LOGIN“นอนหลับอยู่ดี ๆ ลืมตามาอีกทีดันมาอยู่ในยุคโบราณซ่ะได้ แทนที่จะทะลุมิติมาอยู่ในร่างของคุณหนูบุตรสาวท่านใต้เท้ากลับกลายเป็นสาวชาวบ้านยากจนมันโชคชะตาอะไรกันของคุณหนูบ้านรวยอย่างเซี่ยวซือที่ต้องมาพบเจอ ”
View Moreบทนำ
เซี่ยวซือ เจ้าของโรงแรมขนาดใหญ่ย่านมณฑลต้าหลง ชีวิตของเธอแทบไม่ได้ต้องทำงานอะไรด้วยซ้ำ เพราะทุกอย่างพ่อกับแม่ของเธอสร้างเอาไว้ให้ วัน ๆ เธอเดินเข้าเดินออกราวกับว่านั่นคืองานประจำที่ต้องมาแสดงตัวให้พนักงานเห็น
โดยมีเลขาคอยช่วยเหลือดูงานให้ทุกอย่าง จนวันหนึ่งเลขาเหน็ดเหนื่อยจากทางบ้าน ต้องมาแบกหน้าที่ของเจ้านายผู้เกียจคร้าน เธอหลุดปากภาวนาต่อฟ้าดินให้เจ้านายได้รู้จักรับรู้ความเหน็ดเหนื่อยและทุกยากของลูกน้องอย่างเธอบ้าง
และใครจะคาดคิดคำขอของเธอเป็นจริง เมื่อเซี่ยวซือนอนตื่นอย่างเคยทุกวันทว่าเธอไม่ได้อยู่ในห้องแสนสุขของเธอ เตียงนอนที่เคยนุ่มกลับแข็งกระด้างปวดหลังไปหมด เมื่อลืมตาขึ้นมาเธอต้องตกใจไปมากกว่าเดิม เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าที่นี่ไม่ใช่บ้านเธอ แถมยังเป็นยุคโบราณกับครอบครัวยากจนแต่งตัวมอมแมมสภาพบ้านแทบไม่ใช่บ้าน เซี่ยวซือกรี้ดร้องสลบไปครั้งแล้วครั้งเล่าคิดว่าตัวเองยังไม่ตื่นจากความฝัน ลืมตามาอีกครั้งก็ยังพบว่าเธออยู่ที่เดิม จนเธอต้องยอมรับว่าตอนนี้เธอทะลุมิติมาอยู่ในร่างของหญิงสาวยุคโบราณกำพร้าพ่อแม่มีน้อง 2 คนต้องเลี้ยงดู แล้วอย่างนี้คนขี้เกียจอย่างเธอจะไปเลี้ยงใครเขาได้ ขนาดงานเธอยังไม่เคยทำด้วยซ้ำ ครั้นนั้นเหมือนมีเสียงสวรรค์ดังขึ้นกึกก้องในหู ระบบมิติโปร่งใสแสดงต่อหน้าของเธอ เซี่ยวซือแววตาสดใสเมื่อเห็นหนทางรอด การใช้ชีวิตอยู่ในยุคจีนโบราณไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เธอจะเลี้ยงดูน้อง ๆ และครอบครัวเอง
นิยายเรื่องนี้แต่งตามความเข้าใจของนักเขียนเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
ตอนที่ 1 ทะลุมิติ
“พี่เซี่ยวซือข้าหิวขอรับ ท้องของข้าปั่นป่วนไปหมดเหมือนมีมือเข้าไปบีบรัดลำไส้ของข้า ท่านพี่ได้โปรดตื่นเสียที” เด็กชายตัวแห้งผอมเขย่ากายพี่สาวของตนเองอีกมือกุมที่ท้องด้วยความหิวโหยริมฝีปากแตกแห้งไม่ได้กินแม้กระทั่งน้ำเป็นเวลาหลายชั่วยาม สตรีร่างบางนอนอยู่บนแคร่ไม้ไผ่มีเพียงผ้าบาง ๆ ปูรองให้นอน ร่างกายของนางขาวซีดไร้เลือดฝาด ริมฝีปากแตกแห้งยิ่งกว่าน้องชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ปลุกนางเสียอีก
