ข้อเท้าเรียวของซูชิงอวี่เหมือนเป็นปีกผีเสื้อที่บอบบางอยู่ในมือของเขา เขาก็ทำให้แตกได้อย่างง่ายดายลี่ถิงเชินโค้งตัวค่อยเข้าไปใกล้เธออย่างช้าๆใบหน้าเล็กๆ ที่ตื่นตระหนกของเธอสะท้อนในดวงตาสีดำของเขา คำปฏิเสธของเธอก็จุดไฟครั้งสุดท้ายของใจเขาหัวใจของซูชิงอวี่เต้นแรงตึกตักตึกตัก เธอรู้สึกตะลึงและโกรธหนักมากมันทำให้เธอร้องตะโกนออกไปอย่างสุดเสียงว่า "อย่าใช้มือเคยแตะตัวคนอื่นมาแตะตัวฉัน! ปล่อยมือสกปรกของคุณออกไปซะ!"อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมาลี่ถิงเชินอุดปากของเธอ ระงับคำพูดของเธอไว้ซูชิงอวี่จ้องมองไปที่ดวงตากลมโตของเธอและส่ายหน้าอย่างบ้าคลั่งเพื่อที่จะหลุดพ้นจากการควบคุมของเขา มือของฝ่ายชายได้ช้อนคอเธอขึ้นมาอย่างช้าๆ และบังคับให้เธอหงายหน้าที่มอบบทลงโทษเธอด้วยการจูบลมหายใจที่ชัดเจนและหยาบคายจะเข้าสู่ปากของซูชิงอวี่อย่างต่อเนื่อง เมื่อคิดว่าริมฝีปากของเขาอาจเคยจูบไป๋หยวนหยวน ซูชิงอวี่ก็รู้สึกน่าขยะแขยงมากโดยไม่รู้ว่าเธอได้พลังมาจากไหน เธอจึงผลักลี่ถิงเชินออกไป นอนบนขอบเตียงแล้วอาเจียนเมื่อเธออาเจียนเสร็จและหันกลับมา ใบหน้าหล่อเหลาของลี่ถิงเชินดูเหมือนจะเต็มไปด้วยขี้เถ้าหม้อ เกื
ซูชิงอวี่พนันกับตัวเองถ้าลี่ถิงเชินยังรักเธออยู่ งั้นการตายของเธอจะกลายเป็นไพ่ตายใบสุดท้ายเพื่อแก้แค้นเขาแม้ว่าเธอจะตายจริงๆ เธอก็ต้องให้เขารู้สึกไม่สบายใจไปตลอดชีวิต!แน่นอนว่าถ้าเขาไม่รักเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะบอกอาการป่วยของตัวเองให้เขาได้รับรู้ มันก็เสียแรงเปล่า และทำให้ไป๋หยวนหยวนหัวเราะเยาะตัวเองเท่านั้นเธอออกจากห้องน้ำ ก็เห็นแม่บ้านจางทำอาหารดีเยี่ยมบนโต๊ะแล้ว ซึ่งเป็นอาหารที่เธอชอบกินในอดีตซูชิงอวี่ชวนแม่บ้านจางมาร่วมกินด้วยกัน แม่บ้านจางเช็ดมือด้วยผ้ากันเปื้อนแล้วนั่งข้างๆ ซูชิงอวี่และตักแกงให้เธอ "ไก่ดำตุ๋นแปะก๊วยกับเม็ดบัวชามนี้ นายน้อยสั่งให้ฉันต้มค่ะ ฉันรู้ดีว่าใจของนายน้อยเขามีคุณนายอยู่เสมอนะ"อาหารเย็นนี้มีรสชาติที่เลี่ยนและเผ็ดมาก กลิ่นของพริกแกงและพริกหอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้องซูชิงอวี่ชอบอาหารเสฉวน ลี่ถิงเชินชอบอาหารกวางตุ้ง ก่อนหน้านี้โต๊ะอาหารของพวกเขามักจะมีอาหารหลายชนิดที่แตกต่างกันอย่างหลากหลายแต่ตอนนี้เธอเป็นโรคกระเพาะ ไม่สามารถกินอาหารรสเข้มอย่างนี้ได้อีกแล้ว"คุณนายทำไมไม่กินนะ ฝีมือของฉันก็ยังดีอยู่นะ นายน้อยกินที่บ้านทุกครั้งก็จะให้ฉันทำอาหารเผ็ดๆ
