Share

บทนำ ฝันร้าย 8

Author: LIttlelion
last update Last Updated: 2025-06-07 21:46:30

และก็เกิดคำกล่าวขึ้นหนึ่งประโยคในใจ ‘นางกล่าวเช่นนี้...หรือเหตุการณ์ในคืนวันแต่งงานจะมีอะไรที่มากกว่านั้น”

เขานิ่งงันไปพักเดียว ถึงจะกล่าวออกมาต่อ “ก็น่าจะมีโอกาสตั้งท้องอยู่...ในฝันเหมือนข้าร่วมรักกับนางเกือบทั้งคืน หากนางตั้งท้อง ข้าคงจะรับเข้ามาเป็นอนุภรรยากระมัง” เขากล่าวออกไปกึ่งสนใจ และกึ่งไม่สนใจในประโยคหลังของตนเอง

ความจริงเรื่องคืนนั้นก็ติดใจเขาอยู่เช่นกัน...ถ้ามิใช่ไป๋มี่อิงที่เขาหลงคิดไปเอง ก็ต้องเป็นบ่าวใช้ของนางในคฤหาสน์ แต่ถึงกระนั้นเหตุใดต้องหลบหนีเขาไปด้วย ถ้านางอยู่เขาอาจจะรับผิดชอบ ถ้าจะให้เขามาป่าวประกาศถามความคนทั้งหมดก็คงไม่น่าดู

เขาจึงนึกคิดไปว่าการที่สตรีผู้นั้นหนีไปคงจะไม่ต้องการให้เขารับผิดชอบกระมัง

เคร้ง เคร้ง เคร้ง พอสิ้นคำกล่าวของเขาครู่เดียว ตะเกียบทั้งสามคู่ก็ร่วงหล่นลงบนโต๊ะอย่างพร้อมเพรียง เยี่ยเปามองตาค้าง จ้องมองดวงหน้าเข้มของจิ้นฝาน และเลื่อนไปมองดวงหน้าเห่อแดง ดวงตาคลอไปด้วยน้ำใสรื้นที่แดงไปไม่แพ้จมูกของไป๋ซิงหนี่ว์ในยามนี้

ข้าเม้มปากเข้า...บุรุษน่าชัง เขาจะรับผิดชอบด้วยการแต่งข้าเป็นอนุภรรยาน่ะหรือ มันไม่ต่างจากบ่าวใช้แม้แต่น้อย จะไปมีสิทธิ์มีเสียงในเรือนได้อย่างไรกัน

ข้ากำหมัดเข้าแน่นด้วยความโกรธ เขาเล่นดูถูกตระกูลไป๋เกินไปหรือเปล่า ตระกูลชั้นนำของเมืองหลวง แต่จะให้แต่งไปเป็นอนุภรรยา เป็นบุรุษที่ต่ำช้าเสมอต้นเสมอปลายเสียจริง!

ถ้าตามธรรมเนียมจริงๆ ก็เป็นไปตามที่จิ้นฝานกล่าว สตรีที่เสียพรหมจรรย์ก่อนแต่งงานเป็นเรื่องผิดต่อบรรพชน หากพวกนางไม่ถูกขับไล่ออกจากตระกูล ก็ต้องถูกแต่งเข้าไปในฐานะอนุภรรยาเท่านั้น มิอาจแต่งเป็นฮูหยินใหญ่ออกหน้าออกตาได้อีก

แต่ถึงกระนั้น ถ้ารู้จักตระกูลไป๋เป็นอย่างดี ย่อมรู้ว่ากฎระเบียบเหล่านี้เป็นเพียงคำกล่าวเลื่อนลอยทะลุหูพวกเขาไปเท่านั้น

ซิ่นสือที่กำลังคีบอาหารเข้าปากวางตะเกียบลงอย่างบนถ้วยอย่างหมดความอดทนในความทะลึ่งทะเล้นของสหายทั้งสองคน เขาหลับตาลงช้า ๆ สูดลมเข้าจมูกอ้าปากขึ้นตวาดเสียงดังลั่น

