Home / วาย / บัวเหนือศิรา / ศิรา กิจธนะวรกุล

Share

ศิรา กิจธนะวรกุล

last update Last Updated: 2025-06-05 19:00:03

หลังจากวันนั้นก็เป็นเวลากว่าสี่เดือนแล้ว ที่บัวบูชาทำงานที่บาร์แห่งนี้ ตอนนี้เรียกได้ว่าเธอรู้จักพนักงานในร้านทุกคนแล้ว โดยเฉพาะรุ่นน้องที่ชื่อใบตอง อายุน้อยกว่าเธอหนึ่งปี

ใบตองคือคนที่คอยช่วยเหลือเธอตลอดทั้งเรื่องงานหรือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเวลาเจอกับพวกลูกค้าผู้ชายที่มือไวใจเร็ว ชอบแตะนิดแตะหน่อย หรือพวกที่ชอบพูดจาสองแง่สองง่าม แทะโลมต่าง ๆ นานา

แรก ๆ บัวบูชาก็ทำตัวไม่ถูกเพราะไม่เคยเจอกับสถานการณ์แบบนี้ แต่พอปรับตัวได้หญิงสาวก็เริ่มเอาตัวรอดเป็น อยู่ต่อหน้าลูกค้าก็พูดจาคะขา เอาอกเอาใจเก่ง ทำให้ตอนนี้รายได้จากทิปคืนหนึ่งก็ปาไปเกือบสี่พันบาทแล้ว

แต่ก็นั่นแหละ ใช่ว่าทุกคนในร้านจะดีกับเธอทุกคน มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด โดยเฉพาะกับพวกสาว ๆ ที่ทำงานที่ร้านมาก่อน พอเธอเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ก็เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า ทำให้คนพวกนั้นไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่

บัวบูชาตัดความฟุ้งซ่านทิ้งไป ทุกวันนี้เธอพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดแค่นั้นก็พอ ตอนนี้เธอต้องรีบกอบโกยเงินให้ได้มากที่สุด เพราะปลายเทอมหน้าก็เป็นเทอมสุดท้ายของภาคเรียนแล้ว

ซึ่งเป็นเวลาที่บัวบูชาจะต้องไปฝึกงาน หญิงสาวเลยอยากเก็บเงินให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นค่าอยู่ ค่ากิน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับแม่อีกมากมาย

คืนวันเสาร์ ภายในร้านเต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตากำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน บรรยากาศเป็นเหมือนเช่นทุกคืนที่ผ่านมา บัวบูชาในชุดพนักงานเสิร์ฟ เสื้อเชิ้ตสีขาวผ้าลื่นเข้ารูปที่เน้นช่วงเอวคอดกิ่ว กับกระโปรงสีดำสั้นเลยเข่านิดหน่อยที่เน้นช่วงสะโพกผาย ส่งผลทำให้พวกเสือพวกตะเข้ทั้งหลายที่เห็นต่างก็น้ำลายหกกันเป็นแถว

ใบหน้าเรียวเล็กขาวนวล ดวงตาคู่สวยดูหยิ่งนิด ๆ รับกับริมฝีปากบอบบางสีกุหลาบ ที่มีไฝเสน่ห์ประดับอยู่ตรงปากล่างด้านซ้าย ทำให้บัวบูชาเป็นที่สะดุดของผู้คนที่พบเห็น ไม่เว้นแม้แต่เจ้าของร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่ตรงโซน VIP ด้านบนของร้าน

ศิรา กิจธนะวรกุล ชายหนุ่มอายุย่าง ๒๘ ปี เจ้าของรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลา จมูกโด่งเป็นสัน ส่วนสูงราว ๑๘๖ เซนติเมตร  ทายาทเพียงคนเดียวของบริษัทศัจกรกิจไพศาล จำกัด

หนุ่มนักเรียนนอกจบปริญญาโท ด้านการบริหารจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในอเมริกา ที่เพิ่งบินกลับมาอยู่บ้านหมาด ๆ ตามคำสั่งเด็ดขาดของผู้เป็นพ่อที่ต้องการให้ลูกชายคนเดียวกลับมารับตำแหน่งรองประธานบริษัท หลังจากที่ศิราเรียนจบ และใช้ชีวิตเป็นพ่อหนุ่มเพลย์บอยไร้แก่นสารอยู่เมืองนอกมานานนับปี

