แชร์

บทที่ 11

ผู้เขียน: ถานฉี
โหลวฉางเยว่จอดรถเสร็จแล้ว ก็เดินเข้าไปหา “ประธานเหวินคะ”

ไฟบนถนนสลัว ทำให้เห็นใบหน้าด้านข้างที่เคร่งขรึมของชายหนุ่มออกมาแค่ราง ๆ เขาไม่ได้มองโหลวฉางเยว่ และบุหรี่ที่อยู่ตรงปลายนิ้วก็กะพริบอยู่

โหลวฉางเยว่ถอนหายใจอยู่ในใจ เธอมองไปรอบๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก็เห็นร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ชั่วโมงอยู่ไม่ไกล จึงเดินเข้าไปซื้อข้าวปั้น และอุ่นร้อนในร้านสะดวกซื้อมาเรียบร้อย ซึ่งสามารถกินได้เลย

“ตอนเย็นคุณยังไม่ได้กินอะไรสักเท่าไหร่ รองท้องก่อนนะคะ อย่าให้ท้องกระเพาะ อีกค่ะ”

เหวินเหยียนโจวเหลือบมองไปที่เธอ ก่อนจะรับมา

โหลวฉางเยว่พูดเสียงเบา “แม้ว่าคุณจะไม่พอใจในสิ่งที่ท่านผู้อำนวยการเหวินพูด ก็ไม่ควรจะแย้งกลับขนาดนั้นนะคะ ท่านความดันขึ้นได้ง่าย หลายปีก่อนก็เข้าโรงพยาบาลไปครั้งหนึ่งแล้ว……”

เหวินเหยียนโจวหัวเราะเยาะขึ้นมา แล้วโยนข้าวปั้นออกไป ก่อนจะคว้าตัวของโหลวฉางเยว่เอาไว้ จากนั้นก็เปิดประตูรถ แล้วกดเธอลงกับเบาะหลังรถ!

การเคลื่อนไหวของเขาลื่นไหลมาก โหลวฉางเยว่รู้สึกแค่ว่าโลกกำลังหมุนอยู่ตรงหน้า และยังไม่ทันได้โต้ตอบอะไร ขาทั้งสองข้างก็ถูกเขาจับแยกออกจากกัน

เส้นประสาททุกเส้นของเธอราวกับ แตกเป็นเสี่ยง ๆ แล้วเธอก็รีบสกัดกั้นเหวินเหยียนโจวเอาไว้ “ประธานเหวิน!”

แม้ว่าจะเป็นถนนสายเล็ก ๆ แต่บนถนนก็ยังมีคนสัญจรไปมา ซึ่งเธอรับไม่ได้จริง ๆ

“ประธานเหวิน! อย่าทำที่นี่ค่ะ!”

เหวินเหยียนโจวกดมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้บนหัว แล้วน้ำเสียงของเขาก็พูดอย่างเย็นชาโดยไร้ความรู้สึกใด ๆ ว่า “เลขาโหลวก็เรียนรู้ที่จะปฏิเสธเป็นแล้วเหรอ? คุณไม่ใช่ว่า นิสัยดีที่สุด ใคร ๆ ต่างก็ชอบคุณกันทั้งนั้นใช่ไหม?”

โหลวฉางเยว่ถูกกดลงกับเบาะหลังที่คับแคบ และลมหายใจของชายหนุ่มก็ไหลเวียนเข้าไปในอวัยวะภายในทั้งหมดของเธอ เธอผงะไปครู่หนึ่ง แล้วถามออกมาในที่สุด

“มีใครคนไหนชอบฉันกันล่ะ แม้แต่ประธานเหวินก็ไม่ชอบ……คุณชอบไป๋โหยวใช่ไหมล่ะ? เป็นความชอบแบบนั้นจริง ๆ หรือเป็นแค่ความสนใจชั่วครู่กันเหรอคะ?”

เธอคิดว่าเหวินเหยียนโจวเพียงแค่ตกหลุมรักและสนใจในตัวของไป๋โหยว ถ้าให้พูดตรง ๆ อีก ก็คือถูกใจ มาก และอยากจะนอนด้วยสักหน่อย ซึ่งไม่มีอะไรมากไปกว่านี้

แต่คำพูดประโยคนั้นของเขาในคืนนั้นว่า “ไม่ชอบพฤติกรรมก่อนแต่งงาน” ในวันก่อนแต่งงาน

