Share

บทเรียนลับคลับชั้นสูง
บทเรียนลับคลับชั้นสูง
Author: ผลิกา(เลอบัว)

01

last update Last Updated: 2025-07-05 23:10:56

“นัดฉันออกมาทานร้านหรูๆ แบบนี้ มีอะไรจะเซอร์ไพรส์ฉันรึเปล่า” ชมพูแพรทำท่ากระมิดกระเมี้ยนถามโทบี้แฟนหนุ่มของตัวเองหลังจากจัดการอาหารแสนอร่อยบนโต๊ะนั้นเรียบร้อยแล้ว ด้วยอดคิดเข้าข้างตัวเองในใจไม่ได้

               ‘อ๊าย! หรือว่าเขาจะขอเราแต่งงาน ตายแล้ว! เสื้อผ้าหน้าผมฉันเป็นไงบ้างเนี่ย ตายๆๆ อย่าเพิ่งขอตอนนี้นะ ขอฉันเสริมสวยแป๊บนึงสิ’ คิดได้ดังนั้น เธอจึงผุดลุกขึ้นแบบปุบปับทันที

               “เฮ้ย! เป็นบ้าอะไรเนี่ย” โทบี้อุทานเสียงดัง เมื่อความรีบร้อนของชมพูแพรทำให้เธอไม่ทันระวัง เผลอดึงผ้าปูโต๊ะสีขาวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

               “ขอโทษ! ฉันไม่ได้ตั้งใจ เดี๋ยวฉันเช็ดให้นะ” นี่คงเป็นคำพูดติดปากของเธอไปแล้ว เมื่อความซุ่มซ่ามเฟอะฟะมันเป็นนิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แก้เท่าไหร่ก็ไม่หายสักที บ่อยครั้งเธอจึงต้องเอ่ยคำๆ นี้กับใครต่อใคร เมื่อนิสัยนี้มันกำเริบขึ้นมา (นิสัยนะ ไม่ใช่โรคร้าย กำร่งกำเริบอะไรล่ะ)

               “ไม่เป็นไร ไม่ต้อง” โทบี้ทำท่าหงุดหงิดเล็กน้อยที่เธอทำให้เขาต้องกลายเป็นตัวตลกในสายตาคนอื่นแบบนี้

               “ไม่เป็นไรเหมือนกัน ฉันเต็มใจทำให้” ด้วยคิดว่าอีกฝ่ายเกรงใจ เธอจึงเดินตรงเข้าไปหาอย่างสำนึกผิด และอยากจะชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป แต่ดูเหมือนมันจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิดเอาไว้

               “โธ่เว้ย! ทำบ้าอะไรของเธอฮะชมพู่” เป็นอีกครั้งที่โทบี้อุทานเสียงดังออกมา เมื่อผ้าผืนเล็กๆ ที่ชมพูแพรตั้งใจเอามาใช้เช็ดทำความสะอาดให้นั้น ตอนนี้มันขึ้นไปอยู่บนหัวของโทบี้เรียบร้อยแล้ว ที่ร้ายไปกว่านั้น ผ้าผืนนั้นดันเป็นผ้าเช็ดปากที่เธอใช้แล้ว และมันก็มีรอยซอสมะเขือเทศเปื้อนเป็นหย่อมๆ ซะด้วยสิ ภาพที่ปรากฏต่อหน้าสาธารณชนตอนนี้จึงเป็นภาพที่ดูไม่จืดเอาซะเลย

               “ขอโทษ...ฉันรู้ว่าเธอคงเบื่อที่จะฟังคำนี้เต็มที แต่ฉันก็ยังต้องพูดอยู่ดี” เธอบอกเสียงอ่อยพร้อมกับก้มหน้าสำนึกผิดจากใจจริง และก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้ดีกว่าการเอ่ยคำคำนี้

               “ช่างเถอะ มาคุยเรื่องที่ฉันนัดเธอออกมาวันนี้เถอะ” โทบี้ตัดบทพร้อมกับนั่งลงทั้งที่ตัวเลอะๆ แบบนั้นต่อ ทำเอาชมพูแพรถึงกับยิ้มออก ‘เราทำถึงขนาดนี้ แต่เขาก็ยังไม่โกรธ เขาช่างเป็นคนดีเหลือเกิน อ๊าย! เขานี่แหละเหมาะที่จะเป็นพ่อของลูกฉันที่สุด’

