เสียงกรีดร้องโวยวายของอนุฯ ฝูห่างออกไปเรื่อย ๆ จนเงียบไป คังอ๋องจึงหันไปสั่งขันทีอาวุโสให้ไปตามชายารองเมิ่งที่เขามอบหมายให้ดูแลตำหนักแห่งนี้
ผ่านไปไม่กี่อึดใจชายารองเมิ่งก็รีบมาพบพระสวามีที่รออยู่ ก่อนจะแสดงความเคารพอย่างอ่อนช้อย
“ยามนี้อนุฯ ฝูถูกย้ายไปอยู่ที่เรือนร้างเจ้าให้คนที่เชี่ยวชาญการแพทย์และเป็นวรยุทธ์สักเล็กน้อยไปคอยดูแลนางด้วย”
“เพคะ” ชายารองเมิ่งคิดในใจว่า ท่านอ๋องช่างโปรดปรานสตรีเสแสร้งอย่างฝูหว่านอิ๋งจริง ๆ แม้จะโดนลงโทษก็ยังกำชับให้ดูแลเป็นอย่างดี ซึ่งนางก็คงจะคิดเช่นนั้นหากไม่ได้ยินประโยคต่อมาของผู้สูงศักดิ์
“หากพวกเจ้าอยากหยอกเย้าหรือเล่นกับนางก็สามารถไปเยือนที่เรือนร้างได้ข้าอนุญาต แต่อย่าลงมือหนักเกินไป ประเด
เสียงกรีดร้องโวยวายของอนุฯ ฝูห่างออกไปเรื่อย ๆ จนเงียบไป คังอ๋องจึงหันไปสั่งขันทีอาวุโสให้ไปตามชายารองเมิ่งที่เขามอบหมายให้ดูแลตำหนักแห่งนี้ ผ่านไปไม่กี่อึดใจชายารองเมิ่งก็รีบมาพบพระสวามีที่รออยู่ ก่อนจะแสดงความเคารพอย่างอ่อนช้อย “ยามนี้อนุฯ ฝูถูกย้ายไปอยู่ที่เรือนร้างเจ้าให้คนที่เชี่ยวชาญการแพทย์และเป็นวรยุทธ์สักเล็กน้อยไปคอยดูแลนางด้วย” “เพคะ” ชายารองเมิ่งคิดในใจว่า ท่านอ๋องช่างโปรดปรานสตรีเสแสร้งอย่างฝูหว่านอิ๋งจริง ๆ แม้จะโดนลงโทษก็ยังกำชับให้ดูแลเป็นอย่างดี ซึ่งนางก็คงจะคิดเช่นนั้นหากไม่ได้ยินประโยคต่อมาของผู้สูงศักดิ์ “หากพวกเจ้าอยากหยอกเย้าหรือเล่นกับนางก็สามารถไปเยือนที่เรือนร้างได้ข้าอนุญาต แต่อย่าลงมือหนักเกินไป ประเด
“มันเป็นใครหรือเพคะ คนที่ลงมือกับตระกูลฝูอย่างโหดเหี้ยมเช่นนั้น” ฝูหว่านอิ๋งเสียงแข็งกร้าวด้วยความโกรธแค้นอย่างลืมตัวว่าจะต้องทำท่าทางให้น่าสงสารหวังให้สวามีมาปลอบขวัญ คังอ๋องเซี่ยอี้หานอยากจะยิ้มเยาะออกมาเสียจริง ๆ สมควรแล้วที่ตระกูลฝูถูกฆ่าล้างตระกูล สิ่งที่ฝูซื่อทำไว้ แค่ร้อยชีวิตของตระกูลฝูไม่อาจชดเชยได้ เพราะสิบสองปีที่ผ่านมาฝูซื่อเลี้ยงกลุ่มโจรเอาไว้แล้วสั่งให้บุกสังหารหลายตระกูล ทั้งที่ขัดผลประโยชน์หรือที่ร่ำรวยมีทรัพย์ เพื่อแย่งชิงทรัพย์สมบัติของตระกูลเหล่านั้นมาเลี้ยงดูกลุ่มโจรและกองกำลังลับที่องค์ชายรองจะใช้ก่อกบฏ “เจ้าอยากทราบจริง ๆ หรือ” เขาเอ่ยถามพลางย่อตัวลงก่อนจะใช้มือเชยคางของนางขึ้นเพื่อให้เงยหน้ามองเขา “เพคะ พระองค์ทรงเมตตาหม่อมฉันได้หรือไม่เพคะ” 
ตอนพิเศษ เพื่อคนที่รักทั้งสอง เสียงกรีดร้องโวยวายที่หน้าห้องหนังสือทำให้คังอ๋องที่กำลังอ่านตำราพิชัยสงครามอยู่ขมวดคิ้ว ก่อนจะเก็บตำราแล้วลุกขึ้นไปจัดการเรื่องราวด้านนอก ตั้งแต่รับปากหยวนลี่หมิง ชีวิตของเขาไม่เคยได้สงบสุขเลย เรือนหลังตำหนักมีเ
