Share

ซูเซวียนกลับมา

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-07-20 05:58:18

ทั้งหมดในห้องโถงยังไม่ได้รับรู้ของผู้มาเยือนที่ยืนมองอยู่ที่หน้าประตูจวน เพราะมัวแต่เถียงกันเรื่องเงิน มีเพียงพ่อบ้านซูที่ยืนมองอย่างร้อนรน

“เช่นนั้น พรุ่งนี้ข้าไม่เล่นด้วยแล้วค่ะ” ซุนเหยายื่นปากอย่างไม่พอใจ

“ได้ ได้ แม่ยอมแล้ว เอาไป” หลีซื่อได้ยินว่าซุนเหยานางจะไม่ยอมเล่นด้วยอีกก็รีบยัดถุงเงินใส่มือของนางอย่างไว

ซูเซวียนใบหน้าเขียวคล้ำ เมื่อเขามาถึงแล้วคนด้านในยังไม่สนใจเขา หงอี้อ้าปากค้างอย่างตกตะลึง นางคิดว่าฮูหยินที่ท่านแม่ทัพซูอยากจะหย่าคงมีใบหน้าอัปลักษณ์ ทั้งยังนิสัยร้ายกาจ

แต่ที่นางเห็น หากบอกว่าซุนเหยานางอัปลักษณ์เช่นนั้นก็ไม่มีสตรีใดที่งดงามอีกแล้ว ทั้งยังไพ่บนโต๊ะที่แปลกตา หงอี้นึกอย่างจะกระโดดเข้าไปร่วมวงด้วยใจแทบขาด

“ท่านแม่ขอรับ ข้ากลับมาแล้ว”

สิ้นเสียงของซูเซวียนทั้งห้องโถงก็ตกอยู่ในความเงียบ แล้วหันมามองทางเขา หลีซื่อใบหน้าซีดขาว เมื่อเห็นว่าบุตรชายพาสตรีกลับมาด้วย

ซุนเหยาเห็นเช่นนั้นก็ดึงสายตากลับ ทั้งนางยังเก็บเงินที่ได้มาลงหีบของนางอย่างไม่ใส่ใจ เพราะรู้ว่าเมื่อเขากลับมา ต่อให้มาเพียงลำพังก็คงต้องมาด้วยเรื่องหย่ากับนางเป็นแน่

“นางเป็นผู้ใดกัน” หลีซื่อชี้นิ้วที่สั่นเทาเอ่ยถามอย่างมีโทสะ

“นางคือ ฟู่หงอี้ ข้าจะรับนางเป็นฮูหยินขอรับ” หลีซื่อเป็นลมล้มพับไปที่เก้าอี้ เมื่อได้ยินสิ่งที่บุตรชายพูด

“ท่านแม่ ไปตามหมอเร็วเข้า” ซุนเหยาวางหีบเงินของนางลง แล้วรีบเข้าไปประคองหลีซื่อ

ซูเซวียนถอนหายใจออกมา เขารู้แล้วว่าเรื่องคงออกมาเป็นเช่นนี้ แต่ก็อดที่จะสงสารมารดาไม่ได้

ตลอดเวลาที่หลีชื่อหมดสติ ซุนเหยานางดูแลอยู่ไม่ห่าง โดยไม่ได้สนใจผู้มาเยือนใหม่ทั้งสองคนที่นั่งอยู่ในห้องโถงด้วย

ซูเซวียนมองซุนเหยานางอยู่ตลอดเวลา เขาเม้มปากแน่นอย่างใช้ความคิด ยิ่งหงุดหงิด เมื่อนางไม่แม้แต่จะอาละวาดที่เห็นเขาพาหงอี้กลับมา

หากนางอาละวาดเสียหน่อยคงเป็นเรื่องง่ายที่จะพูดเรื่องหย่าขาดกับนาง

“อาเหยา” 

