ผับ Storm Night
“กรี๊ดมึง ผู้ชายคนนั้นเขาหล่อมากอ่ะ กูอยากได้เขา” หญิงสาวสวยหุ่นบอบบางแต่งตัวด้วยชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสุดเซ็กซี่พูดขึ้นหลังจากที่กลุ่มของพวกเธอได้เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะภายในร้าน พลางชี้มือไปที่ชายหนุ่มที่มีใบหน้าสุดหล่อเหลาคมคายชุดดำ ซึ่งนั่งกันอยู่ในโซนVIPกับกลุ่มเพื่อน
“เออจริงด้วย หล่อมาก กูเชียร์ มึงเข้าไปขอเบอร์เขาเลย” เพื่อนของเธอมองตามมือของเธอไปก็พบเข้ากับชายหนุ่มคนที่เพื่อนของเธอพูดถึง มันจริงดั่งคำที่นางกล่าว ผู้ชายคนนี้กราวใจดูแบดบอยมาก มีรอยสักอยู่ที่คอและตรงช่วงหน้าอก รีบหันมาพูดเชียร์เพื่อนสาวคนสวยให้เข้าไปจีบผู้ชายคนนั้น
“อือ~ กูดูสวยหรือยังว่ะ” ร่างบางสุดเซ็กซี่ลุกยืนขึ้นขยับเสื้อผ้าให้เข้าที่หันไปหาเพื่อนๆว่าให้ช่วยมองให้ทีว่าดูดีหรือยัง
เมื่อเพื่อนบอกผ่าน หญิงสาวก็เดินเข้าไปยังโต๊ะที่มีชายหนุ่มหน้าตาดีนั่งกันอยู่ถึง4คนด้วยความมั่นใจไปกับหน้าตาที่ดูสวยเซ็กซี่ของตัวเอง ในใจเธอคิดว่าถ้าไม่ได้คนที่เธอหมายตาไว้ก็ขอใครสักคนใครก็ได้ใน3คนนี้ที่เหลือเพราะแต่ละคนก็งานดีกันทั้งนั้น
“สวัสดีค่ะ ขอนั่งด้วยคนจะได้มั้ยคะ” หญิงสาวที่หมายตาในชายหนุ่มก็ได้พูดขึ้นขยับกายเดินเข้ามาใกล้เขาเข้าไปเรื่อยๆ ใบหน้าสุดเย้ายวนยิ้มอ่อยชายหนุ่มชุดดำอย่างเต็มที่
“….” พายุก็คือคนที่เธอหมายตาเอาไว้ เขาก็เงียบพลางใช้หางตามองเธอเพียงนิดแล้วเบือนหน้าเมินหนีไปทางอื่นอย่างคนที่ไม่คิดจะสนใจไปกับผู้หญิงประเภทนี้ ที่ผ่านมาเขาเจอแต่กับผู้หญิงที่มักจะเข้ามาหาเขาก่อนเสมอยังไม่เคยเจอผู้หญิงดีๆที่เขาเป็นฝ่ายสนใจก่อนสักที
“ถ้าไม่ว่าอะไรถ้างั้นพิมขอนั่งเลยนะคะ คุณชื่ออะไรคะ พวกเรามาทำความรู้จักกันดีไหมเอ่ย” เมื่อเห็นว่าเขาเงียบและยังหันหน้าไปทางอื่น เธอเริ่มเสียเซลฟ์จึงพยายามปลอบใจตนเองโดยการพูดกลบเกลือนและนั่งลงยังด้านข้างของเขา เกิดมาเธอไม่เคยเจอผู้ชายที่ปฏิเสธเธอแบบนี้มาก่อนเลย เขาเป็นคนแรกที่เมิน
“ออกไปให้ห่างฉัน!” พายุที่รู้สึกได้ถึงเบาะที่ยวบลงเพราะมีคนมานั่ง เขาจึงพูดขึ้นเพื่อให้เธอขยับตัวหรือลุกขึ้นเดินออกไปจากตรงนี้
“ว่าไงนะคะ” แต่เธอทำเหมือนไม่ได้ยินไปกับคำพูดของเขาซะอย่างนั้น มิหนําซ้ำเธอยังพูดถามเขากลับไปอีกครั้ง
