เด็กบ้าอะไรน่ารักชะมัด
“แค่กๆ” แค่นึกถึง สตรอว์เบอร์รีที่เคี้ยวอยู่ติดคอจนเพชรนิลไอหน้าดำหน้าแดง ชายหนุ่มทุบอกตัวเองแรงๆหลายครั้งทั้งไอถี่ไม่หยุดกระทั่งชิ้นสตรอว์เบอร์รีหลุดออกมาอยู่ในมือ
“คิดว่าจะกลัวเหรอ จะกัดกินกลืนลงท้องให้หมดเลย” เพชรนิลแก้แค้นผลไม้สีแดงรสหวานด้วยการส่งชิ้นที่อยู่ในมือเข้าไปในปากใหม่แล้วเคี้ยวเร็วๆก่อนกลืนลงท้อง แล้วหันไปหยิบมากินอีกจนหมด ดวงตาคู่คมมองตะกร้าใบน้อยว่างเปล่าอย่างสะใจ
“ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร คิดว่าติดคอแค่นี้แล้วกระต่ายน้อยจะไม่กล้ากินเหรอ หึ!”
พลอยไพลินยืนหันรีหันขวางอยู่หน้าตึกของบริษัทคู่หมั้น หญิงสาวนั่งรถไฟฟ้ามาจากบริษัทของตัวเอง เธอลงสถานีที่อยู่ไม่ไกลตึกนี้มากนัก เดินต่ออีกไม่กี่นาทีก็มาถึงหน้าตึกแล้ว
“แล้วจะบอกพี่โยว่ามาทำไม” พลอยไพลินทำหน้ายุ่งเมื่อคิดได้ว่า เธอหาเหตุผลให้ตัวเองได้แล้วว่าควรมาหาเขาเพราะอะไร แต่เธอยังไม่มีเหตุผลให้เขาเลยว่ามาหาเขาทำไม มันคงไม่ดีแน่ถ้าเธอจะบอกเขาไปอย่างที่ใจเธอคิด
ขณะเดียวกันบนตึกชั้นสูงสุด ภายในห้องทำงานของเจ้าของตึกและ
“เต็นไม่น่ามาหาพี่โยเลย อุ๊ย!” เมื่อน้องรั้งรอไม่ยอมนั่งลงสักที เจ้าของที่นั่งเวรี่วีไอพีจึงออกแรงดึง พร้อมกับตวัดแขนรัดเอวคอด รั้งร่างงามให้นั่งลงบนตักแกร่ง แล้วรวบกอดเอาไว้แนบอก พลอยไพลินซุกหน้ากับอกกว้าง ทอดถอนใจอย่างยอมจำนน แม้เธอจะอิดออดไม่อยากจะนั่งบนตักเขา แต่เมื่อได้สัมผัสแนบชิด ได้ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา หญิงสาวก็อดยอมรับกับตัวเองไม่ได้ว่า เธออบอุ่นและสุขใจเสมอ ลำแขนเรียวค่อยๆโอบกอดร่างกำยำซ่อนรูป ใบหน้าสาวระบายยิ้มซุกซน อยากอยู่แบบนี้ไปนานๆ วาโยยิ้มในหน้าเมื่อน้องกอดตอบ ชายหนุ่มลูบเรือนผมนุ่มเบาๆ กดจมูกและปากลงบนศีรษะทุย งึมงำพูดเสียงเบา “เสร็จงานยุ่งๆแล้ว พี่จะให้คุณพ่อเข้าไปคุยเรื่องงานแต่งของเรากับคุณน้าทั้งสอง เต็นดูไว้หรือยังว่าจะจัดงานแบบไหน” “ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ เลื่อนไปอีกหน่อยก็ดีนะคะ เต็นจะได้มีเวลาเตรียมตัว” “เลื่อนให้เร็วขึ้นน่ะได้ แต่เลื่อนออกไปอีกไม่ได้ เพราะพี่คงใจขาดตายก่อนแน่ๆ” “งั้นก็แต่
“อื๊อ! พี่โย!” แผ่นหลังบางแอ่นโค้งเมื่อปากร้อนชื้นครอบครองเต้าทรวงข้างซ้าย พลอยไพลินหลับตาแน่น ร่างสาวสั่นสะท้าน ทั้งเขินอาย ประหม่าและตื่นตระหนกกับสัมผัสที่ไม่เคยคุ้นวาโยใช้มือข้างหนึ่งประคองดันแผ่นหลังไว้ ไม่ให้เธอห่อตัวหลีกหนีการสำรวจเนื้อตัวจากนายช่างชำนาญการอย่างเขา วงแขนอีกข้างรวบกอดเอวน้อง และป่ายมือลงไปนวดคลึงเหนือเนินสาวผ่านเนื้อผ้ากระโปรงตัวสวยที่เธอสวมอยู่ ก่อนจะเลื่อนลงต่ำอีกนิด แล้วสอดหายเข้าไปใต้ชายกระโปรง แตะต้องสัดส่วนที่เขาเคยลิ้มรสมาแล้ว