“เซียวหลงข้ามาแล้ว ท่านพี่ฟื้นหรือยัง” เสียงชายอีกคนดังขึ้นจากด้านนอก เนื้อตัวเหนียวเหนอะนะ เหงื่อไหลออกมาราวเสมือนผ่านการวิ่งมาอย่างเหน็ดเหนื่อย
“พี่เซียวจ้าน ท่านพี่เซี่ยวซือยังไม่ฟื้นเลยขอรับ ท่านได้อะไรมาบ้างข้าหิวเหลือเกิน” เด็กชายลุกขึ้นเดินไปหาพี่ชายที่มีอายุมากกว่าตนเอง 7 หนาว เซียวจ้านรีบเทของที่หอบมาเมื่อครู่ลงบนโต๊ะให้น้องชายตัวน้อยได้กินเพื่อประทังชีวิต
“ข้าได้มาเพียงหมั่นโถวแข็ง ๆ เจ้าทนกินมันได้หรือไม่ แล้วก็มีเศษผักนี่ข้าจะไปจุดไฟเพื่อนำไปผัดให้เจ้าได้กินกับหมั่นโถวช่วยรอข้าอีกครู่นะเซียวหลง”
“อย่างไรข้าก็รอมาขนาดนี้แล้ว ข้าจะรอท่านอีกชั่วครู่จะเป็นอันใดไปเล่า ” เด็กชายพยายามข่มความหิวรอให้พี่ชายนำผักไปผัดกับอุ่นหมั่นโถวจิ้มผัดผักแทนข้าวสาร
ทว่าไม่ทันที่เซียวจ้านจะเข้าไปในครัวเสียงดังเอะอะด้านนอกได้ดังขึ้น
“เจ้าพวกหน้าด้าน ไม่มีหนทางทำมาหากินหรือไงถึงได้ไปขโมยของพวกข้า ออกมาเดี๋ยวนี้นะวันนี้ข้าจะเอาเลือดที่หัวของเจ้าไม่เช่นนั้นเจ้าจะไม่รู้จักสำนึกความผิด ไร้บิดามารดาทำตัวเป็นโจร”
ใบหน้าของเซียวจ้านซีดเผือดกระวนกระวายทำตัวไม่ถูก
“พี่เซียวจ้านชาวบ้านมาตะโกนด่าทอเราทำไมหรือขอรับ หรือว่าหมั่นโถวกับเศษผักนี่พี่ไปขโมยของเขามาจริง ๆ ”เซียวหลงจับปลายเสื้อผู้เป็นพี่เพื่อเอ่ยถามสายตาจับจ้องมองดูก็อนหมั่นโถวที่อยู่ต่อหน้า ตอนนั้นเองร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงลืมตาสะลึมสะลือขึ้นมาพร้อมตะโกนเสียงดังสนั่น
"โอ๊ย !! ไม่รู้จักเวลานอนหรือไงกัน ทำไมต้องมาเสียงดังเอะอะโวยวายในบ้านของคนแบบนี้ไร้มารยาทจริง ๆ " ร่างบางยันกายลุกขึ้นกวาดสายตามองไปรอบ ๆ พรางขยี้ตาอีกคราไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เห็น ทั้งสองพี่น้องเห็นพี่สาวคนโตฟื้นขึ้นมารีบพากันวิ่งไปที่เตียงด้วยความดีใจ
"พี่เซี่ยวซือพี่ฟื้นแล้ว ข้าดีใจจริง ๆ " ร่างเล็กคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลจะมีน้องชายได้ยังไง
'ฉันเป็นลูกสาวคนเดียวเกิดมาไม่มีน้องชายที่ไหน แล้วเด็กชายสองคนนี่คือใครกัน หรือว่าจะเป็นรายการแอบถ่าย เอ๊ะ! แต่สถานที่ไม่น่าจะใช่ทำไมสภาพเตียงนอนบ้านถึงได้เก่าทรุดโทรมแบบนี้นะ' เซี่ยวซือสำรวจรอบ ๆ พร้อมใช้ความคิดแต่ไม่ทันที่เธอจะได้คิดอะไรต่อเสียงด้านนอกได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
