LOGIN17.00 น.
นาฬิกาบอกเวลาเลิกงาน อิงฟ้าเตรียมเก็บของด้วยความกระตือรือร้น หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความประหม่า เพราะจะได้เจอดลภพในฐานะเจ้านายเป็นครั้งแรกหลังจากที่พยายามอย่างหนัก
คุณอารีหญิงวัยกลางคนหันมายิ้มให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะเดินนำออกไปจากออฟฟิศและขับรถพาเลขาฯ คนใหม่มุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง คุณอารีพาเธอมายังห้องพักฟื้นพิเศษ ที่มีคุณปู่ของดลภพนอนพักรักษาตัวอยู่
ร่างสูงสง่าของดลภพยืนอยู่ข้างเตียงพร้อมด้วยคุณพ่อและคุณแม่ของเขาที่นั่งเฝ้าคุณปู่ของดลภพ บอสหนุ่มกำลังยืนคุยกับคุณหมอเจ้าของไข้ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
อิงฟ้ามองเขาด้วยความหลงใหลอยู่ด้านนอก เธอรอโอกาสให้สะดวกกว่านี้แล้วค่อยเข้าไป เขาดูดีกว่าที่เธอจำได้ในงานการกุศลเสียอีก แสงไฟในห้องพักฟื้นสาดส่องโครงหน้าอันหล่อเหลา ผิวขาวสะอาด และริมฝีปากหยักได้รูป ดวงตาคู่คมที่เคยเย็นชาดูอ่อนโยนลงเล็กน้อย
เมื่อดลภพคุยกับคุณหมอเจ้าของไข้เรียบร้อยแล้ว เขาก็หันมาเห็นคุณอารีและอิงฟ้าที่ยืนอยู่ด้านนอกห้อง สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเรียบเฉยตามเดิม แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อเหลาของเขาลดลงเลยแม้แต่น้อย
“สวัสดีค่ะคุณดลย์ นี่คือคุณอิงฟ้าค่ะ เลขาฯ คนใหม่ของคุณ” คุณอารีแนะนำอย่างสุภาพ เธออายุมากกว่าดลภพเจ้านายของเธอเกือบหนึ่งรอบ แต่เธอก็ให้ความเคารพเป็นอย่างดี ก่อนที่ดลภพจะมาทำหน้าที่ซีอีโอ แทนคุณแม่ของเขา คุณอารีเคยเป็นเลขาฯ ของคุณภัสสรมารดาเขามาก่อน
“พี่อารีเชิญเข้ามาข้างในก่อนครับ” ดลภพยิ้มรับอย่างสุภาพ ก่อนที่สายตาคมจะกวาดมองอิงฟ้าราวกับว่าเขาจำเหตุการณ์คืนนั้นได้เป็นอย่างดี
“สวัสดีครับคุณอิงฟ้า...เชิญครับ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นสั้นๆ ทำให้อิงฟ้าคาดเดาไม่ถูกว่าเขาจำเธอได้หรือเปล่า
“สวัสดีค่ะบอส” อิงฟ้ายิ้มหวานให้เขาตามที่เจนนิสาสอน เธอพยายามสบตาเขาอย่างมั่นใจ ก่อนจะหลบสายตาอย่างเขินอายเล็กน้อย
การเยี่ยมคุณปู่เป็นไปอย่างเงียบๆ ดลภพยังคงมีท่าทีเย็นชา เขาแนะนำอิงฟ้าให้กับคุณพ่อคุณแม่ของเขา อิงฟ้าจำต้องคอยตอบคำถามของคุณภัสสร มารดาของเขา รวมไปถึงการแสดงความเป็นห่วงเป็นใยและสอบถามเกี่ยวกับอาการของคุณปู่บ้างเป็นครั้งคราว เธอพยายามสังเกตทุกการกระทำ พยายามจดจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพิชิตหัวใจดลภพ เมื่อได้เวลาอันสมควร คุณอารีก็ชวนอิงฟ้ากลับ