“พวกเจ้าทั้งสอง!!! มียางอายกันบ้างหรือไม่!!!” กล่าวจบก็ลุกขึ้น เอื้อมมือไปด้านหน้าดึงติ่งหูสหายทั้งสอง

“โอ๊ย! โอ๊ยยยยยย!!!” เสียงโอดครวญของคนทั้งสองดังประสานขึ้นเสียงหลง ลากยาวตามแรงดึงมือของซิ่นสือในยามนี้

“เบามือหน่อยเถิดไท่จื่อ หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ!” แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้เจ็บมากพอที่จะทำให้ไป๋มี่อิงจอมทะเล้นหยุดกล่าววาจาหยอกเย้าเขา

“ไท่จื่อหรือ...มี่เอ๋อร์ เจ้าสมควรโดนเยอะกว่าเสี่ยวจิ้น” ซิ่นสือกล่าวพร้อมกับออกแรงดึงมากขึ้น และกล่าวออกไปต่ออีก

“ครานี้พวกเจ้าควรจะรู้จักสงวนคำกล่าวลามกพวกนั้นเสียที!”

เมื่อมีคนคอยห้ามปราม บนโต๊ะจึงกลับมาสนทนาเรื่องปกติกันตามเดิม แต่เรื่องที่สนทนานั้นยังคงวกวนอยู่แต่กับสตรีในฝันของจิ้นฝาน

ไป๋มี่อิง จิ้นฝาน และซิ่นสือ เป็นสหายต่างสถานะกันที่คบหากันมานานอย่างสนิทใจ แต่ในความสัมพันธ์นั้นกลับมีหนึ่งในสามที่ไม่สนิทใจกับสหายตนเองนั่นคือ จิ้นฝาน เขาเพิ่งจะรู้ใจตนเองก็ในวันที่มันสายไปแล้ว ไป๋มี่อิงที่เขาหลงรักแต่งงานกับเยี่ยเปา

พอถึงเวลานี้เขาก็ไม่อาจเอ่ยคำในใจออกไปให้นางรับรู้ได้อีก...

ส่วนไป๋มี่อิงเองนั้นจับความรู้สึกของน้องสาวต่างมารดาได้ ยามนี้นางหลุบตามองมือเล็กที่กำเข้ากับอาภรณ์จนยับยู่ เลือดวิ่งมาหล่อเลี้ยงจนกำปั้นเล็กๆ นั้นแดงซ่าน เส้นเลือดเส้นเอ็นปูดออกมาจากหลังมือ

จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปมองสหายของนางที่นั่งไม่รู้สึกรู้สากับเรื่องที่ตัวเองทำเอาไว้ นางเอ่ยขึ้นในใจอย่างเนิบช้า

‘เสี่ยวฝานเอ่ย หากเจ้ามิโง่เขลาเหมือนหมู...จนมองไม่ออกว่าตนเองนั้นได้เดินออกจากเรือนซิงหนี่ว์ และทำการขืนใจนางเช่นนั้น เจ้าจะต้องเสียใจในภายหลังเป็นแน่’ นี่คือคำกล่าวราวกับประกาศิตประหักประหารจิ้นฝานของไป๋มี่อิง ว่าในอนาคตจะต้องเกิดเรื่องที่มิอาจคาดเดาขึ้นได้จากการวางแผนของนาง

“เม่ยเหม่ย…เจ้าต้องกินเยอะๆ ข้ากำชับให้คนครัวตั้งใจทำมาให้เจ้าโดยเฉพาะ” ไป๋มี่อิงเอ่ยกับนาง

“ขอบคุณเจ้าค่ะ” ข้ากล่าวเสียงแหบแห้ง ภายในอกอึดอัดราวกับว่ามีลมอัดแน่นอยู่ด้านใน รู้สึกว่าหายใจค่อนข้างลำบากกว่าในเวลาปกติ คล้ายกับว่าลมนั้นอัดตัวแน่นจนเป็นก้อนแข็งๆ มากระจุกรวมอยู่ในคอ