หากผู้เป็นพ่อไม่ยื่นคำขาดว่า ถ้าเขาไม่กลับมารับตำแหน่งรองประธานจะตัดเขาออกจากกองมรดก ชายหนุ่มก็คงไม่กลับประเทศไทย เขาเบื่อบ้าน เบื่อที่จะต้องทำตามคำสั่ง

ชีวิตเขาตั้งแต่เด็กก็ถูกตีกรอบให้เรียน ให้ทำนั่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา ไม่มีเลยสักครั้งที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ แน่นอนว่าวัยเด็กเขาก็ต่อต้าน แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เขาเอาชนะผู้เป็นพ่อได้เลยสักครั้ง

พ่อมักจะหาเหตุผลร้อยแปดอย่างมาอ้างว่าสิ่งที่เลือกให้มันดีที่สุดสำหรับเขาแล้ว

แต่สิ่งที่พ่อไม่เคยรู้ คือเขาไม่เคยต้องการ แม้แต่แม่ก็ไม่มีปากมีเสียง พ่อเป็นคนกุมอำนาจทั้งหมดไว้ในมือ ทั้งเรื่องในที่ทำงาน และเรื่องที่บ้าน เพราะถือว่าตัวเองเป็นผู้นำ เป็นประมุขของบ้าน ทุกคนในบ้านมีหน้าที่แค่ทำตามเท่านั้น

ดวงตาคมกริบนั่งจ้องเจ้าของร่างบางที่เดินเสิร์ฟเครื่องดื่มไปมาอยู่ด้านล่าง พร้อมทั้งจิบไวน์แดงชั้นเลิศไปพลาง ริมฝีปากหนายกยิ้มขึ้นอย่างลืมตัว เวลาที่เห็นคนตัวเล็กยิ้มแย้มพูดคุยกับลูกค้า รอยยิ้มบริสุทธิ์ของคนตัวเล็กช่างสวยงามซะจริง ๆ

เวลากว่าสองชั่วโมงที่ศิรามานั่งรอเพื่อนในบาร์แห่งนี้ หญิงสาวหลายคนต่างชม้ายชายตามองมาทางร่างสูงไม่ขาด ด้วยใบหน้าคมคายหล่อเหลา เส้นผมสีดำขลับที่เซตเป็นทรงเข้ากับใบหน้า รับกับผิวสีเข้มอย่างหนุ่มไทยแท้ บวกกับหน้าอกผึ่งผายที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเป็นมัด ๆ เพราะศิราเป็นคนรักสุขภาพ ชอบออกกำลังกาย

ไหนจะการแต่งกายที่ใส่แบรนด์เนมทั้งตัวนั่นอีก ไม่แปลกใจนักที่สาวน้อยสาวใหญ่จะพากันส่งสายตายั่วยวนมาให้

“ไง! ไอ้เสือ ถึงไทยปุ๊บ ออกล่าปั๊บเลยนะมึง” คฑาวุธ หรือ คินน์ ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ผิวขาวสูงเพราะมีเชื้อสายคนจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้จัดการหนุ่มบริษัทนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ เอ่ยทักทายเพื่อนสนิทหลังจากที่อีกฝ่ายโทรหาเมื่อตอนเย็นว่ากลับถึงไทยแล้ว และได้นัดกันมาสังสรรค์ที่บาร์ของมาวิน

“เออ เบื่อ ๆ”

“แล้วเริ่มงานทำงานเมื่อไหร่?”

“ไม่รู้ แล้วแต่อารมณ์”

“มึงนี่ก็นะ จะต่อต้านพ่อมึงไปอีกนานแค่ไหน แค่มึงทำตัวเที่ยวเล่นผลาญเงินไปวัน ๆ เกือบปี พ่อมึงก็เครียดจะตายล่ะ”

“กูไม่สน กูทำตามใจเขามาตั้งแต่กูเกิดล่ะ กูแค่อยากทำตามใจตัวเองบ้าง” ศิรายักไหล่

“เห้อ! ดื้อเหมือนกันไม่มีผิด ทั้งพ่อทั้งลูก แบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะได้คุยกันดี ๆ วะ เจอกันครึ่งทางไม่ดีกว่าเหรอ”

“กูไม่อยากจะคุย คุยไปก็เท่านั้น ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม” ถ้าจะถามว่าศิราดื้อเหมือนใคร ก็คงตอบได้อย่างไม่ต้องคิดว่าเหมือนพ่อ

“เหนื่อยใจว่ะ เปลี่ยนเรื่องๆ เอ่อ แล้วไอ้วินล่ะ ทำไมยังไม่มาอีก”

“มันบอกว่ามีงานเยอะ ขอเคลียร์ก่อน เดี๋ยวตามมา”

“อืม”

“น้องคนนั้นชื่ออะไร มึงรู้จักไหม?” คินน์มองตามสายตาของเพื่อน ก็พบเข้ากับเจ้าของร่างบางที่กำลังทำงานอย่างตั้งอกตั้งใจ

“รู้จักดิ ชื่อน้องบัวบูชา ชื่อเล่นน้องบัว แต่คนนี้ไม่ได้นะเว้ย ไอ้วินหวง”

“ทำไม เด็กมันเหรอ?” ศิราขมวดคิ้วมุ่น

“ไม่ใช่ เด็กคนนี้ลูกพี่ลูกน้องของมันฝากมาอีกที มันบอกว่าน้องเป็นเด็กนิสัยดี บ้านยากจน อยู่กับแม่สองคน”

“หึ ถ้าไม่ใช่เด็กไอ้วินก็ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้”

“น้องเดินมาทางนี้แล้วมึง” คินน์ สะกิด

สิ้นประโยคคำพูดจากเพื่อนสนิท ศิราก็หันหน้าไปมองทันที สายตาคมสบเข้ากับสายตาเรียวคู่สวยแว็บหนึ่ง ก่อนที่บัวบูชาจะเป็นฝ่ายละสายตาไป

ทางด้านของศิรา ชายหนุ่มจ้องมองตามร่างบางไปจนลับตา ไม่รู้ว่าเขาใช้สายตามองคนตัวเล็กแบบไหน เพื่อนตัวดีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ถึงกับต้องเอ่ยปากแซว

“เช็ดน้ำลายบ้างครับ คุณศิรา จ้องน้องเขาจนผิวจะถลอกอยู่แล้ว ไอ้สัด”

“จ้องใคร?” เป็นเสียงของมาวินที่เดินเข้ามาสมทบเอ่ยถามขึ้นมาเสียก่อน

“อ้าว! ไอ้วิน เสร็จงานแล้วเหรอ” คินน์ เอ่ยทัก

“อืม เสร็จแล้ว สรุปว่าไอ้ศิรามันจ้องใคร?”

“จะใครซะอีกล่ะครับ ก็น้องเด็กเสิร์ฟคนน่ารัก ตัวขาว ๆ ที่กูเคยถามมึงไง”

“อ๋อ! คนที่มึงเคยจะเคลม อะเหรอ”

“อ้าว มึงก็เคยเหรอ แหม ทำมาเป็นขัดกู ที่แท้ก็เคยมาก่อน มิน่ารู้เรื่องเขาเยอะเชียว” ศิราหันไปพูดกับคินน์

“แฮ่ ก็นิดหน่อย” คินน์ ยิ้มอาย ๆ พร้อมเกาหัวแก้เขิน

“ไอ้วิน คืนนี้ติดต่อน้องให้กูหน่อยดิ” ศิรา หันไปพูดกับมาวิน

“เห้ย คนนี้ไม่ได้ว่ะ ไอ้ศิรา น้องมันเป็นเด็กดี อย่าไปยุ่งกับน้องมันเลย แล้วอีกอย่างน้องไม่รับงานแบบนี้ น้องแค่เสิร์ฟอย่างเดียว”

“แล้วถ้าน้องเขาตกลงไปกับกูคืนนี้ล่ะ?”

“ไม่มีทาง กูพนันเลย” มาวินเอ่ยออกมาด้วยท่าทางมั่นใจ เพราะระยะเวลาสี่เดือนที่ผ่านมา ชายหนุ่มสังเกตบัวบูชามาโดยตลอด บัวบูชาไม่มีทางรับงานอย่างว่าแน่นอน

“ได้ยากแบบนี้ ชักน่าสนใจซะแล้วสิ มาดูซิว่าจะเป็นอย่างที่มึงพูดไหม?” สายตาคมโตจ้องมองร่างบางอย่างไม่วางตาราวกับเสือที่กำลังจ้องมองลูกแกะตัวน้อยก็ไม่ปาน คนอย่างศิรา กิจธนะวรกุล อยากได้อะไรก็ต้องได้

