ขุนพลที่เงียบอยู่นานก็พูดขึ้นมาบ้าง เขารู้นิสัยของพายุเป็นอย่างดีเพราะรู้จักและเป็นเพื่อนสนิทกันมานานแต่ก็ยังอยากที่จะถามย้ำๆให้ได้ยินกับหูอีกสักครั้ง
“กูยังชอบผู้หญิงเหมือนเดิมแต่แค่ยังหาคนที่ใช่ไม่ได้ก็เท่านั้น” พายุจึงได้ตอบกลับเน้นน้ำเสียงดังฟังชัดแน่นอนไปยังเพื่อนๆของเขาให้ได้รับรู้ให้แน่ชัดอีกครั้ง
คอนโดพายุ
เช้าวันต่อมา
7.30 น.
เมื่อคืนพายุกับเพื่อนดื่มกันจนเกือบจะโต้รุ่ง เขาได้กลับมานอนยังคอนโดของเขาและนอนได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะไปทำงานยังบริษัทของผู้เป็นพ่อ มันเหมือนเป็นความเคยชินไม่ว่าจะนอนดึกแค่ไหนก็ตามพายุก็จะตื่นเช้าอยู่เสมอ
พายุหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาด 10นาทีผ่านไป เขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อเชิ้ตสีดําแบรนด์ดังนำขึ้นมาสวมใส่ ทุกๆอย่างในห้องนี้ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยสีดำไปซะส่วนใหญ่
ในตอนเช้าถึงช่วงเย็นเขาเป็นถึงรองประธานบริษัทแต่พอช่วงดึกๆเป็นต้นไปก็จะกลายเป็นเจ้าของผับดูแลควบคุมสั่งการกิจการร้านผับ บ่อนคาสิโน และธุรกิจสีเทาอีกหลายอย่าง
แต่งตัวเสร็จอะไรเสร็จก็เดินออกจากห้องเพื่อไปทำงานที่บริษัทของผู้เป็นพ่อก่อนในทันที
บริษัทธันเดอร์กรุ๊ป
พายุได้เดินทางมาถึงยังที่บริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาจอดรถสปอร์ตคันหรูตรงโซนลานจอดรถวีไอพีของทางบริษัทที่จัดเอาไว้ให้สำหรับผู้บริหารโดยเฉพาะ ชายหนุ่มเดินขึ้นลิฟท์มายังชั้นระดับผู้บริหาร เดินมาถึงบริเวณหน้าห้องก็ต้องพบกับเลขาของผมที่ใครๆก็ต่างพากันบอกว่าเธอนั้นสวย ดูดี เซ็กซี่ แต่สำหรับเขาคือไม่ เขาไม่ชอบผู้หญิงประเภทนี้ และเธอคนนี้มีชื่อว่า ฮันน่า
“สวัสดีค่ะคุณพายุ” หญิงสาวที่ใส่กระโปรงสั้นรัดรูปก็ได้รีบลุกขึ้นยืนแล้วรีบเดินเข้ามาเสนอหน้าทักทายผู้เป็นเจ้านายของเธอเสียก่อน
“อืม” พายุตอบกลับในลำคอพร้อมกับเดินเปิดประตูแล้วเข้าไปในห้องทำงานของตนเองทันที
“จะรับกาแฟเลยมั้ยคะ ฮันน่าจะได้ไปชงมาให้เลย” เลขาสาวรีบเดินตามท่านรองประธานเข้าไปในห้องทำงานทันที พูดถามอย่างคนที่พร้อมจะเอาอกเอาใจ
“วันนี้ผมขอกาแฟดำ” พายุเปิดดูเอกสารที่อยู่บนโต๊ะแล้วพูดตอบเธอกลับไปว่าเขาต้องการที่จะดื่มอะไรในตอนเช้าๆแบบนี้ เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสนใจไปกับความสวยความสาวของเลขาของเขาเลยแม้แต่น้อย
