่หิวเหรอคะ” พลอยไพลินถามและจ้องมองสบตาเขาตรงๆ คนถูกน้องจ้องตอบยิ้มกรุ้มกริ่ม“ไม่
“หากจะเหมารีสอร์ตเหมือนครั้งนี้ ทางเราจะให้ส่วนลดเพิ่มนะคะ” พนักงานสาวบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทว่าคนที่ได้รับข้อเสนอส่วนลดจากการเหมารีสอร์ตครั้งต่อไปกลับหุบยิ้มฉับ พลอยไพลินสูดลมหายใจเข้าปอดยาวๆ ฝืนยิ้มให้กับพนักงานสาว“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”พลอยไพลินหันหลังเดินออกมาจากเรือนรับรอง ก้าวเร็วตรงไปยังรถคันใหญ่ที่จอดอยู่ใกล้ๆ สมองคิดวกวนทบทวนอยู่กับคำว่า เหมารีสอร์ต ทุกย่างก้าวเหมารีสอร์ตแสดงว่าเมื่อคืนนี้ไม่มีคนอื่นเข้าพักรีสอร์ต ห้องว่างเป็นสิบ แล้วอะไรคือการบอกว่าจองไว้แค่ห้องเดียวดวงตาคู่งามดั่งมีประกายไฟลุกโชติช่วง พลอยไพลินรู้สึกเหมือนมีความร้อนพ่นออกมาทางหูทั้งสองข้าง อาการควันออกหูมันเป็นแบบนี้เองใช่ไหมพี่โย...คนเจ้าเล่ห์ “นี่ค่ะเอกสารของพี่โย” “ขอบคุณครับ” วาโยรับซองจากมือน้อง แล้วเอี้ยวตัวนำไปวางไว้บนเบาะหลัง ก่อนหันกลับมาบังคับรถออกตัวเคลื่อนไปตามทางมุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯพลอยไพลินรีบคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนเขาหันกลับมา เธอจะไม่ยอมให้คนเจ้าเล่ห์มาทำดีเพื่อหวังผลกำไรจากร่างกายเธออ
พลอยไพลินเดินเข้าบ้านไปพร้อมมารดา แต่ในใจก็ยังนึกถึงคนที่ขับรถมาส่งเธอ เขารีบกลับจนลืมสั่งห้ามหลายๆอย่างเหมือนที่เขาเคยสั่ง รีบจนลืมคาดโทษต่างๆนานาหากเธอไม่ทำตาม หรือว่ามีปัญหาร้ายแรงเกิดขึ้นกับงานของเขา เขาถึงได้รีบขนาดนั้นแทนที่เมื่อกลับถึงบ้านแล้วพลอยไพลินจะโล่งใจที่ได้อยู่ห่างจากชายหนุ่มอย่างที่ต้องการ แต่หญิงสาวกลับเอาแต่ครุ่นคิดถึงเขา ใจที่โกรธเคืองเรื่องเขาโกหก กลับกลายเป็นว่าเธอลืมเลือนมันไปเสียแล้ว ความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้คือเธอเป็นห่วงเขา“จำนวนเงินที่ถูกปล้นไปสิบสี่ล้านสองแสนบาทครับ” วัลลภแจ้งให้เจ้านายหนุ่มได้รับทราบทันทีที่วาโยเดินผ่านประตูกระจกบานเลื่อนเข้ามาในตึกยี่สิบสามชั้นซึ่งเป็นสำนักงานของบริษัท ลูกน้องคนสนิทยืนรอเจ้านายอยู่ก่อนแล้วด้วยใบหน้าเคร่งขรึมไม่ต่างกับคนที่เพิ่งได้รับฟังข้อมูลจากปากเขา วาโยพยักหน้ารับทราบ ใบหน้าเคร่งขรึมตลอดเวลา ขณะที่ขายาวก้าวมั่นคงตรงไปยังลิฟต์สำหรับผู้บริหารที่อยู่ไม่ไกลพนักงานต้อนรับหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์รีบทำความเคารพด้วยความยำเกรง เมื่อเจ้าของตึกซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบ
