“ก็ได้ค่ะ เอาไว้พี่โยหายดีแล้ว เต็นจะไปเรียนกับพี่โยนะคะ”
“พี่จะสอนเทคนิคดีๆให้ สอนทุกท่าแบบไม่มีหมกเม็ด”
หน้าตาไม่น่าไว้วางใจของคนที่อยากจะสอนการต่อสู้ให้เธอทำให้พลอยไพลินดึงมือกลับแล้วถอยห่างจากเตียง
“เต็นว่า เต็นไม่เรียนดีกว่า”
“ไม่ได้ครับ เต็นต้องเรียน พี่สอนให้ฟรีไม่คิดตังค์”
“แต่คิดค่าจ้างเป็นอย่างอื่นล่ะสิ” พลอยไพลินว่าอย่างรู้ทัน คนถูกรู้ทันยิ้มหวาน ชักอยากจะหายเจ็บวันนี้พรุ่งนี้เสียแล้ว เขาอยากสอนศิลปะการต่อสู้ให้น้อง สอนกันสองต่อสอง สอนกันตัวต่อตัว
ก๊อกๆ
เสียงประตูที่ดังขึ้นทำให้สองหนุ่มสาวหันไปมองพร้อมกัน พลอยไพลินขยับเท้าจะเดินไปเปิดประตู แต่คนที่เคาะก็เปิดประตูแล้วก้าวเข้ามาในห้องเสียก่อน
“พี่โยขา” เจ้าของเสียงหวานก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับหอบช่อดอกไม้ช่อโตเข้ามาด้วย
พลอยไพลินมองหญิงสาวด้วยความแปลกใจ เธอคุ้นหน้าผู้หญิงคนนี้ แต่จำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน
วาโยเลิกคิ้วเข้มขึ้นสูง เขามองคนมาเยี่ยมด้วยสายตาสงสัยระคนแปลกใจ
“มาได้ยังไงเนี่ย” วาโยพึมพำตกใจ เขาบอกให้ทุกคนปิดเรื่องที่เขาถูกยิงให้เป็นความลับ เ
“ไม่เอาแล้วค่ะ เดี๋ยวคนอื่นเข้ามาเห็นอีก เต็นอาย” พลอยไพลินขยับตัวออกห่างคนที่ทวงแต่จูบอยู่นั่นแหละ ทว่ามือแข็งแรงที่กุมมือเธอไว้ไม่ยอมปล่อยสักที หญิงสาวถอนหายใจแรง“พี่โย...” เสียงเรียกอย่างอ่อนอกอ่อนใจของน้องทำให้คนที่กุมมือนุ่มไว้ยิ้มกว้าง ท่าทางและน้ำเสียงแบบนี้น้องก็คงยอมเขาอีกตามเคยก๊อกๆ“ขออนุญาตนะคะ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะ ตามมาด้วยเสียงของนางพยาบาล ก่อนที่บานประตูจะเปิดออก นายแพทย์เจ้าของไข้เดินเข้ามาก่อน ตามมาด้วยนางพยาบาลสองคน“เป็นไงบ้างโย ยิ้มหน้าบานแบบนี้คงหายแล้วสินะ พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้วมั้ง” คุณหมอสูงวัยเอ่ยแซว เมื่อเห็นคนไข้หนุ่มกุมมือคนไข้สาวไว้ไม่ยอมปล่อย“ยังไม่อยากหายเลยครับ คนเฝ้าไข้น่ารัก ให้ผมอยู่ต่ออีกหลายๆวันก็ได้นะครับอาหมอ” วาโยบอกนายแพทย์สูงวัยซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับบิดา ท่านเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งนี้“เอางั้นเลยเหรอไอ้หลานชาย” คุณหมอว่าแล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี“สวัสดีค่ะคุณหมอ” พลอยไพลินบิดมือออกจากการเกาะกุมของคนป่วยดื้อ ยกมือไหว้คุณหมอแล้วยิ้มให้ท่าน“สวัสดีจ้ะหนูเต็น ลำบากหน่อย