“คุณดลย์คะ เดี๋ยวพี่กับอิงฟ้าต้องขอตัวกลับก่อน ขอให้คุณปู่หายเร็ว ๆ นะคะ”
“ครับ ขอบคุณครับพี่อารี” ดลภพตอบกลับ ก่อนจะหันมามองอิงฟ้าแล้วเอ่ยขึ้น
“คุณอิงฟ้า...เดี๋ยวคุณช่วยอยู่คุยงานกับผมก่อน ผมไปส่งคุณที่บ้านเอง”
คำพูดของดลภพทำให้อิงฟ้าถึงกับตกใจ เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะเอ่ยปากเช่นนั้น ใจหนึ่งก็ดีใจจนแทบจะกรีดร้อง แต่อีกใจหนึ่งก็กังวล เพราะถ้าเขาไปส่งที่บ้านจริง ๆ เขาก็จะต้องรู้ความจริงว่าเธอคือลูกสาวของท่านประธานธีระ และความลับที่เธอปลอมตัวมาเป็นเลขาฯ ก็จะต้องถูกเปิดเผยทันที
อิงฟ้ารีบส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปให้คุณอารี แต่คุณอารีกลับยิ้มบางๆ เหมือนจะสื่อว่า 'โอกาสมาแล้วนะ'
“คะบอส แต่...ดิฉันกลับเองได้ค่ะ พอดีว่าที่พักอยู่ไกล เกรงว่าจะไม่สะดวก” อิงฟ้าตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พยายามทำหน้าใสซื่อที่สุด ดลภพเลิกคิ้วเล็กน้อย เหมือนกำลังพิจารณาคำพูดของเธอ
“คุณพักอยู่ที่ไหนเหรอ”
“พักอยู่ที่คอนโดกับเพื่อน แถวสาธรค่ะ น่าจะไกลจากที่นี่”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปส่งที่คอนโดเพื่อนคุณก็ได้” อิงฟ้าถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ
ดลภพพาอิงฟ้ามาขึ้นรถคันหรูของเขา เธอนั่งตัวเกร็งอยู่ข้างๆ พยายามควบคุมหัวใจที่เต้นรัวราวกับจะหลุดออกมาจากอก บรรยากาศภายในรถเงียบสงบ จนกระทั่งดลภพเอ่ยขึ้น
“คุณยังไม่ได้ทานข้าวเย็นใช่ไหม”
“เอ่อ...ยังเลยค่ะ” อิงฟ้าตอบอย่างประหม่า
“งั้นเดี๋ยวเราแวะทานข้าวเย็นกันก่อน แล้วผมค่อยไปส่งคุณ พอดีว่าผมอยากคุยเรื่องงานกับคุณด้วย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่กลับเป็นคำชวนที่ทำให้หัวใจของอิงฟ้าพองโต
บอสหนุ่มพาเลขาฯ คนใหม่ มายังร้านอาหารในโรงแรมระดับห้าดาวแห่งหนึ่ง บรรยากาศภายในค่อนข้างโรแมนติก มีเสียงเปียโนคลอเบาๆ ดลภพจัดการสั่งอาหารให้เธออย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงความเป็นสุภาพบุรุษที่แฝงอยู่ภายใต้ความเย็นชา
ตลอดมื้อค่ำ ดลภพยังคงพูดน้อย แต่ก็เป็นฝ่ายถามคำถามเกี่ยวกับตัวเธอและเรื่องงานบ้าง อิงฟ้าตอบอย่างกระตือรือร้น พยายามเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจและไม่หลุดความลับออกไป เธอรู้สึกว่าการได้นั่งคุยกับเขาแบบใกล้ชิด ทำให้เธอหลงใหลในตัวเขามากขึ้นไปอีกหลายเท่า ความเย็นชาของเขาไม่ได้เป็นปัญหาอย่างที่เธอกังวล แต่กลับทำให้เขามีเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหา
“ผมจำได้ว่าเราเคยเจอกันมาแล้วครั้งหนึ่ง...”
