บ้านเอกประดิษฐ์มณี
“น้องแอลไม่อยู่เมืองไทยนาน ไม่รู้ว่าจะทานอาหารเผ็ดได้หรือเปล่า พี่เลยใส่พริกไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่นะคะ ไม่รู้ว่ารสชาติจะถูกปากหรือเปล่า” พรลภัสบอกกับน้องสามี เพราะอาหารมื้อนี้เธอกับป้านวลช่วยกันทำตั้งแต่บ่าย
“อร่อยมากค่ะพี่เนย ฝีมือทำอาหารของพี่เนยอร่อยมากค่ะ แอลไม่แปลกใจเลยที่พี่ชายของแอลเริ่มจะมีพุงแล้ว” เอลินอร์เอ่ยชมจากใจจริงหลังจากที่ตักแกงเขียวหวานเนื้อเข้าปากติดๆ กันไปหลายคำ
“พุงนี้ไหนกันยัยแอล กล้ามเนื้อทั้งนั้น” อลันเอามือลูบท้องตนเองที่ตอนนี้ดูจะมีเนื้อมากกว่าแต่ก่อน
“ถ้าพี่อลันหลอกตัวเองแล้วก็มีความสุขก็เชิญตามสบายเลยค่ะ แต่แอลมองยังก็ไงเห็นว่ามันเป็นพุงอยู่ดี” เธอพูดพลางยักไหล่อย่างยียวน
“พูดแบบนี้ขอให้ได้แฟนอ้วนลงพุงทีเถอะ พี่จะหัวเราะให้ฟันร่วงไปเลย” อลันพูดจบก็หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี
“พี่อลัน อย่ามาแช่งน้องแบบนี้นะ คอยดูเถอะแอลจะหาแฟนหล่อรวยหุ่นนายแบบมาควงให้ดู”
“จ้ะพี่จะคอยดู แต่ขอร้องนะแอลขอคนที่มีสมองด้วยนะ อย่างแฟนคนล่าสุดของเราพี่ว่ามันไม่มีสมอง”
“มีสิทธิ์อะไรมาว่าจอห์นแบบนั้น เขาน่ะขวัญใจสาวทั้งยูเลยนะ แล้วแอลก็คว้าเขามาเป็นแฟนได้” เอลินอร์ตอบอย่างมั่นใจ
จอห์นที่เธอพูดถึงนั้นเป็นหนุ่มหล่อขวัญใจสาวในมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่ซึ่งครั้งล่าสุดที่พี่ชายบินไปเยี่ยมเธอนัดให้ทั้งสองได้ทานข้าวด้วยกัน แต่หลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือนเธอกับจอห์นก็เลิกกันเพราะชายหนุ่มบอกว่าอยากจะเอาเวลาไปทุ่มกับการเรียนและคงไม่ค่อยสะดวกถ้ายังคบกันอยู่ เอลินอร์ร้องไห้เสียใจอยู่หนึ่งวันจากนั้นก็กลับมาร่าเริงอีกครั้งเพราะถึงแม้จะเลิกกันไปแล้วแต่จอห์นก็กับเธอยังคงสนิทสนมกันอย่างเคยในฐานะเพื่อน
“ก็เพราะมันยอมเป็นแฟนแอลไงพี่ถึงคิดว่ามันไม่มีสมอง”
“พี่อลัน” เอลินอร์เริ่มโมโห แต่เธอก็ทำอะไรเขาไม่ได้เพราะตอนทั้งสองคนนั่งอยู่กันคนละฝั่งของโต๊ะอาหาร
หญิงสาวนั่งติดกับมารดา ส่วนพี่ชายนั่งตรงข้ามกับเธอ โดยมีพรลภัสนั่งอยู่ด้านข้างและถัดจากภรรยาของพี่ชายก็เป็นปฐพีที่นั่งเงียบมาตั้งแต่เริ่มทาน แต่พอพี่ชายเธอพูดประโยคเมื่อครู่เขาก็ก้มหน้าและแอบหัวเราะ
“หยุดเลยนะนายดิน ฉันได้เห็นนะว่านายแอบหัวเราะ”