“อ้อ! บ่ายสามโมงเจอกันที่ลานจอดรถนะน้องสาว”พลอยไพลินมองค้อนบานประตูที่เพิ่งปิดลง หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่ใช่เธอไม่อยากไปไร่ภูอิงฟ้า แต่เพราะรู้ว่าถ้าไปแล้วจะต้องเจอกับใครต่างหาก เธอจึงไม่อยากไป เธอรู้ว่าใครคนนั้นต้องไปแน่ๆ เพราะเขาถามเธอเรื่องไปไร่ภูอิงฟ้าตอนอยู่บนรถขากลับจากเมืองกาญจน์ เธออุตส่าห์ยกเอางานสังสรรค์กับเพื่อนๆมาอ้าง มาทวงรางวัลที่งานสำเร็จแล้ว แต่พี่ชายผู้ใจดีกับสาวน้อยทุกคนบนโลกยกเว้นน้องสาวตัวเองกลับไม่ยอมปล่อยเธอ“พี่ต่ายไม่เข้าใจน้อง” คนที่ไม่ได้ดั่งใจบ่นเบาๆ ยิ่งนึกถึงใบหน้าคนนั้นแล้ว เธอก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ และเผลอใช้ปลายนิ้วไล้ริมฝีปากเบาๆอย่างลืมตัว“อย่าลืมนะ พี่ให้เวลาถึงก่อนตะวันตกดินวันอาทิตย์เท่านั้น ไม่อย่างนั้น...” เพชรนิลกดเสียงต่ำ ทำท่าใช้นิ้วชี้ปาดคอตัวเอง ชายหนุ่มเบ้ปากทำตาเหลือกให้ดูสมจริงขึ้นอีกนิด“รู้แล้วน่า ขับรถดีๆนะคะ” พลอยไพลินโบกมือให้พี่ชายซึ่งรับหน้าที่เป็นคนขับรถพาทุกคนในครอบครัวเดินทางไปไร่ภูอิงฟ้า หญิงสาวบริการปิดประตูรถฝั่งคนขับให้ด้วยเมื่อรถตู้คันหรูแล่นออกจ
เมื่อสาดน้ำกันจนเหนื่อยหอบ ต่างคนจึงต่างแยกย้ายกันไปยืนพักเหนื่อยพิงขอบสระ มองหน้าเปียกปอนและผมเผ้ารุงรังของกันและกันแล้วก็พากันหัวเราะขำ“อุ๊ย! พี่กรมาแล้ว พี่กรคะ วิวอยู่นี่ค่ะ” เมื่อเพื่อนสาวเอ่ยทักทายผู้มาใหม่อย่างตื่นเต้น พลอยไพลินจึงมองตาม และเมื่อเห็นว่าเป็นใครยืนอยู่ตรงนั้น หญิงสาวก็หน้าบึ้งลงทันทีพลอยไพลินมองตามเพื่อนของเธอว่ายน้ำไปทางบันได แล้วรีบปีนขึ้นจากสระ เดินเร็วไปหาภาสกรที่ยืนยิ้มอยู่ริมขอบสระอีกด้าน ชายหนุ่มมองมาที่เธอแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปยิ้มให้เจ้าของบ้านที่ขึ้นจากสระมาต้อนรับภาสกรสวมกางเกงขาสั้นฮาวายลายสีฟ้าขาวและเปลือยท่อนบน พลอยไพลินจับตามองเขาไม่วางตา ไม่ใช่คลั่งไคล้หรือหลงใหลไปกับหุ่นเซ็กซี่ขยี้ใจสาวของเขา แต่เธอไม่ชอบที่มีผู้ชายเข้ามาในบริเวณนี้ ชุดว่ายน้ำของเธอเซ็กซี่และเปิดเผยเนื้อหนังมังสามากเกินไป เธอไม่ชอบที่จะให้ผู้ชายคนไหนมอง โดยเฉพาะภาสกร เพราะเขาเป็นหนึ่งในผู้ชายที่พยายามเข้าหาเธอเพราะหวังในตัวเธอ เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวรู้สึกผิดที่เปิดโอกาสให้ใครต่อใครเข้ามาสนิทสนมด้วย ถึงแม้เธอจะขีดเส้นความสัมพันธ์ที่ชัดเจน ระบุสถานะเขาไว้ที่