พลอยไพลินมองหน้าคนที่ยกสารพัดเหตุผลมาให้เธอทำตามใจเขา หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่“ก็ได้ค่ะ ปล่อยสิคะ เต็นจะเช็ดให้” พลอยไพลินยอมจำนนพ่อคนเหตุผลเยอะ หญิงสาวขยับเข้าใกล้คนเปลือยท่อนบน หลับตาปี๋ ทั้งเบี่ยงหน้าหนี ก่อนจะค่อยๆยื่นมือไปรูดกางเกงคนไข้ออกจากเอวสอบจนหลุดออกจากปลายเท้า มือบางรีบดึงผ้าห่มขึ้นคลุมท่อนล่างเปลือยเปล่าของคนตัวโต ก่อนหันกลับมามองอย่างกล้าๆกลัวๆพลอยไพลินถอนหายใจอย่างโล่งใจ เมื่อพบว่าไม่ต้องเผชิญหน้ากับบางอย่างของเขาที่เธอไม่ค่อยอยากเห็นเท่าไรวาโยยิ้มขัน มองท่าทีน้องด้วยความเอ็นดู สายตาคมวาวจับจ้องมือน้อยที่กำผ้าขนหนูไว้ค่อยๆเลื่อนหายไปใต้ผ้าห่ม หัวใจแกร่งเต้นระทึกเมื่อน้องค่อยๆเริ่มเช็ดหน้าท้องแล้วลากลงต่ำไปอีกนิดพลอยไพลินเม้มปากแน่น ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเลื่อนมือลงไปยังจุดอันตรายช้าๆ หญิงสาวหลับตาแน่น ตัดสินใจเลื่อนมือลงไปรีบถูรีบเช็ดแล้วชักมือออกอย่างรวดเร็ว หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวแรง เพราะไม่ว่าจะทำเร็วแค่ไหน เธอก็สัมผัสได้ถึงความอลังการของมัน“เสร็จแล้วค่ะ” พลอยไพลินก้มหน้าบอก แล้วรีบเก็บเสื้อผ้าชุดเก่า ยกกะละมังเดินหนีไปห้อ
“พี่โยเป็นยังไงบ้างคะ ปลาเพิ่งรู้ว่าพี่โยมาพักรักษาตัวที่นี่” ปาลิดา...คุณหมอสาววัยยี่สิบปลาย เป็นลูกสาวหนึ่งในผู้ถือหุ้นของโรงพยาบาลแห่งนี้ หญิงสาวรู้จักคุ้นเคยกับเขา เพราะวาโยพาคุณพ่อมารับการรักษาโรคประจำตัวที่นี่ประจำ และหญิงสาวเป็นหนึ่งในทีมแพทย์ที่ดูแลบิดาของเขา“ไม่เป็นไรมากครับ อาหมอบอกว่าอีกสองสามวันก็กลับบ้านได้” วาโยตอบยิ้มๆ ชายหนุ่มชำเลืองตามองคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงด้วยความหวั่นใจขั้นสุด“ปลาตกใจแทบแย่ตอนได้ยินข่าว ไม่เป็นไรมากก็ดีแล้วค่ะ รีบๆหายนะคะ ปลาเป็นห่วง ปกติเห็นพาคุณลุงมารับการตรวจรักษา มาวันนี้พี่โยกลับต้องมารับการรักษาเสียเอง เห็นแบบนี้แล้วปลาไม่ชินค่ะ” คุณหมอปลาพูดคุยอย่างคนคุ้นเคยกัน แต่ใครอีกคนที่ไม่คุ้น ไม่เคยเห็นหน้า ชักเริ่มหงุดหงิด“แล้วนี่จ้างพยาบาลพิเศษมาคอยดูแลหรือเปล่าคะ ให้ปลาจัดการให้ไหม” คุณหมอสาวเสนอตัวให้ความช่วยเหลือเต็มที่“พี่มีคู่หมั้นมาคอยดูแลแล้ว ไม่รบกวนหมอปลาล่ะครับ” ว่าโยยื่นมือไปกุมมือนุ่มของน้อง ดึงรั้งให้เธอขยับเข้ามายืนใกล้ๆ พลอยไพลินยอมขยับเข้าหาอย่างไม่เต็มใจเท่าไรนัก“คู่หมั้น! พี่โยหมั้นแล้วเหรอ
วันรุ่งขึ้นข่าวการหมั้นหมายระหว่างเจ้าของธุรกิจรักษาความปลอดภัยขนาดใหญ่กับทายาทเจ้าของบริษัทอัญมณีชื่อดังก็ถูกเผยแพร่ผ่านทุกช่องทางสื่อ“อื้อหือ! นี่พี่โยเขาจะให้เป็นวาระแห่งชาติเลยเหรอ” พลอยชมพูเข้ามาแซวพี่สาวซึ่งกำลังเตรียมตัวจะไปเฝ้าไข้คนเจ็บที่โรงพยาบาลถึงในห้อง“วาระแห่งชาติอะไร” พลอยไพลินถามน้องสาว คิ้วเรียวขมวดมุ่นงุนงง“ข่าวพี่เต็นกับพี่โยหมั้นกันไง ลงข่าวทุกสำนักเลยมั้งเนี่ย” พลอยไพลินทำหน้าล้อเลียนพี่สาวคนถูกล้อไม่ว่าอะไร พลอยไพลินอมยิ้มน้อยๆ คว้ากระเป๋ามาสะพายแล้วหันไปบอกน้องสาวที่นั่งอยู่บนเตียงของตน“ดีแล้ว จะได้ไม่มีใครมายุ่งกับพี่โยอีก”พลอยชมพูมองพี่สาวเดินออกจากห้องไปด้วยความแปลกใจ ปากก็พึมพำเบาๆ“ขี้หวงคู่หมั้นนี่นา”สองสัปดาห์ต่อมาคุณวาทิตและวาโยเดินทางมาที่บ้านของพลอยไพลิน เพื่อมาพูดคุยกันถึงเรื่องงานแต่งงานของสองหนุ่มสาว สองสัปดาห์ที่ผ่านมาวาโยแทบกระอักเลือดตาย เพราะตั้งแต่เขาออกจากโรงพยาบาลน้องไปเยี่ยมเขาแค่สองครั้ง และสองครั้งนั้นก็ไปพร้อมกับครอบครัว เขาและ
“พี่โย!” พลอยไพลินส่งสายตาดุให้คนที่แอบหอมแก้มตน“พี่อยากทำมากกว่านี้อีก” วาโยใช้นิ้วโป้งไล้เบาๆบนกลีบปากนุ่ม ชายหนุ่มหลุบตามองนิ้วของตนอย่างแสนจะอิจฉา เขาอยากจะทาบริมฝีปากลงไปแทนนิ้วเหลือเกิน“เข้าไปในบ้านกันเถอะ ป่านนี้คุณพ่อคงตกลงกับคุณน้าเรียบร้อยแล้ว” วาโยตัดใจจากกลีบปากน่าจูบ เขาจับจูงพาน้องเดินเข้าบ้าน“อ้าว! มาพอดีเลย แม่ว่าจะให้เด็กออกไปตามอยู่พอดี เต็นมานั่งกับแม่มาลูก”พลอยไพลินเดินไปนั่งลงข้างมารดาตามที่ท่านบอก ส่วนวาโยเดินไปนั่งข้างบิดา บรรยากาศในห้องรับแขกดูตึงเครียดแปลกๆ“คุณพ่อบอกว่าปีนี้ไม่มีฤกษ์ดีเลย เราเลยได้ข้อสรุปกันว่า งานแต่งงานของลูกกับวาโยจะเลื่อนไปเป็นปีหน้า” แม่กระแตเป็นคนแจ้งข่าวให้สองหนุ่มสาวได้ทราบ พลอยไพลินเพียงแต่พยักหน้ารับ เธอเข้าใจ แต่คนที่อยากเป็นเจ้าบ่าว อยากเข้าหอกับน้องจนแทบจะอกแตกตายอยู่รอมร่อหน้าซีดเผือดลงทันตาเห็น วาโยสบสายตาบิดาอย่างผิดหวัง“พ่อว่าก็ดีเหมือนกัน ลูกๆจะได้มีเวลาเตรียมตัวกัน ไม่ฉุกละหุก” คุณวาทิตอ้อมแอ้มบอกลูกชาย สายตาของท่านเต็มไปด้วยความเห็นใจ แต่จะให้ท่านว่าอย่างไรได้ ในเมื่ออยู่ดีๆ
“ก็...” คนเคยปีนเข้าห้องสาวในอดีตไม่มีคำแก้ตัวให้ตัวเอง“มันไม่เหมือนกัน”“ไม่เหมือนกันตรงไหนคะ” ตวิษาถามยิ้มๆ เมื่อสามีเริ่มตอบคำถามแบบคนพาล“ก็ฉันรักเธอมาก และรักมานานกว่าวาโยรักลูกสาวเรา” พ่อเพชรคนหวงลูกหยิบยกเหตุผลที่คิดว่าเหนือกว่าว่าที่ลูกเขยมาอ้าง“คุณเพชรอย่าพาลสิคะ”“ฉันไม่ได้พาล” คนพาลไม่ยอมรับว่าพาล“คุณเพชรไม่อยากให้ลูกมีความสุขหรือคะ” แม่กระแตเปลี่ยนมาพูดถึงลูกสาวบ้าง ท่าทีของคนหวงลูกจึงค่อยอ่อนลง“อยู่กับเรา ลูกก็มีความสุขดี” แม้จะพูดอย่างนั้น ทว่าใบหน้าของเพชรเพทายกลับแสดงถึงความไม่แน่ใจในสิ่งที่ตัวเองพูดออกมา“คุณเพชรขา” แม่กระแตโอบกอดร่างสามี ซบหน้ากับอกอบอุ่น“ตอนที่หนูหนีกลับไปอยู่ไร่ภูอิงฟ้า หนูไม่มีความสุขเลยสักนิด ทั้งที่มีคนที่รักและเอ็นดูหนูอยู่รอบกาย แต่หนูก็เอาแต่นอนร้องไห้ทุกคืนเพราะคิดถึงคุณเพชร”“กระแต...” เพชรเพทายถอนหายใจเฮือกใหญ่ วงแขนแกร่งโอบกอดร่างเล็กไว้แน่น เขาแนบแก้มกับศีรษะภรรยา“ฉันต้องยอมแพ้เหตุผลของเธอใช่ไหม ฉันต้องยอมให้ลูกแต่งงานกับวาโยเร็วๆนี้จริงๆเหรอ”“คุ
