“พี่โย!” พลอยไพลินสะดุ้งเฮือก หญิงสาวร้องเรียกหายาดมอยู่ในใจ ความแข็งขึงร้อนผ่าวและใหญ่มากที่บดเบียดอยู่ตรงสะโพกทำให้เธอรู้สึกวิงเวียน หน้ามืด ตาลาย คล้ายจะเป็นลม เธอไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดจะไม่รู้ว่าที่เขาพูดหมายถึงอะไร และอะไรที่มันดุนๆดันๆอยู่ตรงสะโพกสวยของเธอคืออะไร
“ทีนี้ เต็นลองบอกพี่ใหม่สิครับว่าใครเสียเปรียบกันแน่” ชายผู้น่าสงสารเพราะเสียเปรียบน้องถามเอาคำตอบกับน้องอีกครั้ง
“พะ...พี่โย อย่าแกล้งน้อง” เสียงหวานเว้าวอนสั่นน้อยๆ
“หรือเราควรทำทุกอย่างให้เสมอกัน จะได้ไม่มีใครเสียเปรียบได้เปรียบ”
“ไม่ๆ ไม่นะคะ เต็นตอบแล้วๆ”
“ตอบว่า...”
“พี่โยเสียเปรียบ”
“อือฮึ! แล้วใครได้เปรียบครับ” วาโยถามกลับ เขายิ้มในหน้า สุขใจที่ได้เย้าหยอกน้องแบบหื่นๆ
“ตะ...เต็นได้เปรียบก็ได้” พลอยไพลินใช้น้ำเสียงกึ่งประชดน้อยๆ
“ดังนั้น คนได้เปรียบควรรับผิดชอบคนเสียเปรียบ” น้ำเสียงจริงเขาของคนเสียเปรียบ ทำให้คนได้เปรียบรีบถามอย่างไม่ไว้ใจ
“รับผิดชอบยังไงคะ” พลอยไพลินเบี่ยงหน้ากลับมาสบสายตาเขาในระยะห่างกันแค่คืบ วาโยยิ้มบางให้น้อง
“เอาไว
ห้องพักประจำของเขาอยู่ใกล้กันกับห้องน้อง ชายหนุ่มเองก็อยากพักผ่อน เพื่อเตรียมตัวสำหรับงานสำคัญเย็นนี้เช่นกัน“ผมว่า เราควรถามน้องก่อนดีไหมครับ นี่เรากำลังฟังความข้างเดียวกันอยู่นะครับ” เพลิงตะวันเอ่ยขึ้นเมื่อคล้อยหลังวาโยเพียงครู่เดียว“เพลิงไม่เชื่อใจวาโยหรือ” คุณวาทิตถามลูกเขยเสียงราบเรียบ“เปล่านะครับคุณพ่อ เอ่อ...ผมหมายถึงเราควรฟังความสองฝ่าย ที่พี่โยบอกเรามาก็น่าเชื่อถือ แต่เพื่อความชัวร์ เราควรถามกระเต็นด้วย ว่าน้องยอมรับการรับผิดชอบของพี่โยหรือเปล่า” เมื่อถูกพ่อตาถามเหมือนไม่พอใจ คนที่กลัวพ่อตาทวงลูกสาวคืน กลัวเมียรักจะถูกพรากจากอกก็รีบอธิบายเร็วจนลิ้นแทบพันกัน“หรืออาจจะยืดเวลาออกไปอีกนิด ค่อยมาพูดคุยเรื่องนี้กันอีกทีก็น่าจะดีกว่านะครับ ผมไม่อยากให้น้องเสียใจภายหลัง” คนห่วงน้องจริงๆ แบบไม่มีอะไรแอบแฝงรีบเสริมต่อ“พ่อเชื่อว่าวาโยจะไม่ทำให้กระเต็นต้องเสียใจแน่นอน เพลิงก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าวาโยขออนุญาตผู้ใหญ่ทุกคนแล้วก่อนจะเข้าไปใกล้ชิดน้อง” คุณวาทิตพูดยิ้มๆ ผู้สูงวัยพอจะรับรู้ถึงความไม่ลงรอยกันเท่าไรระหว่างน้องเขยกับพี่เมีย“เวลาแค่ปีเดีย
