ปฐพีออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินกลับมาในห้องก็เห็นว่าตอนนี้คุณหนูของเขากำลังนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงกว้าง
“นายดิน”
“คุณหนูโอเคแล้วใช่ไหมครับ”
“อือ ฉันโอเคแล้ว คืนนี้ฉันขอนอนที่นี่ได้ไหม” เพราะเธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการก็เลยกลับมาเป็นปกติเร็วกว่าที่คิด
“ได้สิ ผมบอกคุณป้าแล้วว่าคุณจะไปค้างบ้านเพื่อน” พูดจบก็หันหลังเดินออกจากห้อง
“แล้วนั่นนายจะไปไหน นายจะทิ้งฉันอยู่คนเดียวเหรอ”ถึงแม้ตัวเองจะรู้สึกดีขึ้นแต่คืนนี้เธอก็ไม่อยากจะอยู่คนเดียว อีกอย่างเธอก็มีเรื่องจะคุยกับชายหนุ่มทั้งเรื่องเพื่อนของเธอและเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ
“ผมจะไปใส่เสื้อ หรือคุณหนูอยากจะเห็นผมนอนแบบนี้ล่ะ”
“บ้าใครอยากจะเห็นกันล่ะ” เอลินอร์รีบก้มหน้าลงกับเข่า แต่เมื่อครู่เธอก็เห็นแล้วว่าตอนนี้ชายหนุ่มไม่ตัวเล็กผอมแห้งอย่างแต่ก่อน และเมื่อนึกเหตุการ์เมื่อครู่หญิงสาวก็รู้สึกอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
“ก็เห็นจ้องตาแทบไม่กะพริบ”
“พอเลยนายดิน รีบไปใส่เสื้อผ้าได้แล้วฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”
“ที่อย่างนี้ล่ะมาไล่ให้ผมไปใส่เสื้อ แล้วเมื่อกี้ใครกันที่จะถอดชุดผม จะปล้ำผม”
“หยุดพูดนะนายดิน”
“ผมพูดเรื่องจริง หรือที่คุณหนูกำลังหงุดหงิดใส่ผมแบบนี้เพราะเรื่องเมื่อกี้หรือเปล่า เพราะไม่ยอมนอนกับคุณหรือเปล่าล่ะครับคุณหนู” พูดจบปฐพีก็วิ่งเข้าไปยังห้องแต่งตัวโดยมีเสียงของเอลินอร์กรี๊ดตามหลัง ชายหนุ่มรอจนเธอหยุดกรีดก็กลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง
“ขอบใจนะนายดิน” หญิงสาวพูดกับปฐพีเมื่อเขาเดินกลับออกจากห้องแต่งตัวและนั่งลงบนเตียงอีกครั้ง
“คุณหนูขอบใจผมเรื่องไรครับ”
“ก็ทุกเรื่อง”
“แล้วทุกเรื่องนี้มันเรื่องอะไรบ้างล่ะครับ”
“ก็เรื่องยา เรื่องที่นายไปพาฉันมาจากผับและก็เรื่องเมื่อกี้”
“เรื่องเมื่อกี้ คือเรื่องที่ผมช่วยคุณหนู หรือเรื่องที่ผมไม่ทำอะไรคุณหนูล่ะครับ”
“ก็ทั้งสองเรื่องนั่นแหละ นายจะถามให้ฉันอายใช่ไหม”
“เปล่า ผมไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย เอาละ ดึกแล้วคุณหนูรีบนอนเถอะครับ ผมง่วงมากแล้ว” ปฐพีพูดจบก็เอื้อมมือปิดไฟที่หัวเตียงก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงเดียวกับเอลินอร์
“นายจะนอนที่นี่จริงๆ เหรอ ฉันว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