ข้าก้มหน้าลงคีบอาหารเข้าปาก เคี้ยวและกลืนมันลงคออย่างไร้รสชาติ ลิ้นชาปากชาเพราะคำกล่าวดูถูกของคุณชายจิ้นเหมือนกับฝ่ามือตบลงบนใบหน้าข้าจนชาวาบไปหมด

เขาทำสตรีตั้งท้องโดยผิดขนบธรรมเนียม สิ่งแรกที่ควรจะทำนั่นคือกล่าวขอโทษนางจากใจจริง เป็นบุรุษมากไปด้วยแรง แต่ไม่รู้จักการรับผิดชอบทางใจและสำนึกผิดจริงๆ รู้จักแต่จะใช้วิธีการรับผิดชอบแบบมักง่ายไปเท่านั้น

เวลาผ่านไปสองเค่อ ทุกคนต่างก้มหน้าก้มตากินอาหารบนโต๊ะ และสนทนากันเรื่องประเพณีล่าสัตว์ที่จะจัดขึ้นที่เกาะเหวินเฉิง ปีนี้ไป๋มี่อิงตั้งใจว่าจะพาครอบครัวตนเองเข้าร่วมด้วย

เมื่อถึงเวลาอันสมควรจะต้องแยกย้ายกัน นางจึงกล่าวขึ้น “ข้าเพิ่งนึกออกว่าจะมีการค้านอกเมืองหลวง…อีกทั้งยังต้องพาฮูหยินใหญ่ไปด้วย เสี่ยวฝานไปส่งซิงหนี่ว์กับจิวเซียนที่คฤหาสน์ได้หรือไม่”

นางมักกล่าวเรียกสหายอย่างเอ็นดูอยู่เสมอ ไม่เสี่ยวจิ้นก็เสี่ยวฝาน พวกเขาทั้งสามเรียกกันอย่างสนิทสนมไม่อายผู้คน เพราะสายสัมพันธ์นี้หนาแน่นกันมานานเกือบสิบปี และผู้คนต่างรู้กันดีในความสนิทชิดเชื้อนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 6

    “ปากเขายังเล็ก เมื่อโตขึ้นมาหน่อยสองเดือนสามเดือนได้ เขาก็จับดูดถึงลานนม...แต่จะว่าไปแล้วนั้นเหมือนตอนที่เสี่ยวฝานดื่มนมข้าไม่มีผิด” ฮูหยินหม่านกล่าวขึ้น ทำสีน่าปลื้มปริ่มมองเอ้อเหอเสี่ยงพอสิ้นคำกล่าวของท่านแม่ ในหัวก็แล่นภาพดวงหน้าคุณชายจิ้นซ้อนทับกับลูกขึ้นมาทันที ข้าอุตส่าห์ลืมไปแล้วเพราะความเจ็บ ไฉนความคิดนี้ถึงวกกลับมาได้อีกกันเมื่อสลัดภาพคุณชายจิ้นออกจากหัว ภาพอาเอ้อยามขยับปากดูดนมกลับทำให้ข้ามีความสุขถึงแม้ว่าจะเจ็บจนร้องไห้ก็ตามทีกินเก่งเช่นนี้ต้องเหลือให้น้องอีกสองคนด้วยรู้หรือไม่ ข้าเอ่ยกับเขาในใจ แล้วเหลือบตาไปมองอาลิ่ว อาปา ที่กำลังร้องไห้อยู่ ดูท่าหนทางให้นมลูกวันนี้ยังอีกยาวไกลนัก…เรือนซิ่วของจิ้นฝานด้านข้างจะมีต้นไม้ใหญ่ ถ้ายืนใต้ต้นไม้นั้นจะมองทะลุหน้าต่างเรือนเข้าไปด้านในเป็นห้องนอน และมองเห็นจิ้นฝานที่กำลังผลัดเปลี่ยนมาสวมเป็นชุดขุนนางในยามนี้ ขยับปากกล่าวกับสวี่เจียวไปด้วย ไม่รู้ว่าเขากล่าวอะไรออกมาถึงทำให้สวี่เจียวตกใจอยู่ไม่น้อยนํ้าเสียงของคนทั้งสองเบาราวกับสายลม แต่เนื้อหาของบทสนทนาน่าจะดูตกใจอยู่มาก จนทำให้สวี่เจียวที่ยืนถือเสื้อคลุมนั้นถึงกับมือไม้อ่อนทำเส

