Share

ร่วมเรือน

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-07-21 01:36:08

เมื่อมื้ออาหารเย็นสิ้นสุดลง หลีซื่อก็บังคับบุตรชายให้กลับเรือนไปพร้อมกับซุนเหยา เพียงแค่ห่างออกจากเรือนหลักมา ซุนเหยานางก็เอ่ยไล่เขาทันที

“ท่านไปดูแลแม่นางฟู่เถิดเจ้าค่ะ เรื่องนี้ข้าไม่บอกท่านแม่แน่” ซุนเหยานางไม่ได้อยู่รอฟังว่าเขาจะพูดเช่นไร นางเดินกลับเรือนไปพร้อมกับเสี่ยวกุ้ยทันที

"ท่านทำเช่นนั้น จะดีหรือเจ้าคะฮูหยิน” เสี่ยวกุ้ยนางคิดว่าซุนเหยานางมีโอกาสแล้ว เหตุใดถึงไม่ทำให้ท่านแม่ทัพหลงใหลในตัวนางแทน

“ดีสิ ข้าไม่อยากได้บุรุษที่ไม่ได้มีข้าเพียงผู้เดียว ทั้งท่านแม่ทัพยังมีสตรีในดวงใจของเขาอยู่แล้ว ข้าจะไปขัดขวางเพื่ออันใด”

ทั้งสองนายบ่าวไม่รู้เลยว่าสิ่งที่พวกนางพูดคุยกัน ซูเซวียนจะได้ยินทุกคำ แทนที่เขาจะเดินไปที่เรือนหงอี้อย่างที่ซุนเหยานางคิด เขากลับเดินมาที่เรือนของนางแทน

“เหตุใดท่านจึงเข้ามาที่เรือนนี้เล่า” นางเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ

“แล้วเหตุใดข้าถึงจะเข้าเรือนของข้าไม่ได้ ในเมื่อข้ารับปากท่านแม่ไว้แล้ว ตลอดหนึ่งเดือนข้าจะนอนที่นี่”

ซูเซวียนสั่งสาวใช้ให้เตรียมน้ำ โดยไม่ได้มองสีหน้าที่แข็งค้างของซุนเหยานางเลย

เสี่ยวกุ้ยก็รีบไปเตรียมน้ำให้อย่างรวดเร็ว ซุนเหยานางพ่นลมหายใจอย่างแรง เมื่อเห็นสาวใช้ตัวดีของนางเปลี่ยนท่าทีไปเช่นนี้

“เหตุใดยังมาช่วยข้าถอดชุดอีก” ซูเซวียนเอ่ยเรียกซุนเหยาที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตู

“ข้าจะไปตามสาวใช้มาดูแลท่าน” 

“ไม่ต้อง หรือตระกูลจ้าวไม่สอนเรื่องปรนนิบัติสามีแก่เจ้า”

ซุนเหยานางหลับตาลง ทั้งยังสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อข่มความโกรธที่พลุ่งพล่านในยามนี้

นางเดินเข้าไปหาเขาช้าๆ ก่อนที่จะอาศัยความทรงจำของร่างเดิมที่ถูกสอนก่อนออกเรือน ปลดผ้ารัดเออวของซูเซวียนออก

มือของซุนเหยาสั่นเทาจนไม่อาจแก้เชือกได้ ซูเซวียนที่เห็นนั้นก็ดันมือของนางออก แล้วแก้เชือกด้วยตนเอง

“เหอะ ไม่มีปากพูดหรือ หากทำไม่ได้” 

ความอดทนของซุนเหยานางเริ่มหมดลง ดวงตาของนางจ้องมองไปที่ซูเซวียนอย่างแข็งกร้าว

“เช่นนั้น ท่านจะเรียกให้ข้าช่วยเพื่ออันใด คิดว่าข้าอยากทำนักหรือไง ออกไปจากเรือนของข้าไปแล้ว” 

