Share

บทนำ ฝันร้าย 9

Author: LIttlelion
last update Huling Na-update: 2025-06-07 21:46:44

“ฮ้า…?” จิ้นฝานที่กอดอกทอดมองออกไปด้านนอกอยู่นั้น พลันขานรับเสียงสูงอย่างแปลกใจ เขาเบือนหน้ากลับมามองไป๋มี่อิง ขยุ้มคิ้วและตวัดตาไปมองไป๋ซิงหนี่ว์ที่นั่งก้มหน้าอยู่เล็กน้อยอย่างสงสัย

“รบกวนด้วย” ไป๋มี่อิงผู้หน้ามึนกล่าวออกไปต่อทันที กล่าวจบก็หันหน้าไปกล่าวกับสามีของนางที่นั่งหัวโต๊ะริมสุด

“สามี...วันนี้ข้าจะพาท่านไปรู้จักหน้าที่ของตระกูลไป๋” นางฉีกยิ้มกว้างถึงนัยน์ตาคู่สวย 

จิ้นฝานที่เห็นท่าทางของไป๋มี่อิงจึงขบฟันแน่น ทำได้เพียงกล่าวบ่นออกมาอย่างหัวเสีย “มี่เอ๋อร์...เจ้านี่” แล้วเลื่อนสายตาไปมองทิวทัศน์ด้านนอกหน้าต่างต่อ

สุดท้ายเขาก็ยอมทำตามคำขอของนาง เพราะไป๋จิวเซียนผู้มีผมสีเงินนั้นร่างกายอ่อนแอ จากที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ จิวเซียนผู้นี้เป็นฮูหยินรองเพียงในนามตามสถานะของตระกูลไป๋

ถึงกล่าวบอกว่าถ้ารู้จักตระกูลไป๋นี้ดี จะรู้ว่าเป็นตระกูลที่มีความซับซ้อนเกินกว่าคนทั่วไปจะเข้าใจได้ สถานะใดที่เป็นของสตรี ตระกูลนี้ก็สามารถทำให้บุรุษเป็นได้อย่างทัดเทียมด้วยเช่นกัน

เพราะสาเหตุหลักนี้ ต่อให้เขาบอกรักไป๋มี่อิงไป ก็มิใช่ว่าจะได้นางแต่งเข้ามาเป็นฮูหยิน แต่กลับเป็นเขาต้องแต่งเข้าไปเป็นฮูหยินเสียเอง

เรื่องราวคงจะไม่ง่ายเพียงเท่านั้น เขาเป็นบุตรชายคนโต มีหน้าที่สืบสกุล ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลจิ้นคนต่อไป มิอาจทำตามกฎของตระกูลไป๋ได้ ต่างจากเยี่ยเปาที่เป็นบุตรชายเล็กของแม่ทัพใหญ่แคว้นซิ่น ที่มีบิดามารดาสนับสนุนเห็นดีเห็นงามด้วยกับการแต่งงานนี้

เรื่องราวผ่านไปแล้วมีแต่ต้องทำใจยอมรับ และยินดีกับสหายที่ออกเรือนแต่งงาน ขอให้นางใช้ชีวิตคู่อย่างเป็นสุขก็พอแล้ว...

หน้าโรงเตี๊ยม

ลำคอข้าตีบตันก้าวเดินมาหยุดหน้ารถม้าเพื่อเตรียมจะเดินทางกลับคฤหาสน์ไป๋ ก่อนหน้านี้ข้าอ้อนวอนเจี่ยเจียว่าไม่ต้องให้คุณชายจิ้นไปส่ง แต่ทว่านางกลับไม่ยินยอมเปลี่ยนใจ และกล่าวเพียงว่า

‘น้องรักเชื่อใจพี่นะ’ เป็นประโยคสั้นๆ ที่แฝงบางสิ่งเอาไว้ เหตุใดตัวข้าถึงมั่นใจในคำกล่าวนี้ได้

เมื่อล่ำลาพี่สาวเสร็จแล้วจึงรวบอาภรณ์ขึ้นเล็กน้อยเพื่อจะเดินขึ้นรถม้าไป พลันก็มีเสียงหวานของเจี่ยเจียดังขึ้นมากะทันหัน

“เสี่ยวฝานประคองนางขึ้นรถม้าที” ไป๋มี่อิงเอ่ยเสียงเรียบ แต่กลับแฝงไปด้วยน้ำเสียงสั่งการ