“ค่ะ ในงานเลี้ยง” อิงฟ้าตอบอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันคิด เพราะอยากให้เขานึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้น
“คุณไปกับใครเหรอครับ” ดลภพถามต่อ สีหน้ายังคงไม่แสดงอารมณ์ แต่แววตาของเขากลับดูเหมือนกำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง
คำถามของดลภพทำให้อิงฟ้าถึงกับชะงัก นี่คือคำถามที่เธอไม่ได้เตรียมตัวมาล่วงหน้า! ถ้าเธอบอกว่าไปกับคุณแม่ และเป็นลูกสาวท่านประธานธีระ ความลับเรื่องที่เธอปลอมตัวมาเป็นเลขาฯ ก็จะถูกเปิดเผยทันที!
“คือฉันไม่ได้ไปที่งานเลี้ยงนั้นหรอกค่ะ แต่ไปสัมมนาใกล้ ๆ แถวนั้น”
“อ๋อ” เขาเอ่ยขึ้นเหมือนไม่ค่อยเชื่อใจเธอเท่าไหร่ แต่ทำไงได้เธอจำเป็นต้องโกหก ขืนบอกว่า...ไปกับมารดาความลับก็แตกนะสิ! ในสถานการณ์คับขันนี้ อิงฟ้าคิดถึงคำพูดของเจนนิสาที่สอนว่าต้องสร้างบทบาทสมมติและความใสซื่อ เธอจึงตัดสินใจแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าไปแบบนั้น
หลังจากคำตอบของอิงฟ้าเรื่องที่เจอกันในงานเลี้ยงคืนนั้น ดลภพก็ไม่ได้ถามอะไรต่อในทันที เขานั่งรับประทานอาหารตรงหน้าและตักอาหารให้เธออย่างสุภาพ อิงฟ้าถอนหายใจอย่างโล่งอก และคิดว่ารอดตัวไปแล้ว แต่เมื่อทานอิ่ม..เขาก็เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง สายตาคมกริบจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ ราวกับพยายามค้นหาความจริงบางอย่าง
“คุณจบจาก Oxford เหรอ” ดลภพเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง หลังจากที่เธอเล่าประวัติส่วนตัวคร่าวๆ ให้ฟัง ว่าเธอเพิ่งเรียนจบจากประเทศอังกฤษ
“ค่ะ” อิงฟ้ายิ้มหวานให้เขาอย่างจริงใจ เธอไม่ได้โกหกเรื่องการศึกษาเลย ดลภพพยักหน้าช้าๆ ดวงตาคู่คมยังคงจับจ้องเธอไม่วาง
“งานเลี้ยงการกุศลคืนนั้น ผู้ที่เข้าร่วมส่วนใหญ่ก็เป็นนักธุรกิจชั้นนำ” เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่ทำให้หัวใจอิงฟ้าเต้นผิดจังหวะ
“เอาไว้วันหลังถ้างานเลี้ยงจัดขึ้นอีก ผมจะพาคุณไปด้วย” คำพูดของดลภพทำให้เส้นประสาททุกส่วนของอิงฟ้าตึงเปรี๊ยะ เขาต้องกำลังสงสัย! อะไรบางอย่างอยู่แน่ ๆ
“ค่ะ...” อิงฟ้าตอบสั้น ๆ และพยายามทำให้เขาเชื่อสนิทใจ
ตอนที่ 15 เรื่องของหัวใจมื้อค่ำดำเนินไปอย่างอบอุ่น แต่ไม่นานนักคุณปู่ของเขาที่นั่งข้าง ๆ หลานชาย ก็เปิดประเด็นขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ดลย์เอ้ย!!!” คุณปู่เอ่ยขึ้น พลางหันมามองหลานชายด้วยความเอ็นดู“ปีนี้หลานอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ”“30 ย่าง 31 ครับคุณปู่”“30 ก็ถือว่าไม่น้อยเลย แล้วพร้อมที่จะแต่งงานมีครอบครัวหรือยังล่ะ” ดลภพชะงักเล็กน้อย