Home / โรแมนติก / บัวเหนือศิรา / ลูกแกะตัวน้อย

Share

ลูกแกะตัวน้อย

last update Last Updated: 2025-06-05 19:00:03

บัวบูชาหลังจากที่เดินออกมาจากโต๊ะนั้น หญิงสาวก็เข้ามาสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำ จากตอนแรกที่ใจเต้นแรงเพราะใบหน้าหล่อเหลานั้น ตอนนี้กลับกลายเป็นอารมณ์โกรธมากกว่า นึกว่าจะแตกต่างจากผู้ชายคนอื่น ที่แท้ก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่

แกหวังอะไรอยู่เนี่ย บัวบูชา ผู้ชายร้อยทั้งร้อยก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ ขณะกำลังจะก้าวขาออกจากห้องน้ำ ร่างบางก็ต้องสะดุดกับชายหญิงคู่หนึ่งที่ยืนแทบจะสิงกันอยู่ตรงทางเดินหน้าห้องน้ำ

บัวบูชาตกใจตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นชัด ๆ ว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร ตอนนี้จะออกไปก็ไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ยืนฟังบทสนทนาที่ดังแว่วมาเบา ๆ

“คืนนี้ คุณศิรา มีนัดที่ไหนต่อไหมคะ?” สองแขนเรียวถือวิสาสะยกขึ้นคล้องคอหนาของศิราเอาไว้

“ไม่มีครับ” ศิราตอบกลับ พลางยกมือข้างหนึ่งขึ้นโอบรอบเอวของเจ้าหล่อน ใครมันจะยอมให้ผู้หญิงยั่วอยู่ฝ่ายเดียว เขาก็เสือผู้หญิงคนหนึ่ง เรื่องโปรยเสน่ห์เขาถนัดนัก

“งั้น คืนนี้ไปดื่มต่อที่ห้องดาวไหมคะ?”

“ชวนผู้ชายไปที่ห้อง คุณดาว ไม่กลัวเหรอครับ?” ศิราเอียงคอมองผู้หญิงตรงหน้าเล็กน้อย อย่างลองดูเชิง

“ถ้าเป็น คุณศิรา ดาวไม่เห็นจะต้องกลัว”

“หึ ผมให้คุณตัดสินใจใหม่อีกที เพราะหลังจากนี้คุณจะไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธได้อีกแล้วนะ คนสวย” ศิราพูดพลางยกยิ้มมุมปากด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ก่อนจะใช้นิ้วโป้งลูบไล้ตรงคางเรียว

“ดาว กลัวจะแย่” หญิงสาวตรงหน้าก็หาได้กลัว กลับยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนปากแทบจะชนกันอยู่รอมร่อ แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้

“ขอโทษที่ขัดจังหวะ ขอทางหน่อยค่ะ” บัวบูชาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างดัง ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเดินออกไปจากตรงนั้นทันที หญิงสาวรีบเดินเข้าไปหลังร้านเพื่อรับออร์เดอร์ต่อ เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงใกล้จะเลิกงานแล้ว ต้องรีบทำงานจะได้รีบกลับบ้านไปหาแม่ เลิกสนใจผู้ชายเจ้าชู้คนนั้นเสียที ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิดใจ

ศิราเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้ามีความสุข คินน์เห็นก็รีบทักเป็นคนแรกทันที แบบนี้ไม่ต้องเดาว่าเพื่อนเขาไปทำอะไรในห้องน้ำมา

“กูว่าล่ะ เข้าห้องน้ำนาน ที่แท้ก็นัดน้องสาวชุดแดงเดินตามไปนี่เอง”

“รู้มากนะมึง” ศิราถลึงตาใส่เพื่อน

“ไง สรุปไปต่อเหรอ คืนนี้”

“ไม่”

“ไม่ไป”

“ไม่เสือกครับ เพื่อน” ศิรายักคิ้ว

“ฮ่า ๆ สมน้ำหน้า” มาวินหัวเราะเสียงดัง

“อ้าว! ไอ้วิน สรุปมึงพวกใครเนี่ย” มาวินหัวเราะพลางยักไหล่ ก่อนจะหยิบแก้วไวน์มาดื่มต่ออย่างไม่สนใจ พลางโยกหัวเบาๆ ไปกับจังหวะดนตรี