“ก็เจ้านายคนใหม่เขาสายเปย์ ไม่ขี้งกเหมือนพี่ต่ายนี่” พลอยไพลินนั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับพี่ชาย หญิงสาวยกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่มแล้ววางลง ก่อนเริ่มรับประทานอาหารเช้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพ่อเพชรลอบสังเกตลูกสาวแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเบาๆ ลูกดูมีความสุขมากที่จะได้ไปทำงานกับคู่หมั้น เป็นอย่างที่เมียบอกจริงๆด้วยแม่กระแตเห็นอาการสามีแล้วก็อมยิ้ม เอื้อมมือไปบีบมือเขาเบาๆให้กำลังใจ“จะขับรถไปเอง หรือวาโยจะมารับหรือกระเต็น”“พี่โยจะมารับค่ะคุณพ่อ” พลอยไพลินตอบบิดาแล้วยิ้มกว้างให้ท่าน“ไปทำงานกับพี่เขาก็ตั้งใจล่ะ จะมาเล่นๆเหมือนทำกับพี่ต่ายไม่ได้แล้วนะ วาโยเขาเป็นเจ้าของบริษัท อย่าทำให้พี่เขาต้องขายหน้า” พ่อเพชรบอกสอนลูกสาวด้วยความหวังดี“ค่ะ คุณพ่อ” พลอยไพลินรับคำ แล้วยิ้มหวานให้บิดา คนเป็นพ่อยิ้มตอบ ก่อนจะหันไปมองหน้าเมีย แม่กระแตยิ้มตอบ แอบยกนิ้วโป้งและขยิบตาให้สามี แม้ลูกจะมีความสุขอยู่แล้ว แต่หากมีอะไรที่จะทำให้ลูกมีความสุขเพิ่มมากกว่าเดิมอีก พ่อกับแม่ก็ยินดีจะยอมตามใจให้ทุกอย่าง“พี่โยจะให้เต็นทำอะไรบ้างคะ” พลอยไพลิน
สองสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาห่อเหี่ยวมากแค่ไหนน้องไม่รู้หรอก คิดถึงแทบขาดใจ พอได้อยู่ใกล้ๆ จะให้เขาอดใจไม่แตะต้องไม่ทำอะไรน้องเลยได้ยังไง มันต้องมีการเติมเต็มความรู้สึกที่ห่อเหี่ยวเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างสาสมพลอยไพลินหอบหายใจแรง เมื่อคนที่ตะโบมจูบเธออย่างหนักหน่วงราวกับตายอดตายอยากมาเป็นชาติถอนริมฝีปากออก เปิดโอกาสให้เธอได้หอบเอาอากาศเข้าปอดอย่างน่าสงสาร หญิงสาวแหงนเงยหน้าสบตาเขาด้วยสายตางอนๆวาโยหัวเราะเบาๆกับหน้าตาและท่าทีของน้อง เขาใช้ปลายนิ้วลูบแก้มนวลเบาๆ และค่อยๆเลื่อนไปแตะที่ริมฝีปากล่างซึ่งบวมน้อยๆ และปากน้องเลอะลิปสติก“ลิปสติกยี่ห้อนี้ไม่ดีเลย เลอะไปหมด”“จูบรุนแรงขนาดนี้ ยี่ห้อไหนก็เอาไม่อยู่หรอกค่ะ” พลอยไพลินว่าประชด หญิงสาวมองค้อนเขาด้วยความหมั่นไส้ ลิปสติกเขาทาเพื่อความสวยงาม ไม่ได้ทาเพื่อให้ใครมาทดลองว่าติดทนหรือเปล่าด้วยการจูบแบบไม่บันยะบันยังแบบนี้“ทีหลังก็ไม่ต้องทา เพราะพี่จะจูบเต็นทุกวัน” วาโยเอื้อมมือไปดึงกระดาษทิชชู่มาเช็ดลิปสติกที่เลอะออกให้น้องอย่างเบามือพลอยไพลินเองก็ยื่นมือไปดึงทิชชู่มาถือไว้ในมือเหมือนกัน วาโยเลิก