"ข้าบอกให้ออกมา หรือจะให้ข้าเข้าไปค้นในบ้านของเจ้า เอาของมาคืนข้าเดี๋ยวนี้"
"คนพวกนั่นตะโกนเรียกอะไรนักหนาไม่รู้เวลาหรือไงกัน "
"พี่เซี่ยวซือชาวบ้านกล่าวหาว่าเราไปขโมยของพวกเขามา พวกเขาต้องการของคืนขอรับ" เด็กชายร่างเล็กตัวผอมเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกเอ่ยขึ้นบอกพี่สาวดวงตาเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตา แม้ว่าตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าอยู่ในสถานการณ์อะไร เธอได้เหลือบไปเห็นชายอีกคนที่ดูเหมือนร้อนรน เธอก็พอเข้าใจว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร
"เอาของเขามาจริง ๆ สินะ ไหนเอามาดูสิว่าเอาอะไรมา"
"พี่เซี่ยวซือข้าจำเป็นขอรับ ท่านพี่นอนไม่ตื่นมาตั้งหลายวันน้องเซียวหลงหิวไม่ได้กินอาหารลงท้องมาหลายวันจนแทบจะไม่มีเรี่ยวแรง ข้าจำเป็นต้องทำไม่ได้ตั้งใจขัดคำสั่งสอนของท่านพี่แม้แต่น้อย" เด็กชายที่โตกว่ารีบหยิบของมามอบให้เซี่ยวซือ เธอแทบไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งของพวกนี้เป็นเพียงแค่เศษอาหารที่เธอทิ้งอย่างไม่เสียดายด้วยซ้ำ ทำไมพวกชาวบ้านถึงได้มาทวงราวกับเด็กคนนี้ทำผิดมหันต์
"เอามานี่ ฉันจะเอาออกไปให้ชาวบ้านเอง เพียงเท่านี้เรื่องก็จบใช่มั้ย?" เซียวจ้านพยักหน้าพร้อมก้มหน้าลงต่ำสำนึกผิด เซี่ยวซือลุกขึ้นจากเตียงหยิบของที่ออกไปข้างนอก เธอแทบไม่อยากเชื่อสายตาด้วยซ้ำคิดว่าตนเองถูกแอบถ่ายจากรายการทีวี ทว่าเมื่อออกมาข้างนอกกระท่อมทุกอย่างเหมือนอยู่ในยุคโบราณไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว ใบหน้าผิวพรรณของคนในยุคนั้น แม้แต่บรรยายกาศอาคารบ้านเรือนล้วนเหมือนในยุคโบราณ ครานั้นเองจู่ ๆ ภาพทับซ้อนก็แทรกเข้ามาในความทรงจำ ตอนนี้เซี่ยวซือรู้แล้วว่าสิ่งที่เธอพบเจออยู่คือสิ่งใด 'อะไรกัน น่าตลกสิ้นดีฉันนอนอยู่ดี ๆ กลับทะลุมิติมาอยู่ในร่างของเซี่ยวซือพี่สาวผู้อ่อนแอขี้โรคครอบครัวยากจน แม้แต่ข้าวยังไม่ได้เห็นแถมยังมีน้องชายสองคนให้เลี้ยงดูอีก ให้ตายเถอะตั้งแต่เกิดมาชีวิตของฉันอยู่อย่างสุขสบาย ลืมตามามีทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้ให้ ผ้าไม่เคยซัก