หลังเที่ยงคืน บัวบูชาโบกมือลาเพื่อนร่วมงานก่อนจะรีบเดินออกมารอเรียกแท็กซี่ที่หน้าร้าน ระหว่างที่ยืนรออยู่นั้น เสียงแตรรถยนต์ก็ดังขึ้น บัวบูชาสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันไปทางที่มาของเสียง พบว่าเป็นรถยนต์ยี่ห้อหรูสีดำคันใหญ่ เคลื่อนที่มาจอดตรงหน้า

 บัวบูชาหันมองซ้ายขวาก็ไม่เห็นมีใครนอกจากตัวเองที่ยืนรอรถอยู่คนเดียว อึดใจเดียวกระจกรถตรงฝั่งคนขับก็เลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าคนเข้มของคนขับยื่นออกมานอกรถ

“น้องบัว ให้พี่ไปส่งไหมครับ?” ศิรายื่นหน้าออกไปถามคนตัวเล็กที่ยืนรอรถอยู่

“ไม่เป็นไรค่ะ บัวเรียกแท็กซี่แล้วค่ะ” บัวบูชารีบตอบปฏิเสธแทบจะทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาคิด

โชคดีที่ขณะนั้นมีแท็กซี่เปิดไฟว่างวิ่งผ่านมาพอดี บัวบูชาเห็นดังนั้นจึงรีบโบกมือเรียกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกล่าวขอตัว ทำราวกับว่าต้องการจะหนีไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด

หลังขึ้นรถมาได้ คนตัวเล็กก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก นึกว่าจะออกไปกับแม่สาวชุดแดงคนนั้นซะอีก ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะออกมาดักรอตอนเลิกงาน

“หึ หนีได้หนีไปเถอะ เจ้าลูกแกะ หนูหนีพี่ไม่พ้นหรอก” ศิราพูดกับตัวเอง ก่อนที่จะเหยียบคันเร่งมุ่งตรงไปยังคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมืองกรุงทันที

ภายในห้องอาหารบ้านกิจธนะวรกุล ประมุขของบ้านอย่างศัจกร กิจธนะวรกุล อดีตท่านประธานใหญ่ กำลังนั่งอยู่หัวโต๊ะด้วยใบหน้าเคร่งขรึมไร้อารมณ์ แต่แฝงด้วยความเยือกเย็นอยู่ในที จนผู้เป็นภรรยาอย่างคุณนายจันทรรัตน์ยังไม่กล้าสบตา แตกต่างจากลูกชายคนเดียวอย่างศิรา ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มที่ได้แบบฉบับมาจากคนเป็นพ่อกลับเรียบเฉย นั่งชิวล์ ๆ ไม่สะทกสะท้าน

คุณนายจันทรรัตน์มองสามี และลูกชายหัวแก้วหัวแหวนสลับกันไปมาพลางลอบถอนหายใจอย่างเอือมระอา พ่อลูกคู่นี้ยังไงกันนะ เมื่อก่อนไม่ลงรอยกันอย่างไรตอนนี้ก็ยังคงเป็นอย่างนั้น ก่อนจะหันไปพยักหน้าส่งสัญญาณให้สาวรับใช้ตักข้าวได้

“แกจะเริ่มทำงานเมื่อไหร่?” ผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ

“ตอนนี้ผมยังไม่พร้อม” ศิราพูดด้วยใบหน้าที่เบื่อหน่าย

“แล้วเมื่อไหร่แกจะพร้อม ที่แกเที่ยวเล่นอยู่ที่อเมริกาเป็นปี แกยังพักผ่อนไม่พออีกเหรอไง?” น้ำเสียงที่ดังขึ้นของสามีทำให้ผู้เป็นภรรยารีบเอ่ยห้าม เพราะกลัวสองพ่อลูกจะทะเลาะกันกลางโต๊ะอาหาร

“คุณคะ ฉันว่า...”

