มหาเศรษฐีขี้เบื่อ ลูกครึ่งฝรั่งเศส-อเมริกา ทายาทตระกูลดัง แวงซ็อง ออกัสตัส เขาเป็นชายชาติอาชา มีฟีโรโมนฟุ้ง!! แต่เมวิกาสาวใสใบหน้าหวานแต่มีฐานะยากจน หล่อนมองหนุ่มหล่อล่ำด้วยแววตาเฉยชา ชายหนุ่มเลยต้องงัดแผนเด็ดออกมาเพื่อลวงล่อ เขาหวังจะตอกหน้าให้แม่สาวใจเด็ดรู้ผู้ชายอย่างเขา หล่อนไม่ควรเมิน ที่เขาไม่รู้ คือเมวิกาสะเทิ้นสะเทือน มันเป็นการยากที่จะห้ามความสนใจของตัวเองที่มีต่อคนแปลกหน้า เขาหล่อ! หุ่นกระชากใจ แถมยังทำท่าเหมือนสนใจเธอเสียอีก มันเลยทำให้เมวิกาอดหวั่นไหวไม่ได้ ผู้หญิงทุกคนฝันถึงเจ้าชายและหวังให้เทวดาส่งเจ้าชายมาให้ตัวเอง เมวิกาเลยอดไม่ได้ที่จะแอบฝัน แต่ในโลกความจริง...มันโหดร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ...
View Moreบทที่1.ผู้ชายใจชาด้านที่ชื่อ แวซ็อง ออกัสตัส
เสียงลมหายใจหอบสะท้านดังกระเส่า เมื่อสิ่งที่ทั้งสองคนทำร่วมกันคือการเสพความสุขในร่างกายระหว่างกันและกัน ชายหนุ่มรูปร่างกำยำกำลังเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ด้านบน แผ่นหลังของเขาชื้นเหงื่อเป็นมันปราบ...และเสียงครางของสาวน้อยทรงโตก็ดังลั่น เมื่อเจ้าของร่างใหญ่โตส่งตัวตนของตัวเองแบบหนักหน่วง เขาโหมกำลังดั่งลมพายุลูกใหญ่ที่สาดใส่ โจมตีแบบไม่ออมมือ อุ้งมือใหญ่เคล้นคลึงเต้าทรวงอวบอัดจนเต้าเต่งบิดเบี้ยว แต่มันก็ไม่ได้ครัดเคร่งอย่างที่เขาปรารถนา เมื่อหล่อนเองก็คงผ่านสนามรบบนเตียงมาไม่มากก็น้อย จนทำให้เกิดการหย่อนคล้อยเพราะเคยผ่านการใช้งาน
“อู้ยยย...ได้โปรด...ฆ่ามิร่าให้ตายเลยค่ะ...มิร่าใจจะขาดอยู่แล้ว” สาวคู่ขาครางกระเส่า เธอแอ่นร่างกายช่วงล่างตามติด เมื่อหนุ่มพลังม้าถอดถอนแก่นกายออกห่างๆ ก่อนจะร้องวี๊ดสุดเสียง เพราะเจ้าตัวทิ้งตัวกลับลงไปที่เดิมแบบรุนแรงสุดโต่ง!