“ท่านแม่ดื่มน้ำเสียก่อนเจ้าค่ะ” ซุนเหยานางประคองหลีซื่อให้ลุกขึ้นดื่มน้ำ

ซุนเหยาตบไปที่หลังมือของหลีซื่อและยิ้มออกมาให้นาง หลีซื่อจับมือของซุนเหยานางไว้แน่น เพราะกลัวว่านางจะหนีออกไปจากห้องโถง

“เจ้าคิดดีแล้วใช่หรือไม่”

“ขอรับ”

“แม่จะยอมรับนางเป็นอนุ แต่เจ้าต้องมีบุตรกับอาเหยาให้แม่ก่อน”

ซุนเหยารีบดึงมือนางออกจากมือของหลีซื่อทันที แต่ก่อนที่นางจะอ้าปากโต้แย้งเสียงเย็นชาของซูเซวียนก็ดังขึ้นเสียก่อน

“ท่านแม่ ข้ากลับมาครั้งนี้เพื่อหย่ากับนาง”

ซุนเหยาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ยิ่งทำให้ซูเซียนที่คิดจะหย่ากับนางในตอนแรกเกิดเปลี่ยนใจ

“แต่ ข้ามาคิดดูแล้ว ท่านเข้ากับนางได้เป็นอย่างดี เช่นนั้นข้าจะลองกลับไปคิดดูอีกครั้งขอรับ” 

ซุนเหยาหันไปมองซูเซวียนอย่างไม่เชื่อหูตนเอง เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้มองสำรวจกันอย่างเปิดเผย

นางเม้มปากแน่นอย่างไม่ยินยอม เห็นนางเป็นอันใด นึกอยากจะแต่งก็แต่ง จะหย่าก็เพียงแค่ทิ้งจดหมายหย่าไว้ พอกลับมาพูดเรื่องหย่าให้เรียบร้อย จะมาเข้าหอกับนางอีกครั้ง

“เรื่องนี้ข้าไม่เห็นด้วยเจ้าค่ะ ข้าต้องการหย่า” ซุนเหยาพูดออกมาเสียงดังอย่างไม่ยินยอม

หงอี้เงยหน้าขึ้นมองนางอย่างชื่นชม สตรีที่ใจกล้าเช่นนางที่อยู่แต่ในสนามรบ มิเคยพบเห็นสตรีเช่นซุนเหยามาก่อน

“ในเมื่อท่านหาฮูหยินคนใหม่ของจวนตระกูลซูมาแล้ว เรื่องที่สมควรจัดการตั้งแต่ต้น ก็ควรจะจัดการให้เรียบร้อย” 

หงอี้อ้าปากอยากจะโต้แย้งแต่ถูกเท้าของซูเซวียนเหยียบเท้าของนางไว้ก่อน

“หึ ฮูหยินของข้าช่างใจแคบเสียจริง หากเรื่องที่เจ้ามิยินยอมให้ข้ารับฮูหยินรองเข้าจวนหลุดรอดออกไป ตระกูลจ้าวของเจ้าคงได้อับอายเป็นแน่ ที่เลี้ยงดูบุตรีออกมาเช่นนี้”

“อาเซวียน” หลีซื่อร้องออกมาเสียงดัง วาจาของบุตรชายตัวดี แทบทำให้นางกระอักเลือดวันละหลายๆ รอบ

“เรื่องนี้คงไม่รบกวนให้ท่านแม่ทัพช่วยคิดอ่าน ต่อให้ชื่อเสียงของข้าหรือตระกูลจ้าวมัวหมอง ก็ไม่เกี่ยวอันใดกับตระกูลซูของท่านกระมัง” มีหรือที่สตรีจากยุคปัจจุบันต้องกลัวฝีปากของยุคโบราณ

“ดียิ่ง เช่นนั้น”

แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะปะทะฝีปากกันอีกรอบ หลีซื่อนางก็กระอักเลือดออกมาจริงๆ ซุนเหยาใบหน้าซีดขาวด้วยความตกใจ

