3สอดรู้สอดเห็น
"ยัยต้นข้าวนี้มันเล่นตัวนักนะ อุตส่าห์หาผู้ชายให้ทั้งคน ใครนะที่พี่ท๊อปบอกนั่น ชื่ออะไรนะ"
น้ำมนต์กล่าวขึ้นหลังได้ฟังพี่กายเล่าให้ฟังว่าเพื่อนสาวทำแสบมาก
"บิัวตี้เป็นกระเทยที่อยู่ใกล้ๆกับผับที่เราเข้านั้นแหละ หลอกให้ไปส่งยัยต้นข้าว และขับอ้อมเมืองเพื่อมาส่งนางที่หอข้างผับ ตลกไหมล่ะเพื่อนเธอ"
กายพูดขึ้น
"บิ้วตี้นี้มันเพื่อนปลายฝันนิไปรู้จักกับต้นข้าวได้อย่างไรกัน หรือยัยปลายฝันมันไม่ได้กลับบ้านมันจริงๆแต่ไม่อยากไปกินเลี้ยงกับเราเลยไปอยู่กับบิ้วตี้แล้วให้บิ้วตี้มาป่วนพี่ท๊อปเพราะมันรู้เรื่องของเราจากต้นข้าว แล้วไม่พอใจ แน่ทำไมสองคนนี้ร้ายจัง"
น้ำมนต์กล่าวออกไปเพราะตัวเองคิดแบบนั้น
"ปลายฝันเราขอบคุณแกเรื่องเมื่อคืนด้วยนะที่บอกให้บิวตี้มาส่งเรานั่นนะ แล้วเรามีอะไรจะเล่าให้เธอฟัง"
ต้นข้าวพูดคุยกับปลายฝันทางโทรศัพท์
"จร้ามีอะไรหรือป่าว บิ้วตี้เองก็บอกว่าไม่ได้อะไรมากหรอกได้นั่งรถชมเมืองอีกด้วย"
ปลายฝันถามขึ้น
"เรื่องของเพื่อนๆเรานั้นแหละเราว่า เขาไม่ได้โอเครกับเราตั้งแต่แรกแล้วป่ะ อันนี้เราไม่ได้จะปั่นอะไรนะ เรื่องเมื่อคืน ทุกคนพาแฟนมาหมดและมีผู้ชายเพื่อนพี่กายอีกสองคน ซึ่งมองๆแล้วคือหามาให้เราสองคนนั้นแหละ เราก็เคยบอกแล้วว่าเราเด็กบ้านนอกไปอยากสนใจคนในเมือง เพราะถ้าเราเรียนจบก็ต้องกลับบ้านอยู่ดี เราไปหาคนที่จริงใจแถวบ้านเราไม่ดีกว่าหรือ แล้วไอ้พี่ท๊อปนั้นตัวอย่างพ่อเลย ใครๆก็รู้ประวัติดียังจะมาเสนอให้เพื่อนอีก แล้วทำไมมันไม่เอากันเองก็ไม่รู้"
ต้นข้าวพูดอย่างเดือดดาล
"แกก็ใจเย็นๆนะ เราคนบ้านนอกก็งี้แหละพวกเขาคบก็เพราะหวังให้ช่วยเรื่องเรียน เพราะคนบ้านนองแบบเราจำเป็นต้องขยันเรียน"
ปลายฝันกล่าวขึ้น เพราะตัวเองก็พอรู้อยู่บ้างแล้ว
"แต่มันยังไม่หมดนะสิ เรื่องย่าแกเราก็พูดกับทุกคน เขาก็มาบอกกับเราว่า แกบองเราแค่คนเดียวก็ไปคนเดียวสิ คือฟังแล้วโมโหอ่ะ ทีแรกไม่อยากจะเล่าให้แกฟังหรอกนะ แต่มันยอมไม่ได้เพราะมันทำกับเราแบบนี้เราไม่อยากจะให้เพื่อนทะเลาะกันหรอก แต่เราอยากบอกให้เธอรู้นิสัยของเพื่อนให้รู้บ้าง"
ต้นข้าวพูดด้วยความอัดอั้น
"ช่างเถอะแกคนเราก็ดูกันช่วงเวลานี้แหละ และอีกอย่างพวกเขาไม่สนใจอะไรพวกเรา พวกเราก็อยู่กันได้เพราะพวกเราอยู่ไกลกับพวกเขาแล้ว และเราว่าเราจะหางานทำแถวบ้านนี่แหละ"
ปลายฝันกล่าวขึ้น ยังไม่คิดที่จะเอามาใส่ใจเพราะเพื่อนพวกนี้เขารู้นานแล้วว่าเป็นคนอย่างไร
