- 1 - ซินเดีย
สี่ปีต่อมา
“ปัดโธ่เว้ย!”
ร่างระหงในชุดเสื้อเชิ้ตทับด้วยสูทสั้นตัวนอกสีน้ำตาลอ่อน กระโปรงสั้นอย่างสาวทำงานออฟฟิศ บ่นพึมขณะวาดท่อนขาฟาดเท้าเข้าตรงล้อยางด้านหน้าแล้วพลันกระโดดหย่ง
“โอ๊ย! อะไรกันนี่ ทำไมเช้านี้ถึงได้ซวยแบบนี้”
มือเรียวยกขึ้นปาดเหงื่อเม็ดโตที่ผลุดตามไรผมบนหน้าผาก เหลียวมองหาคนช่วยแต่ดูเหมือนคนเมืองกรุงช่างแล้งน้ำใจ เธอก้มศีรษะมองรถหรูคันสวยอีกครั้งด้วยดวงตารีคมฉุนเฉียว
ซินเดีย ทรงโอสถ หรือ เดียร์ ที่เพื่อนคนสนิทใช้เรียกกำลังหัวเสียขนาดหนัก เธอมุดเข้าไปในคว้ากระเป๋าหรูสีดำทำจากหนังแกะ ล้วงโทรศัพท์รุ่นใหม่เอี่ยมราคาครึ่งแสนปัดหารายชื่อที่ต้องการ
“พ่อคะ เดียร์รถเสีย ค่ะ ยางแตก ไม่ค่ะ ไม่ค่ะ เดียร์ว่าน่าจะโดนตะปูหรืออะไรสักอย่าง พ่อให้ลุงภพมารับหน่อยได้ไหมคะ เดียร์ต้องรีบไปเข้างาน ค่ะ ขอบคุณค่ะพ่อ เดียร์ส่งพิกัดให้นะคะ”
เธอปัดวางสายพ่อ หรือ นายอานนท์ ทรงโอสถ เจ้าของธุรกิจผลิตยาและนำเข้ายักษ์ใหญ่ระดับประเทศ คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นเคาะเท้ากับพื้นคอนกรีตแล้วมองหาที่ร่มหลบแดด เหลียวมองเห็นร้านแม่ค้าขายไก่ย่างข้างทางใกล้กับศาลารอรถ
“ป้าคะ ขอไก่ย่างสองไม้ ข้าวเหนียวห่อ”
ป้าแม่ค้ามองเธอตั้งแต่หัวจดเท้า ตวัดมองหน้าเธออีกครั้งจึงค่อยพูดขึ้น
“กินได้เหรอแม่หนู ไม่กลัวท้องเสียหรือไง”
“ฮึ ไม่กลัวหรอกค่ะ”
“ป้ารับแต่เงินสดนะ”
ซินเดียควานหาเงินก้นกระเป๋าที่เธอมักมีติดไว้เสมอ
“นี่คะป้า”
“รถเป็นอะไรล่ะหนู”
“ยางรั่วค่ะ ไม่รู้โดนอะไร คนยิ่งรีบ ๆ อยู่”
“ขอบใจนะ นั่งรอในศาลาก่อนสิ”
ซินเดียเหลียวมองด้านหลัง ศาลาไม้หลังเก่าแต่ยังพอขึ้นไปนั่งได้ จึงรับไก่ย่างข้าวเหนียวจากป้าแม่ค้าแล้วนั่งรอคนขับรถมารับ ปัดมือถืออีกครั้งหาเพื่อนสนิท โบนิตา
“โบ”
“ว่า”
“รถยางรั่วอยู่ข้างทาง เราฝากขึ้นไปลางานหัวหน้าให้หน่อยสิ”
“เออ ได้ แต่เร็ว ๆ นะ บอสใหญ่กำลังมา”
“โธ่! เรามันพนักงานตัวเล็กตัวน้อย เขาไม่ใส่ใจเราหรอกโบ”
“ของอย่างนี้ไม่แน่ เร็ว ๆ ล่ะ”
“เฮ้อ! เร็วเท่าที่จะทำได้แล้วกัน ขอบใจนะ”
“จ้าเพื่อน”
ซินเดียยกไก่ย่างขึ้นรูดในปากระหว่างรอคนขับรถพลางนึกถึงบอสใหญ่ที่กำลังกลับมาจากเมืองนอกวันนี้
แปร๋นนน!!
