Home / รักโบราณ / ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย / เพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น

Share

เพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-07-20 05:58:34

หลีซื่อสะบัดมือของจากมือของบุตรชาย ก่อนจะมองหาซุนเหยาอีกครั้ง

“เหอะ อาเหยาอยู่ที่ไหน ไปตามมาพบข้าแล้วหรือยัง” 

“แล้วเจ้า เข้ามาอยู่ในห้องข้าได้อย่างไร” นางชี้มือไปที่หงอี้

“เอ่อ ข้า ข้ามาดูท่านแม่เจ้าค่ะ”

“ผู้ใดแม่เจ้า ข้าบอกแล้วหรือว่าจะรับเจ้าเป็นอนุของบุตรชายข้า”

“ท่านแม่ โปรดคลายโทสะ ถึงอย่างไร ข้าก็ต้องรับอี้เออร์เข้าจวนขอรับ”

หงอี้ขนแขนลุกชัน นางเบิกตากว้างจ้องมองซูเซวียนอย่างตื่นตกใจ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว แต่ท่านยังไม่หยุดแสดงงิ้วอีกหรือ

นางอยากจะร้องถามใจแทบขาด และอยากจะแก้ตัวว่าไม่ใช่อย่างที่ทุกคนกำลังเข้าใจ แต่สายตาคาดโทษของซูเซวียนที่มองมา หากนางพูดออกไป กลับค่ายไม่แคล้วนางคงโดนเล่นงานเป็นแน่

“ดี ดียิ่ง เช่นนั้นข้าก็ไม่ขอมีชีวิตอยู่แล้ว” หลีซื่อลุกขึ้น เพื่อจะวิ่งเอาหัวไปโขกที่เสา แต่ก็ถูกซูเซวียนจับตัวไว้ได้ท่าน

“ท่านแม่ ท่านอย่าได้ทำเช่นนี้ขอรับ”

แม่นมที่กลับมาจากไปตามตัวซุนเหยาก็รีบเข้ามาขัดขวางหลีซื่อที่ยังโวยวายไม่เลิก

“ฮูหยินผู้เฒ่าเจ้าคะ ฮูหยินน้อยนางไปทำน้ำแกงโสมมาให้ท่าน ตอนนี้นางกำลังไปล้างตัว ท่านรีบกินตอนที่ยังร้อนอยู่เถิดเจ้าค่ะ”

“อาเหยาที่น่าสงสารของข้า เห็นหรือไม่เจ้าลูกเต่า นางถูกเจ้าทำให้ช้ำใจถึงเพียงนี้ ยังคิดเป็นห่วงยายแก่เช่นข้า”

หลีซื่อชอบอาหารที่เป็นฝีมือของซุนเหยานางรีบไปนั่งที่โต๊ะ แล้วตักน้ำแกงโสมกินอย่างรวดเร็ว

ซูเซวียนมองตามมารดาอย่างไม่เชื่อสายตา เขาคิดว่าซุนเหยานางคงใช้เล่ห์อันใดกับมารดาของตนแน่ มารดาจึงได้เชื่อฟังนางเช่นนั้น

“ฮูหยินน้อยมาแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้รีบเข้ามาแจ้งด้านใน เมื่อเห็นซุนเหยานางกำลังเดินมาที่เรือนของหลีซื่อ

หลีซื่อรีบยกซดน้ำแกงที่เหลือลงคออย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินไปนอนลงที่เตียงแสร้งทำเจ็บป่วยอยู่เช่นเดิม

หงอี้ยกมือขึ้นปิดปากอย่างไม่อยากเชื่อ นางเห็นการแสดงงิ้วของสตรีมาไม่น้อย แต่หลีซื่อท่านแม่ของท่านแม่ทัพนั้น เหนือชั้นกว่าเห็นๆ

ซูเซวียนได้แต่ส่ายหัวให้กับการแสดงของมารดา ทุกครั้งที่นางต้องการสิ่งใด จากเขาหรือท่านพ่อของเขา นางมักจะทำเช่นนี้