คำเรียกที่ไม่ได้ยินมานานดังขึ้น ซูชิงอวี่เหมือนถูกคนกดจุด ท่าทางที่เหม่อค้างอยู่ลืมการตอบสนองไม่รู้ว่าเขาดื่มเหล้าไปมากแค่ไหนถึงได้เมาอยู่ในสภาพนี้ได้ เหมือนกับทั้งคู่ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกัน โดยที่เขาโอบซูชิงอวี่ไว้ในอ้อมกอดด้วยความเคยชินซูชิงอวี่ถูกเขาโอบกอดเอาไว้ สัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่คุ้นเคยและรุ่มร้อนของชายหนุ่ม สำหรับซูชิงอวี่แล้วมันมีผลกระทบเป็นอย่างมากเธอตั้งสติยื่นมือออกไปผลักเขา แต่กลับถูกลี่ถิงเชินยกนิ้วมือมาวางไว้บนริมฝีปากเพื่อจูบริมฝีปากที่มีความร้อนสัมผัสหลังมือของเธอเบา ๆ ปากยังบ่นพึมพำว่า “ที่รัก คุณไปไหนมา? ผมตามหาคุณนานมากเลยนะ”ซูชิงอวี่อดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ และน้ำตาก็ไหลรินออกมา ราวกับว่าน้ำตาทั้งชีวิตนี้ของเธอได้ไหลออกมาในปีนี้จนแห้งเหือดไปหมดแล้วเธออดกลั้นความโศกเศร้าแล้วพูดขึ้น “คุณไม่ใช่เหรอที่ผลักไสฉันด้วยน้ำมือของคุณเอง?”“พูดซี้ซั้ว” ลี่ถิงเชินกอดเธอไว้แน่นขึ้นกว่าเดิม ริมฝีปากที่มีกลิ่นเหล้ายังคงวางตรงที่หลังใบหูของเธอ “คนที่ผมรักที่สุดในชีวิตนี้ก็คือคุณ แล้วผมจะทำใจผลักไสคุณออกไปได้อย่างไร?”ซูชิงอวี่ผลักเขาแล้วถามขึ้นว่า “ลี่ถิงเชิน คุณดูให้ดีว
ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้?เธออยากกลับไปเมื่อสองปีที่แล้วมาก ๆ สมัยที่ไร้ทุกข์ไร้กังวล“ผมอยู่ ผมอยู่นี่” เขาตอบรับเธออย่างใจเย็นซูชิงอวี่รู้ว่าความอ่อนโยนของเขาในตอนนี้ก็แค่ชั่วคราว เธอก็ไม่ควรจะใกล้ชิดกับเขาอีก แต่เธออดไม่ได้ที่อยากจะฉุดรั้งความอบอุ่นเพียงน้อยนิดนี้เอาไว้ลี่ถิงเชิน ถ้าหากคุณยังเป็นคุณคงจะดีไม่น้อย?…ลี่ถิงเชินตื่นขึ้นมาตอนรุ่งสาง ยังไม่ลืมตาก็รู้สึกได้ว่ามีคนอยู่ในอ้อมแขนเมื่อนึกถึงขวดเบียร์เปล่ากองนั้นที่เขาดื่มเมื่อคืน เขาดื่มเก่งมาก บวกกับเขาควบคุมได้เพียงพอ และเรื่องที่จะดื่มจนสลบแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นกับเขาอย่างแน่นอนเขาปวดหัวรุนแรง ทำอย่างไรก็นึกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ออก เขารู้สึกกระวนกระวาย หรือแม้กระทั่งไม่กล้าลืมตาไปเผชิญหน้าจนกระทั่งเขาเตรียมใจพร้อมถึงได้ลืมตาขึ้น ในตอนที่เห็นว่าผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนคือซูชิงอวี่ถึงได้โล่งอกขึ้นมาได้แต่วินาทีต่อมาเมื่อนึกถึงสถานการณ์ในตอนนี้ของทั้งสองคนขึ้นมาได้ เขาจึงจะผลักร่างกายของหญิงสาวออกอย่างแรงทันทีในตอนที่เขาอยากจะดึงแขนกลับ จู่ ๆ สายตากลับมองไปยังใบหน้าของซูชิงอวี่ การเคลื่อนไหวของเขาหยุดลง