เสียงบีบแตรรถดังขึ้นท้ายรถหรูมองไปเห็นรถที่บ้านมารับแล้ว ซินเดียรีบลุกขึ้นคว้ากระเป๋า
“ป้าคะ ไปก่อนนะคะ วันหลังจะมาอุดหนุนใหม่”
“จ้า ขอบใจนะ”
เป็นเช่นนี้เสมอ เธอมักคุ้นเคยและทำตัวติดดินแม้ว่าฐานะทางบ้านเข้าขั้นมหาเศรษฐี อาจเพราะเคยไปใช้ชีวิตเมืองนอกตามลำพังตั้งแต่มัธยม
ปัง!!
“ลุงภพ เหยียบให้มิดเลยค่ะ เดียร์กำลังจะสายแล้ว”
“ครับคุณหนู”
รถหรูคันใหญ่กว่าถูกเร่งความเร็วเต็มที่ฝ่ารถติดของเมืองหลวงมุ่งหน้าสู่อาคารสูงเสียดฟ้ากลางมหานคร ย่านถนนสายสำคัญเส้นเลือดธุรกิจของประเทศ
ถึงเสียที...
ซินเดียแทบพุ่งตัวออกจากรถเมื่อลุงภพจอดหน้าบันไดยาวทางขึ้น วันนี้บริษัทดูโล่งไปถนัดตาคงเพราะเจ้านายคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเทคโอเวอร์บินตรงมาจากต่างประเทศ
ตั้งแต่เธอเรียนจบกลับมาจากเมืองนอก เธอได้งานทันทีกับบริษัทสายการบินชั้นนำระดับโลก และตามปกติเธอมักหมกมุ่นอยู่กับงาน งาน งาน เวลาเผลอไปไม่นานกว่าจะนี้รู้ตัวอีกครั้งเธอกลายเป็นสาวขึ้นคานเสียแล้วในวัยยี่สิบเจ็ดปี คู่ชีวิตของเธอคงมีเพียงตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายขาย
ติ๊ง!!
“ลลิต ลลิต”
“ค่ะ ค่ะ คุณเดียร์”
เลขานุการหน้าห้องในชั้นสี่สิบวิ่งพรวดพราดออกมาจากห้องกาแฟเมื่อได้ยินเสียงใสของเจ้านายสาว
“บอสคนใหม่เข้ามาหรือยัง”
“มาแล้วค่ะ กำลังประชุม”
“แย่แน่เรา เข้าประชุมดีไหมนะ”
ซินเดียวางกระเป๋าถอดเสื้อสูทพาดพนักเก้าอี้แล้วรับกาแฟมาจากเลขาสาว
“ขอบใจนะ ถ้าทุกเช้าไม่ได้กาแฟจากลลิตฉันคงขาดใจตายแน่”
“แหม คุณเดียร์ก็ชมเกินไป ลลิตไม่ลาออกไปไหนง่าย ๆ หรอกค่ะ”
ลลิตวางแฟ้มงานของวันนี้ลงตรงหน้าแล้วถอยห่างรอให้เจ้านายสาวอ่านลงลายมือชื่อ
“อะไรเนี่ย สรุปการเงินไตรมาสนี้ ฝ่ายบัญชีทำเร็วเกินไปหรือเปล่ายังไม่ถึงเวลาเลย”
“คำสั่งโดยตรงจากเบื้องบนค่ะ” ลลิตทำท่าชี้นิ้วขึ้นฟ้าไปยังชั้นบนของอาคาร
ซินเดียเลิกคิ้วซ้ายมองเลขานุการตรงหน้ากำลังยิ้มแห้งให้ จึงถอนหายใจเหนื่อยอก การมาถึงของบอสหนุ่ม ประธานบริษัทแอร์แพลนแอร์ไลน์คนใหม่ทำทุกอย่างในบริษัทโกลาหลตั้งแต่เบื้องล่างยังระดับสูง
ปึก!!