“ก็ลองดู ถ้าโดนเด็กมันหักหน้าขึ้นมา ก็อย่ามาโทษกูนะเว้ย”

“เอาไวน์มาอีกขวดดิ เรียกน้องบัวมาเสิร์ฟด้วย กูอยากทำความรู้จักกับน้องสักหน่อย” ศิราเอ่ยบอกมาวินเสียงเรียบ สายตายังคงจดจ้องอยู่ที่ร่างบางตลอดเวลา

มาวินส่ายหน้า ก่อนจะโทรไปสั่งการลูกน้อง สักพักจึงเห็นว่ามีพนักงานเสิร์ฟด้วยกันเดินไปกระซิบบอกอะไรบางอย่างแก่คนตัวเล็ก ก่อนที่จะชี้มาทางโต๊ะที่พวกเขาสามคนนั่งอยู่ คนตัวเล็กพยักหน้ารับคำก่อนจะเดินหายเข้าไปหลังร้าน

ไม่ถึงสิบนาที บัวบูชาก็เดินมาพร้อมกับไวน์แดงจากฝรั่งเศส เกรดระดับพรีเมี่ยม ร่างบางเดินไปยังโต๊ะที่มีชายหนุ่มทั้งสามคนนั่งอยู่ ก่อนจะวางขวดไวน์ไว้ข้างโต๊ะ มือเรียวบางใช้อุปกรณ์เปิดจุกขวดไวน์อย่างชำนาญ

ก่อนจะค่อย ๆ รินไวน์ใส่แก้วที่ศิราเป็นคนยื่นให้ ศิราจ้องมองทุกการกระทำตรงหน้าไม่วางตา บัวบูชาถึงแม้จะไม่ได้เหลือบมองหน้าผู้ชายที่นั่งข้างคุณมาวิน แต่ก็รับรู้ได้ว่ามีสายตาคมจ้องมองมาอยู่ตลอด ตั้งแต่ที่เธอเดินเข้ามาแล้ว

บัวบูชาใจเต้นโครมคราม พานทำให้มือน้อย ๆ สั่นด้วยความประหม่า มือสั่นเทาวางแก้วไวน์ใบสวยไว้ข้าง ๆ คนตรงหน้า ศิรายกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอ่ยล้อคนตัวเล็ก

“พี่ไม่กัดหรอกค่ะ คนสวย”

“…”

“หนูชื่ออะไรคะ?” ศิรามองใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มนั้นก่อนจะเอ่ยถาม

“เอ่อ” บัวบูชาหันหน้าไปมองนาวิน ราวกับขอความช่วยเหลือ เพราะว่าลูกค้านั่งโต๊ะเดียวกับเจ้านาย ไม่รู้ว่าร่างสูงเป็นใคร และเป็นอะไรกับเจ้าของร้าน

“คนนี้ เพื่อนพี่เอง” มาวินกล่าว

“สวัสดีค่ะ ชื่อบัวบูชาค่ะ” หลังได้รับการพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตจากมาวิน บัวบูชาจึงตอบคำถามของคนตัวโต

“พี่ชื่อศิรานะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ก่อนจะยื่นมือมารอตรงหน้า

“ค่ะ เช่นกันค่ะ” บัวบูชายื่นมาไปจับมือใหญ่เบา ๆ

“ให้พี่เรียกหนูว่าอะไรดีคะ?”

“เอ่อ... เรียกว่าบัวก็ได้ค่ะ”

“ค่ะ น้องบัว นั่งกับพี่นะครับ คืนนี้” ศิราเอ่ย พร้อมกับส่งสายตาร้อนแรงสื่อความหมายบางอย่างชัดเจน ขนาดคนที่ไม่ประสีประสาอย่างบัวบูชายังเข้าใจได้ แถมยังไม่ยอมปล่อยมือจากเธออีก

หัวใจดวงน้อยเต้นแรงเกิดอาการประหม่าขึ้นมาทันทีที่ได้สบตากับเจ้าของร่างสูง คนนี้สินะ ที่เธอได้ยินพวกสาว ๆ แอบกรี๊ดกร๊าดกันตอนที่เดินเข้ามาภายในร้าน