               “เอ่อ! เธอมีอะไรจะขอ เอ๊ย! พูดกับฉันงั้นเหรอ” ชมพูแพรทำท่าเขินอาย

               “ฉันอยากจะขอ” โทบี้ยังพูดไม่ทันจบ ชมพูแพรก็แทรกขึ้นมาอีก

               “คือ ฉันว่าฉันไปห้องน้ำก่อนดีกว่าเนอะ” ชมพูแพรผุดลุกขึ้นอีกครั้งด้วยความตื่นเต้น ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับผวาไปด้วย เพราะกลัวว่าเธอจะเผลอทำซุ่มซ่ามอะไรให้ตัวเองต้องอับอายอีก

               “มะไม่ต้อง รอให้ฉันพูดจบแล้วเธอค่อยไปก็ได้ นั่งลงเถอะ” โทบี้รั้งแขนเธอให้นั่งลงที่เดิมอีกครั้ง ด้วยไม่อยากให้ต้องเสียเวลาไปมากกว่านี้แล้ว

               “เธออยากขออะไรฉันอย่างนั้นเหรอ” ชมพูแพรถามพลางบิดตัวไปมาด้วยความเขินอาย

               ‘ถ้าเขาขอเราแต่งงานตอนนี้ แล้วเราจะต้องทำหน้ายังไงนะ จะตอบเขาไปว่าอะไรดีล่ะชมพู่ จะได้ดูแบบสวยเลือกได้ อ๊าย! หรือเราต้องเล่นตัวนิดนึง’

               “ฉันอยากจะขอเลิกกับเธอ ชมพู่” โทบี้บอกออกมาในที่สุด

               “ตกลง” ชมพูแพรพลั้งปากตอบออกไปอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่ก็ตั้งใจเอาไว้ว่าจะเล่นตัว ที่สำคัญเธอลืมไตร่ตรองคำพูดของอีกฝ่ายให้ดีซะก่อนด้วยนี่สิ

               “มะเมื่อกี้ เธอว่าอะไรนะ” เมื่อลองทบทวนให้ดี เธอจึงถามกลับไปอีกครั้งด้วยหน้าตาแตกตื่น ต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับสีหน้าก่อนหน้า

               “เราเลิกกันเถอะ” โทบี้บอกอีกครั้งชัดถ้อยชัดคำ ชัดจนดังกึกก้องอยู่ในโสตประสาท ‘เราเลิกกันเถอะ เราเลิกกันเถอะ เราเลิกกันเถอะ’

               “ทะๆ ทำไม” เธอถามออกไปด้วยความงุนงง ไม่เข้าใจว่าเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง ในเมื่อก่อนหน้า เธอกับอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะไปกันได้ด้วยดี มันดีซะจนเธอยังคิดว่ามันจะต้องลงเอยด้วยการแต่งงานกันด้วยซ้ำ แต่แล้วทุกอย่างก็กลับตาลปัตร

               “มันก็หลายเหตุผล เธออยากให้ฉันสาธยายจริงๆ น่ะเหรอ เอาง่ายๆ ข้อแรกเธอซุ่มซ่าม” โทบี้ยังไม่ทันสาธยายต่อ เธอก็แทรกขึ้นมาซะก่อน

“แต่เธอเคยบอกว่ามันน่ารักดี” ใช่! นี่เป็นประโยคที่อีกฝ่ายเคยพูดเมื่อครั้งยังคบกันแรกๆ ซึ่งเธอก็แสนจะดีใจที่มีคนรับปมข้อนี้ของเธอได้ ทำให้เธอสุดแสนจะปลื้มผู้ชายคนนี้เป็นนักหนา