ดูเหมือนเธอจะตัดสินใจผิดพลาดอีกแล้ว

ครั้งก่อนที่ตัดสินใจผิดพลาดไป เธอโดนเนรเทศไปอยู่ที่อื่นอยู่สองเดือน และการตัดสินใจผิดพลาดในครั้งนี้ เธอมีความรู้สึกอยู่นิด ๆ ว่าตัวเองกับเหวินเหยียนโจวกำลังจะจบลงแล้ว……

จริง ๆ แล้วเธอไม่ต้องถามก็ได้ พูดได้ว่ายากที่จะแกล้งโง่ ให้พูดอีกก็คือรู้พอแค่ผิวเผิน และแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วทุกคนก็จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบ

นับตั้งแต่ที่ได้รับการช่วยเหลือจากเขาเมื่อสามปีก่อน เธอก็ตกหลุมรักเขาไปอย่างควบคุมไม่ได้ เธอคิดเสมอ อยู่ในใจของตัวเองว่า ตราบใดที่เธอได้อยู่ข้างกายเขา แม้ ว่าจะไม่มีความภาคภูมิใจในตัวเองที่ต้องกลายเป็นเหมือนเครื่องมือชิ้นหนึ่งแต่ก็ไม่เป็นไร ——สุดท้ายแล้ว ถ้าไม่ใช่เขา สามปีก่อนเธอก็คงตกไปอยู่ในมือของคนเหล่านั้นไปแล้ว และจะต้องเน่าเฟะยิ่งกว่านี้อีกแน่นอน

แต่เดิมทีแล้วมันไม่ใช่

ผู้คนต่างโลภกันทั้งนั้น ใกล้เข้ามาอีกก้าวก็จะอยากใกล้เข้าไปอีกก้าว ตั้งแต่วินาทีที่เธอตกหลุมรักเขาขึ้นมา ก็โลภและอยากได้มากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ แต่น่าเสียดายที่ที่ผ่านมาเธอไม่เคยได้รับมันเลย

และตอนนี้ เธอเฝ้าดูในสิ่งที่เธอไม่สามารถได้มาอย่างช่วยไม่ได้ ความอ่อนโยน ความลำเอียง ความโปรดปรานและการแต่งงานล้วนแต่โดนเขามอบไปให้กับผู้หญิงอีกคน เธออดทนมาได้นานขนาดนี้ ในที่สุดก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไป จึงถามออกมา

เขาหลงรักไป๋โหยวเข้าแล้วจริง ๆ ใช่ไหม? และชอบแบบที่อยากจะแต่งงานด้วยใช่หรือเปล่า?

เหวินเหยียนโจวไม่ตอบอะไรและมองดูเธอในความมืด แต่ว่าความเงียบในบางครั้ง ก็เป็นความหมายของการยืนยันในคำตอบ

โหลวฉางเยว่ยิ้ม “คุณอยากแต่งงานกับเธอ แต่กลับมาแตะต้องฉัน แบบนี้มันไม่ซื่อสัตย์เกินไปหน่อยเหรอคะ?”

“ก็แค่ใช้เครื่องมือนิดหน่อย จะพูดว่าไม่ซื่อสัตย์ได้อย่างไรกัน?”

พูดยังไม่ทันจบ ฝ่ามือข้างหนึ่งก็กระแทกลงบนใบหน้าของเหวินเหยียนโจวอย่างรวดเร็วและแม่นยำ เพี๊ยะ!

แรงนั้นไม่มากนัก แต่การเคลื่อนไหวนี้ ตัวโหลวฉางเยว่เองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน

ทั้งสองมองหน้ากันในระยะใกล้ นี่เป็นครั้งแรกที่เหวินเหยียนโจวโดนคนตบ และยังโดนตบจากผู้หญิงคนนั้นที่เขารังเกียจมากที่สุด เขาชาไปทั้งตัว

โหลวฉางเยว่หัวเราะเยาะตัวเองที่เป็นเครื่องมือ ซึ่งกับคำพูดของเหวินเหยียนโจวที่กล่าวว่าเธอเป็นแค่เครื่องมือนั้น มันต่างกันอย่างสิ้นเชิง เธอตบเขา แต่ไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยสักนิด

เธอยังรู้สึกว่าตัวเองกำลังตัวสั่นอยู่

ที่แท้โดนคนทำให้โกรธจนตัวสั่นมันเป็นแบบนี้นี่เอง

เหวินเหยียนโจวมองไปที่เธออย่างเย็นชา เห็นน้ำตาในดวงตาของเธอ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา จากนั้นเขาก็จัดคอเสื้อของตัวเอง แล้วลุกขึ้นพร้อมกับพูดด้วยความโกรธว่า “ลงจากรถซะ”