“ได้ค่ะ คุณพายุรอฮันน่าสักครู่นะคะ” ร่างบางสุดเย้ายวนพูดบอกไปยังเจ้านายหนุ่มสุดหล่อของเธอพร้อมกับเดินทอดน่องออกจากห้องทำงานของพายุเพื่อไปชงกาแฟมาให้กับเขา
“อ้าววันนี้เข้ามาทำงานด้วยเหรอเจ้าลูกชาย” เสียงของชายวัยกลางคนดังขึ้นพร้อมกับเขาที่เดินเปิดประตูเข้ามายังภายในห้องทำงานของลูกชายคนโต
“ครับ ผมมีเอกสารสำคัญที่ต้องเซ็น” พายุเงยหน้าขึ้นมองไปยังผู้เป็นพ่อที่กำลังเดินเข้ามาหาเขาที่โต๊ะทำงานพร้อมกับเอ่ยบอกไปยังพ่อของตนถึงสาเหตุที่เขาได้เข้ามาทำงานในวันนี้ เพราะปกติพายุนั้นไม่ได้เข้ามาทำงานที่นี่ทุกวันจะเข้ามาก็ต่อเมื่อมีงานสำคัญและเอกสารที่ต้องเซ็นก็เท่านั้น
“แล้วได้เจอกับน้องบ้างมั้ย เจ้านั่นมันหายหัวไปเลย” พ่อของเขาพยักหน้ารับรู้ไปกับคำพูดของเจ้าลูกชายคนโตแล้วก็ได้ถามไถ่ไปยังเจ้าลูกชายคนเล็กที่ตอนนี้ไม่ค่อยติดต่อหรือเห็นหน้าคร่าตาเลย
“ช่วงนี้มันติดหญิงนะครับก็เลยไม่ค่อยได้เห็นหัว” พายุพูดบอกพ่อไปตามความเป็นจริงว่าน้องชายของเขานั้นตอนนี้ติดผู้หญิงคนนึงอยู่
“หึ แล้วแกล่ะ เมื่อไรจะมีสาวๆกับเขาบ้าง นี่แม่แกก็ถามๆอยู่” พ่อถึงกับหลุดขำออกมาไปกับคำพูดของเจ้าลูกชายที่กำลังพูดแซวน้อง เสียงทุ้มถามไปยังพายุอีกครั้งว่าเมื่อไหร่จะถึงตาของพายุบ้างที่จะได้มีสาวๆเข้ามาในชีวิตเหมือนอย่างเช่นน้องชาย
“จริงๆผมยังไม่อยากที่จะคิดเรื่องพวกนี้หรอกครับ ผมอยากทำงานมากกว่า” พายุถอนหายใจออกมาและสบตาบอกกับพ่อของเขาให้เข้าใจอีกสักครั้งว่าตอนนี้เขานั้นยังไม่อยากคิดอะไรไปกับเรื่องแบบนี้
“ยังไม่คิดก็เริ่มคิดได้แล้ว ฉันอยากอุ้มหลาน” ชายวัยกลางคนพูดสวนกลับไปยังลูกชายคนโตในทันที
‘จะมาบอกว่าไม่คิดได้ยังไงกันอายุก็เริ่มเยอะแล้ว ไม่มีตอนนี้แล้วจะมีเมื่อไหร่’ได้แต่คิดเอาไว้ในใจไม่ได้พูดบอกเจ้าลูกชายออกไป
“พ่อรอไอ้สายฟ้ามันจะดีกว่าครับ รายนั้นน่าจะพร้อมมากกว่าผม” พายุก้มหน้าเริ่มเปิดดุเอกสารขึ้นมาอีกครั้งบอกให้ผู้เป็นพ่อรอหลานจากทางไอ้สายฟ้าน่าจะดีกว่า
“กาแฟได้แล้วค่ะ อุ้ย ท่านประธานสวัสดีค่ะ” เสียงหวานใสดังกังวานขึ้นมาพร้อมกับร่างบางของฮันน่าเลขาสาวสุดสวยของพายุที่ได้เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วกาแฟดำในมือ แต่เมื่อเดินเข้ามาก็พบว่าท่านประธานบริษัทก็อยู่ด้วย เธอจึงทำได้เพียงกล่าวคำสวัสดีพร้อมกับยิ้มทักทายให้กับผู้เป็นเจ้าของบริษัท
