“พ่อกับแม่ไม่ติดอะไรใช่ไหมคะ ถ้าโรสกับเซนจะคบกัน” ความเงียบเกิดขึ้นทันทีที่เธอถามออกไป บิดาและมารดามองหน้ากันเล็กน้อย และเป็นฝ่ายบิดาที่เอ่ยปากขึ้นมาคนแรก “รู้จักกันมานานแค่ไหน แล้วคบกันนานหรือยัง” “รู้จัก...” “พ่อถามแฟนลูก” พิศาลพูดแทรกลูกสาวที่กำลังจะตอบคำถาม แล้วเหลือบตามองด้วยใบหน้าเรียบเฉย “จะให้ลูกฉันพูดคนเดียว?” แค่อยากรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะดูแลลูกสาวคนเดียวของพวกเขาได้ดีขนาดไหน สามารถเป็นผู้นำให้กับเธอได้ในยามที่เขาและภรรยาไม่อยู่แล้วได้หรือไม่ “รู้จักกันมาหนึ่งปี กับอีกหนึ่งเดือนครับ” เขาตอบออกมาอย่างแม่นยำ หากจะบอกวันเดือนปีที่ได้รู้จักเธอครั้งแรกก็กลัวจะดูคลั่งรักเกินไป “แต่เราเพิ่งคบกันได้สองอาทิตย์ครับ” “คงเป็นช่วงที่ลูกไม่ยอมกลับบ้าน” บิดาหันมาคาดโทษลูกสาว “อยู่ด้วยกันแล้วเหรอคะ” มารดาเป็นฝ่ายถามขึ้นมาบ้าง แม้จะพอรู้จากพฤติกรรมลูกสาวอยู่แล้ว “ครับ” บุพการีมองหน้
เมื่อสุดสัปดาห์มาถึง มาเฟียหนุ่มตื่นมาเตรียมตัวไปพบครอบครัวของคนตัวเล็กตั้งแต่เช้า หญิงสาวที่ลืมตาตื่นขึ้นมา และควานหาแฟนหนุ่มบนเตียงไม่เจอ ก็ลุกขึ้นมานั่งมองคนที่กำลังแต่งองค์ทรงเครื่องที่หน้ากระจกด้วยความมึนงง “มีงานเหรอคะ” “ไม่มี” “แล้วตื่นทำไมตั้งแต่เช้า เรากลับบ้านตอนบ่ายนะคะ” มือเรียวคว้าชุดนอนที่ถอดทิ้งตั้งแต่เมื่อคืนมาสวมใส่ เดินเข้าไปใกล้คนที่ยังเอาแต่จ้องกระจกอย่างพิถีพิถัน “ตื่นเต้นเหรอคะ” สวมกอดเอวหนาด้วยความออดอ้อนจากด้านหลัง ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะหมุนกายมาประจันหน้า แล้วกอดเธอตอบด้วยความรู้สึกแบบเดียวกัน “เธอว่า พ่อกับแม่เธอจะยอมรับฉันไหม” คนไม่เคยถูกครอบครัวยอมรับอย่างเขา เกิดความกังวลขึ้นมา “คุณพ่อกับคุณแม่โรสใจดีน้า~” ส่งยิ้มทะเล้นให้เขาผ่อนคลาย จับสองมือแกร่งแกว่งเล่นไปมาอย่างอารมณ์ดี “โรสรักใคร พวกเขาก็จะรัก อย่ากังวลเลยนะ” คนตัวโตพยักหน้าเข้าใจและคลายสีหน้ากังวลลง อุ้มคนตัวเล็กขึ้นในท่าเจ้าสาวอย่างเช่นที่ทำทุกเช้า จากนั้นจึงพาเธอเดินไปส่งถึงด้านในห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัว×××