“ได้เลยคนสวย ฉันจะจัดหนักให้เธอลืมโลก ลืมผู้ชายทุกคนที่เคยๆ กับเธอให้หมดสิ้น” แวซ็องไม่ได้พูดเกินจริง สาวน้อย สาวใหญ่ สาวใดก็ตามที่เคยก้าวขึ้นมานอนบนเตียงแล้วให้เขาขย่มทับ หลังเธอเดินลงจากเตียงไป หล่อนแทบจะลืมรสรักที่เคยได้ลิ้มรสมาแทบทั้งหมด เมื่อชายหนุ่มนาม แวซ็อง ออกัสตัส เป็นนักรักที่ขึ้นชื่อที่สุดในปารีส หนุ่มหล่อลูกครึ่งฝรั่งเศสอเมริกา...หัวหอกคนสำคัญของ ‘ออกัสตัสอินเตอร์เทรต’ เป็นพี่ใหญ่ที่ขึ้นแท่นผู้บริหารระดับสูง เป็นท่านประธานที่ทั้งเผด็จการและน่าเกรงขาม ไม่แปลกหรอกหากสาวๆ จะยอมพลีกายให้กับเขาฟรีๆ เมื่อสิ่งตอบแทนที่ได้รับหลังจากนั้นมันมากมายมหาศาล เมื่อชายหนุ่มไม่เคยเอาเปรียบใคร!! เขาพร้อมที่จะมอบของกำนัลราคาแพงให้ หากเจ้าหล่อนทำให้เขาถูกใจ...จนหมดแรง...
จังหวะหนักหน่วง...ร่างกายเปียกชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ แม้อุณหภูมิภายในห้องจะเย็นฉ่ำดั่งนั่งอยู่กลางก้อนน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือ...แต่ภายในร่างกายของคนทั้งคู่กลับร้อนดั่งมีลาวาเดือดคลั่ก! ไหลวนอยู่ในนั้น มันพร้อมที่จะระเบิดพร่าง!! หากถึงจุดที่สุดกลั้น...
“อ้ายยยย...” เสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมกับประตูห้องสวีทที่เปิดผ่าง!
“เห้ย!!” ชายหนุ่มตวัดผ้าห่มขึ้นคลุมร่างกายช่วงล่าง เขากระโจนลงมาจากเตียงพร้อมกับสบถเสียงดัง “Damn!!”
ผู้หญิงที่มาใหม่ยืนขวางอยู่กลางประตู... ใบหน้าของหล่อนตึงเปรี๊ยะ! โดยมีกลุ่มบอดี้การ์ดของชายหนุ่มที่พยายามห้าม แต่เจ้าหล่อนก็ไม่ฟังเสียง... ดึงดันเข้ามาในห้องจนได้ “เกิดอะไรขึ้น? ลิ-เดีย-เธอเข้ามาทำอะไรในนี้?”
ชายหนุ่มเค้นเสียงแหบๆ ถาม เขาโกรธจนตัวสั่น! ยัยนี่เข้ามาขัดจังหวะเขาทำไม? ...
ลิเดีย สกอฟิลด์เชิดหน้าขึ้น เธอปรายตามองผู้หญิงบนเตียงด้วยสายตาริษยา หล่อนคงเพิ่งสุขสมมาหมาดๆ ถึงได้นอนแผ่หลา หอบหายใจรวยรินอยู่อย่างนั้น ยัยนั่นเป็นใคร? หล่อนถือดีอย่างไรมาฉกผู้ชายที่เธอตีตราจองไปครอบครอง...เธอไม่มีวันยอมเด็ดขาด แค่คิดหัวใจก็รุ่มร้อนเกินจะทน
“คุณทำแบบนี้ได้ยังไงคะ?” หล่อนย้อนถามเสียงสั่น
แวซ็องพ่นลมหายใจแรงๆ เขายกมือขึ้นเสยผม ก่อนจะตอบเสียงเย็นชา “ทำแบบไหน? แล้วทำไมฉันจะทำไมได้ล่ะ”
“คุณ!”
“พอเลยลิเดีย...อย่ามาแสดงอาการเป็นเจ้าข้าว เจ้าของฉัน...เราไม่ได้เป็นอะไรกัน!!” ชายหนุ่มตวาดเสียงแหลม
แค่เคยควง...แต่ไม่เคยเกินเลย แวซ็องเลือกคนที่จะมานอนใต้ร่างเขา หากมีปัญหาตามมาเขามักจะเลี่ยง และลิเดียก็เป็นหนึ่งในนั้น เจ้าหล่อนแสดงออกชัดเจนว่าหล่อนปรารถนามากกว่าการเป็นแค่คู่ควง....และเขายังไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นกับใคร เมื่อกำลังสนุกกับอิสระในชีวิต ไม่ต้องการพันธนาการที่คล้ายๆ กับห่วงผูกคอ
“แวซ็อง!!”
