“ขอรับ แต่ทำเช่นนี้คุณหนูรองอาจจะน้อยใจได้นะขอรับ” เพ่ยตงเสียงเบาในประโยคท้ายก่อนจะรีบเดินหนีไปในทันทีเมื่อเห็นสายตาดุแฝงไม่พอใจของคุณชาย
ยามค่ำคืนเงาดำสายหนึ่งกระโดดไปมาในจวนหมิงก่อนจะเปิดหน้าต่างเข้าไปภายในห้องทำงานของนายท่านตระกูลหมิง เงาร่างสายนั้นเอากระดาษบางอย่างสอดไว้ใต้ในลิ้นชักขนาดไม่ใหญ่มากทางด้านซ้ายของโต๊ะ ก่อนจะพยายามค้นหาบางสิ่งบางอย่างอยู่ครู่ใหญ่เมื่อไม่เจอจึงกลับออกไปอย่างเงียบเชียบ
เมื่อเงาร่างสายนั้นจากไปทางหน้าต่าง เงาร่างอีกสายหนึ่งก็เข้าห้องทำงานของคหบดีหมิงทางประตู เขาพยายามรื้อค้นหาบางสิ่ง ก่อนจะพบเจอกระดาษบางอย่างที่ทำให้ความรู้สึกของเขาแตกสลาย มือใหญ่ที่กำเทียนส่องดูเนื้อความบนจดหมายสั่นเทา
‘ข้
แววตาของหยวนลี่หมิงฉายแววโหดเหี้ยมขึ้นในทันที เมื่อคิดถึงเรื่องที่จะลงมือทำ หลังจากมอบจดหมายให้เพ่ยตงนำไปมอบให้เปี่ยวเกอกับท่านตาของตนแล้ว เขาก็กลับไปหาว่าที่ฮูหยินของตน “เหตุใดท่านไปนานนัก แล้วท่านพ่อข้าเล่า เขากลับไปแล้วหรือ” “อืม ท่านพ่อตากลับไปแล้ว เห็นบอกว่าจะรีบไปสนทนากับท่านแม่ยายถึงเรื่องการต้อนรับท่านตาและท่านลุงของข้าในวันพรุ่งนี้” “ท่านหมายความว่า...” “บิดาเจ้า ยินดียกเจ้าให้แต่งกับข้า” “เป็
17 กลับตาลปัตร “มันเกิดอะไรขึ้น เหตุใดเจ้าถึงได้ทำเช่นนั้นกับบุตรสาวข้า” หมิงหลิวซีเอ่ยถามบุตรชายของสหายที่เขารักและเอ็นดูไม่แพ้บุตรในอุทรของตน หยวนลี่หมิงคุกเข่าลงตรงหน้าผู้มีพระคุณ ก่อนจะเงยหน้าตอบด้วยท่าทางไม่แข็งกร
แขน? มีมัดกล้ามเช่นนี้ต้องเป็นของบุรุษ แต่เมื่อนางเอียงคอมองไปด้านหลัง นัยน์ตาเมล็ดซิ่งจึงเบิกกว้างด้วยความตื่นตกใจ เมื่อคนที่กอดรัดนางจากทางด้านหลังอยู่นั้นเป็นพี่ชายต่างสายเลือด ‘หรือว่าข้ากับเขาจะ...’ นางคิดหลังจากที่ก้มมองตนเองแล้วพบว่ายามนี้ร่างกายนางเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ปกปิด ก่อนหน้านี้เกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่ นางพยายามคิดย้อนกลับไปว่าเหตุใดตนเองถึงต้องมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ ‘ข้าถูกวางยาปลุกกำหนัด ฝูหว่านอิ๋ง! ต้องเป็นสตรีผู้นั้นแน่ ๆ ที่ลงมือกับนาง’ หากไม่มายืนจ้องมองนางด้วยแววอาฆาตมาดร้าย นางก็คงไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเป็นฝีมือใคร ‘ไม่ได้การแล้ว ข้าต้องรีบออกไปจากที่นี่ก่อนแล้วแสร้งทำเหมือนไม่มีเรื่องใดเกิดขึ้น’ นางยังกลั่นแกล้งเอาคืนเขาได้ไ