“เรือนของเจ้าผู้เดียวอย่างนั้นหรือ คิดหรือว่าข้าก็อยากจะอยู่ร่วมเรือนกับเจ้า หากมิใช่เพราะเห็นแก่ท่านแม่”

“ในเมื่อเรือนนี้เป็นของท่าน เช่นนั้นท่านก็อยู่ของท่านไปก็แล้วกัน”

“เจ้าจะไปที่ใด” ซูเซวียนดึงแขนของซุนเหยานางไว้

ซุนเหยานางจึงได้เสียหลักล้มลงในอ้อมแขนของเขา เมื่อรู้สึกตัวนางก็รีบถอยออกมาทันที

“ท่านแม่ทัพ ในเมื่อการที่ท่านต้องทนอยู่เรือนเดียวกับข้าเป็นเรื่องที่ทำให้ท่านลำบากใจมากเพียงนี้ เช่นนี้ในเมื่อข้าจะไปท่านจะเอ่ยรั้งไว้เพื่อสิ่งใด”

“หึ หากไม่เห็นแก่ท่านแม่ ข้าหรือจะยอมทนอยู่”

ซุนเหยาหลับตาลงเพื่อคุมสติ นางไม่เคยพบเจอบุรุษที่เป็นเช่นซูเซวียนมาก่อน ปากก็อ้างว่าทำเพื่อมารดา แต่การกระทำกลับสวนทาง

“เรื่องนี้ข้าจะไปพูดกับท่านแม่ให้รู้เรื่อง ท่านไม่ต้องเป็นห่วง”

“หากเจ้าก้าวขาออกจากเรือนเพียงครึ่งก้าว ลองดูว่าข้าจะกล้าหักข้าของเจ้าหรือไม่”

ซุนเหยาเลิกคิ้วมองเขา นางต้องกลัวด้วยหรือว่าเขาจะกล้าทำหรือไม่ หากเขากล้าก็ดี นางจะได้หย่าขาดจากเขาเร็วขึ้น

ซุนเหยาหมุนตัวแล้วเดินออกจากห้องไปทันที ซูเซวียนไม่คิดว่านางจะไม่เชื่อฟังเขามากถึงเพียงนี้

ซูเซวียนเดินตามซุนเหยานางออกมาแล้วรวบขาทั้งสองข้างของนางขึ้นแบกบนบ่า ซุนเหยากรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ สองมือของนางทุบไปตามแผ่นหลังของเขาอย่างไม่ยินยอม

“โอ๊ย” ซูเซวียนโยนซุนเหยานางลงที่เตียง

“ท่านบ้าไปแล้วรึ” นางตวาดออกมาเสียงดัง จนสาวใช้ที่อยู่ด้านนอกตกใจจนไม่กล้าจะยกน้ำเข้ามา

“หากเจ้ากล้าที่จะออกไปอีกก็ลองดู ข้ายังบ้าได้มากกว่าที่เจ้าคิด” ซูเซวียนก้มหน้าลงมามองซูเซวียนอย่างดุดัน

เพราะความที่มันใกล้มากเกินไป ซุนเหยานางจึงได้หดคอถอยหนี

“ยกน้ำเข้ามา” ซูเซวียนหันไปตะโกนสั่งสาวใช้

“เฝ้านางไว้ หากนางออกจากเรือนไปได้ พวกเจ้าทั้งหมดจะถูกทำโทษ” ซูเซวียนสั่งเสร็จก็เดินเข้าไปอาบน้ำ

ซุนเหยานางหลับตาลงอย่างใช้ความคิด ว่านางสมควรจะจัดการเรื่องนี้เช่นไรดี จากที่ดูท่าทีของเขาแล้ว เขาคงไม่คิดจะแตะต้องตัวนาง เช่นนั้นก็อดทนให้ผ่านหนึ่งเดือนนี้ไปให้ได้ก็พอแล้ว

ซูเซวียนเมื่อออกมาจากห้องน้ำ ด้านบนของเขาไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงตัวในเท่านั้น ซุนเหยานางดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดบังสายตาของนางไว้

