แชร์

บทที่ 188

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
มันคืองูตัวใหญ่ที่มีขนาดเท่าถังน้ำ ดวงตาของงูตัวใหญ่เหลืองคล้ายดั่งโคมไฟสองดวง

ตัวของงูพันเอาไว้รอบเอวของซือเจ๋อเยว่ รัดจนนางรู้สึกปานเอวจะหัก

ยามที่นางถูกงูรัดและถูกยกขึ้นกลางอากาศ เยียนเซียวหรานก็จับมือของนางเอาไว้

เขากระโดดขึ้นสูง กระบี่ในมือฟาดฟันไปที่งูตัวใหญ่อย่างแรง

กระบี่นั้นโดยปกติสามารถฟันคนขาดครึ่ง แต่เมื่อฟันลงบนตัวของงูตัวใหญ่ กลับทำได้เพียงสร้างรอยเล็ก ๆ บนเกล็ดของมันเท่านั้น

สถานการณ์เช่นนี้ทำให้เยียนเซียวหรานหน้าถอดสี

ซือเจ๋อเยว่รู้เรื่องความสามารถในการต่อสู้ของเยียนเซียวหราน แต่กระบี่เล่มนี้กลับฟันงูตัวใหญ่ไม่ขาด

งูตัวนี้ทำจากอันใดกัน หนังหนาเกินไปแล้ว!

งูตัวใหญ่จ้องมองเยียนเซียวหรานอย่างดูถูก หัวของมันหันกลับ มองไปทางซือเจ๋อเยว่

งูตัวใหญ่อ้าปาก เผยให้เห็นเขี้ยวคมภายใน กลิ่นที่เหม็นเน่าทำให้ซือเจ๋อเยว่แทบอาเจียน

นางบีบจมูกแล้วเอ่ยขึ้น "เจ้าไม่รักษาความสะอาดเลยหรือ ไม่แปรงฟันหรืออย่างไร?"

เยียนเซียวหราน "..."

งูตัวใหญ่กำลังจะกินนาง แต่ยามนี้นางกลับเอ่ยเรื่องแปรงฟันกับงู เหมาะสมแล้วหรือ?

เขาอยากจะดึงนางออกมา แต่ตัวของงูรัดนางเอาไว้แน่นเกินไป หากเขาดึงนางออกม
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
ttjiwan
ตลก มาลงเยอะๆค่ะ
goodnovel comment avatar
benya2999
สนุกมากๆๆๆ รออ่านตอนใหม่ๆๆๆๆ อัพเดทเยอะๆๆๆๆ นะคะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 189

    ทั้งสองร่วมมือกันได้อย่างลงตัว ทุกครั้งที่งูตัวใหญ่มีแนวโน้มจะขยับ ซือเจ๋อเยว่ก็จะประสานมุทราสะกดมันเอาไว้เยียนเซียวหรานรับหน้าที่ตำแหน่งเจ็ดนิ้วหลังหัวของงูตัวใหญ่ เกล็ดงูตัวนั้นแม้จะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ทนต่อการถูกฟันที่คล้ายดั่งว่ามันเป็นเพียงตอไม้เช่นนี้ได้หลังจากฟาดฟันหลายรอบเช่นนี้ แผลบนตัวงูตัวใหญ่ก็ลึกขึ้นเรื่อยๆงูตัวใหญ่ที่เคยดูถูกในตอนต้น ยามนี้กลับกลายเป็นหวาดกลัว เวลาผ่านไปเพียงชาครึ่งถ้วยเท่านั้นยามนี้มันรู้แล้วว่ามนุษย์สองคนนี้คือพวกคนบ้า โหดเหี้ยมจนน่ากลัว!หากเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาจะฆ่ามันได้จริง!ซือเจ๋อเยว่จ้องมองมันอย่างดูถูก "ดุนักหรือ ข้าจะฆ่าเจ้า!"งูตัวใหญ่สั่นกลัว เมื่อเทียบกับเยียนเซียวหราน มันกลัวซือเจ๋อเยว่มากกว่า นางชั่วร้ายเกินไป!เยียนเซียวหรานใช้กระบี่ฟันเข้าไปเต็มกำลัง กระบี่นี้ฟันเข้าที่ตำแหน่งเจ็ดนิ้วหลังหัวของงูตัวใหญ่จนเปิดเป็นรอยราวหนึ่งฉื่อเมื่อกระบี่นี้ฟันลงไป เขาแทบไม่มีแรงเหลือ เหงื่อเย็นไหลออกจากหน้าผากซือเจ๋อเยว่ใช้มือประสานมุทราหลายครั้ง กำลังของนางก็หมดไปไม่น้อยครั้งนี้นางประสานมุทราช้าไปเล็กน้อย เมื่องูตัวใหญ่สามารถขยับได้ ก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 190