กับข้าวไม่เคยทำแล้วอย่างนี้ฉันจะใช้ชีวิตอยู่ในยุคนี้ให้รอดได้อย่างไร สวรรค์ลงโทษคนขี้เกียจอย่างฉันอย่างนั้นเหรอ เฮ้อ ! คุณพ่อคุณแม่หนูคิดถึงท่านทั้งสองจริง ๆ สวรรค์นะสวรรค์ทำไมไม่ให้ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของคุณหนูบุตรสาวท่านใต้เท้าบ้านร่ำรวย ทำไมต้องเกิดมาอยู่ในครอบครัวทุกยากแบบนี้ เอาล่ะตอนนี้ต้องแก้ปัญหาตรงหน้านี่เสียก่อนเรื่องอื่นค่อยคิดอีกครั้ง' เซี่ยวซือคิดในใจก่อนจะเรียบเรียงคำพูดในยุคนี้ ไม่ได้ยากสำหรับเธอเท่าไหร่ที่จะปรับปรุงตัวและภาษาการพูดจา เพราะเธอชอบดูซีรี่ส์ยุคโบราณอยู่แล้ว
"ท่านลุงท่านป้า เสียงดังเอะอะโวยวายทำไมหรือเจ้าคะ หากเป็นเรื่องของพวกนี้ พวกท่านเอาคืนไปได้เลยเจ้าค่ะ ข้าต้องขอโทษแทนน้องชายของข้าด้วยที่ไปหยิบจับของพวกท่าน เป็นเพราะข้าเองดูแลน้องไม่ดี ต่อจากนี้ข้าจะไม่ให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอีกแน่นอน"
"เฮอะ! สตรีอ่อนแอเช่นเจ้านะหรือจะดูแลหาเลี้ยงน้องชายของเจ้าได้ หรือว่ามีบุรุษเรือนใด หรือว่าจะใต้เท้าเฒ่าบ้ากามจะมารับเจ้าไปเป็นอนุสินะ ถึงได้กล้าออกมาบอกว่าจะดูแลน้องเป็นอย่างดี อีกไม่กี่วันน้องของเจ้าก็คงออกไปขโมยเช่นเคยทำข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก "
"ท่านป้า หากท่านป้ายังพูดไม่จบอย่าหวังว่าข้าจะคืนของและข้าจะไม่อดทนพร้อมขับไล่พวกท่านออกไปจากบริเวณบ้านของข้า แค่เพียงหมั่นโถวแข็ง ๆ เหมือนก้อนหินนี่ให้เฉย ๆ ข้าก็ไม่เอาหรอก เศษผักที่เหมือนเอาไปเป็นอาหารหมูนี่อีก เอาคืนไป ข้าจะเลี้ยงดูน้องขอข้าให้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องไปเป็นภรรยาน้อยของผู้ใดเมื่อนั้นพวกท่านต้องมาขอโทษที่ดูถูกข้า" เซี่ยวซือไม่อาจทนต่อว่าพร้อมโยนของพวกนั้นลงพื้นชาวบ้านตกใจรีบหยิบของที่นางโยนทิ้งเมื่อครู่อย่างเสียดาย พร้อมด่าทอนางไม่ใยดีพากันเดินจากไป เซี่ยวซือถอนหายใจเฮือกใหญ่นั่งลงแคร่หน้าบ้าน น้อง ๆ ยืนแอบมองอยู่ข้างประตูในบ้านเมื่อเห็นชาวบ้านเดินไปกันหมดทั้งสองรีบอกมาหาพี่สาวทันที
"ท่านพี่ข้าขอโทษขอรับ" เซี่ยวซือเงยหน้ามองน้องชายคนรองที่ชื่อเซียวจ้านสองมือประสานกันก้มลงขอโทษผู้เป็นพี่อย่างรู้สึกผิด
"เอาล่ะ ๆ ในเมื่อเจ้าจำเป็นต่อจากนี้อย่าทำเช่นนี้อีก ตอนนี้ที่เรือนของเราไม่มีอันใดให้ทำกินได้เลยหรือ?"