"เดี๋ยวเราเจอกันก็แล้วกัน เก็บของขึ้นรถก่อนนะ"
ต้นข้าวกล่าวขึ้นและวางสายไป ปลายฝันไม่ได้ลุกขึ้นไปไหนนั่งอยู่ที่เดิมตัวเขาเองเหม่อลอยกำลังมองแมวสองตัวกัดอยู่ แมวตัวหนึ่งกัดตัวหนึ่งก็เอาแต่วิ่งหนีแต่พอวิ่งทันกันแล้ว ตัวที่วิ่งหนีกลับวิ่งไล่อีกตัว ดูแล้วช่างมีความสุขเสียเหลือเกิน
"ปลายฝันมัวทำอะไหร่อยู่มาช่วยพี่ห่อเหรียญโปรยทานดีกว่า"
เสียงเล็กแหลมดังขึ้น
"จร้าพี่"
ปลายฝันก็มานั่งห่อเหรียญโปรยทานกับพี่ๆ ญาติของพ่อ
"ปลายฝันพึ่งเรียนจบหรือมีแฟนหรือยังล่ะ แล้วคิดว่าอยากทำงานอะไรดี แถวนี้ให้พ่อพี่ฝากให้สิพ่อพี่รู้จักคนเยอะเลย"
พี่สาวลูกพี่ลูกน้องฝ่ายทางพ่อถามขึ้น ซึ่งเป็นคำถามที่ปลายฝันคิดว่าเสียมารยาทอยู่บ้าง ปลายฝันไม่ได้ตอบอ่ะไร ตัวเธอเองแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินและตั้งหน้าตั้งตาทำตามพี่คนที่นั่งข้างๆ เมื่อการสนทนาไร้ผู้ตอบทุกคนจึงหันไปมองผู้ที่กำลังถูกถาม จึงเห็นเป็นตาเดียวกันว่าปลายฝันนั้น กำลังมองคนข้างๆและทำตามอย่างตั้งใจ ผู้ที่ถามจึงเกิดความหงุดหงิดนิดหน่อยจึงแก้เขินด้วยการคุยกับคนอื่นแทน ปลายฝันก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ตั้งใจมองคนข้างๆและทำตามในที่สุดก็เสร็จแลัวหนึ่งอันจนได้
"น้องปลายฝันห่อเหรียญโปรยทานไม่เป็นหรือจ๊ะ ถึงได้ดูพี่อย่างตั้งใจขนาดนั้น แต่ก็เก่งนะทำรอบเดียวก็เป็นเลย'
ลูกพี่ลูกน้องคนที่ปลายฝันถามขึ้น
"หนูทำไม่ค่อยเป็นหรอกค่ะ ถ้าไม่ดูก็ทำไม่ได้เลย เดี๋ยว อันต่อไปหนูก็ขอดูพี่อีกนะคะเพราะถ้าจะให้ทำเลยก็น่าจะทำยังไม่ได้ เพราะเมื่อกี้ก็ตั้งใจดูแต่น่าจะจำยังไม่ได้ขอหนูดูอีกสักรอบสองรอบนะคะ"
ปลายฝันกล่าวเพื่อขอตั้งใจดูอีก จะได้หลุดออกจางวงสนนาในครั้งนี้
"ดูไปหลายๆรอบก็ได้จ้ะแต่ทำครั้งแรกก็สวยแล้วนะ แล้วก็ความจำหนูก็น่าจะดีอยู่เพราะว่าพี่ก็ทำปกติหนูก็ยังทำตามได้"
ลูกพี่ลูกน้องกล่าวขึ้น และอันถัดๆไปปลายฝันก็มองพี่คนเดิมและตั้งใจทำเพื่อที่เหรียญโปรยทานจะหมดไวๆเพราะเธอไม่ต้องการที่จะสนทนากับคนอื่นที่ต้องการสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเธอ หลังจากทำเหรียญโปรยทานเสร็จแล้วก็นำถาดที่ใส่เหรียญไปเก็บ ญาติๆทุกคนพยายามรั้งให้ปลายฝันอยู่ต่อ เพื่อต้องการที่จะสนทนาด้วย แต่ปลายฟังก็ปฏิเสธเพราะตนว่าต้องไปดูของฝั่งโน้นเผื่อพ่อของเธอต้องการใช้งานและก็รีบเดินจากไป