“ขอประทานโทษคุณลูกค้าด้วยนะคะ พอดีบัวเสิร์ฟอย่างเดียวค่ะ ไม่ได้นั่งดริ้ง ยังไงเดี๋ยวบัวเรียกน้อง ๆ ให้ดีกว่านะคะ รบกวนคุณลูกค้ารอสักครู่”

บัวบูชาพยายามดึงมือออกมาอย่างสุภาพ ก่อนจะก้มโค้งให้เล็กน้อย และรีบเดินออกไปจากตรงนั้นทันทีด้วยความเร็วแสง ทิ้งให้ศิรานั่งมองตาค้างเพราะคิดคำพูดไม่ทัน

“ฮ่า ๆ กูบอกแล้ว น้องเขาไม่หลงคารมมึงหรอก” มาวินแซว

“คืนนี้ก็ออกกับน้องชุดแดงคนนั้นก่อนไหม กูเห็นมองมึงมาตั้งแต่กูเข้ามาล่ะ” คินน์พยักพเยิดไปที่โต๊ะซ้ายมือ

ศิรามองตามก่อนจะเห็นว่าเป็นผู้หญิงสาวสวย แต่งตัวด้วยชุดเดรสรัดรูปสีแดงเลือดนก เจ้าหล่อนยกแก้วขึ้นทักทาย พร้อมด้วยรอยยิ้มหวาน ศิรายกแก้วขึ้นทักทายตอบกลับเล็กน้อย ก่อนที่จะลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องน้ำ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บัวเหนือศิรา   แม่มดใจร้ายกลับมาแล้ว

    ในมุมมุมหนึ่งของไนต์คลับ ร่างของหญิงสาวหน้าตาสะสวย แต่งตัวดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยเสื้อผ้า และกระเป๋าแบรนด์ดัง กำลังนั่งดื่มเครื่องดื่มมึนเมาอยู่คนเดียว ใบหน้าที่สวยงามในตอนนี้ไม่ได้ดูน่ามองสักเท่าไหร่นัก เพราะเจ้าของใบหน้ากำลังทำหน้าตาเหมือนกำลังโมโหอะไรอยู่สักอย่างปากก็บ่นพึมพำคนเดียวตลอดเวลา ในมือมีโทรศัพท์เครื่องหรู ที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังจ้องอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ด้วย“มีความสุขกันจริง ๆ เลยนะ ช่างเป็นครอบครัวที่น่าอิจฉาซะจริงเลย มีความสุขกันเข้าไปเยอะ ๆ เวลาสูญเสียมันจะได้เจ็บเจียนตาย”“พวกมึงสองคนแม่ลูก แย่งพี่ศิราไปจากกู”“บัวบูชากูเกลียดมึง กูอยากรู้จริง ๆ ว่าถ้ามึงต้องสูญเสียของรักไปอย่างกูบ้างมึงจะยังยิ้มได้แบบนี้ไหม”น้ำเพชรยกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก้วแล้วเก่าเล่าลงคอราวกับว่ามันเป็นน้ำเปล่า ตั้งแต่เกิดเรื่องในงานแถลงข่าววันนั้น ครอบครัวก็ส่งหญิงสาวไปพักผ่อนที่ประเทศอังกฤษทันที และพอเห็นว่าสภาพจิตใจของลูกสาวดีขึ้นมากแล้ว สองสามีภรรยาก็ไปรับตัวลูกสาวกลับบ้านเมื่อเดือนที่แล้วนี่เองแต่ใครจะรู้ว่าสี

  • บัวเหนือศิรา   ลูกสาวของปะป๊าศิรา

    เย็นวันหนึ่งขณะศิรากลับมาถึงบ้าน ชายหนุ่มก็ต้องรู้สึกแปลกใจที่เจอผู้เป็นพ่อนั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น และตอนนี้เขาก็มาอยู่ภายในห้องทำงานของผู้เป็นบิดาเรียบร้อยแล้ว บรรยากาศในห้องตอนนี้แตกต่างออกไปจากทุกที มันไม่ได้อึดอัดและมีแรงกดดันเหมือนเมื่อก่อนความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อในตอนนี้ถือว่าดีกว่าแต่ก่อนมาก จนตัวเขาเองก็แทบไม่เชื่อ“คุณพ่อ มีอะไรครับ?”“เห็นแม่เขาบอกว่าอาทิตย์หน้าเป็นวันเกิดบัวงาม” ชายสูงวัยเอ่ยถาม มือเหี่ยวย่นขยับแว่นตาที่ใส่เล็กน้อย“ครับ”“วันที่เท่าไหร่?”“วันที่ ๖ ครับ ปีนี้ตรงกับวันศุกร์ ผมว่าจะลางานแล้วไปก่อนสักหนึ่งวัน” ศิราตอบเสียงเรียบ“ช่วงนี้งานก็ไม่ได้เยอะอะไร”“ครับ?” ศิราทำหน้างง ไม่เข้าใจว่าผู้เป็นพ่อต้องการที่จะสื่อถึงอะไร“งานไม่เยอะก็ลาสักสามสี่วัน”“…”“เดี๋ยวฉันกับแม่แกจะตามไปทีหลัง อาจจะเป็นวันศุกร์ตอนเช้า ยังไงฉันจะเข้าไปช่วยดูที่บริษัทให้ ในช่วงที่แกไ