และรู้ว่าหวานล้ำเพียงใดพลอยไพลินดิ้นยุกยิกคัดค้านเขาได้ไม่นาน ร่างสาวก็อ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้งลนไฟ สองมือที่ก่อนหน้านี้ทั้งดันทั้งผลักไสเขากลับเลื่อนขึ้นไปด้านหลังท้ายทอยแกร่งแล้วกดนวดคลึงเบาๆ“พี่โย...” ความสุขสมในค่ำคืนนั้นแวบเข้ามาในความคิด รสสวาทที่เขาเคยปรนเปรอให้จนสุดทางทำให้หญิงสาวถวิลหา เขาจะพาเธอไปถึงจุดนั้นไหม พี่โยจะหยุดอยู่ตรงไหน พลอยไพลินครางเสียงหวาน เบียดเนื้อตัวเข้าหาอย่างยินยอมพร้อมใจ พายุสวาทก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรง ความต้องการถูกเร่งเร้าด้วยลิ้นสากที่ป่ายปัดเหนือยอดอก ปากอุ่นร้อนดูดดึงขบเม้มสลับข
วาโยยกต้นขาอวบข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่าแกร่ง เปิดแยกกลีบสาวให้เบ่งบานต่อสายตา กลีบเนื้อสาวสีสดฉ่ำวาวปลุกเร้าอารมณ์หนุ่มให้ปั่นป่วน“เต็นจ๋า...” วาโยครวญเสียงแหบแห้ง สายตาคมวาวจับจ้องความงามตรงหน้าอย่างหลงใหล กลิ่นสาบสาวเย้ายวนให้เขามัวเมา เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้อีก ยื่นริมฝีปากจุมพิตเบาๆบนดอกไม้สาวเบ่งบาน พลอยไพลินสั่นสะท้านหวามลึกในอก มวนในท้องราวกับมีลมพายุหมุนก่อตัวอยู่ในนั้น กลีบเนื้อสีสดสั่นระริก ปวดหน่วงช่องเร้นรับในซอกสาว น้ำหวานใสเอ่อซึมชโลมกลีบเนื้ออ่อนจนเปียกชื้นฉ่ำวาว“พี่โย! อื้อ...” พลอยไพลินเงยหน้าพิงศีรษะกับผนังห้องน้ำ ปากจิ้มลิ้มครวญครางกังวานหวาน เมื่อริมฝีปากหยักที่แนบประกบกลางกายขยับจูบซับไปทั่วผืนเนื้อสาวของเธอวาโยเหมือนคนหลงทางอยู่ในทะเลทรายมานานแรมเดือน เขาหิวโซ อดอยากปากแห้ง เมื่อมาเจอบ่อน้ำหวานกลิ่นหอมยั่วยวน ชายหนุ่มจึงดื่มกินอย่างตะกละตะกลาม ริมฝีปากขบเม้มดูดดึงกลีบเนื้ออ่อน ฟันซี่คมกัดขย้ำติ่งเนื้อนุ่มเบาๆ ลิ้นสากตวัดไล้กวาดหยาดน้ำหวานเข้าสู่โพรงปาก กลืนกินลงท้องอย่างอิ่มเอมเปรมปรีดิ์ รสชาติหวานล้ำและกลิ่นสาวหอมหวนมอมเมาให้เขาติดกับจนโงหัวไม่
พลอยไพลินกอดเกี่ยวลำคอแกร่งไว้ หญิงสาวหลับตาปี๋ เม้มปากแน่น ซุกหน้าอยู่กับอกกว้าง สองขางอตรงข้อพับ ปลายเท้าชี้สูง แยกกว้างให้ร่างสูงได้ยืนอยู่ตรงกลาง“เกี่ยวเอวพี่ไว้ทูนหัว” แม่ทูนหัวของวาโยรีบทำตามคำสั่งอย่างไม่อิดออด“เราต้องทำเวลา พี่รีบ พี่มีประชุม” ดูเหมือนวาโยจะเพิ่งนึกได้ว่าเขามีประชุม ชายหนุ่มพรูลมหายใจออกมายืดยาว จับตัวตนแข็งคึกแนบลงตรงกลางรอยปริแยกกลางกายสาว เขาถูไถเนิบช้า ส่วนปลายถูครูดติ่งเนื้อนุ่มทุกครั้งที่โยกสะโพกเสือกไสไปด้านหน้า เสียงหวานครางกระเส่า เร่งเร้าให้อารมณ์หนุ่มให้พุ่งพรวดพราด จนใกล้จะทะลุขีดความอดกลั้นอยู่รอมร่อ“พี่โยขา...อืม...” สะโพกสาวบิดส่าย ไฟราคะโหมกระพือขึ้นอีกครั้ง“เต็นจ๋า...” วาโยขบกรามแน่น หักห้ามใจไม่ให้รักเธอตั้งแต่ต้นว่ายากแล้ว และในที่สุดเขาก็ทำไม่ได้ นี่จะต้องมาหักห้ามใจ ไม่ครอบครองเธอก่อนเวลาอันควรอีก เขาจะทำได้ไหม จะอดทนได้แค่ไหนกัน“พี่โย พี่โย...” พลอยไพลินกอดคอเขาไว้แน่น สายรุ้งสีสวยก่อตัวขึ้นรอบกายเธออีกครั้ง มันพร่างพรายวิบวับ เย้ายวนชวนให้เธอไขว่คว้าไปให้ถึง หญิงสาวแอ่นกระดกสะโพกขึ้น เกร็งกายรับก