“แต่แม่กับพ่อตอบตกลงไปแล้วนะลูก”“คุณแม่! คุณแม่กับคุณพ่อไปตอบตกลงยกเต็นให้เขาตั้งแต่เมื่อไรคะ ทำไมไม่ถามความสมัครใจของเต็นสักคำ” พลอยไพลินเริ่มโกรธลามมาถึงบิดามารดา ท่านไปตกปากรับคำเขาโดยไม่ถามเธอแบบนี้ได้ยังไง“วาโยเข้ามาขออนุญาตคุณพ่อ ขอไปมาหาสู่และใกล้ชิดกับลูกตั้งแต่ตอนที่จบเรื่องของน้ำฝนกับพี่เพลิง”“แล้วคุณพ่อก็อนุญาต? มิน่าล่ะ...เขาถึงเข้าออกบ้านเราได้ตามอำเภอใจ แล้วก็ชอบทำตัวข่มเต็นตลอดเลย” พลอยไพลินหน้าหงิกลงมากกว่าเดิม เขาเข้าทางพ่อเธอนี่เอง มิน่าล่ะ พี่กระต่ายน้อยที่เคยหวงเธอกับผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้ แต่กลับไม่มีท่าทีจะกีดกันเขาเลย ปล่อยเธอไปกับเสือร้ายให้โดนเอาเปรียบอยู่บ่อยๆ“วาโยเป็นคนดี และเขาก็ดูแลลูกได้ดีสมกับที่พ่อกับแม่ไว้ใจ”“พี่โยไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่ทุกคนเห็นนะคะ เขาเป็นเสือร้าย ชอบเอาเปรียบเต็น”เมื่อลูกสาวพูดบางอย่างที่คลุมเครือด้วยความลืมตัว และสิ่งที่พูดออกมาก็น่าสงสัย แม่กระแตจึงหรี่ตามองอย่างจับผิด“วาโยทำอะไรผิดต่อลูกหรือเปล่า” เสียงของคนเป็นแม่แข็งกระด้าง เพราะหากคนที่ไว้ใจกลับมาทำร้ายลูกสาว ท่านก็จะจัด
คิ้วเข้มเลิกสูง ชายหนุ่มยิ้มกว้างกว่าเดิม“คุกเข่ามันเชยแล้ว ทำอย่างอื่นแทนได้ไหม”เสียงทุ้มคุ้นเคยที่ดังขึ้นข้างหลัง ทำให้พลอยไพลินดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันที หญิงสาวมองคนที่มานั่งอยู่บนเตียงเดียวกับเธอด้วยใบหน้าตื่นตกใจ“พี่โย!” แม่นกกระเต็นน้อยรีบขยับถอยเพื่อจะลงจากเตียง ทว่าแขนยาวๆแรงเยอะๆของคนที่นั่งระวังท่าอยู่แล้วก็โอบรัดเอวคอดไว้ได้ทันควัน ร่างสาวปลิวขึ้นไปนั่งบนตักแกร่ง พร้อมกับถูกพันธนาการไว้แน่นหนาด้วยอ้อมกอดแข็งแรง“พี่โย! ปล่อยเต็นนะ” พลอยไพลินเบี่ยงหน้ากลับมาตวาดแว้ด สาดสายตาดุมองคนที่กระทำการเอาแต่ใจกับเธออีกแล้ว“แต่งงานกับพี่นะครับ วันนี้หมั้นกันไว้ก่อน ส่วนงานแต่ง เต็นอยากให้จัดแบบไหน โรงแรมอะไร พี่ให้เต็นเลือกเองทั้งหมด แต่มีข้อแม้ว่าต้องแต่งภายในสามเดือนนี้เท่านั้น”เมื่อครู่ ตอนที่มารดามาบอกว่าเธอจะต้องหมั้นกับเขา เธอรู้สึกเหมือนถูกมัดถือชก แต่ตอนนี้ เมื่อเขาได้ฟังสิ่งที่เขาพูด พลอยไพลินรู้สึกเหมือนถูกมัดมือ มัดเท้า ปิดปาก แล้วโยนขึ้นเวทีให้ชกแบบไม่มีโอกาสได้ออกหมัดสู้เลยด้วยซ้ำ แล้วเรื่องอะไรเธอจะยอมล่ะ“ไม่หมั้น แล้ว
“หมั้นกันแล้วห้ามดื้อนะ ถ้าเต็นดื้ออีกพี่จะไม่รองานแต่ง” วาโยพูดไปก็หอมแก้ม จุ๊บหน้าผาก จุ๊บขมับน้องไปเรื่อย“รู้แล้วค่ะ” พลอยไพลินรับคำเสียงสั่นเบาหวิว สัมผัสจากเขาสร้างความปั่นป่วนกวนใจเธอ อดไม่ได้ที่จะคิดถึงค่ำคืนหวามหวานที่เพิ่งผ่านมา หากเขาจะทำอย่างนั้นอีก เธอก็คงไม่มีแรงต้านทาน เพราะเพียงแค่โดนจูบ เธอก็อ่อนระทวยไปทั้งร่างแล้ว“พี่โยก็ห้ามไปทำแบบนี้กับคนอื่น” เรื่องอะไรจะยอมให้เขากำหนดขอบเขตให้เธออยู่ฝ่ายเดียว หากหมั้นกันแล้ว ก็หมายความว่าเธอมีสิทธิ์ที่จะแสดงความเป็นเจ้าของเขาได้เต็มที่เช่นกัน“สัญญาครับ” วาโยตอบรับด้วยความเต็มใจ“ห้ามไปไหนมาไหนกับสาว หากไปหาลูกค้าต้องโทรบอกเต็นก่อน แล้วก็ต้องให้คุณวัลลภไปด้วยทุกครั้ง ห้ามอยู่ลำพังกับผู้หญิงคนอื่น”“หืม...” วาโยหรี่ตามองใบหน้าของคนที่นั่งอยู่บนตัก เขายิ้มน้อยๆก่อนพยักหน้ารับ“ครับ”“ถ้าพี่โยผิดคำสัญญา หรือทำผิดข้อตกลงของเรา เต็นมีสิทธิ์ถอนหมั้นทันที” คิดว่านกกระเต็นตัวน้อยอย่างเธอจะยอมให้เสือร้ายเอาแต่ขู่อยู่ฝ่ายเดียวเหรอ เธอก็สู้คนเหมือนกันนะ แม้ว่าสู้ทีไรก็ไม่เคยจะชนะเขาสักครั้