โหลวฉางเยว่เม้มริมฝีปาก จัดการเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ลงไปจากรถทันที และยังไม่ทันได้ปิดประตูรถ เหวินเหยียนโจวก็เหยียบคันเร่ง แล้วขับออกไปทันที

โหลวฉางเยว่มองดูท้ายรถ ความเหนื่อยล้านับวันก็ยิ่งหนักหน่วงและหนักขึ้นเรื่อย ๆ เธอดูเหมือนว่า จะทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว

ท่ามกลางความมืด ราวกับมีมือหนึ่งมาผลักเธอออกไป จุดหัวเลี้ยวหัวต่อนี้เคลื่อนเข้ามาเร็วมาก และเกือบจะเป็นเช้าวันรุ่งขึ้นอยู่แล้ว
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 418

    พอแม่โหลวก็ได้ยินเสียงพ่อโหลวกลับมา จากนั้นเธอก็นำอาหารจานสุดท้ายมาเสิร์ฟที่โต๊ะ“งั้นก็มากินข้าวกันเถอะ วันนี้เย่ว่เยว่พาเหยียนโจวกลับมาด้วย เธอไม่ได้บอกเราล่วงหน้า พวกเราเลยไม่ได้เตรียมอะไรไว้ เลยมีแค่อาหารทำเองที่บ้าน ไม่รู้ว่าเหยียนโจวจะทานได้หรือเปล่า? ”เหวินเหยียนโจวลุกขึ้นยืน เหลือบมองใบหน้าซีดเซียวของพ่อโหลว และกระซิบเบา ๆ “เป็นผมที่ไม่ได้บอกเย่ว่เยว่ล่วงหน้าว่าผมจะอยู่ต่อ เธอถึงไม่ได้บอกกับทุกคน ไม่โทษเธอหรอกครับ”แม่ยายมองดูลูกเขย ยิ่งมองก็ยิ่งชอบเขามากขึ้น แม่โหลวไม่ได้มีความสุขขนาดนี้มานานแล้ว มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเธอ เธอแสร้งดุออกไป “เหยียนโจว เธอก็อย่าให้ท้ายเยว่เยว่มากเกินไปสิ”แต่หลังจากที่พูดจบ เขาก็ปกป้องเธอ “แต่เยว่เยว่ของเราเป็นคนที่มีเหตุผลที่สุด ต่อให้ตามใจก็ไม่เป็นไรหรอกครับ”มุมปากของโหลวฉางเยว่โค้งงอขึ้นทุกคนมานั่งที่โต๊ะด้วยกัน แม่โหลวตักซุปเสิร์ฟให้เหวินเหยียนโจวก่อน จากนั้นจึงใช้ตะเกียบคีบผักใส่ในชามของเขา“เหยียนโจว ลองซุปปลาหน่อไม้เหลืองฤดูหนาวดูสิ หน่อไม้นั่นปลูกเองเชียวนะ ปลาก็เป็นของเพื่อนบ้านที่ไปจับมาจากทะเล”“แล้วก็ยังมีหมูเปรี้ยวหวานสั

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 417

    จนถึงตอนนี้โหลวฉางเยว่ก็ยังไม่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างไป๋โหยวกับเขาอย่างถ่องแท้ เธอเหลือบมองเขา และอดไม่ได้ที่จะเริ่มคิดผู้ชายน่ะนะ ไม่ได้ “ไร้เดียงสา” ขนาดนั้น โดยเฉพาะผู้ชายอย่างเหวินเหยียนโจว ผู้หญิงสนใจเขาหรือเปล่า เขาก็สามารถมองออกได้ง่าย ๆเหวินเหยียนโจวรู้อยู่แล้วว่าไป๋โหยวชอบเขา แล้วเขาก็ยังตกลงที่จะให้เธอมาอยู่เคียงข้างเขาอีก นั่นก็เป็นเหมือนคำตอบรับโดยปริยายว่าเขายอมรับความรู้สึกของเธอแล้วไม่ใช่หรือไง?พอมาคิดรวมกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันส่งท้ายปีเก่าปีที่แล้ว ก็มีความคิดเห็นที่เกี่ยวกับเธอขึ้นมา เขาเย็นชาใส่เธอตลอด ดังนั้นที่เขาเก็บไป๋โหยวไว้ ไม่ใช่แค่เพราะว่าอยากจะทำให้เธอโกรธ แต่วางแผนที่จะทำให้ “เปลี่ยนใจ” ด้วยสินะ?โหลวฉางเยว่พูดด้วยความรำคาญ “แม่ของคุณชอบไป๋โหยวมากเลยเหรอคะ? เธอยังอยากให้คุณแต่งงานกับไป๋โหยวด้วยใช่ไหม? เนี่ยเหลียนอี้เคยบอกฉันว่าท่านประธานใหญ่เหวินยอมรับไป๋โหยวแล้วด้วย แต่เพราะด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาก็ปฏิเสธกะทันหัน เป็นเพราะว่าท่านประธานใหญ่เหวินรู้เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไป๋โหยวกับแม่ของคุณรึเปล่าคะ? ”แม้ว่าโหลวฉางเยว่จะไม่ค่อยรู้เรื่องคร

