“แล้ว...แม่จะให้ผมทำยังไง?”
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจแรงๆ เขาเงยหน้าขึ้นมองสบนัยน์ตามารดาเหมือนถามความเห็น
“จัดการเหมือนเคยสิ ยัดเงินให้หล่อนซะ เรื่องมันจะได้จบๆ”
มีเงิน มีอำนาจ เรื่องพวกนี้ไม่น่ายาก และมาดามแลงก้าคิดว่าบุตรชายทำได้ดี
แวซ็องอยากหัวเราะดังๆ เอาเงินยัดให้เมวิกางั้นหรือ? ก้อนแรกที่เขาให้หล่อน มันยังนอนสงบนิ่งอยู่เลยไม่มีการเคลื่อนไหวใดใด หล่อนมาเหนือเมฆจนเขาไม่อยากคิด หล่อนต้องการอะไรกันแน่ ถึงได้มาร้องแร่แห่กระเซิงผ่านสื่อ โดยไม่ระบุความต้องการ เหมือนจะให้เขาเป็นคนเสนอเอง...
หล่อนไม่มีวันได้อย่างที่หล่อนคิดหรอก...ไม่มีวัน
“จัดการให้เรื่องเงียบเร็วที่สุดด้วยล่ะ แม่ไม่อยากตอบคำถามคนในสังคมอีก... แม่เอือม”
นางสะบัดหน้าหนี ปวดหัวจี๊ดๆ เมื่อออกไปภายนอกคฤหาสน์ ไม่ว่าใครก็พยายามแหวกวงล้อมเข้ามาถามความคืบหน้า และนางไม่ต้องการตอบ...
แวซ็องยังนั่งนิ่งๆ เขาไม่ได้คิดอะไรเลย ในหัวว่างเปล่า มีแต่แสงสีขาวๆ ไร้ความคิดอื่นใด
เขาจำความเศร้าของเมวิกาได้เป็นอย่างดี และความทรงจำนั้น รั้งเขาไม่ให้เค
ชายหนุ่มหย่อนร่างกายอ่อนปวกเปียกของหญิงสาวไว้กลางเตียง โดยที่เขารีบโถมทับตามไปติดๆ กดปลายนิ้วที่กลางเนินอก... แล้วค่อยๆ ลากไล้เคลื่อนไปตามลำตัว ผ่านหน้าท้องราบเรียบ...ต่ำลงไป...ต่ำลงไป...จนหญิงสาวกลั้นใจตาม“อุ! ...” ปลายนิ้วแกร่งร้อน แทรกหายลงไปกลางแอ่งน้ำชุ่มฉ่ำ สัมผัสแผ่วๆ จากปลายนิ้วอุ่นซ่านที่สอดผ่านขอบบิกินนี่แนบเนื้อ เขาฉกปลายนิ้วจมดิ่งลงไปยังจุดซ่อนเร้นของเธอ กระแสความเสียวซ่านพุ่งเข้าสู่ตัวเธอจนร่างกายสั่นระริก สัมผัสที่แสนหนักหน่วงสลับกับละเลียดแผ่วๆ ในพื้นที่แสนหวงแหนนั่น ทำให้หล่อนดิ้นเร่าๆ ร่างกายเกร็งค้างอ้าปากครางระส่ำ บั้นท้ายส่ายไหว กระเด้งสู้ปลายนิ้วแข็งแรงอย่างลืมอาย...และแวซ็องก็จงใจ เขากดปลายนิ้วบดขยี้ติ่งไตกลางร่างเมวิกาแรงๆ สลับกับแทรกสอดระรัวในความฉ่ำชื้นของเธอ มันยิ่งทำให้เมวิการ้อนฉ่า!!คลื่นความร้อนถาโถมเข้าใส่จนเมวิกาหัวหมุนเธอครางกระเส่า หยัดกายจนแผ่นหลังไม่ติดเตียง ร่างกายชื้นเหงื่อ ลมหายใจหอบโยนเสียงหวานครางละเมอ พร้อมกับวอนของสิ่งที่ตัวเองปรารถนาแบบลืมอาย“ได้โปรด?”ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ
“ห้ามคิดเดินออกไปจากที่นี่เด็ดขาด...หล่อนหมดสิทธิ์คิดแบบนั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะให้คนของฉันจับตามองหล่อน แบบไม่ให้คลาดสายตา”มาดามแลงก้าข่มขู่ซ้ำ นางไม่ยอมให้หลานของนางไปตกระกำลำบากเด็ดขาด...ถึงแม่ของเขา จะไม่เป็นที่โปรดปราน...แต่เรื่องแค่นี้ คงทำใจได้ไม่ยาก ไหนๆ ก็มาไกลถึงป่านนี้แล้วใครอยากนินทาว่าร้าย...