“โชคดีนะที่เราอยู่คนละชั้นกัน ฉันว่าป่านนี้ชั้นสี่สิบห้าคงกำลังวุ่นน่าดู”
“ใช่ค่ะ ตอนนี้คุณโบกำลังกุมขมับอยู่ค่ะ” ลลิตส่งมือออกหยิบแฟ้มกลับมาถือไว้
“แน่ล่ะ เลขานุการผู้บริหารโดยตรงต้องรับแรงกระแทกมากหน่อย”
“แหม...คุณเดียร์ ฟังแล้วไม่สงสารเพื่อนเลยนะคะ”
ซินเดียยิ้มหวานมุมปากแล้วยกข้อมือดูนาฬิกา
“สายมากแล้วคงใกล้เลิกประชุม”
“ค่ะ ลลิตขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
ซินเดียรอกระทั่งเลขาสาวเดินออกจากห้องทำงานจึงค่อยยกโทรศัพท์ขึ้นดูข้อความ
มาถึงหรือยัง บอสคนใหม่ถามหา
โบ
เธอนิ่วหน้าเล็กน้อย เธอเป็นเพียงฟันเฟืองตัวเล็ก ๆ เท่านั้น การประชุมเช้านี้ขาดเธอสักคนคงไม่ถึงกับทำให้เกิดเรื่องร้ายแรง มือเรียวยกโทรศัพท์เคาะปลายคางชั่งน้ำหนัก หากเธอโผล่ไปตอนนี้แสดงว่าเธอไร้ความรับผิดชอบ แต่ทว่าไม่ไปเลยคงหนักยิ่งกว่า
ตัดสินใจได้ดังนั้นจึงค่อยยึดร่างลุกจากเก้าอี้ คว้าแฟ้มเล็กติดมือไปด้วยแก้เก้อ
-25-nc จบบริบูรณ์อีธานกดศีรษะคนร่างเล็กลงจมฟูกแทนแล้วคว้าโทรศัพท์มาจากมือเล็กปัดรับสาย“ครับแม่ อีธานครับ เดียร์อยู่กับผมครับ ครับแม่ คงราวสามวันถึงจะได้กลับบ้านนะครับ ครับผมรับปากจะดูแลอย่างดีเลยครับแม่ สวัสดีครับ” พูดทั้ง ๆ ที่หอบหายใจหนักหน่วงซินเดียตาเบิกกว้างอยู่กับที่ ตัวดิ้นหนีแต่ได้แค่อึกอักดั่งปลาถูกกด เพราะมือแกร่งจับแน่นบนศีรษะ ท่อนล่างเสียบเสย หางตามองเห็นโทรศัพท์ถูกโยนตกมาตรงหน้า เขาวางสายแม่จันทร์นิลไปแล้ว“อีธาน คุณจะบ้าหรือไง นั่นคุณบอกอะไรแม่!”“อ่า แคบ หืมม์ แค่บอกเดียร์อยู่กับผมไง”“แต่ อ่า หยุดนะ อ่า อย่าเพิ่งกระแทกสิ อีธาน...”เสียงหวานขาดหายทันควันยามลำแกร่งเนื้ออุ่นสอดใส่เต็มลำรักกดแน่นคลึงเน้นก่อนกระทั้นถี่แรงขึ้น เขายืนบนพื้นให้หัวเข่าทาบขอบเตียงเป็นหลักขณะเสือกกายนำท่อนมังกรยักษ์สอดใส่ไม่ผ่อนปรนตับ ตับ ตับร่างระหงสั่นสะเทือนตามแรงตอกใส่ อีธานกระหนำลงร่องรักด้วยเรี่ยวแรงชายเต็มเปี่ยมไฟพิศวาสท่วมท้นทรวงอกอัดแน่นด้วยอารมณ์บางอย่างที่พัดพากระพือภายในมาหลายวัน เขากำเส้นผมดกหนาไว้ในมือกดแน่นเพื่อส่งแรงให้ร่างเล็กใต้ตัวสั่นไหวไปพร้อมกับเขา ใกล้แตะจุดสุดยอดแล้วช
