Home / โรแมนติก / ปราถนารัก / จุดเริ่มต้นของความเกลียดชัง

Share

จุดเริ่มต้นของความเกลียดชัง

Author: Darann
last update Last Updated: 2025-05-03 23:35:00

คิมหันต์ จุดเริ่มต้นของความเกลียดและความกลัวที่ฉันมีต่อผู้ชายคนนี้…มันเริ่มตั้งแต่ตอนไหนกันนะ? พอมาคิดๆดูแล้ว…มันเริ่มตั้งแต่แรกเลยนี่ ฉันเกลียดผู้ชายคนนี้ ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ในบ้านตระกูลอัศวนันทร์เลยด้วยซ้ำ

“เกวลิน! ต่อไปนี้เธอมาอยู่ที่บ้านหลังนี้นะ ฉันจะส่งเสียเลี้ยงดูเธอเอง” นี่คือคำพูดของคุณกรณ์หรือท่านประธานที่พูดกับฉันไว้เมื่อเจ็ดปีก่อน

เมื่อเจ็ดปีก่อนฉันสูญเสียพ่อไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ พ่อฉันถูกคนขับรถของตระกูลอัศวนันทร์ขับรถชนจนเสียชีวิต หลังจากงานศพพ่อหนึ่งอาทิตย์ ฉันกับแม่ก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และจากอุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ฉัน…สูญเสียแม่ไปด้วยอีกคน ส่วนตัวฉัน…ฉันจำเหตุการณ์ตอนที่ตัวเองโดนรถชนไม่ได้เลย พอรู้สึกตัวอีกทีก็ตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลแล้ว

ภายในเวลาแค่เดือนเดียวฉันสูญเสียทั้งพ่อและแม่ไปทั้งคู่

เหตุการณ์นี้มันสร้างความเจ็บปวดให้ฉันที่อายุแค่สิบสามปีในตอนนั้นเป็นอย่างมาก เพราะชีวิตฉันนอกจากพ่อแม่แล้วฉันก็ไม่เหลือใครให้พึ่งพิงอีกเลย

จนกระทั่ง…คุณกรณ์ คนที่เป็นเจ้านายของคนที่ขับรถชนพ่อฉันเข้ามาหา เขาบอกว่าเขารู้สึกผิดกับสิ่งที่ลูกน้องเขาทำไป เลยต้องการจะรับผิดชอบฉัน ด้วยการรับอุปถัมภ์ฉัน เขาจะช่วยส่งเสียเลี้ยงดูฉันแทนพ่อแม่ที่เสียไปของฉัน เพราะงั้นตั้งแต่นั้นมาฉันเลยได้เข้ามาอยู่ในตระกูลอัศวนันทร์

เดิมทีฉันอยู่ที่บ้านหลังนี้ในฐานะผู้อาศัยเท่านั้น และฉันก็คอยช่วยงานในบ้านเป็นการตอบแทนคุณกรณ์อยู่ตลอด ฉันใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้อย่างสงบมาตลอด จนกระทั่งวันนั้น วันที่ฉันได้บังเอิญไปเจอเข้ากับคุณคิมหันต์ที่สระว่ายน้ำในสวนหลังบ้าน

“เธอใช่มั้ย? เด็กที่พ่อฉันเอาเข้ามาในบ้าน” ตอนนั้นฉันจำได้ว่าตัวเองกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำ

“ใช่ค่ะ พี่เป็นใครเหรอคะ?”

“ฉันชื่อคิมหันต์”

“ฉันรู้จักพี่ค่ะ ท่านประธานเคยบอกไว้ว่าท่านมีลูกชายชื่อคิมหันต์”

“เหรอ? แล้วเธอล่ะ?”

“ฉันชื่อเกวลินค่ะ” ในตอนนั้นฉันตอบโต้เขาไปอย่างยิ้มแย้มด้วยอัธยาศัยที่ดี โดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนั้นเขาไม่ได้เข้ามาหาฉันเพื่อทำความรู้จักแต่อย่างใด แต่ตั้งใจเข้ามาทำร้ายจิตใจฉันตั้งแต่แรก

“ได้ข่าวว่าพ่อแม่เธอโดนรถชนตายทั้งคู่เลยนี่ ใช่มั้ย?”

“อะไรนะคะ?”