    ผลลัพธ์นี้ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกท้อแท้ซือเจ๋อเยว่ลุกขึ้น "ในเมื่อออกไปไม่ได้ ไม่มีอันใดทำแล้ว ข้าจะทำลายค่ายกลนี้ก็แล้วกัน!"แม้ว่าวิญญาณของโครงกระดูกเหล่านี้จะถูกใช้เป็นเชื้อเพลิงจนหมดแล้ว แต่ในฐานะหัวหน้าของสำนักเต๋า เมื่อเห็นเรื่องเช่นนี้ ก็จะต้องทำอันใดสักอย่างวิญญาณเหล่านั้นไม่มีแล้ว นางไม่สามารถทำพิธีปลดปล่อยให้พวกเขาได้ แต่นางสามารถทำลายค่ายกลนี้ เพื่อสงบความอาฆาตแค้นที่กระจายอยู่โดยรอบเยียนเซียวหรานถามนาง "ร่างกายขององค์หญิงไหวหรือไม่?"ซือเจ๋อเยว่กะพริบตา "ดูคล้ายจะไม่ค่อยไหว น้องสามกอดข้าหน่อยได้หรือไม่ จะได้เป็นการมอบพลังให้กับข้าหน่อย?"เยียนเซียวหรานปรายตามองนาง แล้วหันหน้าไม่มองนางอีกนางไม่สนใจ หัวเราะออกมาเสียงเบาการทำลายค่ายกลต้องใช้เครื่องมือ นางรู้ว่าการมาที่จวนหนิงกั๋วกงวันนี้จะไม่สงบ จึงนำเครื่องมือบางอย่างมาด้วยกระบี่ไม้ท้อของนางใหญ่เกินไปจึงไม่สะดวกพกพา นางจึงนำระฆังเรียกวิญญาณและเครื่องมือเล็ก ๆ มาระฆังเรียกวิญญาณสามารถใช้ได้ แต่ยังไม่พอนางมองไปรอบ ๆ สิ่งที่สามารถใช้ได้ในที่แห่งนี้ก็มีเพียงท่อนไม้ที่ใช้เป็นอาวุธเท่านั้นซือเจ๋อเยว่ไปดึงไม้หลายอั

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 191

    ซือเจ๋อเยว่โบกมือกล่าว “พวกเจ้าไปเถอะ!”เมื่อนางพูดประโยคนี้จบ แสงดาวเหล่านั้นวนรอบตัวของนางสองรอบ จากนั้นก็กระจัดกระจายไปคนละทางหลังจากที่รอให้แสงดาวเหล่านั้นสลายจนหมดสิ้น เปลวไฟทั้งสี่ด้านของแท่นบูชาทั้งหมดก็สว่างขึ้นดัง ‘พรึ่บ’มือข้างหนึ่งของเยียนเซียวหรานกำลังค้ำซือเจ๋อเยว่ มืออีกข้าวหนึ่งถือกระบี่ชี้ไปทั่วทุกสารทิศซือเจ๋อเยว่จับมือของเขาเบา ๆ แล้วกล่าว “เปลวไฟเหล่านี้สว่างขึ้นพร้อมกัน วิชาที่ใช้ก็คือวิชาของสำนักเต๋า ที่นี่ไม่มีคน”นางพูดจบก็คลานขึ้นมาจากบนตัวของเยียนเซียวหราน จ้องมองไปรอบ ๆ อย่างละเอียด แค่นหัวเราะทีหนึ่งเยียนเซียวหรานถาม “ทำไมหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ตอบ “คนพวกนี้ของจวนหนิงกั๋วกงช่างไร้คุณธรรมจริงๆ”“ก่อนหน้านี้ข้าไม่เข้าใจมาตลอดว่า หลังจากที่พวกเขาทำค่ายกลที่ชั่วร้ายเป็นอย่างยิ่งอันนั้น จะถ่ายโอนพลังงานอย่างไร”“เมื่อเห็นโลงศพเหล่านี้ข้าถึงเข้าใจ พวกเขาใช้วิญญาณของบรรพบุรุษของตนเองเป็นสื่อกลาง”เยียนเซียวหรานยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ มือของนางทำมุทราแล้ววาดผ่านที่ด้านหน้าของเขา “เจ้าดูเอาเองก็แล้วกัน”หลังจากมือของนางพาดผ่าน ภาพที่เขามองเห็นแตกต่างจากเมื่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 192