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 5

    พลันเมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้อง เสียงหยอกล้อผสมกับเสียงร้องไห้ก็ดังกระทบเข้ามาที่หูจากห้องด้านข้าง ตอนแรกที่ได้ยินก็ไม่คิดว่าจะดังถึงขั้นแสบหูเช่นนี้ “คุณชายน้อยลิ่วร้องโยเยไม่หยุดเลยเจ้าค่ะ” เสียงที่ดังลอดออกมาคือแม่นางเฉินข้าจึงผลักประตูเข้าไปในห้องเห็นคุณชายจิ้นนั่งนิ่งยกนํ้าชาขึ้นจิบอย่างสงบ ปรายตามองมาทางข้า ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้นรอบตัวเขาท่านแม่กล่อมเด็กอ่อนใบหน้าที่เหมือนกับคุณชายจิ้น ฮูหยินเฒ่ามีสีหน้าตระหนกไม่ต่างกัน อุ้มเด็กน้อยที่มีใบหน้าเหมือนคุณชายจิ้น แม่นางเฉินหางตาตก สีหน้าอมทุกข์ อุ้มเด็กหน้าเหมือนคุณชายจิ้นคุณชายจิ้นหนึ่ง คุณชายจิ้นสอง คุณชายจิ้นสาม คุณชายจิ้นสี่ บ้าจริง! บุตรชายแฝดสามคนได้พ่อของเขามาทั้งหมดราวกับคุณชายจิ้นแยกร่าง และย่อส่วนลงให้ตัวเล็กลงขนาดกะทัดรัด“หนี่ว์เอ๋อร์ตื่นแล้วหรือ พวกเขากำลังหิวนมพอดีเลย” ฮูหยินหม่านกล่าว ก่อนหน้านี้ก็ให้แม่นมป้อนไปแล้ว กินจุบจับไปห้าหกทีก็ไม่ยอมกินอีก“เห็นตัวเล็กหน้าซื่อๆ แต่กลับเลือกกินตั้งแต่เด็ก” ฮูหยินเฒ่ากล่าวบ่น ใช้นิ้วเขี่ยลงไปที่หน้าผากปาเหอเสี่ยง หรือเจ้าแปดที่ร้องไห้ลั่นในอ้อมแขนของนาง“เหมือนพ่อเขา