พลอยไพลินไม่อยากลงจากรถเลยด้วยซ้ำในตอนที่ถูกพามาที่นี่ ทว่าเจ้าของรถไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรเลย เขานั่งเงียบมาตลอดทาง กระทั่งถึงที่หมายเขาก็ดับเครื่องยนต์ แล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูด้านที่เธอนั่งอยู่ เขาไม่ได้บังคับฉุดกระชากลากถูเธอเข้ามาในห้อง เพราะเพียงแค่เขาส่งสายตาดุมองเธอ คนมีชนักติดหลังก็รีบลุกขึ้น เดินตามเขาเข้ามาถึงวิลล่าหลังงามที่อยู่ด้านในสุดของรีสอร์ต โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ราวกับถูกป้ายยายังไงยังงั้น แต่พอเธอเดินตามเขาเข้ามาถึงในห้อง แล้วเขารีบเดินกลับไปปิดล็อกประตูเท่านั้นแหละ หญิงสาวจึงเริ่มคิดได้ว่า เธอไม่ควรอยู่ในถ้ำเพียงลำพังกับเสือร้ายที่กำลังโกรธจัด“เต็นจะกลับบ้าน” พลอยไพลินบอกเสียงสั่นไม่มั่นคง หญิงสาวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้“ไม่ใช่คืนนี้” วาโยตอบโดยไม่ละสายตาไปจากใบหน้านวลน้อง“พี่โย...” พลอยไพลินเข่าอ่อนแทบทรงตัวยืนไม่ไหว เมื่อคนหน้าดุยืนยันคำเดิมด้วยน้ำเสียงหนักแน่น และเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ เธอก็ยิ่งหายใจไม่ทั่วท้อง ได้แต่ยืนจ้องมองหน้าเขาด้วยความกริ่งเกรง วาโยยิ้มร้าย เขายันสองมือบนผนัง กักกันร่างสาวไว้ด้วยสองแขนแกร่ง“ใครอนุญาตให้ใส่ชุดนี้
วาโยหัวเราะเบาๆกับท่าทีตื่นตะลึงของน้อง ชายหนุ่มฉวยเอาโอกาสตอนที่หญิงสาวยังยืนนิ่ง ประทับจูบลงบนกลีบปากนุ่ม จุมพิตเบาๆย้ำสองครั้ง ก่อนจะแนบประกบครอบครองความหวานล้ำที่มีเขาเพียงผู้เดียวเท่านั้นได้ลิ้มรสตลอดมา และก็จะมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่ได้ลิ้มรสตลอดไปจุมพิตจากคนเป็นพี่นุ่มนวล อ่อนโยน ละมุนละไม สัมผัสรุกเร้าทว่าเนิบช้าล่อหลอกให้คนเป็นน้องหลงกลคล้อยตาม พลอยไพลินหลับตาลง แม้ยังมึนงงและสับสนกับถ้อยคำที่เขาบอกเมื่อครู่ แต่พี่โยก็ไม่ปล่อยให้เธอได้คิดตรึกตรองอะไรเลย เขาใช้จุมพิตจู่โจมเธออย่างรวดเร็ว ทว่าทุกอย่างเป็นไปโดยละมุนละม่อม และด้วยความยินยอมพร้อมใจของเธอพลอยไพลินยกสองแขนเรียวขึ้นคล้องลำคอแกร่ง หญิงสาวเขย่งเท้าขึ้นอีกนิด เบียดกายแนบชิดอีกหน่อย ปากนุ่มเผยอรับการรุกรานจากจูบช่ำชอง และจูบตอบเขาอย่างที่เขาพร่ำสอนมาแล้วหลายหนวาโยกอดเกี่ยวร่างสาวไว้ไม่ปล่อย เขาเลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นไปตามแผ่นหลังเนียน ช้อนท้ายทอยน้องตรึงไว้เบาๆ เพื่อให้เธอรับจูบจากเขาได้นานเท่าที่เขาต้องการ…“ทีนี้จะให้พี่หวงได้หรือยัง” วาโยถอนจูบออกมาแล้วเอ่ยถามเสียงแหบพร่า ริมฝีปากเข