วาโยดับเครื่องยนต์แล้วลงจากรถเดินมาหาน้อง เขาใช้หลังมืออังหน้าผากมน และแตะแก้มเนียนเบาๆด้วยความเป็นห่วง“หลับตลอดทางเลย ไม่สบายหรือเปล่าครับ”พลอยไพลินส่ายหน้า ยิ้มน้อยๆให้คนที่เอาใจใส่เธอ“เปล่าค่ะ เต็นแค่รู้สึกเพลียนิดหน่อย”“นี่แค่ซ้อมนะครับ ถ้าลงสนามจริงจะไหวไหมเรา หืม...”“พี่โย!” พลอยไพลินมองค้อนคนขี้ล้อ ก็เขาเองไม่ใช่เหรอที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพไร้เรี่ยวแรงแบบนี้ แล้วยังจะมีหน้ามาล้อเธออีก“เต็นแค่เหนื่อยเพราะเดินตากแดดไปนั่งรถไฟฟ้า แล้วไหนจะต้องเดินจากสถานีไปที่ตึกพี่โยอีก อากาศก็ร้อนด้วย ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย”“เรื่องนั้นคือเรื่องไหนหรือครับ” วาโยโน้มใบหน้าลงกระซิบถามเบาๆ คนที่พลาดท่าเอ่ยถึงเรื่องที่ร้อนกว่าอากาศยามบ่ายเอามือปิดปาก มองคนยิ้มล้อเลียนตรงหน้าด้วยสายตางอนๆ“ว่าไงครับ เรื่องไหนน้า จะใช่เรื่องเดียวกับที่พี่คิดอยู่หรือเปล่า”“เต็นไม่พูดกับพี่โยแล้ว” น้ำเสียงหยอกเย้าของชายหนุ่ม ทำให้พลอยไพลินค้อนวงใหญ่ให้เขา หญิงสาวเดินหนีคนขี้ล้อเข้าบ้านไปก่อน วาโยมองตามด้วยสายตาหวานเชื่อม เขายิ้มกว้างอย่า
แม่กระแตมองลูกสาวด้วยสายตาเอ็นดู เพราะเข้าใจรักวัยหนุ่มสาวซึ่งตัวเองเคยผ่านช่วงวัยนั้นมาก่อนแล้ว พี่กระต่ายน้อยส่ายหน้ายิ้มๆให้กับการพลาดในครั้งนี้ของน้องสาว คู่หมั้นหอมแก้มกัน เรื่องธรรมดามากสำหรับเพลย์บอยอย่างเขา ส่วนยัยตัวจุ้นยิ้มกว้าง มองพี่สาวด้วยสายตาล้อเลียน “เอ่อ...เต็นเหนียวตัวจัง ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะคะ” พลอยไพลินอับจนข้อแก้ตัวใดๆ เพราะเธอเป็นจำเลยที่สารภาพผิดโดยไม่มีใครซักฟอก หญิงสาวรีบหมุนตัวเดินออกมาจากพื้นที่น่าอาย แล้วรีบวิ่งขึ้นบันไดไปด้วยความรู้สึกเขินอายพ่อแม่พี่น้องทั้งบ้าน วาโยขับรถไปจอดที่บริษัท เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถอีกคันที่คนของเขาสตาร์ตเครื่องไว้รอ และเตรียมอาวุธไว้พร้อมมือรอท่าอยู่ก่อนแล้ว “พวกมันมีห้าคนครับ ตำรวจยังตามไม่เจอ แต่ข่าววงในแจ้งมาว่า ตำรวจเจอตอเสียก่อน จึงถอยกลับไปจัดกระบวนทัพใหม่” วัลลภรีบรายงานเพิ่มเติมทันที เมื่อเจ้านายลงมาจากรถ “ใคร” วาโยเอ่ยถาม สีหน้าเคร่งขรึม เขาแกะกระดุมแขนเส