“ใช่ ฉันเคยบอกว่ามันน่ารัก แต่อาการของเธอมันกลับหนักข้อขึ้นทุกวัน จนฉันไม่คิดว่าจะมีใครซุ่มซ่ามได้เท่าเธออีก ลองคิดดูนะเธอทำให้ฉันต้องผวาตลอดเวลาที่มีเธออยู่ใกล้ๆ กังวลต่างๆ นานา ว่าวันนี้เธอจะทำเรื่องอะไรให้ฉันต้องอายอีก ดูอย่างเมื่อกี้สิ เธอทำให้ฉันอายตั้งหลายครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน มันคงเป็นสถิติที่ไม่เคยมีใครซุ่มซ่ามได้เท่าเธออีกแล้ว” โทบี้บอกตามตรง แต่มันคงเป็นข้ออ้างของคนที่หมดใจไปแล้วมากกว่า

“แต่เธอก็เห็นว่าฉันกำลังพยายามปรับปรุงตัวเองอยู่” ชมพูแพรพยายามยื้อ ด้วยไม่อยากให้ความรักครั้งนี้จบลงง่ายๆ เพียงเพราะเหตุผลที่ฟังดูงี่เง่าแบบนี้ ถึงแม้มันจะเป็นความจริงก็เถอะ

“มันไม่มีประโยชน์ ตลอดสามเดือนที่คบกัน ฉันรอให้เธอปรับปรุงตัวมาตลอด แต่มันก็ไม่เคยมีอะไรดีขึ้น ยิ่งเธอพยายามมันก็ยิ่งแย่ ฉันว่ายังไงเราก็ไปด้วยกันไม่รอดหรอก” ชมพูแพรมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง ก่อนจะถามอีก

“นอกจากเรื่องนี้แล้ว ยังมีเรื่องอื่นอีกรึเปล่าที่ทำให้เธอตัดสินใจเลิกกับฉัน” เป็นเพราะเหตุผลงี่เง่าที่อีกฝ่ายใช้ ทำให้เธอคิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้

“ก็บอกเขาไปสิโทบี้ ว่าเธอเบื่อผู้หญิงจืดชืดอย่างแม่นี่เต็มทีแล้ว ฉันไม่เข้าใจเธอจริงๆ เลยนะโทบี้ เธอทนคบกับผู้หญิงเฉิ่มๆ แบบนี้ได้ยังไง ทั้งเฉิ่ม ทั้งเชย ไร้รสนิยมสุดๆ” ดูเหมือนลางสังหรณ์ของเธอจะเป็นจริง เมื่อคนที่ตอบไม่ใช่โทบี้แต่เป็นเป็นลิลลี่คู่ปรับตลอดกาลของเธอนั่นเอง

“แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับเธอไม่ทราบยัยดอกหน้าวัว” ชมพูแพรหันมาถามด้วยความไม่พอใจ เมื่ออีกฝ่ายเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของเธอ

“ช่วยบอกให้ยัยชมพู่เน่าได้ยินชัดๆ หน่อยสิโทบี้ ว่าที่เธอเลิกกับเขาเพราะว่าอะไร ฮ่าๆๆ แต่จะว่าไปให้เธอฟังจากปากฉันน่าจะสะใจกว่านะ ฟังให้ดีนะยัยชมพู่เน่า ที่เขาเลิกกับเธอ...ก็เพราะว่าเขาเห็นฉันดีกว่า สวยกว่า น่าสนใจกว่า สรุปก็คือ ฉันเหนือกว่าเธอในทุกๆ ด้านยังไงล่ะ ฮ่าๆๆ” ชมพูแพรหันมามองหน้าทั้งสองคนราวกับไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเธอ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บทเรียนลับคลับชั้นสูง   115