วาโยหัวเราะในลำคอกับท่าทีของหญิงสาว เขาเอาแต่ใจกับน้องด้วยการลากไล้จมูกโด่งลงมาตามลำคอระหง สูดดมกลิ่นหอมละมุนจากกายสาวระเรื่อยไปจนถึงเนินอกอวบ ริมฝีปากร้อนผะผ่าวกดจูบประทับเหนือหน้าอกข้างซ้ายเบาๆ ก่อนจะกดย้ำลงไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้คนตั้งใจจะตีตราจองน้องจงใจเม้มและดูดจนเกิดรอยจ้ำแดง“อ๊ะ! พี่โย” พลอยไพลินสะดุ้ง กายสาวแอ่นสะท้าน ต่อเมื่อริมฝีปากร้อนร้ายผละจากผิวกายเนียนนุ่ม หญิงสาวจึงผ่อนกายลงแนบที่นอนดังเดิมวาโยผงกศีรษะขึ้น เพื่อชื่นชมผลงานของตน เขายิ้มพอใจเมื่อเห็นรอยสีแดงเล็กๆตัดกับผิวขาวนวลของน้อง ชายหนุ่มเหลือบตาขึ้นมองสบสายตากับดวงตาคู่สวย“ตรงนี้ต้องเป็นของพี่คนเดียวเท่านั้น”พลอยไพลินเบี่ยงหน้าซุกกับที่นอน หลีกหนีสายตาคู่คมวาววาม เธอวูบวาบไปทั้งร่าง ใบหน้าร้อนผ่าวแทบไหม้ จังหวะหัวใจเต้นระรัวแรง จังหวะการหายใจก็ถี่กระชั้น ทรวงอกคู่งามจึงสะท้อนขึ้นลง น่ามอง“พอแล้วนะคะ” พลอยไพลินข่มความเขินอาย เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นน้อยๆ โดยไม่ยอมมองหน้าคนที่ยังทาบทับร่างเธออยู่ ความร้อนจากกายชายหนุ่มซึมซาบอยู่ทุกตารางนิ้วที่เขาแนบชิด ร่างแข็งแกร่งที่ห่มร่า
พลอยชมพูหลับตา แหงนเงยหน้าเชิดสูง พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความซ่านเสียวสะใจ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่รู้สึกไปกับเขามากมายขนาดนี้ และเมื่อเขาเริ่มโยกกายถอดถอนสลับเติมเต็มในจังหวะเชื่องช้า หญิงสาวก็ครางเบาๆอย่างกับลูกแมวน้อย มันเสียวสะท้านก็จริง ทว่าเธอคิดว่ามันอ่อนโยนเกินไป หญิงสาวจึงโยกสะโพกกลับไปด้านหลัง ในจังหวะที่เขาสอดเสยเข้าหาเธอพอดี เสียงเนื้อสะโพกหนั่นแน่นปะทะกับหน้าขาจึงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่างคนต่างใส่แรงเข้าหากันไม่มีใครยอมใคร แต่คนแรงน้อยกว่าสูญเสียอธิปไตยในน่านน้ำตัวเองไปหลายครั้ง กว่าเธอจะรีดรัดคนแข็งแกร่งห้าวหาญจนเขายอมพ่ายแพ้ก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง “ไปเดินอีท่าไหนให้หกล้มหัวเข่าถลอกแบบนี้คะ” ลำดวนถามคนที่ตนกำลังทำแผลให้ หญิงสาวนั่งอยู่บนโซฟาในบ้านพักของเจ้าของรีสอร์ตพลอยชมพูตวัดสายตาดุขึ้นมองตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องหัวเข่าถลอก เขายืนกอดอกตีหน้านิ่งอยู่ใกล้ๆ แต่เมื่อสบสายตากับเธอ เขาก็ยิ้มบางบนใบหน้า แถมยังยักคิ้วข้างหนึ่งใส่เธอด้วย คนเจ็บตัวเพราะความหื่นปรอทแตกของเขาจึงสะบัดค้อนให้จนคอแทบเคล็ด