บุตรสาวคนสวยของตระกูลสกอฟิลด์ตะโกนลั่น! มือเรียวบางของเธอกำแน่น เธอโมโหเกือบๆ คลั่งเมื่ออีกฝ่ายทำเหมือนไม่เห็นเธอมีความสำคัญอะไรเลย เขาเอาเธอไปเปรียบกับพวกผู้หญิงหยำฉ่าพวกนั้นได้ยังไงกัน ยังไงเธอก็มีภาษีมากกว่า เธอเป็นทายาทของ ‘สกอฟิลด์’ คนที่สามารถช่วยเหลือเขาได้ในโลกธุรกิจ เธอไม่ใช้ผู้หญิงข้างทางที่เขาจะเขี่ยทิ้งง่ายๆ
“มีอะไรรึ? ฉันพูดจริงลิเดีย...เราสองคนเป็นแค่...คนรู้จักกัน...นอกเหนือจากนั้นไม่มีอะไรเลย”
เสียงเรียบเรื่อยพูดแบบไม่ใส่ใจ เขามองหล่อนตรงๆ พร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปาก
“คุณกล้า!!” ลิเดียโกรธจนหน้ามืด เธอหมดสิ้นความเกรงใจ จากนี้ไปแวซ็องจะได้รู้เขาไม่ควรปล่อยมือจากเธอ
“หืม...”
“หากฉันก้าวออกจากห้องนี้ ทุกอย่างระหว่างเราจะสิ้นสุดลงทันที” หญิงสาวพูดเหมือนเป็นต่อ เธอรู้ว่าคนฉลาดอย่างแวซ็องคงไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ เมื่อเธอมีบางอย่างที่สามารถเกื้อกูลเขาได้ในอนาคต
แต่...ลิเดียคิดผิด...คนอย่างแวซ็อง ออกัสตัส คิดไม่เหมือนคนอื่น
เขาไม่ต้องการยืมจมูกคนอื่นมาหายใจ!!
“เชิญ!!”
ดังนั้นเขาจึงทำตรงกันข้ามกับที่ลิเดีย สกอฟิลด์คิดไว้...
“แล้วคุณจะรู้ว่าคุณตัดสินใจผิด แวซ็อง!!”
เสียงตอบกลับมาสั่นพร่า ดวงตาคมกริบเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตา ก่อนที่หล่อนจะสะบัดใบหน้า เดินคอตั้งเชิดหน้าออกไปจากห้องสวีท ทิ้งให้แวซ็องส่ายศีรษะทอดสายตามองตาม
“ผู้หญิง!!”
เขาเบ้ปาก มองลิเดีย สลับกับแม่สาวทรงโตที่นอนแผ่หลากลางเตียงด้วยสายตาเฉยชา...ผู้หญิงทุกคน! ...ก็เป็นได้แค่เครื่องบำบัดความใคร่ พวกหล่อนไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย มีดีแค่ครางเสียงดังๆ เวลาเขาเข้าไปอยู่ในร่างกายของหล่อน กับดิ้นพล่านด้วยความสะใจ หลังเขาโขยก ขย่มหล่อนสุดแรง...มีแค่นี้จริงๆ
เช้าวันใหม่...
แวซ็องเบี่ยงปลายเท้าก้าวลงจากรถสปอร์ตหรูของตัวเอง เขาตวัดแว่นตากันแดดขึ้นสวมทับ แล้วจึงยืดกายเต็มความสูง สายตามองตรงไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ เดินเอื่อยๆ ตรงไปยังอาณาจักรของตัวเอง ‘ออกัสตัสอินเตอร์เทรต’ อาณาจักรแสนยิ่งใหญ่ที่เขาฟูมฟักมาหลายปี จนตอนนี้มันแกร่งกล้า ผงาดอยู่เหนือคนอื่นๆ หลายขุม...