“ท่านแม่ ดีขึ้นแล้วหรือยังเจ้าคะ” ซุนเหยานั่งลงข้างเตียงหลีซื่อ

“แม่ แม่ไม่กล้าสู้หน้าของเจ้าแล้วอาเหยา บุตรชายที่ข้าเลี้ยงดูมา ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเช่นนี้”

ซุนเหยาถอนหายใจ เมื่อหลีซื่อนางเริ่มคร่ำครวญอีกครั้งแล้ว

“ท่านแม่อย่าได้กล่าวเช่นนี้เจ้าค่ะ สามีภรรยาที่ไม่มีความรักต่อกัน เพียงแค่หย่าร้างกันไปเริ่มชีวิตใหม่ ถึงข้าจะไม่ใช่ลูกสะใภ้ของตระกูลซูแล้ว ข้าก็ยังนับถือท่านเป็นมารดาอีกคนเจ้าค่ะ”

ซุนเหยาพยายามเกลี้ยกล่อมแม่สามีของนาง เพื่อให้เข้าใจว่านางกับซูเซวียนมิอาจอยู่ด้วยกันได้ ในเมื่อเขามีสตรีที่เขาพึงใจ นางก็เพียงแค่ถอยออกมาก็เท่านั้น

หงอี้มองนางอย่างชื่นชม แต่เมื่อได้ยินประโยคต่อมาใบหน้าของนางก็แข็งค้างบิดเบี้ยวไปเลย

“ตอนนี้ก็นับว่าท่านแม่ทัพซูเป็นลูกกตัญญูต่อท่านแล้ว ครั้งนี้เขากลับมายังพาลูกสะใภ้มาให้ท่านด้วยเห็นหรือไม่เล่าเจ้าค่ะ” 

“เหอะ จะมีสตรีใดสู้เจ้าได้อีก ทั่วทั้งเมืองยังหาไม่พบ แล้วนี่ไปคว้ามาจากที่ใดข้าก็ไม่รู้” หลีซื่อหรี่ตามองหงอี้อย่างมุ่งร้าย

หงอี้สะกิดซูเซวียนพร้อมทั้งสายตาอ้อนวอนเขา ขอให้พูดความจริงได้แล้ว นางไม่อยากถูกมองเช่นนี้อีกแล้ว

“เช่นนั้นเรื่องของอี้เออร์เอาไว้ก่อนขอรับ จ้าวซุนเหยา หากเจ้ามิใจแคบจนเกินไป ข้าจะพิจารณาเรื่องหย่ากับเจ้าอีกที”

“ไม่ต้องให้ท่านพิจารณาเรื่องนี้หรอกเจ้าค่ะ ข้าต้องการหย่า” ซุนเหยาปรายตามองซูเซวียนอย่างนึกรังเกียจ

มีสิทธิ์อันใดจะมาตัดสินใจเองเรื่องจะหย่าหรือไม่หย่า ยิ่งนางนึกถึงคำพูดของเขาในวันที่แต่งงาน ก็ยิ่งไม่อยากจะเห็นหน้าของเขา

“ท่านแม่ ท่านได้ยินแล้วหรือไม่ขอรับ เป็นนางที่ต้องการจะหย่าขาดจากข้า”

“อาเหยา” หลีซื่อเอ่ยเรียกซุนเหยาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา

“เจ้ากลับมาอยู่ที่เมืองหลวงนานเพียงใด” หลีซื่อหันมาถามบุตรชาย

“หนึ่งเดือนขอรับ”

“เช่นนั้นหนึ่งเดือน พวกเจ้าลองใช้ชีวิตด้วยกันเสียก่อน หากอยู่ด้วยกันไม่ได้จริง แม่จะยอมให้พวกเจ้าหย่า อาเหยาถือว่าเห็นแก่แม่สักครั้งเถิด” 

ซุนเหยาก้มหน้าลงซ่อนสายตาที่ไม่ยินยอมของนาง ต่อให้หลบสายตาของหลีซื่อได้ แต่ก็ไม่อาจหลบสายตาที่คมดุจเหยี่ยวของซูเซวียนไปได้