ใบหน้าที่หลับตาพริ้ม อ้าปากเผยอครางเสียงหวานดังผะแผ่ว ทำให้พบรักเร่งมือเพื่อส่งเธอไปสุดปลายทางล่วงหน้าก่อน เขาสอดนิ้วกลางเข้าสู่ร่องสาวคับแน่น ชักเข้าออกกระทุ้งแรง รับรู้ได้ถึงกล้ามเนื้ออ่อนที่บีบรัดรอบจากปลายสุดโคนนิ้ว ชายหนุ่มสูดลมหายใจยาว เขาแข็งขึงทรมาน อยากจะพาสัดส่วนที่ขยายใหญ่โตสอดลึกในตัวเธอแล้ว ทว่าก็ได้แต่ยับยั้งใจไว้ก่อน ความสดใหม่ของเธอทำให้เขาต้องรีดเค้นน้ำหวานออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เธอต้องเจ็บตัวมากเหมือนครั้งแรก“คุณพบ!” พลอยชมพูหลับตาแน่น เงยหน้าขึ้นครวญครางเรียกชื่อคนที่กำลังปรนเปรอเธอด้วยนิ้วมืออย่างดุดัน เมื่อไม่อาจต้านทานบทเพลงกามาที่บรรเลงโดยนิ้วเรียวยาวที่พร่างพรมลงใจกลางความเป็นหญิง สะโพกสวยก็ขยับเร็วเพื่อจะไปให้ถึงบทสุดท้ายของเพลงรัก เผลอให้ความร่วมมือไปโดยไม่รู้ตัว“กระติ๊บ...” พบรักจับจ้องมองใบหน้าน่ารักไม่วางตา เขากระซิบเรียกเธอซ้ำๆ จูบปลายคางเล็ก แล้วอ้าปากงับเบาๆ เร่งขยับซอยนิ้วมือกระทั่งส่งเธอข้ามพ้นขอบเขตความอดกลั้น หญิงสาวระเบิดตัวเองหยาดน้ำใสฉีดล้นซอกขาเปรอะเปื้อนเต็มหน้าตักเขาพลอยชมพูหอบหายใจแฮกๆ หญิงสาวเอนกายซวนซบอกกว
“อุ๊ย!” พลอยชมพูมัวแต่โมโหคนที่ไม่ยอมปล่อยเธอสักที หญิงสาวเลยมองเมินไปยังพื้นที่สีเขียวโล่งกว้างตรงหน้า โดยไม่ทันระวังตัว พบรักก็รวบเอวคอดดึงตัวเธอขึ้นไปนั่งบนตักเขา แล้วกักกอดไว้แน่น แผ่นหลังนุ่มแนบไปกับอกกว้างกำยำ“คุณพบ! จะทำอะไรคะ ปล่อยนะ” พลอยชมพูหันหน้าไปต่อว่าเขา ใบหน้าสาวบูดบึ้งไม่พอใจอย่างที่สุด“นั่งพักสักหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับ”“จะนั่งก็นั่งดีๆสิคะ ทำไมต้องมากอดคนอื่นแบบนี้”“คนอื่นที่ไหน เมียทั้งคน”ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง มองหน้าคนที่เรียกตัวเองว่าเมียด้วยสายตาแตกตื่น พบรักมองสีหน้าตกใจของเธอแล้วยิ้มขำ พอเห็นคนที่เอาแต่ตกตะลึงตาค้างกับตำแหน่งใหม่ที่เขามอบให้ แถมริมฝีปากอิ่มที่เผยอน้อยๆนั่นก็ยั่วใจเขาเหลือเกิน ชายหนุ่มจึงอดใจไม่ไหว เขาโน้มใบหน้าลงไปใกล้อีกนิด หวังจะชิมความหวานจากปากนุ่ม แต่ดูเหมือนคนกำลังจะถูกเขารังแกจะรู้ตัวเสียก่อน มือบางสองข้างจึงถูกยกขึ้นมาปิดกั้นปากเขาไว้แล้วดันออกสุดแรงจนหน้าแทบหัน“จะทำอะไรคะ” พลอยชมพูถามเสียงขุ่น หญิงสาวดึงมือกลับมาเช็ดๆถูๆกับกางเกง มองค้อนคนจ้องจะเอาเปรียบเธอปากเขานุ่มชะมัด บ้าจริ