มีเสียงซุบซิบดังเบาๆ หลังขบวนของเขาก้าวผ่าน ชายหนุ่มขมวดคิ้วก่อนจะเอี้ยวตัวหันหลังมาถามบอดี้การ์ดคู่ใจ
“มีอะไรที่ฉันควรรู้ไหม?”
ชายร่างใหญ่หน้าตึงยิ่งกว่าผืนผ้าที่ขึ้นไว้บนสะดึงปักผ้า เขาทำหน้าปั้นยาก ระหว่างควรพูด หรือหุบปากแน่นๆ ดี
แต่ก่อนที่บอดี้การ์ดจะตอบ “เฮ! พี่ชาย...นายไปทำอีท่าไหนกันล่ะ ลิเดีย สกอฟิลด์ถึงชิ่งหนี” เสียงทักทายดังจากทางด้านหลัง จากผู้ชายที่หน้าตาคล้ายๆ เขาแต่วัยอ่อนกว่า2 ปี เซดริก ออกัสตัส น้องชายสุดแสบและปากมันหมากว่าใครเพื่อน
แวซ็องกลอกตา เขาพ่นลมหายใจแรงๆ “เข้าใจใหม่ด้วยไอ้น้องเวร!! ฉันกับยัยนั่นไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย ฉันไม่เคยแตะหล่อน แม้แต่ปลายนิ้วก้อย” ชายหนุ่มตอบแบบเซ็งสุดขีด แค่ควงกันกินข้าว ฟังเพลง ไม่มีอะไรเกินเลย แต่ทำไมทุกๆ คนรอบตัวถึงชอบเข้าใจผิดไปเสียหมด
“ฉันรู้...แต่สังคมเข้าใจกันแบบนั้นนี่พี่ ข่าวพี่กับหล่อนออกมาถี่ยิบ...ใครเห็นก็เชื่อทั้งนั้นแหละ”
“ฉันต้องแคร์ด้วยหรือไงล่ะ?” ชายหนุ่มไหวไหล่ย้อนถาม “ว่าแต่มันมีอะไรมากกว่านี้ไหมวะ”
เซดริกยิ้มแป้น เขาโยนหนังสือพิมพ์ฉบับล่าสุดของเช้าวันนี้ให้พี่ชาย หัวข้อข่าวโจ่งครึ่ม!! เรื่อง ‘สกอฟิลด์’ จะมีงานมงคลกับ 'ออกัสตัส' แต่ไม่ใช่แว ซ็อง...
“เห้อ!! ไหงกลายเป็นดิดิเย่ร์ได้วะ?”
น้องชายห่างๆ อีกคนของชายหนุ่ม เขาถูกดึงมามีเอี่ยวด้วยได้ยังไง แวซ็องพยายามทำความเข้าใจ แต่ก็ยังสับสนอยู่
“แปลกตรงไหน...ฉันเห็นไอ้ดิเย่ร์มันเดินตามก้นแม่นั่นมาสอง สามปี...มาห่างๆ ช่วงที่หล่อนมาติดพันพี่นี่แหละ...ไม่คิดว่าลิเดียจะเล่นไม้นี้ หล่อนเจ้าเล่ห์ไม่เบาเลยเหมือนกันนะ” เซดริกไหวไหล่ เขาดันประตูห้องทำงานของพี่ชายให้เปิดออกพร้อมกับเดินนำหน้า ไปทรุดนั่งสบายๆ บนโซฟาตัวใหญ่ที่มีไว้สำหรับรับรองอาคันตุกะ
“คงไม่มีเรื่องให้ฉันปวดหัวอีกนะ...มันน่าจะจบแล้วใช่ไหม?”