“นอนเถอะครับคุณหนู ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ถ้าผมจะทำก็ทำตั้งแต่ตอนที่คุณหนูขอร้องผมเมื่อกี้แล้วละครับ” ปฐพีพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นจนเอลินอร์ยอมนอนร่วมเตียงกับเขา และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอนอนร่วมเตียงกับคนอื่น ที่ผ่านมาหญิงสาวไม่เคยให้ใครนอนร่วมเตียงเลยยกเว้นมารดาเพียงคนเดียวเท่านั้น
“นายดินฉันนอนไม่หลับ ฉันกลัว”
“ไม่มีอะไรต้องกลัวหรอกครับ” ปฐพีขยับเข้ามาใกล้และดึงหญิงสาวให้นอนไปบนหน้าอกของเขา
“ฉันนึกภาพไม่ออกว่าถ้าไม่เจอนาย ฉันจะเป็นยังไงบ้าง พวกมันคงไม่ปล่อยฉันไว้แน่”
“เรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดครับ ผมสัญญาว่าดูแลคุณหนู จะไม่ให้คุณหนูเจอเรื่องแบบนั้นแน่นอน”
“นายจะช่วยฉันทุกครั้งใช่ไหม”
“ครับ ผมจะช่วยคุณหนู จะอยู่ข้างคุณหนู แต่คุณหนูก็ต้องดูแลตัวเองด้วย และก็ห้ามออกไปเจอพวกเขาอีกเด็ดขาด”
“ฉันไม่กล้าไปเจอเข้าอีกแล้ว แต่ถ้าเขามาหาฉันล่ะ เขารู้ว่าบ้านฉันอยู่ไหน เขารู้ว่าฉันเป็นใคร”
“ถึงเขาจะรู้แต่เขาจะทำอะไรคุณหนูไม่ได้หรอกครับ”
“นายแน่ใจนะว่าจะอยู่ข้างฉันตลอด” เอลินอร์นึกถึงผู้ชายที่อยู่กับเพื่อนของตนเองแล้วก็ขนลุกขึ้นมาทันที
“แน่ใจสิ นอนนะครับพรุ่งนี้จะได้รีบกลับบ้านแต่เช้า”
เพราะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเอลินอร์เลยหลับลงอย่างง่ายดาย กว่าเธอจะรู้สึกตัวตื่นอีกครั้งก็ตอนที่ได้ยินเสียงของปฐพีเหมือนเขากำลังคุยกับใครอยู่นอกห้อง
หญิงสาวรีบลุกจากที่อนแล้ววิ่งออกไปดูแต่ก็ไม่เห็นมีใครสักคน
“นายดิน เมื่อกี้นายคุยกับใครเหรอ”
“ผมให้แม่บ้านเอาชุดไปซักให้ คุณรอก่อนนะไม่นานหรอกซักแล้วก็อบเลย”
“ชุดของฉันเหรอ ทั้งหมดเลยเหรอ”
“ครับทั้งหมดเลย” ปฐพีมองคนที่สวมเชิ้ตยาวคลุมเข่าแล้วยิ้ม เพราะรู้ว่าภายใต้ชุดที่เธอสวมอยู่นั้นไม่ได้สวมอะไรไว้เลย
“อย่ามองฉันแบบนั้น”
“แบบไหน” เขาขยับเข้าใกล้จนหญิงสาวถอยไปทีละนิดจนชนกับประตูห้องนอน
“นายจะทำอะไรฉัน” เอลินอร์หายใจติดขัดเพราะเขาเข้ามาใกล้จนเธอได้กลิ่นน้ำหอมที่จำได้ดีว่าเป็นคนซื้อมาฝาก
“ผมไม่ทำอะไรคุณหนูหรอกครับ แค่จะถามว่าคุณหนูหิวไหม”
“ฉันยังไม่หิว”
“แต่ผมหิวแล้ว ผมทำอาหารเช้าไว้เผื่อคุณหนูแล้ว จะไม่กินหน่อยเหรอครับ” ปฐพีก้มใบหน้าต่ำลงหน้าผากของเขาชนกับหน้าผมของเธอย่างพอดี
เอลินอร์ยืนนิ่ง แทบกะกลั้นหายใจเพราะมันใกล้จนเธอทำตัวไม่ถูก
เมื่อเห็นว่าคุณหนูยืนตัวเกร็งใบหน้าแดงซ่านปฐพีก็หัวเราะในลำคอก่อนจะจับมือเธอให้เดินตามเขามาที่โต๊ะทานอาหาร
“นายทำเองเหรอ”
“ครับ น่ากินไหม”