“คุณจันทร์ หยุด! คุณก็เป็นซะแบบนี้ให้ท้ายมันเกินไป มันเลยกลายเป็นคนไม่สนโลก ไม่เอาการเอางาน แบบนี้จะไปดูแลกิจการที่ผมสร้างขึ้นมากับมือได้ยังไง”

“กิจการของพ่อ แล้วพ่อเคยถามผมสักคำไหม ว่าต้องการมันหรือเปล่า” ใบหน้าเคร่งเครียดเย็นชาเอ่ยถามผู้เป็นพ่อ

“ต้องการไม่ต้องการแล้วยังไง สุดท้ายมันก็เป็นสิ่งที่แกต้องทำอยู่ดี ในฐานะที่แกเป็นลูกชายเพียงคนเดียว อย่าลืมนะว่าถ้าไม่มีกิจการของฉัน แกจะได้อยู่อย่างสุขสบายแบบนี้ไหม คิดบ้างสิ” ประมุขของบ้านเดือดดาลด้วยความโมโห

“คุณคะ อย่าเพิ่งทะเลาะกัน ทานข้าวก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันจะคุยกับลูกให้ ลูกเพิ่งกลับมาได้ไม่กี่วัน ให้ลูกพักสักอาทิตย์ก่อนเถอะค่ะ”

“ศิรา ลูกบอกคุณพ่อไปสิ ว่าอาทิตย์หน้าลูกจะเข้าบริษัท” จันทรรัตน์หันมาบอกลูกชายด้วยแววตาแกมขอร้อง

“ครับ อาทิตย์หน้าผมจะเข้าไป” ศิราต้องตอบรับอย่างเสียไม่ได้ เพราะบรรยากาศบนโต๊ะอาหารเริ่มอึดอัด อีกอย่างเขาไม่อยากให้แม่รู้สึกไม่สบายใจ

“ดี จากนี้ฉันให้เวลาแก ๒ ปี เรียนรู้งานจากฉันทั้งหมด ระหว่างนี้แกจะทำอะไรก็ตามใจ ฉันจะไม่ยุ่งกับแก หลังจากนั้นก็เตรียมตัวรับตำแหน่งประธานต่อจากฉันทันที อ่อ แล้วเรื่องคู่นอนคู่ขาของแก ก็เพลา ๆ ลงบ้าง ที่นี่ไม่เหมือนอเมริกา นักข่าวรู้ขึ้นมาจะเสียภาพลักษณ์บริษัทฉันหมด”

“ครับ” ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยตกปากรับคำ พลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

บาร์ร้านมาวิน

ตั้งแต่เจอลูกแกะตัวน้อยในร้านของเพื่อน ศิราก็กลายเป็นลูกค้าประจำของทางบาร์ไปโดยปริยาย ร่างสูงมาบ่อยจนทำให้เจ้าของร้านอย่างมาวินรู้สึกเบื่อขี้หน้าขึ้นมาบ้างแล้ว อย่างคืนนี้ก็เช่นกัน ศิรานั่งตรงที่ประจำโซน VIP มือหนายกแก้วไวน์ใบสวยขึ้นจิบอย่างละเมียดละไมพร้อมกับสเต๊กเนื้อวัววากิวอย่างดี

สายตาคมสำรวจบรรยากาศในร้านโดยรอบ เวลานี้ลูกค้าในร้านบางตาเพราะยังไม่ดึกมากเท่าไหร่ นัยน์ตาคมกวาดตามองหาใครบางคนที่ทำให้เขามาที่นี่แทบทุกคืน

 ผ่านมาเกือบเดือนแล้วที่ชายหนุ่มเข้ารับตำแหน่งรองประธานบริษัท เรียนรู้งาน  บริหารทุกอย่างจากผู้เป็นพ่อ ตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนถือว่าเริ่มดีขึ้นจากแต่ก่อน เพราะว่าเขาทำงานที่ได้รับมอบหมายออกมาได้ดี จนทำให้ผู้เป็นพ่อพอใจ

ที่ผ่านมาถึงชายหนุ่มจะต่อต้านสารพัด แต่ก็ยอมทำตามทุก ๆ อย่าง ถึงแม้จะไม่ใช่ทางที่ชอบ แต่ศิราก็สามารถทำมันออกมาได้ดีเสมอ ดูได้จากเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากอเมริกา ที่ผู้เป็นพ่อภูมิใจนักหนา