จิ้นฝานที่ยืนตัวใหญ่กอดอกพิงรถม้าอยู่นั้น มุมปากพลันก็กระตุกขึ้นมา เขาใช้หางตามองไป๋ซิงหนี่ว์เล็กน้อย ก่อนจะจำใจเดินเข้าไปยื่นแขนให้นางจับประคองเดินขึ้นรถ แต่ทว่าสาวงามกลับเมินเฉยเขาไปเสียอย่างงั้น

ข้าเผลอเหลือบตาไปมองเขา สบเข้ากับดวงตาดุนั้นเข้าพอดี มันฉายแววความไม่พอใจออกมา พอๆ กับสีหน้าของเขายามนี้ ในหัวข้าขบคิดวนเวียนถึงสาเหตุการแสดงออกของเขา ว่าเหตุใดถึงไม่ชอบหน้ากัน ข้าไม่เคยข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับเขา สนทนาจริงๆ จังๆ สักครั้งก็ไม่เคย

เฮ้อ...เอาเถิด จะเกลียดข้าเพราะสาเหตุใดก็ตามแต่ ข้าเองก็เกลียดเขาด้วยเช่นกัน พลันพอคิดเช่นนั้นจึงชักสายตากลับมา ก้าวเดินขึ้นรถม้าเข้าไปด้านในด้วยตนเอง

จิ้นฝานที่เห็นท่าทางเมินเฉยที่แสดงออกของไป๋ซิงหนี่ว์ คิ้วเข้มถึงกับกดต่ำลง เม้มปากเข้าเล็กน้อยมองนางที่เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยทำราวกับว่าเขาเป็นอากาศอย่างหน้าตาเฉย และเดินผ่านเข้าไปในรถ

‘นางตั้งใจเมินข้ารึ’ เขาเกิดคำถามขึ้นในใจ เก็บงำอารมณ์ขุ่นมัวเอาไว้ แล้วเดินไปประคองไป๋จิวเซียนขึ้นรถม้าต่อ

รถม้า

ข้านั่งหัวสั่นในรถม้าที่เคลื่อนอยู่บนถนน วันนี้ชาวเมืองออกมาจับจ่ายซื้อของแน่นถนนสองฝั่ง จึงเป็นเหตุให้การสัญจรติดขัดกว่าขามาอยู่มาก

หายใจเข้า หายใจออก ข้ากำหนดลมหายใจอดทนต่อความรู้สึกกระอักกระอ่วน เพราะก่อนหน้านั้นคีบอาหารเข้าปากเพลินไปหน่อย ตอนนี้ถึงต้องมานั่งอดทนฝืนกลั้นไม่ให้มันปะทุขึ้นมาในคอ ไม่มีกะจิตกะใจสนใจแขกที่นั่งร่วมรถกลับมาด้วย

โครก...ข้าได้ยินเสียงท้องที่ดังออกมาเบาๆ หัวก็สั่นจนเวียนหัวไปหมด ดวงตาเริ่มมองเห็นเป็นภาพซ้อนเบลอเล็กน้อย ข้าเอื้อมมือไปด้านหน้าเคาะผนังไม้

ก๊อก...ก๊อก!

“นี่เจ้าคนรถ! หยุดม้าประเดี๋ยวแล้วลงไปซื้อกระโถนมาให้ข้าก่อนที” ข้ากลั้นใจกล่าวออกไป

“ฮึ” พลันเสียงเค้นจมูกของบุรุษดังขึ้น จิ้นฝานนั่งอยู่ตรงทางออกติดริมประตู ฟังคำกล่าวและน้ำเสียงไป๋ซิงหนี่ว์ด้วยความตลก ปรายตามองนางที่นั่งยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดปากเล็กน้อย

ในหัวของเขายามนี้กำลังดูแคลนนางในใจ คำกล่าวคำจา การแสดงออกของนางล้วนไม่ถูกจริตของเขาแม้แต่น้อย ไป๋ซิงหนี่ว์เป็นคนกล่าวถือตัว น้ำเสียงหวานสูงไม่เข้าหู การแสดงออกราวกับตนเองเป็นนางฟ้านางสวรรค์อยู่สูงกว่าผู้อื่น

ข้าไม่ได้สนใจที่มาของเสียงขึ้นจมูกของเขา ยามนี้ปากสั่นระริก ฟันขบกันในปาก อดทนไม่ให้อาหารที่กินเข้าไปพุ่งออกมา ร่างกายข้าย่ำแย่ลงกว่าแต่ก่อนมานัก

คนรถเลิกผ้าม่านขึ้นหันหน้ามาเอ่ยถามคุณหนูรองที่เคาะผนังเรียกเขาก่อนหน้านี้ เพราะด้านนอกนี้เสียงมันเซ็งแซ่จึงได้ยินไม่ชัดเท่าไรนัก