เรื่องของมานพและต้นข้าว ตะวันแค่แจ้งให้มานพรู้ว่า ต้นข้าวท้องลูกของมานพอยู่และใกล้คลอดออกมาแล้ว และตอนนี้ต้นข้าวอยู่ตอนโดวรโชติ ส่วนเรื่องอื่นๆให้มานพคิดและจัดการกับชีวิตเอาเอง"เพื่อนของคุณและเพื่อนของผมก็มีลูกกันแล้วเนาะ เราแต่งงานก่อนเขาเสียอีกยังไม่มีลูกเลย "ตะวันพูดขึ้น"ปลายว่าเราต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ วันนี้พ่อเลี้ยงจะกินอะไรค่ะปลายจะได้ทำให้"ปลายฝันพูดขึ้น"พ่อเลี้ยงอยากกินหนูปลายได้หรือป่าวครับ"พ่อเลี้ยงกระซิบขึ้นทำสีหน้าละลื่น ทำใหคนฟังหน้าแดง พลางใช้มือใหญ่ๆโอบเอวบางจับให้คนตัวเล็กกว่านั่งบนตักตัวเอง"มันยังไม่มืดเลยนะคะ เดียวปลายไปทำกับข้าวนะอุ๊ยๆๆๆ"ปลายฝันพูดขึ้นแต่พ่อเลี้ยงไม่ลดละความพยายามทำให้ปลายฝันร้องออกมา"บางครั้งเราต้องเปลี่ยนช่วงบาง ทำช่วงเดิมซ้ำๆจะมีลูกได้อย่างไร เปลี่ยนช่วงเปลี่ยนบรรยากาศเสียบ้าง"ตะวันเอ่ยเย้า พลางจับคางให้เธอหันหน้ามาหาเขาและบดจูบอย่างเต็มที ปลายฝันก็ไม่ได้ฟืนอะไรเขาตอบสนองพ่อเลี้ยงอย่างไว สักพักก็หันหน้าออก"แต่ไม่นานก็ต้องมีคนมาตามปลายไปทำกับข้าว ปลายไปทำกับข้าวก่อนนะคะ"ปลายฝันพูดขึ้นอย่างหอบๆ พลางพลักอกใหญ่ๆของพ่อเลี้ยงออก"ไม่มี
"ที่แท้พ่อเลี้ยงตะวันกับคนพิภพก็เป็นพี่น้องกันหรือคะ เห็นเป็นข่าวใหญ่โตก็ไม่เห็นออกมายอมรับหลายๆคนนึกสงสัยและนำรูปมาเปรียบเทียบกันที่แท้พวกคุณก็หลอกสังคมอยู่นี่เอง ว่าพวกคุณไม่ใช่พี่น้องกันทั้งที่พวกคุณเป็นพี่น้องกัน"ของขวัญพูดขึ้นอย่างคนที่เหนือกว่าเขาเอาคำนี้ไปบอกนักข่าวรับรองว่าเป็นข่าวดังแน่ๆ"ผมไม่เคยบอกใครว่าผมกับตะวันไม่ใช่พี่น้องกัน และก็ไม่เคยยอมรับที่ไหนว่าเราเป็นพี่น้องกัน คุณว่าจริงหรือเปล่าครับ แล้วถ้าคุณจะเอาจุดนี้มาเป็นข้อได้เปรียบของพวกผมคุณคิดน้อยเกินไปแล้วล่ะครับคุณของขวัญ ตอนนี้ธุรกิจของผมก็ไปในทิศทางที่ดี ตะวันเองก็ไปในทิศทางที่ดีตอนนี้ถ้าทุกคนรู้ว่าเราเป็นพี่น้องกันชื่อเสียงของเราก็จะผลักดันกันครับ แต่เมื่อก่อนมันไม่ใช่เพราะถ้าทุกคนรู้ว่าพวกเราเป็นพี่น้องกันรั้งแต่จะฉุดให้อีกคนลงต่ำมา เพราะตะวันทำตัวเองไม่ได้เรื่อง มีแม่เลี้ยงที่พลอยอุ้มชูอยู่เท่านั้น คุณคงเข้าใจนะครับว่าทำไมผมไม่ออกมายอมรับว่าเขาคือน้องแต่ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธนะครับ"พิภพพูดขึ้นให้ของขวัญกระจ่าง แม่เลี้ยงเป็นคนวางแผนเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นให้เขาทั้งสองคนแยกกันอยู่เพราะเรื่องที่ว่าผู้หนึ่งได้ดี แล้วต้