“ไม่ได้ยินที่ฉันพูดหรือไง ฉันบอกให้เธอลุกออกไป!” พายุที่ชักจะโมโหแล้วจึงได้หันหน้ามาตะโกนด่าผู้หญิงคนนี้เสียงดังฟังชัดจนเธอนั้นสะดุ้งโหยงไปด้วยความตกใจไม่คิดว่าเขาจะป่าเถื่อนได้ถึงขนาดนี้ แต่เธอก็ยังใจดีสู้เสือตอบกลับถามเขาไปอีกสักครั้ง
“ทำไมล่ะคะนี่พวกเรายังไม่ได้ทำความรู้จักกันเลยนะ”
“ฉันไม่ชอบผู้หญิงตอแหลแบบเธอ! ออกไปซะ” พายุพูดเสียงดังฟังชัดตอกกลับเธอไปด้วยคำพูดรุนแรง จนคนที่ได้รับฟังก็ดูอึ้งไปไม่น้อยเหมือนกัน ใบหน้าสวยโกรธจัดแต่ทำอะไรไม่ได้ค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากโต๊ะของพายุและกลุ่มเพื่อนสนิท
“มึงนี่ก็นะ ผู้หญิงเข้าหาก็ตั้งเยอะแต่แม่งไม่เอาสักกะคน” นีโอ ชายหนุ่มหน้าตาดีหนึ่งในเพื่อนสนิทที่กำลังนั่งกินเหล้าด้วยกันพูดขึ้นหลังจากที่หญิงสาวลุคเซ็กซี่คนนั้นได้เดินออกไปจากบริเวณโต๊ะของเขาแล้ว
“เออจริง ตั้งแต่รู้จักกันมากูยังไม่เห็นมึงชอบใครสักคน หรือมึงไม่ชอบผู้หญิง?” ขุนพล เพื่อนสนิทของพายุก็ได้เอ่ยพูดขึ้นกับเขาพร้อมทั้งยกแก้วเหล้าในมือเอาขึ้นมาดื่ม
“สัส! ผู้หญิงน่ารำคาญ กูไม่มีความอดทนพอให้กับเรื่องพวกนี้หรอก” พายุที่มักจะสนใจไปกับเรื่องของงานและเรื่องของเพื่อนซะมากกว่าก็ได้พูดขึ้นอย่างคนที่ไม่คิดอะไรไปกับเรื่องของผู้หญิง
“เอาเหอะ กูจะรอดูวันที่มึงเผลอตัวชอบใครขึ้นมาสักคน” เจมส์เพื่อนคนสุดท้ายของกลุ่มก็เผลอขำออกมาไปกับท่าทางที่ดูไม่ชอบผู้หญิงของพายุและได้พูดกับเขาว่าตนเองนั้นจะรอดูวันนั้น วันที่พายุเริ่มชอบผู้หญิงสักคนขึ้นมา
“ไม่มีวัน” พายุวางแก้วเหล้ากระแทกลงที่โต๊ะและรีบพูดตอบกลับไปยังเจมส์ เพื่อนสนิทของเขาทันที เหอะ ผู้หญิงก็คงจะเหมือนๆกันหมดนั่นแหละ น่ารำคาญชะมัด
“ขออนุญาตครับ ไอ้เสี่ยวิชัย มันจะขอเบิกเงินเพิ่มครับ” เสียงดังฟังชัดของลูกน้องคนสนิทอย่างวีรวิทย์ได้ดังขึ้น ชายหนุ่มในลุคบอดี้การ์ดชุดดำได้เดินเข้ามาโค้งคำนับและพูดขึ้นกับเจ้านายของเขา
“มันขอก็จัดให้มันไป แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย” พายุหันไปมองหน้าลูกน้องคนสนิท เอ่ยปากบอกกับเขาว่าตกลงที่จะให้เงินกับคนพวกนี้ไปแต่ถ้าไม่มีจ่ายเมื่อไรก็คงจะได้เห็นดีกัน
“ครับ” วีรวิทย์ขานรับพร้อมกับโค้งคำนับและเดินถอยหลังออกไปจัดการเรื่องที่นำมาแจ้งกับทางเจ้านาย