- 24 ncอีธานรัดคนร่างเล็กกว่าไว้แน่นขณะจับเอวคอดให้เคลื่อนไหวดั่งใจต้องการ อีกมือรั้งชุดเดรสลงอีกกองบั้นเอวก่อนบีบเคล้นคลึงเนินนมกระเพื่อมไหวตรงหน้า ปากล้วงลึกเสาะหาความหวานล้ำอย่างที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน หรือเป็นเพราะใจของเขาเองต่างหากที่กำลังพองโตลำแกร่งทะลวงขึ้นแทรกกลีบอ่อนนุ่มบอบบาง ต้องการส่งให้สาวด้านบนถึงฝั่งฝันอย่างรุนแรงและรวดเร็ว“เดียร์ อ่า คนดี อ่า แคบ รัด ซี้ดด”เขาผละปากออกส่งเสียงครางแล้วเลื่อนลงหายอดหัวชูชันเต่งตึง ดูดกลืนและขบกัด วนหาเต้างามอีกข้างทำเช่นเดียวกันแล้วค่อยปาดเลีย คลุกหน้าลงกลางทรวงอกเบี่ยงปากครอบเนื้ออ่อนนุ่มดูดดึงเขารู้ว่าทำเช่นนี้จะทำให้เนินทรวงเป็นรอยช้ำเขียว แต่มันช่างให้ความรู้สึกที่ดียามมองเนื้อนวลขาวตรงหน้าขึ้นสีจากฝีมือตัวเอง อีกมือบีบขยำเสียวร้าวทั่วหน้าท้อง - - และยังไม่ทันได้ถอดกางเกง“ใกล้หรือยังเดียร์ อ่า ใกล้เสร็จหรือยัง”อีธานละมือออกจากทรวงงามเลื่อนลงหน้าท้องบีบคลึงก่อนหงายมือลงซอกหลืบเปียกฉ่ำหวาน“อีธาน อ่า”ร่างระหงคุกเข่าขยับถี่เคลื่อนขึ้นลงรูดท่อนเนื้ออุ่นร้อนเร่งเร้าดั่งเช่นคนใต้ร่าง มือแกร่งกุมเนื้อสวาทนิ่มอูมลงแรงบีบก่อนเลื่อนนิ
-23-ncอีธานล้วงนิ้วเข้าถุงน่องคลึงเนื้อนิ่มโคนต้นขาใกล้จุดลี้ลับก่อนดีดเพียะ!!คราวนี้เป็นซินเดียที่สะดุ้งสุดตัวยามถุงน่องดีดลงเนื้อโคนขา“ดึงเสื้อลง แล้วผมจะปราณีอย่างที่สุด”ซินเดียพวงแก้มแดงซ่านสะท้านไปทั่วร่างยามสันจมูกจดลงหัวเข่าแล้วเลื่อนไต่ขึ้นจากนั้นจึงหยุดเงยหน้าขึ้น“ไม่กล้า?”ริมฝีปากกระจับสาดสีแดงเต็มอิ่มเม้มคว่ำทันที เอื้อมมือขึ้นตั้งใจดึงลงพลันมือแกร่งรั้งข้อมือเธอไว้เสียก่อน“ช้า ๆ เดียร์ ค่อย ๆ เปิด” ว่าพลางยืดกายกลับไปที่เดิมนั่งเอนกายเท้าแขนลงฟูก มองภาพงดงามตรงหน้าด้วยสีหน้าคนเหนือกว่าพร้อมรอยยิ้มมุมปาก“อ่า เอาลงอีก” น้ำเสียงกระเส่าอีธานใจเต้นแรงจับจ้องเนินเนื้อนมขาวผ่องกำลังถูกเปิดเปลือยออกทีละน้อย นิ้วเรียวทาสีแดงเช่นกันเกี่ยวขอบชุดเกาะอกไว้ขยับกระทั่งเต้าซ้ายหลุดออกผัวะ! เฮือก!