ตอนที่ 46 คลื่นใต้น้ำและจุดเริ่มต้นของการสืบสวน

ตอนที่ 46

คลื่นใต้น้ำและจุดเริ่มต้นของการสืบสวน

ความกังวลของแพรไหมไม่ได้จางหายไปง่าย ๆ หลังจากเหตุการณ์ช่อดอกกุหลาบสีดำและสายตาที่จับจ้องในห้างสรรพสินค้า เธอพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดเพื่อไม่ให้คริสเตียนเป็นห่วงมากเกินไป แต่ในใจลึก ๆ เธอก็รับรู้ได้ถึงภัยคุกคามที่เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง

คริสเตียนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เขาเชื่อในสัญชาตญาณของแพรไหมเสมอ แม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่เขาก็ไม่ประมาท เขาเรียก เดฟ มากำชับเป็นการส่วนตัวทันทีหลังเหตุการณ์ดอกกุหลาบสีดำ

“เดฟ ผมต้องการให้แกสืบเรื่องนี้อย่างละเอียดที่สุด” คริสเตียนกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังในห้องทำงานส่วนตัวของเขา “ไม่ว่าใครก็ตามที่คิดจะแตะต้องแพรไหมและลูกของเรา มันจะต้องชดใช้”

เดฟพยักหน้า “ผมกำลังดำเนินการอยู่ครับนายท่าน ผมได้ส่งคนของเราเข้าไปตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าแล้ว และกำลังแกะรอยแหล่งที่มาของดอกไม้”

“ผมไม่ต้องการแค่ข้อมูลผิวเผิน” คริสเตียนเสริม “ผมต้องการรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง และทำไมถึงทำแบบนี้”

เดฟรับคำสั่ง เขาคือคนที่เข้าใจความรู้สึกของคริสเตียนดีที่สุด เพราะเขาเองก็ผูกพันกับแพรไหมและหวังดีกับอนาคตของตระกูลคาร์ดินัลไม่ต่างกัน

ทีมสืบสวนของเดฟเริ่มทำงานอย่างเงียบเชียบและรวดเร็ว พวกเขาใช้ความเชี่ยวชาญด้านการแกะรอยข้อมูล การตรวจสอบกล้องวงจรปิด และการหาข่าวจากเครือข่ายใต้ดินที่คริสเตียนกำลังพยายามลดบทบาทลงไป

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของห้างสรรพสินค้า แม้จะไม่มีภาพชายร่างสูงที่แพรไหมเห็นชัดเจนนัก เนื่องจากเขาหลบเลี่ยงมุมกล้องได้อย่างชาญฉลาด แต่ทีมของเดฟก็สามารถจับภาพบุคคลที่คล้ายคลึงกันในบริเวณใกล้เคียงในวันและเวลาเดียวกันได้ และจากการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าขั้นสูง พวกเขาก็ระบุตัวตนของชายคนนั้นได้ในที่สุด เขาคือ มาร์คัส อดีตลูกน้องคนสนิทของ ยูริ ที่เคยมีข่าวว่าเสียชีวิตไปแล้วในการปะทะครั้งใหญ่กับคริสเตียน!

เดฟรีบนำข้อมูลนี้ไปรายงานคริสเตียนทันที

“นายท่านครับ เราพบตัวตนของชายต้องสงสัยแล้วครับ” เดฟรายงาน “เขาคือมาร์คัส ลูกน้องของยูริที่เคยเป็นมือขวาของมันครับ ดูเหมือนข่าวการตายของเขาจะไม่เป็นความจริง”

คริสเตียนขมวดคิ้วแน่น “มาร์คัส…งั้นแสดงว่ายูริไม่ได้ตายจริง ๆ หรือว่ายังมีคนอื่นอยู่เบื้องหลัง?”

“ยังไม่แน่ชัดครับ แต่ที่แน่ ๆ คือมาร์คัสเป็นคนที่มีความแค้นฝังลึกต่อนายท่านและนายหญิงไม่แพ้ยูริ เขาเป็นคนที่คอยดูแลเรื่องสกปรกให้ยูริมาตลอด และเขาก็หายไปหลังจากการปะทะครั้งนั้นโดยไม่มีศพยืนยันครับ” เดฟอธิบาย

คริสเตียนกำหมัดแน่น “งั้นก็แสดงว่านี่ไม่ใช่แค่การข่มขู่ธรรมดา มันกำลังจะเปิดศึกใหม่!”

เดฟยังคงสืบสวนต่อไป และพบว่ามาร์คัสไม่ได้เคลื่อนไหวคนเดียว เขาได้ติดต่อกับบุคคลปริศนาหลายคนในเงามืด ซึ่งล้วนเป็นผู้ที่เคยมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับตระกูลคาร์ดินัลในอดีต หรือเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิรูปธุรกิจของคริสเตียน และมีบางคนที่ยังคงยึดติดกับอำนาจและอิทธิพลในโลกใต้ดิน

เบาะแสที่สำคัญที่สุดคือการพบว่า มีกลุ่มบุคคลที่ไม่พอใจ การเปลี่ยนแปลงแนวทางของคริสเตียน พวกเขาเชื่อว่าคริสเตียนกำลังทำลาย "มรดก" ที่แท้จริงของตระกูลคาร์ดินัล และทำให้พวกเขาต้องสูญเสียผลประโยชน์ไป กลุ่มนี้ต้องการที่จะโค่นล้มคริสเตียน หรืออย่างน้อยก็บังคับให้เขากลับไปสู่เส้นทางเดิม และการทำร้ายแพรไหมก็คือวิธีการที่จะบดขยี้จิตใจของคริสเตียนให้พังทลาย