“น่ากินมาก ฉันไม่ได้กินอาหารเช้าแบบนี้เลยตั้งแต่กลับมาเมืองไทย” เอลินอร์มองไส้กรอกไข่ดาวและแฮมที่อยู่ในจานแล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่อาย เธอชินกับอาหารเช้าแบบนี้มากกว่าการทานข้าว ซึ่งที่บ้านของเธอไม่มีใครทานแบบนี้สักคน
“คุณหนูอยากกินทำไมไม่ให้ป้านวลให้ทำให้ล่ะครับ”
“ป้านวลทำเป็นที่ไหนล่ะ แกถนัดแต่อาหารไทยเท่านั้น”
“จริงสิ เอางี้ไหม วันไหนอยากกินก็บอกผมจะทำให้”
“ปกตินายทำกินคนเดียวแบบนี้เหรอ”
“ก็ทำบ้าง บางครั้งก็ออกไปกินข้าวต้มหน้าปากซอยหรือบางครั้งก็ไปทานกับคุณลุงคุณป้าที่บ้านคุณ”
“คุณสนิทกับคุณพ่อและคุณแม่มากกว่าฉันอีกนะ”
“ก็ผมอยู่เมืองไทยนี่ครับ”
“แล้วนายไปบ้านฉันบ่อยๆ แฟนนายไม่ว่าเหรอ”
“ไม่ครับ”
“ดีจังนะ ถ้าเป็นฉันคงโวยวายแน่ที่แฟนของตัวเองไม่มีเวลาให้”
“ก็ผมยังไม่มีแฟนนี่ครับ”
“นี่นายอายุเท่าไหร่แล้วทำไมยังไม่มีแฟนอีก ดูอย่างพี่อลันสิ เขาแต่งงานแล้วชีวิตเขาดูแฮปปี้ดีออก”
“จะมีหรือมีมันก็ไม่เกี่ยวกับอายุนี่ครับคุณหนู ผมว่าอยู่คนเดียวแบบนี้ก็สบายดี ”
“แล้วอย่างนี้ถ้านายแก่ไปใครจะดูแลนายล่ะ”
“ก็คุณหนูไงครับ”
“เรื่องอะไรฉันจะต้องดูแลนายตอนแก่ละ”
“อ้าว ก็เมื่อคืนคุณหนูขอให้ผมอยู่ข้างคุณหนูเองนะครับ เพราะฉะนั้นผมก็จะทำตามที่พูด”
“มันไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย”
“ไม่รู้หล่ะครับ ผมถือว่าคุณหนูพูดแล้ว และถ้าคุณหนูคิดจะผิดคำพูด ผมก็ไม่กล้ารับปากว่าเรื่องเมื่อคืนจะมีคนอื่นรู้เพิ่มไหม”
“นายแบล็กเมลฉันใช่ไหมนายดิน”
“เปล่าครับผมก็แค่พูดขึ้นมาเฉยๆ เอง”
“ฉันไม่น่าพูดแบบนั้นกับนายเลย ให้ตายสิ”
“อย่าเพิ่งคิดมากครับ รีบกินเถอะนะ เดี๋ยวเย็นแล้วจะหาว่าผมทำไม่อร่อยนะครับ”
ทั้งสองนั่งทานอาหารกันเงียบๆ ความรู้สึกบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นในหัวใจของหญิงสาว นอกจากปฐพีจะช่วยเหลือเธอแล้วเขายังปกป้องและไม่คิดจะฉวยโอกาสซึ่งมันทำให้สายตาที่มองเขาเปลี่ยนไปอย่างไม่รู้ตัว
ปฐพีเองก็แอบมองคุณหนูอยู่บ่อยครั้ง เรื่องเมื่อคนเขาก็มีส่วนผิดเพราะถ้าเขาไม่เอาของในกระเป๋าไปบางทีเธอก็อาจจะไม่โดนเพื่อนหักหลังแบบนั้น แต่เพราะกลัวว่าเธอจะติดร่างแหไปด้วยจึงไม่ได้บอกเธอก่อนว่าของในนั้นเป็นอะไร
“ผมขอโทษนะครับคุณหนู”
“นายขอโทษฉันเรื่องอะไร อย่าบอกนนะว่านายบอกแม่ฉันเรื่องเมื่อคืนแล้ว”
“เปล่าครับ ที่ผมขอโทษก็เพราะถ้าผมไม่เอาของในกระเป่าไป พวกนั้นก็คงไม่เล่นสกปรก”
“แต่ฉันอาจจะโดนตำรวจจับ นายว่าอย่างไหนมันน่ากลัวกว่ากัน”
“ก็แย่ทั้งสองอย่าง”
“นั่นสิ นายไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก ตอนนี้ฉันก็ไม่เป็นอะไรแล้ว”
“คุณหนูไม่โกรธผมใช่ไหมครับ”