ให้เขาพูดไป...สักวันก็จะเลือนๆ ไปเอง ตามเวลาที่เคลื่อนผ่าน...ไม่มีอะไรจีรังนางพญาเดินหน้าเชิด หากเมวิกาเห็นใบหน้านาง เธอคงไม่กลัดกลุ้ม...เพราะหญิงสูงศักดิ์ยิ้มแป้น นางตัดสินใจถูก ที่ยอมอ่อนให้หญิงสาว เมื่อสิ่งที่แอบได้ยิน คือของรางวัลดิ้นได้ เขาคือสายใยของบุตรชาย และเป็นยอดปรารถนาของนางเอง“อิๆ ...”เมวิกาหน้าม่อย...เธอเดินละห้อย ละเหี่ยกลับที่พัก...คงต้องหาทางใหม่ หากชายหนุ่มผู้เป็นสามี ยังปฏิบัติตัวแบบนี้ เธอคงทนไม่ไหว...เวรกรรมของเธอยังไม่หมดอีกเหรอ?ในค่ำคืนแสงจันทร์ทอดแสงเป็นทางยาว เมวิกายืนเหม่อที่ระเบียงห้อง เธอคิดอะไรในใจเพลินๆ เพลินเสียจนไม่รู้ว่าคนในความคิดโผล่เข้ามาตัวเป็นๆ
บทที่15.ตัวแปรที่ทำให้อยากหันหลังให้ปารีสเพรส...เช้าวันทำงาน หนังสือพิมพ์ปารีสเพรสยุ่งวุ่นวายเป็นประจำ อดัมนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เขากำลังเคร่งเครียดกับบทความที่จะต้องพาดหัวจ่าหน้าหนังสือ ในฐานะมาดามโจนส์ แถมตัวเองยังเป็นเจ้าของกิจการ มันเลยทำให้เขาไม่ค่อยมีเวลาเป็นส่วนตัว ชีวิตอยู่กับการทำงาน และทำงาน...แต่...วันนี้ไม่เหมือนกับทุกวัน...อาคันตุกะที่ชายหนุ่มรักเหมือนดั่งน้องสาว เดินทางมาเยือนพร้อมกับใบหน้าหมองเศร้า...จนอดัมได้แต่ทอดถอนใจ“ไม่สบายใจอย่างนั้นเหรอ? มีอะไรอยากปรึกษาเจ้ไหม?”เมวิกาส่ายหน้า น้ำตาหยด แต่ยังไม่สามารถเรียบเรียงคำพูดเพื่ออธิบายให้อดัมฟังได้ มันอาจจะเป็นเพราะความอ่อนแอของตัวเองและแอบหวังว่าสิ่งที่ตัวเองปรารถนาจะสมหวังแต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่!!“เห้อ!! ใครจะรู้ว่านางซินฯ มันสุดแสนจะช้ำ หนูเมทำให้สาวๆ หลายคนละเมอเพ้อพก คิดว่าได้เปลี่ยนสถานะจากยาจกเป็นเจ้าหญิง...ได้เสวยสุขอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่โต...แต่...ถุย!! ชีวิต ไอ้คนรวยนี่มัน
“เมก็ได้แต่หวังมาตลอด หวังว่าคุณคงไม่ลืมเม...ได้แต่รอความเมตตาของคุณและภาวนา วอนขอจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิทธิ...ไม่คิดว่าตัวเองจะสมหวังหรอกค่ะ เพราะเมทำไม่ถูกต้องนัก เมยืมมือคนอื่นบีบบังคับคุณ” เสียงหวานขาดห้วง ฉ่ำหวาน เธอสารภาพความรู้สึกผิดเล็กๆ ของตัวเอง อยากให้ชายหนุ่มเข้าใจในตัวเองมากกว่าที่รู้สึกแบบฉาบฉวย เธอไม่ได้ต้องการผลประโยชน์อื่นใด แค่อยากได้อ้อมแขนคู่นี้คืนมาแค่นั้นเอง... แวซ็องยิ้ม...เขาสอดมือลงไปใต้แผ่นหลังเมวิกาโดยไม่ได้ปริปากพูดสิ่งอื่นใด เขาเองก็แค่อยากชิดเชยเธอ ความรู้สึกรุ่มร้อนบีบบังคับเสียจนเขารอเวลาไม่ได้ ชายหนุ่มเสือกเสยร่างกายของหญิงสาวขึ้นไปจนเกือบติดหัวเตียง... เขาบรรจงลูบไล้ผิวกายเรียบเนียนด้วยความชื่นชม... พรมจุมพิตตามผิวกายหอมหวานจนถ้วนทั่ว!! หญิงสาวได้แต่ครางอืออาตอบรับ... เมวิกาเสียดสยิวไปทั่วทั้งร่างกาย... มันร้อนวูบวาบ!! เนื้อตัวเต้นระริก...หัวสมองหมุนวนเร็วจี๋ ได้แต่รอการปรนเปรอจากชายหนุ่ม ดวงตากลมโตปรือหวานฉ่ำ ไอปรารถนาแผ่กระจายกรุ่นเต็มหน่วยตา มือเรียวบางเกาะกอดบ่ากว้าง แอ่นหยัดเรือนกายขึ้นแนบใบหน้าคมคาย ที่กำลังฟอนเฟ้นเต้าทรงอวบอัดด้วยคว