“ไอ้หมอนั่นใคร”เสียงเข้มไม่พอใจที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้พลอยชมพูสะดุ้ง หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนหมุนตัวกลับไปยืนประจันหน้ากับเจ้าของรีสอร์ตนิสัยเสียที่กล้าเรียกลูกค้าว่าไอ้หมอนั่น“ลูกค้าค่ะ”“รู้แล้วว่ามันเป็นลูกค้า มันรู้จักกระติ๊บด้วยเหรอ”“เป็นเพื่อนกันสมัยเรียนปอโทค่ะ”“เมื่อกี้มันขอเบอร์ด้วย”“ค่ะ” พลอยชมพูตอบแล้วหันไปคว้าถาดมาถือ เดินหนีคนช่างซัก“จะไปไหน” พบรักเดินตามติดต้อยๆ“เอาถาดไปเก็บค่ะ”“ผมช่วย” พบรักแย่งถาดจากมือบาง แต่ลูกจ้างสาวไม่ยอม พลอยชมพูดึงเอาไว้แน่น“ไม่ต้องค่ะ”“ต้อง” พบรักใช้แรงที่มีมากกว่าดึงถาดมาจากมือเธอจนได้ พลอยชมพูมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ คนบ้าอะไรเนี่ย คนจะทำงาน เขาจะมาวุ่นวายวอแวอะไรกับเธอนักหนา“งั้นก็ฝากไปเก็บด้วยนะคะ ติ๊บจะไปช่วยพี่น้ำตาลค่ะ” พลอยชมพูสะบัดหน้าเดินหนีเอาดื้อๆ พบรักมองตามเธอ แล้วก้มมองถาดในมือ เรื่องอะไรจะเอาไปเก็บ เธอไม่ไป เขาก็ไม่ไป ชายหนุ่มพยักหน้าเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลให้มารับถาดไปเก็บ แล้วเดินตามไปยังเคาน์เตอร์ที่พลอยชมพูยืนอยู่กับกลุ่
“ผมก็เป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเหมือนกัน” คนไม่อยากให้สาวทำงานลำบากรีบเอ่ยอ้างพลอยชมพูเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจลึก นี่เธอกำลังคุยกับผู้ใหญ่อายุสี่สิบหรือเด็กอายุสิบขวบกันแน่นะ“ติ๊บจะไปช่วยงานคนอื่นแล้ว ห้ามตามมานะคะ ไม่อย่างงั้นติ๊บจะหนีกลับบ้านจริงๆด้วย” พลอยชมพูหันหลังเดินออกจากห้องไปทันทีที่พูดจบ คนที่ถูกเธอขู่ไม่กล้าลุกเดินตามไป พบรักทำได้เพียงถอนหายใจมองตามตาละห้อย เขากลัวเธอหนีกลับบ้าน กลัวเธอไม่อยู่ให้เขารับผิดชอบเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานเจ้าของรีสอร์ตได้แล้ว พลอยชมพูถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก บางทีเธอก็ไม่เข้าใจว่า การที่เธอเอาเรื่องนี้มาขู่เขานี่ถูกต้องแล้วใช่ไหม คือเธออดสงสัยไม่ได้ว่าตรรกะการได้เสียระหว่างเธอกับเขามันดูเพี้ยนๆ เขาต้องการรับผิดชอบ ในขณะที่เธอยังไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น และยังไม่อยากตัดสินใจอะไรตอนนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเสียใจ แต่ที่มากกว่าความเสียใจคือ เธอกลัวครอบครัวรู้ กลัวพวกท่านจะผิดหวังในตัวเธอ แต่จะให้ร้องไห้คร่ำครวญจมอยู่ในห้วงทุกข์ตลอดเวลาก็ดูจะไม่ใช่ ไม่น่าทำ เธอโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีภูมิคุ้มกันภาวะจิตใจและอาร
