แชร์

๑๘ เรื่องในอดีต

ผู้เขียน: วอลจู
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-05 13:41:14

ณ จวนสกุลเฝิง

ยามนี้บรรยากาศอึมครึมคล้ายพายุฝนห่าใหญ่กำลังก่อตัว ลมหอบโชยพัดพากลิ่นคาวเลือดคลุ้งลอยกระจายอบอวลทั่วอากาศ ร่างไร้วิญญาณของผู้คนจวนสกุลเฝิงล้มตายเกลี้ยงเต็มพื้น อาภรณ์ที่เคยหรูหราบัดนี้กลับเปียกโชกด้วยโลหิตสีแดงสดอย่างน่าอนาถใจ

คฤหาสน์ของจวนสกุลเฝิงเคยเป็นของหนึ่งในตระกูลขุนนางใหญ่แห่งราชสำนัก ทว่าบัดนี้นั้นกลับกลายเป็นแดนสังหารเพียงชั่วข้ามคืน…

เพราะนายท่านเฝิงเป็นถึงคณบดีเสนาผู้กุมอำนาจสูงสุดในวังหลวงรองเพียงผู้นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรเท่านั้น ย่อมมีเหล่าขุนนางที่หวั่นเกรงอยู่ไม่น้อยและย่อมมีผู้คอยหนุนหลังอยู่มาก ทว่าสุดท้ายแล้วตระกูลเฝิงกลับต้องพบจุดจบอย่างน่าเวทนาเช่นนี้

หากนี่ไม่ใช่การสะสางความแค้นที่สกุลเฝิงไปบังเอิญขัดขาผู้ใดเข้าก็คงเป็นการปิดปากจวนสกุลเฝิงที่รู้มากเกินไปแน่

พอเหตุการณ์นี้แพร่สะพัดออกไปจนทั่วเมืองมีผู้ใดไม่รู้บ้าง เหล่าชาวบ้านต่างจับกลุ่มพูดวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานาแต่ถึงแบบนั้นแล้วก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถหาคำตอบได้ว่า...เพราะเหตุใด

หรือแท้จริงแล้วมีผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้กันแน่!?

ภายในจวนสกุลเฝิงเต็มไปด้วยคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนพร้อมกับร่
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๒๐ บทละครฉากหนึ่ง

    พอเจียงชุนหลินเห็นสตรีตรงหน้ามีท่าทางตื่นตระหนกจู่ๆ นางก็พลันหัวเราะออกมาเบาๆ ด้วยความเย้ยหยัน มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยด้วยความดูแคลน “คุณหนูหลี่ตกใจงั้นหรือ” น้ำเสียงหวานกล่าวออกมาอย่างเย็นชา”“ข้าถามว่าเจ้าคิดจะทำอันใดกันแน่” หัวคิ้วของหลี่จื่อหนิงขมวดมุ่นด้วยความงุนงงเจียงชุนหลินระบายยิ้มจางๆ ไม่ได้ปริปากพูดอันใดออกมา นางปรายสายตาหันไปเห็นสาวใช้รอบจวนที่ต่างก็เพ่งมองมายังทางนี้จากนั้นจึงตาหันกลับมา “ข้าจะทำอันใดได้งั้นหรือ…”“…”“คุณหนูหลี่…!” ใบหน้าของเจียงชุนหลินเต็มไปด้วยความร้ายกาจ น้ำเสียงหวานร้องตะโกนอย่างจงใจ!!!หลี่จื่อหนิงยังไม่ทันพูดอันใดออกไป อีกฝ่ายก็เล่นใหญ่โวยวายส่งเสียงร้องเสียงดังจนกระทั่งเหล่าสาวใช้ที่อยู่บริเวณนั้นต่างปรี่เข้ามาด้วยความตกใจทันทีสตรีผู้นี้คิดจะแสดงละครฉากหนึ่งหรอกหรือ…!?ยามนี้ภายในใจของหลี่จื่อหนิงกระจ่างแจ้งแล้ว นางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนกัดขนมเปี๊ยะกินอย่างสบายใจ สายตามองดูสตรีตรงหน้าไปพลางๆ โดยไม่รู้สึกร้อนร้นอันใด“แสดงต่อซิ…” หลี่จื่อหนิงกล่าวออกมาเกรงว่าละครฉากนี้คงเป็นบทนางเอกใสซื่อที่โดนนางร้ายกระทำจนได้รับบาดเจ็บกระมัง…เอาเถอะ…นาง