"ไม่มีเลยขอรับ ไม่มีแม้กระทั่งน้ำ" เซี่ยวซือได้ยินแทบสติหลุด ไม่คิดว่าชีวิตจะรันทดไม่มีแม้กระทั่งน้ำกิน แล้วเมื่อก่อนทั้งสามคนใช้ชีวิตมายังไงกันนะ
ตอนที่ 43 ใจอ่อนตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว เซียวจ้านเห็นสีหน้าแววตาของเหวินโม่หลานแม้เขาไม่ได้แสดงออกมามากนักแต่ก็ปกปิดเซียวจ้านมิได้ว่าเขาเศร้าและเสียใจเพียงใดคนที่ฟื้นคืนกลับมามิใช่สตรีที่เขารัก หลังจากคุยกับเซี่ยวซือเสร็จเซียวจ้านให้พี่สาวนอนพักผ่อนก่อนที่ตนจะเดินออกมาที่หน้าเรือนเห็นโม่หลานจ้องมองไปยังเบื้องหน้าอย่างเหม่อลอย“ท่านจะทำอย่างไรต่อไปขอรับ ข้าเข้าใจความรู้สึกท่านดี ข้าเองก็ไม่ต่างจากท่านสักนิดแม้ว่าคนที่กลับมาจะเป็นพี่สาวตัวจริงของข้าแต่ข้าก็อยากให้พี่สาวคนนั้นกลับมาเช่นเดียวกัน เฮ้อ ! ชีวิตคนเราช่างน่าเศร้านะขอรับ มาให้พบเจอผูกพันและจากลาแม้ว่าจะจากลากันเมื่อไหร่ก็ต้องถึงคงวันจากลาอยู่ดี อากาศเย็น ๆ อย่างนี้เราไปดื่มสุราให้ร่างกายอบอุ่นกันเถอะขอรับ” “นั่นสินะ มาให้ผูกพันและยังไม่ได้ร่ำลาด้วยซ้ำ เอาสิข้าเองก็อยากดื่มสุราเช่นเดียวกัน” ทั้งสองเดินทางไปที่โรงเตี๊ยมในหมู่บ้านดื่มสุรากันอย่างเศร้าใจเมื่อเริ่มเมาทั้งสองก็เอ่ยถึงเซี่ยวซือด้วยความคิดถึง“เฮ้อ ! ข้าคิดว่าเมาแล้วจะเลิกคิดถึงแต่ไม่เลย ยิ่งข้าดื่มเข้าไปมากเท่าไหร่ข้ายิ่งเห็นใบหน้าของนางชัดเจน ข้าคิดถึงเจ้าเหล
ตอนที่ 42 ท่านพี่ตัวจริง“ท่านพี่ไม่ใช่คนของโลกนี้ ท่านพี่มาจากที่อื่นขอรับ ” เซียวจ้านได้เล่าเรื่องทั้งหมดของเซี่ยวซือให้โม่หลานได้รับรู้ ตอนนี้เขารู้ความจริงหมดทุกอย่างราวกับโลกหยุดหมุน มองไปทางใดเคว้งคว้างไปหมด อากาศที่หนาวเหน็บยังหนาวไม่เท่าหัวใจของเขายามนี้ หวนย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องเก่า ๆ ที่ผ่านมาและจำคำถามที่นางถามเขาออกมาได้ ว่าวันหนึ่งนางไม่เหมือนเดิมเขาจะยังรักอยู่มั้ย ตอนนี้สติของโม่หลานไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาเดินผ่าหิมะที่ตกลงมาอย่างโหมกระหน่ำ ไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมายเพราะยอมรับความจริงไม่ได้เขาเสียใจปวดร้าวทั้งหัวใจ ไม่ใช่แต่เขารักนางไม่ได้แต่เขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่านางคือใครและอยู่ที่ใด สู้ตายจากกันไปยังดีกว่ารู้ความจริงเรื่องนี้ “ทำไม ทำไมต้องเกิดเรื่องบ้า ๆ นี่ขึ้นด้วย จริงสิตอนนี้ข้าจะมาเสียใจจนไม่ได้สติเช่นนี้ไม่ได้ ข้าจะต้องตามหาหมอที่เก่งที่สุด ใช่แล้วหมอหลวงต้องรักษานางได้แน่ ๆ ” เมื่อคิดได้อย่างนั้นโม่หลานรีบเดินทางกลับเรือนของเขาเพื่อให้เจิงหลงไปตามหมอหลวงที่วังหลวงมารักษาเซี่ยวซือ ตอนนั้นเองเขาได้พบกับลี่เหมยเอ๋อที่กำลังมาหาเขาที่เรือนพอดี นางไม่ใช่คู่หมั้