เขารู้ดีว่าคำถามนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในทุกครั้งที่ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้“ผมยังไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลยครับคุณปู่ ผมอยากลุยงานให้เต็มที่ก่อน” ดลภพตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่แฝงความหนักแน่น เสียงคุณประยูรถอนหายใจเบาๆ“เฮ่อ!!!..หลานจะมัวคิดแบบนั้นไม่ได้นะ ปู่เองก็แก่ลงไปทุกวัน ๆ แล้ว จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ ปู่น่ะ...อยากเห็นหลานเป็นฝั่งเป็นฝา มีครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนพ่อกับแม่เค้า หลานช่วยทำให้ปู่นอนตายตาหลับได้มั้ย” คุณประยูรพูดด้วยน้ำเสียงที่เจือความเศร้าเล็กน้อย เพื่อกดดันหลานชายทางอ้อม“เอ่อ...คุณปู่ครับ คือว่า...”“หลานช่วยแต่งงานตอนที่ปู่ยังมีชีวิตอยู่เถอะนะ ถือว่าปู่ขอร้อง!!!”คุณภัสสร ผู้เป็นมารดาที่นั่งฟังอยู่ตลอด พอ
ตอนที่ 14 เรื่องนี้ต้องสืบดลภพไม่พูดพร่ำทำเพลง เขายื่นรูปถ่ายในโทรศัพท์มือให้นักสืบดู รูปแรกเป็นภาพที่อิงฟ้ากำลังเดินลงจากรถของเพื่อนและก้าวเข้าไปในคฤหาสน์หรู ส่วนรูปที่สองคือรูปถ่ายในใบสมัครงานของอิงฟ้าที่เขาเคยแอบถ่ายเก็บไว้“เธอเป็นเลขาฯ คนใหม่ของผม คุณไปสืบดูนะว่าเธอเป็นอะไรกับเจ้าของคฤหาสน์หลังนั้น” ดลภพสั่งเสียงเรียบเตโชรับรูปมาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ดวงตาของเขากวาดมองรูปถ่ายคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว ก่อนจะชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นรายละเอียดบางอย่าง“นี่มันคฤหาสน์ของคุณธีระ ประธานบริษัท เน็กซัส วัน นี่ครับ ใคร ๆ ก็รู้จัก” เตโชเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแปลกใจและไม่คิดว่าดลภพจะไม่รู้จักคฤหาสน์ราคาสามร้อยล้านหลังนั้น เตโชนั้นเป็นนักสืบที่คลุกคลีกับข้อมูลของบุคคลสำคัญอยู่แล้ว ย่อมจำคฤหาสน์ของบุคคลระดับนี้ได้เป็นอย่างดีดลภพพยักหน้ารับเล็กน้อย“ใช่ข้อนั้นผมรู้!!! แต่ผมต้องการรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรกับเจ้าของบ้าน” เขาเน้นย้ำด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม แววตาคมกริบจ้องมองนักสืบอย่างกดดันเตโชก้มลงดูรูปถ่ายของอิงฟ้าในใบสมัครงานอีกครั้ง เทียบกับใบหน้าในรูปถ่ายที่กำลังเดินเข้าบ้าน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองดลภพด้ว