“ตอนนี้ยังไม่โกรธนะ แต่ถ้าพูดเรื่องเดิมขึ้นมาอีกฉันอาจจะโกรธนายก็ได้” เอลินอร์รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เพราะรู้ว่าเขาทำทุกอย่างก็เพื่อรักษาชื่อเสียงของเธอ
เมื่อได้รับคำตอบจากภรรยาแล้วปฐพีก็เริ่มปฏิบัติการปั๊มทายาททันที ปฐพีอุ้มเจ้าสาวไปยังห้องนอน เขาวางเธอลงที่ปลายเตียงแล้วรั้งให้เธอเข้ามาแนบชิด จุมพิตไปบนริมฝีปากนุ่มสวย บดขยี้อย่างโหยหาเพียงแค่สัมผัสร่างกายก็ตื่นตัว ชายหนุ่มจับมือเล็กของภรรยาสาวไปสัมผัสกับส่วนแข็งขืนเพื่อให้เธอรับรู้ ว่าตอนนี้เขาต้องการเธอมากแค่ไหน “พี่ดินทำไมมันโตเร็วละคะ” “ก็พี่คิดถึงและต้องการหนูแอลไงครับ ไม่เจอกันหนึ่งเดือน แล้วพอเจอกันก็ได้แค่เดินจับมือ มันทรมานมากนะครับ รู้ไหมพี่ต้องการแอลมาก”เสียงของเขาบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าตัวเองนั้นต้องการเธอมากแค่ไหน ชายหนุ่มประคองใบหน้าคนรักแล้วประกบปากจูบอีกครั้งอย่างเร่าร้อนและเรียกร้องเอลินอร์เผยอปากรับลิ้นอุ่นเข้าให้เข้ามาตวัดไล้น้ำหวาน พร้อมส่งเสียงครางอย่างรัญจวน เมื่อฝ่ามือใหญ่ละจากใบหน้าลงมาทรวงอกอิ่มบีบคลึงเต้างามอย่างหนักมือ ปฐพีผละจูบออกเมื่อเธอเริมครางประท้วงเพราะกำลังจะขาดอากาศ สองตาสบประสานส่งผ่านความรู้สึกและความต้องการที่ต่างฝ่ายต่างต่างมีให้แก่กันอย่างท่วมท้นชุดนอนไม่ได้นอนและบราตัวจิ๋วที่พี่สะใภ้มอบให้ค่อยๆ
งานแต่งงานระหว่างปฐพีและเอลินอร์ถูกจัดขึ้นที่โบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ความสวยงามของโบสถ์กับการออกแบบงานแต่งงานเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความสุข ซึ่งปฐพีเป็นคนออกแบบเองทั้งหมด ปฐพีสวมสูทสั่งตัดสีขาวที่ตัดเย็บอย่างประณีต แขกที่มาร่วมกันต่างมีใบหน้ายิ้มแย้มและรอคอยการปรากฏตัวของเจ้าสาว เมื่อเสียงดนตรีดังขึ้นชายหนุ่มก็หันไปมองที่ประตูทางเข้า เขารู้สึกใจเต้นแรง ในขณะที่แขกต่างลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติเจ้าสาวที่เดินควงแขนคุณเอกภพผู้เป็นบิดาเข้ามาใบหน้าสวยปกปิดด้วยผ้าสีขาว นั้นยิ่งกระตุ้นให้ทุกคนอยากเห็นว่าหญิงสาวผู้โชคดีคนนี้จะมีใบหน้าสวยงามแค่ไหน แม้ว่าปฐพีจะไม่มีคนรู้จักที่นี่มากนักแต่เพราะเขาเป็นทายาทอย่างถูกต้องตามกฎหมายคนเดียวของวิลเลียม เบอร์เรลนักธุรกิจชื่อดังของเมืองนี้งานแต่งครั้งนี้จึงมีคนจับตามองอยู่มากพอสมควรเมื่อคุณเอกภพเดินมาถึงยังแท่นพิธีเขาก็ส่งตัวลูกสาวให้กับปฐพี ที่ยื่นมือมารับเจ้าสาวของเขาด้วยความตื่นเต้น มือใหญ่สั่นเล็กน้อยและนั่นก็ทำให้เอลินอร์รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกเมื่อเอลินอร์มายืนอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มก็ยกผ้าคลุมใบหน้า