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 416

    ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว แต่พ่อโหลวก็ยังไม่กลับมา พี่เลี้ยงจึงออกไปตามหาเขาเดิมทีโหลวฉางเยว่ต้องการช่วยแม่โหลววางจานและตะเกียบ แต่แม่โหลวก็ให้เธอไปอยู่เป็นเพื่อนเหวินเหยียนโจว เพราะเธอกลัวว่าลูกเขยคนจะอึดอัดถ้าต้องนั่งอยู่คนเดียว......จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง? ต่อให้ฟ้าจะถล่ม ประธานเหวินก็ยังคงมั่นคงไม่ขยับเขยื้อนอยู่ดีแต่ยังไงโหลวฉางเยว่ยังคงเดินไปหาเขาเหวินเหยียนโจวอยู่บนโซฟาสำหรับสองคน เดิมทีเธอต้องการนั่งบนโซฟาเดี่ยวที่อยู่ข้าง ๆ แต่ประธานเหวินดึงเธอเข้ามานั่งกับเขาเขากระซิบข้างหูเธอ “คุณพูดอะไรกับแม่ของคุณบ้าง? ”หูของโหลวฉางเยว่ไวต่อความรู้สึกมาก เธอก็กระตุกตัวหลบอยู่ครู่หนึ่ง “ก็ไม่ได้พูดอะไรหนิคะ”“ไม่พูดงั้นเหรอ แล้ววทำไมท่าทีที่เธอมีต่อผมถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้? ” เหวินเหยียนโจวบีบนิ้วของเธอ “คุณคิดว่าผมดูไม่ออกเหรอ? เมื่อกี้เธอไม่ค่อยพอใจผมเท่าไหร่ แล้วผมมีอะไรที่ทำให้แม่ยายไม่พอใจเหรอ? ”ความมั่นใจของประธานเหวินก็มาจากสภาพที่เหนือกว่าของเขา แต่ตราบใดที่พ่อแม่ไม่ขายลูกกิน สิ่งแรกที่พวกเขาจะพิจารณาเมื่อลูกจะแต่งงานก็คืออุปนิสัยของอีกฝ่ายการแสดงออกของโหลวฉางเยว่ยังคง

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 415

    แม่โหลวไม่ใช่คนโง่ แม้ว่าเหวินเหยียนโจวจะตอบด้วยท่าทีนอบน้อม แต่เธอก็มองออก ด้วยลักษณะท่าทางและนิสัยของเหวินเหยียนโจว คงไม่ใช่แค่มี “เงินเล็กน้อย” ถึงสามารถเลี้ยงเขามาได้แน่ ๆ “งั้นก็ดีมาก ดีแล้วล่ะ พวกลูกคบกันมาสามปี สิ่งที่ควรจะเรียนรู้ก็น่าจะเรียนรู้กันมาหมดแล้ว แม่เองก็ไม่มีอะไรที่จะต้องถามอีกแล้วล่ะ”เหวินเหยียนโจวไม่ชอบพูดอ้อมค้อม จู่ ๆ เขาก็จับมือโหลวฉางเยว่ “เมื่อกี้ผมเพิ่งขอเยว่เยว่แต่งงานครับ และเธอก็ตอบตกลงแล้วด้วย”โหลวฉางเยว่มองไปที่แม่ของโหลวโดยไม่รู้ตัวใบหน้าของแม่โหลวเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอไม่ได้มีความสุขมากนัก เธอฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ จะเร่งรีบขนาดนี้ได้ยังไง พวกเรายังไม่ได้รู้จักเธอมากขนาดนั้นเลย เราเองก็ไม่เคยพบพ่อแม่ของเธอด้วย อย่างน้อยก็ควรจะหาเวลา ให้พวกเราทั้งสองตระกูลได้พูดคุยกันและปรึกษาหารือกันหน่อย”เหวินเหยียนโจวหยิบถ้วยชาขึ้นมา แต่เขาแค่เอามันมาใกล้จมูกแล้วดมกลิ่น เขาไม่ได้ดื่มมัน จากนั้นก็วางมันกลับไปที่เดิม สีหน้าเขาดูไม่ใส่ใจโหลวฉางเยว่รู้จักเขาดี เขารู้สึกว่าชาราคาถูกเกินไป เกินกว่าที่เขาจะเอาเข้าปากได้ และคำพูดเหล่า