ถือว่าเป็นการถอยให้กันคนละก้าว ขอแค่ผู้เป็นพ่อไม่ก้าวก่ายในเรื่องส่วนตัวเขามากจนเกินไป ชายหนุ่มก็ยินยอมบริหารบริษัทที่พ่อเป็นคนสร้างมันมากับมือให้

  ขณะนี้เวลาใกล้จะห้าทุ่มแล้ว ศิรายังไม่ยอมกลับ คืนนี้เขายังไม่ได้คุยกับลูกแกะตัวน้อยเลย เห็นน้องเดินไปมาในร้านตลอดทั้งคืน แต่กลับไม่แวะเวียนมาใกล้โต๊ะที่เขานั่งอยู่เลยสักนิด ศิรากวักมือเรียกพนักงาน ก่อนจะแจ้งความประสงค์บางอย่าง ก่อนที่พนักงานคนดังกล่าวจะโค้งให้และเดินออกไป

ไม่นานเกินรอ ร่างบางของคนตัวเล็กก็ปรากฏต่อหน้าศิรา พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม

“สวัสดีค่ะ คุณศิรา”

“บอกให้เรียกพี่” ศิราเอ่ยน้ำเสียงแกมดุนิด ๆ

“ไม่ดีกว่าค่ะ คุณเป็นลูกค้า อีกอย่างเราไม่ได้สนิทกัน” บัวบูชาก้มหน้ามองพื้น ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตาคมกริบคู่นั้น เพราะทุกครั้งที่สบตามันทำให้ใจของคนตัวเล็กเต้นแปลก ๆ ถึงจะรู้สึกไม่ค่อยชอบใจนักก็เถอะ

“งั้น ถ้าสนิทแล้วหนูจะเรียกพี่ใช่ไหม?” ฝ่ายศิราที่ยังไม่ยอมแพ้พูดจาหยอกเย้า

“…”

“งั้นคืนนี้ให้พี่ไปส่งนะครับ กลับบ้านคนเดียวดึก ๆ มันอันตรายนะครับ อีกอย่างเราจะได้สนิทกันเร็ว ๆ น้องบัวว่าดีไหม?” ศิราพูดพลางทำสายตากรุ้มกริ่มส่งมาให้

“ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ บัวเกรงใจ”

“นี่ก็ตั้งเดือนกว่าแล้วนะ ทำไมน้องบัวยังไม่ใจอ่อนให้พี่สักทีคะ?” ส่งสายตาออดอ้อนราวกับเจ้าลูกหมาตัวโต จนบัวบูชาที่เงยหน้าขึ้นมามองสบตาคู่คมเข้าพอดี

“…”

“พี่อยากไปส่งจริง ๆ”

“งั้นก็ได้ค่ะ บัวเลิกงานเที่ยงคืนกว่านะคะ” สุดท้ายก็ทนลูกอ้อนไม่ไหวของชายหนุ่มตรงหน้าไม่ไหว พอรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบัวบูชาก็อยากจะตบปากตัวเองสักทีที่ปากไวใจเร็วไปหน่อย

“พี่จะรอนะ” รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้า ทำเอาใจดวงน้อยกระตุก บัวบูชารีบเบือนหน้าหนีเพราะใจเริ่มเต้นแรง

“ค่ะ” ร่างบางตอบกลับอ้อมแอ้ม

“งั้นพี่ขอกับแกล้มอีกสักอย่างนะครับ เอาอะไรก็ได้ หนูมาเสิร์ฟให้พี่นะ พี่อยากให้ทิปหนู”

“คุณศิรา ให้ทิปบัวทุกคืนเลย”

“แล้วไม่ดีเหรอคะ?” ชายหนุ่มย้อนถาม

“มันก็ดีค่ะ แต่ว่ามันบ่อยเกินไป บัวเกรงใจ” บัวบูชาพูดเสียงเบา

“ถ้าเป็นน้องบัว พี่เต็มใจครับ” เสือร้ายยิ้มอย่างมีเสน่ห์ส่งมาให้

“เอ่อ เดี๋ยวบัวไปสั่งกับแกล้มมาให้ คุณศิรารอสักครู่นะคะ” ร่างบางก็รีบกล่าวตัดบทก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้น เพราะกลัวชายหนุ่มสังเกตเห็นว่าใบหน้าขาวกำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเพราะความเขิน หลังโดนรอยยิ้มร้ายก่อกวนหัวใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บัวเหนือศิรา   ตอนพิเศษ น้องบัวเหนือ