เวลาเช้าตรู่วันถัดมา คนตัวเล็กถูกปลุกมาร่วมรักตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น พริมโรสจำได้ลางๆ ว่าเธอโดนเข้ากลั่นแกล้งจนเลยเที่ยงคืน ถูกเขาปลดปล่อยข้างในไปสองครั้ง แต่ละครั้งยาวนานห่างกันเกือบชั่วโมง ครั้งแรกกว่าเขาจะปลดปล่อย เธอก็ถึงฝั่งฝันไปแล้วสี่ครั้ง แอลกอฮอล์คือของอันตรายสำหรับแฟนหนุ่มตัวโต เธอจะไม่ยอมให้เขาดื่มจนเมาขนาดนี้อีกเด็ดขาด เช้านี้ก็เช่นกัน คนตัวใหญ่ของเธอนึกครึ้มของเอาผ้ามาปิดตา ก่อนจะจับเธอกระแทกกระทั้นในท่าคลานเข่าจนเสียสติตั้งแต่เช้า "อ๊า! อ๊าๆ ซะ เซน แกะผ้าออก" ทั้งกลัวทั้งเสียวซ่าน เมื่อดวงตามองไม่เห็น ประสาทสัมผัสส่วนอื่นๆ ก็ทำงานได้ดีจนน่าใจหาย เสียงหอบกระเส่าเบื้องหลังวันนี้เซ็กซี่ที่สุด สัมผัสดุดันที่เคยได้รับก็ทวีความซาบซ่านมาก เสียจนมวนช่องท้อง "เสียวมากใช่ไหม" "สะ เสียว เค้าเสียว โรสเสียว อื้อๆ" ระล่ำระลักบอกเขาเสียงสั่นเครือ นับวันเขายิ่งสอนสั่งให้เธอกลายเป็นผู้หญิงร่า
เวลาเกือบสี่ทุ่ม คนตัวกำลังนั่งเล็กนั่งทำรายงานที่ห้องนอนอย่างตั้งอกตั้งใจ บางครั้งหากคิดเนื้อหาที่จะใส่ในรายงานไม่ออก เธอมักจะมองวิวด้านนอกเพื่อปลดปล่อยความตึงเครียด โชคดีที่เธอฝึกงานเสร็จตั้งแต่ช่วงเทอมแรก เทอมที่สองจึงเป็นการทำรายงานส่งให้ทันก่อนขึ้นปีสี่ แกร๊ก~ คนสวยในชุดพร้อมนอนหันไปมองตามต้นเสียง เซนเดินเข้ามาในห้องนอนพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำเล็กน้อย หยิบทิชชู่เปียกมาเช็ดมืออย่างติดเป็นนิสัย ก่อนจะเดินเข้าไปหาคนตัวโตที่นั่งบนเตียงด้วยท่าทางมึนเมาเล็กน้อย "เมาเหรอคะ" ยกมือลูบแก้มสากอย่างอ่อนโยน ไม่เคยเห็นเขาดื่มจนหน้าแดงได้ขนาดนี้ "นิดหน่อย ลูกค้าทำเหล้า เลยได้ลองตัวใหม่ น่าสนใจดี" เขาพูดออกมาระหว่างที่รับเธอขึ้นมานั่งเกยบนตัก ริมฝีปากหยักจูบที่เนินอกอวบเบาๆ "ตัวหอมดี" ถอดเสื้อสูททิ้งลงข้างเตียงอย่างไม่ใยดี ตามด้วยนาฬิกาข้อมือกับเครื่องประดับอื่นที่สวมใส่ในวันนี้ ก่อนจะรั้งท้ายทอยคนตัวเล็กเข้ามาประกบจูบ ฉายความปรารถนาผ่านรสจูบเร่าร้อน ดูดดึงเรียวลิ้นเล็กจนน้ำลายไหลออกมาจากมุมปาก ความรู้สึกที่