เพราะไม่ทันระวังตัว วาโยจึงโดนยิงเข้าที่หัวไหล่หนึ่งนัด ลูกน้องของเขารีบดันตัวเจ้านายเข้าไปในรถ แล้วปิดประตูทันทีคนที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ฟังเพียงนัดเดียวก็รู้ว่าต้นเสียงของกระสุนดังมาจากทางไหน นี่มันยิงรัวตั้งหลายนัด จึงไม่ยากเลยที่จะหาที่ที่มันแอบซุ่มอยู่ ชายหนุ่มสองคนย่อตัวลงนั่งคอยยิงคุ้มกันเจ้านาย หนึ่งในสองคนรีบแจ้งสถานการณ์ข้างนอก และบอกตำแหน่งของคนร้ายผ่านเครื่องมือสื่อสารที่ติดไว้ข้างหูให้คนอื่นได้รับทราบ ไม่นานนักเสียงปืนที่สาดมาทางรถที่พวกเขานั่งคุ้มกันอยู่ก็เงียบเสียงลงวัลลภวิ่งเร็วตรงมายังรถยนต์คันที่เจ้านายนั่งอยู่ เขาเปิดประตูออกด้วยความร้อนใจ“คุณโยเป็นยังไงบ้างครับ”“ถูกยิงที่หัวไหล่ ไม่เป็นไรมาก” วาโยบอกเสียงราบเรียบเหมือนไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ไม่เข้ากันกับเลือดที่ไหลทะลักจนเสื้อเชิ้ตสีขาวที่สวมใส่อยู่ชุ่มโชกและเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานวงกว้าง“คุณโยไปโรงพยาบาลก่อนเถอะครับ ผมจะเก็บรายละเอียดที่นี่ให้เอง”“ฝากด้วยนะวัลลภ”“ครับ”ระหว่างเดินทางไปโรงพยาบาล วาโยโทรศัพท์บอกบิดาถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น คุณวาทิตตกใจเล็ก
“คุณหมอบอกว่าจะหายตอนไหนหรือคะ” ดวงตาคู่สวยหลุบมองตำแหน่งที่มือตัวเองแตะอยู่“แค่เห็นหน้าเต็นพี่ก็หายแล้วล่ะ” วาโยบอกยิ้มๆ“ชอบพูดเล่นอยู่เรื่อยเลย” พลอยไพลินอุบอิบว่าคนที่ชอบทำให้เธอเขิน ขนาดเจ็บตัวอยู่ก็ยังไม่วายหยอดให้เธอต้องหน้าแดง“เต็นจ๋า พี่อยากเข้าห้องน้ำ” วาโยขยับตัวจะลุกขึ้นจากเตียง คนตัวเล็กรีบเข้าช่วยพยุงคนตัวโตอย่างระมัดระวัง“เดินไหวไหมคะ” หญิงสาวถามด้วยความเป็นห่วง“เมื่อยขาจัง ช่วยพาพี่ไปหน่อย” คนเจ็บแขนแต่เมื่อยขาอ้อนน่าสงสารพลอยไพลินจึงช้อนแขนข้างที่ไม่เจ็บวางบนบ่าบอบบางของตน ช่วยพยุงเขาเดินไปยังห้องน้ำ หญิงสาวเข็นเสาน้ำเกลือตามเข้าไปด้วย เมื่อส่งเขาถึงในห้องน้ำแล้ว เธอก็ปล่อยให้เขาทำธุระส่วนตัว แต่ยังยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ เผื่อว่าเขาต้องการอะไรเธอจะได้หยิบจับหาให้“เต็นจ๋าช่วยพี่หน่อย” เสียงอ้อนหวานๆดังขึ้นหลังจากเสียงกดชักโครกเงียบลงครู่หนึ่ง พลอยไพลินแง้มประตูแล้วยื่นหน้าเข้าไปถามความต้องการของเขาอย่างใส่ใจ“พี่โยจะเอาอะไรหรือคะ”“พี่อยากโกนหนวด แล้วก็อยากแปรงฟัน”“เอ่อ...”“พี่เจ็บแขนข
“เป็นธรรมดาที่คนสวยอย่างติ๊บจะมีคนมาชอบค่ะ” ตอบแล้วเธอก็เดินกลับไปที่ซิงค์ล้างจาน ลงมือล้างโดยไม่หันมาสนใจคนมีปัญหาคาใจกับแขกที่เข้าพักอีก พบรักรู้สึกถึงความร้อนที่แล่นพล่านอยู่บนหัว เธอรู้ว่าไอ้หมอนั่นชอบ แล้วเธอล่ะชอบมันไหม “แล้วติ๊บชอบมันไหม มันหน้าตาดีนะ” พลอยชมพูสะดุ้งตกใจเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาประชิดด้านหลัง และเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงขุ่นไม่พอใจ “ไม่ค่ะ เฉยๆ ก็บอกแล้วว่าติ๊บทั้งสวยทั้งน่ารัก ก็ต้องมีผู้ชายมาชอบเยอะสิคะ แต่ภูมิต้านทานเรื่องผู้ชายติ๊บสูงค่ะ เพราะที่บ้านมีแต่ผู้ชายหน้าตาดี พ่อติ๊บก็หล่อ ยิ่งพี่ต่ายนี่หล่อแบบ...” พลอยชมพูเงยขึ้นมองหน้าคนที่ยืนหน้าเคร่งอยู่เบื้องหลังตัวเองสายตาครุ่นคิดา “อืม...