“เมื่อครู่คุณหนูกล่าวอันใดหรือขอรับ”

“วิ่งไปซื้อกระโถน!! มาเดี๋ยวนี้” ข้ากล่าวสั่งขึ้นทันที

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 6

    “ปากเขายังเล็ก เมื่อโตขึ้นมาหน่อยสองเดือนสามเดือนได้ เขาก็จับดูดถึงลานนม...แต่จะว่าไปแล้วนั้นเหมือนตอนที่เสี่ยวฝานดื่มนมข้าไม่มีผิด” ฮูหยินหม่านกล่าวขึ้น ทำสีน่าปลื้มปริ่มมองเอ้อเหอเสี่ยงพอสิ้นคำกล่าวของท่านแม่ ในหัวก็แล่นภาพดวงหน้าคุณชายจิ้นซ้อนทับกับลูกขึ้นมาทันที ข้าอุตส่าห์ลืมไปแล้วเพราะความเจ็บ ไฉนความคิดนี้ถึงวกกลับมาได้อีกกันเมื่อสลัดภาพคุณชายจิ้นออกจากหัว ภาพอาเอ้อยามขยับปากดูดนมกลับทำให้ข้ามีความสุขถึงแม้ว่าจะเจ็บจนร้องไห้ก็ตามทีกินเก่งเช่นนี้ต้องเหลือให้น้องอีกสองคนด้วยรู้หรือไม่ ข้าเอ่ยกับเขาในใจ แล้วเหลือบตาไปมองอาลิ่ว อาปา ที่กำลังร้องไห้อยู่ ดูท่าหนทางให้นมลูกวันนี้ยังอีกยาวไกลนัก…เรือนซิ่วของจิ้นฝานด้านข้างจะมีต้นไม้ใหญ่ ถ้ายืนใต้ต้นไม้นั้นจะมองทะลุหน้าต่างเรือนเข้าไปด้านในเป็นห้องนอน และมองเห็นจิ้นฝานที่กำลังผลัดเปลี่ยนมาสวมเป็นชุดขุนนางในยามนี้ ขยับปากกล่าวกับสวี่เจียวไปด้วย ไม่รู้ว่าเขากล่าวอะไรออกมาถึงทำให้สวี่เจียวตกใจอยู่ไม่น้อยนํ้าเสียงของคนทั้งสองเบาราวกับสายลม แต่เนื้อหาของบทสนทนาน่าจะดูตกใจอยู่มาก จนทำให้สวี่เจียวที่ยืนถือเสื้อคลุมนั้นถึงกับมือไม้อ่อนทำเส

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 5

    พลันเมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้อง เสียงหยอกล้อผสมกับเสียงร้องไห้ก็ดังกระทบเข้ามาที่หูจากห้องด้านข้าง ตอนแรกที่ได้ยินก็ไม่คิดว่าจะดังถึงขั้นแสบหูเช่นนี้ “คุณชายน้อยลิ่วร้องโยเยไม่หยุดเลยเจ้าค่ะ” เสียงที่ดังลอดออกมาคือแม่นางเฉินข้าจึงผลักประตูเข้าไปในห้องเห็นคุณชายจิ้นนั่งนิ่งยกนํ้าชาขึ้นจิบอย่างสงบ ปรายตามองมาทางข้า ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้นรอบตัวเขาท่านแม่กล่อมเด็กอ่อนใบหน้าที่เหมือนกับคุณชายจิ้น ฮูหยินเฒ่ามีสีหน้าตระหนกไม่ต่างกัน อุ้มเด็กน้อยที่มีใบหน้าเหมือนคุณชายจิ้น แม่นางเฉินหางตาตก สีหน้าอมทุกข์ อุ้มเด็กหน้าเหมือนคุณชายจิ้นคุณชายจิ้นหนึ่ง คุณชายจิ้นสอง คุณชายจิ้นสาม คุณชายจิ้นสี่ บ้าจริง! บุตรชายแฝดสามคนได้พ่อของเขามาทั้งหมดราวกับคุณชายจิ้นแยกร่าง และย่อส่วนลงให้ตัวเล็กลงขนาดกะทัดรัด“หนี่ว์เอ๋อร์ตื่นแล้วหรือ พวกเขากำลังหิวนมพอดีเลย” ฮูหยินหม่านกล่าว ก่อนหน้านี้ก็ให้แม่นมป้อนไปแล้ว กินจุบจับไปห้าหกทีก็ไม่ยอมกินอีก“เห็นตัวเล็กหน้าซื่อๆ แต่กลับเลือกกินตั้งแต่เด็ก” ฮูหยินเฒ่ากล่าวบ่น ใช้นิ้วเขี่ยลงไปที่หน้าผากปาเหอเสี่ยง หรือเจ้าแปดที่ร้องไห้ลั่นในอ้อมแขนของนาง“เหมือนพ่อเขา