    “เฮ้ย!” แล้วทั้งสามก็อุทานออกมาพร้อมกันอีก เมื่อตอนนี้เหล่ามนุษย์เมียนั่งอยู่ในร้านเดียวกับพวกเขา แต่เป็นคนละมุม ซึ่งแน่นอนว่าทางฝั่งนั้นมองไม่เห็นพวกเขาที่อยู่ทางฝั่งนี้ แต่ทางฝั่งนี้นี่เห็นเต็มสองตา ที่สำคัญไม่ได้เห็นแค่พวกเธอเท่านั้น แต่ยังเห็นหนุ่มๆ ที่จ้องจะขายขนมจีบให้เมียพวกเขาด้วย “ตายแน่มึง” ริคาโด้คำรามในลำคอ ตั้งใจจะไปจัดการกับผู้ชายพวกนั้นที่บังอาจมาเจ๊าะแจ๊ะกับเมียสุดที่รักของเขา แต่กลับถูกมาคัสห้ามเอาไว้ซะก่อน “เฮ้ย! ใจเย็นก่อน แกอยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าทำไมมนุษย์เมียพวกนี้ถึงยังไม่ท้องสักที ทำไมเราไม่ใช้โอกาสนี้ไปแอบฟังว่าพวกนั้นมีเกราะป้องกันอย่างที่แกว่ารึเปล่าล่ะ” มาคัสบอกอย่างมีแผนการ ในขณะที่อีกสองคนร่ำๆ จะทนไม่ไหวซะให้ได้ “แล้วแกจะปล่อยให้ไอ้หน้าละอ่อนพวกนั้นก้อร่อก้อติกกับเมียพวกเราแบบนั้นเหรอวะ” ริคาโด้ร่ำๆ จะหมดความอดทนซะให้ได้ ใครๆ ก็รู้นี่ว่าเขาหวงเมียยิ่งกว่าอะไรดี แล้วต้องมาทนดูภาพแบบนี้ (เอิ่ม! ความจริงก็แค่มีผู้ชายเข้ามาคุยกับพวกเธอเฉยๆ เองนะ ทำท่าอย่างกับมีใครจะมาแย่งเมียไปอย่างนั้นแหละ นี่ล่ะนะความรัก ทำให้ประสิทธ

  • บทเรียนลับคลับชั้นสูง   114

    “ก็ถ้าไม่ไหว ทำไมแกไม่บอกเขาไปตรงๆ วะ” มาคัสรู้สึกสาร เมื่อได้ฟังเรื่องเล่าสุดรันทดของอีกฝ่าย “บอกไปก็เสียเชิงชายสิครับคุณมาคัส มันจะได้หาว่าผมไม่มีน้ำยา เรื่องแบบนี้มันเป็นศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ฆ่าได้หยามไม่ได้ ต่อให้ต้องตายคาอก ไอ้เคนคนนี้ก็จะไม่ยอมปริปากบ่นสักคำ” เคนบอกเสียงหนักแน่น “เออ! งั้นก็ขอให้แกตายในหน้าที่สมใจแล้วกัน เฮ้อ! นี่ตกลงเราคุยกันเรื่องอะไรวะ ทำไมถึงได้มาจบที่ฟ้าเหลืองของแกได้วะ ให้ตายสิ! เรื่องของแกมันไม่จรรโลงใจสำหรับคนรักเมียอย่างฉันเลยว่ะ” ริคาโด้ส่ายหน้าเอือมๆ “ใครไม่เป็นผมก็พูดได้สิ ไม่เจ็บอย่างฉันใครจะเข้าใจ มนุษย์เมียน่ากลัวเท่าไหร่ หนึ่งคืนกี่ครั้งยังจำไม่ได้ แต่แล้วสุดท้ายมันยังไม่พอ มันหมดไปแล้วทุกความรู้สึก ให้คึกทั้งคืนคงทำไม่ไหว เธอช่วยหยุดหื่นสักที เมื่อฟ้าเหลืองนั้นมีอยู่จริง” (โปรดใส่ทำนองเพลงไม่เจ็บอย่างฉันใครจะเข้าใจ ของฟิล์มบงกชเข้าไป) เป็นเพราะอยากให้ทุกคนเข้าใจถึงหัวอก เคนจึงพยายามอธิบายออกมาเป็นเพลง แต่มันกลับทำให้ทุกคนต้องเบือนหน้าหนีเพราะเสียงร้องสั่นประสาทของเคน และก่อนที่พวกเขาจะสูญเสียระบบประสาท