พี่ต่ายนี่หล่อแบบเอาคุณพบสักสิบคนมามัดรวมกันก็ยังหล่อไม่เท่าพี่ต่ายเลยค่ะ” หัวคิ้วเข้มย่นแทบจะชนกัน เมื่อถูกสาวเปรียบเทียบความหล่อของตนกับพี่ชายของเธอแบบไม่ไว้หน้ากันเลย พบรักขยับตัวเข้าใกล้ ใช้แขนสองข้างกักกันเธอไว้กับเค
พลอยชมพูกะพริบตาปริบๆ รีบลงจากเตียงแล้วเดินไปที่หน้าต่าง พอหญิงสาวเปิดม่านออกก็มองเห็นเขายืนโบกไม้โบกมืออยู่ข้างล่าง เธอปิดม่านแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อกลางวันแค่เธอคุยกับเขานิดเดียว แถมยังมีผู้คนอยู่ด้วยตั้งมากมาย พบรักยังจับเธอไปลงโทษด้วยบทรักเร่าร้อนท้าแสงแดด นี่ถ้ามาเห็นเธอคุยกับเขาที่หน้าบ้าน เธอจะโดนอะไรอีกไหมเนี่ยแต่สุดท้ายแล้วพลอยชมพูก็ต้องลงไปคุยกับเพื่อนชายที่ซุ้มไม้หน้าบ้าน เธออุตส่าห์ทำตัวเป็นผู้ฟัง ไม่ซักไม่ถาม วิศรุตถามคำเธอก็ตอบคำ หวังว่าเขาจะเบื่อแล้วกลับห้องพักไปก่อนที่เจ้าของบ้านจะกลับมา แต่อีตานี่ก็หน้าด้านหน้าทนกว่าที่คิด ขุดเรื่องตั้งแต่สมัยปีมะโว้มาคุยกับเธอได้เป็นคุ้งเป็นแคว แหม...รู้สึกคิดถูกมากๆที่ไม่สนใจเขาตั้งแต่ตอนที่เขาเข้ามาจีบใหม่ๆ เพราะไม่งั้นเธออาจจะเบื่อตายไปเลยก็ได้ เธอไม่ชอบผู้ชายพูดมาก เพราะลำพังตัวเธอเองก็พูดมากอยู่แล้ว เธอชอบคนที่พร้อมจะฟังมากกว่า เหมือนคุณพบนั่นไง พอคิดถึงคนที่ฟังเธอเสียเป็นส่วนมาก เขาก็โผล่มาพอดีพบรักจอดรถกอล์ฟที่หน้าบ้าน แล้วเดินหน้าบึ้งเข้ามาหาเธอกับวิศรุตที่ซุ้มไม้“ที่นี่เป็นที่พักส่วนตัวของผม ไม่
“เดือนนี้ไม่หักแล้ว จะให้เพิ่มด้วย” พบรักบอกยิ้มๆ“ให้เพิ่มทำไม ติ๊บไม่ได้ทำงานอะไรเพิ่มสักหน่อย” คนไม่อยากเอาเปรียบนายจ้างปฏิเสธไม่รับเงินค่าจ้างเพิ่มโดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรเพิ่มพบรักถอนหายใจบางเบา เขาลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งเก้าอี้ข้างหญิงสาว ดูเหมือนเธอจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเหตุการณ์เร่าร้อนที่เขาและเธอเพิ่งทำกันไปเมื่อครู่ใหญ่“กระติ๊บ” พบรักจับมือบางทั้งสองข้างมากุมไว้ เขามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาดุ ไม่พอใจที่เธอไม่เรียกร้องอะไรจากเขาเลย ทั้งๆที่เขาอยากให้เธอเรียกร้องเอาทุกอย่างจากเขา เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ทั้งตัว หัวใจ เงินทอง ทรัพย์สมบัติต่างๆ เขาพร้อมจะยกให้เธอทั้งหมด“อะ...