เขาจะแต่งตัวให้ดีไม่ได้เลยหรือ ถึงอย่างไรนางก็เป็นสตรี แล้วคิดจะหย่าขาดจากเขาอีกด้วย

“เจ้ามิร้อนหรืออย่างไร” เขาเอ่ยถามอย่างสงสัย

“ท่านสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อยมิได้หรือไร” 

“หึ ข้าเป็นสามีของเจ้ามีสิ่งใดต้องปกปิดด้วย”

“ประเดี๋ยวท่านกับข้าก็ต้องหย่าขาดกันแล้ว”

“เรื่องนั้นอีกหนึ่งเดือนถึงจะเกิดขึ้น”

“ไร้เหตุผลสิ้นดี” ซุนเหยาลุกออกจากผ้าห่ม แล้วเข้าห้องน้ำไป โดยที่สายตาของนางไม่แม้แต่จะปรายตาไปมองเรือนร่างของซูเซวียนสักนิด

ซุนเหยาแช่น้ำอยู่ในอ่างอยู่นานก็ไม่ยอมออกมา โดยหวังว่าเมื่อนางออกมาแล้วซูเซวียนจะหลับไปแล้ว หรือออกไปหาหงอี้ที่เรือนท้ายจวน

“ฮูหยิน น้ำเย็นแล้วเจ้าค่ะ” เสี่ยวกุ้ยร้องเรียกให้ซุนเหยานางลุกออกจากอ่างน้ำ

เมื่อออกมาจากห้องน้ำ ซุนเหยานางก็ต้องกุมขมับ เมื่อเห็นซูเซวียนนอนพิงหัวเตียงอ่านตำรา สาบเสื้อของเขาเปิดออกจนเห็นมัดกล้ามที่ท้อง

ในเมื่อรับปากหลีซื่อว่าจะนอนร่วมเรือน ไม่ต้องว่าจะนอนร่วมห้อง นางจึงคิดที่จะไปนอนที่ห้องด้านข้างแทน

“เจ้าจะออกไปที่ใดอีก” ซูเซวียนเอ่ยถามเสียงเย็น โดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง

“ข้าจะไปนอนห้องด้านข้างเจ้าค่ะ”

“หึ มานี่” เขาตบลงที่ข้างเตียงด้านนอก

“ในเมื่อรับปากท่านแม่เพียงแค่ร่วมเรือนเดียวกัน แต่มิใช่ร่วมห้องข้าคงไปนอนห้องด้านข้างได้กระมัง”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   ตอนจบ

    หลี่น่านางรู้จากพี่ชายของนาง เรื่องว่าที่คู่หมั้นของซิ่งอิง เป็นสหายของสองฝาแฝด การสอบจิ้นซื่อในครั้งนี้ เขาก็ได้ตำแหน่ง ปั๋งเหยี่ยน ที่ได้อันดับที่สองมาครองคุณชายหวัง หวังจื่อเฉิน บุตรชายของสนาบดีหวัง เสนาบดีกรมโยธาเพราะนิสัยที่เหมือนกับหลิงเฮ่อ บิดาของซิ่วอิงนางจึงไม่ค่อยจะพอใจนัก แต่กลายเป็นหวังจื่อเฉินที่พึงใจต่อนาง จนแทบจะมาพบหน้านางที่จวนอยู่เสมอ ซิ่วอิงนางก็พึงใจต่อหวังจื่อเฉินเช่นกัน แต่นางไม่ยอมรับความจริงก็เท่านั้น“เพ้ย เจ้าจะอยากรู้ไปไย บัณฑิตที่สนใจแต่ตำรา จะสู้อันใดกับว่าที่สามีของเจ้าได้” หลี่น่าถูกซิ่วอิงหยอกล้อก็ก้มหน้าลงอย่างเขินอายซุนเหยาก็พูดคุยกับหงอี้อย่างสนุกสนาน พอทุกคนได้มาอยู่รวมกันเช่นนี้ หลีซื่อก็เริ่มที่จะชวนทั้งสามตั้งวงเล่นไพ่อย่างเสียไม่ได้ฝ่ายบุรุษที่นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องตำรา ก็เป็นเพียงเรื่องของเลี่ยงหรงและเลี่ยงหวงที่ทั้งคู่จะเลือกทางเดินอย่างไรต่อไปซูเซวียนให้บุตรชายทั้งสองเลือกหนทางเดินของตนเองได้เต็มที่ ในเมื่อเลี่ยงหรงต้องการเป็นขุนนางฝ่ายบู๋เช่นเขาก็ย่อมได้“อาหรง เจ้าคงไม่ได้มาประจำที่ชายแดนอย่างแน่นอน ฝ่าบาทต้องให้เจ้าเป็นองครักษ์เสื้อแพรเ