    “ปะป๊าขา วันนี้คุณครูใบเตย ฝากความคิดถึงให้ปะป๊าด้วยค่ะ” สาวน้อยบัวงามพูดขึ้นทันทีหลังจากที่ผู้เป็นพ่อเดินเข้ามาภายในห้องนั่งเล่น“คุณครูใบเตยไหนคะ?” เสียงหวานหันมาถามลูก แต่สายตาพิฆาตกลับถูกส่งมาให้ศิราซวยแล้วสิ นี่คือเสียงในหัวของศิรา ชายหนุ่มทำหน้าเลิ่กลั่ก เหงื่อแตกพลั่ก“คุณครูที่โรงเรียนค่ะ” บัวงามตอบคำถามของผู้เป็นแม่“อ๋อ...แล้วทำไมต้องฝากความคิดถึงมาให้เหรอคะ แล้วไปรู้จักกันตอนไหน” รับคำลูกสาวเสร็จก็หันมาถามสามีที่นั่งยิ้มแห้งอยู่ที่โซฟา“รู้จักตอนที่พี่ไปรับลูก นานแล้วจ้ะ”“มิน่า ถึงอยากไปรับลูกที่โรงเรียนบ่อย ๆ”“โธ่...ไม่ใช่นะครับ คุณแม่อย่าอารมณ์เสียสิครับ เดี๋ยวตัวเล็กในท้องจะเครียดเอาได้นะครับ”“...”“ปะป๊าก็แค่อยากช่วยแบ่งเบาภาระของหม่าม้านะครับ ตอนนี้หม่าม้ากำลังท้องอยู่นะครับ”“อย่าให้รู้นะ” บัวบูชาพูดเสียงเรียบ จ้องหน้าศิราเขม็ง“ไม่ให้รู้แน่นอนครับ”“ยังไงนะคะ!” บัวบูชาขมวดคิ้ว“เฮ้ย! ไม่ใช่ครับ ปะป๊าพูดผิด ปะป๊าจะพูดว่ามันจะไม่มีอะไรทั้งนั้นครับ ปะป๊ารักหม่าม้า รักบัวงาม

  • บัวเหนือศิรา   ตอนพิเศษ ซ้อมเข้าห้องหอ

    เวลาเที่ยงตรงในวันศุกร์ ศิราที่เคลียร์งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็รีบออกเดินทางไปที่สนามบินทันทีหลังทานข้าวเสร็จ ชายหนุ่มเลือกเที่ยวบินในช่วงเวลาบ่ายโมง ไปถึงเชียงใหม่ก็บ่ายสองโมงครึ่งพอดี มีเวลาเหลือเฟือในการไปรอรับบัวงามลูกสาวเขาจะต้องดีใจมากแน่ๆ บัวงามเคยบ่นอยู่บ้างเหมือนกันว่าอยากให้ปะป๊าไปรับที่โรงเรียนบ่อย ๆ โดยปกติเขาจะเลือกเดินทางในช่วงเย็นซะส่วนใหญ่ เพราะกว่าจะเคลียร์งานแล้วเสร็จก็ปาไปเกือบ ๕-๖ โมงเย็นแล้วยิ่งวันศุกร์ยิ่งแล้วใหญ่งานเยอะมาก หากศุกร์ไหนมีประชุม หรือมีงานด่วนเขาก็ต้องเลื่อนการเดินทางไปเป็นวันเสาร์ช่วงเช้าแทนถามว่าทำแบบนี้เหนื่อยไหม ตอบเลยว่าเหนื่อยมาก และถ้าถามว่าให้เลิกทำแบบนี้ไหมเขาก็ตอบเลยว่า ‘ไม่มีทาง’ ถึงจะเหนื่อยแต่เมื่อได้เห็นหน้าคนที่รัก คนเป็นพ่ออย่างศิราก็รู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งแล้วหลังจากลงจากเครื่อง และโทรบอกแม่ของลูกเรียบร้อยแล้วว่าจะเป็นคนไปรับลูกสาวเอง ศิราก็เลือกที่จะนั่งแท็กซี่ไปรับ เพราะไม่อยากเสียเวลาวนไปเอารถของบัวบูชาที่บริษัท และอีกอย่างมันค่อนข้างที่จะเสียเวลาด้วย เขาไม่อยาก