    ซือเจ๋อเยว่เห็นลูกธนูแหลมดอกนั้นแล้ว เพียงแต่ด้วยฝีมือของนางไม่สามารถหลบได้พ้นมือข้างหนึ่งโอบเอวของนางจากทางด้านข้าง แล้วดึงนางไปทางด้านข้าง ธนูดอกนั้นเฉียดผ่านตัวนางแล้วลอยออกไป ปักเข้ากับกำแพงหินที่อยู่ด้านข้างมีคนวิ่งเข้ามาด้วยความรีบร้อน เมื่อเห็นสภาพโลงศพไม้ที่อยู่ตรงหน้าเละเทะ กระดูกกระจัดกระจายเต็มพื้น ก็กล่าวด้วยความตกใจเป็นอย่างมาก “เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?”“ช่างไร้เหตุผลเสียจริง จับตัวพวกมันมาให้ข้า!”เป็นไปตามคาดซือเจ๋อเยว่วิ่งไปที่ข้างกายของเยียนเซียวหราน คนที่พุ่งตัวเข้ามาด้วยท่าทางดุร้ายพวกนั้นถูกเขาถีบจนกระเด็นออกไปในเวลานี้ ซือเจ๋อเยว่ก็มองเห็นท่าทางของพวกเขาอย่างชัดเจนคนหนึ่งเป็นผู้ชายอายุยี่สิบกว่าปีกับผู้ชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบปีคนหนึ่ง ข้างกายของพวกเขามีคนรับใช้ร่างกายกำยำอีกสิบกว่าคนติดตามมาด้วยผู้ชายสองคนนั้นมีหน้าตาคล้ายกับอวิ๋นเยว่หยาง บนตัวของสองคนนี้ปกคลุมไปด้วยพลังสีม่วง พลังสีม่วงประเภทนี้เห็นได้มากที่สุดในผู้ที่เป็นประมุขตระกูลเมื่อครู่นี้นางไม่เห็นพลังสีม่วงบนตัวของอวิ๋นเยว่หยางกับหนิงกั๋วกงฮูหยิน คงจะเป็นหนิงกั๋วกงกับซื่อจื่ออวิ๋นเยว่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 193

    หนิงกั๋วกงคิดว่าหากนางใช้ชีวิตอยู่ที่สำนักเต๋าตลอด ไม่มีทางส่งผลกระทบรุนแรงกับจวนหนิงกั๋วกง การลอบสังหารยังล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน เขาจึงคร้านที่จะสนใจนางอีกครั้งนี้อวิ๋นไท่เฟยให้นางกลับมายังเมืองหลวงก็เพื่อให้แต่งงานกับเยียนอ๋องซื่อจื่อแทนองค์หญิงสาม และไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากเขาด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่ค่อยพอใจสักเท่าใดนัก จึงระวังมาตลอดว่าซือเจ๋อเยว่จะส่งผลไม่ดีต่อจวนหนิงกั๋วกงหรือไม่นางกลับมายังเมืองหลวงหลายเดือนแล้ว จวนหนิงกั๋วกงไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย เขาจึงค่อย ๆ ปล่อยวางเรื่องนี้ลงเนื่องจากซือเจ๋อเยว่ก็เป็นเพียงสาวน้อยที่บอบบางคนหนึ่ง คงก่อเรื่องอะไรไม่ได้ดังนั้น เมื่อวันก่อนอวิ๋นเยว่หยางพูดว่าเขาเชิญซือเจ๋อเยว่มาที่จวนกั๋วกง หนิงกั๋วกงก็ไม่ได้สนใจสักเท่าใดนักจนกระทั่งเมื่อครู่นี้ตอนอยู่ในห้องเขารู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก เทวรูปที่บูชาไว้ในจวนก็แตกอย่างกะทันหัน เขาถึงได้ตระหนักได้ว่าเกิดเรื่องขึ้นด้วยเหตุนี้เขาจึงรีบพาอวิ๋นเยว่ปิงมาที่นี่ด้วยความรีบร้อนคิดไม่ถึงว่าคำพูดของราชครูสวรรค์เมื่อหลายปีก่อนจะเป็นจริงในวันนี้ตอนนี้เขาอยากจะฟันเจ้าโง่อวิ๋นเยว่หยางที่ชักศึกเข้า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 194

