“หมายถึงคุณรัศมีน่ะเหรอคะ”
พิศรุตม์พยักหน้า “เพราะผมเป็นเจ้านายของคุณคนเดียวเท่านั้น จำไว้ว่าผมจะไม่ให้โอกาสใครเป็นครั้งที่สอง คุณไม่มีโอกาสผิดแม้แต่ครั้งเดียว”
เอลิกายิ้มมั่นใจ แววตาเต็มไปด้วยประกายความมุ่งมั่น “โอเคค่ะบอส เอมจะพิสูจน์ให้บอสเห็นว่าเอมคือเลขาที่ดีที่สุดของบอสค่ะ เอมคือทีมบอสเท่านั้น”
พิศรุตม์ยิ้มขำกับท่าทางของเลขาคนใหม่ที่ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง หากเธอรู้ว่าเขาเรื่องมากเรื่องเยอะและเนี๊ยบขนาดไหน เธออาจจะร้องไม่ออก
“หวังว่าจะอยู่นานเกินสามเดือนนะ อย่าหาว่าขู่เลย ผมเคยมีเลขามานับไม่ถ้วนล่ะ แต่อยู่ไม่เกินสามเดือนสักคน จนใครๆ ก็ลือกันไปทั่วว่าตำแหน่งหน้าห้องผมมีอาถรรพ์”
“งั้นเอมจะล้างอาถรรพ์นี้เองค่ะ!!”
“อย่าดีแต่พูดแล้วกัน” พิศรุตม์เผลอยิ้มให้หญิงสาวทั้งที่เป็นคนยิ้มยาก เจ้าหล่อนยิ้มตอบด้วยความขัดเขินเอียงอาย สายตาของเขาทำให้หัวใจเต้นรัวพองฟู จนอดที่จะหลงเสน่ห์ของเขาไม่ได้
ใช่...เอลิกายังจำจดครั้งแรกที่เจอกันได้ดี สายตาอบอุ่นของพิศรุตม์ทำให้เธอมีกำลังใจที่จะสู้งาน สู้กับพนักงานหลายร้อยชีวิตในบริษัทที่ดูถูกสาวบ้านนอกอย่างเธอว่าจะทำงานผ่านโปรมั้ย สู้กับชีวิตในเมืองใหญ่ที่ไม่คุ้นเคย กระทั่งกลายเป็นเลขาอายุยืนที่สุดของเขา
อายุยืนในที่นี้คืออายุการทำงานนะ!
แต่วันนี้...ผู้ชายอบอุ่นคนนั้นกลายเป็นปิศาจไปซะแล้ว ปิศาจเลือดเย็นที่กำลังพิพากษาเธอด้วยความเจ็บปวด เขากำลังจะลงโทษเธออย่างสาสม ด้วยข้อหาเพียงเพราะเธอเป็นลูกของศัตรู!
“อะ...อ้า โอ๊ยย ซี๊ดส์”
เธอหลับตาแน่นเมื่อไวน์แดงจากแก้วในมือของเขา ไหลรดลงกลางศีรษะของเธออย่างช้าๆ จนเส้นผมยาวสลวยดุจแพรไหมและใบหน้าสวยงามจิ้มลิ้มเปียกฉ่ำเปื้อนเปรอะไปด้วยน้ำสีแดงฉาน
“ฮือ...บะ...บอส” น้ำสีแดงกลิ่นแอลกอฮอล์ไหลลงมาตามลำคอระหงสู่เนินอกอวบขาว ผ่านยอดปทุมถันคัดแข็งสีโอลด์โรส ไหลผ่านหว่างอกลงไปตามหน้าท้องแบนราบ ซัดสาดพุ่มขนอ่อนนุ่มพองามที่ปกป้องกลีบสวาทอิ่มอูมจนเปียกฉ่ำ
“โอวว” เขาจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาลุ่มหลงราวกับได้ยลงานศิลปะชั้นสูงในพิพิธภัณฑ์ หายใจแรงเร้าจนอกกระเพื่อมเพราะเลือดในกายสูบฉีดพล่านไปทั้งตัว “ไม่คิดเลยว่า...เลือดจะทำให้เธอ...”
