Home / อื่น ๆ / บุปผาพันธนาการ / ตอนที่ 24 บุปผาผลิบานในอิสรภาพ

Share

ตอนที่ 24 บุปผาผลิบานในอิสรภาพ

Author: Bosskerr
last update Huling Na-update: 2025-09-08 21:28:55

เฉินกุ้ยเฟยเดินในฉากวังหลัง มือกำชายฉลองพระองค์จนข้อนิ้วซีด กลิ่นน้ำหอมที่หวานจัดในยามนี้กลับฉุนราวดอกไม้เน่าที่ซ่อนในกระถาง นางรู้ว่าถูกลากออกสู่แสงบางส่วน แต่ยังมีม่านซ้อนอีกหลายชั้นให้หลบซ่อน

ก่อนซูฮวาอิ๋นจะถูกพาออกจากท้องพระโรง นางหยุดเหลียวกลับ มองบัลลังก์หนึ่งครั้ง ลมหายใจหนึ่งครั้ง เม็ดน้ำตาหยดหนึ่งยังอุ่นบนแก้ม นางคิดถึงบิดา คิดถึงคำลายมือท้ายบันทึกที่ว่า

“หากข้าสิ้น ขอบุญกุศลที่ข้ามี จงให้สกุลเหลือบุตรี ข้าขอฝากนางไว้แก่ฟ้า ให้นางคือผู้ถือความจริงนี้ต่อไป”

วันนี้ฟ้าฟังแล้ว...

เจิ้งหลินอวี่น้อมศีรษะผ่านพระทวาร เมื่อประตูยักษ์ค่อย ๆ ปิด โลกภายนอกขาวโพลนด้วยหิมะ แต่อุ่นด้วยลมหายใจสองคนที่เริ่มเป็นจังหวะเดียวกัน ไม่ใช่เพราะความรักล้นล้ำ หากเพราะความจริงเดินเคียงข้าง

และในเงาสุดท้ายของประตู เว่ยฉางไห่หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ทิศของกรมช่างและกรมอาลักษณ์ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ปล่อยให้พวกเจ้า ตรวจเถิด ตราบใดที่ข้ายังถือกุญแจของเงา ศาลพิสุทธิ์ก็เป็นเพียงห้องที่ไม่มีหน้าต่าง

แสงยามสายสาดเข้าท้องพระโรงที่ค่อย ๆ ว่างเปล่า เสียงฝีเท้าสุดท้ายไกลออกไป เหลือเพียงธงปักมังกรพลิ้วเบา ๆ และเงาหิมะท
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • บุปผาพันธนาการ   ตอนที่ 37 เช้าวันใหม่หลังพายุ

    กลางดึกคืนนั้น ฟ้ากลับมืดครึ้มอย่างไม่ทันตั้งตัว สายลมแรงหอบเมฆดำเข้าปกคลุมหมู่บ้านสะพานบัว ฟ้าแลบสว่างวาบก่อนเสียงฟ้าร้องกึกก้องตามมา ฝนเม็ดโตโปรยลงไม่หยุดราวกับสวรรค์เทน้ำทั้งฟ้าเสียงสุนัขเห่าหอนดังระงม ผู้ใหญ่บ้านเถาเซิ่งรีบลุกขึ้นตะโกนปลุกชาวบ้านให้ช่วยกันปิดหน้าต่าง เก็บเสบียง และนำสัตว์เลี้ยงเข้าคอก ฝนถาโถมลงบนหลังคาฟางจนดังสนั่นในเรือนเล็ก ซูฮวาอิ๋นรีบจุดตะเกียง สวมเสื้อคลุมแล้วหันไปมองเจิ้งหลินอวี่ที่ยืนพิงประตู หน้าต่างไม้ถูกลมตีจนเปิดออกแทบหลุด“เจ้าคิดว่าจะร้ายแรงหรือไม่” นางถามด้วยเสียงสั่นน้อย ๆเจิ้งหลินอวี่เพ่งมองท้องฟ้ามืดสนิท ดวงตาคมวาวด้วยความเคร่งเครียด“เป็นพายุใหญ่แน่ เราต้องไปดูเขื่อนดินอีกครั้ง ไม่งั้นอาจซ้ำรอยเดิม”ซูฮวาอิ๋นใจหายวาบ “แต่กลางดึกเช่นนี้ ”เขาหันมาสบตานางตรง ๆ น้ำเสียงหนักแน่น“ข้าไม่ปล่อยให้หมู่บ้านนี้ตกอยู่ในอันตราย เจ้าอยู่ที่นี่ ข้าจะไปเอง”นางก้าวเข้ามากุมแขนเขาแน่น“ไม่! เจ้าเคยเสี่ยงมาแล้วครั้งหนึ่ง ข้าไม่อาจนั่งรออยู่เฉยได้”สายตาของทั้งคู่ปะทะกันในแสงตะเกียงสลัว เสียงลมคำรามโอบล้อมรอบเรือน ราวกับฟ้ากำลังทดสอบคำมั่นที่เพิ่งให้กันกลางลานเ