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 414

    ระยะทางจากห้างสรรพสินค้าถึงบ้าน ก็ใช้เวลาประมาณสิบกว่านาที โหลวฉางเยว่ก็ครุ่นคิดว่าจะพูดอะไรดีอยู่ในใจ จะบอกพ่อโหลวแม่โหลวยังไงดี เกี่ยวกับเรื่องที่เธอกำลังจะแต่งงาน?จะให้อธิบายยังไง ว่าลูกสาวของพวกเขา ตอนเพิ่งออกจากบ้านก็เป็นแค่คนโสด แต่ผ่านไปได้แค่ครึ่งชั่วโมง กลับบ้านมาก็กลายเป็นคนที่กำลังจะแต่งงานอย่างงั้นเหรอ?เธอคิดไม่ตกเลยจริง ๆ เลยได้แต่พาเหวินเหยียนโจวเดินไปรอบ ๆ ตรอกเท่านั้น จนกระทั่งประธานเหวินเริ่มหมดความอดทน เขาคว้าหลังคอของเธอแล้วลากกลับบ้าน“ผมเคยได้ยินประโยคหนึ่งที่ว่า ‘แม้ลูกสะใภ้จะขี้เหร่ แต่ก็จำเป็นจะต้องเจอหน้าพ่อแม่สามีอยู่ดี’ ผมคงไม่ได้ไร้ความสามารถถึงขั้นทำให้คุณอายจนไม่กล้าพาผมไปเจอหน้าพวกท่านหรอกมั้ง? ”โหลวฉางเยว่คิดว่าเขามีความสามารถมากเกินไปต่างหาก เธอถึงไม่รู้ว่าจะบอกพ่อแม่ของเธอยังไงดีคิ้วของเหวินเหยียนโจวขยายออก และยกขึ้นเล็กน้อย แล้วเขาก็พูดด้วยหางเสียงว่า “หืม” โหลวฉางเยว่ทำได้แค่กัดฟัน แล้วพาเขาเข้าไปพ่อโหลวออกไปตั้งแต่เช้า ตอนนี้ยังไม่กลับมาแม่โหลวเพิ่งเห็นว่าเธอพาเพื่อนกลับบ้านมาด้วย แถมยังเป็นเพื่อนผู้ชายอีกต่างหาก รู้สึกประหลาดใจและตกใจม

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 413

    ผนังซีเมนต์สีเทาที่ได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ทำให้รู้สึกอบอุ่นเล็กน้อย ขณะที่เธอกำลังจัดเสื้อผ้าตัวเองอยู่ โหลวฉางเยว่ก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอย่างอื่น “......ฉันยังไม่ได้ตกลงอะไรเลยนะคะ คุณเลิกคิดเองเออเองได้แล้วค่ะ”เหวินเหยียนโจวก็ยังคงจัดการวางแผนเองอยู่ “ยังไงนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เข้าบ้านจริง ๆ คงดูไม่ดีถ้าเข้าไปมือเปล่า คุณช่วยพาผมไปที่ห้างสรรพสินค้าในตำบลของคุณหน่อยสิ แล้วคุณก็ช่วยเลือกของขวัญที่เหมาะกับพ่อแม่ของคุณด้วย”“......”“เด็กดี นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้พบกับพ่อแม่คุณ คุณต้องช่วยผมด้วยนะ”“......”โหลวฉางเยว่ลูบแหวน เธอไม่รู้ว่าเธอตัวชาเพราะการที่เขาเรียกเธอว่าเด็กดี หรือเป็นเพราะสับสนกับท่าทางที่เขายอมก้มหัวให้กันแน่ เธอค่อนข้างสับสนอย่างมาก แต่เธอก็ยังพาเขาไปที่ห้างสรรพสินค้าอยู่ดีโชคดีที่ชุมชนนี้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว เลยยังพอจะมีห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์ระดับไฮเอนด์อยู่บ้างแต่ก่อนที่จะเข้าประตู เหวินเหยียนโจวก็ได้รับสายโทรศัพท์สายหนึ่ง เขามองไปที่ชื่อผู้โทร ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าของเขาไม่ผ่อนคลายเหมือนตอนที่เผชิญหน้ากับเธอเมื่อกี้โหลวฉางเยว่มองไปที

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status