“แล้วทำไมปล่อยลูกสาวมาคนเดียวซะล่ะ โตเป็นสาวแล้วนะนั่น เลิกหวงแล้วเหรอ” ด้วยความแค้นฝังใจที่พ่อของเด็กสาวเคยกล่าวหาลูกชายของตน พ่อเพชรเลยเอ่ยถามกระแนะกระแหน“คิดว่าไม่น่าจะปล่อยมาคนเดียวหรอกครับ” นนท์บอกยิ้มๆ ละแวกนี้ใครๆก็รู้ดีว่าสายฟ้านั้นหวงลูกสาวแค่ไหน ไม่เคยปล่อยให้ไปไหนเพียงลำพังแน่นอน นนท์พูดยังไม่ทันขาดคำ ร่างสูงใหญ่ใบหน้าบึ้งตึงก็เปิดประตูลงมายืนข้างรถ ดวงตาคมดุมองไปยังสองชายหนุ่มที่เดินไปถึงท้ายรถกระบะพอดี ทำให้คนที่นั่งมองอยู่ไม่ไกลพากันหายใจไม่ทั่วท้อง“หนูจ๋าลงมา! ไปนั่งรอพ่อจ๋าบนรถ” สายฟ้าสั่งลูกสาวที่ปีนขึ้นไปอยู่บนท้ายกระบะ และกำลังลากเข่งเลื่อนมายังท้ายกระบะอย่างขะมักเขม้น“หนูจ๋าอยากช่วยนี่คะ พ่อจะได้ไม่เหนื่อยมาก” เด็กสาวไม่เชื่อฟังผู้เป็นพ่อ เธอก้มลงลากเข่งสองใบสุดท้ายมารวมกันกับเข่งอีกสามใบที่เรียงกันอยู่ท้ายกระบะจนเรียบร้อย“เสร็จแล้วค่ะ” หนูจ๋าเช็ดสองมือกับกางเกงเอี๊ยมของเธอ ส่งยิ้มหวานสดใสให้บิดา และเผื่อแผ่ไปถึงสองหนุ่มที่ยืนอยู่ท้ายกระบะด้วย“สวัสดีค่ะพี่เพลิง” เด็กสาวยกมือไหว้เจ้าของไร่ และฉีกยิ้มกว้างยิ่งขึ้นอีก“
“พี่เต็นขา เล่าให้ติ๊บฟังหน่อย ถ้าไม่เล่า งั้นเปลี่ยนเป็นให้ติ๊บถามก็ได้ พี่เต็นต้องตอบคำถามติ๊บนะ นะๆ” พลอยชมพูนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหลังพี่สาว หญิงสาวโน้มใบหน้าเข้าไปออดอ้อนใกล้พี่สาวที่นอนคลุมโปงอยู่“อือๆ ให้ถามข้อเดียวนะ” คนเป็นพี่เริ่มใจอ่อนกับน้อง“สาม” คนเป็นน้องต่อรอง“ข้อเดียว” พลอยไพลินยืนยันเสียงหนักแน่น“สามข้อนะคะ นะๆ”“สอง”“ก็ได้ สองข้อก็ได้” พลอยชมพูยอมรับเสียงอ่อย ที่จริงเธออยากถามสักร้อยข้อด้วยซ้ำ“อืม...พี่เต็นเคยจูบกับพี่โยแล้วใช่ไหมคะ” คำถามแรกของน้องสาวก็เล่นเอาคนเป็นพี่สะดุ้ง พลอยไพลินเปิดผ้าห่มออก พลิกกายนอนหงาย จ้องหน้าน้องด้วยสายตาดุ“ข้อนี้ถามไม่ได้เหรอคะ” สายตาดุของพี่สาวทำให้พลอยชมพูยิ้มแหยๆ“ไม่ได้!” เสียงของคนเป็นพี่นั้นสั้นห้วนและดุ ทว่าน้องสาวตัวดีของพี่สาวกลับยิ้มกว้าง พลอยชมพูถามกลับด้วยน้ำเสียงล้อเลียน“ฮั่นแน่! จูบกันแล้วแน่ๆเลย”“ยัยกระติ๊บ!” พลอยไพลินลุกขึ้นนั่ง คว้าเอาหมอนขึ้นมาหวังจะตีน้อง แต่คนที่ระวังตัวอยู่แล้วกระโดดลงจากเตียงไปยืนอยู่ใกล้ประตู“ทำไมทำร้ายน