    เดิมทีหนิงกั๋วกงก็ถูกหางงูตบจนได้รับบาดเจ็บไม่น้อยแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ของนางก็รู้สึกหายใจไม่ออก ก็หมดสติไปทันทีเมื่ออวิ๋นเยว่ปิงเดินไปถึงข้างกายของเขาก็ประคองเขาลุกขึ้นมาแล้วยื่นมือไปกดตรงกลางริมฝีปากของเขา “ท่านพ่อ!”มือของหนิงกั๋วกงสั่นเทาเล็กน้อยชี้ไปที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานกล่าว “ฆ่าพวกมัน!”เมื่ออวิ๋นเยว่ปิงเห็นคนรับใช้ที่นอนกองอยู่บนพื้นลุกขึ้นไม่ได้ ก็หันไปมองเยียนเซียวหรานกับซือเจ๋อเยว่ที่ยังสบายดีอยู่ แรงอาฆาตในดวงตาก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเขาไม่พูดพร่ำทำเพลง ประคองหนิงกั๋วกงลุกขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอกเยียนเซียวหรานรีบลากซือเจ๋อเยว่เดินตามไปทันทีอวิ๋นเยว่ปิงกับหนิงกั๋วกงเดินออกมาก่อน ตอนที่พวกเขาเดินมาถึงหน้าประตู ก็กดปุ่มกลไกทีหนึ่งตอนที่เขาลงไป ในใจของซือเจ๋อเยว่ก็เกิดสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ แรงกดดันมหาศาลก็เพิ่มขึ้นจากอุโมงค์ ขวางทางออกของพวกเขาตลอดหลายปีมานี้ซือเจ๋อเยว่ติดตามอาจารย์ทั้งหลายขึ้นเหนือล่องใต้ ประสบกับเรื่องราวแปลกประหลาดต่าง ๆ มากมาย แต่กลับไม่เคยรู้สึกถึงอันตรายที่รุนแรงขนาดนี้มาก่อนถึงแม้ว่าตอนนี้นางยังไม่รู้ว่าข้างในมีอะไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 195

    ทว่ากระบี่ในมือของเยียนเซียวหรานในเวลานี้แทงเข้าไปในเงาดำแล้ว จากนั้นก็แปะยันต์หลายแผ่นที่บนกระบี่ด้วยความรวดเร็วเงาดำนั่นมองเขาด้วยความดูถูกก่อนแวบหนึ่ง ไม่ได้เห็นยันต์พวกนั้นอยู่ในสายตาเพียงแต่ครู่ต่อมา ยันต์นั่นถูกกระตุ้น ฟ้าร้องและฟ้าผ่าผสมกับไฟและลมกระโชกแรงพัดเข้าใส่เขาอย่างบ้าคลั่งฟ้าร้องก่อให้เกิดไฟ และลมก็ช่วยให้เกิดฟ้าร้อง เพียงชั่วพริบตา พื้นที่ทั้งหมดก็เต็มไปด้วยสายฟ้าและเปลวเพลิงซือเจ๋อเยว่ “...”เมื่อครู่นี้นางนำยันต์ให้เยียนเซียวหรานครึ่งหนึ่ง เป็นเพราะสถานการณ์คับขัน นางไม่ได้มองว่าเป็นยันต์อะไรบ้างยันต์ที่นางวาดอานุภาพทรงพลัง แต่ละแผ่นประสิทธิผลดียิ่ง ต่อให้เป็นตัวนางเอง ปกติก็ไม่ค่อยได้ใช้ยันต์สักเท่าไหร่ร่างกายของนางในเวลานี้โงนเงน ออกแรงตะโกน “หมอบลงไป!”เยียนเซียวหรานมองเห็นเปลวเพลิงและสายฟ้าที่โหมกระหน่ำนั่นไม่จำเป็นต้องให้ซือเจ๋อเยว่บอก ก็หันหลังกระโจนตัวเข้ามา กดนางเอาไว้ใต้ตัว ใช้ร่างกายของเขาขวางสายฟ้าและเปลวเพลิงที่ทรงพลังให้นางซือเจ๋อเยว่ “...”นางให้เขาหมอบลง ไม่ได้ให้เขาหมอบลงแบบนี้แต่ว่าเป็นเพราะการเข้าใกล้ของเขา นางสัมผัสได้ชัดเจนว่าพล