ชายหนุ่มเอื้อนเอ่ยแบบไม่ใคร่มั่นใจ
รำเพยขยับตัวด้วยความอึดอัด เธอขยับเข้าใกล้เมวิกา กำลังจะกระซิบบอกเจ้านายคนสวยเพื่อขอตัวไปจากสถานการณ์น่าอึดอัดนี่สักทีแต่เงาร่างสูงใหญ่ เงาคนคุ้นเคย คนที่นั่งอยู่กลางใจเธอ เขาเดินมาหยุดอยู่ใกล้ รำเพยกลั้นลมหายใจแทบจะหมดลม เธออยากเป็นลม!! ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง...แวซ็องยิ้มกว้าง ไอ้เสือมันเอาจริง เอาจริงเสียจนคนที่มีอำนาจสูงสุดยังคาดไม่ถึง“รำเพย...เชื่อใจฉันไหม?”แม้จะก้มหน้าจนดวงหน้าเล็กๆ นั่นแทบจะฝังหายไปในอกเสื้อ เขาก็ยังมองเห็นเกล็ดน้ำตาของเธอ มันไหลรินดั่งหยาดฝน เมื่อรำเพยไม่เคยเรียกร้องความรับผิดชอบกับความสัมพันธ์ลับๆ ที่เกิดขึ้น เธอยินดีและสมัครใจอยู่แบบนั้น เขาและเธอมีความสุขในแบบนั้น จนไม่คิดว่าจะมีวันนี้ เมื่อเรื่องในบ้านยังคงอลหม่าน... มีปัญหาหลายเรื่องเซดริกจึงยังไม่อยากโถมปัญหาของตัวเองให้มารดารับรู้เพิ่มอีกมันคงถึงเวลาเปิดเผย เมื่อมันคือความจริง และเป็นเรื่องน่ายินดี“รำเพยไม่ได้ต้องการอะไรเลยนะคะ”หญิงสาวพยายามแย้ง เธอรู้ว่าเซดริกกำลังจะทำอะไร เมื่อเขาพร่ำบอกรักเธอทุกครั้งยามอย
บทที่17.ปมรักต้องห้าม“เซดริก! มีพรายกระซิบมากระซิบเตือนแม่...มีคนบางคนเห็นลูกย่องออกมาจากเรือนคนใช้...ตอนเช้ามืด...จริงหรือเปล่าหะ!”มื้อเช้าที่แสนสุข...สะดุดลง เพราะเสียงตวาดแหวของมาดามแลงก้า ลำตัวของนางกำลังสั่นเทิ้ม ดวงตาคมกริบวาววับ!! จ้องบุตรชายคนเล็กด้วยสายตาจับผิดเซดริกใจหายวูบ!! เขาไม่ได้อยากปิดบัง แต่มันจะทำให้รำเพยเสียชื่อ มันยังไม่ถึงเวลานั้น เพราะเรื่องของพี่ชายยังคาราคาซัง...ยังหาทางจบสวยๆ ไม่ลงสักที“พรายกระซิบของแม่นี่หูตาดีชะมัดนะครับ ผมนอนหลับสนิท... เพิ่งจะตื่นตอนเช้า...แล้วก็เดินลงมากินข้าวเช้ากับแม่นี่ล่ะครับ ใครเอาเรื่องร้อนใจอะไรมาฟ้องแม่อีกล่ะ...บอกเขาด้วยนะครับ...หาหลักฐานมายืนยัน... ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้จบไม่สวยแน่ๆ ...”ชายหนุ่มแสร้งปากแข็ง...ไม่รับ... เขาจำต้องแก้ตัวสุดฤทธิ์!! แสร้งทำเสียงเข้มๆ พร้อมทั้งกวาดตามองสาวใช้ทุกคน โดยพยายามไม่มองรำเพยที่ยืนหน้าซีดเผือดอยู่ด้านหลังเมวิกา“ไม่จริงก็ดี...แม่ไม่ไหวจะรับหรอกนะ... หากต้องรับคนชั้นต่ำเติมเข้ามาในส