“ผมเปล่า” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธ
“พอแล้วแอล พ่อว่ารีบทานกันเถอะอาหารจะเย็นหมดแล้ว” คุณเอกภพรีบห้ามเพราะถ้าเอลินอร์เริ่มพาลไปถึงปฐพีแล้วเรื่องนี้คงจะจบยาก
“พ่อต้องจัดการทั้งพี่อลันและนายดินนะคะพ่อ สองคนนี้หัวเราะเยาะแอล”
“เอาเถอะน่าเรื่องมันเล็กน้อยแอลอย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะลูกพี่เขาก็แค่แหย่เล่นเท่านั้นเอง” แอนเดรียช่วยห้ามทัพอีกคน
“ก็ได้ค่ะ แต่แอลบอกก่อนเลยนะคะ ถ้ายังว่าแอลแบบนี้อีกแอลไม่เอาไว้แน่” เอลินอร์คาดโทษทั้งพี่ชายตัวเองและปฐพีที่บังอาจมาหัวเราะคนรักของเธอ
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วเอลินอร์ก็เอาของฝากให้พี่ชายและพี่สะใภ้ ก่อนที่ทั้งสองคนจะขอตัวกลับเพราะพรุ่งนี้อลันจะต้องบินไปตรวจงานที่เชียงใหม่ตั้งแต่เช้า
“ผมก็ขอตัวกลับก่อนนะครับคุณลุงคุณป้า”
“ดึกแล้วไม่ค้างที่นี่เหรอดิน” เอกภพเอ่ยชวน
“ไม่เป็นไรครับ คอนโดผมไม่ไกลมากขับรถแป๊บเดียวก็ถึงครับ”
แต่ก่อนปฐพีก็เคยอาศัยอยู่ที่นี่ แต่พอชายหนุ่มทำงานเขาก็เก็บเงินซื้อคอนโดไว้หนึ่งห้องซึ่งเป็นคอนโดในโครงการของเอกภพ เขาเลยซื้อได้ในราคาถูก แต่ก็มีบ่อยครั้งที่เขาจะมาค้างที่บ้านหลังนี้เพราะถึงจะย้ายออกไปแล้วแต่ห้องนอนของเขาก็ยังอยู่เหมือนเดิม
“ถ้างั้นลุงขอบใจนะที่วันนี้อุตส่าห์ตื่นตั้งแต่ตีสี่ ถ้าไม่ได้ดินก็คงแย่เพราะลุงก็หูตาไม่ค่อยดีเหมือนเมื่อก่อนแล้ว” เอกภพนั้นสุขภาพไม่ค่อยดีเหมือนเมื่อก่อนจึงขับรถในเวลากลางคืนได้ไม่ดีนัก
“ไม่เป็นไรครับ”
ปฐพียังไม่ทันจะลุกจากเก้าอี้เอลินอร์ก็ยื่นถุงกระดาษใบหนึ่งมาตรงหน้ามันใกล้จนแทบจะทิ่มตาเขาอยู่แล้ว
“แอลทำอะไรน่ะ” แอนเดรียดุลูกสาวเพราะมองจากมุมที่เธอนั่งอยู่ถึงใยนั้นเฉียดหน้าปฐพีไปแค่นิดเดียว
“ก็ของฝากไงคะ แอลซื้อมาให้นายดิน เดี๋ยวเขาจะหาว่าแอลมามีน้ำใจ” เอลินอร์ตั้งใจซื้อของฝากมาให้กับทุกคนอยู่แล้วถึงแม้เธอจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาเท่าไหร่ แต่ก็รู้มาจากมารดาว่าตลอดเวลาที่เธอไปเรียน ปฐพีก็คอยช่วยงานบิดาของตัวเองตลอด
“แล้วทำไมให้พี่เขาดีๆ ละแอล” เอกภพไม่ชอบกิริยาของลูกสาวที่ทำกับปฐพีเลยแต่ถ้าจะดุไปมากกว่านี้ก็ไม่แน่ว่าเอลินอร์จะแอบไปทำอะไรชายหนุ่มลับหลังหรือเปล่า