  • บทเรียนลับคลับชั้นสูง   113

    หลายเดือนต่อมา หลังจากที่ทั้งสามคู่พากันทยอยแต่งงานไปตามๆ กัน ไม่เว้นแม้กระทั่งเคนและโคดี้ก็มีคู่กับเขาเช่นกัน วันนี้หนุ่มๆ จึงนัดสังสรรค์กันตามประสาคนมีเมีย ส่วนเรื่องที่คุยกันน่ะเหรอ ก็เรื่องชีวิตหลังความโสดของแต่ละคนยังไงล่ะ “อืม...! พวกแกว่าความรักเหมือนอะไรวะ” จู่ๆ ริคาโด้ก็ถามขึ้น “คิดยังไงถึงถามเรื่องนี้ครับพี่ แล้วดูพี่ทำหน้าเข้าสิ อย่างกับพวกที่กำลังตกอยู่ในห้วงของความรักอย่างนั้นแหละ นี่ก็แต่งงานกันมาตั้งหลายเดือนแล้ว ยังไม่เลิกหวานกันอีกเหรอครับ” ริชาร์ดอดล้อเลียนพี่ชายไม่ได้ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทุกครั้งที่พูดถึงศรีภรรยา “หรือแกเลิกแล้ว ถึงเมียฉันจะซุ่มซ่าม แล้วก็ชอบทำอะไรแปลกๆ โดยเฉพาะเรื่องซ้อมกระต่าย แต่ฉันก็รักของฉันโว้ย แกเองก็เถอะอย่านึกนะว่าฉันไม่รู้ว่าแกก็หลงเมียหัวปักหัวปำเหมือนกัน” ริชาร์ดยักไหล่เมื่อถูกพี่ชายตอกกลับ “ก็ผมยังรู้สึกเหมือนเราเพิ่งรักกันเมื่อวานนี้เองนี่ครับ แล้วผมก็หลงรักทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเธอ ไม่ว่าจะทำอะไรเมียผมก็น่ารักที่สุดในสายตาผมเสมอ” ทุกคนถึงกับเบ้หน้าเมื่

  • บทเรียนลับคลับชั้นสูง   112

    “ถ้าอย่างนั้นพ่อกับแม่ไปอยู่กับหนูที่เยอรมันนะจ๊ะ” และนี่เป็นอีกอย่างที่เธอหวังเอาไว้ ด้วยไม่อยากทิ้งให้ท่านอยู่ที่นี่กันตามลำพัง ยังไงท่านก็แก่ตัวลงทุกวัน ไม่มีเธอสักคนแล้วใครจะดูแลพวกท่านล่ะ “ถ้าให้ไปเที่ยวข้ายังพอไหว แต่ถ้าให้ไปอยู่เลยข้าไม่เอาหรอก ข้ากลัวหนาวข้ากลัวหิมะ คนบ้านนอกอย่างข้าชอบจับจอบจับเสียม ทำไร่ทำนาไม่ชอบอยู่ว่างๆ อยู่โน่นเอ็งมีนามีไร่ให้ทำ มีควายให้ข้าเลี้ยงไหมล่ะ ที่สำคัญบ้านข้าอยู่นี่ สมบัติข้าก็อยู่นี่ ถึงมันจะไม่ได้มากมาย แต่มันก็เป็นความภูมิใจของข้า” คนเป็นพ่อบอก “แล้วใครจะเป็นดูแลพ่อกับแม่ตอนที่หนูไม่อยู่ล่ะจ๊ะ หนูไม่อยากทิ้งพ่อกับแม่ไว้ที่นี่ตามลำพังนี่จ๊ะ” เธอบอกพลางร้องไห้น้ำตาอาบแก้ม “โธ่เอ๊ย! นังเด็กขี้แย โตจนจะมีผัวอยู่แล้ว ยังร้องไห้เป็นเด็กๆ อีก พ่อกับแม่ก็ไม่ได้แก่ถึงขั้นดูแลตัวเองไม่ได้สักหน่อย อีกอย่างเอ็งลืมเจ้าเอกมันแล้วหรือไง มีเจ้านั่นอยู่ด้วยทั้งคน เอ็งก็ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว” นางแช่มช้อยพูดไปถึงหลานชายที่พวกท่านเอามาเลี้ยงไว้ตั้งแต่เด็กๆ หวังได้ฝากผีฝากไข้กันตอนแก่ แต่ถึงอย่างนั้นคนเป็นลูกอย่างชมพูแ