“ท่านแม่/ท่านแม่” ทั้งซุนเหยาและซูเซวียนต่างเข้าไปประคองหลีซื่อไว้

วันนั้นทั้งวัน หมอเข้าออกจวนตระกูลซูอยู่หลายรอง เพื่อดูอาการของหลีซื่อ

ซุนเหยานางเม้มปากแน่น สายตาจับจ้องอยู่ที่เตียงของหลีซื่ออย่างกังวล ซูเซวียนก็ไม่ต่างกัน มีเพียงหงอี้ที่ยืนทำตัวไม่ถูก

เพราะสายตาของแม่นม พ่อบ้าน และสาวใช้ต่างมองมาที่นางอย่างตำหนิ

“เจ้าจะไปที่ใด” 

ซูเซวียนเอ่ยถาม เมื่อเห็นซุนเหยานางลุกขึ้นจะเดินออกไปจากห้องของหลีซื่อ

“ข้าทำอันใด ต้องรายงานท่านทุกเรื่องด้วยหรือ” นางเลิกคิ้วถามอย่างยียวน ก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่สนว่าซูเซวียนจะมองนางอย่างดุดันเช่นไร

หงอี้ได้แต่ลอบยิ้มในใจ นางก็เพิ่งจะเคยพบคนที่ทำให้ท่านแม่ทัพมีอาการเช่นนี้ได้

“เสี่ยวกุ้ยเจ้าไปที่เหลาอาหาร ให้นำพระกระโดดกำแพง เม็ดบัวผัดซอส ผัดรากบัวผักรวม และปลานึ่งซีอิ๊วมา”

เสี่ยวกุ้ยรีบรับคำแล้วออกไปจัดการทันที ซุนเหยานางจึงไปที่ห้องครัว เพื่อเตรียมน้ำแกงโสมให้หลีซื่อด้วยตนเอง

เมื่อหลีซื่อฟื้นขึ้นมาไม่เห็นซุนเหยาอยู่ภายในห้อง นางก็โวยวายเสียงดังจนแม่นมต้องออกมาตามซุนเหยานางให้กลับไปในห้องอีกครั้ง

“ท่านแม่นม เนื้อตัวของข้ามีแต่กลิ่นอาหาร บอกท่านแม่ให้รอข้าสักครู่เถิด”

“เจ้าค่ะฮูหยิน” แม่นมรีบกลับไปแจ้งที่หลีซื่อทันที

ภายในห้องของหลีซื่อนางร่ำไห้อยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ที่ฟื้นขึ้นมา

“เจ้าจะกลับมาด้วยเหตุใด ทำไมไม่อยู่ชายแดนต่อไป” หลีซื่อทุบไปที่ตัวของบุตรชาย

“ท่านแม่ ท่านอย่าทุบตีข้าอีกเลยขอรับ ข้าไม่เจ็บเป็นท่านที่จะเจ็บมือ” ซูเซวียนกุมมือของมารดาไว้อย่างเอาใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   ตอนจบ

    หลี่น่านางรู้จากพี่ชายของนาง เรื่องว่าที่คู่หมั้นของซิ่งอิง เป็นสหายของสองฝาแฝด การสอบจิ้นซื่อในครั้งนี้ เขาก็ได้ตำแหน่ง ปั๋งเหยี่ยน ที่ได้อันดับที่สองมาครองคุณชายหวัง หวังจื่อเฉิน บุตรชายของสนาบดีหวัง เสนาบดีกรมโยธาเพราะนิสัยที่เหมือนกับหลิงเฮ่อ บิดาของซิ่วอิงนางจึงไม่ค่อยจะพอใจนัก แต่กลายเป็นหวังจื่อเฉินที่พึงใจต่อนาง จนแทบจะมาพบหน้านางที่จวนอยู่เสมอ ซิ่วอิงนางก็พึงใจต่อหวังจื่อเฉินเช่นกัน แต่นางไม่ยอมรับความจริงก็เท่านั้น“เพ้ย เจ้าจะอยากรู้ไปไย บัณฑิตที่สนใจแต่ตำรา จะสู้อันใดกับว่าที่สามีของเจ้าได้” หลี่น่าถูกซิ่วอิงหยอกล้อก็ก้มหน้าลงอย่างเขินอายซุนเหยาก็พูดคุยกับหงอี้อย่างสนุกสนาน พอทุกคนได้มาอยู่รวมกันเช่นนี้ หลีซื่อก็เริ่มที่จะชวนทั้งสามตั้งวงเล่นไพ่อย่างเสียไม่ได้ฝ่ายบุรุษที่นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องตำรา ก็เป็นเพียงเรื่องของเลี่ยงหรงและเลี่ยงหวงที่ทั้งคู่จะเลือกทางเดินอย่างไรต่อไปซูเซวียนให้บุตรชายทั้งสองเลือกหนทางเดินของตนเองได้เต็มที่ ในเมื่อเลี่ยงหรงต้องการเป็นขุนนางฝ่ายบู๋เช่นเขาก็ย่อมได้“อาหรง เจ้าคงไม่ได้มาประจำที่ชายแดนอย่างแน่นอน ฝ่าบาทต้องให้เจ้าเป็นองครักษ์เสื้อแพรเ