ประตูห้องน้ำถูกคนผลักออกอย่างแรง ทำให้ซูชิงอวี่ที่เพิ่งเก็บกวาดเส้นผมเสร็จตกใจอย่างมาก เธอมองไปทางเขาอย่างประหม่า “คุณ…”ยังพูดไม่ทันจบก็เห็นลี่ถิงเชินที่เปลือยร่างกายท่อนบน ร่างกายที่กำยำล่ำสันของชายหนุ่มพุ่งเข้าดวงตาของเธอโดยไม่มีลางบอกทั้ง ๆ ที่มีลูกกับเขาแล้วด้วยซ้ำ ภาพที่ไม่ได้เห็นนานกว่าหนึ่งปียังคงทำให้ซูชิงอวี่รู้สึกไม่คุ้นชิน เธอจึงเบนสายตาไปทางอื่นอย่างรวดเร็วเงาของชายหนุ่มพาดปกคลุมใบหน้าของเธอ ลมหายใจอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาแฝงไปด้วยความร้อนกรุ่นพุ่งเข้ามา ซูชิงอวี่ขดตัวด้วยสัญชาตญาณ จ้องมองเขาด้วยความระแวง “คุณจะทำอะไร?”ลี่ถิงเชินก้มตัวลงช้า ๆ ดวงตาดำเข้มมองไปยังใบหน้าซีดขาวของเธอแล้วถามขึ้น “ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าป่วย คุณป่วยเป็นอะไร?”ซูชิงอวี่สบตาเข้ากับดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยการสำรวจ ในใจรู้สึกซับซ้อนเป็นอย่างมากดวงตาคู่นั้นไม่มีความเย้ยหยัน เหยียดหยามและเย็นชา เขากำลังถามอาการป่วยของเธออย่างจริงใจในตอนนี้ซูชิงอวี่อารมณ์ซับซ้อน จู่ ๆ เธอก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว หากเธอบอกลี่ถิงเชินตอนนี้ เขาจะรู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาทำก่อนหน้านี้บ้างไหม?เห็นเธอลังเลใจ ลี่ถ
ซูชิงอวี่ยิ่งอยู่ยิ่งไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้ เปลี่ยนหน้าไวยิ่งกว่าพลิกหน้าหนังสือเสียอีกเมื่อก่อนคนที่อยากหย่าร้างก็คือเขา ตอนนี้เมื่อเอ่ยถึงเรื่องหย่าคนที่พาลโกรธก็ยังเป็นเขา หรือว่าเขาจะสะเทือนใจเพราะการตายของน้องสาวจนกลายเป็นโรคจิต และเข้าวัยทองล่วงหน้าแล้วงั้นเหรอ?ตอนที่ลี่ถิงเชินอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมา ซูชิงอวี่ยังคงนอนอยู่บนเตียง หันหลังให้กับเขาไม่มีการบอกลาที่อืดอาดยืดยาดเหมือนเมื่อก่อน มีเพียงเสียงปิดประตูที่เย็นชาซูชิงอวี่รู้ว่าร่างกายของตัวเองหลายวันมานี้อ่อนแอเกินไป ทำอะไรก็ไม่สะดวก เธอจึงไม่ต่อต้านสักเท่าไหร่ในการแต่งงานครั้งนี้มีเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนไปก็คือแม่บ้านจางที่มีน้ำใจ ทุกวันจะสวมผ้ากันเปื้อน ถือตะหลิวเตรียมอาหารอร่อยเอาไว้ให้เธอด้วยความตั้งใจ“คุณนาย วันนี้ฉันทำซุปโสมพุทราจีนบำรุงเลือดลม คุณดื่มเยอะ ๆ หน่อยนะคะ”ซูชิงอวี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “แม่บ้านจาง คุณช่วยต้มซุปปลาให้ฉันเยอะๆหน่อยนะ”“ค่ะ”แม่บ้านจางมองสภาพอากาศข้างนอก “หิมะตกหนักเต็มลานบ้าน คุณนายไม่ออกไปเล่นหิมะเหรอคะ? ฉันจำได้เมื่อก่อนคุณชอบลากคุณชายไปเล่นปาหิมะที่สุด ความสัมพันธ์ชายหญิง