“ยังไม่หิวค่ะ” พลอยชมพูบอกเสียงเบา หญิงสาวไม่รู้จะทำตัวเช่นไร จึงได้แต่ยืนขัดเขินทั้งกังวลอยู่กลางห้อง รอให้เขาเริ่มพูดเรื่องนั้นขึ้นก่อน“กระติ๊บ”“คะ” คนถูกเรียกสะดุ้ง หันไปมองเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ปลายเตียงของเขา“มานั่งตรงนี้ เราต้องคุยกัน” พบรักตบมือลงข้างๆที่ตัวเองนั่งอยู่“คุณพบพูดมาเลยค่ะ ยืนอยู่ตรงนี้ ติ๊บก็ได้ยิน”“ถ้าไม่มานั่งดีๆ ผมจะเดินไปอุ้ม”คำขู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำให้ใบหน้างามงอง้ำ พลอยชมพูพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะยอมเดินไปนั่งข้างเขา ซึ่งหญิงสาวทิ้งระยะห่างพองาม พบรักเองก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้เธอมานั่งชิดตัวติดกัน“กระติ๊บอยากให้ผมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง” พบรักเอ่ยถามตรงๆไม่อ้อมค้อม คนที่ต้องตอบคำถามอึ้งไปไม่เป็น รับผิดชอบอย่างไรงั้นหรือ แต่งงานคงไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไรนัก เพราะหากชีวิตคู่ของเธอเริ่มต้นจากการเสียตัวเพราะความเมา มันก็คงจบไม่สวยเท่าไรหรอกมั้ง เธอกับเขายังรู้จักกันไม่ดีพอ ยังไม่มากพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน“อย่าเพิ่งปฏิเสธความรับผิดชอบจากผม เราค่อยๆเรียนรู้กันไปก่อนได้ไหม”พลอยชมพูเ
เพลิงตะวันจับตามองน้องสาวตั้งแต่เธอเดินออกจากประตูบ้านมา กระทั่งเดินมานั่งที่เก้าอี้ซึ่งอยู่ในซุ้มไม้ที่เขากับภรรยานั่งอยู่ก่อนแล้ว“ช้า!” คนใจร้อนและหัวร้อนง่ายว่าน้อง แล้วมองอย่างจับพิรุธ“ติ๊บเป็นผู้หญิงนะพี่เพลิง จะให้วิ่งผ่านน้ำหรือไงเล่า มันก็ต้องให้เวลากันหน่อยสิคะ” พลอยชมพูว่าแล้วทำปากยื่นให้พี่ชาย“น้ำฝนไม่เห็นอาบนานเหมือนติ๊บเลย” คนข้องใจยังคงหาเรื่องจับผิดน้องต่อ“ที่อาบไม่นานเพราะพี่เพลิงเข้าไปอาบด้วยหรือเปล่าคะ อาบไม่นาน เพราะทำอย่างอื่นด้วย” ถึงเธอจะเพิ่งเสียพรหมจรรย์มาเมื่อคืนนี้เอง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลย เรื่องแบบนี้ถึงไม่อยากรู้แต่ก็ได้รู้ เพราะทั้งเพื่อนฝูงคุยกัน ทั้งหนังทั้งละครมีฉากแบบนี้ออกเยอะแยะ และพลอยชมพูก็ฉลาดพอที่จะดึงน้องสาวเข้ามาจัดการพี่เพลิง“พี่ติ๊บ!” หยาดพิรุณอุทานเรียกพี่สาวด้วยน้ำเสียงตกใจ แล้วหันไปมองสามีด้วยสายตาดุ เพราะเขานั่นแหละไปจุกจิกวุ่นวายถามจับผิดพี่สาวเธออยู่ได้ พี่ติ๊บเลยสวนหมัดกลับมา แต่แทนที่หมัดนี้จะโดนเขา กลับมาฮุกเข้าใต้ลิ้นปี่เธอเสียนี่“ตื่นสายโด่งขนาดนี้ พี่พบเขายังจ