“กระแต ฉันง่วงแล้ว กลับห้องเรากันเถอะ” เมื่อก้าวเข้ามาในห้อง พ่อเพชรก็เดินตรงมาหยุดอยู่ข้างเตียง เอ่ยชวนเมียกลับห้องด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน ไม่สนใจลูกสาวอีกสองคนที่นั่งกอดแม่อยู่เลย“ไม่ได้ค่ะ คุณแม่ถูกพวกเราจับตัวไว้แล้ว ถ้าคุณพ่อจะพาคุณแม่กลับไปนอนด้วย จะต้องจ่ายค่าไถ่มาก่อน” พลอยชมพูบอกด้วยท่าทางขึงขัง“ค่าถ่งค่าไถ่อะไรกัน นี่เมียพ่อ เมียก็ต้องนอนห้องเดียวกับผัวสิ”“นี่คุณแม่ของติ๊บกับพี่เต็น แม่ก็ต้องนอนห้องเดียวกับลูกสิคะ” พลอยชมพูบอกบิดาแล้วยิ้มอย่างเป็นต่อ“ลูกโตแล้ว นอนกันเองได้แล้ว แต่พ่อแก่แล้ว ต้องมีเมียคอยดูแล” พ่อเพชรพูดเสียงเศร้า แววตาน่าสงสาร“คุณพ่อต้องจ่ายเช็คเงินสดให้พวกเราคนละสองล้านมาก่อน เป็นค่าไถ่ตัวคุณแม่ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะไม่ยอมปล่อยคุณแม่ออกจากห้อง” พลอยไพลินบอกไปตรงๆไม่อ้อมค้อม“แพงไปไหมนั่น คนละสองร้อยก็พอแล้ว” พ่อเพชรต่อรอง“อะไรกันคะคุณเพชร ค่าตัวหนูแค่สี่ร้อยเองหรือคะ งั้นคืนนี้คุณเพชรก็กลับไปนอนคนเดียวเลยค่ะ หนูจะนอนกับลูก” แม่กระแตมองค้อนสามี เรื่องอะไรมาต่อค่าตัวเมียลงแบบลดฮวบฮาบขนาดนั้น“กระแต
“เฮ้อ! ถ้าพ่อไม่มีตังค์มาจ่าย คืนนี้ก็คงไม่ได้ตัวแม่กลับไปสินะ”“อือฮึ!” สองสาวประสานเสียงในลำคอ พยักหน้าอย่างหนักแน่นพร้อมกัน“ถ้างั้น...” ท่าทางเหมือนจะยอมรับเงื่อนไขของบิดา ทำให้สองพี่น้องยิ้มพราว“ถ้างั้น...พ่อก็ขอนอนในห้องนี้ด้วยคนแล้วกัน” พ่อเพชรเอนกายลงนอนทันทีที่พูดจบ สองพี่น้องที่คิดว่าตนเองเป็นต่อบิดาหลายขุมถึงกับหน้าเหวอ พลอยชมพูคลายอ้อมกอดออกจากมารดา แล้วรีบคลานไปดึงแขนบิดาให้ลุกขึ้น“คุณพ่ออย่าขี้โกงนะ จ่ายตังค์มาก่อน”“คนละสองร้อย จะเอาไหมล่ะ” เพชรเพทายถามยิ้มๆ พลอยชมพูส่ายหน้าเร็ว“ไม่เอา จะเอาคนละสองล้าน” พลอยไพลินย้ำเสียงดังฟังชัด หญิงสาวรีบมานั่งคุกเข่าดึงแขนบิดาอีกข้าง“สองร้อย” คนเป็นพ่อต่อรอง“สองล้าน” ลูกสาวสองคนประสานเสียงดังพร้อมเพรียง“งั้นก็นอนรวมกันทั้งสี่คนในห้องนี้แหละ” พ่อเพชรสรุปปิดประเด็น“คุณพ่อขี้โกง!” พลอยชมพูบ่น ใบหน้าน่ารักงอง้ำแม่กระแตหัวเราะกับการถกเถียงกันของสามคนพ่อลูก เธอค่อยๆขยับกายลุกไปยืนข้างเตียง“หนูจะกลับห้องแล้วนะคะคุณเพชร” แม่กระแตส่งสายตาหวานมีความห
พลอยชมพูกะพริบตาปริบๆ รีบลงจากเตียงแล้วเดินไปที่หน้าต่าง พอหญิงสาวเปิดม่านออกก็มองเห็นเขายืนโบกไม้โบกมืออยู่ข้างล่าง เธอปิดม่านแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อกลางวันแค่เธอคุยกับเขานิดเดียว แถมยังมีผู้คนอยู่ด้วยตั้งมากมาย พบรักยังจับเธอไปลงโทษด้วยบทรักเร่าร้อนท้าแสงแดด นี่ถ้ามาเห็นเธอคุยกับเขาที่หน้าบ้าน เธอจะโดนอะไรอีกไหมเนี่ยแต่สุดท้ายแล้วพลอยชมพูก็ต้องลงไปคุยกับเพื่อนชายที่ซุ้มไม้หน้าบ้าน เธออุตส่าห์ทำตัวเป็นผู้ฟัง ไม่ซักไม่ถาม วิศรุตถามคำเธอก็ตอบคำ หวังว่าเขาจะเบื่อแล้วกลับห้องพักไปก่อนที่เจ้าของบ้านจะกลับมา แต่อีตานี่ก็หน้าด้านหน้าทนกว่าที่คิด ขุดเรื่องตั้งแต่สมัยปีมะโว้มาคุยกับเธอได้เป็นคุ้งเป็นแคว แหม...