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   ทาบทามสู่ขอ

    ฮ่องเต้ให้ฮองเฮาจัดการเรื่องสู่ขอบุตรีของท่านแม่ทัพซูให้เป็นเรื่องเป็นราว โดยที่พระองค์ให้เกียรติซูเซวียนโดยไม่คิดจะพระราชทานสมรสให้เพื่อบังคับให้แต่งานท่านด้านซูเซวียนกับฉางเทียนที่อยู่ในค่ายทหารก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ วันนี้มีการประลองวรยุทธ์เพื่อเลื่อนตำแหน่งภายในกองทัพฉางเทียนย่อมทำได้อย่างดี เพราะอาจารย์ที่มาสอนเขาถูกคัดเลือกมาแล้ว ทหารในค่ายต่างไม่มีใครคิดว่าฉางเทียนที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในค่ายได้ไม่นานจะเก่งกาจมากเพียงนี้ยามที่ฝึกซ้อมเขาไม่ได้แสดงฝีมือของตนออกมาอย่างเต็มที่ ก็ไม่แปลกที่ผู้อื่นจะดูไม่ออกถึงวรยุทธ์ของเขาฉางเทียนสามารถเอาชนะรองแม่ทัพทั้งสี่ของซูเซวียนได้ง่าย ทุกคนจึงไม่กังขาหากเขาจะขึ้นมารับตำแหน่งรองแม่ทัพ เพราะจะมีรองแม่ทัพที่เกษียณกลับบ้านเกิดของตน เขาจึงได้ตำแหน่งนี้ไปครองแต่เรื่องนี้ทำให้ซูเซวียนไม่พอใจนัก เพราะเขาเคยพูดไว้ว่า หากฉางเทียนขึ้นเป็นรองแม่ทัพได้ก่อนหลี่น่านางอายุสิบหกหนาว เขาจะพิจารณาเรื่องสู่ขอของนางฉางเทียนยิ้มเต็มใบหน้าเมื่อขึ้นรับตำแหน่งรองแม่ทัพ เขามองมาที่ว่าที่พ่อตาอย่างมีเลศนัย เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น ขบวนสู่ขอที่ฮองเฮาส่งมาจากเมืองหลวงก