“เธอเองก็อยู่บนรถคันเดียวกับแม่ด้วยไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงมีแค่เธอคนเดียวที่รอดล่ะ?” น้ำเสียงเรียบนิ่งที่เอ่ยออกมาของเขามันบาดลึกลงไปถึงในใจของฉันเลย

“ฉัน…จำไม่ได้ค่ะ”

“แม่เธอตายทั้งคนเลยนะ เธอจำวันที่แม่ตัวเองตายไม่ได้เหรอ? หึ! เธอนี่มันอกตัญญูจังเลยนะ”

“นี่พี่พูดแบบนี้ออกมาได้ยังไง? ฉันก็ไม่ได้อยากจะลืมมันซักหน่อย”

“แม่เธอที่ตายไปคงจะเสียใจน่าดูเลยนะ ถ้ารู้ว่าลูกตัวเองได้มาอยู่อย่่างสุขสบายจนลืมเขาแบบนี้” สายตาดูถูกเหยียดหยามที่มองมาของเขาและคำพูดที่ไม่ให้เกียรตินั่นมันทำฉันโกรธเอามากๆ จนน้ำตาไหลออกมา

“ฮึก! ฉันไม่เคยลืมพ่อกับแม่ฉันซักหน่อย ฮึก พี่เป็นใครถึงได้มาพูดจาดูถูกฉันแบบนี้ฮ่ะ!”

“ถ้าไม่ลืม…ก็อยู่ในที่ของเธอซะ เกวลิน!” ตอนนั้นฉันไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเขาพูดอะไรของเขา เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง สายตาที่ดูถูกเหยียดหยามของเขาในตอนแรกก็แปรเปลี่ยนเป็นแววตาเยือกเย็นน่าขนลุก พร้อมทั้งยังก้าวเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆอีกด้วย “…หรือถ้าไม่อย่างงั้น…ก็ตายไปเหมือนกับแม่เธอซะดีกว่า”

พลั่ก!! เขาเดินเข้ากระซิบใกล้หูฉัน ก่อนจะใช้สองมือผลักตัวฉันออกไปอย่่างเต็มแรง

“กรี๊ดดดดด!!”

ตู้มมมม!!! ใช่แล้ว! คุณคิมหันต์ตั้งใจผลักฉันให้ตกลงไปในสระ และการตกลงไปในสระของฉันครั้งนั้นมันจะไม่ใช่เรื่องแย่เลย ถ้าฉันว่ายน้ำเป็น แต่เพราะฉันว่ายน้ำไม่เป็นเนี่ยสิ ตอนนั้นฉันถึงได้ตะเกียกตะกายเอาตัวรอดอยู่ในน้ำ

“ชะ…อึก…ช่วย…ดะ…อึก…ด้วย!!” ตอนนั้นฉันพยายามตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนบนบกอย่างทุรนทุราย แต่ภาพสุดท้ายที่ฉันเห็นคือ…สีหน้าที่เรียบไม่สะทกสะท้านอะไรของเขา แววตาที่เยือกเย็น และรอยยิ้มที่ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาจนน่าขนลุก เขายืนมองดูฉันจมน้ำอย่างใจเย็นไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งสิ้น ท่าทางของเขาเหมือนกำลังคิดอยู่…ว่าต่อให้ฉันตายไปมันก็คงไม่เป็นไรหรอก เขาไม่คิดที่จะช่วยฉันเลยสักนิด สิ่งที่เขาทำหลังจากนั้น คือการเดินหันหลังกลับไปโดยไม่หันกลับมามองฉันอีกเลย

โชคดีที่วันนั้นมีคนไปช่วยฉันไว้ได้ทัน ไม่อย่างงั้นป่านนี้ฉันคงไม่รอดมาจนถึงทุกวันนี้หรอก และหลังจากวันที่ฉันจมน้ำได้สองวัน คุณกรณ์หรือท่านประธานก็เข้ามาพูดคุยกับฉัน เรื่องที่เขาอยากจะรับเลี้ยงดูฉันเป็นลูกบุญธรรม ตอนนั้นเองแหละที่ฉันพอจะเข้าใจคำพูดของคุณคิมหันต์ที่พูดกับฉันเมื่อสองวันก่อนที่ริมสระได้

‘อยู่่ในที่ของเธอซะ!’ เขาคงไม่อยากให้ฉันตอบรับคำขอของท่านประธานเองสินะ ตอนนั้นฉันเลยปฏิเสธการรับเลี้ยงดูฉันเป็นลูกบุญธรรมของท่านประธานไป แต่ฉันไม่ได้ปฏิเสธไปเพราะคุณคิมหันต์หรอกนะ ฉันปฏิเสธเพราะฉันไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณท่านประธานมากไปกว่านี้แล้ว และนอกจากจะปฏิเสธการรับเป็นลูกบุญธรรมของท่านประธานแล้ว ฉันยังขอทำงานรับใช้ที่บ้านท่านประธานเหมือนคนอื่นๆ…ฉันเลยได้กลายเป็นคนรับใช้ของบ้านอัศวนันทร์ตั้งแต่นั้นมา