“เป็นธรรมดาที่คนสวยอย่างติ๊บจะมีคนมาชอบค่ะ” ตอบแล้วเธอก็เดินกลับไปที่ซิงค์ล้างจาน ลงมือล้างโดยไม่หันมาสนใจคนมีปัญหาคาใจกับแขกที่เข้าพักอีก พบรักรู้สึกถึงความร้อนที่แล่นพล่านอยู่บนหัว เธอรู้ว่าไอ้หมอนั่นชอบ แล้วเธอล่ะชอบมันไหม “แล้วติ๊บชอบมันไหม มันหน้าตาดีนะ” พลอยชมพูสะดุ้งตกใจเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาประชิดด้านหลัง และเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงขุ่นไม่พอใจ “ไม่ค่ะ เฉยๆ ก็บอกแล้วว่าติ๊บทั้งสวยทั้งน่ารัก ก็ต้องมีผู้ชายมาชอบเยอะสิคะ แต่ภูมิต้านทานเรื่องผู้ชายติ๊บสูงค่ะ เพราะที่บ้านมีแต่ผู้ชายหน้าตาดี พ่อติ๊บก็หล่อ ยิ่งพี่ต่ายนี่หล่อแบบ...” พลอยชมพูเงยขึ้นมองหน้าคนที่ยืนหน้าเคร่งอยู่เบื้องหลังตัวเองสายตาครุ่นคิดา “อืม...พี่ต่ายนี่หล่อแบบเอาคุณพบสักสิบคนมามัดรวมกันก็ยังหล่อไม่เท่าพี่ต่ายเลยค่ะ” หัวคิ้วเข้มย่นแทบจะชนกัน เมื่อถูกสาวเปรียบเทียบความหล่อของตนกับพี่ชายของเธอแบบไม่ไว้หน้ากันเลย พบรักขยับตัวเข้าใกล้ ใช้แขนสองข้างกักกันเธอไว้กับเค
พลอยชมพูกะพริบตาปริบๆ รีบลงจากเตียงแล้วเดินไปที่หน้าต่าง พอหญิงสาวเปิดม่านออกก็มองเห็นเขายืนโบกไม้โบกมืออยู่ข้างล่าง เธอปิดม่านแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อกลางวันแค่เธอคุยกับเขานิดเดียว แถมยังมีผู้คนอยู่ด้วยตั้งมากมาย พบรักยังจับเธอไปลงโทษด้วยบทรักเร่าร้อนท้าแสงแดด นี่ถ้ามาเห็นเธอคุยกับเขาที่หน้าบ้าน เธอจะโดนอะไรอีกไหมเนี่ยแต่สุดท้ายแล้วพลอยชมพูก็ต้องลงไปคุยกับเพื่อนชายที่ซุ้มไม้หน้าบ้าน เธออุตส่าห์ทำตัวเป็นผู้ฟัง ไม่ซักไม่ถาม วิศรุตถามคำเธอก็ตอบคำ หวังว่าเขาจะเบื่อแล้วกลับห้องพักไปก่อนที่เจ้าของบ้านจะกลับมา แต่อีตานี่ก็หน้าด้านหน้าทนกว่าที่คิด ขุดเรื่องตั้งแต่สมัยปีมะโว้มาคุยกับเธอได้เป็นคุ้งเป็นแคว แหม...รู้สึกคิดถูกมากๆที่ไม่สนใจเขาตั้งแต่ตอนที่เขาเข้ามาจีบใหม่ๆ เพราะไม่งั้นเธออาจจะเบื่อตายไปเลยก็ได้ เธอไม่ชอบผู้ชายพูดมาก เพราะลำพังตัวเธอเองก็พูดมากอยู่แล้ว เธอชอบคนที่พร้อมจะฟังมากกว่า เหมือนคุณพบนั่นไง พอคิดถึงคนที่ฟังเธอเสียเป็นส่วนมาก เขาก็โผล่มาพอดีพบรักจอดรถกอล์ฟที่หน้าบ้าน แล้วเดินหน้าบึ้งเข้ามาหาเธอกับวิศรุตที่ซุ้มไม้“ที่นี่เป็นที่พักส่วนตัวของผม ไม่
“เดือนนี้ไม่หักแล้ว จะให้เพิ่มด้วย” พบรักบอกยิ้มๆ“ให้เพิ่มทำไม ติ๊บไม่ได้ทำงานอะไรเพิ่มสักหน่อย” คนไม่อยากเอาเปรียบนายจ้างปฏิเสธไม่รับเงินค่าจ้างเพิ่มโดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรเพิ่มพบรักถอนหายใจบางเบา เขาลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งเก้าอี้ข้างหญิงสาว ดูเหมือนเธอจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเหตุการณ์เร่าร้อนที่เขาและเธอเพิ่งทำกันไปเมื่อครู่ใหญ่“กระติ๊บ” พบรักจับมือบางทั้งสองข้างมากุมไว้ เขามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาดุ ไม่พอใจที่เธอไม่เรียกร้องอะไรจากเขาเลย ทั้งๆที่เขาอยากให้เธอเรียกร้องเอาทุกอย่างจากเขา เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ทั้งตัว หัวใจ เงินทอง ทรัพย์สมบัติต่างๆ เขาพร้อมจะยกให้เธอทั้งหมด“อะ...