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๑๙ เมื่อรสหวานกลายเป็นยาพิษ

    เหตุใดเขาถึงถามเช่นนี้ออกมา…พอได้ยินประโยคนี้หลี่จื่อหนิงชะงักไปทันที ภายในห้องพลันเงียบสงบลงไปและมีเพียงเสียงหายใจออกของคนทั้งคู่เท่านั้นว่ากันตามตรงแล้วนางไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนหลี่จื่อหนิงอ่านนิยายแนวทะลุมิติย้อนอดีตมาหลายเรื่องแต่กลับไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าชะตาชีวิตในตอนนี้จะคล้ายคลึงกับนิยายที่เคยอ่านมาหญิงสาวจากยุคปัจจุบันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาของพ่อตัวร้ายผู้นี้อย่างงั้นหรือ…?น้ำเสียงหวานกล่าวออกมาด้วยความจริงจัง “ชีวิตของข้าตั้งแต่เด็กจนโตมีชีวิตมาอย่างยากลำบากทั้งทุลักุเทไม่น้อย หากท่านถามเช่นนี้ ข้าก็จะตอบว่าอยากได้บุรุษผู้ร่ำรวยมาเป็นสามีไม่ต้องใช้ชีวิตดิ้นรนก็พอแล้ว”นางขอใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไม่ต้องมีเรื่องใดต้องคิดให้เหนื่อยใจก็พอแล้วเฝิงอวี่เซี่ยนได้ยินแล้วขมวดคิ้วมุ่นด้วยความงุนงง ก่อนจะเลิกคิ้วเอ่ยถาม “จวนสกุลหลี่ขัดสนเช่นนั้นหรือ…?”!!!หลี่จื่อหนิงได้ยินแล้วชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะใช้แขนผละออกจากอีกฝ่ายทันที เกรงว่าหากพูดไปเขาก็คงไม่เข้าใจกล่าวหานางว่าเป็นสตรีสติฟั่นเฟือนกระมัง“ช่างเถอะ…พูดไปอย่างไรท่านก็คงไม่มีวันเข้าใจอยู่ดี”เฝิงอวี่เซี่ยนแค่นเสียงเบาๆ ภา

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๑๘ เรื่องในอดีต

    ณ จวนสกุลเฝิงยามนี้บรรยากาศอึมครึมคล้ายพายุฝนห่าใหญ่กำลังก่อตัว ลมหอบโชยพัดพากลิ่นคาวเลือดคลุ้งลอยกระจายอบอวลทั่วอากาศ ร่างไร้วิญญาณของผู้คนจวนสกุลเฝิงล้มตายเกลี้ยงเต็มพื้น อาภรณ์ที่เคยหรูหราบัดนี้กลับเปียกโชกด้วยโลหิตสีแดงสดอย่างน่าอนาถใจคฤหาสน์ของจวนสกุลเฝิงเคยเป็นของหนึ่งในตระกูลขุนนางใหญ่แห่งราชสำนัก ทว่าบัดนี้นั้นกลับกลายเป็นแดนสังหารเพียงชั่วข้ามคืน…เพราะนายท่านเฝิงเป็นถึงคณบดีเสนาผู้กุมอำนาจสูงสุดในวังหลวงรองเพียงผู้นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรเท่านั้น ย่อมมีเหล่าขุนนางที่หวั่นเกรงอยู่ไม่น้อยและย่อมมีผู้คอยหนุนหลังอยู่มาก ทว่าสุดท้ายแล้วตระกูลเฝิงกลับต้องพบจุดจบอย่างน่าเวทนาเช่นนี้หากนี่ไม่ใช่การสะสางความแค้นที่สกุลเฝิงไปบังเอิญขัดขาผู้ใดเข้าก็คงเป็นการปิดปากจวนสกุลเฝิงที่รู้มากเกินไปแน่พอเหตุการณ์นี้แพร่สะพัดออกไปจนทั่วเมืองมีผู้ใดไม่รู้บ้าง เหล่าชาวบ้านต่างจับกลุ่มพูดวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานาแต่ถึงแบบนั้นแล้วก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถหาคำตอบได้ว่า...เพราะเหตุใดหรือแท้จริงแล้วมีผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้กันแน่!?ภายในจวนสกุลเฝิงเต็มไปด้วยคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนพร้อมกับร่

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๑๗ ตัดสินใจแล้ว

    เมิ่งซือซือพอได้ยินพี่ชายเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ว่านางจะรู้สึกโมโหมากเพียงใด ทว่าใบหน้ากลับระบายกว้างยิ้มออกมาอย่างด้วยความดีใจห้ามไม่อยู่“เช่นนั้นเสี่ยวหรันและอาหยวนจะอยู่ที่นี้ตอนไปใช่หรือไม่” น้ำเสียงใสเอ่ยถามด้วยความยินดีอย่างปิดไม่มิดใบหน้าของเมิ่งซือซือคลี่ยิ้มกว้างจนตาหยี แววตาเปล่งประกายวาววับคล้ายเด็กน้อยที่กำลังเฝ้ารอคำตอบจากผู้ใหญ่เพื่อจะได้ของเล่นชิ้นโปรดก็ไม่ปานเมิ่งหานเฟิ่งเห็นท่าทางของนางสาวแล้วพลางส่ายหน้าไปมาอย่างระอาใจ “ไป๋เสี่ยวหรันและอาหยวนย่อมสามารถอยู่ที่นี้ได้ตามต้องการ…หากจะนานเท่าไหร่นั้นล้วนขึ้นอยู่กับนางหาใช่ข้า” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยอย่างอ่อนโยน พลางตวัดพู่กันเขียนอักษรลงบนกระดาษอย่างสงบเพียงได้ยินเช่นนั้น เมิ่งซือซือก็ดีใจจนยิ้มกว้างไม่หุบนางอดคิดไม่ได้ว่า…คงมองไม่ผิดนัก ช่วงนี้พี่ชายของนางดูเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เวลาเช่นนี้แต่เดิมหากไม่มีเรื่องสำคัญก็หายากนักที่เขาจะอยู่จวนได้นานถึงเพียงนี้...เดิมทีนั้น...กว่านางจะตื่นนอน ลุกขึ้นมาล้างหน้าบ้วนปาก ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จสิ้นและก้าวออกจากเรือนได้ก็มักล่วงเข้าสู่ช่วงปลายยามเฉินแล้ว (7.00 – 9.00 น.)แ