ก่อนหน้านี้ที่โรงหมอ ท่านหมอได้บอกกล่าวเขาชัดเจนว่าพิษหนานเซียงนี้รุนแรงกว่ายาปลุกกำหนัดดังนั้นนางอาจจะต้องสุขสมมากกว่าหนึ่งครั้งถึงจะลดความรุนแรงของมันลง กล่าวได้ว่ายิ่งนางปลดปล่อยได้หลายครั้ง พิษของยายิ่งลดลง “มันมาอีกแล้วเจ้าค่ะ ในตัวข้าร้อนยิ่งนัก มันร้อนจนข้ารู้สึกเหมือนตัวจะปริแตก” เมื่อริมฝีปากเป็นอิสระ นางก็รีบบอกเขาทันทีถึงสิ่งที่ตนเองกำลังประสบอีกครั้ง “เจ้าอย่าได้ห่วง ข้าจะทุ่มเทแรงกายช่วยเหลือเจ้าเอง” สิ้นเสียงเขาก็เลื่อนใบหน้าลงไปที่กลางตัวนางอีกครั้ง นิ้วแกร่งบุกรุกเข้าโพรงนุ่มตรงกลางจุดอ่อนไหว ก่อนจะกดริมฝีปากลงบนกลีบดอกเหมยพลางตวัดโลมเลียไปพร้อมกับนิ้วแกร่งที่ขยับเข้าออก ด้วยความลื่นไหลของน้ำหวานที่เอ่อล้นออกมาก่อนหน้านี้ทำให้เขาสามารถเพิ่มจำนวนนิ้วที่บุกรุกโพรงนุ่มได้ “อะ อ๊า!” นางร้องครวญครางเสียงหวาน มือเรียวพยายามจับกลุ่มผมของเขาไว้และเผลอกดคล้ายกลัวเขาเปลี่ยนใจจะไม่ช่วยเหลือนาง เขาเร่งการขยับของนิ้วและลิ้นให้เร็วขึ้นก่อนจะรับรู้ได้ถึงการตอดรัดภายในพร้อมกับน้ำหวานที่ไหลซึมอ
“ข้ารักเจ้า หลังจากข้าช่วยถอนพิษยาปลุกกำหนัดให้เจ้าแล้ว ข้าจะรีบส่งแม่สื่อไปสู่ขอเจ้าโดยเร็ว” ครั้งนี้เขาไม่มีทางยอมให้นางปฏิเสธแน่ “เรื่องนั้นเอาไว้ค่อยสนทนากันได้หรือไม่ ช่วยข้า ลี่หมิงข้าต้องการท่าน” สิ้นเสียงสตรีที่แทบจะนอนบิดกายไปมาจนอาภรณ์หลุดลุ่ยอยู่บนเตียงจับข้อมือของเขาก่อนจะกระชากเข้าหาตัวอย่างแรง ทำให้คนที่ไม่ทันตั้งตัวขยับเข้าไปหานางอย่างรวดเร็ว โชคดีที่รั้งตัวไว้ด้วยการเท้าสองมือบนเตียง ยามนี้ใบหน้าของเขาจึงอยู่ตรงหน้านางพอดี นัยน์ตาเมล็ดซิ่งที่เต็มไปด้วยความปรารถนาจ้องมองบุรุษตรงหน้าก่อนที่มือเรียวทั้งสองข้างจะจับยึดใบหน้าหล่อเหลาเอาไว้ แล้วกดริมฝีปากตนทาบทับลงบนปากเขา ลิ้นร้อนพยายามบุกรุกโพรงปากซึ่งเขาก็ยอมเปิดทางให้แต่โดยดี มือเรียวดึงทึ้งอาภรณ์บุรุษอย่างเร่งรีบ หยวนลี่หมิงเห็นท่าทางของนางก็รู้ได้ทันทีว่าควรรีบลงมือได้แล้ว มือหนารวบมือเรียวที่กำลังพยายามถอดอาภรณ์ของเขาอย่างร้อนใจ เขาจึงเปลี่ยนจากฝ่ายตั้งรับกลายเป็นฝ่ายควบคุม ลิ้นเรียวที่พยายามหยอกเย้าเมื่อครู่กลับกลายเป็นถูกรุกเร้าลิ้นร้อนเกี่ยวกระ
“ท่านอย่าแตะตัวข้าเจ้าค่ะ ข้ารู้สึกแปลก ๆ” หากถูกเขาแตะต้องสติที่นางพยายามจะคงไว้คงเลือนหาย “เจ้าโดนวางยาปลุกกำหนัดหรือ” ดูจากดวงหน้าที่แดงปลั่ง ยามเอ่ยวาจาก็หอบเหนื่อย ทั้งยังรู้สึกแปลก ๆ ยามผู้อื่นถูกตัวอีก “ข้าไม่แน่ใจเจ้าค่ะ ท่านมองไปทางซ้ายตรงตรอกแคบข้างร้านขายผ้าของเถ้าแก่จี้สิเจ้าคะ” นัยน์ตาคมตวัดมองไปตามที่นางบอกก่อนจะเห็นเข้ากับรอยยิ้มสาแก่ใจของฝูหว่านอิ๋งที่รีบหลบเข้าไปในตรอกนั้นทันทีที่เขามองไป “ข้าเข้าใจแล้ว” กล่าวจบเขาก็รีบช้อนอุ้มนางที่ตอนนี้แทบจะทรุดกายลงคล้ายคนไม่สบายหนัก ท่าทางหอบเหนื่อยของนางยิ่งทำให้เขารู้สึกร้อนรน&