ผับของตะวันเองไปได้สวยแล้ว ทางด้านแม่เลี้ยงก็เห็นเป็นอย่างดีจึงยอมที่จะให้ลูกชายจัดการไร่เองทั้งหมดรวมกับรายได้ของไร่ตะวันด้วย เขาจึงเรียกลูกชายทั้งสองกับลูกสะใภ้มาพร้อมๆกันที่ไร่ตะวัน"คุณพลอยไพลินฝากคุณหนูทั้งสองไว้กับป้าก็ได้นะ"ป้าสายพูดขึ้นเมื่อทั้งสี่เข้ามาถึงบ้านไร่ วันจึงเดินออกมาอุ้มน้องพริมและป้าสายก็จูงมือน้องพร้อมไป ทั้งสองจึงเข้าไปนั่งรอแม่เลี้ยงที่ห้องทำงานตะวัน ซึ่งตะวันก็นั่งรอพวกเขาอยู่แล้ว เมื่อคนทั้งสองมาปลายฝันจึงยกของว่างไปให้ทั้งสอง พลอยจึงยกน้ำส้มเข้าไปให้"สวัสดีคะพี่พิภพพี่พลอย ลองชิมขนมดูหน่อยค่ะปลายทำเองเลยนะ คุ๊กกี้สามรสค่ะ "ปลายฝันพูดและยื่นขนมให้กับพลอยไพลินลองชิม พลอยไพลินถือจานมาและหยิบไปหนึ่งชิ้นและวางจานลง ไม่นานแม่เลี้ยงก็เดินเข้ามานั่งอยู่หัวโต๊ะ ตะวันกับพิภพก็นั่งข้างๆและถัดมาปลายฝันกับพลอยไพลินก็นั่งตรงข้ามกัน"วันนี้ที่แม่เรียกทั้งสองมาก็เพราะว่าแม่เห็นว่าเกือบหนึ่ง ปีที่ผ่านมานี้ไร่ของตะวันดำเนินไปด้วยความสะดวกแล้ว แม่ต้องขอบคุณที่ปลายฝันเข้ามาช่วยตะวันดูแลไร่ ค่าใช้จ่ายในไร่ของตะวันลดน้อยลงแต่ก็ไม่ทำให้คนงานเดือดร้อน รวมทั้งค่าน้ำค่าไฟค่ากินค่
หลังจากที่ตะวันไปที่ผับแล้วก็เอาโทรศัพท์มาดูที่ปลายฝันตั้งหน้าโปรไฟล์ facebook ขึ้นว่าผับตะวันแล้วเขาก็นำรูปที่ตะวันถ่ายไว้ในโทรศัพท์ออกมาเป็นรูปโปรไฟล์ ตะวันจึงโทรไปหามานพเพื่อนที่อยู่นครพนมบอกให้เพิ่มเพื่อนกับเขาทางเฟสบุ๊ค"โถแต่ก่อนมึงไม่อยากจะมีเฟสทำไมตอนนี้ถึงมีเฟสได้ว่ะ"มานพถามขึ้น"แล้วมันไม่ดีหรอวะถ้ากูมีเฟสนะ"ตะวันพูดขึ้น"ก็ดีน่ะสิเพราะมึงทำงานเกี่ยวกับผับถ้ามึงเข้าถึงคนจำนวนมากได้ก็จะเป็นผลดีต่อมึงแล้ว อีกอย่างมันมีประโยชน์กับการที่มึงจะไปหาแหล่งซื้อเหล้าซื้อเบียร์พวกนี้ด้วยจะได้ของที่ถูกและดีขึ้น"มานพพูดแล้วเพิ่มเพื่อนตะวันไป หลังจากที่ตะวันเพิ่มเพื่อนไปหลายๆคน เขาก็นึกสงสัยเกี่ยวกับการแต่งงานของของขวัญจึงเข้าไปดูในเฟสของของขวัญ ก็พบว่าไม่ได้มีการแต่งงานหรืออะไรทั้งนั้น ตะวันจึงเข้าไปดูเฟสของธาวินเขาก็พบกับรูปแต่งงานตรงหน้าโปรไฟล์จึงกดเข้าไปดูก็พบว่าเป็นธาวินกับของขวัญจริงๆด้วย เขาช่างโง่เง้าเสียเหลือเกิน วันนั้นมันน่าจะเป็นข่าวใหญ่พอสมควร แต่เพราะเขามัวแต่อยู่ในไร่ไม่สนใจโทรทัศน์ข่าวคราวใดๆและไม่เล่นโซเชียลจึงทำให้เขาเหมือนคนโง่ มีคนงานในไร่พยายามที่จะพูดแต่พอแม่เลี้ย