ใช่แล้ว...น้ำสีแดงคล้ายเลือดเมื่อเปรอะเปื้อนบนร่างกายขาวผุดผ่องของหญิงสาว มันทำให้เธอดูงดงามและเซ็กซี่ชวนหลงใหลจนใจสั่นไปหมด
ยอมรับว่าพอยัยเปิ่นถอดเสื้อผ้าเชยๆ ออกแล้ว เจ้าหล่อนโคตรเซ็กซี่ไปทั้งตัวเลยเชียว
บทส่งท้าย...เป็นเมียบอสต้องโดนตี!เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!“โอ๊ย โอ๊ย ที่รัก โอ๊ย”เอลิการ้องครางออกมาอย่างสุขสม ยามที่พิศรุตม์ฟาดปลายแส้ลงมาบนทรวงอกอวบของเธอด้วยความแรง ขณะที่เธอนอนเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่บนเตียงทรมาน สองมือสองขาถูกโซตรวนไว้อย่างแน่นหนา“อ่า บอกแล้วไง อย่าดื้อ” พิศรุตม์ในชุดสูทหรูตามสไตล์เจ้านายจอมบงการ เงื้อมือฟาดแส้หางม้าลงไปบนร่างกายที่กำลังดิ้นส่ายทรมาน“อื้อ ไม่ดื้อแล้วค่ะ เอมยอมแล้ว บอสขา ที่รักของเอม เอมยอมแล้วค่ะ อือออ” เธอหอบหายใจกระเส่า จ้องมองเขาด้วยสายตาโหยหาเพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!“ที่รัก อ๊า โอ๊ย ที่รัก โอวว...” เธอเด้งกายรับปลายแส้ด้วยความเต็มใจ ร้องครางกระเส่ากระสันราวกับเจ็บปวดนักหนา “ซี๊ดส์ โอว ซี๊ดส์ เจ็บ อือ...”“โอวว ที่รัก” พิศรุตม์ทนไม่ไหว ถอดกางเกงลงทางปลายเท้า ขยับกายแกร่งขึ้นคร่อมทับร่างระทวยของหญิงสาวไว้ จับลำโตแข็งคัดสอดใส่ช่องสวาทของเธออย่างสุขสม ฝังลึกแน่นหนัด “อ่า...”“โอววว บอสขา ที่รัก” ริมฝีปากสวยเม้มแน่น สายตาเคลิบเคลิ้มกระหายใคร่“อืมม” สองริมฝีปากประกบจูบอย่างดูดดื่ม แลกลิ้นกันพัลวันจนหัวสั่นหัวคลอน“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ” ทั้งเขาและเธอร้องครางระ
“คู่หมั้นมาจากตระกูลไหนหรือคุณรุตม์” ผู้บริหารคนหนึ่งถามขึ้น ..รัศมีถึงกับยิ้มมุมปาก เพราะมั่นใจว่าไม่มีวันที่คนหัวสูงพวกนี้จะยอมรับผู้หญิงไร้สกุลได้“ตระกูลที่...รู้จักทำมาหากินสุจริตน่ะครับ แต่ไม่ได้สำคัญเท่ากับผมรักเธอหัวปักหัวปำหรอกครับ”คำตอบของพิศรุตม์ทำให้ทุกคนในโต๊ะพากันหัวเราะร่วน ชอบอกชอบใจ คนพวกนี้ก็เหมือนกัน หากเจ้าสัวว่าดี พวกเขาก็ว่าดีด้วย ส่วนรัศมีถึงกับเหวอ หันมองหน้าสามีที่ดูเหมือนจะพอใจก็อึ้งเอลิกายิ้มเขิน แอบหยิกสะเอวคนรัก “บอส...”“คุณรุตม์นั่งคุยกันก่อนสิครับ”“ต้องขอโทษด้วยนะครับคุณอา พอดีว่าที่ภรรยาผมรู้สึกปวดหัวนิดหน่อยน่ะครับ ว่าจะพาเธอเข้าไปพักในบ้านสักครู่ ..ผมขอตัวก่อนนะครับ”พิศรุตม์รีบจูงมือเอลิกาเดินจากโต๊ะนั้นมาอย่างเร็วแล้วพาเธอเข้าไปในบ้านทันทีเขาแค่เอาเธอมาอ้าง เพราะไม่อยากคุยกับพวกคนแก่ที่เอาแต่อวดเรื่องลูกหลานเท่านั้นเอง“บอสอ่ะ เราเพิ่งจะคบกันเองนะคะ ว่าที่ภรรยาอะไรกันล่ะคะ”“แต่เราอยู่ด้วยกันแล้ว มันก็ไม่ต่างกันหรอก เอากันทุกคืนจนเตียงจะพังอยู่แล้ว”“บอส!” เธอรีบปราม หันมองซ้ายขวา “พูดอะไรของบอสเนี่ย เดี๋ยวใครมาได้ยินหรอก”“อ้าว ก็คุณเป็นเมียผม