เสียงเนื้อเปียกเหงื่อที่บริเวณโคนขากระทบกระทั่งกัน มันดึกสงัดเสียงจนเสียงที่ดังขึ้น มันทวีความดังมากกว่าเดิม...แต่...เวลานี้เซดริกลืมสิ้น เขาตั้งหน้า ตั้งตาโหมเข้าใส่ เพราะจุดหมายแสนหวานรออยู่เบื้องหน้า...อีกไม่กี่อึดใจ“อ้ายยยย...” รำเพยกรีดร้องเสียงแหลม เธอตวัดมือโอบกอดลำตัวชายหนุ่มแน่นๆ ร่างกายกระตุกสั่น ลมหายใจหอบกระเพื่อม เซดริกกัดฟันกรอดๆ สัดส่วนความเป็นหญิงรูดรัด! ดูดตอดถี่ยิบ จนเขาสุดที่จะกลั้น เรี่ยวแรงที่เหลือ ชายหนุ่มจึงปลดปล่อยสุดพลัง เขาเสือกเสยแก่นกายเน้นๆ สาดสายธารร้อนระอุ ทุกหยาดหยด...พ่นใส่ช่องทางฉ่ำวาวสุดแรง!!“อ๊าคคค...” พร้อมกับโก่งคอครางลั่น ดันตัวตนแช่นิ่งๆ ในช่องทางฉ่ำเยิ้มมือใหญ่ช้อนใต้แก้มก้นของรำเพย เขากระเตงเธออุ้มไปทิ้งตัวลงบนที่นอนเป็นความลับที่ชายหนุ่มไม่คิดจะปริปากบอกใคร ขาเขาสั่นระริกๆ หากไม่รีบหาที่พัก คงได้ทรุดฮวบไปกองบนพื้นท่านั่งสุดแสนจะรัญจวน...เมื่อเซดริกนั่งหมิ่นๆ ที่ขอบเตียงนอน มีรำเพยอยู่ในอ้อมกอด และส่วนที่เชื่อมต่อ ยังคงค้างคาหญิงสาวเริ่มต้นครางๆ แผ่วๆ อีกครั้ง...ทิ้งห่าง
“รำเพย...ชื่อคล้ายๆ ว่าพี่สะใภ้ฉันเลย...เธอเป็นคนเอเชียใช่ไหม?” เซดริกสะดุดหู!! “ค่ะ...รำเพยมาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นประเทศเล็กๆ หนึ่งในนั้นค่ะ” “อืม...ดี...เวลาที่พี่สะใภ้ฉันมาอยู่ที่นี่...เธอจะได้มีเพื่อนคุย” หลังจากนั้นเขาก็ได้พบกับรำเพยบ่อยๆ ที่หน้ากรงเจ้าดิเย่ร์ เซดริกแทบจะไปหามันทุกวัน สุนัขขี้อ้อนดูร่าเริงขึ้น ไม่ได้ครางงื้ดๆ เหมือนเดิม มันได้ออกมาวิ่งเล่นนอกกรงโดยมีผู้หญิงตัวเล็กๆ คอยดูแลอยู่ใกล้ๆ เธอยิ้ม...และแววตาสดชื่นขึ้น เหมือนได้มีเพื่อนรู้ใจ...รวมทั้งกล้าที่จะตอบโต้เขามากขึ้นกว่าเดิม ไม่ได้ทำแค่ก้มหน้าหลบอย่างเดียว“อยู่ที่นี่สบายดีไหม?” เขาพยายามถามรำเพยหลายครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่หล่อนยอมตอบ“ไม่มีที่ไหนสบายใจเท่าบ้านเราหรอกค่ะ แต่ที่นี่ก็ไม่ได้เลวร้ายนัก” แปลกที่ ต่างวัฒนธรรม...แต่เพราะเธอไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมากพอที่จะเลือกได้ นักศึกษาจบปริญญาตรีในมหาว