ครืด ~ เสียงโทรศัพท์มือถือของพายุดังขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงที่กำลังเปิดอยู่
พายุหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากเสื้อสูทสีดำมองดูไปที่หน้าจอก็พบว่าเป็นเบอร์ของแม่จึงเอ่ยปากบอกไปยังเพื่อนในกลุ่มให้รับรู้แล้วเดินขึ้นไปยังห้องทำงาน
“เดี๋ยวกูมา ไปรับสายแม่กูก่อน”
ห้องทำงานพายุ
“ครับแม่” พายุกดรับสายของผู้เป็นแม่ทันทีที่เดินเข้ามาภายในห้องทำงานแห่งนี้ เขาเดินไปหย่อนตัวนั่งลงยังเก้าอี้ทำงานสีดำตัวโปรด
(ทำอะไรอยู่ลูก แม่คิดถึง เมื่อไรจะเข้ามาหาแม่กับพ่อที่บ้านสักที)
“ครับ ผมก็คิดถึงแม่กับพ่อเหมือนกันครับ ยังไงผมขอดูงานก่อนแล้วกันนะครับ”
(เป็นวันเสาร์นี้ได้มั้ยลูก เรียกสายฟ้ามาด้วย รายนั้นแม่ก็ไม่ค่อยได้เห็นตัวเหมือนกันกับเรานั่นแหละ)
“เฮ้อ ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะนัดกับน้องเองครับ”
(จ้ะลูก งั้นแค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวแม่จะเข้านอนแล้ว)
พายุกดวางสายผู้เป็นแม่ ใบหน้าฉายแววถึงความไม่ค่อยสบายใจ รู้อยู่ว่าแม่นั้นโทรมาหาด้วยเรื่องอะไร เขาหยัดกายลุกขึ้นออกจากเก้าอี้แล้วเดินออกจากห้องเดินลงมายังโต๊ะเดิมที่มีเพื่อนๆของเขานั่งสังสรรค์กันอยู่ ใบหน้าหล่อเหลาทำสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาอย่างเห็นได้ชัดพร้อมกับเริ่มยกแก้วเหล้าที่วางเอาไว้บนโต๊ะหยิบมันขึ้นมายกดื่ม
“ดูทำหน้า แม่มึง เขาโทรมาว่าไง” นีโอที่เห็นสีหน้าของพายุก็ได้พูดถามไปยังเจ้าตัวทันทีว่าแม่ของเขานั้นโทรมาว่าอย่างไรบ้าง
“เขาอยากให้กูกับไอ้สายฟ้าเข้าไปหาที่บ้าน” พายุถอนหายใจและบอกไปตามความเป็นจริงถึงสิ่งที่แม่ของเขาได้โทรมาหา
“แม่มึงเขาก็คงคิดถึงมึงนั่นแหละ ก็วันๆนึง มึงเล่นอยู่แต่ที่ผับไม่ก็ที่คอนโด” เจมส์เพื่อนสนิทของเขาก็ได้พูดขึ้นมาหลังจากที่พายุนั้นได้พูดจบลงไปแล้ว
“ก็พวกท่านชอบเร่งกูให้รีบหาแฟนและที่นัดให้เข้าไปพบนี่ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องแบบนี้อีกชัวร์” พายุพูดออกมาอย่างที่เบื่อมากๆกับเรื่องพวกนี้แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เขาพูดบอกในสิ่งที่พ่อกับแม่ชอบเร่งรัดเขาให้พวกเพื่อนๆได้รับฟัง
“พวกท่านก็คงเป็นห่วงมึงนั่นแหละ คนเหี้ยไรบอกผู้หญิงน่ารำคาญ ถามจริงหรือว่ามึงไม่ได้ชอบผู้หญิง?”