“ทำไมล่ะ” เขาแปลกใจนะ เพราะรู้ว่าเธอเองก็ชอบเขาเหมือนกันนี่นา “หรือว่า คุณกลัว...”กลัวรสนิยมทางเพศของเขาอย่างนั้นเหรอ“เปล่าค่ะ” เธอส่ายหน้า น้ำเสียงโกรธๆ “แต่เอมไม่อยากเป็นนางบำเรอของบอส”พิศรุตม์ถึงกับเหวอ ก่อนจะหัวเราะออกมา ทำเธองงว่าเขาขำอะไรนักหนา“ไม่ใช่ซะหน่อย ผมหมายถึงเรามาคบกันมั้ย”“คบกัน?” เธอตกใจกว่าเดิมเขาคว้ามือเธอไปจับแน่นๆ “คบกับผมนะ ผมจะชดใช้ความผิดให้คุณ ผมจะปกป้องคุณเอง”เธอไม่อยากเชื่อเลยว่ามันเป็นเรื่องจริง ซาตานตนนั้นหายไปไหนแล้ว “บอสล้อเล่นเอมหรือคะ”“ไม่ได้ล้อเล่น ผมเอาจริง”“แต่เอมเป็นลูกของคนที่บอสเกลียดนะคะ”“คุณกับผู้หญิงคนนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันซะหน่อย คุณพิสูจน์ให้ผมเห็นแล้ว ผมเห็นกับตาได้ยินกับหูมาแล้ว ..ผมขอโทษนะ ที่ผมทำร้ายคุณ”เขาพูดคำว่าขอโทษออกมาได้ง่ายๆ เลย ทั้งที่ทำเธอเจ็บไปทั้งตัวทั้งใจ“บอสยังอยากแก้แค้นคุณรัศมีอยู่ เลยอยากใช้เอมเป็นเครื่องมือ ใช่มั้ยคะ”“ความจริงผู้หญิงคนนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาผมเลย ไม่ว่าเธอจะทำอะไร หรือพยายามทำอะไร เธอก็ไม่มีวันเอาชนะผมได้หรอก ผมแค่ใช้คุณรัศมีมาอ้าง เพื่อจะได้ลงโทษคุณ”เธอจ้องหน้าเขาอย่างครุ่นคิด “ทำไมบอสถ
“อ๋อ ค่ะ” เอลิกามองหน้าเขาอย่างจับผิด เพราะสายตาเลิ่กลั่กมันน่าสงสัยจริงๆพิศรุตม์ยิ้มเจื่อน ทำหน้าแทบไม่ถูก แก้มร้อนผ่าวไปหมด เมื่อถูกมองด้วยสายตาสงสัยแบบนี้“ผมส่งข่าวให้แม่คุณแล้วนะ” เขารีบเปลี่ยนเรื่อง “ตั้งแต่เมื่อคืน ส่งจากเครื่องของคุณ บอกว่าคุณป่วยหนักนอนอยู่โรงพยาบาล”เอลิกาอึ้ง โมโหจนอยากจะฟาดหน้าเขาเลยล่ะ เขาเองก็เห็นแล้วนี่ว่าผู้หญิงคนนั้นรู้สึกยังไงกับลูกคนนี้ ยังจะหาเรื่องให้เธออีก“บอสบ้าไปแล้วรึไง! ทำแบบนั้นทำไมคะ!”“ก็แค่อยากลองดู” ว่าแม่เธอจะตอบกลับมาว่ายังไง “เมื่อคืนแม่คุณแค่อ่าน แต่ไม่ตอบ”เอลิกายิ้มขมขื่น “ก็ไม่เกินความคาดหมาย บอสจะส่งไปทำไม เธอไม่สนใจหรอก”พิศรุตม์ยื่นมือถือคืนให้เธอ “ลองเช็คดูสิ เผื่อตอบกลับมาแล้ว”“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ” เพราะไม่อยากอ่านข้อความที่ทำให้เจ็บปวดใจน่ะสิ แค่ที่เป็นอยู่ก็เจ็บมากพอแล้ว จะเพิ่มรอยแผลให้ตัวเองทำไม “ลบทิ้งไปเถอะค่ะ”พิศรุตม์นึกรู้ว่าเธอคงไม่อยากเจ็บ เลยเลี่ยงที่จะอ่าน แต่เขาไม่จำเป็นต้องเลี่ยง เลยเปิดอ่านดู ก็พบข้อความที่ทำให้ขมวดคิ้วนิ่วหน้า หัวร้อนขึ้นมาเลยถ้าแกอยากได้เงินก็ไปขอไอ้รุตม์เอาสิ แต่มันคงไม่ให้แกหรอกนะ เพราะมั