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 4

    “ดูเล็กไปหมดเลยขอรับ จมูก ปาก หู” จิ้นฝานกล่าวไปตามที่เห็น ภาพน้องสาวน้องชายของเขาที่เคยอุ้มยามเด็กเลือนรางไปตามกาลเวลา พอมาวันนี้ความรู้สึกนั้นก็ย้อนกลับมาอีกครั้งมันหอมหวานไปด้วยความสุขความยินดีอยู่ด้านในอกของเขาคล้ายจะล้นทะลักออกมาข้างนอก“อาฝาน เจ้าต้องเป็นนักคัดลอกฝีมือดีเป็นแน่” ฮูหยินเฒ่ากล่าวเย้า“ทำไมหรือเจ้าคะ” ฮูหยินหม่านเอ่ยถามอย่างสงสัยในคำกล่าวนั้น“เจ้าดูเสีย ราวกับเอาหน้าอาฝานมาแปะไว้” ฮูหยินเฒ่ากล่าว หลุบตาลงมองเหลนชายที่อุ้มเอาไว้“ฮ่าๆ” ฮูหยินหม่านได้ยินก็ลั่นเสียงหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ หันไปลูบหัวบุตรชายพร้อมกับกล่าวไปด้วยว่า“สงสัยว่าตอนทำ เจ้าคงจะขยันปั้นน่าดู”จิ้นฝานที่ได้ยินก็หลุบตาลงมองเอ้อเหอเสี่ยง คืนนั้นมันบางเบาราวกับหมอก พร่ามัวอยู่ในความทรงจำ ครุ่นคิดเท่าไรก็ครุ่นคิดไม่ออก ส่วนไหนของคุณหนูรองหน้าตาเป็นแบบไหนเขาเองก็จำไม่ได้ พอตื่นขึ้นมาก็รู้เพียงแค่ว่าปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว ยิ่งช่วงเอวมิต้องกล่าวถึงเมื่อแวะหามาลูกแล้วนั้นก็ถึงคราไปหาแม่ของลูกชายที่ห้องนอนใหญ่ด้านข้าง เขานั่งลงบนเตียงลูบหัวฮูหยินน้อยที่นอนหลับอย่างเบามืออยู่เนิ่นนาน…สัมผัสเบาๆ ที่หัว

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 3

    “ฮึ เวลาผ่านไปเร็วนัก ยามนั้นท่านยังเป็นเด็กหนุ่ม มาบัดนี้เติบโต ดูทระนง และสง่าสมฐานะเสนาบดีฝ่ายขวาในอนาคตอย่างยิ่ง” เสนาบดีจางกล่าว สายตามองลึกเข้าไปในดวงตาดุดันของชายหนุ่มที่ยืนเบื้องหน้า“ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น” จิ้นฝานตอบเสียงนิ่ง หน้านิ่งกวาดตามองเหล่าฮูหยินของเสนาบดีจางที่นั่งตัวสั่นภายในห้องนับผ่านทางสายตาขุนนางเฒ่าผู้นี้มีภรรยาสิบคน แต่กลับมีบุตรเพียงไม่กี่คนเท่านั้น บุตรชายห้าคน บุตรสาวคนเล็กอีกหนึ่งคนที่ยังไม่แต่งออกไป“ข้าขอสนทนากับท่านในฐานะที่เคยเป็นเจ้านายกับลูกน้องกันมาหลายปีหน่อยเถิด ไท่จื่อจะลงโทษตัดสินตระกูลจางถึงโทษขั้นไหน” เสนาบดีจางถามเสียงอ่อน ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างหมดหวัง“โทษประหารเก้าชั่วโคตร โทษของผู้ที่คิดคดก่อกบฏไม่มีผ่อนปรน” จิ้นฝานตอบตามตรง หลุบตาลงมองชายชราที่นั่งมือสั่น วางกับพนักแขน“แต่พวกนาง และพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ข้าจะรับโทษไว้ทั้งหมด” เสนาบดีจางที่นั่งก้มหน้าลงเอ่ยขึ้น“ท่านเป็นถึงเสนาบดี คงจะทราบดีว่าโทษนี้ไม่อาจเลือกปฏิบัติได้ เมื่อทำผิดใหญ่หลวง ย่อมต้องรับผิดชอบทั้งหมดร่วมกัน” จิ้นฝานตอบเสียงนิ่ง“คุณชายจิ้น...” เสนาบดีจางเงยหน้าขึ้นสบดวงต