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 196

    เยียนเซียวหรานตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น เขามองซือเจ๋อเยว่ด้วยความเหลือเชื่อเล็กน้อยในตอนนี้นางกำลังลืมตาทั้งสองข้างมองเขา มองอย่างค่อนข้างชัดเจน ท่าทางไม่เหมือนกับเสียสตินางลงมือกับภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จะเกินไปหน่อยหรือไม่?เขากล่าวเสียงเย็นชา “องค์หญิง โปรดระวังการกระทำของท่านด้วย”เขาพูดจบก็ยื่นมือออกไปกำลังจะผลักนางออก แต่นางกลับโอบลำคอของเขาเอาไว้แน่นกล่าวใกล้กับริมฝีปากของเขา “รอเดี๋ยว ข้าอธิบายได้!”เยียนเซียวหรานไม่รู้ว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ นางจะอธิบายอะไรได้หรือจะพูดอีกอย่างว่า ไม่ว่านางจะอธิบายอย่างไร ทั้งสองคนใกล้ชิดกันขนาดนี้นั้นคือเรื่องจริงเขากำลังสับสน ว่าจะสะบัดนางออกไปตรง ๆ เลยดีหรือไม่ซือเจ๋อเยว่รู้สึกถึงความแน่นตึงของร่างกายเขารวมทั้งอารมณ์ที่ใกล้จะระเบิด นางยกมือขึ้นมาทันทีเยียนเซียวหรานไม่เข้าใจเหตุผลอยู่เล็กน้อย นางกล่าวออกมาทันที “ดูเส้นสีแดง”สายตาของเยียนเซียวหรานหยุดอยู่ที่เส้นสีแดงบนข้อมือของนาง ในเวลานี้เส้นสีแดงนั้นมีเพียงท่อนสั้น ๆ เท่านั้นก่อนหน้านี้เขารู้ว่านางจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงอายุสิบแปดปี เส้นสีแดงเส้นนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 381  

    เขาจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา "เป็นข้าที่ไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าเรื่องราวระหว่างเราจะต่างออกไป" "แต่ข้ากลับลืมไปว่า เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋า เราสองคนก็อยู่กันคนละฝ่ายตั้งแต่แรกเริ่ม" "ซือเจ๋อเยว่ ตั้งแต่นี้ไปข้าขอตัดขาดจากเจ้า หากพบกันอีก ข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอน!" เมื่อเอ่ยจบเขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งจากร่างกายแล้วขว้างออกไป สิ่งนั้นทำหน้าที่รับแรงโจมตีจากค่ายกลแทนเขา ก่อนที่ตัวเขาจะพุ่งออกจากค่ายกลราวกับดาวตกก็ไม่ปาน ซือเจ๋อเยว่รีบไล่ตามออกไป แต่ภายนอกกลับไร้เงาของไป๋จื้อเซียน นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง วันนี้เขาเข้าใจนางผิด แล้วจากไปเช่นนี้ ภายภาคหน้าก็ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าจะเกิดอันใดขึ้นอีก ยังดีที่เขาเคยสาบานต่อสวรรค์ ว่าจะไม่สังหารผู้บริสุทธิ์ อย่างน้อยสถานการณ์ก็ยังไม่เลวร้ายถึงระดับนั้น แต่เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาขาดสะบั้นในบัดนี้ ด้วยนิสัยของเขา ย่อมต้องหาหนทางสังหารนางให้ได้อย่างแน่นอน! นางคิดว่าตนเองยังคงประเมินไป๋จื้อเซียนต่ำเกินไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกจากค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาได้ เยียนเซียวหรานถามขึ้น "เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น?" ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ "ตุ๊