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   ทาบทามสู่ขอ

    ฮ่องเต้ให้ฮองเฮาจัดการเรื่องสู่ขอบุตรีของท่านแม่ทัพซูให้เป็นเรื่องเป็นราว โดยที่พระองค์ให้เกียรติซูเซวียนโดยไม่คิดจะพระราชทานสมรสให้เพื่อบังคับให้แต่งานท่านด้านซูเซวียนกับฉางเทียนที่อยู่ในค่ายทหารก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ วันนี้มีการประลองวรยุทธ์เพื่อเลื่อนตำแหน่งภายในกองทัพฉางเทียนย่อมทำได้อย่างดี เพราะอาจารย์ที่มาสอนเขาถูกคัดเลือกมาแล้ว ทหารในค่ายต่างไม่มีใครคิดว่าฉางเทียนที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในค่ายได้ไม่นานจะเก่งกาจมากเพียงนี้ยามที่ฝึกซ้อมเขาไม่ได้แสดงฝีมือของตนออกมาอย่างเต็มที่ ก็ไม่แปลกที่ผู้อื่นจะดูไม่ออกถึงวรยุทธ์ของเขาฉางเทียนสามารถเอาชนะรองแม่ทัพทั้งสี่ของซูเซวียนได้ง่าย ทุกคนจึงไม่กังขาหากเขาจะขึ้นมารับตำแหน่งรองแม่ทัพ เพราะจะมีรองแม่ทัพที่เกษียณกลับบ้านเกิดของตน เขาจึงได้ตำแหน่งนี้ไปครองแต่เรื่องนี้ทำให้ซูเซวียนไม่พอใจนัก เพราะเขาเคยพูดไว้ว่า หากฉางเทียนขึ้นเป็นรองแม่ทัพได้ก่อนหลี่น่านางอายุสิบหกหนาว เขาจะพิจารณาเรื่องสู่ขอของนางฉางเทียนยิ้มเต็มใบหน้าเมื่อขึ้นรับตำแหน่งรองแม่ทัพ เขามองมาที่ว่าที่พ่อตาอย่างมีเลศนัย เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น ขบวนสู่ขอที่ฮองเฮาส่งมาจากเมืองหลวงก