รู้สึกคิดถูกมากๆที่ไม่สนใจเขาตั้งแต่ตอนที่เขาเข้ามาจีบใหม่ๆ เพราะไม่งั้นเธออาจจะเบื่อตายไปเลยก็ได้ เธอไม่ชอบผู้ชายพูดมาก เพราะลำพังตัวเธอเองก็พูดมากอยู่แล้ว เธอชอบคนที่พร้อมจะฟังมากกว่า เหมือนคุณพบนั่นไง พอคิดถึงคนที่ฟังเธอเสียเป็นส่วนมาก เขาก็โผล่มาพอดีพบรักจอดรถกอล์ฟที่หน้าบ้าน แล้วเดินหน้าบึ้งเข้ามาหาเธอกับวิศรุตที่ซุ้มไม้“ที่นี่เป็นที่พักส่วนตัวของผม ไม่
“เดือนนี้ไม่หักแล้ว จะให้เพิ่มด้วย” พบรักบอกยิ้มๆ“ให้เพิ่มทำไม ติ๊บไม่ได้ทำงานอะไรเพิ่มสักหน่อย” คนไม่อยากเอาเปรียบนายจ้างปฏิเสธไม่รับเงินค่าจ้างเพิ่มโดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรเพิ่มพบรักถอนหายใจบางเบา เขาลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งเก้าอี้ข้างหญิงสาว ดูเหมือนเธอจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเหตุการณ์เร่าร้อนที่เขาและเธอเพิ่งทำกันไปเมื่อครู่ใหญ่“กระติ๊บ” พบรักจับมือบางทั้งสองข้างมากุมไว้ เขามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาดุ ไม่พอใจที่เธอไม่เรียกร้องอะไรจากเขาเลย ทั้งๆที่เขาอยากให้เธอเรียกร้องเอาทุกอย่างจากเขา เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ทั้งตัว หัวใจ เงินทอง ทรัพย์สมบัติต่างๆ เขาพร้อมจะยกให้เธอทั้งหมด“อะ...อะไรคะ” พลอยชมพูเอนตัวหลบคนที่อยู่ดีๆก็เดินมาจับมือถือแขนเธอ ที่จริงเธอก็ไม่ควรตกใจอะไรหรอก เพราะมากกว่ามือเขาก็จับมาแล้ว แต่บอกตรงๆว่าเธอยังไม่ชิน ถึงจะไม่ได้รังเกียจเขา แต่ก็ใช่ว่าเธอจะชอบที่เขาเข้ามาใกล้ชิดแบบนี้ เพราะมันทำให้หัวใจเธอสั่น“คุณไม่คิดจะเรียกร้องอะไรจากผมหน่อยหรือ”พลอยชมพูมองหน้าเขานิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนระบายยิ้มหวานสดใสให้เขา“แล้วคุณพบอยากใ
พลอยชมพูหลับตา แหงนเงยหน้าเชิดสูง พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความซ่านเสียวสะใจ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่รู้สึกไปกับเขามากมายขนาดนี้ และเมื่อเขาเริ่มโยกกายถอดถอนสลับเติมเต็มในจังหวะเชื่องช้า หญิงสาวก็ครางเบาๆอย่างกับลูกแมวน้อย มันเสียวสะท้านก็จริง ทว่าเธอคิดว่ามันอ่อนโยนเกินไป หญิงสาวจึงโยกสะโพกกลับไปด้านหลัง ในจังหวะที่เขาสอดเสยเข้าหาเธอพอดี เสียงเนื้อสะโพกหนั่นแน่นปะทะกับหน้าขาจึงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่างคนต่างใส่แรงเข้าหากันไม่มีใครยอมใคร