“ชอบแบบนี้เหรออีธาน”“ใช่ ชอบมาก อ่า ลองลูบนมตัวเอง ไม่ ไม่ ทำแบบวันนั้น บีบหัว ขยี้น้อย ๆ”ซินเดียปากสั่นยามเลื่อนนิ้วลงหัวนมสีชมพู ส่งนิ้วชี้และหัวแม่มือบี้ปลายเล็กน้อยคลึงวน“อา เดียร์ ผมแย่แน่ ๆ”เธอยกแชมเปญกระดกอมไว้ในปากแล้วปล่อยให้มันไหลลงผ่านลำคอ ลากนิ้วพาน้ำรสแรงลงเข้าหาปลายยอ
- 22 - ncแอ๊ด...คลิก...อีธานเดินนำเข้าห้องชุดที่เขามาเปิดไว้ก่อนเข้าไปในผับเมื่อหัวค่ำ ตรงไปยังโซฟาหยิบขวดแชมเปญแช่น้ำไว้แล้วอย่างดีขึ้นมาเปิดป๊อก!!มือรินแชมเปญราคาแพงลงแก้วสองใบ ตาลอบสังเกตคนร่างเล็กกว่า จากนั้นจึงเดินไปยังหน้าต่าง รูดม่านออกพลางจิบน้ำสีเหลืองรสแรงไปด้วย ก่อนหันกลับมามองซินเดียตรง ๆ ที่ดูเหมือนยังยืนสับสนอยู่กลางห้อง“ส่วนตัวแล้วเดียร์” อีธานยกแก้วขึ้น อีกมือผายออกดวงตาคมกล้ายังจดจ้องมองร่างระหงกำลังขยับเดินเข้ามาใกล้แล้วก้มลงหยิบแก้วแชมเปญยกดื่มรวดเดียวหมดก่อนรินอีกแก้วยกดื่ม“ระวังจะเมาแล้วพลาดของดีนะ”“คะ แค่ก ๆ ๆ”ด้วยความรีบร้อนยกดื่มทำให้ซินเดียสำลักเล็กน้อย เธอวางแก้วลงแล้วเดินเข้าไปหาร่างสูงใหญ่กระทั่งห่างกันราวสามก้าว - - นี่เธอไม่ได้นับทุกครั้งหรอก แต่บังเอิญว่าสังเกตเห็นอีธานยกแก้วขึ้นจิบเอียงร่างพิงกระจก กวาดสายตาขึ้นลงเชื่องช้ามองร่างตรงหน้าใกล้หมดความอดทนเต็มทน โดยเฉพาะเจ้าตาข่ายสีแดงสานตลอดทั้งท่อนขางาม ทำเอาเขาอยากจะรู้ว่าส่วนบนมันไปสิ้นสุดที่ตรงไหน“ฉันพูดไม่ค่อยเก่งเท่าไร”“พูดไม่ค่อยเก่ง..อ่า นั่นคงไม่จริง เมื่อครู่ตอนอยู่ในผับปากคุณค่อนข้าง
-21- ต่างระเบิดอารมณ์เขาดันร่างเธอไปด้านหลังใช้ร่างตัวเองบังไว้ พลางยืดกายตัวเองข่มคู่ต่อสู้ที่ร่างเล็กกว่า แต่ดูเหมือนว่าไอ้หมอนี่เองก็ไม่ยอม ทำท่าลุกขึ้นยืนแล้วจึงผงะถอยฉากเนื่องจากสูงเลยหัวไหล่อีธานมาเล็กน้อยเท่านั้นอีธานไม่พูดมากอะไรอีก