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   หยกพกของว่าที่พระชายา

    หลี่น่าเมื่อรู้ว่าพี่ชายทั้งสองของนางกลับมาจากเมืองหลวงก็รีบมาหาทั้งคู่ที่ห้องโถงเรือนหลัก สองฝาแฝดนำของที่ทั้งสองตระกูลฝากมาให้กับตนนำมามอบให้หลี่น่าในวันงานด้วยซิ่วอิงที่อยากจะเดินทางมาด้วยแต่มาไม่ได้ เพราะนางก็ต้องอยู่จัดงานปักปิ่นของนางเช่นกัน ก็เขียนจดหมายตัดพ้อมาด้วยเสียมากมายฉางเทียนที่อยู่ค่ายทหารก็เดินวนอยู่ที่หน้ากระโจมของซูเซวียนหลายรอบแล้ว ในค่ายทหารน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเขาเป็นองค์ชาย จึงได้รับการปฏิบัติเช่นทหารใหม่ทั่วไป กินนอนอย่างเช่นทุกคนไม่มีอำนาจใดในค่ายทหารทั้งสิ้น“เข้ามา” ซูเซวียนนึกรำคาญจึงได้เอ่ยเสียงเข้มอนุญาตให้ฉางเทียนเข้ามาด้านใน“พระองค์มีสิ่งใดก็ตรัสเถิดพ่ะย่ะค่ะ” เมื่ออยู่กันเพียงลำพังซูเซวียนมักจะพูดอย่างเป็นทางการกับฉางเทียน“เปิ่นหวางฝากสิ่งนี้ให้คุณหนูซูด้วย” ฉางเทียนยื่นกล่องไม้ที่เคยให้หลี่น่ามาแล้วครั้งหนึ่งให้กับซูเซวียน“พระองค์ตัดสินพระทัยดีแล้วใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” ซูเซวียนเอ่ยถามอย่างจริงจัง“นับตั้งแต่ที่เปิ่นหวางให้นางในครั้งนั้น ก็ไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนใจ” สายตาแน่วแน่ของฉางเทียนทำให้ซูเซวียนไม่มีคำโต้แย้งต่อเขาอีกฉางเทียนต้องการให้หลี่น่าแ

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   ผู้ร่วมเดินทางที่คาดไม่ถึง

    เมื่อซูเซวียนกำลังจะพาคนทั้งหมดออกเดินทาง เขาก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นฉางเทียนขี่ม้ามาที่ขบวนของเขา พร้อมทั้งรถม้าที่ขนข้างของอีกถึงห้าคันรถม้า“องค์ชายห้า ท่านจะไปที่ใดหรือพ่ะย่ะค่ะ” จ้าวกงหยวนอดที่จะเอ่ยถามมิได้“เปิ่นหวาง ได้รับราชโองการจากเสด็จพ่อให้เดินทางไปเป็นทหารในกองทัพของท่านแม่ทัพใหญ่ซู” เขายกยิ้มน้อยๆ บอกกล่าวกับจ้าวกงหยวนซูเซวียนที่เห็นเช่นนั้นมุมปากของเขาก็กระตุกอย่างห้ามไม่อยู่ เขาจะรู้ไม่ทันความคิดของฉางเทียนได้อย่างไร คงเป็นเพราะจะติดตามบุตรีของตนไปต่างหากฉางเทียนมองไปที่หลี่น่าอย่างแฝงความหมาย ก่อนจะเก็บสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว หลี่น่าที่เห็นเช่นนั้นก็ก้มหน้าลงอย่างเขินอายนับตั้งแต่เกิดเรื่องกับนางครั้งนั้น นางก็ไม่ได้ออกจากจวนอีกเลย จึงไม่ได้พบกับฉางเทียน ถึงกระนั้นนางก็ยังไม่รับของจากเขาอยู่ไม่ขาดในเมื่อเป็นราชโองการจากฮ่องเต้ ทั้งยังถูกส่งมาให้ซูเซวียนอย่างกระชั้นชิดแล้วตัวเขาจะทำสิ่งใดได้อีก จำต้องให้ฉางเทียนเดินทางร่วมกับเขาไปชายแดนเหนือด้วยซูเซวียนให้ฉางเทียนควบม้าอยู่ข้างเขา เพื่อจับตามองไม่ให้ฉางเทียนได้เข้าใกล้บุตรีของตน แต่เมื่อเขาเผลอฉางเทียนก็ควบม้าอยู่ใ