หญิงสาวพยายามแย้ง เธอพยายามไม่สนใจความรู้สึกของตัวเอง เธอปรารถนาอยากจะอยู่ในอ้อมกอดของเซดริกแบบนี้ แต่มันเป็นไปไม่ได้ ไม่มี...มารดาคนไหน จะยอมรับสะใภ้ที่มาจากคนชนชั้นล่าง...เธอเป็นแค่คนงานในบ้าน...ส่วนเขาเป็นลูกชายของเจ้าของคฤหาสน์ มันแตกต่างกันยิ่งกว่าฟ้ากับเหว“มีกฎข้อไหนห้ามล่ะคนสวย กฎห้ามไม่ให้ ลูกชายเจ้าของบ้าน ‘รัก’ สาวใช้!”คนหัวดื้อแย้ง เขายิ้มอ่อนๆ แล้วก็กดจูบมุมปากอ่อนบางแผ่วๆรำเพยหลุบเปลือกตาปิดลง เธอยอมศิโรราบ หากนั่นคือความจริงใจของเขา...ในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น เธอจะไม่หวั่นอีกต่อไป เมื่อคำคำเดียวที่อยากได้ยิน เซดริกเพิ่งจะพูดออกมา ‘รัก’ เธอมีท่วมท้น และหากเป็นจริงอย่างที่ชายหนุ่มพูด เธอคงไม่เดียวดายอ้างว้างในอนาคต“คุณเซดริก” หญิงสาวเรียกชายหนุ่มเสียงหวาน เธอปรือตามองเขาด้วยความภักดี“จ๋า...ว่าไงรำเพย” เซดริกรับคำ เขาผงกหัวขึ้นจากเต่งเต้าอวบอั๋น มองรำเพยอย่างหวานเชื่อมหญิงสาวส่ายหน้า เธอแอ่นตัวขึ้น จุมพิตมุมปากของชายหนุ่มอย่างฝากเนื้อฝากตัวเซดริกหัวเราะหึๆ เขาเ
ชายหนุ่มหย่อนร่างกายอ่อนปวกเปียกของหญิงสาวไว้กลางเตียง โดยที่เขารีบโถมทับตามไปติดๆ กดปลายนิ้วที่กลางเนินอก... แล้วค่อยๆ ลากไล้เคลื่อนไปตามลำตัว ผ่านหน้าท้องราบเรียบ...ต่ำลงไป...ต่ำลงไป...จนหญิงสาวกลั้นใจตาม“อุ! ...” ปลายนิ้วแกร่งร้อน แทรกหายลงไปกลางแอ่งน้ำชุ่มฉ่ำ สัมผัสแผ่วๆ จากปลายนิ้วอุ่นซ่านที่สอดผ่านขอบบิกินนี่แนบเนื้อ เขาฉกปลายนิ้วจมดิ่งลงไปยังจุดซ่อนเร้นของเธอ กระแสความเสียวซ่านพุ่งเข้าสู่ตัวเธอจนร่างกายสั่นระริก สัมผัสที่แสนหนักหน่วงสลับกับละเลียดแผ่วๆ ในพื้นที่แสนหวงแหนนั่น ทำให้หล่อนดิ้นเร่าๆ ร่างกายเกร็งค้างอ้าปากครางระส่ำ บั้นท้ายส่ายไหว กระเด้งสู้ปลายนิ้วแข็งแรงอย่างลืมอาย...และแวซ็องก็จงใจ เขากดปลายนิ้วบดขยี้ติ่งไตกลางร่างเมวิกาแรงๆ สลับกับแทรกสอดระรัวในความฉ่ำชื้นของเธอ มันยิ่งทำให้เมวิการ้อนฉ่า!!คลื่นความร้อนถาโถมเข้าใส่จนเมวิกาหัวหมุนเธอครางกระเส่า หยัดกายจนแผ่นหลังไม่ติดเตียง ร่างกายชื้นเหงื่อ ลมหายใจหอบโยนเสียงหวานครางละเมอ พร้อมกับวอนของสิ่งที่ตัวเองปรารถนาแบบลืมอาย“ได้โปรด?”ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ
Comments