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 4

    “ดูเล็กไปหมดเลยขอรับ จมูก ปาก หู” จิ้นฝานกล่าวไปตามที่เห็น ภาพน้องสาวน้องชายของเขาที่เคยอุ้มยามเด็กเลือนรางไปตามกาลเวลา พอมาวันนี้ความรู้สึกนั้นก็ย้อนกลับมาอีกครั้งมันหอมหวานไปด้วยความสุขความยินดีอยู่ด้านในอกของเขาคล้ายจะล้นทะลักออกมาข้างนอก“อาฝาน เจ้าต้องเป็นนักคัดลอกฝีมือดีเป็นแน่” ฮูหยินเฒ่ากล่าวเย้า“ทำไมหรือเจ้าคะ” ฮูหยินหม่านเอ่ยถามอย่างสงสัยในคำกล่าวนั้น“เจ้าดูเสีย ราวกับเอาหน้าอาฝานมาแปะไว้” ฮูหยินเฒ่ากล่าว หลุบตาลงมองเหลนชายที่อุ้มเอาไว้“ฮ่าๆ” ฮูหยินหม่านได้ยินก็ลั่นเสียงหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ หันไปลูบหัวบุตรชายพร้อมกับกล่าวไปด้วยว่า“สงสัยว่าตอนทำ เจ้าคงจะขยันปั้นน่าดู”จิ้นฝานที่ได้ยินก็หลุบตาลงมองเอ้อเหอเสี่ยง คืนนั้นมันบางเบาราวกับหมอก พร่ามัวอยู่ในความทรงจำ ครุ่นคิดเท่าไรก็ครุ่นคิดไม่ออก ส่วนไหนของคุณหนูรองหน้าตาเป็นแบบไหนเขาเองก็จำไม่ได้ พอตื่นขึ้นมาก็รู้เพียงแค่ว่าปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว ยิ่งช่วงเอวมิต้องกล่าวถึงเมื่อแวะหามาลูกแล้วนั้นก็ถึงคราไปหาแม่ของลูกชายที่ห้องนอนใหญ่ด้านข้าง เขานั่งลงบนเตียงลูบหัวฮูหยินน้อยที่นอนหลับอย่างเบามืออยู่เนิ่นนาน…สัมผัสเบาๆ ที่หัว

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 3

    “ฮึ เวลาผ่านไปเร็วนัก ยามนั้นท่านยังเป็นเด็กหนุ่ม มาบัดนี้เติบโต ดูทระนง และสง่าสมฐานะเสนาบดีฝ่ายขวาในอนาคตอย่างยิ่ง” เสนาบดีจางกล่าว สายตามองลึกเข้าไปในดวงตาดุดันของชายหนุ่มที่ยืนเบื้องหน้า“ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น” จิ้นฝานตอบเสียงนิ่ง หน้านิ่งกวาดตามองเหล่าฮูหยินของเสนาบดีจางที่นั่งตัวสั่นภายในห้องนับผ่านทางสายตาขุนนางเฒ่าผู้นี้มีภรรยาสิบคน แต่กลับมีบุตรเพียงไม่กี่คนเท่านั้น บุตรชายห้าคน บุตรสาวคนเล็กอีกหนึ่งคนที่ยังไม่แต่งออกไป“ข้าขอสนทนากับท่านในฐานะที่เคยเป็นเจ้านายกับลูกน้องกันมาหลายปีหน่อยเถิด ไท่จื่อจะลงโทษตัดสินตระกูลจางถึงโทษขั้นไหน” เสนาบดีจางถามเสียงอ่อน ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างหมดหวัง“โทษประหารเก้าชั่วโคตร โทษของผู้ที่คิดคดก่อกบฏไม่มีผ่อนปรน” จิ้นฝานตอบตามตรง หลุบตาลงมองชายชราที่นั่งมือสั่น วางกับพนักแขน“แต่พวกนาง และพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ข้าจะรับโทษไว้ทั้งหมด” เสนาบดีจางที่นั่งก้มหน้าลงเอ่ยขึ้น“ท่านเป็นถึงเสนาบดี คงจะทราบดีว่าโทษนี้ไม่อาจเลือกปฏิบัติได้ เมื่อทำผิดใหญ่หลวง ย่อมต้องรับผิดชอบทั้งหมดร่วมกัน” จิ้นฝานตอบเสียงนิ่ง“คุณชายจิ้น...” เสนาบดีจางเงยหน้าขึ้นสบดวงต