“เจ้าค่ะ” นางจำต้องรับปาก

“ดีดี จัดเรือนให้นางไปอยู่ที่ท้ายจวน ส่วนเจ้าลูกเต่า เจ้าอยู่ที่เรือนเดียวกับอาเหยา อย่าได้คิดไปเหยียบที่เรือนท้ายจวนเป็นอันขาด”

“แต่ว่า” ซุนเหยารีบเอ่ยแย้ง

“เพียงเดือนเดียวเท่านั้นอาเหยา แล้วแม่จะไม่บังคับเจ้าอีกเลย” 

หงอี้ถอนหายใจอย่างโล่งอก นางยอมอยู่ที่เรือนท้ายจวนตลอดทั้งเดือนยังดีกว่าที่จะมาอยู่รวมกับท่านแม่ของท่านแม่ทัพ

“อี้เออร์ ข้าจะไปส่ง” ซูเซวียนไม่อาจขัดใจมารดาได้อีก เพราะกลัวว่านางจะกระอักเลือดอีกครั้ง

เขามีเรื่องที่จะพูดกับหงอี้ให้กระจ่าง จึงต้องไปส่งนางด้วยตนเอง แกลายเป็นว่าการแสดงออกของเขาเช่นนี้ ทำให้หลีซื่อกับซุนเหยาคิดว่าเขาพึงใจต่อหงอี้นางมากนัก

“อาเซวียนเจ้า”

“ท่านแม่ อย่าได้ห้ามท่านแม่ทัพเลยเจ้าค่ะ เท้านี้ท่านแม่ทัพก็ยอมถอยให้ท่านมากแล้วเจ้าค่ะ”

เรื่องนี้นางไม่ได้พูดแก้ต่างให้ซูเซวียนแต่นางเห็นใจหงอี้ ที่เป็นสตรีเช่นเดียวกัน จากสีหน้าที่เดี๋ยวซีดขาว เดี๋ยวแดงก่ำของนาง ก็พอจะรู้แล้วว่านางคงไม่รู้เรื่องที่ซูเซวียนมีฮูหยินอยู่ที่จวนแล้ว จึงได้ติดตามเขากลับมา

“โธ่ อาเหยาของข้า” หลีซื่อบีบมือของซุนเหยาแน่น

เมื่อเห็นทั้งคู่เดินออกจากห้องไปแล้ว ซุนเหยานางจึงได้บอกแม่สามีเรื่องที่นางเตรียมอาหารไว้ให้หลีซื่ออย่างมากมาย

“ท่านแม่ ข้าให้สาวใช้ไปนำอาหารที่เหม่ยสือมาหลายรายการ ท่านจะกินเลยหรือไม่เจ้าคะ”

“ดีดี เช่นนั้นตั้งโต๊ะเถิด แม่หิวแล้ว” 

น้ำแกงโสมที่กินไปเมื่อครู่เหมือนยิ่งกระตุ้นความอยากอาหารของหลีซื่อ นางจึงลืมเรื่องที่โมโหบุตรชายไปเสียสนิท

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   ตอนจบ

    หลี่น่านางรู้จากพี่ชายของนาง เรื่องว่าที่คู่หมั้นของซิ่งอิง เป็นสหายของสองฝาแฝด การสอบจิ้นซื่อในครั้งนี้ เขาก็ได้ตำแหน่ง ปั๋งเหยี่ยน ที่ได้อันดับที่สองมาครองคุณชายหวัง หวังจื่อเฉิน บุตรชายของสนาบดีหวัง เสนาบดีกรมโยธาเพราะนิสัยที่เหมือนกับหลิงเฮ่อ บิดาของซิ่วอิงนางจึงไม่ค่อยจะพอใจนัก แต่กลายเป็นหวังจื่อเฉินที่พึงใจต่อนาง จนแทบจะมาพบหน้านางที่จวนอยู่เสมอ ซิ่วอิงนางก็พึงใจต่อหวังจื่อเฉินเช่นกัน แต่นางไม่ยอมรับความจริงก็เท่านั้น“เพ้ย เจ้าจะอยากรู้ไปไย บัณฑิตที่สนใจแต่ตำรา จะสู้อันใดกับว่าที่สามีของเจ้าได้” หลี่น่าถูกซิ่วอิงหยอกล้อก็ก้มหน้าลงอย่างเขินอายซุนเหยาก็พูดคุยกับหงอี้อย่างสนุกสนาน พอทุกคนได้มาอยู่รวมกันเช่นนี้ หลีซื่อก็เริ่มที่จะชวนทั้งสามตั้งวงเล่นไพ่อย่างเสียไม่ได้ฝ่ายบุรุษที่นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องตำรา ก็เป็นเพียงเรื่องของเลี่ยงหรงและเลี่ยงหวงที่ทั้งคู่จะเลือกทางเดินอย่างไรต่อไปซูเซวียนให้บุตรชายทั้งสองเลือกหนทางเดินของตนเองได้เต็มที่ ในเมื่อเลี่ยงหรงต้องการเป็นขุนนางฝ่ายบู๋เช่นเขาก็ย่อมได้“อาหรง เจ้าคงไม่ได้มาประจำที่ชายแดนอย่างแน่นอน ฝ่าบาทต้องให้เจ้าเป็นองครักษ์เสื้อแพรเ