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   หยกพกของว่าที่พระชายา

    หลี่น่าเมื่อรู้ว่าพี่ชายทั้งสองของนางกลับมาจากเมืองหลวงก็รีบมาหาทั้งคู่ที่ห้องโถงเรือนหลัก สองฝาแฝดนำของที่ทั้งสองตระกูลฝากมาให้กับตนนำมามอบให้หลี่น่าในวันงานด้วยซิ่วอิงที่อยากจะเดินทางมาด้วยแต่มาไม่ได้ เพราะนางก็ต้องอยู่จัดงานปักปิ่นของนางเช่นกัน ก็เขียนจดหมายตัดพ้อมาด้วยเสียมากมายฉางเทียนที่อยู่ค่ายทหารก็เดินวนอยู่ที่หน้ากระโจมของซูเซวียนหลายรอบแล้ว ในค่ายทหารน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเขาเป็นองค์ชาย จึงได้รับการปฏิบัติเช่นทหารใหม่ทั่วไป กินนอนอย่างเช่นทุกคนไม่มีอำนาจใดในค่ายทหารทั้งสิ้น“เข้ามา” ซูเซวียนนึกรำคาญจึงได้เอ่ยเสียงเข้มอนุญาตให้ฉางเทียนเข้ามาด้านใน“พระองค์มีสิ่งใดก็ตรัสเถิดพ่ะย่ะค่ะ” เมื่ออยู่กันเพียงลำพังซูเซวียนมักจะพูดอย่างเป็นทางการกับฉางเทียน“เปิ่นหวางฝากสิ่งนี้ให้คุณหนูซูด้วย” ฉางเทียนยื่นกล่องไม้ที่เคยให้หลี่น่ามาแล้วครั้งหนึ่งให้กับซูเซวียน“พระองค์ตัดสินพระทัยดีแล้วใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” ซูเซวียนเอ่ยถามอย่างจริงจัง“นับตั้งแต่ที่เปิ่นหวางให้นางในครั้งนั้น ก็ไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนใจ” สายตาแน่วแน่ของฉางเทียนทำให้ซูเซวียนไม่มีคำโต้แย้งต่อเขาอีกฉางเทียนต้องการให้หลี่น่าแ

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   ผู้ร่วมเดินทางที่คาดไม่ถึง

    เมื่อซูเซวียนกำลังจะพาคนทั้งหมดออกเดินทาง เขาก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นฉางเทียนขี่ม้ามาที่ขบวนของเขา พร้อมทั้งรถม้าที่ขนข้างของอีกถึงห้าคันรถม้า“องค์ชายห้า ท่านจะไปที่ใดหรือพ่ะย่ะค่ะ” จ้าวกงหยวนอดที่จะเอ่ยถามมิได้“เปิ่นหวาง ได้รับราชโองการจากเสด็จพ่อให้เดินทางไปเป็นทหารในกองทัพของท่านแม่ทัพใหญ่ซู” เขายกยิ้มน้อยๆ บอกกล่าวกับจ้าวกงหยวนซูเซวียนที่เห็นเช่นนั้นมุมปากของเขาก็กระตุกอย่างห้ามไม่อยู่ เขาจะรู้ไม่ทันความคิดของฉางเทียนได้อย่างไร คงเป็นเพราะจะติดตามบุตรีของตนไปต่างหากฉางเทียนมองไปที่หลี่น่าอย่างแฝงความหมาย ก่อนจะเก็บสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว หลี่น่าที่เห็นเช่นนั้นก็ก้มหน้าลงอย่างเขินอายนับตั้งแต่เกิดเรื่องกับนางครั้งนั้น นางก็ไม่ได้ออกจากจวนอีกเลย จึงไม่ได้พบกับฉางเทียน ถึงกระนั้นนางก็ยังไม่รับของจากเขาอยู่ไม่ขาดในเมื่อเป็นราชโองการจากฮ่องเต้ ทั้งยังถูกส่งมาให้ซูเซวียนอย่างกระชั้นชิดแล้วตัวเขาจะทำสิ่งใดได้อีก จำต้องให้ฉางเทียนเดินทางร่วมกับเขาไปชายแดนเหนือด้วยซูเซวียนให้ฉางเทียนควบม้าอยู่ข้างเขา เพื่อจับตามองไม่ให้ฉางเทียนได้เข้าใกล้บุตรีของตน แต่เมื่อเขาเผลอฉางเทียนก็ควบม้าอยู่ใ