ความสุขมันแสนสั้นเมื่อถึงเวลาที่ปฐพีจะต้องกลับไปทำงานอีกครั้ง เอลินอร์มาส่งคนรักที่สนามบิน แต่ครั้งนี้เธอไมได้เศร้าเหมือนครั้งก่อนเพราะปลายเดือนหน้าเธอครอบครัวก็จะบินไปเที่ยวอังกฤษตามคำเชิญของคุณลินดาและคุณวิลเลียม“อีกไม่ถึงเดือนเราก็จะเจอกันอีกแล้ว ครั้งนี้หนูแอลคงไม่งอแงให้พี่ต้องรีบกลับมาใช่ไหมครับ”“แอลไม่เคยงอแงนะคะ”“แล้วใครกันล่ะครับ ที่ไม่ยอมให้พี่โทรหาจนพี่ทนคิดถึงไม่ไหวรีบบินกลับมาแบบนี้”“มาโทษแอลได้ยังไงล่ะคะ พี่ดินอยากทนไม่ไหวเอง”“ถ้าไม่รักก็คงไม่รีบบินกลับมาหรอกครับ”“พี่ดินขา อย่าปากหวานแบบนี้กับใครนะคะ”“พี่ทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้ หนูแอลยังไม่ไว้ใจพี่อีกเหรอครับ”“ก็พี่ดินของแอลหล่อขนาดนี้เป็นใครก็ต้องหวง”“พี่ไม่เคยมองใครมานานหลายปีแล้ว มองแค่หนูแอลคนเดียว” ปฐพีกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เขาไม่อยากจะห่างเธอเลยแต่เพราะมีความจำเป็นเรื่องงานเลยต้องทำใจ“พี่ดิน เขาประกาศเรียกแล้ว”“พี่ไปก่อนะครับ รักหนูแอลนะ” ชายหนุ่มก้มจูบหน้าผากมนอย่างรักใคร่“แอลก็รักพี่ดินค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะพี่ดิน ถึงแล้วอย่าลืมโทรหาแอลนะคะ”“จะลืมได้ยังไงล่ะครับ พี่ไปก่อนนะครับ หนูแอลจะได้รีบกลับไปท
สามวันมาแล้วที่เอลินอร์ทำโทษปฐพี เธอทั้งคิดถึงและอยากเห็นหน้าอยากได้ยินเสียงแต่ก็ต้องอดทนเพราะไม่อยากจะกลายเป็นคนผิดคำพูด แม้ว่าเขาจะไลน์มาหาทุกวัน วันละหลายรอบแต่เธอก็เพียงแค่อ่านแต่ไม่คิดจะตอบกลับ“เหลือแค่สาวันเองจิ๊บๆ” หญิงสาวให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเก็บของใช่ลงกระเป๋าเพราะเลยเวลาเลิกงานมานานนับชั่วโมง แต่เพราะวันนี้ไม่ต้องกลับไปนอนที่บ้านเนื่องจากบิดามารดาไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดเธอจังไม่เร่งรีบอะไร หญิงสาวแวะทานอาหารที่ร้านเดิมที่เคยมาทานกับปฐพีอยู่บ่อยๆ จากนั้นก็เข้าร้านสะดวกซื้อและเลือกอาหารแช่แข็งอีกหลายกล่องเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดเธอจึงอยากจะพักผ่อนอย่างเต็มที่ แม้ว่าแพรวาจะโทรศัพท์มาชวนไปเที่ยวแต่เอลินอร์ก็ปฏิเสธเพราะรู้สึกไม่สนุกกับการไปในสถานที่แบบนั้นอีกแล้ว กลับมาถึงห้องก็เก็บของที่ซื้อมาเขาตู้เย็นก่อนจะรับอาบน้ำเตรียมเข้านอนซึ่งก็ไม่รู้ว่าคืนนี้จะนอนหลับไหม เพราะที่ผ่านมาสองคืนเธอก็นอนไม่ค่อยหลับเนื่องจากไม่ได้คุยกับปฐพีอย่างเคย เอลินอร์ออกมาจากห้องน้ำก็ต้องแปลกใจเพราะตอนนี้บนเตียงของเธอนั้นโรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงสดเป็นตัวหนังสือคำว