ตอนที่ 13 เธอต้องการอะไรอิงฟ้ายืนนิ่งอยู่กลางห้องทำงานของดลภพ หัวใจของเธอเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมาจากอก คำถามของเขาเมื่อครู่ยังคงก้องอยู่ในหู เธอรู้ดีว่าเขาต้องแอบตามเธอกับเพื่อนไปที่นั่น และเขากำลังสงสัย“เอ่อ...ก็แถวๆ นี้ค่ะ” อิงฟ้าตอบเสียงอ้อมแอ้ม พยายามหลบสายตาคมกริบของเขา เธอเลือกที่จะตอบแบบคลุมเครือที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดลภพเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ใบหน้ายังคงเรียบเฉย แต่แววตาของเขาบ่งบอกถึงความไม่พอใจที่เห็นได้ชัด“ผมถามว่า...ที่ไหน” เขาเน้นย้ำคำถามเหมือนรู้ว่าเธอไปที่ไหนมา แต่ละคำชัดเจนและหนักแน่น จนอิงฟ้าแทบจะสำลัก เลขาฯ สาวยืนกัดริมฝีปากแน่น เธอรู้ว่าไม่มีทางเลี่ยงอีกแล้ว ก่อนจะตัดสินใจบอกเขาไปตามตรง“บริษัทเน็กซัส วัน ค่ะ” อิงฟ้าตอบเสียงเบาหวิว ราวกับกระซิบ“พอดีเพื่อนฉันทำงานอยู่ที่นั่นค่ะ เธอแวะไปเอาของก่อนที่เราจะออกไปทานมื้อกลางวันกัน” เธอรีบเสริมเหตุผลอย่างรวดเร็ว พยายามทำสีหน้าให้ดูบริสุทธิ์ใจที่สุด ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าคู่แข่งบริษัทของเขาจะเป็นเน็กซัส วันดลภพมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อถือ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ก้าวเข้ามาใกล้ จนอิงฟ้าสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากตัวเขา“คุ
ตอนที่ 12 หวานในลิฟต์เช้าวันต่อมาเจนนิสา ขับรถมารับอิงฟ้าที่บ้านตามปกติ บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยเสียงเจื้อยแจ้วของสองเพื่อนซี้ที่ปรึกษาหารือเรื่องแผนการพิชิตใจบอสหนุ่มอย่างดลภพ ก่อนจะรถเลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าตึก JSK กรุ๊ปหลังจากส่งอิงฟ้าลงที่หน้าบริษัทเรียบร้อย เจนนิสาก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังบริษัทเน็กซัสวันเพื่อทำหน้าที่เลขาฯ ให้กับแฟนหนุ่มของเธอ ซึ่งก็คือตรีทศที่เป็นซีอีโอของบริษัทเน็กซัสวันตำแหน่งเดียวกันกับดลภพที่อยู่ JSK กรุ๊ป ก่อนที่เจนนิสาจะเดินขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังห้องทำงานของเธอพร้อมกับตรีทศแฟนหนุ่ม เสียงเข้มของท่านประธานธีระก็ดังขึ้นที่ด้านหลัง เขากำลังเดินตรงเข้ามาในลิฟต์พร้อมเธอและตรีทศอย่างรวดเร็ว“สวัสดีครับท่านประธาน” ตรีทศรีบยกมือไหว้ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทด้วยความเคารพ“หนูเจน อิงฟ้าไปไหน ทำไมไม่เห็นมาฝึกงานพร้อมหนูล่ะ...ไหนว่าไปรับไปส่งกันทุกเช้าไม่ใช่เหรอ” ท่านประธานธีระเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่แฝงความสงสัยอย่างชัดเจน“เอ่อ ๆ คือว่า...” เจนนิสาอึกอักเล็กน้อย เธอเตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอคำถามนี้“คืออิงฟ้าขอไปฝึกอีกที่หนึ่งค่ะ พอดีเพิ่งจะเปลี่ยนกะทันหัน” เจนนิสารี