คนที่นั่งตัดพ้อต่อว่าตนเองว่าโง่เขลาดูเหมือนจะเป็นบุรุษเพราะเขานั่งก้มหน้านางจึงยังมองไม่เห็นหน้า รู้เพียงแค่ว่าคนผู้นี้น่าจะจมอยู่ในความทุกข์ในเป็นเวลานาน ผมเพ้าขาวโพลนไปทั้งหัวขัดแย้งกับมือและเสียงที่ไม่ได้ใกล้เคียงผู้อาวุโสเลย นอกจากผมที่ขาวโพลนจะรกรุงรังไร้การรวบเก็บที่เรียบร้อยแล้ว อาภรณ์ยังสกปรกมีรอยขาดวิ่นคล้ายไม่ใส่ใจดูแลตน “ท่านน้าข้าขอโทษที่โง่เขลาหลงเชื่อวาจาเพียงไม่กี่คำของคนชั่วช้า เนรคุณต่อผู้มีพระคุณเช่นท่าน ทั้งยังก่อบาปมากมาย ยามนี้ความจริงทุกอย่างกระจ่างแจ้ง คนผิดได้ชดใช้กรรมในสิ่งที่ตนก่อ แต่ข้ากลับสูญเสียคนที่หยิบยื่นความเมตตาให้ข้าโดยไร้ข้อแม้เช่นท่านไปด้วยมือของข้าเอง ท่านน้า ท่านคงโกรธเคืองข้ามากใช่หรือไม่ ข้ายินดีให้ท่านสาปแช่งข้า ยามนี้ข้าสำนึกให้สิ่งที่ทำไปแล้ว แต่ข้ากลับไม่มีโอกาสได้ขอโทษท่านและครอบครัวของพวกท่าน” 
“อ๊า ๆ” นางได้แต่ร้องครวญครางอ่อนระทวยพร้อมคล้อยตามในสิ่งที่เขาต้องการทุกอย่าง เมื่อเรือนร่างเย้ายวนเริ่มแข็งเกร็งเขาก็ยิ่งเร่งการขยับลิ้นให้รัวเร็ว ก่อนที่นางจะเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำหวานเอ่อล้นออกมา เป็นเช่นที่บอกว่าคืนเข้าหอมีค่าดังทองพันชั่งคุณชายหยวนไม่ปล่อยให้เสียเวลาเปล่า เขาชันตัวขึ้นก่อนจะกดแท่งหยกเข้าโพรงนุ่มที่แม้จะมีน้ำหวานเอ่อล้นแต่ภายในยังคับแน่น “เจ้ารัดพี่แน่นเช่นนี้ พี่คงทนได้ไม่นาน” เขาเอ่ยพลางขยับตัวอย่างช้า ๆ ก่อนจะเริ่มเร็วขึ้นเมื่อนางปรับตัวได้ เสียงเนื้อกระทบกันยังคงดังสลับกับเสียงครางแว่วหวานทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามาป่วนห้องหอ “เจียวซือ พี่รักเจ้ายิ่งน
“ย่อมไม่ปฏิเสธ” กล่าวจบเขาก็เชยคางมนให้เงยขึ้น โดยเขาซึ่งยืนนวดไหล่ให้ทางด้านหลัง ก้มใบหน้าเข้าใกล้นางก่อนจะกดริมฝีปากลงบนกลีบปากสีอ่อน ลิ้นร้อนบุกรุกโพรงปากนุ่ม เกี่ยวกระหวัดพัวพันหวังปลุกเร้าความปรารถนาเพื่อค่ำคืนเข้าหอที่สุขสม เขาลิ้มชิมความหวานจนพอใจก่อนจะถอนจุมพิตออกมาด้วยกลัวว่านางจะเมื่อยคอ “รีบปลดอาภรณ์แล้วเข้ามาแช่น้ำร้อนด้วยกัน...” นางกล่าวชวนอีกครั้งยังไม่ได้จบ เขาก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า แท่งหยกที่ควรจะอยู่สงบกลับแข็งขึงพร้อมมอบความสุขให้นาง “ในถังนี้คับแคบยิ่งนัก เจ้านั่งบนตักข้าดีกว่าจะได้ไม่อึดอัดมาก” กล่าวจบเขาก็ช้อนตัวนางยกขึ้นมานั่งบนตักของตน ส่วนแท่งหยกที่แข็งขึงถูไถอยู่บริเวณสะโพกของนาง “ลี่หมิง ของท่านโดนก้นข้า”&nbs