หลังจากที่พ่อเลี้ยงกลับมาตอนบ่าย ๆ ก็กินข้าวเสร็จก็ถามหาปลายฝัน ตัววันดี เองก็ทำหน้าลำบากใจ เขาต้องเล่าให้พ่อเลี้ยงฟังหรือไม่ว่าคุณของขวัญมาที่ไร่ ทางคุณของขวัญก็ไม่ได้บอกว่าให้บอกพ่อเลี้ยงสักหน่อยแล้วพ่อเลี้ยงยัง ถามหาปลายฝันอีกไม่ใช่จะเอาเรื่องเขาหรือ วันดีคิดมากเหมือนคนทำผิดใหญ่หลวง"คุณปลายฝันไปทำงานตั้งแต่กลับมาแล้ว หลังจากทำกับข้าวให้พ่อเลี้ยงเสร็จก็ไปทำงานเลย พ่อเลี้ยงจะให้ป้าโทรตามคุณปลายฝันกลับมาหรือเปล่า วันนี้คุณของขวัญเข้ามาหาพ่อเลี้ยงด้วยแต่ก็มานั่งสักพักเขาไม่ได้รอและก็ออกไป"ป้าสายยืนรายงานพ่อเลี้ยงอยู่ พ่อเลี้ยงจึงเหลือบตาไปมองวันดีแป๊บนึง ทำให้วันดีก้มหน้าหลบทันที"โทรให้คุณปลายมาพบผมที่ห้องทำงานแล้วกันครับป้า วันดียกน้ำส้มไปให้ผมกับคุณปลายในห้องทำงานผมด้วย"หลังจากสั่งงานเสร็จพ่อเลี้ยงก็ขึ้นห้องไป ป้าสายจึงรีบโทรตามคุณปลายฝัน และเตรียมน้ำส้มให้ทั้งสองถ้าทั้งสองเข้าห้องทำงานแล้วจะได้ให้วันดียกไป"เป็นอะไรวันดีแกกำลังทำตัวมีพิรุธอยู่ ถ้าคุณปลายกับพ่อเลี้ยงเข้าไปในห้องทำงานแล้วยกน้ำส้มไปให้อย่าทำตัวมีพิรุธ อย่าทำให้น้ำส้มหกเลอะเทอะล่ะเดี๋ยวจะโดนโกรธ"ป้าสายพูดขึ้นและสั
ทางด้านตะวันเมามายได้ไม่นาน คนที่ผับติดต่อไม่ได้ก็ต้องโทรเข้าเบอร์บ้าน เพราะตอนนี้ของเริ่มหมดสต็อกอีกแล้ว พวกเขาต้องให้พ่อเลี้ยงตะวันอนุมัติเท่านั้นจึงต้องเร่ง"พ่อเลี้ยง คนทีผับโทรมาว่าติดต่อพ่อเลี้ยงไม่ได้ เขาว่ามันสำคัญมากป้าเลยเดินมาบอก"ป้าสายขึ้นมาบอกพ่อเลี้ยง"มีรถไปรับคุณปลายฝันกับวันดีแล้วหรือ เดียวผมจะออกไปผับเลยแล้วกันให้พลอยขึ้นมาเก็บห้องให้ด้วยนะครับเอาของพวกนั้นไปทิ้งให้หมดเลย"ตะวันพูดขึ้นพลางชีไปที่มุมห้อง"คนขับรถไปรับคุณปลายตั้งแต่เช้าแล้ว คุณตะวันจะกินอะไรก่อนไหมเดียวป้าไปทำให้"ป้าสายถามขึ้น"ไม่ต้องครับเดี๋ยวคุณปลายกลับมา แล้วให้เขาทำไว้รอผมแล้วกัน ผมอาบน้ำแล้วจะรีบไปพักเลย"ตะวันพูดขึ้นแล้วรีบไปอาบน้ำ ป้าสายจึงให้พลอยขึ้นมาทำความสะอาด แล้วให้คนงานขึ้นมายกของที่พ่อเลี้ยงต้องการทิ้ง ตะวันออกมาจากห้องน้ำเห็นพวกคนกำลังขนของลงไปเขาก็ไม่ได้ใส่ใจ และออกไปจากบ้านขับรถออกไปทันที"แม่เลี้ยงพ่อเลี้ยงออกไปแล้วค่ะ แล้วก็ให้คนงานขนของในห้องพ่อเลี้ยงออกไปทิ้งเป็นจำนวนหนึ่งน่าจะเป็นของของคุณของขวัญ"ป้าสายโทรไปรายงานแม่เลี้ยง"ดีแล้วล่ะเตรียมตัวรับมือกับของขวัญให้ดีแล้วกันเหมือ