  • บัวเหนือศิรา   หลานสาวคุณย่า

    วันนี้บ้านสินธปกรณ์ได้ต้อนรับแขกคนสำคัญสองคนในช่วงเช้าของวันจันทร์ นั่นก็คือศิราและจันทรรัตน์“สวัสดีครับคุณป้า นี่คุณแม่ผมเองครับ แม่ครับ นี่ป้าอุบลแม่ของบัวบูชา” ศิรากล่าวสวัสดี หลังจากที่ทุกคนนั่งลงกันหมดแล้ว“สวัสดีค่ะ คุณอุบล”“สวัสดีค่ะ จันทรรัตน์ เรียกอุบลเฉย ๆ เถอะค่ะ”“ค่ะ ถ้างั้นก็เรียกจันทร์เฉย ๆ ก็พอนะคะ ที่เราสองคนมาในวันนี้ เพราะมีเรื่องจะมาคุยด้วยค่ะ เรื่องหนูบัวและน้องบัวงาม”“ค่ะ ดิฉันก็พอทราบมาบ้างแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ก็มีการคุยกันไปบ้างแล้ว”“ที่ดิฉันมาในวันนี้ คืออยากจะมากราบขอโทษคุณอุบลแล้วก็หนูบัว ทางฝั่งดิฉันทำผิดต่อพวกคุณจริง ๆ ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาพวกคุณต้องเจอกับอะไรมาบ้าง แต่นับตั้งแต่นี้ไปฉันจะทำทุกอย่างเพื่อชดเชยให้นะคะ” จันทรรัตน์ มีสีหน้าสำนึกผิด“ดิฉันไม่ต้องการเงินทองของนอกกายหรอกค่ะ ขอแค่ให้ลูกกับหลานมีความสุขเท่านั้นก็พอ ส่วนเรื่องอดีตก็ปล่อยให้มันเป็นอดีตไป อย่าไปยึดติดคิดแค้นว่าใครผิดใครถูกเลยค่ะ ทุกคนมีเรื่องที่ตัดสินใจผิดพลา

  • บัวเหนือศิรา   น้ำเพชรเกลียดทุกคน

    บ้านกิจธนะวรกุลเพียะ!ใบหน้าคมหันไปตามแรงตบของผู้เป็นพ่อ ร่างสูงของศิรายืนนิ่งไม่ขยับไปไหน เขายอมให้ผู้เป็นพ่อตบเขาได้ตามใจต้องการ จะทุบจะตบตียังไงเขาก็ไม่สนใจแล้ว“พอหรือยังครับ? ถ้ายังไม่พอตบอีกสิครับ”“นี่! แกอย่ามาท้าฉันนะ”“ผมไม่ได้ท้าครับ ผมพูดจริง ผมยอมให้พ่อตบตีได้เท่าที่พอใจเลยครับ เพราะมันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่พ่อจะได้ตบผมอีก”“...”“และหลังจากนี้ผมจะได้ไปใช้ชีวิตของผมเองสักที ชีวิตที่ไม่มีพ่อคอยควบคุม”“แกจะไปไหน?”“ผมไม่ไปไหนหรอกครับ ยังทำงานให้พ่อต่อเหมือนเดิม แต่ไม่ใช่เพื่อพ่อนะครับ แต่เพื่อลูกเพื่อเมียของผม”“หึ หายไปตั้งห้าปี แกดูมั่นใจนะว่าเป็นลูกแก”ศิราไม่พูดอะไร ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลในกระเป๋าแล้วนำไปวางไว้บนโต๊ะทำงานของผู้เป็นพ่อแทน เขาเห็นผู้เป็นพ่อเหลือบตามามองดูเล็กน้อย“ผมจะเข้าไปกราบขอโทษคุณลุงคุณป้ารวมถึงน้ำเพชรด้วย ผมจะรับผิดชอบทุกอย่างเอ