ส่วนคุณคิมหันต์ ฉันเองก็เริ่มเกลียดเขามาตั้งแต่ตอนนั้น แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของความเกลียดเท่านั้น เพราะหลังจากวันนั้นมันก็ยังมีอีกหลายๆเหตุการณ์ที่ทำให้ฉันยิ่งรู้สึกเกลียดและกลัวคนๆนี้มากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังรู้สึกเกลียดและกลัวเขามากขึ้นไปทุกวันเหมือนกัน…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปราถนารัก   ตอนจบ

    [คิมหันต์]“คุณคิมหันต์!! มาดูนี่เร็ววว~” เสียงของคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ริมทะเลหันมาร้องเรียกผมพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส“หึๆ” ผมที่ที่กำลังเดินอยู่ก็รีบเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปหาเกวลินโดยทันที พร้อมกับหิ้วไก่ทอดที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ติดมือมาด้วย ตามคำสั่งของคนตัวเล็ก“คุณคิมหันต์ พระอาทิตย์ตกสวยมากเลยว่ามั้ยคะ?” พอเดินเข้ามาถึงตัวเกวลินแล้ว เธอก็ยังคงยกยิ้มสดใสออกมาด้วยความสดใส แถมยังกระโดดไปมาดุกดิกด้วยความตื่นเต้นกับวิวพระอาทิตย์ตกริมทะเลตรงหน้าอีกด้วยผมที่ได้เห็นท่าทีของเธอที่น่ารักของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู“ไหนว่าจะกลับห้องไง ทำไมถึงพามาที่นี่ล่ะ?” หลังจากออกมาจากห้างก่อนหน้านี้ ผมตั้งใจว่าจะพาเกวลินกลับไปพักที่ห้องของเธอทันที แต่เธอก็ดื้อดึงอ้อนให้ผมพามาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่จนได้ แล้วท่าทีตอนที่เกวลินอ้อนผมมันก็ดันน่ารักซะจนผมปฏิเสธเธอไม่ลงเลยจริงๆ“จะกลับเลยได้ยังไงล่ะคะ วันนี้อุตส่าห์ได้พักทั้งที ต้องออกมาเที่ยวซะหน่อยสิ”หมับ!! เกวลินพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ผม ขณะเดียวกันเธอก็ยื่นมือตัวเองมาจับมือที่ว่างอยู่ของผมเอาไว้ ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมใจสั

  • ปราถนารัก   แผนเซอร์ไพรส์กลับ

    [เกวลิน]“แน่ใจนะว่าไม่ต้องไปโรงพยาบาล” คุณคิมหันต์ที่ขับรถอยูข้างๆเอ่ยถามคำถามนีเป็นรอบที่สิบได้แล้วมั้ง? หลังจากที่ฉันดีขึ้นแล้ว คุณริมหันต์ก็จัดการเรื่องลางานกับผู้จัดการให้ฉัน แถมยังอาสาพาฉันกลับห้องอีกด้วย และตั้งแต่ที่ออกมามาจากโรงแรม เขาก็เอาแต่ถามย้ำกับฉันอยู่ได้ว่าไม่เป็นไรแน่นะ? ไม่ต้องโรงพยาบาลแน่นะ? ให้ฉันพาไปโรงพยาบาลมั้ย? ถามย้ำรอบที่สิบได้แล้วมั้งน่ะ“เกวไม่เป็นไรแล้วจริงๆค่า แข็งแรงดี สบายใจหายห่วงได้ค่ะ”“ถ้างั้นกลับห้องไปก็พักผ่อนให้เต็มที่่นะ”“เอ่อ คือว่า…ก่อนกลับห้อง เกวมีที่ที่ต้องไปก่อนน่ะค่ะ” จริงๆวันนี้ฉันต้องไปทำธุระสำคัญอย่างหนึ่ง ตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะไปคนเดียวด้วยซ้ำ แต่คุณคิมหันต์ก็ดื้อดึงจะไปส่งฉันให้ได้ ฉันปฏิเสธเขาไม่ได้เลยจริงๆ เลยต้องยอมให้เขามาส่งให้จนได้“ไว้รอหายดีก่อนแล้วค่อยไปวันหลัง วันนี้เธอต้องกลับไปพักก่อน”“ไม่ได้ค่ะ เกวต้องไปทำธุระสำคัญมากๆ ต้องไปวันนี้เท่านั้นค่ะ”“ฉันไม่ให้ไป” คนตัวสูงข้างๆเอ่ยออกมาอย่างเด็ดขาด“คุณคิมหันต์! นี่คุณจะเห็นแก่ตัวเกินไปแล้วนะ ฉันไปแค่แปบเดียว คุณแค่ไปส่งฉันแล้วนั่งรออยู่บนรถก็ได้”“ธุระอะไรจะสำคัญไป