หยาดพิรุณมองตามหลังสามีแล้วได้แต่ส่ายหน้า หญิงสาวหันมายิ้มให้พี่สาว แล้วเดินเข้าไปสวมกอดด้วยความคิดถึง “ขอโทษแทนพี่เพลิงด้วยนะคะพี่ติ๊บ พี่เพลิงเนี่ยไม่ค่อยเข้าใจคำว่าเกรงใจใครหรอกค่ะ นี่มันห้องส่วนตัวของพี่ติ๊บ ก็ยังดื้อรั้นจะเข้าไปอีก เดี๋ยวกลับถึงไร่ น้ำฝนจะจัดการให้นะคะ” “ขอบใจมากนะน้ำฝน ถ้าไม่ได้น้ำฝนพี่คงแย่” หยาดพิรุณคลายอ้อมกอด ผละออกมาจ้องมองหน้าพี่สาวอย่างแปลกใจ คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความสงสัย อดไม่ได้ที่จะชะเง้อคอมองเข้าไปในห้อง แย่อะไร...พี่ติ๊บมีอะไรซ่อนไว้ในห้อง คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอพูดประโยคชวนสงสัยออกไปรีบขยับตัวบังสายตาน้อง “เอ่อ...น้ำฝนไปรอพี่ข้างล่างก่อนนะ พี่ขอเวลาอาบน้ำแต่งตัวแป๊บเดียว เดี๋ยวพี่ตามลงไปคุยด้วย” “ค่ะ” แม้จะสงสัยเพียงใด แต่หยาดพิรุณก็เคารพความเป็นส่วนตัวของพี่ เมื่อน้องสาวเดินลงบันไดไปแล้ว พลอยชมพูจึงรีบปิดประตู ลงกลอนแน่นหนา หญิงสาวพิงหลังกับบานประตู ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตาที่มีแววกังวลม
“คุณพบไปหลบอยู่ในตู้เสื้อผ้าก่อน แล้วก็ห้ามส่งเสียง ห้ามออกมาจนกว่ากว่าติ๊บจะเปิดประตูให้” พลอยชมพูลุกขึ้นจากเตียง เธอไม่สนหรอกว่าจะโป๊เปลือยอยู่ เพราะตอนนี้เธอกังวลอยู่เรื่องเดียว คือกลัวว่าพี่เพลิงจะรู้ว่าเธอกับเจ้านายมีอะไรเกินเลยกันแล้ว คนตัวเล็กลากร่างสูงกำยำลงมาจากเตียง พบรักลงมาแต่โดยดี ไม่ได้กลัวไอ้หมาบ้าเพลิงที่เคาะประตูอยู่หรอก แต่เขายอมลุกดีๆก็เพราะมีอาหารตาให้มองต่างหาก“เอาเสื้อผ้าคุณพบเข้าไปด้วย” พลอยชมพูก้มลงเก็บเสื้อผ้าของเขา แล้วยัดใส่มือให้ หญิงสาวรุนหลังเขาไปหน้าตู้เสื้อผ้า เปิดประตูตู้แล้วออกแรงผลักเขาให้เข้าไป ทว่าคนตัวโตกลับไม่ยอมขยับ“สัญญามาก่อนว่าจะไม่หนีกลับบ้าน”“โอ๊ย! ไม่มีเวลามาสัญญิงสัญญาอะไรแล้วค่ะ คุณพบหลบเข้าไปอยู่ในตู้ก่อนนะคะ”“ไม่! ผมจะไม่เข้าไปอยู่ในตู้ จนกว่ากระติ๊บจะสัญญามาก่อนว่าจะไม่หนีกลับบ้าน”พบรักมองสบตาคู่สวยแน่วแน่ พลอยชมพูถอนหายใจแรง คนขี้โกงมาบังคับเอาคำสัญญาตอนหน้าสิ่วหน้าขวานนี่นะ“ค่ะ ติ๊บจะไม่หนีกลับบ้าน”พบรักยิ้มในหน้าเขาสวมกางเกงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบพาตัวเองเข้าไปหลบอยู่ในตู้