  • บุปผาพันธนาการ   ตอนที่ 36 คำมั่นกลางลานเหมย

    ฤดูใบไม้ผลิผ่านไปอย่างงดงาม ต้นเหมยที่หน้าสวนแตกกิ่งใบอ่อนสีเขียวชอุ่ม ดอกสีขาวและชมพูโรยลงบนลานดินจนดูราวกับปูพรมจากฟ้า เด็ก ๆ ที่มาเรียนหนังสือต่างวิ่งเล่นท่ามกลางกลีบเหมยร่วงด้วยเสียงหัวเราะสดใสวันนี้เป็นวันพักการสอน ซูฮวาอิ๋นจึงเตรียมกาน้ำชาและขนมถั่วตัดมานั่งเล่นกลางลานใต้ต้นเหมยใหญ่ นางสวมชุดผ้าฝ้ายสีอ่อน ผมถูกรวบขึ้นอย่างเรียบง่าย ใบหน้าที่เคยผ่านทุกข์ยากกลับฉายความสงบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเจิ้งหลินอวี่เดินเข้ามาเงียบ ๆ ในมือถือหนังสือเก่าเล่มหนึ่ง เขานั่งลงเคียงข้าง มองเด็ก ๆ ที่วิ่งไล่จับกันอยู่ไกล ๆ ก่อนเอ่ยเสียงทุ้ม“นานมาแล้ว ข้าเคยคิดว่าชีวิตข้ามีไว้เพียงแบกหน้าที่ แต่วันนี้ ข้ารู้แล้วว่าหน้าที่ของข้าจริง ๆ คือการอยู่เคียงข้างเจ้า”ซูฮวาอิ๋นยกถ้วยชาให้เขา ดวงตาสุกใสสะท้อนแสงแดดอุ่น“ท่านพูดเหมือนจะสารภาพคำมั่นอะไรสักอย่าง”เจิ้งหลินอวี่ยกคิ้วเล็กน้อย “ก็ใช่ วันนี้ข้าอยากให้เจ้าได้ฟัง”ซูฮวาอิ๋นหัวเราะเบา ๆ มือบางประคองถ้วยชาของตนไว้แนบอก“งั้นข้าจะฟังอย่างตั้งใจ”สายลมอ่อนพัดกลีบเหมยปลิวลงมาราวกับฝนโปรย เจิ้งหลินอวี่วางหนังสือลงแล้วหันมาสบตานางตรง ๆ“ซูฮวาอิ๋น ข้าสาบานต