ตอนที่ 41 ข้าไม่ต้องการเช่นนี้ หลังจากที่ลี่เหมยเอ๋อกลับไปเซี่ยวซือกลับห้องคิดทบทวนทุกอย่างและเสียใจที่ตนเองรักคนที่มีเจ้าของ นางไม่อยากให้เขามาตกต่ำอยู่กับนางที่นี่หากสตรีนางนั้นเอ่ยความจริง นางจะเป็นคนเดินออกไปจากโม่หลานเอง ก๊อก ๆ เสียงประตูดังขึ้นอีกครั้ง เซี่ยวซือหันขวับไปมอง พบสาวใช้คนเดิมเดินเข้ามา“มีอะไรอีกอย่างนั้นหรือ ? หรือว่าสตรีคนเมื่อครู่นี้นางกลับมา”“มิใช่เจ้าค่ะ มีคุณชายตัวน้อยมาที่นี่บอกว่าเขาคือคุณชายน้อยจางเซียวหลงเจ้าค่ะ”เซียวซือได้ยินลุกขึ้นพรวดวิ่งออกไปหาน้องชายทันที ไม่คิดเลยว่าเขาจะกลับมาเร็วขนาดนี้ แต่ก้มาในช่วงที่นางต้องการเช่นเดียวกัน “เซียวหลงเจ้ากลับมาไม่เห็นแจ้งข้าล่วงหน้า ข้าจะได้ไปรับเจ้า”“ข้าอยากเดินทางกลับมาด้วยตนเองขอรับ ก่อนมาที่นี่ข้าไปหาพี่เซียวจ้านมาแล้ว ที่นี่กว้างใหญ่จริง ๆ ขอรับ ”“เจ้าไปแจ้งพ่อครัวทำซุปร้อน ๆ มาต้อนรับคุณชายน้อยจางเซียวหลงและให้สาวใช้ไปจัดเตรียมห้องให้เขาด้วย” “เจ้าค่ะคุณหนู” สาวใช้ก้มโค้งรับคำสั่งของเจ้านาย“เจ้าเดินทางมาคงหนาวมาก ๆ สินะนั่งลงตรงนี้ก่อนเดี๋ยวข้าจะไปเอาผ้าห่มมาห่มกายให้เจ้าจะได้คลายความหนาว”
ตอนที่ 40 มีพบต้องมีจาก“เจ้าจะเศร้าทำไมกัน ข้าไม่ได้ต้องบอกเจ้าแล้วให้เจ้าเศร้าแบบนี้เสียหน่อย ที่ข้ามาวันนี้มิใช่ว่าข้ามาลา เพียงแต่ข้าคิดถึงเจ้าท่านนั้น แต่ถึงแม้ว่าข้าจะไปในวันใด ตอนนี้ข้าก็หมดห่วงแล้ว เซียวจ้านมีครอบครัวที่ดี ส่วนเจ้าก็ได้เรียนมีความรู้ติดตัว ดีไม่ใช่หรือหากวันใดข้าจากพวกเจ้าไปพี่สาวตัวจริงของพวกเจ้าก็กลับมา ” เซียวหลงกัดริมฝีปากกอดเซี่ยวซือแน่นน้ำตาไหลรินอาบแก้มใจหายอย่างบอกไม่ถูก “แม้ว่าข้าจะรักพี่สาวของข้า แต่ท่านก็เป็นพี่สาวของข้าเช่นเดียวกัน ข้ารักท่านนะขอรับ”“เด็กน้อยเจ้านี่นะยังขี้แยไม่เลิกจริง ๆ หากวันหนึ่งข้าจากไปจริง ๆ พวกเจ้าอย่าโศกเศร้าเสียใจเลยให้คิดถึงวันเวลาที่เรามีความทรงจำดี ๆ ต่อกัน และจำคำสอนของข้าเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาหรือหนทางเอาตัวรอด ข้าเชื่อพวกเจ้าจะเติบโตและใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี” เซี่ยวซือลูบศีรษะของเซียวหลงเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มแสนเศร้ามิใช่นางไม่เสียใจและเสียดายหากต้องกลับไปจริง ๆ แต่นี่เป็นสิ่งที่นางไม่สามารถเลือกได้เลย เซียวจ้านเห็นเช่นนั้นเข้าไปกอดทั้งสองกลมเกรียว พูดคุยกันอยู่พักใหญ่จนถึงเวลาแยกจาก เซี่ยวซือไม่ลืม