หลุบตาลงมองผู้ชายร่างเตี้ยกว่าเย็นชาพิฆาตแล้วดึงข้อมือซินเดียออกเดินไปยังโต๊ะ“อีธานคะ เกิดอะไรขึ้น”เสียงหวานอ่อนนุ่มของนางแบบสาวทำให้ซินเดียชำเลืองมอง พลันโดนอีธานดันผลักออกให้ไปยืนข้างโบนิตา“ไม่มีอะไรหรอกลิซ สนุกต่อเถอะ คุณเฉินด้วยครับ ขอโทษด้วย”“แล้วนี่ใครกันครับ คุณอีธานไม่เห็นแนะนำให้รู้จัก”คิ้วเข้มกระตุกเบาแล้วค่อยเบือนหน้ากลับไปมองตัวต้นเหตุ ตัวปัญหาใหญ่ที่มาพร้อมชุดยั่วใจ เอ่ยขึ้นเสียงราบเรียบ“แค่..พนักงานในบริษัท” เสียงเย็นชา“ฉันชื่อซินเดียค่ะ เรียกเดียร์ก็ได้ค่ะ รองผู้อำนวยการฝ่ายขาย”“ยินดีอย่างยิ่งครับ มาครับ ชนแก้ว”ซินเดียมองหาแก้วของตัวเองแต่ไม่มีเลยแย่งเอาแก้วจากมือเพื่อนรักโบนิตามาก่อน ยื่นไปตรงหน้าแกร้ง!!“ค่ะ ชนค่ะ ยินดีที่ได้ร่วมงานกันค่ะ”อีธานคิ้วกระตุกอีกครั้ง ดูมาดสาวสังคมจัดชุดยั่วยวนยิ้มหัวร่อต่อกระชิกกับผู้ร่วมทุ
-20- ไม่รู้จะง้อยังไงแล้ว“อีธาน”ซินเดียเอ่ยเรียกทันทีขณะที่ประธานบริษัทหนุ่มกำลังเดินผ่านร่างเธอไป แต่ดูท่าท่านประธานจะยังงอนเพราะทำเพียงตวัดหางตาใส่จากนั้นเชิดหน้ากลับเดินออกห่าง - - ทำเป็นผู้หญิงไปได้ร่างระหงรีบโผออกจากมุมเสาออกเดินแกมวิ่งตามร่างสูงใหญ่ตรงหน้าแล้ววิ่งไปขวางทางยกมือกางออกทั้งสอง แหงนศีรษะขึ้นจ้องตา“ฉัน ฉันขอโทษ”เธอยื่นกล่องช็อกโกแลตขนาดเล็กให้แต่อีธานไม่รับ ยังคงหลุบตาก้มมองก่อนออกเดินเบี่ยงไปด้านซ้าย แต่ซินเดียก้าวเท้าขวางหน้าอีกครั้ง“อีธาน ฉันขอโทษที่พูดไม่ดี”คิ้วเข้มเริ่มขมวดแล้วก้าวไปด้านขวาพลันซินเดียก้าวขวางไว้อีกเช่นเดิม“ฉันพูดจากใจจริงนะ อีธาน คุณจะยกโทษให้ฉันได้ไหม”คราวนี้เขาก้มลงมองส่งสายตาเย็นชาให้แล้วจึงค่อยเปล่งเสียงทุ้มต่ำ“คุณไม่กลัวคนในบริษัทนินทาแล้วหรือเดียร์”“ไม่ ฉันไม่กลัวแล้ว อีธาน คุณหายโกรธฉันแล้วใช่ไหม”“ฮึ ผมจะไปมีสิทธิ์โกรธอะไรคุณกันเดียร์ ผมมันแค่ผู้ชายที่คุณเคยวันไนท์ด้วยเท่านั้น อ๋อ อาจจะพิเศษหน่อยตรงที่ได้เปิดซิง”พวงแก้มทั้งสองข้างของซินเดียแดงซ่านระเรื่อลามถึงลำคอรีบหันมองซ้ายขวาก่อนผ่อนลมหายใจเมื่อไม่เห็นใคร“เห็นไหม คุณยังก