Share

บทที่ 10

เมื่อเวลาใกล้เลิกงาน โหลวฉางเยว่เข้าไปที่ออฟฟิศประธาน วางเอกสารลง จากนั้นก็พูดว่า “คุณป้าโทรมาหาฉันตอนกลางวัน ให้เรากลับไปทานมื้อค่ำ ประธานเหวิน คุณไม่ได้กลับไปครึ่งปีแล้วนะ”

เหวินเหยียนโจวขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด “เธอติดต่อกับที่บ้านผมบ่อย ๆ เหรอ?”

“เปล่า” โหลวฉางเยว่ตอบ “ทุกครั้งก็เป็นคุณป้าโทรมาหาฉันก่อน”

เหวินเหยียนโจวมองดูนาฬิกาโยนกุญแจรถให้เธอ “เธอมาขับรถ ผมให้คนขับส่งไป๋โหยวกลับบ้าน”

โหลวฉางเยว่ตามหลังเขา มองดูเบื้องหลังเขา มีประโยคหนึ่งที่อยากพูดออกมามาก เธออ้าปาก แต่ก็ส่งเสียงออกมาไม่ได้

เธอกลัวคำตอบที่ได้ยิน จะได้ยินคำตอบที่เธอคาดเดาไว้

……

อาหารมื้อดึกบนโต๊ะตระกูลเหวิน คุณนายเหวินคีบอาหารให้โหลวฉางเยว่มาตลอด “ทำไมผอมลงเยอะเลยล่ะ? สีหน้าไม่ค่อยดีเลย ไม่สบายแล้วใช่ไหม?”

เหวินเหยียนโจวเดิมทีก็เป็นคนที่เยือกเย็นทั้งนิสัยและภายนอกเป็นคนพูดน้อย ยิ่งอยู่ในบ้านตระกูลเหวิน นอกจากทักทายประธานใหญ่เหวินแล้ว ก็ไม่พูดอะไรอีกเลย

เขามองดูผู้หญิงรับมือกับพ่อแม่ของเขาอย่างเฉยเมย จับหน้าตัวเอง ยิ้มกล่าว “เปล่านี่คะ คงเป็นเพราะวันนี้ทาสีลิปผิดน่ะค่ะ ฉันกลับไปก็จะเอาไปทิ้ง”

เลขาประธานสกุลปี๋หยุนกรุ๊ป เฉลียวฉลาด มีชั้นเชิง เก่งด้านกับคุยกับคนแบบไหนพูดแบบนั้นมากที่สุด ทำให้คุณนายเหวินยิ้มออกมา

เหวินเหยียนโจวจู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของไป๋โหยววันนี้ ทุกคนต่างก็ชอบโหลวฉางเยว่ ก็จริง ไม่เพียงแต่เพื่อนร่วมงานลูกค้า แม้แต่ผู้ที่โตกว่าก็ยังชอบเลย

สามปีมานี้ เธอเข้ามาในชีวิตและงานของเขา อะไรเธอควรจัดการหรือไม่ควรจัดการ เธอก็ทำได้ ดังนั้นพ่อแม่ เพื่อน ๆ ต่างก็ยอมรับ ว่าเธอจะเป็นภรรยาของเขา กระทั่งไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่คุยเรื่องแต่งงานกับพวกเขา

เหวินเหยียนโจวฉีกมุมปาก

แน่นอนว่า คุณนายเหวินพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว

โหลวฉางเยว่ทำใจมาตลอดทั้งตอนเย็น แต่ก็ไม่รู้ว่าควรตอบยังไง ทำตัวไม่ถูกและมองไปที่เหวินเหยียนโจว

เหวินเหยียนโจวยกแก้วน้ำขึ้น ดื่มไปหนึ่งคำ เสียงก็เหมือนดั่งน้ำ ไม่มีรสชาติ ไม่มีอุณหภูมิ “ผมกับเธอไม่มีทางแต่งงานกัน”