  • บทเรียนลับคลับชั้นสูง   111

    “โธ่! แม่มึง เรื่องง่ายๆ แค่นี้ทำไมเอ็งถึงไม่รู้วะ เดี๋ยวข้าอธิบายให้ฟัง บอย แปลว่าเด็กผู้ชาย ส่วนเฟรนด์ ก็แปลว่าเพื่อน พอรวมกันก็หมายถึง เด็กผู้ชายเพื่อนไง” ผู้ใหญ่ชอบทำหน้าภูมิอกภูมิใจกับความสามารถของตัวเอง ในขณะที่ริคาโด้กลับทำหน้างงๆ เพราะฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง “แล้วไอ้เด็กผู้ชายเพื่อนนี่มันคืออะไรล่ะพ่อมึง” ฝ่ายสามีถึงกับหันขวับมามองหน้าภรรยา เพราะตัวเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน “เออ! นั่นสิ หรือมันจะบอกว่ามันเป็นเด็กผู้ชาย ข้าว่าต้องใช่แน่ๆ เลย คำคำนี้ข้าเรียนมาแล้ว มันแปลว่าเด็กผู้ชายแน่นอน ข้ามั่นใจ” ถึงจะงง แต่ผู้ใหญ่ชอบก็ยังมั่นใจในความรู้ของตัวเอง “แล้วเด็กผู้ชายที่ไหนมันจะตัวเท่าควายอย่างนี้ล่ะพ่อมึง ฉันว่าฉันถามมันดีกว่าว่ามันหมายถึงอะไร” ว่าแล้วนางแช่มช้อยก็หันไปถามแขกที่นั่งทำหน้าแหยๆ เพราะไม่ค่อยเข้าใจที่อีกฝ่ายกำลังคุยกันสักเท่าไหร่ “นี่ๆ ยูบัฟฟาโร่ เอ่อ...! วาย? อะบอยอีกวะ” ความจริงนางอยากถามว่า ตัวใหญ่อย่างกับควายขนาดนี้ ทำไมถึงยังคิดว่าตัวเองเด็กผู้ชายอีก แต่ให้ตายเถอะ! ภาษาที่นางพยายามจะสื่อออกมาฟังไ

  • บทเรียนลับคลับชั้นสูง   110

    “อะเอ่อ...มะเมื่อกี้พี่ว่าถามว่าอะไรนะ ผมฟังไม่ค่อยชัด สงสัยสัญญาณไม่ค่อยดี” เมื่อเห็นว่าริชาร์ดพยายามหักห้ามไม่ให้ตัวเองส่งเสียงครางออกมา จัสมินจึงต้องเริ่มมาตรการต่อไป เธอค่อยๆ เลื่อนตัวลงไปจนกระทั่งใบหน้างดงามจดจ้องอยู่ที่กายแกร่งของเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นสายตาคาดโทษของเขา เธอใจกล้าขึ้นมาซะเฉยๆ ราวกับอยากจะท้าทาย ก็คนอย่างจัสมินเป็นพวกประเภทยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุนี่ ในเมื่อเขาห้าม เธอก็จะทำ “โอว...!” ริชาร์ดครางเสียงพร่าอย่างลืมตัว เมื่อกายแกร่งของเขาถูกครอบครองด้วยปากและลิ้นของเธอ (ไอ้ริชาร์ดนี่แกทำอะไรอยู่กันแน่วะ) ริคาโด้เริ่มสงสัย ในขณะที่ริชาร์ดกำลังพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อให้ตัวเองผ่อนคลายความเสียดเสียวที่เธอเป็นคนก่อ “เอ่อ...คือผมกำลัง.....โอว.....! อา....! อืม....! ซีด...!” สุดท้ายเสียงครางคงเป็นคำตอบที่อธิบายได้ดีที่สุดในเวลานี้ ด้วยสมองที่มึนเบลอจากการถูกจู่โจมแบบไม่คาดคิดของเธอ คงทำให้เขาคิดหาคำตอบดีๆ ให้พี่ชายไม่ได้แล้วล่ะ สิ่งเดียวที่คิดได้ในตอนนี้ก็คือ เขาจะจัดการกับแม่สาวช่างยั่วคนนี้ยังไงดี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status