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 380

    ซือเจ๋อเยว่ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้นับหลังจากตั้งแต่ที่อาจารย์สามปั้นเสร็จแล้ววางไว้ที่นี่ ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอะไรนางคิดมาตลอดว่าอาจารย์สามทำเช่นนี้เพราะจะหยอกนางเล่น ไม่คิดเลยว่าจนกระทั่งวันนี้จะมีความเคลื่อนไหวแล้วที่ประตูมีเสียงของไป๋จื้อเซียนดังลอยเข้ามา “เจ้าล่อลวงข้ามาที่นี่ ก็เพราะอยากจะฆ่าข้าใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับไปมองก็เห็นไป๋จื้อเซียนยืนอยู่ที่หน้าประตู ตุ๊กตาดินเผาเหล่านั้นรวมตัวกันกลายเป็นค่ายกล จะจัดการกับเขาหลังจากที่วันนี้เขาเดินเข้ามาในสำนักเต๋า ความสามารถทุกด้านก็ถูกลดทอนลง ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้ยังเป็นตุ๊กตาที่อาจารย์สามปั้นขึ้นเองกับมืออีกด้วย ด้านในมีค่ายกลที่ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่งซ่อนอยู่ไป๋จื้อเซียนในเวลานี้ถูกค่ายกลนี้ขังเอาไว้ ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้เขาเกิดความสงสัยมาก ประกอบกับก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่อยากจะจัดการเขามาตลอด เขาจึงคิดว่านางเป็นผู้ควบคุมให้ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้มาจัดการเขาก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่เคยคิดอยากจะจัดการเขาในสำนักเต๋าจริง ๆ แต่เป็นครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางจริง ๆเป็นเพราะร่างกายที่พิเศษเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 379

    ความทรุดโทรมนี้เริ่มปรากฏตั้งแต่ประตูเขาที่เก่าและทรุดโทรม ยาวไปตลอดทางจนถึงกระทั่งถึงโถงใหญ่ของสำนักเต๋าด้านในก็มีเพียงรูปหล่องทองคำปรมาจารย์เต๋าที่ยังมีสภาพดีอยู่เพียงเท่านั้น อาคารอื่น ๆ ของวัดก็สามารถใช้คำว่าชำรุดทรุดโทรมมาบรรยายได้เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมา นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ที่เฝ้าภูเขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว ไม่ไปไหนแล้วใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ได้ยินก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าอาศัยคืนเดียวก็จะไปแล้ว”ใบหน้าของนักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ก็มีสีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นมาทันที นางหยิบทองหนึ่งกำมือออกมาจากมิติคาถาเต๋าแล้วมอบให้เขา “ค่าอาหารของปีนี้”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ใช้สองมือรับทองคำ ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “อย่างไรเสียศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็เก่งกาจ!”สำนักเต๋าผ่านไปด้วยความยากลำบากมาก ทองคำเหล่านี้เมื่อแลกเป็นเงินก็ได้หลายพันตำลึง เพียงพอที่จะให้พวกเขามีกินได้ถึงสิ้นปีซือเจ๋อเยว่ถามเขา “พวกอาจารย์ออกจากสำนักเต๋าตั้งแต่เมื่อใด?”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ “ทันทีที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ออกไปจากสำนักเต๋า เจ้าสำนักพวกเขาก็ไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้ว “พวกเขาได้บอกหรือไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 378

    ซือเจ๋อเยว่เผชิญหน้ากับสายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของไป๋จื้อเซียน นางมีความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยท่าทางเช่นนี้ของเขา เกรงว่าคนที่ไม่รู้จะคิดว่าพวกเขากำลังสุมหัวกันกลั่นแกล้งเขาแต่เรื่องจริงคือเขาเกือบทำให้พวกเขาต้องติดกับดักจนตายในเวลานี้นางจำต้องกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋มาก”ไป๋จื้อเซียนมองนางด้วยสีหน้าน่าสงสารพร้อมกล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าดุข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางสูดหายใจในใจทีหนึ่ง เจ้าหมอนี่แสดงละครเก่งมาก!นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ข้ามีนิสัยใจร้อน เวลามองอะไรก็มักจะมองแค่สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่สู้คุณชายไป๋ที่มองการณ์ไกล”“คุณชายไป๋คาดการณ์เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในตอนหลังได้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าชื่นชมตบะอันล้ำลึกทำให้ข้านับถือจากใจจริง”“ครั้งหน้าหากยังมีเรื่องแบบเดียวกันอีก คุณชายไป๋ได้โปรดแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเสียหน่อย พวกเราจะได้ร่วมมือกันได้ดี”นางพูดจบก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “คุณชายไป๋ช่วยพวกเราคำนวณดูหน่อยได้หรือไม่ พวกเรากลับเมืองหลวงครั้งนี้ จะล้มจวนหนิงกั๋วกงได้หรือไม่?”ไป๋จื้อเซียน “...”ถึงแม้เขาจะมีชีวิตอยู่มาหนึ่งพันปีแล้วก็ตาม เรียนรู้เพียงความสามารถฆ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status