อะไรคะ” พลอยชมพูเอนตัวหลบคนที่อยู่ดีๆก็เดินมาจับมือถือแขนเธอ ที่จริงเธอก็ไม่ควรตกใจอะไรหรอก เพราะมากกว่ามือเขาก็จับมาแล้ว แต่บอกตรงๆว่าเธอยังไม่ชิน ถึงจะไม่ได้รังเกียจเขา แต่ก็ใช่ว่าเธอจะชอบที่เขาเข้ามาใกล้ชิดแบบนี้ เพราะมันทำให้หัวใจเธอสั่น“คุณไม่คิดจะเรียกร้องอะไรจากผมหน่อยหรือ”พลอยชมพูมองหน้าเขานิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนระบายยิ้มหวานสดใสให้เขา“แล้วคุณพบอยากใ
พลอยชมพูหลับตา แหงนเงยหน้าเชิดสูง พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความซ่านเสียวสะใจ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่รู้สึกไปกับเขามากมายขนาดนี้ และเมื่อเขาเริ่มโยกกายถอดถอนสลับเติมเต็มในจังหวะเชื่องช้า หญิงสาวก็ครางเบาๆอย่างกับลูกแมวน้อย มันเสียวสะท้านก็จริง ทว่าเธอคิดว่ามันอ่อนโยนเกินไป หญิงสาวจึงโยกสะโพกกลับไปด้านหลัง ในจังหวะที่เขาสอดเสยเข้าหาเธอพอดี เสียงเนื้อสะโพกหนั่นแน่นปะทะกับหน้าขาจึงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่างคนต่างใส่แรงเข้าหากันไม่มีใครยอมใคร แต่คนแรงน้อยกว่าสูญเสียอธิปไตยในน่านน้ำตัวเองไปหลายครั้ง กว่าเธอจะรีดรัดคนแข็งแกร่งห้าวหาญจนเขายอมพ่ายแพ้ก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง “ไปเดินอีท่าไหนให้หกล้มหัวเข่าถลอกแบบนี้คะ” ลำดวนถามคนที่ตนกำลังทำแผลให้ หญิงสาวนั่งอยู่บนโซฟาในบ้านพักของเจ้าของรีสอร์ตพลอยชมพูตวัดสายตาดุขึ้นมองตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องหัวเข่าถลอก เขายืนกอดอกตีหน้านิ่งอยู่ใกล้ๆ แต่เมื่อสบสายตากับเธอ เขาก็ยิ้มบางบนใบหน้า แถมยังยักคิ้วข้างหนึ่งใส่เธอด้วย คนเจ็บตัวเพราะความหื่นปรอทแตกของเขาจึงสะบัดค้อนให้จนคอแทบเคล็ด
ใบหน้าที่หลับตาพริ้ม อ้าปากเผยอครางเสียงหวานดังผะแผ่ว ทำให้พบรักเร่งมือเพื่อส่งเธอไปสุดปลายทางล่วงหน้าก่อน เขาสอดนิ้วกลางเข้าสู่ร่องสาวคับแน่น ชักเข้าออกกระทุ้งแรง รับรู้ได้ถึงกล้ามเนื้ออ่อนที่บีบรัดรอบจากปลายสุดโคนนิ้ว ชายหนุ่มสูดลมหายใจยาว เขาแข็งขึงทรมาน อยากจะพาสัดส่วนที่ขยายใหญ่โตสอดลึกในตัวเธอแล้ว ทว่าก็ได้แต่ยับยั้งใจไว้ก่อน ความสดใหม่ของเธอทำให้เขาต้องรีดเค้นน้ำหวานออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เธอต้องเจ็บตัวมากเหมือนครั้งแรก“คุณพบ!” พลอยชมพูหลับตาแน่น เงยหน้าขึ้นครวญครางเรียกชื่อคนที่กำลังปรนเปรอเธอด้วยนิ้วมืออย่างดุดัน เมื่อไม่อาจต้านทานบทเพลงกามาที่บรรเลงโดยนิ้วเรียวยาวที่พร่างพรมลงใจกลางความเป็นหญิง สะโพกสวยก็ขยับเร็วเพื่อจะไปให้ถึงบทสุดท้ายของเพลงรัก เผลอให้ความร่วมมือไปโดยไม่รู้ตัว“กระติ๊บ...” พบรักจับจ้องมองใบหน้าน่ารักไม่วางตา เขากระซิบเรียกเธอซ้ำๆ จูบปลายคางเล็ก แล้วอ้าปากงับเบาๆ เร่งขยับซอยนิ้วมือกระทั่งส่งเธอข้ามพ้นขอบเขตความอดกลั้น หญิงสาวระเบิดตัวเองหยาดน้ำใสฉีดล้นซอกขาเปรอะเปื้อนเต็มหน้าตักเขาพลอยชมพูหอบหายใจแฮกๆ หญิงสาวเอนกายซวนซบอกกว