  • บัวเหนือศิรา   ตอนพิเศษ ไม่ติดค้าง

    วันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ ศิราเดินทางขึ้นมาเชียงใหม่พร้อมกับผู้เป็นมารดา เพื่อมาหาเรื่องหาฤกษ์งามยามดีงานแต่งให้“วันนี้พวกแม่สองคน ว่าจะไปหาหลวงพ่อที่วัดสักหน่อยนะลูก” จันทรรัตน์พูดขึ้นกลางโต๊ะอาหารขณะทุกคนกำลังทานข้าวกันอยู่“ครับ ขอฤกษ์แบบเร็วที่สุดเลยนะครับ คุณแม่” ศิรายิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับบัวบูชาที่ตอนนี้นั่งหน้าแดงหูแดงเถือก“...”“บัวงามอยากเล่นกับน้องแล้ว ใช่ไหมครับลูก?”“ใช่ค่ะ เมื่อไหร่น้องจะมาเล่นกับน้องงามคะ น้องงามรอนานแล้วนะ” เด็กน้อยทำหน้างอใส่ผู้เป็นพ่อ เพราะว่าผ่านมาหลายวันแล้วบัวงามยังไม่เห็นน้องเลย“ใจเย็นลูก ให้พ่อกับแม่เขาแต่งงานกันก่อนนะจ๊ะ” อุบลพูดขึ้นอย่างเอ็นดูหลานสาว“แม่จ๊ะ พรุ่งนี้วันอาทิตย์ หนูกับคุณศิราว่าจะไปเยี่ยมคุณน้ำเพชรสักหน่อยนะจ๊ะ”“อืม ก็ดีเหมือนกันลูก นี่ก็ผ่านมาตั้งนานแล้ว หวังว่าความแค้นของเธอจะเบาบางลงไปบ้างนะ” อุบล กล่าวพร้อมพยักหน้า“หนูก็หวังว่าอย่างนั้นจ้ะ แม่”“แล้วบัวงามจะไปวัดกับคุณย่าคุณยายไหมลูก” จันทรรัตน์หันไปถามหลานสาวตัวน้อย“ไปค่ะ”เวล

  • บัวเหนือศิรา   บทส่งท้าย

    ในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังของเชียงใหม่ บัวบูชากำลังนั่งอยู่ข้างเตียงของบัวงาม พร้อมกับกุมมือลูกน้อยไว้ตลอดเวลา ใบหน้าเล็กน่ารักหลับตาพริ้ม ซึ่งเป็นผลพวงมาจากยาสลบ คุณหมอบอกว่าปริมาณเท่านี้ไม่มีผลข้างเคียงอะไร แต่เพราะบัวงามยังเป็นเด็ก บวกกับความอ่อนเพลียแถมยังไม่ได้กินข้าว เลยทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะหลับลึกตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแค่รอให้หนูน้อยตื่นขึ้นมาเองเท่านั้น ถึงกระนั้นคนเป็นแม่ที่ห่วงลูกมากอย่างบัวบูชาก็ไม่ยอมหลับยอมนอน แม้เวลาจะผ่านไปจนเกือบเที่ยงคืนแล้วก็ตามตอนนี้ในห้องพักพิเศษของทางโรงพยาบาลมีณฤดีนั่งอยู่เป็นเพื่อน ส่วนพวกคนสูงวัยทั้งสามคนนั้นกลับไปพักผ่อนที่บ้านแล้วเรียบร้อยในส่วนของศิรานั้นต้องไปที่สถานีตำรวจ เพื่อจัดการเรื่องคดีความ เพราะก่อนหน้านั้นเธอได้ไปแจ้งความเอาไว้ เมื่อสักครู่ชายหนุ่มได้โทรมาบอกว่าจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะขับรถมาที่นี่“แกนอนพักก่อนไหม? เดี๋ยวฉันดูบัวงามให้เอง”“ไม่เป็นไรฤดี ฉันยังไหว” บัวบูชาส่ายหน้า“แกควรพักเอาแรงก่อนนะ ดูสิ ตาก็บวม จมูกก็แดง ไม่สบายไป