หลายวันต่อมา พริมโรสแวะมาซื้อเครื่องสำอางที่ห้างสรรพสินค้า ใกล้เพนท์เฮ้าส์ในช่วงหลังเลิกเรียน วันนี้เซนบอกเธอล่วงหน้าว่าต้องออกไปดื่มกับลูกค้าที่เพิ่งเซ็นสัญญาค้าอาวุธรายใหม่ จึงเป็นการขับรถไปเรียนที่มหาวิทยาลัยด้วยตนเองในรอบสองเดือนของเธอ "คุณผู้หญิงลองน้ำหอมตัวนี้ไหมคะ เป็นกลิ่นใหม่นะคะ วางขายวันนี้วันแรกเลย" พนักงานแนะนำสินค้าใหม่ให้เธอในฐานะแขกวีไอพี หลังจากที่คนตัวเล็กเดินมาถึงก็บอกกลิ่นน้ำหอมที่ต้องการทันทีอย่างไม่ลังเล พริมโรสสูดกลิ่นจากก้านน้ำหอมที่พนักงานยื่นให้ ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ "ไม่ค่ะ แค่นี้พอแล้ว" น้ำหอมกลิ่นฟลอร่าเกินไป ไม่เหมาะกับบุคลิกตนเอง มือเรียวยื่นบัตรเครดิตสีดำที่ได้จากแฟนหนุ่มตั้งแต่ตอนไปสิงคโปร์ นับตั้งแต่นั้นมาเขาก็ให้เธอใช้มันได้ตามสบาย พร้อมกับยึดบัตรเครดิตที่ได้จากที่บ้านไปทันที "ไฮ~" พริมโรสหันไปตามเสียงทักทายนั้น ก่อนจะพบว่าคือซีลีน ยืนอยู่ที่หน้าร้านพร้อมกับบอดี้การ์ดสี่นายที่มีถุงชอปปิงเต็มสองมือ จะว่าไป เธอคนนี้เองก็หายไปตั้งแต่วันที่กลับจากสิงคโปร์ คงจะเป็นอย่า
"มีรถขับตามเรามาครับ" ดีนส์พูดในขณะที่มองเจ้านายสลับกับรถยนต์คันหลัง ที่ขับตามพวกเขามาแล้วสักพัก ตั้งแต่ออกจากคฤหาสน์ของริคคาโน่ เซนที่ไม่ทันสังเกตสถานการณ์ตั้งแต่ทีแรกขมวดคิ้วหันไปมองรถคันดังกล่าว เมื่อกี้เขามีเรื่องให้ครุ่นคิดมากมาย อีกทั้งยังหลงเหลือความอ่อนเพลียจากยาสลบที่ได้รับ จึงไม่ทันสังเกตว่ารถคันนั้นพยายามขับตามมาจริงๆ แม้ดีนส์จะลองขับวนในตรอกนี้หนึ่งรอบแล้วก็ตาม "คนของเราอยู่ไหน" "ประกบท้ายรถคันนั้นห่างๆ ครับ" มาเฟียหนุ่มพยักหน้ารับทราบ หันไปมองคนตัวเล็กที่นั่งฟังการสนทนาเงียบๆ "รถคนของราฟาเอลหรือเปล่าคะ" ริมฝีปากอวบอิ่มถามขึ้นมา "ไม่ใช่ครับ รถคันนั้นจอดอยู่ข้างคฤหาสน์มาสักพักแล้ว" ดีนส์อธิบายสิ่งที่ได้ยินผ่านหูฟังให้ทั้งสองคนเข้าใจ ลูกน้องของเขาติดต่อขอดูกล้องวงจรปิดจากคฤหาสน์ เห็นว่ารถคันดังกล่าวจอดอยู่ตรงนั้น ก่อนจะขับตามพวกเขามาโดยแทบไม่ทิ้งระยะห่าง มองดูออกทันทีว่าไม่ใช่มืออาชีพ "รอภาพจากลูกน้องเราสักครู่ครับ" ทันทีที่พูดจบ มือขวาหนุ่มก็ยูเทิร์นรถขับวนซ้ำเป็นรอบที่สาม ไม่นานนักเสียงแจ้งเตือนข้อความก็ดังมาจากมือถือเครื่องสีเทาของมือขวาหนุ่ม ดีนส์