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   ทาบทามสู่ขอ

    ฮ่องเต้ให้ฮองเฮาจัดการเรื่องสู่ขอบุตรีของท่านแม่ทัพซูให้เป็นเรื่องเป็นราว โดยที่พระองค์ให้เกียรติซูเซวียนโดยไม่คิดจะพระราชทานสมรสให้เพื่อบังคับให้แต่งานท่านด้านซูเซวียนกับฉางเทียนที่อยู่ในค่ายทหารก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ วันนี้มีการประลองวรยุทธ์เพื่อเลื่อนตำแหน่งภายในกองทัพฉางเทียนย่อมทำได้อย่างดี เพราะอาจารย์ที่มาสอนเขาถูกคัดเลือกมาแล้ว ทหารในค่ายต่างไม่มีใครคิดว่าฉางเทียนที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในค่ายได้ไม่นานจะเก่งกาจมากเพียงนี้ยามที่ฝึกซ้อมเขาไม่ได้แสดงฝีมือของตนออกมาอย่างเต็มที่ ก็ไม่แปลกที่ผู้อื่นจะดูไม่ออกถึงวรยุทธ์ของเขาฉางเทียนสามารถเอาชนะรองแม่ทัพทั้งสี่ของซูเซวียนได้ง่าย ทุกคนจึงไม่กังขาหากเขาจะขึ้นมารับตำแหน่งรองแม่ทัพ เพราะจะมีรองแม่ทัพที่เกษียณกลับบ้านเกิดของตน เขาจึงได้ตำแหน่งนี้ไปครองแต่เรื่องนี้ทำให้ซูเซวียนไม่พอใจนัก เพราะเขาเคยพูดไว้ว่า หากฉางเทียนขึ้นเป็นรองแม่ทัพได้ก่อนหลี่น่านางอายุสิบหกหนาว เขาจะพิจารณาเรื่องสู่ขอของนางฉางเทียนยิ้มเต็มใบหน้าเมื่อขึ้นรับตำแหน่งรองแม่ทัพ เขามองมาที่ว่าที่พ่อตาอย่างมีเลศนัย เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น ขบวนสู่ขอที่ฮองเฮาส่งมาจากเมืองหลวงก