  • บัวเหนือศิรา   แม่มดใจร้ายกลับมาแล้ว

    ในมุมมุมหนึ่งของไนต์คลับ ร่างของหญิงสาวหน้าตาสะสวย แต่งตัวดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยเสื้อผ้า และกระเป๋าแบรนด์ดัง กำลังนั่งดื่มเครื่องดื่มมึนเมาอยู่คนเดียว ใบหน้าที่สวยงามในตอนนี้ไม่ได้ดูน่ามองสักเท่าไหร่นัก เพราะเจ้าของใบหน้ากำลังทำหน้าตาเหมือนกำลังโมโหอะไรอยู่สักอย่างปากก็บ่นพึมพำคนเดียวตลอดเวลา ในมือมีโทรศัพท์เครื่องหรู ที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังจ้องอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ด้วย“มีความสุขกันจริง ๆ เลยนะ ช่างเป็นครอบครัวที่น่าอิจฉาซะจริงเลย มีความสุขกันเข้าไปเยอะ ๆ เวลาสูญเสียมันจะได้เจ็บเจียนตาย”“พวกมึงสองคนแม่ลูก แย่งพี่ศิราไปจากกู”“บัวบูชากูเกลียดมึง กูอยากรู้จริง ๆ ว่าถ้ามึงต้องสูญเสียของรักไปอย่างกูบ้างมึงจะยังยิ้มได้แบบนี้ไหม”น้ำเพชรยกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก้วแล้วเก่าเล่าลงคอราวกับว่ามันเป็นน้ำเปล่า ตั้งแต่เกิดเรื่องในงานแถลงข่าววันนั้น ครอบครัวก็ส่งหญิงสาวไปพักผ่อนที่ประเทศอังกฤษทันที และพอเห็นว่าสภาพจิตใจของลูกสาวดีขึ้นมากแล้ว สองสามีภรรยาก็ไปรับตัวลูกสาวกลับบ้านเมื่อเดือนที่แล้วนี่เองแต่ใครจะรู้ว่าสี

  • บัวเหนือศิรา   ลูกสาวของปะป๊าศิรา

    เย็นวันหนึ่งขณะศิรากลับมาถึงบ้าน ชายหนุ่มก็ต้องรู้สึกแปลกใจที่เจอผู้เป็นพ่อนั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น และตอนนี้เขาก็มาอยู่ภายในห้องทำงานของผู้เป็นบิดาเรียบร้อยแล้ว บรรยากาศในห้องตอนนี้แตกต่างออกไปจากทุกที มันไม่ได้อึดอัดและมีแรงกดดันเหมือนเมื่อก่อนความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อในตอนนี้ถือว่าดีกว่าแต่ก่อนมาก จนตัวเขาเองก็แทบไม่เชื่อ“คุณพ่อ มีอะไรครับ?”“เห็นแม่เขาบอกว่าอาทิตย์หน้าเป็นวันเกิดบัวงาม” ชายสูงวัยเอ่ยถาม มือเหี่ยวย่นขยับแว่นตาที่ใส่เล็กน้อย“ครับ”“วันที่เท่าไหร่?”“วันที่ ๖ ครับ ปีนี้ตรงกับวันศุกร์ ผมว่าจะลางานแล้วไปก่อนสักหนึ่งวัน” ศิราตอบเสียงเรียบ“ช่วงนี้งานก็ไม่ได้เยอะอะไร”“ครับ?” ศิราทำหน้างง ไม่เข้าใจว่าผู้เป็นพ่อต้องการที่จะสื่อถึงอะไร“งานไม่เยอะก็ลาสักสามสี่วัน”“…”“เดี๋ยวฉันกับแม่แกจะตามไปทีหลัง อาจจะเป็นวันศุกร์ตอนเช้า ยังไงฉันจะเข้าไปช่วยดูที่บริษัทให้ ในช่วงที่แกไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status