อะไรคะ” พลอยชมพูเอนตัวหลบคนที่อยู่ดีๆก็เดินมาจับมือถือแขนเธอ ที่จริงเธอก็ไม่ควรตกใจอะไรหรอก เพราะมากกว่ามือเขาก็จับมาแล้ว แต่บอกตรงๆว่าเธอยังไม่ชิน ถึงจะไม่ได้รังเกียจเขา แต่ก็ใช่ว่าเธอจะชอบที่เขาเข้ามาใกล้ชิดแบบนี้ เพราะมันทำให้หัวใจเธอสั่น“คุณไม่คิดจะเรียกร้องอะไรจากผมหน่อยหรือ”พลอยชมพูมองหน้าเขานิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนระบายยิ้มหวานสดใสให้เขา“แล้วคุณพบอยากใ
พลอยชมพูหลับตา แหงนเงยหน้าเชิดสูง พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความซ่านเสียวสะใจ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่รู้สึกไปกับเขามากมายขนาดนี้ และเมื่อเขาเริ่มโยกกายถอดถอนสลับเติมเต็มในจังหวะเชื่องช้า หญิงสาวก็ครางเบาๆอย่างกับลูกแมวน้อย มันเสียวสะท้านก็จริง ทว่าเธอคิดว่ามันอ่อนโยนเกินไป หญิงสาวจึงโยกสะโพกกลับไปด้านหลัง ในจังหวะที่เขาสอดเสยเข้าหาเธอพอดี เสียงเนื้อสะโพกหนั่นแน่นปะทะกับหน้าขาจึงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่างคนต่างใส่แรงเข้าหากันไม่มีใครยอมใคร แต่คนแรงน้อยกว่าสูญเสียอธิปไตยในน่านน้ำตัวเองไปหลายครั้ง กว่าเธอจะรีดรัดคนแข็งแกร่งห้าวหาญจนเขายอมพ่ายแพ้ก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง “ไปเดินอีท่าไหนให้หกล้มหัวเข่าถลอกแบบนี้คะ” ลำดวนถามคนที่ตนกำลังทำแผลให้ หญิงสาวนั่งอยู่บนโซฟาในบ้านพักของเจ้าของรีสอร์ตพลอยชมพูตวัดสายตาดุขึ้นมองตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องหัวเข่าถลอก เขายืนกอดอกตีหน้านิ่งอยู่ใกล้ๆ แต่เมื่อสบสายตากับเธอ เขาก็ยิ้มบางบนใบหน้า แถมยังยักคิ้วข้างหนึ่งใส่เธอด้วย คนเจ็บตัวเพราะความหื่นปรอทแตกของเขาจึงสะบัดค้อนให้จนคอแทบเคล็ด
ใบหน้าที่หลับตาพริ้ม อ้าปากเผยอครางเสียงหวานดังผะแผ่ว ทำให้พบรักเร่งมือเพื่อส่งเธอไปสุดปลายทางล่วงหน้าก่อน เขาสอดนิ้วกลางเข้าสู่ร่องสาวคับแน่น ชักเข้าออกกระทุ้งแรง รับรู้ได้ถึงกล้ามเนื้ออ่อนที่บีบรัดรอบจากปลายสุดโคนนิ้ว ชายหนุ่มสูดลมหายใจยาว เขาแข็งขึงทรมาน อยากจะพาสัดส่วนที่ขยายใหญ่โตสอดลึกในตัวเธอแล้ว ทว่าก็ได้แต่ยับยั้งใจไว้ก่อน ความสดใหม่ของเธอทำให้เขาต้องรีดเค้นน้ำหวานออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เธอต้องเจ็บตัวมากเหมือนครั้งแรก“คุณพบ!” พลอยชมพูหลับตาแน่น เงยหน้าขึ้นครวญครางเรียกชื่อคนที่กำลังปรนเปรอเธอด้วยนิ้วมืออย่างดุดัน เมื่อไม่อาจต้านทานบทเพลงกามาที่บรรเลงโดยนิ้วเรียวยาวที่พร่างพรมลงใจกลางความเป็นหญิง สะโพกสวยก็ขยับเร็วเพื่อจะไปให้ถึงบทสุดท้ายของเพลงรัก เผลอให้ความร่วมมือไปโดยไม่รู้ตัว“กระติ๊บ...” พบรักจับจ้องมองใบหน้าน่ารักไม่วางตา เขากระซิบเรียกเธอซ้ำๆ จูบปลายคางเล็ก แล้วอ้าปากงับเบาๆ เร่งขยับซอยนิ้วมือกระทั่งส่งเธอข้ามพ้นขอบเขตความอดกลั้น หญิงสาวระเบิดตัวเองหยาดน้ำใสฉีดล้นซอกขาเปรอะเปื้อนเต็มหน้าตักเขาพลอยชมพูหอบหายใจแฮกๆ หญิงสาวเอนกายซวนซบอกกว