  • บุปผาพันธนาการ   ตอนที่ 35 งานแต่งเล็ก ๆ กลางหมู่บ้าน

    ฤดูใบไม้ผลิปีนั้นหมู่บ้านสะพานบัวอบอวลด้วยกลิ่นหอมของดอกเหมยที่บานสะพรั่งทั้งทุ่ง แสงแดดยามเช้าอาบไล้หลังคาฟางและรั้วไม้ไผ่จนเป็นสีทองอุ่น ผู้คนในหมู่บ้านต่างพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น เพราะวันนี้มิใช่วันธรรมดา แต่เป็นวันที่ทุกคนรอคอย...วันแต่งของแม่นางซูกับคุณชายเจิ้ง...แต่เดิมซูฮวาอิ๋นเคยเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ หากแต่งงานย่อมต้องหรูหราในจวนขุนนาง มีแขกเหรื่อนับร้อยนับพัน แต่ครานี้งานแต่งกลับเรียบง่ายที่สุดในชีวิต และนั่นคือสิ่งที่นางปรารถนาที่สุดเช้าตรู่ สตรีชาวบ้านหลายคนพากันมาช่วยแต่งตัวให้นางในเรือนเล็ก ๆ ผมยาวดำสนิทถูกรวบขึ้นอย่างเรียบง่าย ประดับด้วยปิ่นไม้ไผ่แทนปิ่นทองคำ เสื้อคลุมผ้าฝ้ายสีชมพูอ่อนถูกเย็บปักด้วยลายดอกบัวโดยมือของหญิงชราในหมู่บ้านเด็กหญิงตัวน้อยร้องอุทานเสียงใส“ท่านอาจารย์สวยราวกับเทพธิดาเลย!”ซูฮวาอิ๋นหัวเราะเบา ๆ แก้มแดงระเรื่อ“ไม่หรอก ข้าเป็นเพียงสตรีธรรมดา แต่วันนี้เป็นวันที่หัวใจข้าเบิกบานที่สุด”ด้านนอกเรือน เจิ้งหลินอวี่สวมชุดผ้าป่านสีขาวสะอาด ผูกสายคาดเอวผ้าไหมที่ชาวบ้านช่วยกันทอ มือใหญ่ยังไม่คุ้นกับการยืนให้ใครแต่งองค์ทรงเครื่อง แต่เมื่อเขาเงยหน้ามองทุ่งท

  • บุปผาพันธนาการ   ตอนที่ 34 แขกจากวังหลวง

    เช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านสะพานบัวแจ่มใสเป็นพิเศษ ลมฤดูร้อนพัดเอื่อย กลีบดอกเหมยที่ปลิวจากสวนเล็ก ๆ ของซูฮวาอิ๋นโปรยลงตามทางดินราวกับโรยเกล็ดหิมะสีชมพูซูฮวาอิ๋นกำลังนั่งสอนเด็ก ๆ ที่ สวนที่ไม่มีประตู อย่างตั้งใจ เสียงหัวเราะเจื้อยแจ้วคลอไปกับเสียงพู่กันขีดลงบนกระดานไม้ทันใดนั้น เสียงเกือกม้าดังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว ตึก ตึก ตึก ทำให้ทุกคนเงยหน้าขึ้นพร้อมกัน เด็กชายคนหนึ่งอุทานเสียงดัง“มีแขกมา!”กลุ่มทหารในชุดเกราะเบาม้าสีน้ำตาลเข้มปรากฏขึ้นตรงทางเข้าหมู่บ้าน ฝุ่นแดงคลุ้งขึ้นตามฝีเท้า พวกชาวบ้านเริ่มแตกตื่นเพราะไม่คุ้นเคยกับภาพเช่นนี้“พวกเขามาจากวังหลวงหรือ” เสียงกระซิบดังระงมผู้นำขบวนคือชายหนุ่มสง่างามในชุดผ้าไหมสีกรมท่า ปักลายมังกรเงินประดับไหล่ ใบหน้าอ่อนเยาว์แต่แฝงความเด็ดขาด ดวงตาแหลมคมกวาดมองไปรอบ ๆซูฮวาอิ๋นเพียงเห็นเสี้ยวหน้า ก็จำได้ทันที หัวใจสั่นไหว องค์ชายรององค์ชายรองหยุดม้าที่กลางลาน แววตาคมกริบเมื่อสบเข้ากับซูฮวาอิ๋น ริมฝีปากยกยิ้มบาง“ในที่สุดข้าก็หาพบเจ้าแล้ว ฮวาอิ๋น”เด็ก ๆ รีบวิ่งไปหลบหลังเจิ้งหลินอวี่ที่ยืนอยู่ด้านข้างโดยไม่รู้ตัว ชาวบ้านต่างก้าวถอยเล็กน้