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   เตรียมตัวกลับชายแดนเหนือ

    หลักฐานที่ได้มาทำให้ฮ่องเต้เกือบจะกระอักพระโลหิตออกมา เพราะเรื่องสงครามเมื่อสิบแปดปีก่อน ผู้ที่ค้าแร่เหล็กให้แคว้นต้าอู๋จนทำให้อาจหาญคิดกล้าทำสงครามกับแคว้นต้าฉีก็เป็นเสนาบดีตู้จวนตระกูลตู้แทบลุกเป็นไฟ เมื่อหลงจู๊หอพนันมาแจ้งเรื่องคลังเก็บสมบัติถูกโจรปล้นไปจนสิ้น เมื่อให้พ่อบ้านตรวจดูคลังในจวนของตนก็พบว่าไม่มีสมบัติเหลืออยู่เลยเช่นกันเรื่องภายในจวนยังไม่ได้สอบสวนให้แล้วเสร็จ องครักษ์เสื้อแพรก็เข้าล้อมจวนตระกูลตู้ไว้ พร้อมทั้งราชโองการคุมตัวเสนาบดีตู้ ตู้หานชิง เข้าคุกหลวงเจ้านายในจวนตระกูลตู้ทั้งหมดล้วนแล้วแต่โดนควบคุมตัวไว้เพื่อรอการตัดสินโทษ ตู้เสียนเฟยคุกเข่าอ้อนวอนอยู่หน้าตำหนักของฮ่องเต้นับสองชั่วยามแล้ว แต่พระองค์ก็มิยินยอมให้เข้าเฝ้าทั้งยังให้พาตัวตู้เสียนเฟยไปคุมขังไว้ภายในตำหนักห้ามออกมานอกตำหนักแม้แต่ก้าวเดียว องค์ชายรองก็ไม่ต่างจากมารดาของพระองค์ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในตำหนัก เพื่อรอสอบสวนว่าพระองค์มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดหรือไม่เมื่อองครักษ์เสื้อแพรเข้าค้นจวนเพื่อยึดทรัพย์สินของเสนาบดีตู้ก็ต้องตกตะลึง ในคลังสมบัติของตระกูลล้วนว่างเปล่า รวมทั้งของตู้หานชิงด้วยสอบ

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   เรียกค่าทำขวัญให้บุตรี

    แม้ตระกูลตู้จะไม่มีกองกำลังลับอย่างที่ตระกูลไป๋ทำ แต่พวกเขาก็ลอบค้าเกลือและแร่เหล็กลับหลังฮ่องเต้อยู่ไม่น้อย“ท่านพี่ ท่านพาข้าไปที่หอพนันได้หรือไม่” ซุนเหยาเอยถามซูเซวียนเมื่อทั้งคู่กำลังจะเข้านอน“เจ้าจะไปทำอันใด” เขาเอ่ยถามอย่างสงสัย“ข้าจะไปเรียกค่าทำขวัญให้บุตรสาวข้าเสียหน่อย”คำพูดของซุนเหยาทำให้ดวงตาของซูเซวียนเปล่งประกายอย่างพอใจ เขาลืมไปได้อย่างไรว่าเมียรักของตนมีช่องเก็บของขนาดใหญ่ ที่ผู้ใดก็ตรวจสอบเรื่องนี้ไม่ได้“ที่หอพนันอย่างเดียว จะไปพออันใด คลังของตระกูลตู้ก็คงมีอยู่ไม่น้อย” สองสามีภรรยายิ้มให้กันอย่างรู้ใจ ก่อนที่ทั้งคู่จะไปเปลี่ยนชุดเป็นสีดำสนิท เพื่ออำพรางร่างกายหากสองฝาแฝดเข้ามาได้ยินสิ่งที่บิดามารดาพวกเขาพูดคุยกัน ทั้งคู่ต้องบอกว่าความเจ้าเล่ห์ของพวกเขาก็ได้มาจากท่านทั้งสองอย่างไรเล่าวรยุทธ์ของซูเซวียนไม่เป็นรองผู้ใดในเมืองหลวง เขารวบเอวซุนเหยาแล้วใช้วิชาตัวเบากระโดดไปทางหอพนันเสียงนักพนันดังไปทั่วหอพนันที่ไม่เคยหลับใหล ความวุ่นวายด้านใน ทำให้ผู้บุกรุกที่มาเยือนอยู่ชั้นติดินไม่ค่อยจะมีผู้ใดสนใจนัก ซูเซวียนจัดการผู้คุ้มกันที่เฝ้าคลังสมบัติลงได้อย่างง่ายดายก่อนท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status