“อุ๊ย!” พลอยชมพูมัวแต่โมโหคนที่ไม่ยอมปล่อยเธอสักที หญิงสาวเลยมองเมินไปยังพื้นที่สีเขียวโล่งกว้างตรงหน้า โดยไม่ทันระวังตัว พบรักก็รวบเอวคอดดึงตัวเธอขึ้นไปนั่งบนตักเขา แล้วกักกอดไว้แน่น แผ่นหลังนุ่มแนบไปกับอกกว้างกำยำ“คุณพบ! จะทำอะไรคะ ปล่อยนะ” พลอยชมพูหันหน้าไปต่อว่าเขา ใบหน้าสาวบูดบึ้งไม่พอใจอย่างที่สุด“นั่งพักสักหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับ”“จะนั่งก็นั่งดีๆสิคะ ทำไมต้องมากอดคนอื่นแบบนี้”“คนอื่นที่ไหน เมียทั้งคน”ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง มองหน้าคนที่เรียกตัวเองว่าเมียด้วยสายตาแตกตื่น พบรักมองสีหน้าตกใจของเธอแล้วยิ้มขำ พอเห็นคนที่เอาแต่ตกตะลึงตาค้างกับตำแหน่งใหม่ที่เขามอบให้ แถมริมฝีปากอิ่มที่เผยอน้อยๆนั่นก็ยั่วใจเขาเหลือเกิน ชายหนุ่มจึงอดใจไม่ไหว เขาโน้มใบหน้าลงไปใกล้อีกนิด หวังจะชิมความหวานจากปากนุ่ม แต่ดูเหมือนคนกำลังจะถูกเขารังแกจะรู้ตัวเสียก่อน มือบางสองข้างจึงถูกยกขึ้นมาปิดกั้นปากเขาไว้แล้วดันออกสุดแรงจนหน้าแทบหัน“จะทำอะไรคะ” พลอยชมพูถามเสียงขุ่น หญิงสาวดึงมือกลับมาเช็ดๆถูๆกับกางเกง มองค้อนคนจ้องจะเอาเปรียบเธอปากเขานุ่มชะมัด บ้าจริ
“ไอ้หมอนั่นใคร”เสียงเข้มไม่พอใจที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้พลอยชมพูสะดุ้ง หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนหมุนตัวกลับไปยืนประจันหน้ากับเจ้าของรีสอร์ตนิสัยเสียที่กล้าเรียกลูกค้าว่าไอ้หมอนั่น“ลูกค้าค่ะ”“รู้แล้วว่ามันเป็นลูกค้า มันรู้จักกระติ๊บด้วยเหรอ”“เป็นเพื่อนกันสมัยเรียนปอโทค่ะ”“เมื่อกี้มันขอเบอร์ด้วย”“ค่ะ” พลอยชมพูตอบแล้วหันไปคว้าถาดมาถือ เดินหนีคนช่างซัก“จะไปไหน” พบรักเดินตามติดต้อยๆ“เอาถาดไปเก็บค่ะ”“ผมช่วย” พบรักแย่งถาดจากมือบาง แต่ลูกจ้างสาวไม่ยอม พลอยชมพูดึงเอาไว้แน่น“ไม่ต้องค่ะ”“ต้อง” พบรักใช้แรงที่มีมากกว่าดึงถาดมาจากมือเธอจนได้ พลอยชมพูมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ คนบ้าอะไรเนี่ย คนจะทำงาน เขาจะมาวุ่นวายวอแวอะไรกับเธอนักหนา“งั้นก็ฝากไปเก็บด้วยนะคะ ติ๊บจะไปช่วยพี่น้ำตาลค่ะ” พลอยชมพูสะบัดหน้าเดินหนีเอาดื้อๆ พบรักมองตามเธอ แล้วก้มมองถาดในมือ เรื่องอะไรจะเอาไปเก็บ เธอไม่ไป เขาก็ไม่ไป ชายหนุ่มพยักหน้าเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลให้มารับถาดไปเก็บ แล้วเดินตามไปยังเคาน์เตอร์ที่พลอยชมพูยืนอยู่กับกลุ่