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๑๖ ตามติดทุกฝีก้าว

    หลายวันผ่านไป…“เฝิงอวี่เซี่ยน…ข้าเหนื่อยจนแทบจะลืมตาไม่ขึ้นแล้ว”“…”“อวี่เซี่ยน...! มารดาหิวนัก”“…”“ข้าง่วงนอนแล้ว!”เสียงร้องของหลี่จื่อหนิงดังก้องไปทั่วทั้งจวน เหล่าสาวใช้ที่ได้ยินแล้วต่างพากันหัวเราะเบาๆ ด้วยความเอ็นดู บางคนถึงกับกระซิบกระซาบว่า…คุณหนูผู้นี้ช่างเอ็นดูยิ่งนัก! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนายท่านเฝิงถึงยินยอมให้นางเข้าออกจวนได้ตามใจเช่นนี้ แม้แต่คุณหนูสกุลเจียงผู้นั้นที่ดูสนิทสนมกับนายท่านอยู่มากก็ไม่อาจทำตามใจรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวได้เช่นนี้บรรยากาศในจวนเฝิงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เหล่าบ่าวไพร่ล้วนมองหลี่จื่อหนิงที่เดินตามเฝิงอวี่เซี่ยนทุกฝีก้าวราวกับเงาติดตามบุรุษหนุ่มไปทุกหนแห่ง ไม่ว่าจะอยู่ภายในห้องหนังสือ เดินเล่นที่สวนหรือแม้กระทั่งแต่หอฉีเยียนทว่าใบหน้าของเฝิงอวี่เซี่ยนกลับเรียบเฉย ไม่ปรากฏรอยยิ้มออกมา ในสายตาของเขานั้นสตรีผู้นี้หาได้น่าเอ็นดูแต่กลับเป็นตัววุ่นวายที่ตามติดเขาตลอดหลายวันมิใช่ว่าบุรุษผู้นั้นเอ่ยปากเอาไว้แล้วหรอกหรือว่าจะห้ามนางไม่ให้มาเจอเขาอีก! แล้วเหตุใดถึงกลายเป็นเช่นนี้ได้ภายในใจของเขาย่อมเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและรำคาญใจไม่น้อยเฝิงอวี่เซี่ยนเ

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๑๕ บังเอิญหรือจงใจ

    แสงจันทราสาดส่องเล็ดลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาภายในห้องจึงมืดสลัวมองไม่ค่อยเห็นสิ่งใดนัก ทุกอย่างรอบตัวเงียบสงบมีเพียงเสียงหายใจของทั้งสองคนที่ประสานกันในความมืดเท่านั้นเฉิงอี้หยางพยายามข่มตาลงอย่างทว่าสุดท้ายก็ไม่อาจนอนหลับสนิทได้เสียที ความคิดต่างๆ ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวจนทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดใจเขาถอนหายใจออกมาเงียบๆ ครั้งแล้วครั้งเล่าเสียงหายใจหนักๆ ของบุรุษข้างกายดูเหมือนจะเบียดบังความเงียบสงบในห้องไปจนทำให้เจียงชุนหลินที่นอนข้างๆ รู้สึกถึงมันได้ นางพลันลืมตาขึ้นก่อนจะพลิกตัวไปทางเขาพลันรู้สึกได้ถึงความกังวลที่แผ่ซ่านออกมาน้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง “ยามนี้ในวังหลวงมีเรื่องอะไรงั้นหรือ” นางถามออกมาด้วยความเป็นห่วงเจียงชุนหลินขยับตัวเข้าใกล้เขาอีกนิดก่อนจะซบลงบนอกแกร่งของเขา มือของนางพลันยื่นออกไปกอบกุมฝ่ามือเอาไว้หลวมๆ “รู้ใช่หรือไม่ว่ายามนี้ท่านไม่ต้องแบกความรู้สึกหนักอึ้งเหล่านั้นเอาไว้ผู้เดียวอีกแล้ว”ภายใต้ความมืดเช่นนี้ นางไม่สามารถมองเห็นสีหน้าของเขาได้เลยว่าเป็นอย่างไร แต่เจียงชุนหลินกลับสัมผัสได้ถึงความไม่สบายใจในตัวเขาเฉิงอี้หยางไม่ได้ตอบกลับในทันทีเพียงแค่เงีย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status