“อุ๊ย!” พลอยชมพูมัวแต่โมโหคนที่ไม่ยอมปล่อยเธอสักที หญิงสาวเลยมองเมินไปยังพื้นที่สีเขียวโล่งกว้างตรงหน้า โดยไม่ทันระวังตัว พบรักก็รวบเอวคอดดึงตัวเธอขึ้นไปนั่งบนตักเขา แล้วกักกอดไว้แน่น แผ่นหลังนุ่มแนบไปกับอกกว้างกำยำ“คุณพบ! จะทำอะไรคะ ปล่อยนะ” พลอยชมพูหันหน้าไปต่อว่าเขา ใบหน้าสาวบูดบึ้งไม่พอใจอย่างที่สุด“นั่งพักสักหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับ”“จะนั่งก็นั่งดีๆสิคะ ทำไมต้องมากอดคนอื่นแบบนี้”“คนอื่นที่ไหน เมียทั้งคน”ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง มองหน้าคนที่เรียกตัวเองว่าเมียด้วยสายตาแตกตื่น พบรักมองสีหน้าตกใจของเธอแล้วยิ้มขำ พอเห็นคนที่เอาแต่ตกตะลึงตาค้างกับตำแหน่งใหม่ที่เขามอบให้ แถมริมฝีปากอิ่มที่เผยอน้อยๆนั่นก็ยั่วใจเขาเหลือเกิน ชายหนุ่มจึงอดใจไม่ไหว เขาโน้มใบหน้าลงไปใกล้อีกนิด หวังจะชิมความหวานจากปากนุ่ม แต่ดูเหมือนคนกำลังจะถูกเขารังแกจะรู้ตัวเสียก่อน มือบางสองข้างจึงถูกยกขึ้นมาปิดกั้นปากเขาไว้แล้วดันออกสุดแรงจนหน้าแทบหัน“จะทำอะไรคะ” พลอยชมพูถามเสียงขุ่น หญิงสาวดึงมือกลับมาเช็ดๆถูๆกับกางเกง มองค้อนคนจ้องจะเอาเปรียบเธอปากเขานุ่มชะมัด บ้าจริ
“ไอ้หมอนั่นใคร”เสียงเข้มไม่พอใจที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้พลอยชมพูสะดุ้ง หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนหมุนตัวกลับไปยืนประจันหน้ากับเจ้าของรีสอร์ตนิสัยเสียที่กล้าเรียกลูกค้าว่าไอ้หมอนั่น“ลูกค้าค่ะ”“รู้แล้วว่ามันเป็นลูกค้า มันรู้จักกระติ๊บด้วยเหรอ”“เป็นเพื่อนกันสมัยเรียนปอโทค่ะ”“เมื่อกี้มันขอเบอร์ด้วย”“ค่ะ” พลอยชมพูตอบแล้วหันไปคว้าถาดมาถือ เดินหนีคนช่างซัก“จะไปไหน” พบรักเดินตามติดต้อยๆ“เอาถาดไปเก็บค่ะ”“ผมช่วย” พบรักแย่งถาดจากมือบาง แต่ลูกจ้างสาวไม่ยอม พลอยชมพูดึงเอาไว้แน่น“ไม่ต้องค่ะ”“ต้อง” พบรักใช้แรงที่มีมากกว่าดึงถาดมาจากมือเธอจนได้ พลอยชมพูมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ คนบ้าอะไรเนี่ย คนจะทำงาน เขาจะมาวุ่นวายวอแวอะไรกับเธอนักหนา“งั้นก็ฝากไปเก็บด้วยนะคะ ติ๊บจะไปช่วยพี่น้ำตาลค่ะ” พลอยชมพูสะบัดหน้าเดินหนีเอาดื้อๆ พบรักมองตามเธอ แล้วก้มมองถาดในมือ เรื่องอะไรจะเอาไปเก็บ เธอไม่ไป เขาก็ไม่ไป ชายหนุ่มพยักหน้าเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลให้มารับถาดไปเก็บ แล้วเดินตามไปยังเคาน์เตอร์ที่พลอยชมพูยืนอยู่กับกลุ่