โหลวฉางเยว่ที่กำลังคีบกระดูกหมูขึ้นมา ได้ยินแบบนี้ ก็ตกลงไปในถ้วยดังแพ้ง แต่เป็นเสียงที่เบามาก แต่กระแทกโดนหัวใจเธอ เหมือนมีรอยร้าวของแก้ว

มีชั่วขณะนึง เธอไม่ได้ยินเสียงหัวใจเต้นของตัวเอง

ประธานใหญ่เหวิน “ไม่แต่งกับฉางเยว่ แล้วเธอจะแต่งกับใคร? เลขาตัวน้อยในบริษัทนั้นเหรอ เธออย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอทำอะไรบ้า ๆ ในบริษัทนะ”

“ท่านประธาน” โหลวฉางเยว่อยากจะแก้ไขสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้โดยสัญชาตญาณ เมื่อก่อนระหว่างที่พ่อลูกเขาขัดแย้งกัน เธอก็เป็นคนแก้เสมอ

แต่ครั้งนี้ ท่าทางเหวินเหยียนโจวนั้นเย็นชา เหมือนสัมผัสโดนขีดจำกัด “ท่านพ่อมายุ่งมากไปแล้วครับ เรื่องบ้า ๆ ตอนที่ท่านหนุ่มท่านก็ทำไปไม่น้อยนี่ ใช่ไหม? คุณนายเหวิน”

คุณนายเหวินสีหน้าแข็งทื่อ ประธานใหญ่ลุกขึ้นตบโต๊ะ “ไอ้คนเลว”

เหวินเหยียนโจวหยิบทิชชูหนึ่งแผ่น “ผมกินอิ่มแล้ว ไปก่อนนะครับ”

ประธานใหญ่เหวินสีหน้าซีดขาว คุณนายเหวินรีบตักน้ำให้เขาหนึ่งแก้ว “ใจเย็น ๆ นะ ตาเหวิน คุณความดันสูง อย่าโมโหจนทำลายสุขภาพ”

โหลวฉางเยว่พูดโดยสัญชาตญาณ “วันนี้ประธานเหวินไปพบลูกค้าไม่ค่อยราบรื่นนัก ดังนั้นอารมณ์จึงไม่ค่อยดี”

ประธานใหญ่เหวินปวดหัว “นิสัยบ้า ๆ ของเขาทำไมฉันจะไม่รู้ เธอไม่ต้องปิดบังแทนเขา”

คุณนายเหวินพูดปลอบใจ “เหยียนโจวเป็นถึงประธานของบริษัทที่ใหญ่ คุณยังใช้น้ำเสียงสั่งสอนเด็ก ถ้าเป็นคนอื่นใครจะอารมณ์ดีได้ล่ะ ช่างเหอะ”

จากนั้นก็คุยกับโหลวฉางเยว่ “ลำบากเธอแล้วนะฉางเยว่ เธอรีบตามไปดูเหยียนโจวเถอะ รถในสวน เธอไปเลือกขับสักคัน”

ตามจริงแล้วโหลวฉางเยว่ไม่ค่อยอยากไปสักเท่าไหร่

วันนี้เธอ ไม่สิ ตั้งแต่ที่แท้งลูก เมื่อเธอเห็นเหวินเหยี่ยนโจว ก็รู้สึกเหนื่อย ไม่อยากเผชิญ… ทั้งที่เมื่อก่อนแค่เห็นภาพตอนเจอกันครั้งแรก เธอก็ทนได้หมด

แต่พ่อแม่ตระกูลเหวินมองเธอแบบนี้ เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ ได้เพียงก้มหัว หยิบกุญแจกับคนใช้ขับรถตามออกไป

ไล่ตามไปไม่ไกล ด้านข้างถนนสายเล็กสายหนึ่ง เธอเห็นรถของเหวินเหยียนโจวและเขาก็ยืนสูบบุหรี่อยู่ข้าง ๆ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status