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   หยกพกของว่าที่พระชายา

    หลี่น่าเมื่อรู้ว่าพี่ชายทั้งสองของนางกลับมาจากเมืองหลวงก็รีบมาหาทั้งคู่ที่ห้องโถงเรือนหลัก สองฝาแฝดนำของที่ทั้งสองตระกูลฝากมาให้กับตนนำมามอบให้หลี่น่าในวันงานด้วยซิ่วอิงที่อยากจะเดินทางมาด้วยแต่มาไม่ได้ เพราะนางก็ต้องอยู่จัดงานปักปิ่นของนางเช่นกัน ก็เขียนจดหมายตัดพ้อมาด้วยเสียมากมายฉางเทียนที่อยู่ค่ายทหารก็เดินวนอยู่ที่หน้ากระโจมของซูเซวียนหลายรอบแล้ว ในค่ายทหารน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเขาเป็นองค์ชาย จึงได้รับการปฏิบัติเช่นทหารใหม่ทั่วไป กินนอนอย่างเช่นทุกคนไม่มีอำนาจใดในค่ายทหารทั้งสิ้น“เข้ามา” ซูเซวียนนึกรำคาญจึงได้เอ่ยเสียงเข้มอนุญาตให้ฉางเทียนเข้ามาด้านใน“พระองค์มีสิ่งใดก็ตรัสเถิดพ่ะย่ะค่ะ” เมื่ออยู่กันเพียงลำพังซูเซวียนมักจะพูดอย่างเป็นทางการกับฉางเทียน“เปิ่นหวางฝากสิ่งนี้ให้คุณหนูซูด้วย” ฉางเทียนยื่นกล่องไม้ที่เคยให้หลี่น่ามาแล้วครั้งหนึ่งให้กับซูเซวียน“พระองค์ตัดสินพระทัยดีแล้วใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” ซูเซวียนเอ่ยถามอย่างจริงจัง“นับตั้งแต่ที่เปิ่นหวางให้นางในครั้งนั้น ก็ไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนใจ” สายตาแน่วแน่ของฉางเทียนทำให้ซูเซวียนไม่มีคำโต้แย้งต่อเขาอีกฉางเทียนต้องการให้หลี่น่าแ

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   ผู้ร่วมเดินทางที่คาดไม่ถึง

    เมื่อซูเซวียนกำลังจะพาคนทั้งหมดออกเดินทาง เขาก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นฉางเทียนขี่ม้ามาที่ขบวนของเขา พร้อมทั้งรถม้าที่ขนข้างของอีกถึงห้าคันรถม้า“องค์ชายห้า ท่านจะไปที่ใดหรือพ่ะย่ะค่ะ” จ้าวกงหยวนอดที่จะเอ่ยถามมิได้“เปิ่นหวาง ได้รับราชโองการจากเสด็จพ่อให้เดินทางไปเป็นทหารในกองทัพของท่านแม่ทัพใหญ่ซู” เขายกยิ้มน้อยๆ บอกกล่าวกับจ้าวกงหยวนซูเซวียนที่เห็นเช่นนั้นมุมปากของเขาก็กระตุกอย่างห้ามไม่อยู่ เขาจะรู้ไม่ทันความคิดของฉางเทียนได้อย่างไร คงเป็นเพราะจะติดตามบุตรีของตนไปต่างหากฉางเทียนมองไปที่หลี่น่าอย่างแฝงความหมาย ก่อนจะเก็บสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว หลี่น่าที่เห็นเช่นนั้นก็ก้มหน้าลงอย่างเขินอายนับตั้งแต่เกิดเรื่องกับนางครั้งนั้น นางก็ไม่ได้ออกจากจวนอีกเลย จึงไม่ได้พบกับฉางเทียน ถึงกระนั้นนางก็ยังไม่รับของจากเขาอยู่ไม่ขาดในเมื่อเป็นราชโองการจากฮ่องเต้ ทั้งยังถูกส่งมาให้ซูเซวียนอย่างกระชั้นชิดแล้วตัวเขาจะทำสิ่งใดได้อีก จำต้องให้ฉางเทียนเดินทางร่วมกับเขาไปชายแดนเหนือด้วยซูเซวียนให้ฉางเทียนควบม้าอยู่ข้างเขา เพื่อจับตามองไม่ให้ฉางเทียนได้เข้าใกล้บุตรีของตน แต่เมื่อเขาเผลอฉางเทียนก็ควบม้าอยู่ใ