“ผมก็เป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเหมือนกัน” คนไม่อยากให้สาวทำงานลำบากรีบเอ่ยอ้างพลอยชมพูเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจลึก นี่เธอกำลังคุยกับผู้ใหญ่อายุสี่สิบหรือเด็กอายุสิบขวบกันแน่นะ“ติ๊บจะไปช่วยงานคนอื่นแล้ว ห้ามตามมานะคะ ไม่อย่างงั้นติ๊บจะหนีกลับบ้านจริงๆด้วย” พลอยชมพูหันหลังเดินออกจากห้องไปทันทีที่พูดจบ คนที่ถูกเธอขู่ไม่กล้าลุกเดินตามไป พบรักทำได้เพียงถอนหายใจมองตามตาละห้อย เขากลัวเธอหนีกลับบ้าน กลัวเธอไม่อยู่ให้เขารับผิดชอบเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานเจ้าของรีสอร์ตได้แล้ว พลอยชมพูถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก บางทีเธอก็ไม่เข้าใจว่า การที่เธอเอาเรื่องนี้มาขู่เขานี่ถูกต้องแล้วใช่ไหม คือเธออดสงสัยไม่ได้ว่าตรรกะการได้เสียระหว่างเธอกับเขามันดูเพี้ยนๆ เขาต้องการรับผิดชอบ ในขณะที่เธอยังไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น และยังไม่อยากตัดสินใจอะไรตอนนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเสียใจ แต่ที่มากกว่าความเสียใจคือ เธอกลัวครอบครัวรู้ กลัวพวกท่านจะผิดหวังในตัวเธอ แต่จะให้ร้องไห้คร่ำครวญจมอยู่ในห้วงทุกข์ตลอดเวลาก็ดูจะไม่ใช่ ไม่น่าทำ เธอโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีภูมิคุ้มกันภาวะจิตใจและอาร
“ยังไม่หิวค่ะ” พลอยชมพูบอกเสียงเบา หญิงสาวไม่รู้จะทำตัวเช่นไร จึงได้แต่ยืนขัดเขินทั้งกังวลอยู่กลางห้อง รอให้เขาเริ่มพูดเรื่องนั้นขึ้นก่อน“กระติ๊บ”“คะ” คนถูกเรียกสะดุ้ง หันไปมองเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ปลายเตียงของเขา“มานั่งตรงนี้ เราต้องคุยกัน” พบรักตบมือลงข้างๆที่ตัวเองนั่งอยู่“คุณพบพูดมาเลยค่ะ ยืนอยู่ตรงนี้ ติ๊บก็ได้ยิน”“ถ้าไม่มานั่งดีๆ ผมจะเดินไปอุ้ม”คำขู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำให้ใบหน้างามงอง้ำ พลอยชมพูพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะยอมเดินไปนั่งข้างเขา ซึ่งหญิงสาวทิ้งระยะห่างพองาม พบรักเองก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้เธอมานั่งชิดตัวติดกัน“กระติ๊บอยากให้ผมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง” พบรักเอ่ยถามตรงๆไม่อ้อมค้อม คนที่ต้องตอบคำถามอึ้งไปไม่เป็น รับผิดชอบอย่างไรงั้นหรือ แต่งงานคงไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไรนัก เพราะหากชีวิตคู่ของเธอเริ่มต้นจากการเสียตัวเพราะความเมา มันก็คงจบไม่สวยเท่าไรหรอกมั้ง เธอกับเขายังรู้จักกันไม่ดีพอ ยังไม่มากพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน“อย่าเพิ่งปฏิเสธความรับผิดชอบจากผม เราค่อยๆเรียนรู้กันไปก่อนได้ไหม”พลอยชมพูเ