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   เตรียมตัวกลับชายแดนเหนือ

    หลักฐานที่ได้มาทำให้ฮ่องเต้เกือบจะกระอักพระโลหิตออกมา เพราะเรื่องสงครามเมื่อสิบแปดปีก่อน ผู้ที่ค้าแร่เหล็กให้แคว้นต้าอู๋จนทำให้อาจหาญคิดกล้าทำสงครามกับแคว้นต้าฉีก็เป็นเสนาบดีตู้จวนตระกูลตู้แทบลุกเป็นไฟ เมื่อหลงจู๊หอพนันมาแจ้งเรื่องคลังเก็บสมบัติถูกโจรปล้นไปจนสิ้น เมื่อให้พ่อบ้านตรวจดูคลังในจวนของตนก็พบว่าไม่มีสมบัติเหลืออยู่เลยเช่นกันเรื่องภายในจวนยังไม่ได้สอบสวนให้แล้วเสร็จ องครักษ์เสื้อแพรก็เข้าล้อมจวนตระกูลตู้ไว้ พร้อมทั้งราชโองการคุมตัวเสนาบดีตู้ ตู้หานชิง เข้าคุกหลวงเจ้านายในจวนตระกูลตู้ทั้งหมดล้วนแล้วแต่โดนควบคุมตัวไว้เพื่อรอการตัดสินโทษ ตู้เสียนเฟยคุกเข่าอ้อนวอนอยู่หน้าตำหนักของฮ่องเต้นับสองชั่วยามแล้ว แต่พระองค์ก็มิยินยอมให้เข้าเฝ้าทั้งยังให้พาตัวตู้เสียนเฟยไปคุมขังไว้ภายในตำหนักห้ามออกมานอกตำหนักแม้แต่ก้าวเดียว องค์ชายรองก็ไม่ต่างจากมารดาของพระองค์ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในตำหนัก เพื่อรอสอบสวนว่าพระองค์มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดหรือไม่เมื่อองครักษ์เสื้อแพรเข้าค้นจวนเพื่อยึดทรัพย์สินของเสนาบดีตู้ก็ต้องตกตะลึง ในคลังสมบัติของตระกูลล้วนว่างเปล่า รวมทั้งของตู้หานชิงด้วยสอบ

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   เรียกค่าทำขวัญให้บุตรี

    แม้ตระกูลตู้จะไม่มีกองกำลังลับอย่างที่ตระกูลไป๋ทำ แต่พวกเขาก็ลอบค้าเกลือและแร่เหล็กลับหลังฮ่องเต้อยู่ไม่น้อย“ท่านพี่ ท่านพาข้าไปที่หอพนันได้หรือไม่” ซุนเหยาเอยถามซูเซวียนเมื่อทั้งคู่กำลังจะเข้านอน“เจ้าจะไปทำอันใด” เขาเอ่ยถามอย่างสงสัย“ข้าจะไปเรียกค่าทำขวัญให้บุตรสาวข้าเสียหน่อย”คำพูดของซุนเหยาทำให้ดวงตาของซูเซวียนเปล่งประกายอย่างพอใจ เขาลืมไปได้อย่างไรว่าเมียรักของตนมีช่องเก็บของขนาดใหญ่ ที่ผู้ใดก็ตรวจสอบเรื่องนี้ไม่ได้“ที่หอพนันอย่างเดียว จะไปพออันใด คลังของตระกูลตู้ก็คงมีอยู่ไม่น้อย” สองสามีภรรยายิ้มให้กันอย่างรู้ใจ ก่อนที่ทั้งคู่จะไปเปลี่ยนชุดเป็นสีดำสนิท เพื่ออำพรางร่างกายหากสองฝาแฝดเข้ามาได้ยินสิ่งที่บิดามารดาพวกเขาพูดคุยกัน ทั้งคู่ต้องบอกว่าความเจ้าเล่ห์ของพวกเขาก็ได้มาจากท่านทั้งสองอย่างไรเล่าวรยุทธ์ของซูเซวียนไม่เป็นรองผู้ใดในเมืองหลวง เขารวบเอวซุนเหยาแล้วใช้วิชาตัวเบากระโดดไปทางหอพนันเสียงนักพนันดังไปทั่วหอพนันที่ไม่เคยหลับใหล ความวุ่นวายด้านใน ทำให้ผู้บุกรุกที่มาเยือนอยู่ชั้นติดินไม่ค่อยจะมีผู้ใดสนใจนัก ซูเซวียนจัดการผู้คุ้มกันที่เฝ้าคลังสมบัติลงได้อย่างง่ายดายก่อนท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status