“ฝากด้วยครับคุณหมอ”เมื่อส่งหญิงสาวเข้าห้องฉุกเฉินแล้ว เขานั่งกุมขมับรออยู่หน้าห้อง ด้วยใจสั่นสะท้าน ด้วยความเครียดกังวลจนสมองสับสนไปหมดเขายอมรับว่าเป็นห่วงหญิงสาวแทบขาดใจ ปากบอกว่าเกลียดว่าแค้นเธอก็จริง แต่ใจของเขากลับอ่อนยวบยาบให้เธอตลอดเวลา“ทำไมต้องเป็นลูกยัยนั่นด้วย” หากเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับหญิงร้ายกาจที่ทำลายครอบครัวเขาจนพังพินาศ เขาก็คงยอมรับความรู้สึกของตัวเองที่มีให้เธอไปแล้ว ความรู้สึกดีที่มากกว่าเจ้านายกับลูกน้องถึงแม้เธอจะไม่ใช่สเป๊คของเขา แต่การได้อยู่กับเธอในแต่ละวัน มันทำให้เขารู้สึกมีความสุขและสบายใจ เขาแพ้ความน่ารักและความอบอุ่นของเธอ จนเริ่มหวงแหนและเห็นแก่ตัว ไม่คิดจะปล่อยเธอไป แม้เขาจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ครอบครัวเลือกให้ก็ตามเขายอมรับว่าทุกครั้งที่เขาทำร้ายเธอ เขาก็เจ็บปวดไปด้วย ..มันเป็นการแก้แค้นประสาอะไรวะ แก้แค้นเขา แต่เจ็บเอง บ้าไปแล้ว“ถ้าคุณเป็นอะไรไป ผมจะไม่ให้อภัยตัวเอง”เขารออยู่หน้าห้องฉุกเฉินเกือบครึ่งชั่วโมง ด้วยใจกระวนกระวายตลอดเวลา ก่อนที่คุณหมอจะออกมาแจ้งอาการคนไข้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“เธอเป็นอะไรมากรึเปล่าครับ” ทำไมคุณหมอทำหน้าอย่างนั้น เข
“ขอโทษ..” เธอนอนนิ่ง หายใจรวยริน กายเปลือยเปล่าจมอยู่กลางกองเลือดเปียกชุ่ม แววตาอ่อนแรงจ้องมองเพดานนิ่งก่อนจะค่อยๆ ปิดตาลงทันใดนั้น ประตูเปิดผ่างด้วยความแรงตามอารมณ์คนเปิด พีมรุตม์สาวเท้าเดินเข้ามาด้วยอารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่าน เพราะยังโมโหไม่หายที่โดนเธอเล่นสงครามประสาทใส่“คราวหลังถ้าเธอลองดีกับฉันอีก ฉันจะไม่ปล่อยเธอไว้แน่เอลิกา!!”เขาตะโกนใส่เธอแล้วหันหลังจะเดินกลับ แต่เกิดเอะใจทำไมหญิงสาวไม่ตอบโต้เขาเลยสักคำ ก็เลยจะหันไปเยาะเย้ยให้เธอเจ็บปวดซะหน่อย“เห็นเธอแล้วหมดอารมณ์ว่ะ” แต่ภาพที่เห็นทำเขาอึ้ง ตาเหลือก ใจหายวาบ..“เลือด.!!!!” พิศรุตม์ถึงกับหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นเลือดเต็มที่นอน “เอม!!”เขากระโจนขึ้นไปบนเตียงแล้วตรวจชีพจรเธอทันที สีหน้าตื่นตกใจและตัวสั่นงันงกไปหมด“เอม !! เอม!!! ได้ยินผมมั้ย เอม!! ตื่นสิเอม ตื่นเดี๋ยวนี้ คุณทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย”เขาคว้ามือที่มีรอยกรีดบนข้อมือขึ้นดูแล้วช็อค ใจแทบจะหยุดเต้นในวินาทีนั้น“ไม่ ม่ายยยย!!!! เอม!! อย่าตายนะ” เขาร้อนรนรีบช้อนร่างหญิงสาวขึ้น ตาแดงก่ำด้วยความเสียใจ น้ำตาไหลพราด “เอม!! คุณทำแบบนี้ได้ไง คุณจะจากผมไปแบบนี้ไม่ได้นะ!!!”เอลิกาลืมตา