แต่คนแรงน้อยกว่าสูญเสียอธิปไตยในน่านน้ำตัวเองไปหลายครั้ง กว่าเธอจะรีดรัดคนแข็งแกร่งห้าวหาญจนเขายอมพ่ายแพ้ก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง “ไปเดินอีท่าไหนให้หกล้มหัวเข่าถลอกแบบนี้คะ” ลำดวนถามคนที่ตนกำลังทำแผลให้ หญิงสาวนั่งอยู่บนโซฟาในบ้านพักของเจ้าของรีสอร์ตพลอยชมพูตวัดสายตาดุขึ้นมองตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องหัวเข่าถลอก เขายืนกอดอกตีหน้านิ่งอยู่ใกล้ๆ แต่เมื่อสบสายตากับเธอ เขาก็ยิ้มบางบนใบหน้า แถมยังยักคิ้วข้างหนึ่งใส่เธอด้วย คนเจ็บตัวเพราะความหื่นปรอทแตกของเขาจึงสะบัดค้อนให้จนคอแทบเคล็ด
ใบหน้าที่หลับตาพริ้ม อ้าปากเผยอครางเสียงหวานดังผะแผ่ว ทำให้พบรักเร่งมือเพื่อส่งเธอไปสุดปลายทางล่วงหน้าก่อน เขาสอดนิ้วกลางเข้าสู่ร่องสาวคับแน่น ชักเข้าออกกระทุ้งแรง รับรู้ได้ถึงกล้ามเนื้ออ่อนที่บีบรัดรอบจากปลายสุดโคนนิ้ว ชายหนุ่มสูดลมหายใจยาว เขาแข็งขึงทรมาน อยากจะพาสัดส่วนที่ขยายใหญ่โตสอดลึกในตัวเธอแล้ว ทว่าก็ได้แต่ยับยั้งใจไว้ก่อน ความสดใหม่ของเธอทำให้เขาต้องรีดเค้นน้ำหวานออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เธอต้องเจ็บตัวมากเหมือนครั้งแรก“คุณพบ!” พลอยชมพูหลับตาแน่น เงยหน้าขึ้นครวญครางเรียกชื่อคนที่กำลังปรนเปรอเธอด้วยนิ้วมืออย่างดุดัน เมื่อไม่อาจต้านทานบทเพลงกามาที่บรรเลงโดยนิ้วเรียวยาวที่พร่างพรมลงใจกลางความเป็นหญิง สะโพกสวยก็ขยับเร็วเพื่อจะไปให้ถึงบทสุดท้ายของเพลงรัก เผลอให้ความร่วมมือไปโดยไม่รู้ตัว“กระติ๊บ...” พบรักจับจ้องมองใบหน้าน่ารักไม่วางตา เขากระซิบเรียกเธอซ้ำๆ จูบปลายคางเล็ก แล้วอ้าปากงับเบาๆ เร่งขยับซอยนิ้วมือกระทั่งส่งเธอข้ามพ้นขอบเขตความอดกลั้น หญิงสาวระเบิดตัวเองหยาดน้ำใสฉีดล้นซอกขาเปรอะเปื้อนเต็มหน้าตักเขาพลอยชมพูหอบหายใจแฮกๆ หญิงสาวเอนกายซวนซบอกกว
“อุ๊ย!” พลอยชมพูมัวแต่โมโหคนที่ไม่ยอมปล่อยเธอสักที หญิงสาวเลยมองเมินไปยังพื้นที่สีเขียวโล่งกว้างตรงหน้า โดยไม่ทันระวังตัว พบรักก็รวบเอวคอดดึงตัวเธอขึ้นไปนั่งบนตักเขา แล้วกักกอดไว้แน่น แผ่นหลังนุ่มแนบไปกับอกกว้างกำยำ“คุณพบ! จะทำอะไรคะ ปล่อยนะ” พลอยชมพูหันหน้าไปต่อว่าเขา ใบหน้าสาวบูดบึ้งไม่พอใจอย่างที่สุด“นั่งพักสักหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับ”“จะนั่งก็นั่งดีๆสิคะ ทำไมต้องมากอดคนอื่นแบบนี้”“คนอื่นที่ไหน เมียทั้งคน”ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง มองหน้าคนที่เรียกตัวเองว่าเมียด้วยสายตาแตกตื่น พบรักมองสีหน้าตกใจของเธอแล้วยิ้มขำ พอเห็นคนที่เอาแต่ตกตะลึงตาค้างกับตำแหน่งใหม่ที่เขามอบให้ แถมริมฝีปากอิ่มที่เผยอน้อยๆนั่นก็ยั่วใจเขาเหลือเกิน ชายหนุ่มจึงอดใจไม่ไหว เขาโน้มใบหน้าลงไปใกล้อีกนิด หวังจะชิมความหวานจากปากนุ่ม แต่ดูเหมือนคนกำลังจะถูกเขารังแกจะรู้ตัวเสียก่อน มือบางสองข้างจึงถูกยกขึ้นมาปิดกั้นปากเขาไว้แล้วดันออกสุดแรงจนหน้าแทบหัน“จะทำอะไรคะ” พลอยชมพูถามเสียงขุ่น หญิงสาวดึงมือกลับมาเช็ดๆถูๆกับกางเกง มองค้อนคนจ้องจะเอาเปรียบเธอปากเขานุ่มชะมัด บ้าจริ