หนึ่งในบุคคลที่เดฟจับตาเป็นพิเศษคือ นายใหญ่คนหนึ่งจากตระกูลพันธมิตรเก่าแก่ ที่เคยทำธุรกิจมืดร่วมกับคาร์ดินัลมายาวนาน และได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่คริสเตียนถอนตัวออกจากธุรกิจผิดกฎหมาย ชายผู้นั้นมีชื่อเสียงด้านความโหดเหี้ยมและไม่เคยให้อภัยใครที่หักหลังผลประโยชน์ของตนเอง

ข้อมูลที่ได้จากการสืบสวนทำให้คริสเตียนตระหนักว่า ภัยคุกคามครั้งนี้ซับซ้อนกว่าที่คิด มันไม่ใช่แค่การแก้แค้นส่วนตัวของมาร์คัส แต่เป็นการรวมตัวของกลุ่มคนที่เสียผลประโยชน์และมีความแค้นร่วมกัน และพวกเขากำลังใช้แพรไหมเป็นจุดอ่อนเพื่อโจมตีเขา

ในขณะที่คริสเตียนและเดฟกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อสืบหาความจริง แพรไหมก็ยังคงรู้สึกถึงความไม่สบายใจที่เพิ่มขึ้น เธอพยายามที่จะมีส่วนร่วมในการเตรียมความพร้อมสำหรับลูก แต่ใจของเธอก็อดกังวลไม่ได้

คืนหนึ่ง ขณะที่เธอกำลังนอนหลับ แพรไหมก็ฝันร้ายอีกครั้ง คราวนี้ภาพชัดเจนยิ่งขึ้น เธอเห็นเงาของชายคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว และที่น่ากลัวกว่านั้นคือ เธอเห็นเงาของ เด็กน้อย ที่กำลังร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของชายคนนั้น เธอสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เหงื่อไหลท่วมตัว

คริสเตียนที่นอนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกตัว เขาเปิดไฟข้างเตียงและดึงแพรไหมเข้ามากอดแน่น

“ฝันร้ายอีกแล้วเหรอครับ” คริสเตียนถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ในใจก็เริ่มเป็นกังวลมากขึ้น

“ฉันเห็นเขาค่ะคริสเตียน…เห็นเงาของเขา…แล้วก็…เด็ก…เด็กน้อยกำลังร้องไห้” แพรไหมพูดเสียงสั่น น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงฝันเห็นเด็กน้อย แต่ความรู้สึกนั้นมันทำให้เธอหวาดกลัวอย่างจับใจ

คริสเตียนกอดปลอบเธอ “ไม่เป็นไรนะครับ มันเป็นแค่ฝันร้าย คุณอย่าคิดมาก”

เขาไม่ได้บอกแพรไหมถึงสิ่งที่เดฟรายงาน เพราะไม่อยากให้เธอต้องกังวลมากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่เธอกำลังจะต้องเป็นแม่ แต่ในใจของเขากลับเต็มไปด้วยความหนักใจ คำพูดของแพรไหมที่เห็น "เงาของชายคนนั้น" ยิ่งทำให้เขาแน่ใจว่าภัยกำลังจะมาถึง และเขาต้องลงมือจัดการก่อนที่มันจะสายเกินไป

หลังจากที่แพรไหมหลับไปแล้ว คริสเตียนก็ลุกขึ้นนั่งบนเตียง เขาโทรหาเดฟทันที

“เดฟ ผมต้องการแผนการรับมืออย่างรวดเร็ว” คริสเตียนกล่าวเสียงเย็น “ผมไม่สามารถรอให้พวกเขาเปิดเกมก่อนได้อีกต่อไป”

“ครับนายท่าน เราจะดำเนินการขั้นต่อไปในการแกะรอยมาร์คัสและเครือข่ายของเขา และเราจะเพิ่มการเฝ้าระวังทุกจุดที่มีความเสี่ยง” เดฟตอบรับ

“ดี! ผมต้องการให้พวกมันรู้ว่าการมายุ่งกับตระกูลคาร์ดินัล โดยเฉพาะการมายุ่งกับคนของผม มันมีราคาที่ต้องจ่าย” คริสเตียนกล่าวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและอันตรายที่คุ้นเคย แสงจันทร์ที่ส่องผ่านหน้าต่างสะท้อนใบหน้าของเขาให้ดูแข็งกร้าวอีกครั้ง

เขาเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปยังสวนสวยที่เคยเป็นสถานที่พักผ่อนของแพรไหม ตอนนี้เขารู้สึกว่าแม้ในคฤหาสน์ที่ปลอดภัยที่สุดก็ยังคงมีช่องโหว่ให้ศัตรูเข้าถึงได้ เขาจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้ง เขาจะปกป้องแพรไหมและลูกด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามี ไม่ว่าจะต้องใช้ความรุนแรงหรือกลยุทธ์ที่เฉียบคมแค่ไหนก็ตาม นี่คือคำสัญญาที่เขาให้ไว้กับตัวเอง และเป็นสิ่งที่เขาจะทำเพื่อครอบครัวของเขา