พราวได้เดินเข้ามานั่งยังโซฟาตัวโปรดและธาวินก็เดินตามเธอมานั่งลงข้างๆเธอหญิงสาวจึงได้ถามธาวินว่าเขานั้นอยากได้เพศไหนมากกว่ากัน"พี่วินอยากได้ผู้ชายหรือผู้หญิงคะ""อืม คนแรกพี่อยากได้ผู้ชาย จะได้ดูแลน้องได้"ธาวินเขาลูบไปที่หน้าท้องของพราวและพูดว่าเขานั้นอยากได้เด็กผู้ชายเพื่อที่จะได้ปกป้องน้องสาวได้"พี่หมายถึง..พี่อยากมีอีกคนอย่างงั้นเหรอคะ""ได้ไหมล่ะพราว มากกว่า2ก็ได้นะ"ธาวินมองหน้าเธอและพูดขึ้นเจ้าน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ"2คนก็พอแล้วค่ะ กำลังดี"พราวจึงรีบเบรกเขาในทันทีว่าแค่2คนก็พอแล้ว"แล้วเมื่อไหร่จะได้รู้เพศอ่ะ"ชายหนุ่มยังคงตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้พูดถึงเรื่องลูกที่อยู่ในท้องของเธอ"ประมาณ4-5เดือนค่ะ"เขาลูบไปที่ท้องของพราวอีกครั้งพร้อมกับก้มใบหน้ากระซิบพูดคุยกับลูกในท้อง"โอเคลูกพ่อ อย่าแกล้งแม่เขานะ เป็นเด็กดีนะครับ"และพอเขาพูดเสร็จธาวินก็รู้สึกเวียนหัวจะอ้วกขึ้นมาทันทีอุ๊บ!"พี่วินเป็นอะไรไปคะ"เมื่อเห็นว่าธาวินมีอาการคล้ายๆตนจึงได้พูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง"พี่รู้สึกจะอ้วก พี่ขอไป..." ธาวินพูดกับพราวและรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันทีพราวก็รีบโทรไปปรึกษาแม่ของเธอทันทีว่าอาการแบบนี
เขาพูดเสร็จธาวินก็แทรกกลางหว่างขาเธอและกดจ่อท่อนเอ็นเข้ามาภายในตัวเธอทีเดียวจนสุดโคนสวบ!ธาวินเริ่มกดกระแทกเข้าออกร่องของเธอและก้มตัวลงไปประกบริมฝีปากจูบเธอ เขาควานลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากนิ่มของเธอและพราวก็เริ่มจูบตอบเขากลับทันทีเมื่อจูบจนพอใจชายหนุ่มก็ยันกายลุกนั่งจับสะโพกของพราวไว้แน่นและเริ่มกระแทกท่อนเอ็นเข้าออกร่องรักของเธอ"อ่าาส์ เสียว" ธาวินครางเสียงแหบพร่าออกมาด้วยความเสียวไม่ว่าจะกี่ครั้งร่องของเธอก็ยังคงแน่นและตอดรัดเขาเป็นอย่างดีปึก! ปึก! ปึก!10นาทีผ่านไปธาวินจับพราวเปลี่ยนท่าไปมาจนเธอนั้นเริ่มที่จะไม่มีแรงเหลือแล้วไหนจะโดนกระแทกทั้งข้างล่างและข้างบนก็โดนทั้งลิ้นและมือที่บีบเคล้นของธาวินอีก"หนูไม่ไหวแล้ว..อ๊ะ" ชายหนุ่มรู้ว่าเธอนั้นใกล้จะเสร็จแล้วจึงได้จับขาเธอให้กว้างขึ้นและเริ่มตอกอัดกระแทกท่อนเอ็นร้อนใส่เข้าออกแบบเน้นๆจนสุดท้ายหญิงสาวที่โดนกระแทกแบบนั้นก็ได้ถึงจุดสุดยอดเธอครางออกมา"อ่าาส์ อ๊ะ อร้ายย"เธอได้ไปถึงสวรรค์อีกครั้งด้วยฝีมือของแฟนหนุ่มที่ตอนนี้ต้องเรียกว่าสามีแล้วสินะและธาวินก็เสร็จตามเธอไปแบบติดๆเขาได้ปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นไว้ในร่องของเธอ"พี่จะเสร็จ ม