“ไอ้หมอนั่นใคร”เสียงเข้มไม่พอใจที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้พลอยชมพูสะดุ้ง หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนหมุนตัวกลับไปยืนประจันหน้ากับเจ้าของรีสอร์ตนิสัยเสียที่กล้าเรียกลูกค้าว่าไอ้หมอนั่น“ลูกค้าค่ะ”“รู้แล้วว่ามันเป็นลูกค้า มันรู้จักกระติ๊บด้วยเหรอ”“เป็นเพื่อนกันสมัยเรียนปอโทค่ะ”“เมื่อกี้มันขอเบอร์ด้วย”“ค่ะ” พลอยชมพูตอบแล้วหันไปคว้าถาดมาถือ เดินหนีคนช่างซัก“จะไปไหน” พบรักเดินตามติดต้อยๆ“เอาถาดไปเก็บค่ะ”“ผมช่วย” พบรักแย่งถาดจากมือบาง แต่ลูกจ้างสาวไม่ยอม พลอยชมพูดึงเอาไว้แน่น“ไม่ต้องค่ะ”“ต้อง” พบรักใช้แรงที่มีมากกว่าดึงถาดมาจากมือเธอจนได้ พลอยชมพูมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ คนบ้าอะไรเนี่ย คนจะทำงาน เขาจะมาวุ่นวายวอแวอะไรกับเธอนักหนา“งั้นก็ฝากไปเก็บด้วยนะคะ ติ๊บจะไปช่วยพี่น้ำตาลค่ะ” พลอยชมพูสะบัดหน้าเดินหนีเอาดื้อๆ พบรักมองตามเธอ แล้วก้มมองถาดในมือ เรื่องอะไรจะเอาไปเก็บ เธอไม่ไป เขาก็ไม่ไป ชายหนุ่มพยักหน้าเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลให้มารับถาดไปเก็บ แล้วเดินตามไปยังเคาน์เตอร์ที่พลอยชมพูยืนอยู่กับกลุ่
“ผมก็เป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเหมือนกัน” คนไม่อยากให้สาวทำงานลำบากรีบเอ่ยอ้างพลอยชมพูเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจลึก นี่เธอกำลังคุยกับผู้ใหญ่อายุสี่สิบหรือเด็กอายุสิบขวบกันแน่นะ“ติ๊บจะไปช่วยงานคนอื่นแล้ว ห้ามตามมานะคะ ไม่อย่างงั้นติ๊บจะหนีกลับบ้านจริงๆด้วย” พลอยชมพูหันหลังเดินออกจากห้องไปทันทีที่พูดจบ คนที่ถูกเธอขู่ไม่กล้าลุกเดินตามไป พบรักทำได้เพียงถอนหายใจมองตามตาละห้อย เขากลัวเธอหนีกลับบ้าน กลัวเธอไม่อยู่ให้เขารับผิดชอบเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานเจ้าของรีสอร์ตได้แล้ว พลอยชมพูถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก บางทีเธอก็ไม่เข้าใจว่า การที่เธอเอาเรื่องนี้มาขู่เขานี่ถูกต้องแล้วใช่ไหม คือเธออดสงสัยไม่ได้ว่าตรรกะการได้เสียระหว่างเธอกับเขามันดูเพี้ยนๆ เขาต้องการรับผิดชอบ ในขณะที่เธอยังไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น และยังไม่อยากตัดสินใจอะไรตอนนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเสียใจ แต่ที่มากกว่าความเสียใจคือ เธอกลัวครอบครัวรู้ กลัวพวกท่านจะผิดหวังในตัวเธอ แต่จะให้ร้องไห้คร่ำครวญจมอยู่ในห้วงทุกข์ตลอดเวลาก็ดูจะไม่ใช่ ไม่น่าทำ เธอโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีภูมิคุ้มกันภาวะจิตใจและอาร