เอลินอร์ออกจากงานออกจากงานเลี้ยงของคุณติณณ์ก็ตรงไปคอนโดเพราะคืนนี้เธอบอกกับบิดามารดาว่าจะค้างที่นี่ เนื่องจากจะกลับดึกก็ไม่อยากจะขับรถไปที่บ้านเพราะว่าระยะทางจากคอนโดไปที่งานเลี้ยงของคุณติณณ์นั้นใกล้กว่าบ้านของเธอมาก หญิงสาวพยายามจะข่มอารมณ์โมโหของตนมาตั้งแต่อยู่ในงาน พอประตูห้องปิดลงเธอก็กรีดร้องอย่างสุดเสียงเพื่อระบายความโกรธที่ทนจะอัดอั้นมาเกือบชั่วโมง อันที่จริงเธอก็อยากจะกรี๊ดตั้งแต่อยู่ในงานเพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่พลอยลดานำมาบอก แต่เพราะเมื่อคืนตนเองไปในนามบริษัทจึงทำแบบนั้นไม่ได้ “พี่ดินนะพี่ดินทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง”เอลินอร์ตัวสั่นเทาขณะกดวิดีโอคอลไปหาคนรัก พอเขากดรับเธอก็พูดกับเขาด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด “พี่ดิน พี่ทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง ไหนพี่ว่าไม่เคยมีอะไร ไม่เคยนอนด้วย แล้วนี่ถึงกับนัดกันไปถึงอังกฤษ ไหนพี่ดินบอกว่ารักแอล ให้แอลรอ ให้แอลอดทน แล้วยังไงคะ ในขณะที่แอลอดทนอยู่ทางนี้พี่ดินก็มีความสุขอยู่ทางนู้น พี่ว่ามันยุติธรรมกับแอลไหมล่ะ พี่ดินใจร้าย พี่ดินทำลายความไว้ใจของแอล” เอลินอร์พูดยาวเหยียดก่อนจะร้องไห้อย่างหนักเมื่อพูดจ
เกือบเดือนแล้วที่เอลินอร์กับปฐพีไม่ได้เจอกับเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีหน้าที่ของตนเองที่ต้องรับผิดชอบ แต่พวกเขาก็ยังคงคุยกันอยู่ทุกวันเหมือน เธอกับครอบครัววางแผนว่าจะไปเยี่ยมครอบครัวของเขาที่อังกฤษปลายเดือนหน้า แต่ระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ได้วิดีโอคอลคุยกันบ้างแล้ว เอลินอร์ทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดีทั้งในฐานะรองประธานบริษัทและในฐานะนักออกแบบเครื่องประดับ พนักงานทุกคนยอมรับในความสามารถของหญิงสาว และต่างพากันชื่นชมเจ้านายของตนเองที่ทั้งสวยและเก่งจนหาตัวจับยาก หญิงสาวรับผู้ช่วยส่วนตัวมาหนึ่งคนชื่อกมลมาศเพื่อจะได้ออกไปทำงานข้างนอกกับเธอในขณะที่คุณแขไขก็ยังทำหน้าที่เป็นเลขาได้เป็นอย่างดี "คุณแอลคะ งานเย็นนี้มาศเตรียมชุดให้แล้วนะคะ” “แอลไม่อยากไปเลยค่ะ พี่มาศไปแทนแอลได้ไหมคะ” “ได้ยังไงล่ะคะคุณแอล เขาเป็นคู่ค้าคนสำคัญเลยนะคะ ถ้าคุณแอลไม่ไปมาศว่าท่านประธานคงจะไม่ค่อยพอใจแน่ๆ” “แอลไม่ชอบงานแบบนี้เลยค่ะ” “แล้วแต่ก่อนใครไปล่ะคะ หรือว่าท่านประธานไปเอง” “ก็คงจะเป็นผู้ช่วยคุณพ่อนั่นแหละ พอเขาออกไปงานทุกอย