งานแต่งงานธาวินและพราวงานได้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ครอบครัวของเขาได้เชิญเพื่อนนักธุรกิจของพ่อและคนที่รู้จักมาในงาน อีกทั้งยังมีญาติของทั้งสองฝ่ายอีกไหนจะบรรดาเพื่อนๆของทั้งธาวินและพราวด้วยโดยที่ธีมของงานยังคงคอนเซ็ปต์เดิมนั่นคือธีมสีขาว-ม่วงพาสเทลพิธีกรของงานเริ่มพูดขึ้นเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม“ขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นมาบนเวทีด้วยนะครับ”เจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ได้พากันขึ้นมาบนเวทีในวันนี้ธาวินสวมชุดสูทสีดำส่วนพราวนั้นใส่ชุดเจ้าสาวเป็นชุดเกาะอกสีขาวละมุน"ขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวพูดอะไรหน่อยครับ"ธาวินจึงได้เริ่มเป็นคนพูดก่อน“ขอบคุณแขกทุกท่านที่มางานแต่งของผมกับพราวนะครับ ผมดีใจมากที่มีวันนี้ ผมขอสัญญาว่าผมจะรักและดูแลเธอให้ดีที่สุดครับ”จากนั้นเขาก็ยื่นไมค์ให้กับพราวได้พูดต่อจากเขา“ค่ะ พราวขอขอบคุณทุกท่านที่มาเป็นพยานรักในงานแต่งงานของเราอีกครั้งนะคะ วันนี้พราวมีความสุขมากๆเลยค่ะ พราวมีครอบครัวที่ดี มีเพื่อนที่น่ารักและตอนนี้ก็มีสามีที่ดีที่ทั้งรักพราวและรักพ่อกับแม่ของพราวอีกด้วย รับได้กับทุกอย่างที่เป็นพราว พราวขอบคุณพี่วินมากเลยนะคะ ที่พี่เป็นคนดีและขอให้พี่ดีแบบนี้ตลอดไปเลยนะคะ”เมื่
“ฝากไว้กับเธอก่อน ฉันกลัวหายน่ะ ส่วนเข็มกลัดนั่นก็ของเธอไม่ใช่เหรอไง” เขาพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยแต่ฉันก็เห็นแววตาร้ายกาจในตาของเขา เขานี่มัน.. อึก..อลิสถึงกับต้องกลืนน้ำลายแล้วหันไปทางกลุ่มเพื่อนของเธอเองว่ามีสีหน้ายังไงเพราะเธอนั้นได้โกหกเพื่อนสาวเอาไว้เรื่องเข็มกลัด“ไอ้สัสมึงนี่นะเก็บเงียบเลยนะ ที่แท้ก็น้องอลิสนี่เอง” เวหาเพื่อนของเขาก็พูดแซวสายฟ้าขึ้นทันทีแต่สายฟ้าทำแค่เพียงยิ้มกริ่มไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรกลับไปจนอลิสต้องรีบแก้ตัวออกไปเพราะกลัวพวกรุ่นพี่นั้นจะเข้าใจผิด“ไม่ใช่นะคะพี่ พวกพี่อย่าเข้าใจหนูผิดเด็ดขาด”เวหาที่เห็นว่าอลิสเริ่มใบหน้าแดงก้มหน้าก้มตาด้วยความเขินอายจึงได้พูดขึ้นอีกครั้ง“พวกพี่ไม่แซวแล้วก็ได้ครับ ฮ่าฮ่า ไอ้สายฟ้าแฟนมึงเขินหน้าแดงยันหูแล้ว”“ไม่ใช่แฟนนะคะพวกพี่ จิ๊ เพราะพี่คนเดียวเลย คนอื่นเข้าใจผิดกันไปหมดแล้ว พี่ไม่คิดจะแก้ตัวให้อลิสบ้างเลยเหรอคะ”“ฉันไม่ชอบโกหกใครนะ ถ้าฉันพูดเกรงว่าเธอจะไม่พอใจเอาได้นะ” สายฟ้าก็พูดตอบไปยังอลิสด้วยใบหน้านิ่งเรียบ“ถ้างั้นก็ไม่ต้องพูดและเอาดอกไม้ของพี่คืนไปเลย ขอตัวก่อนนะคะ” เธอโกรธเขาและยัดช่อดอกไม้คืนไปให้แก่เขาและรีบเดินออก