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 2

    จิ้นฝานมองมือของนางที่ยกค้างกลางอากาศแล้วยิ้มออกมา ก่อนจะหลับตาลงและขยับหน้าไปแนบกับฝ่ามือของนางอย่างช้าๆ นิ่งค้างสักพัก แล้วดึงหน้ากลับมาลืมตาช้าๆ มองภาพสะท้อนตัวเองบนดวงตาคู่หวานของนาง“เจอกันวันพรุ่ง” จิ้นฝานกล่าวลาเป็นครั้งสุดท้าย หมุนกายกลับหลังแล้ววิ่งออกไปอย่างรีบร้อนข้ายืนนิ่ง และสูดลมเข้าจมูก เมื่อครู่นี้...เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น สัมผัสนั้นราวกับความฝันเสี่ยวเมิ่งยืนมองฮูหยินน้อยที่ยืนอึ้งไปครู่หนึ่ง นางจึงส่ายหน้าเบาๆ ในท่าทีของนายท่าน จะไม่ให้ฮูหยินตกใจได้อย่างไร อยู่ๆ ก็ใช้ข้ออ้างมาขอเบี้ย เพื่อมาลาภรรยาก่อนจะออกไปทำงานใหญ่ ยังมิวายหยอดสาวงามหนึ่งที แล้วรีบวิ่งหนีไปเสียดื้อๆ ลูกเล่นเขานับว่าแพรวพราวขึ้นทุกวัน“เสี่ยวเมิ่ง เจ้าเห็นเหมือนที่ข้าเห็นหรือไม่...” ข้าเอ่ยเสียงขาดหายหันหลังกลับไปถามนางด้านหลัง“นายท่านตั้งใจจะแวะมาลาฮูหยินน้อยเจ้าค่ะ” เสี่ยวเมิ่งกล่าวไปตามตรง“เขาต้องเพี้ยนไปเป็นแน่” ข้าเอ่ย เอามือที่สัมผัสหน้าคุณชายจิ้นก่อนหน้านี้มากุมเอาไว้ แล้วเดินเข้าเรือนไปตอนนี้คล้ายกับว่าในหัวใจเหมือนมีกลีบบุปผาเบ่งบานอยู่เต็มไปหมด จะให้บรรยายออกมานั้นข้าเองก็ไม่อาจเข

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 1

    ๑๑ฝูงลิงเมื่อดอกเหมยโรยราร่วงหล่นลงพื้นจนหมดต้นแล้วนั้น มันก็เริ่มผลิใบอ่อนขึ้นมาใหม่มีสีเขียวเต็มต้น จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงผลัดใบออก บ่งบอกถึงฤดูกาลที่เปลี่ยนไปอีกหนึ่งฤดู ยามนี้ข้านั่งเล่นตรงระเบียง เอนตัวพิงหมอนด้านข้าง นั่งดูสีใบไม้ในสวนผ่านแสงจันทร์สีนวลในคืนนี้ท้องของข้าขยายใหญ่มาก ไม่ใช่มากธรรมดา มันใหญ่มากของมาก มิใช่แฝดสองที่คิดเอาไว้ ท่านหมอกล่าวบอกว่าน่าจะแฝดสามหรือไม่ก็แฝดสี่ได้ ถ้าดูจากขนาดท้องนี้ก่อนหน้านี้สองเดือนเกือบสามเดือนได้ คุณชายจิ้นมาขอยุติข้อตกลงไว้ชั่วคราวก่อน เพราะเขาติดทำภารกิจ ต้องกลับเรือนดึกดื่นเกือบเช้าทุกวัน จึงไม่อยากเข้ามากวนข้ากับลูกยามดึกข้าเองก็ไม่ติดใจอันใด เพราะรู้ว่าเขานั้นกำลังยุ่งวุ่นวายกับเรื่องในวังหลวง จึงกลายเป็นว่าเห็นหน้าเขาไม่เกินสิบครั้งได้กระมังที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่เจอก็ตอนมาขอเบี้ยรายเดือนของเขา เดือนไหนเบี้ยหมดไวก็อาจจะเจอสองครั้งสามครั้งต่อเดือน ไม่รู้ว่าเอาเบี้ยไปเททิ้งหรืออย่างไร หมดเร็วยิ่งนักส่วนเจ้าโซว่ก็ตัวโตขึ้น มันเป็นพันธุ์ผสมหมาป่า รูปร่างจึงใหญ่กว่าสุนัขบ้าน มีเรียวขาที่ยาวตัวสูงปราดเปรียวสีขาวฟูฟ่อง แต่กลับมีนิสัย

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status