  • บุปผาพันธนาการ   ตอนที่ 33 ชายทุ่งในยามพระจันทร์เต็มดวง

    คืนเดือนเพ็ญแรกของฤดูร้อน หมู่บ้านสะพานบัวสว่างด้วยแสงจันทร์กลมโตที่ลอยเหนือขอบเขา แสงสีเงินสาดลงบนทุ่งข้าวสาลีที่กำลังตั้งท้องเป็นระลอกคลื่นราวกับทะเลสีทอง เสียงแมลงกลางคืนขับขานประสานกับเสียงน้ำไหลใต้สะพานบัว เกิดเป็นท่วงทำนองสงบที่โอบกอดหัวใจผู้คนในหมู่บ้านเล็ก ๆ นี้หลังมื้อค่ำ เถาเซิ่งผู้ใหญ่บ้านจุดกองไฟกลางทุ่ง ชาวบ้านต่างมานั่งล้อมเป็นวงใหญ่ เด็ก ๆ วิ่งไล่จับกันจนเสียงหัวเราะดังลั่น บางคนร้องเพลงพื้นบ้าน บางคนตีกลองไม้ตามจังหวะสนุกสนาน กลายเป็นงานเล็ก ๆ ที่ทุกคนร่วมกันสร้างขึ้นเองซูฮวาอิ๋นยืนอยู่ริมทุ่ง ผ้าคลุมบางสะบัดไหวตามลม นางเงยหน้ามองดวงจันทร์ที่ส่องสว่าง พลันรู้สึกได้ถึงความเงียบสงบที่ต่างจากวังหลวงโดยสิ้นเชิง นี่คือความสุขแท้จริง เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความหมายเจิ้งหลินอวี่เดินเข้ามาข้าง ๆ ร่างสูงสง่างามในชุดผ้าป่านสีเข้ม ดวงตาคมสะท้อนแสงจันทร์ เขายื่นถ้วยน้ำชาสมุนไพรให้นาง“ดื่มสิ คืนนี้อากาศแม้จะอุ่น แต่ลมก็ยังแรง”ซูฮวาอิ๋นรับถ้วยมา ดื่มคำเล็ก ๆ แล้วเงยหน้ามองเขา แสงจันทร์ทำให้ใบหน้าของเขาดูอ่อนโยนกว่าเคย“เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าเราจะมีวันที่ได้ยืนอยู่ที่ทุ่งเช่นนี้ โด

  • บุปผาพันธนาการ   ตอนที่ 32 อาจารย์กับศิษย์ตัวน้อย

    แสงเช้าส่องลอดม่านหมอกบางเหนือหมู่บ้านสะพานบัว ไก่ขันตอบกันจากคอกโน้นถึงคอกนี้ เสียงครกตำข้าวดัง ตึก ตึก ตึก ประสานกับเสียงหัวเราะเด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นริมทางดินในสวนที่ไม่มีประตู วันนี้คึกคักกว่าทุกวัน ซูฮวาอิ๋นนั่งอยู่ตรงโต๊ะไม้เตี้ย ๆ ข้างกระดานดำที่ชาวบ้านช่วยกันทำขึ้น นางถือพู่กัน ขีดเส้นอักษรตัวใหญ่ ๆ ช้า ๆ แล้วเอ่ยเสียงอ่อนโยน“วันนี้เราจะเรียนเขียนคำว่าบ้านกันนะ”เด็ก ๆ ร้องตามเป็นเสียงเดียวกัน “บ้าน!”นางยิ้มบาง มองดวงตาใส ๆ ที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น“บ้าน ไม่ใช่แค่เรือนที่มีหลังคา หากคือที่ที่มีคนรอเรา มีเสียงหัวเราะ และมีความอบอุ่นอยู่ข้างใน”เด็กหญิงตัวน้อยที่เคยเขียนชื่อแม่ได้แล้ว ยกมือถาม“แล้วบ้านของท่านน้าซูอยู่ที่ไหนหรือเจ้าคะ”คำถามนั้นทำให้นางชะงักไปครู่หนึ่ง แต่แล้วริมฝีปากก็คลี่ยิ้มอ่อนโยน“บ้านของข้า...อยู่ที่ตรงนี้ อยู่กับทุกคน และอยู่กับคน ๆ หนึ่งที่ข้าคอยให้กลับมาทุกค่ำวัน”เสียงเด็ก ๆ หัวเราะคิกคัก บางคนหันไปแซว“ต้องเป็นคุณชายเจิ้งแน่ ๆ ใช่ไหม!”ใบหน้าของซูฮวาอิ๋นขึ้นสีแดงระเรื่อ แต่ดวงตานางกลับเป็นประกายสว่างอย่างที่ไม่อาจปฏิเสธได้ขณะเดียวกัน เจิ้งหลิน

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status