ตอนที่ 11 แรงกดดันกับความลับที่สั่นคลอนเน็กซัสวัน ยักษ์ใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมหรูครบวงจร คุณธีระเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ทั้งคอนโดมิเนียมหรู โรงแรมระดับห้าดาว และรีสอร์ตริมทะเลอันงดงาม การแข่งขันของสองบริษัทยักษ์ใหญ่ระหว่าง เน็กซัสวัน และ JSK กรุ๊ปคือการช่วงชิงทำเลทอง การสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมที่เป็นไอคอนิก และการให้บริการที่เหนือระดับในขณะที่บริษัท JSK กรุ๊ป ซึ่งเป็นคู่แข่งตลอดกาลในวงการเดียวกัน แต่ปัจจุบันนี้ JSK กรุ๊ปหันมาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเชิงพาณิชย์และที่พักอาศัยระดับพรีเมียม รวมถึงการลงทุนในธุรกิจการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์หรูหราการแข่งขันระหว่าง เน็กซัสวัน และ JSK กรุ๊ป ไม่ได้เพิ่งเริ่มต้น แต่ได้ถูกสืบทอดมาตั้งแต่ รุ่นปู่ของดลภพ กับ รุ่นพ่อของท่านประธานธีระมานานแล้ว ศึกชิงความเป็นหนึ่งในวงการนี้ดุเดือดมาหลายทศวรรษ ตั้งแต่การประมูลที่ดินผืนงาม การช่วงชิงสัญญาโครงการใหญ่ๆ ไปจนถึงการงัดกลยุทธ์ทางการตลาดที่เข้มข้น เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดและพิสูจน์ศักยภาพของตระกูลความบาดหมางทางธุรกิจที่ฝังรากลึกนี้เอง ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอิง
ตอนที่ 10 กับดักรัก...ของคุณหนูอิงฟ้าอ้างว่าที่เธอไปทำงานเป็นเลขาฯ ของดลภพในทุก ๆ วัน เธอบอกว่าไปฝึกงานอยู่กับเจนนิสา เพื่อเรียนรู้งานของบริษัทอย่างเป็นขั้นเป็นตอน“ห๊า!!..จริงอะ” เจนนิสาถึงกับหลุดอุทานเสียงดังลั่น“อื้อ!!!..ก็จะให้ฉันโกหกว่าไงล่ะ” อิงฟ้าโอดครวญ“ไม่บอกว่าไปฝึกงานเป็นแม่บ้านก็ดีนักหนาแล้ว”“ตาย ๆ! ถ้าวันไหนแม่แกเกิดเข้าออฟฟิศขึ้นมา ฉันไม่แย่เลยรึ!!!” เจนนิสาโวยวายด้วยความกังวล เพราะถ้าคุณวิภามาที่บริษัทจริง ความลับต้องแตกแน่ ๆ แล้วเธอเองเนี่ยแหละจะซวย!“แม่ฉ้นไม่ไปหรอกน่า รายนั้นเพื่อนเค้าเยอะ วัน ๆ ก็เอาแต่ตีดัมมี่” อิงฟ้าพูดอย่างสบายใจ เธอรู้จักนิสัยแม่ดี ว่าเป็นคนสังคมจัด ไม่ค่อยได้เข้ามาในออฟฟิศเท่าไร บางวันก็ชวนกันเล่นไพ่ที่บ้าน“ค่อยยังชั่ว!!” เจนนิสาถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก“หวังว่าคงไม่ขาขาด แล้วมาหาเอาตามออฟฟิศหรอกนะ” เจนนิสาเปรยขึ้นมาอย่างขำๆ“ไม่หรอกน่า แกก็เล่นเพลินๆ ไปตามประสาคนแก่นั่นแหละ ส่วนใหญ่จะคุยกันซะมากกว่า” อิงฟ้าบอกปัดอย่างไม่ใส่ใจกับมุก ฮาๆ ของเพื่อน“เอาล่ะๆ มาคุยเรื่องคุณดลย์ต่อเถอะ” อิงฟ้าวกเข้าเรื่องหลักอีกครั้ง“แกว่าฉันควรจะรีบปิด