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   เตรียมตัวกลับชายแดนเหนือ

    หลักฐานที่ได้มาทำให้ฮ่องเต้เกือบจะกระอักพระโลหิตออกมา เพราะเรื่องสงครามเมื่อสิบแปดปีก่อน ผู้ที่ค้าแร่เหล็กให้แคว้นต้าอู๋จนทำให้อาจหาญคิดกล้าทำสงครามกับแคว้นต้าฉีก็เป็นเสนาบดีตู้จวนตระกูลตู้แทบลุกเป็นไฟ เมื่อหลงจู๊หอพนันมาแจ้งเรื่องคลังเก็บสมบัติถูกโจรปล้นไปจนสิ้น เมื่อให้พ่อบ้านตรวจดูคลังในจวนของตนก็พบว่าไม่มีสมบัติเหลืออยู่เลยเช่นกันเรื่องภายในจวนยังไม่ได้สอบสวนให้แล้วเสร็จ องครักษ์เสื้อแพรก็เข้าล้อมจวนตระกูลตู้ไว้ พร้อมทั้งราชโองการคุมตัวเสนาบดีตู้ ตู้หานชิง เข้าคุกหลวงเจ้านายในจวนตระกูลตู้ทั้งหมดล้วนแล้วแต่โดนควบคุมตัวไว้เพื่อรอการตัดสินโทษ ตู้เสียนเฟยคุกเข่าอ้อนวอนอยู่หน้าตำหนักของฮ่องเต้นับสองชั่วยามแล้ว แต่พระองค์ก็มิยินยอมให้เข้าเฝ้าทั้งยังให้พาตัวตู้เสียนเฟยไปคุมขังไว้ภายในตำหนักห้ามออกมานอกตำหนักแม้แต่ก้าวเดียว องค์ชายรองก็ไม่ต่างจากมารดาของพระองค์ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในตำหนัก เพื่อรอสอบสวนว่าพระองค์มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดหรือไม่เมื่อองครักษ์เสื้อแพรเข้าค้นจวนเพื่อยึดทรัพย์สินของเสนาบดีตู้ก็ต้องตกตะลึง ในคลังสมบัติของตระกูลล้วนว่างเปล่า รวมทั้งของตู้หานชิงด้วยสอบ

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   เรียกค่าทำขวัญให้บุตรี

    แม้ตระกูลตู้จะไม่มีกองกำลังลับอย่างที่ตระกูลไป๋ทำ แต่พวกเขาก็ลอบค้าเกลือและแร่เหล็กลับหลังฮ่องเต้อยู่ไม่น้อย“ท่านพี่ ท่านพาข้าไปที่หอพนันได้หรือไม่” ซุนเหยาเอยถามซูเซวียนเมื่อทั้งคู่กำลังจะเข้านอน“เจ้าจะไปทำอันใด” เขาเอ่ยถามอย่างสงสัย“ข้าจะไปเรียกค่าทำขวัญให้บุตรสาวข้าเสียหน่อย”คำพูดของซุนเหยาทำให้ดวงตาของซูเซวียนเปล่งประกายอย่างพอใจ เขาลืมไปได้อย่างไรว่าเมียรักของตนมีช่องเก็บของขนาดใหญ่ ที่ผู้ใดก็ตรวจสอบเรื่องนี้ไม่ได้“ที่หอพนันอย่างเดียว จะไปพออันใด คลังของตระกูลตู้ก็คงมีอยู่ไม่น้อย” สองสามีภรรยายิ้มให้กันอย่างรู้ใจ ก่อนที่ทั้งคู่จะไปเปลี่ยนชุดเป็นสีดำสนิท เพื่ออำพรางร่างกายหากสองฝาแฝดเข้ามาได้ยินสิ่งที่บิดามารดาพวกเขาพูดคุยกัน ทั้งคู่ต้องบอกว่าความเจ้าเล่ห์ของพวกเขาก็ได้มาจากท่านทั้งสองอย่างไรเล่าวรยุทธ์ของซูเซวียนไม่เป็นรองผู้ใดในเมืองหลวง เขารวบเอวซุนเหยาแล้วใช้วิชาตัวเบากระโดดไปทางหอพนันเสียงนักพนันดังไปทั่วหอพนันที่ไม่เคยหลับใหล ความวุ่นวายด้านใน ทำให้ผู้บุกรุกที่มาเยือนอยู่ชั้นติดินไม่ค่อยจะมีผู้ใดสนใจนัก ซูเซวียนจัดการผู้คุ้มกันที่เฝ้าคลังสมบัติลงได้อย่างง่ายดายก่อนท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status