ดวงตาแดงก่ำมองสามีเขม็ง!! มันมีทั้งความเจ็บปวดและสายตาตัดพ้อ...ผู้ชายตรงหน้า ครั้งหนึ่งเขาเคยทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เพียงแค่ได้อิงแอบอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงคู่นั้น...แต่เวลานี้ วงแขนเดิมๆ กลับทำให้เธอทุรนทุราย เมื่อสิ่งที่เขาเคยสร้างขึ้นคือการหลอกลวงแวซ็องหันขวับ เขายิ้มเย็นๆ ส่งให้ภรรยาคนสวย ผู้หญิงคนนี้...คนที่ทำให้เขาโกรธจัด!! หล่อนจะต้องไม่มีความสุขเหมือนที่เขากำลังผจญอยู่เช่นกัน “ก็เหมือนกันนี่...เม-วิ-กา ฉันเองก็รู้สึกไม่ต่างอะไรกับเธอเลย” คำพูดเย็นชาเหมือนปลายมีดแหลมๆ กรีดลงบนก้อนเนื้อหัวใจของเธอ มันย้ำให้เมวิกาแน่ใจ ผู้ชายคนนี้ไม่เคย ‘รัก’ เธอเลย...เพราะฉะนั้นเธอไม่จำเป็นต้องอาลัยอาวรณ์เขาเลยสักนิด...และบางสิ่งที่เธอซ่อนไว้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องรู้!!หญิงสาวกลืนความเจ็บช้ำเก็บไว้ในอก เธอเชิดหน้าขึ้นก่อนจะพูดเสียงเย็นชา ไม่ต่างอะไรกับคำพูดหมางเมินที่แวซ็องสาดใส่เธอ “ถ้าอย่างนั้นเมก็คงต้องหันไปพึ่งกระบวนการของความยุติธรรม”“ฮ่าๆ” ชายหนุ่มหัวเราะร่า เขาหรี่ตาลง...เดินโซเซมาหยุดยืนตรงหน้าหญิงสาว สองมือยกขึ้น
“เขาจะต้องดีใจ เมื่อได้เห็นเธอ หนูเม...ไอ้หนุ่มนั่นไม่ใช่คนโง่ สักวันเขาจะรู้ใจตัวเอง”อดัมรู้ถึงความประหม่าของเมวิกา เขากระซิบปลอบใจ พร้อมทั้งให้กำลังใจเธออีกด้วย“ไม่ต้องสนใจแม่ผัวไฮโซของเธอหรอกนะ ฉันยังอยู่ข้างเธอเสมอไม่ต้องวิตกไป” อดัมปรายตามองมาดามแลงก้า นางนั่งคอแข็ง ทำเป็นเชิดหน้าตั้ง แสดงอาการเป็นปฏิปักษ์กับว่าที่ลูกสะใภ้ ทั้งที่ยังไม่ได้สัมผัสเนื้อแท้ของเมวิกาสักนิด “ใจแคบ!” อดัมอดไม่ได้ที่จะบริภาษ เมื่อมาดามแลงก้าขึ้นชื่อเรื่องหยิ่งยโส“มีอะไรไม่สบายใจก็แวะไปหาฉันที่ปารีสเพรส ยังไงเธอก็เป็นเหมือนน้องสาวฉันคนหนึ่ง สู้ๆ ล่ะเธอไม่ได้ตัวคนเดียวหรอก” อดัมยังคงปลอบใจ เพราะเมวิกาตัวสั่น เธอคงรู้สึกกลัวเพราะต้องเผชิญหน้ากับ ‘ออกัสตัส’ ทั้งตระกูลครั้งแรกหากมาดามแลงก้ามีความยุติธรรมในกมลสันดานสักนิด นางก็น่าจะเห็นใจลูกนกหลงรังอย่างเมวิกา ไม่ใช่เอาแต่ทำท่ารังเกียจ รังงอน เหมือนกับว่าหญิงสาวมาทำให้ ‘ออกัสตัส’ เสื่อมเสียหนักหนาเช่นนี้อดัมเดินมาส่งเมวิกาถึงหน้าแท่น เธอจับมือหญิงส