“ขอบคุณครับคุณหนู” ปฐพีรับของฝากจากเธอแล้วก็หันมากล่าวลาเจ้าของบ้านก่อนจะเดินไปที่รถยุโรปคันหรูซึ่งคุณเอกภพบอกเขาว่าเป็นรถประจำตำแหน่งผู้ช่วยฝีมือดี ปฐพีไม่อยากรับไว้แต่เพราะเขาต้องไปติดต่องานในฐานะตัวแทนของบริษัทก็เลยต้องยอมรับไว้เพื่อภาพลักษณ์ของบริษัท
ชายหนุ่มเดินมาถึงตัวรถแต่ยังไม่ทันได้เปิดประตูเสียงคุณหนูเจ้าของบ้านก็ดังขึ้น
“นายจะไม่เปิดดูหน่อยเหรอ”
เอลินอร์เดินตามเขาออกมาตอนไหน ชายหนุ่มเองก็ไม่ทันได้สังเกต รู้อีกทีเธอก็เดินตามเขามาที่รถแล้ว
“ผมไปเปิดที่คอนโดก็ได้ครับ”
“นายต้องเปิดตรงนี้ ฉันจะได้รู้ว่านายชอบของฝากที่ฉันซื้อมาไหม เผื่อนายเดินออกไปแล้วแอบทิ้งเพราะไม่ชอบ ฉันเสียดายตัง ถึงแม้ว่าจะซื้อแบบหนึ่งแถมหนึ่ง”
“ครับ” ปฐพีเปิดถุงและหยิบขวดน้ำหอมขึ้นมาดูแล้วยิ้ม
“เป็นไงชอบไหม”
“ครับ”
“ถ้างั้นนายก็เปิดดูสิกลิ่นหอมไหม”
เอลินอร์รู้จากพี่ชายว่าปฐพีเป็นคนเรียบง่าย ไม่ชอบใช้ของเหล่านี้เธอถึงได้ซื้อมาฝากเพราะอะไรที่ทำให้เขาขุ่นเคืองใจเธอก็จะทำเพราะเธอมีความแค้นกับเขาในอดีตและไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่เธอก็ไม่เคยลืม
“ผมคิดว่าชอบครับ”
“ยังไม่ได้เปิดดมเลยจะรู้ได้ยังไงว่าชอบจริงหรือเปล่า มันน่าน้อยใจชะมัดฉันอุตส่าห์เลือกซื้อกลิ่นนี้มาให้นายโดยเฉพาะเลยนะ แต่เหมือนนายจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ถ้างั้นฉันขอคืนแล้วกันนะ จะได้เอาไปให้คนอื่น”
เอลินอร์แบมือมาตรงหน้าเพื่อจะขอน้ำหอมคืน ปฐพีเลยต้องเปิดขวดออกแล้วน้ำหอมใส่หลังมือของตนก่อนจะยกขึ้นดม
“เป็นไงหอมไหม”
“ครับ”
“งั้นต่อไปนายก็ต้องใช้ทุกวัน ถ้าหมดมาบอกเดี๋ยวฉันสั่งซื้อขวดใหม่ให้”
“ขอบคุณครับ ผมกลับได้หรือยัง”
“อยากจะกลับก็กลับสิใครรั้งนายไว้ล่ะ อย่าลืมนะ ถ้าเจอกันครั้งหน้าฉันไม่ได้กลิ่นน้ำหอมนายตายแน่” พูดจบเอลินอร์ก็เดินเข้าบ้านส่วนปฐพีก็ขับรถกลับคอนโดของตนเองซึ่งใช้เวลาขับรถเพียงแค่สิบนาที
เมื่อได้รับคำตอบจากภรรยาแล้วปฐพีก็เริ่มปฏิบัติการปั๊มทายาททันที ปฐพีอุ้มเจ้าสาวไปยังห้องนอน เขาวางเธอลงที่ปลายเตียงแล้วรั้งให้เธอเข้ามาแนบชิด จุมพิตไปบนริมฝีปากนุ่มสวย บดขยี้อย่างโหยหาเพียงแค่สัมผัสร่างกายก็ตื่นตัว ชายหนุ่มจับมือเล็กของภรรยาสาวไปสัมผัสกับส่วนแข็งขืนเพื่อให้เธอรับรู้ ว่าตอนนี้เขาต้องการเธอมากแค่ไหน “พี่ดินทำไมมันโตเร็วละคะ” “ก็พี่คิดถึงและต้องการหนูแอลไงครับ ไม่เจอกันหนึ่งเดือน แล้วพอเจอกันก็ได้แค่เดินจับมือ มันทรมานมากนะครับ รู้ไหมพี่ต้องการแอลมาก”เสียงของเขาบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าตัวเองนั้นต้องการเธอมากแค่ไหน ชายหนุ่มประคองใบหน้าคนรักแล้วประกบปากจูบอีกครั้งอย่างเร่าร้อนและเรียกร้องเอลินอร์เผยอปากรับลิ้นอุ่นเข้าให้เข้ามาตวัดไล้น้ำหวาน พร้อมส่งเสียงครางอย่างรัญจวน เมื่อฝ่ามือใหญ่ละจากใบหน้าลงมาทรวงอกอิ่มบีบคลึงเต้างามอย่างหนักมือ ปฐพีผละจูบออกเมื่อเธอเริมครางประท้วงเพราะกำลังจะขาดอากาศ สองตาสบประสานส่งผ่านความรู้สึกและความต้องการที่ต่างฝ่ายต่างต่างมีให้แก่กันอย่างท่วมท้นชุดนอนไม่ได้นอนและบราตัวจิ๋วที่พี่สะใภ้มอบให้ค่อยๆ
งานแต่งงานระหว่างปฐพีและเอลินอร์ถูกจัดขึ้นที่โบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ความสวยงามของโบสถ์กับการออกแบบงานแต่งงานเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความสุข ซึ่งปฐพีเป็นคนออกแบบเองทั้งหมด ปฐพีสวมสูทสั่งตัดสีขาวที่ตัดเย็บอย่างประณีต แขกที่มาร่วมกันต่างมีใบหน้ายิ้มแย้มและรอคอยการปรากฏตัวของเจ้าสาว เมื่อเสียงดนตรีดังขึ้นชายหนุ่มก็หันไปมองที่ประตูทางเข้า เขารู้สึกใจเต้นแรง ในขณะที่แขกต่างลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติเจ้าสาวที่เดินควงแขนคุณเอกภพผู้เป็นบิดาเข้ามาใบหน้าสวยปกปิดด้วยผ้าสีขาว นั้นยิ่งกระตุ้นให้ทุกคนอยากเห็นว่าหญิงสาวผู้โชคดีคนนี้จะมีใบหน้าสวยงามแค่ไหน แม้ว่าปฐพีจะไม่มีคนรู้จักที่นี่มากนักแต่เพราะเขาเป็นทายาทอย่างถูกต้องตามกฎหมายคนเดียวของวิลเลียม เบอร์เรลนักธุรกิจชื่อดังของเมืองนี้งานแต่งครั้งนี้จึงมีคนจับตามองอยู่มากพอสมควรเมื่อคุณเอกภพเดินมาถึงยังแท่นพิธีเขาก็ส่งตัวลูกสาวให้กับปฐพี ที่ยื่นมือมารับเจ้าสาวของเขาด้วยความตื่นเต้น มือใหญ่สั่นเล็กน้อยและนั่นก็ทำให้เอลินอร์รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกเมื่อเอลินอร์มายืนอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มก็ยกผ้าคลุมใบหน้า
ความสุขมันแสนสั้นเมื่อถึงเวลาที่ปฐพีจะต้องกลับไปทำงานอีกครั้ง เอลินอร์มาส่งคนรักที่สนามบิน แต่ครั้งนี้เธอไมได้เศร้าเหมือนครั้งก่อนเพราะปลายเดือนหน้าเธอครอบครัวก็จะบินไปเที่ยวอังกฤษตามคำเชิญของคุณลินดาและคุณวิลเลียม“อีกไม่ถึงเดือนเราก็จะเจอกันอีกแล้ว ครั้งนี้หนูแอลคงไม่งอแงให้พี่ต้องรีบกลับมาใช่ไหมครับ”“แอลไม่เคยงอแงนะคะ”“แล้วใครกันล่ะครับ ที่ไม่ยอมให้พี่โทรหาจนพี่ทนคิดถึงไม่ไหวรีบบินกลับมาแบบนี้”“มาโทษแอลได้ยังไงล่ะคะ พี่ดินอยากทนไม่ไหวเอง”“ถ้าไม่รักก็คงไม่รีบบินกลับมาหรอกครับ”“พี่ดินขา อย่าปากหวานแบบนี้กับใครนะคะ”“พี่ทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้ หนูแอลยังไม่ไว้ใจพี่อีกเหรอครับ”“ก็พี่ดินของแอลหล่อขนาดนี้เป็นใครก็ต้องหวง”“พี่ไม่เคยมองใครมานานหลายปีแล้ว มองแค่หนูแอลคนเดียว” ปฐพีกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เขาไม่อยากจะห่างเธอเลยแต่เพราะมีความจำเป็นเรื่องงานเลยต้องทำใจ“พี่ดิน เขาประกาศเรียกแล้ว”“พี่ไปก่อนะครับ รักหนูแอลนะ” ชายหนุ่มก้มจูบหน้าผากมนอย่างรักใคร่“แอลก็รักพี่ดินค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะพี่ดิน ถึงแล้วอย่าลืมโทรหาแอลนะคะ”“จะลืมได้ยังไงล่ะครับ พี่ไปก่อนนะครับ หนูแอลจะได้รีบกลับไปท
สามวันมาแล้วที่เอลินอร์ทำโทษปฐพี เธอทั้งคิดถึงและอยากเห็นหน้าอยากได้ยินเสียงแต่ก็ต้องอดทนเพราะไม่อยากจะกลายเป็นคนผิดคำพูด แม้ว่าเขาจะไลน์มาหาทุกวัน วันละหลายรอบแต่เธอก็เพียงแค่อ่านแต่ไม่คิดจะตอบกลับ“เหลือแค่สาวันเองจิ๊บๆ” หญิงสาวให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเก็บของใช่ลงกระเป๋าเพราะเลยเวลาเลิกงานมานานนับชั่วโมง แต่เพราะวันนี้ไม่ต้องกลับไปนอนที่บ้านเนื่องจากบิดามารดาไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดเธอจังไม่เร่งรีบอะไร หญิงสาวแวะทานอาหารที่ร้านเดิมที่เคยมาทานกับปฐพีอยู่บ่อยๆ จากนั้นก็เข้าร้านสะดวกซื้อและเลือกอาหารแช่แข็งอีกหลายกล่องเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดเธอจึงอยากจะพักผ่อนอย่างเต็มที่ แม้ว่าแพรวาจะโทรศัพท์มาชวนไปเที่ยวแต่เอลินอร์ก็ปฏิเสธเพราะรู้สึกไม่สนุกกับการไปในสถานที่แบบนั้นอีกแล้ว กลับมาถึงห้องก็เก็บของที่ซื้อมาเขาตู้เย็นก่อนจะรับอาบน้ำเตรียมเข้านอนซึ่งก็ไม่รู้ว่าคืนนี้จะนอนหลับไหม เพราะที่ผ่านมาสองคืนเธอก็นอนไม่ค่อยหลับเนื่องจากไม่ได้คุยกับปฐพีอย่างเคย เอลินอร์ออกมาจากห้องน้ำก็ต้องแปลกใจเพราะตอนนี้บนเตียงของเธอนั้นโรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงสดเป็นตัวหนังสือคำว