  • บัวเหนือศิรา   แถลงข่าว

    ภายในงานเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรรแห่งใหม่ในพื้นที่เขตบางนา เช้านี้ศิราเดินทางมาแต่เช้า พร้อมกับจารวีเลขาคนรู้ใจ ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาคมเข้ม บวกกับบุคลิกภายนอกที่นิ่งขรึม ส่งผลให้ศิราดูมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามงานนี้สื่อมวลชน และนักข่าวต่างมากันอย่างล้นหลาม สมกับเป็นงานของบริษัทยักษ์ใหญ่ เพราะงานนี้บริษัททุ่มทุนไม่อั้นในการประชาสัมพันธ์เหล่าบรรดาผู้บริหารน้อยใหญ่ หุ้นส่วนทั้งหลาย รวมถึงคู่ค้าทางธุรกิจมากมาย ต่างตบเท้าเข้ามาร่วมแสดงความยินดีกับท่านประธานใหญ่ศัจกรกิจไพศาล กันอย่างท่วมท้นนอกจากงานหลักอย่างงานเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรรแล้ว สิ่งที่นักข่าวทั้งหลายต่างพากันสนใจก็คงจะเป็นเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ของศิรา เพราะเจ้าตัวดูขยันเป็นข่าวกับคนโน้นคนนี้บ่อยเหลือเกินอย่างช่วงเดือนก่อนก็มีข่าวกับนักธุรกิจสาวหน้าหวานคนเชียงใหม่ ที่ชาวเน็ตต่างให้ความสนใจ จนเกิดการเปรียบเทียบกับว่าที่คู่หมั้นสาวสวยลูกเจ้าของห้างดัง ในเรื่องของความเก่ง และความสามารถ หากต้องการคู่ครองที่เกื้อหนุนกันในเชิงธุรกิจทั้งสองฝ่ายก็ดูมีข้อดีข้อด้อยที่แตกต่างกันไป

  • บัวเหนือศิรา   ทำหน้าที่พ่อ

    ร่างบางรับคำผู้เป็นแม่ ก่อนจะลุกขึ้นเดินนำศิราไปที่ห้องนั่งเล่น บัวงามตอนนี้กำลังนั่งระบายสีอยู่กับป้าน้อย พอเห็นคนที่เดินตามหลังผู้เป็นแม่มาเท่านั้นแหละ มือน้อยทิ้งสีเทียนลง และวิ่งไปกอดหาคุณลุงทันทีด้วยความคิดถึง“คุณลุงคนหล่อเท่”“สวัสดีคุณลุง ก่อนสิลูก”“สวัสดีค่ะคุณลุง วันนี้มารับน้องงามไปเที่ยวใช่ไหมคะ?” เพราะศิราเคยสัญญาไว้ก่อนจะกลับไปกรุงเทพครั้งก่อน ซึ่งบัวงามจำได้ดี“น้องงามอยากไปเที่ยวเหรอครับ?” ศิราก้มตัวลงไปอุ้มเด็กน้อยไว้แนบอก ดีใจจนน้ำตารื้น อยากจะหอม อยากจะกอดอย่างนี้นาน ๆ อยากได้ยินเสียงเล็กเรียกเขาว่าปะป๊าสักครั้งจะรู้สึกดีแค่ไหนกันนะ“อยากมาก ๆ เลยค่ะ หม่าม้าก็ไปทำงาน น้องงามเหง้าเหงา” เด็กน้อยฟ้อง“งั้นวันนี้ไปเที่ยวที่ทำงานกับหม่าม้าดีไหมคะ?” บัวบูชาเอ่ยชวน“น้องงามเบื่อที่ทำงานหม่าม้าแล้วเหมือนกัน” พูดเสียงเล็กเสียงน้อย ท่าทางกระเง้ากระงอด น่าเอ็นดูเป็นที่สุด“อ้าว เป็นงั้นไป ถ้าป้าฤดีมาได้ยินคงร้องไห้แล้วป่านนี้&rdqu

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status