“ยังไม่หิวค่ะ” พลอยชมพูบอกเสียงเบา หญิงสาวไม่รู้จะทำตัวเช่นไร จึงได้แต่ยืนขัดเขินทั้งกังวลอยู่กลางห้อง รอให้เขาเริ่มพูดเรื่องนั้นขึ้นก่อน“กระติ๊บ”“คะ” คนถูกเรียกสะดุ้ง หันไปมองเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ปลายเตียงของเขา“มานั่งตรงนี้ เราต้องคุยกัน” พบรักตบมือลงข้างๆที่ตัวเองนั่งอยู่“คุณพบพูดมาเลยค่ะ ยืนอยู่ตรงนี้ ติ๊บก็ได้ยิน”“ถ้าไม่มานั่งดีๆ ผมจะเดินไปอุ้ม”คำขู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำให้ใบหน้างามงอง้ำ พลอยชมพูพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะยอมเดินไปนั่งข้างเขา ซึ่งหญิงสาวทิ้งระยะห่างพองาม พบรักเองก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้เธอมานั่งชิดตัวติดกัน“กระติ๊บอยากให้ผมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง” พบรักเอ่ยถามตรงๆไม่อ้อมค้อม คนที่ต้องตอบคำถามอึ้งไปไม่เป็น รับผิดชอบอย่างไรงั้นหรือ แต่งงานคงไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไรนัก เพราะหากชีวิตคู่ของเธอเริ่มต้นจากการเสียตัวเพราะความเมา มันก็คงจบไม่สวยเท่าไรหรอกมั้ง เธอกับเขายังรู้จักกันไม่ดีพอ ยังไม่มากพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน“อย่าเพิ่งปฏิเสธความรับผิดชอบจากผม เราค่อยๆเรียนรู้กันไปก่อนได้ไหม”พลอยชมพูเ
เพลิงตะวันจับตามองน้องสาวตั้งแต่เธอเดินออกจากประตูบ้านมา กระทั่งเดินมานั่งที่เก้าอี้ซึ่งอยู่ในซุ้มไม้ที่เขากับภรรยานั่งอยู่ก่อนแล้ว“ช้า!” คนใจร้อนและหัวร้อนง่ายว่าน้อง แล้วมองอย่างจับพิรุธ“ติ๊บเป็นผู้หญิงนะพี่เพลิง จะให้วิ่งผ่านน้ำหรือไงเล่า มันก็ต้องให้เวลากันหน่อยสิคะ” พลอยชมพูว่าแล้วทำปากยื่นให้พี่ชาย“น้ำฝนไม่เห็นอาบนานเหมือนติ๊บเลย” คนข้องใจยังคงหาเรื่องจับผิดน้องต่อ“ที่อาบไม่นานเพราะพี่เพลิงเข้าไปอาบด้วยหรือเปล่าคะ อาบไม่นาน เพราะทำอย่างอื่นด้วย” ถึงเธอจะเพิ่งเสียพรหมจรรย์มาเมื่อคืนนี้เอง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลย เรื่องแบบนี้ถึงไม่อยากรู้แต่ก็ได้รู้ เพราะทั้งเพื่อนฝูงคุยกัน ทั้งหนังทั้งละครมีฉากแบบนี้ออกเยอะแยะ และพลอยชมพูก็ฉลาดพอที่จะดึงน้องสาวเข้ามาจัดการพี่เพลิง“พี่ติ๊บ!” หยาดพิรุณอุทานเรียกพี่สาวด้วยน้ำเสียงตกใจ แล้วหันไปมองสามีด้วยสายตาดุ เพราะเขานั่นแหละไปจุกจิกวุ่นวายถามจับผิดพี่สาวเธออยู่ได้ พี่ติ๊บเลยสวนหมัดกลับมา แต่แทนที่หมัดนี้จะโดนเขา กลับมาฮุกเข้าใต้ลิ้นปี่เธอเสียนี่“ตื่นสายโด่งขนาดนี้ พี่พบเขายังจ