“ผมก็เป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเหมือนกัน” คนไม่อยากให้สาวทำงานลำบากรีบเอ่ยอ้างพลอยชมพูเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจลึก นี่เธอกำลังคุยกับผู้ใหญ่อายุสี่สิบหรือเด็กอายุสิบขวบกันแน่นะ“ติ๊บจะไปช่วยงานคนอื่นแล้ว ห้ามตามมานะคะ ไม่อย่างงั้นติ๊บจะหนีกลับบ้านจริงๆด้วย” พลอยชมพูหันหลังเดินออกจากห้องไปทันทีที่พูดจบ คนที่ถูกเธอขู่ไม่กล้าลุกเดินตามไป พบรักทำได้เพียงถอนหายใจมองตามตาละห้อย เขากลัวเธอหนีกลับบ้าน กลัวเธอไม่อยู่ให้เขารับผิดชอบเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานเจ้าของรีสอร์ตได้แล้ว พลอยชมพูถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก บางทีเธอก็ไม่เข้าใจว่า การที่เธอเอาเรื่องนี้มาขู่เขานี่ถูกต้องแล้วใช่ไหม คือเธออดสงสัยไม่ได้ว่าตรรกะการได้เสียระหว่างเธอกับเขามันดูเพี้ยนๆ เขาต้องการรับผิดชอบ ในขณะที่เธอยังไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น และยังไม่อยากตัดสินใจอะไรตอนนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเสียใจ แต่ที่มากกว่าความเสียใจคือ เธอกลัวครอบครัวรู้ กลัวพวกท่านจะผิดหวังในตัวเธอ แต่จะให้ร้องไห้คร่ำครวญจมอยู่ในห้วงทุกข์ตลอดเวลาก็ดูจะไม่ใช่ ไม่น่าทำ เธอโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีภูมิคุ้มกันภาวะจิตใจและอาร
“ยังไม่หิวค่ะ” พลอยชมพูบอกเสียงเบา หญิงสาวไม่รู้จะทำตัวเช่นไร จึงได้แต่ยืนขัดเขินทั้งกังวลอยู่กลางห้อง รอให้เขาเริ่มพูดเรื่องนั้นขึ้นก่อน“กระติ๊บ”“คะ” คนถูกเรียกสะดุ้ง หันไปมองเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ปลายเตียงของเขา“มานั่งตรงนี้ เราต้องคุยกัน” พบรักตบมือลงข้างๆที่ตัวเองนั่งอยู่“คุณพบพูดมาเลยค่ะ ยืนอยู่ตรงนี้ ติ๊บก็ได้ยิน”“ถ้าไม่มานั่งดีๆ ผมจะเดินไปอุ้ม”คำขู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำให้ใบหน้างามงอง้ำ พลอยชมพูพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะยอมเดินไปนั่งข้างเขา ซึ่งหญิงสาวทิ้งระยะห่างพองาม พบรักเองก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้เธอมานั่งชิดตัวติดกัน“กระติ๊บอยากให้ผมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง” พบรักเอ่ยถามตรงๆไม่อ้อมค้อม คนที่ต้องตอบคำถามอึ้งไปไม่เป็น รับผิดชอบอย่างไรงั้นหรือ แต่งงานคงไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไรนัก เพราะหากชีวิตคู่ของเธอเริ่มต้นจากการเสียตัวเพราะความเมา มันก็คงจบไม่สวยเท่าไรหรอกมั้ง เธอกับเขายังรู้จักกันไม่ดีพอ ยังไม่มากพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน“อย่าเพิ่งปฏิเสธความรับผิดชอบจากผม เราค่อยๆเรียนรู้กันไปก่อนได้ไหม”พลอยชมพูเ