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 2

    จิ้นฝานมองมือของนางที่ยกค้างกลางอากาศแล้วยิ้มออกมา ก่อนจะหลับตาลงและขยับหน้าไปแนบกับฝ่ามือของนางอย่างช้าๆ นิ่งค้างสักพัก แล้วดึงหน้ากลับมาลืมตาช้าๆ มองภาพสะท้อนตัวเองบนดวงตาคู่หวานของนาง“เจอกันวันพรุ่ง” จิ้นฝานกล่าวลาเป็นครั้งสุดท้าย หมุนกายกลับหลังแล้ววิ่งออกไปอย่างรีบร้อนข้ายืนนิ่ง และสูดลมเข้าจมูก เมื่อครู่นี้...เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น สัมผัสนั้นราวกับความฝันเสี่ยวเมิ่งยืนมองฮูหยินน้อยที่ยืนอึ้งไปครู่หนึ่ง นางจึงส่ายหน้าเบาๆ ในท่าทีของนายท่าน จะไม่ให้ฮูหยินตกใจได้อย่างไร อยู่ๆ ก็ใช้ข้ออ้างมาขอเบี้ย เพื่อมาลาภรรยาก่อนจะออกไปทำงานใหญ่ ยังมิวายหยอดสาวงามหนึ่งที แล้วรีบวิ่งหนีไปเสียดื้อๆ ลูกเล่นเขานับว่าแพรวพราวขึ้นทุกวัน“เสี่ยวเมิ่ง เจ้าเห็นเหมือนที่ข้าเห็นหรือไม่...” ข้าเอ่ยเสียงขาดหายหันหลังกลับไปถามนางด้านหลัง“นายท่านตั้งใจจะแวะมาลาฮูหยินน้อยเจ้าค่ะ” เสี่ยวเมิ่งกล่าวไปตามตรง“เขาต้องเพี้ยนไปเป็นแน่” ข้าเอ่ย เอามือที่สัมผัสหน้าคุณชายจิ้นก่อนหน้านี้มากุมเอาไว้ แล้วเดินเข้าเรือนไปตอนนี้คล้ายกับว่าในหัวใจเหมือนมีกลีบบุปผาเบ่งบานอยู่เต็มไปหมด จะให้บรรยายออกมานั้นข้าเองก็ไม่อาจเข

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๑ ฝูงลิง / 1

    ๑๑ฝูงลิงเมื่อดอกเหมยโรยราร่วงหล่นลงพื้นจนหมดต้นแล้วนั้น มันก็เริ่มผลิใบอ่อนขึ้นมาใหม่มีสีเขียวเต็มต้น จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงผลัดใบออก บ่งบอกถึงฤดูกาลที่เปลี่ยนไปอีกหนึ่งฤดู ยามนี้ข้านั่งเล่นตรงระเบียง เอนตัวพิงหมอนด้านข้าง นั่งดูสีใบไม้ในสวนผ่านแสงจันทร์สีนวลในคืนนี้ท้องของข้าขยายใหญ่มาก ไม่ใช่มากธรรมดา มันใหญ่มากของมาก มิใช่แฝดสองที่คิดเอาไว้ ท่านหมอกล่าวบอกว่าน่าจะแฝดสามหรือไม่ก็แฝดสี่ได้ ถ้าดูจากขนาดท้องนี้ก่อนหน้านี้สองเดือนเกือบสามเดือนได้ คุณชายจิ้นมาขอยุติข้อตกลงไว้ชั่วคราวก่อน เพราะเขาติดทำภารกิจ ต้องกลับเรือนดึกดื่นเกือบเช้าทุกวัน จึงไม่อยากเข้ามากวนข้ากับลูกยามดึกข้าเองก็ไม่ติดใจอันใด เพราะรู้ว่าเขานั้นกำลังยุ่งวุ่นวายกับเรื่องในวังหลวง จึงกลายเป็นว่าเห็นหน้าเขาไม่เกินสิบครั้งได้กระมังที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่เจอก็ตอนมาขอเบี้ยรายเดือนของเขา เดือนไหนเบี้ยหมดไวก็อาจจะเจอสองครั้งสามครั้งต่อเดือน ไม่รู้ว่าเอาเบี้ยไปเททิ้งหรืออย่างไร หมดเร็วยิ่งนักส่วนเจ้าโซว่ก็ตัวโตขึ้น มันเป็นพันธุ์ผสมหมาป่า รูปร่างจึงใหญ่กว่าสุนัขบ้าน มีเรียวขาที่ยาวตัวสูงปราดเปรียวสีขาวฟูฟ่อง แต่กลับมีนิสัย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status