เธอกำลังดูอย่างใจลอย เสียงของลี่ถิงเชินที่ดังขึ้นกะทันหันทำให้ซูชิงอวี่ตกใจจนล้มลงบนพื้น และเอกสารที่อยู่ในมือก็ตกกระจัดกระจายเต็มพื้นไปหมดปกติกลางดึกลี่ถิงเชินถึงจะกลับมา ทำไมวันนี้เขาถึงกลับมาเร็วแบบนี้ได้?ถึงแม้ทั้งคู่ยังเป็นสามีภรรยากัน การกระทำแบบนี้ของเธอก็น่าอับอายมาก ยิ่งไปกว่านั้นเธอรู้ว่าลี่ถิงเชินเกลียดคนที่ทำอะไรลับหลังมากที่สุดซูชิงอวี่กลืนน้ำลาย พูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติ “คุณ คุณกลับมาแล้วเหรอ”ลี่ถิงเชินไม่รู้ไปเข้าร่วมงานอะไร สวมชุดเป็นทางการสีขาวดำ ชุดสูทเน้นให้เห็นรูปร่างสูงใหญ่ของเขา ดวงตาเย็นชาคู่นั้นมองไปที่ตัวเธอ ซูชิงอวี่ก็รู้สึกเหมือนตัวเองเข้าไปอยู่ในห้องน้ำแข็งเขาค่อยๆก้าวขาที่เรียวยาวมาทางเธอ และถอดเสื้อสูทออกอย่างช้าๆ เขาเกิดมาก็เป็นคุณชายที่คาบช้อนเงินช้อนทอง อากัปกิริยาท่าทางจึงมีออร่าความเป็นผู้ดีอยู่เต็มเปี่ยมทั้งที่เป็นแค่ท่าทางการถอดเสื้อ ซูชิงอวี่ก็กลับตกใจจนอกสั่นขวัญหาย เธออยากหนีไป แต่เท้าเจ้ากรรมก็เหมือนถูกคนกดจุดเอาไว้ขยับเขยื้อนไม่ได้เลยแม้แต่น้อยก่อนที่จะคบกับลี่ถิงเชิน เขาถูกคนยกย่องว่าเป็นปีศาจกินคนที่ทำได้ทุกอย่างและตอน
ซูชิงอวี่เงียบสนิท เธอรับรู้ได้เป็นอย่างดี ก็เหมือนที่ลี่ถิงเชินเมื่อก่อนรักใคร่ตามใจเธอเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้กลับโหดเหี้ยมถึงที่สุด เธอพูดไม่ได้ว่าเขาเปลี่ยนไป เพียงแค่ด้านนี้เธอเพิ่งเคยได้เห็นก็เท่านั้นลี่ถิงเชินยังเป็นแบบนี้ ซูฉี่ผิงก็มีความเป็นไปได้ซูชิงอวี่โต้แย้งด้วยเสียงที่เบามาก “ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาก็ไม่มีทาง…ฆ่าคน”นิ้วมือของลี่ถิงเชินลูบไล้แก้มของซูชิงอวี่อย่างเชื่องช้า “ซูซู คุณไร้เดียงสาจริง ๆ งั้นคุณก็คิดใช่ไหมว่าผมไม่มีทางจากคุณไป?”เสียงที่แนบชิดและคลุมเครือแบบนั้น ราวกับว่าเขายังคงเป็นคนรักที่อ่อนโยนข้างกายเธอในอดีต แต่ในดวงตาของเขาไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดความคิดของซูชิงอวี่ถูกเขาจิ้มถูกจุด ใช่ เธอเคยคิดจริง ๆ ว่าเขาจะไม่มีทางเปลี่ยนใจตลอดกาล จนกระทั่งเธอเห็นข่าวที่เขาประคองไป๋หยวนหยวนปรากฏตัวที่สนามบิน และความจริงนั้นก็ตอกเธอกลับมาอย่างแรงลี่ถิงเชินพูดต่อ “คุณอยากรู้ความจริงมาโดยตลอดไม่ใช่เหรอ วันนี้ผมจะบอกคุณเอาไว้เลยนะ ซูฉี่ผิงไม่ยอมเก็บเด็กคนนั้นไว้ ยิ่งไม่ยอมสร้างครอบครัวกับเสี่ยวหลุ่ย สามเดือนแรกเป็นช่วงเวลาทำแท้งที่ดีที่สุด วันนั้นพวกเขาโต้เถี