ธาวินพูดขึ้นแล้วหันไปมองคู่หมั้นสาวที่ยืนอยู่เคียงข้างกันวันนี้เขามีความสุขมากไม่คิดเลยว่าผู้ชายอย่างเขาจะมีวันนี้เกิดขึ้นได้ วันนี้เขามีผู้หญิงที่เขารักและเธอก็ยืนอยู่เคียงข้างเขา“พี่มีความสุขมากเลยขอบคุณที่เรายอมกลับมาหาพี่อีกครั้งนะ”“หนูก็มีความสุขมากๆเลยค่ะ หนูรักพี่นะคะ ต่อไปนี้พี่วินเป็นของหนูคนเดียวแล้วนะคะ” พราวจึงยิ้มและพูดตอบกลับไปยังคู่หมั้นหนุ่มของตนเช่นกันว่าเธอนั้นรักเขาและต่อไปนี้เขานั้นเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียวธาวินเมื่อได้ฟังคำบอกรักของพราวก็บอกความในใจของตนว่าเขานั้นตกเป็นของเธอมาตั้งนานแล้วและพูดบอกเธอเอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยว่าเขานั้นอยากมีลูกแล้ว “พี่เป็นของเราคนเดียวมานานแล้วครับ ไว้รอเราเรียนจบ พวกเราแต่งงานกันเลยนะ พี่อยากมีลูกแล้ว”“ค่ะ พี่รอไปก่อนนะคะ” พราวหน้าแดงขึ้นเพราะความเขินและตอบกลับธาวินว่าให้รอเธอเรียนจบก่อนและจู่ๆพราวก็เห็นเพื่อนสนิทอย่างอลิสกำลังรีบเดินหนีไปอีกทางจึงได้ชี้ให้ธาวินได้เห็นและพูดขึ้นอย่างคนที่สงสัย“เอ๊ะนั่นอลิสนี่ เดินหนีใครมากันนะ”และเหมือนทั้งคู่จะได้คำตอบแล้วเพราะสายฟ้านั้นก็ได้เดินตามอลิสไปติดๆเช่นกันจนธาวินพูดขึ้นมาว่า“นั่น
พ่อของธาวินยกยิ้มขึ้นทันทีเมื่อได้ฟังคำตอบของลูกชายพร้อมทั้งพูดและหยิบโทรศัพท์ยื่นไปทางปฐวีเพื่อให้เขานั้นได้กดเบอร์มือถือส่วนตัวให้แก่เขา“ดี ถ้างั้นทางฉันจะจัดเตรียมงานหมั้นเอาไว้และจะบอกเอ็งกับเมียอีกทีนะว่าจะได้ฤกษ์วันไหน เอาเบอร์ของเอ็งมาด้วยไอ้วี หวังว่าต่อไปพวกเราคงไม่ขาดการติดต่อกันอีกแล้วนะโว้ย”พ่อของพราวหยิบโทรศัพท์มากดเบอร์และยื่นคืนให้เพื่อนสนิทและพูดขอบคุณที่ยอมรับในตัวลูกสาวของเขา“หึ ขอบใจนะที่เอ็งยอมรับในตัวพราว”“ก็ต้องขอโทษลูกของเอ็งกับเจ้าวินด้วยเหมือนกัน เมื่อก่อนฉันคิดแต่จะให้เจ้าวินจับคู่กับพวกผู้หญิงที่อยู่ในเครือข่ายธุรกิจด้วยกันเพื่อหวังขยายอำนาจและธุรกิจจนลืมนึกถึงใจลูกๆไปเลย เห้ออ”ธาวินจึงได้เอ่ยพูดกับพ่อของเขาอีกครั้งพร้อมกับยื่นมือไปบีบฝ่ามือของพ่อเบาๆ“ทุกอย่างมันได้ผ่านไปแล้วครับพ่อ พวกเรายังเริ่มใหม่ได้เสมอนะครับ”“อืม เอาสิ พ่อขอเริ่มใหม่กับลูกทั้งสองด้วยนะ แล้วนี่เอ็งจะกลับต่างจังหวัดเลยงั้นหรือ” พ่อของธาวินใช้อีกมือทาบทับไปบนมือของลูกชายและยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ลูกยอมยกโทษให้กับตนและถามไปยังเพื่อนสนิทอีกครั้ง“อือ ช่วงนี้ธุรกิจกำลังไปได้ดีมีลูกค้าเพ