  • ปราถนารัก   เป็นห่วง

    [คิมหันต์]พรึ่บ!! ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะต้องหรี่ตาลงเมื่อแสงที่เล็ดลอดผ่านผ้าม่านสอดส่องเข้ามากระทบกับดวงตา และเมื่อปรับสายตาให้คงที่ได้แล้ว ผมถึงได้รู้ว่าตัวเองยังคงนอนอยู่ใขอบนเตียงในห้องพักของเกวลินเหมือนเดิมเพียงแต่ตอนนี้ที่ข้างๆที่เคยมีเกวลินนอนอยู่ด้วย กลับเหลือไว้เพียงแค่รอยยับที่ว่างเปล่าเท่านั้นเกวลิน…ยัยนั่นทิ้งผมไปอีกแล้วเหรอเนี่ย?ฟุ่บ!! ผมลุกขึ้นมาจากเตียงนอน ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา แต่เมื่อก้าวเข้าไปในห้องน้ำแล้ว บางสิ่งบางอย่างอยู่ในนั้นกลับทำให้ผมแปลกใจขึ้นมาบนกระจกในห้องน้ำมีกระดาษอยู่สามแผ่นแปะเรียงกันไว้อย่างเป็นแถวเลยล่ะฟึ่บ! ผมเอื้อมมือไปหยิบกระดาษโน้ตแผ่นที่แปะอยู่บนกระจกห้องน้ำมาอ่าน‘เกวต้องออกไปทำงานแต่เช้าเมื่อคืนคุณดูเหนื่อยมากเกวเลยไม่อยากปลุก ขอโทษที่ปล่อยให้อยู่คนเดียวนะคะ’“หึ! ใครกันแน่ที่เหนื่อย” ผมยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจทันทีที่ได้อ่านข้อความที่เกวลินทิ้งไว้ให้ฟึ่บ!! จากนี้ก็หยิบกระดาษโน้ตใบที่สองขึ้นมาอ่านต่อ‘คุณอาบน้้ำแปรงฟันก่อนได้นะคะ เกวแขวนเสื้อผ้าที่คุณพอจะใส่ได้ไว้ให้ที่ตู้แล้ว’ผมอดไม่ไ

  • ปราถนารัก   เป็นลม

    วันต่อมาณ โรงแรมพาวิลงเลียน“อ้าวเกว” เสียงของรินณ์เอ่ยทักขึ้นทันทีที่รินณ์เดินเข้ามาในห้องพักพนักงาน ซึ่งมีฉันที่นั่งอยู่ก่อนหน้าแล้ววันนี้ฉันตั้งใจออกจากห้องมาแต่เช้า เช้าถึงขนาดที่คุณคิมหันต์ยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ “ไงรินณ์”“ทำไมมาเช้าจังอ่ะ วันนี้เกวเข้างานกะบ่ายไม่ใช่เหรอ?”“อ่อ เราแลกเวรกับพี่แอนอ่ะ พอดี…ตอนเย็นเรามีธุระต้องไปทำธน่ะ” ใช่แล้วล่ะ! จริงๆ วันนี้ฉันเข้างานกะบ่าย แต่ช่วงเย็นวันนี้ฉันมีที่ที่ต้องไปน่ะ เลยแลกเวรกับพี่แอนไว้“ไปไหนอ่ะ? หรือว่า…ไปเดทเหรอ?” รินณ์ยิ้มกรุ้มกริ่มพลางเดินเข้ามากระซิบใกล้ฉัน อะไรกัน? ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงเนี่ย?“ดะ เดทอะไรกันเล่า? ไม่ใช่ซะหน่อย” “เอ้า! ไม่ใช่หรอกเหรอ แต่เมื่อคืนเราเห็นน้า ผู้หญิงชุดฟ้าที่เดินควงแขนกับคุณคิมหันต์” รินณ์เข้ามานั่งใกล้ๆ ก่อนจะเขยิบมากระซิบข้างๆหู“นี่รินณ์เห็นด้วยเหรอ?0_0!” ฉันถึงกับเบิกตาโพลงออกมาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเมื่อคืนจะมีคนเห็นฉันกันคุณคิมหันต์ด้วย นี่ขนาดแอบย่องออกไปตอนไม่มีคนแล้วน่ะเนี่ย ยังมีคนเห็นอีกเหรอเนี่ย? “อื้ม เมื่อคืนเราอยู่ทำโอทีน่ะ”“นอกจากรินณ์แล้ว…”“ไม่ต้องห่วงหรอก เมื