เอลินอร์ออกจากงานออกจากงานเลี้ยงของคุณติณณ์ก็ตรงไปคอนโดเพราะคืนนี้เธอบอกกับบิดามารดาว่าจะค้างที่นี่ เนื่องจากจะกลับดึกก็ไม่อยากจะขับรถไปที่บ้านเพราะว่าระยะทางจากคอนโดไปที่งานเลี้ยงของคุณติณณ์นั้นใกล้กว่าบ้านของเธอมาก หญิงสาวพยายามจะข่มอารมณ์โมโหของตนมาตั้งแต่อยู่ในงาน พอประตูห้องปิดลงเธอก็กรีดร้องอย่างสุดเสียงเพื่อระบายความโกรธที่ทนจะอัดอั้นมาเกือบชั่วโมง อันที่จริงเธอก็อยากจะกรี๊ดตั้งแต่อยู่ในงานเพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่พลอยลดานำมาบอก แต่เพราะเมื่อคืนตนเองไปในนามบริษัทจึงทำแบบนั้นไม่ได้ “พี่ดินนะพี่ดินทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง”เอลินอร์ตัวสั่นเทาขณะกดวิดีโอคอลไปหาคนรัก พอเขากดรับเธอก็พูดกับเขาด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด “พี่ดิน พี่ทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง ไหนพี่ว่าไม่เคยมีอะไร ไม่เคยนอนด้วย แล้วนี่ถึงกับนัดกันไปถึงอังกฤษ ไหนพี่ดินบอกว่ารักแอล ให้แอลรอ ให้แอลอดทน แล้วยังไงคะ ในขณะที่แอลอดทนอยู่ทางนี้พี่ดินก็มีความสุขอยู่ทางนู้น พี่ว่ามันยุติธรรมกับแอลไหมล่ะ พี่ดินใจร้าย พี่ดินทำลายความไว้ใจของแอล” เอลินอร์พูดยาวเหยียดก่อนจะร้องไห้อย่างหนักเมื่อพูดจ
เกือบเดือนแล้วที่เอลินอร์กับปฐพีไม่ได้เจอกับเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีหน้าที่ของตนเองที่ต้องรับผิดชอบ แต่พวกเขาก็ยังคงคุยกันอยู่ทุกวันเหมือน เธอกับครอบครัววางแผนว่าจะไปเยี่ยมครอบครัวของเขาที่อังกฤษปลายเดือนหน้า แต่ระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ได้วิดีโอคอลคุยกันบ้างแล้ว เอลินอร์ทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดีทั้งในฐานะรองประธานบริษัทและในฐานะนักออกแบบเครื่องประดับ พนักงานทุกคนยอมรับในความสามารถของหญิงสาว และต่างพากันชื่นชมเจ้านายของตนเองที่ทั้งสวยและเก่งจนหาตัวจับยาก หญิงสาวรับผู้ช่วยส่วนตัวมาหนึ่งคนชื่อกมลมาศเพื่อจะได้ออกไปทำงานข้างนอกกับเธอในขณะที่คุณแขไขก็ยังทำหน้าที่เป็นเลขาได้เป็นอย่างดี "คุณแอลคะ งานเย็นนี้มาศเตรียมชุดให้แล้วนะคะ” “แอลไม่อยากไปเลยค่ะ พี่มาศไปแทนแอลได้ไหมคะ” “ได้ยังไงล่ะคะคุณแอล เขาเป็นคู่ค้าคนสำคัญเลยนะคะ ถ้าคุณแอลไม่ไปมาศว่าท่านประธานคงจะไม่ค่อยพอใจแน่ๆ” “แอลไม่ชอบงานแบบนี้เลยค่ะ” “แล้วแต่ก่อนใครไปล่ะคะ หรือว่าท่านประธานไปเอง” “ก็คงจะเป็นผู้ช่วยคุณพ่อนั่นแหละ พอเขาออกไปงานทุกอย