  • ปราถนารัก   ทำให้หายโกรธ nc 20++

    “อื้มมม~” เสียงครวญครางของเราสองคนดังลั่นไปทั่วทั้งห้องพักของฉัน เพราะรสจูบที่ร้อนแรงเกินกว่าจะต้านทานของกันและกัน เรียวลิ้นที่สอดประสานกันไปมาของเราสองคน มันเต็มไปด้วยความรุ่มร้อน แต่ก็แฝงไปด้วยความปรารถนาที่เหลือล้น ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าริมฝีปากของคนตัวสูงยิ่งหอมหวานน่าช่วงชิมมากกว่าเดิมขึ้นไปเรื่อยๆหมับ!! ฉันเอื้อมมือออกไปค้วาท้ายทอยของคนตัวสูงเหนือร่างลงมากอดไว้แน่น เพื่อให้เราสองคนแลกเปลี่ยนรสจูบจากกันและกันได้แนบแน่นกันมากยิ่งขึ้น“อื้อออ~” ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวที่ต้องการสัมผัสจากคุณคิมหันต์ เขาเองก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกันกับฉัน ฉันส่งเสียงครวญครางผ่านลำคอออกมาด้วยความเสียวซ่าน เมื่อคนตัวสูงเลื่อนไล้มือหนาของตัวเอง ลงไปสัมผัสกับกลีบกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ใต้กางเกงนอนของฉัน ในขณะที่ปากของเขาก็ยังคงดูดเม้ม ช่วงชิมรสหวานจากปากของฉันอย่างไม่ลดละ“อื้อ!!~” ฉันเริ่มจะทนกับความเสียวซ่านที่ถูกกระตุ้นทั้งช่วงบน และช่วงล่างไม่ไหวแล้ว จนต้องส่งเสียงร้องประท้วงผ่านลำคอออกมาเพื่อให้เขาปล่อยส่วนใดส่วนหนึ่งซะที ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวจนขาดใจตายไปซะก่อน“อึก!

  • ปราถนารัก   ทำให้หายโกรธ

    หลังจากที่คุณคิมหันต์บุกเข้ามาหาถึงห้อง แล้วขอนอนค้างด้วย ตอนนี้เขา…กำลังนอนอยู่บนเตียงข้างๆฉันถึงแม้ว่าคุณคิมหันต์จะนอนก่ายหน้าผากอยูข้างฉัน แต่เขากลับไม่เอ่ยปากคุยอะไรกับฉันต่อเลยแม้แต่คำเดียวนี่เขา…กำลังไม่พอใจฉันอยูแน่ๆเลย“คุณคิมหันต์ หลับรึยังคะ?” ฉันรู้ว่าเขายังไม่หลับแน่ๆ“หลับแล้ว” หลับแล้วเขาจะตอบฉันได้ยังไงล่ะ?“คุณ…โกรธเกวเหรอคะ?”“…” สิ้นสุดคำถามของฉัน ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากคนข้างๆอีกเลย“เกวขอโทษนะคะ ที่ทิ้งคุณไว้ที่ร้านอาหารคนเดียว”“…” คราวนี้ก็ยังเงียบเหมือนเดิม“เกวแค่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับความจริงน่ะค่ะ”“เกวลิน…”“คะ?”“รู้ใช่มั้ย…ว่าฉันรักเธอ?” คุณคิมหันต์ที่เอาแต่หลับตาในตอนแรก ตอนนี้เขากลับลืมตาหันมามองฉันที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยแววตาที่อ่อนโยน“…รู้ค่ะ” ฉันจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา พลางเอ่ยคำตอบที่รู้ดีอยู่แก่ใจออกไปอย่างลึกซึ้ง“แล้วเธอล่ะ?” คำถามที่คาดไม่ถึงจากคนตัวสูงตรงหน้า ทำฉันอึ้งจนอ้าปากค้าง ทำไมเขาถึงถามแบบนี้ออกมาได้“รักสิคะ เกวรักคุณมากๆค่ะ”“ถ้างั้น…อย่าทิ้งฉันไปอีกได้มั้ยเกว?” คำถามที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือของคนตรงหน้า บวกกับ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status