“สวัสดี งั้นพ่อไปทำงานก่อนก็แล้วกัน” พ่อพายุหันไปส่งยิ้มรับกับเลขาของลูกชายและหันมาบอกกับพายุ ในเมื่อพูดออกไปแล้วเจ้าลูกชายตัวดีก็ยังเฉยไม่รับรู้ใดๆก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้เป็นแม่บ้างแล้ว พ่อพูดเสร็จก็เดินออกจากห้องไปยังห้องทำงานของตนเอง
“ขอบคุณ วางไว้ตรงนั้นเดี๋ยวผมเดินไปกินเอง” พายุหันมองไปทางฮันน่าบอกให้เธอวางแก้วกาแฟดำของเขาเอาไว้ที่โต๊ะรับแขก
“ค่ะ แล้วมีอะไรให้ฮันน่าช่วยมั้ยคะ” ฮันน่าวางแก้วกาแฟดำลงไว้ที่โต๊ะตามคำสั่งของชายหนุ่มและส่งยิ้มพูดถามค่อยๆเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม
“มี ช่วยออกไปทำงานของคุณ” พายุเอ่ยปากรีบบอกว่ามีและนั่นก็คือให้เธอนั่นออกไปทำงานของตัวเองที่อยู่ด้านนอกห้องของเขานั่นเอง
“ค..ค่ะ” ฮันน่าดูอึ้งไปเล็กน้อยกับคำพูดหยาบและตรงของชายหนุ่มหน้าตาคมคายที่ชื่อว่าพายุแต่ก็ต้องรีบเดินออกไปตามคำสั่งของเขาทันที
“น่ารำคาญชะมัด” ปากหนาส่งเสียงพูดบ่นพึมพำออกมาอย่างคนที่ไม่ชอบอะไรแบบนี้เอาเสียเลย ในทันทีที่เลขาสาวได้เดินออกไปจากห้องทำงานของเขาแล้ว เขาบอกกับตัวเองว่าให้รีบๆทำงานแล้วจะได้รีบไปร้านไปนอนพักเอาแรงที่ห้องทำงานจะดีกว่า ขืนอยู่ที่นี่ก็ต้องเจอกับอะไรแบบนี้ เดี๋ยวเดินๆเข้ามาอยู่ได้
ผับ Storm Night
21.00 น.
เมื่อเช้าพอทำงานเสร็จในช่วงตอนบ่ายๆชายหนุ่มก็รีบออกมาจากที่ทำงานทันทีและเขาก็ขับรถไปยังร้านผับบาร์ของเขา ในตอนนี้พายุกำลังไล่ดูความเรียบร้อยอยู่ภายในร้าน เสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูก็แผดเสียงดังขึ้น
“ฮัลโหลว่า”
(ทำไรอยู่ครับไอ้พายุ)
“กำลังวุ่นๆกับงานที่ร้านอ่ะดิ มึงมีอะไร”
(เสาร์ อาทิตย์นี้ มึงว่างมั้ย? กูจะชวนไปเที่ยว)
“ชวนกูเนี่ยนะ มีอะไร มึงบอกกูมาเลยดีกว่า”
(หึ! สมกับที่เป็นพี่น้องกันดีจริงๆ เอาตรงๆก็ กูอยากจะให้มึงไปช่วยเป็นไม้กันหมาให้หน่อย)
“ไอ้สัสพูดซะกูไม่อยากช่วยเลย”
(ช่วยกูหน่อย เดี๋ยวกูจ่ายค่าตอบแทนให้อย่างงาม)
“ดีล ตามนั้น มึงพูดแล้วนะ”
(เออแค่นี้ก่อนแล้วกัน ไปที่ไหนเดี๋ยวกูส่งข้อความไปบอกอีกที)
“เออ”
เมื่อกดวางสายจากน้องชาย ชายหนุ่มก็ได้เดินขึ้นไปยังห้องทำงานของตนเอง หึ! ไม้กันหมาอย่างงั้นเหรอ ไอ้เด็กนี่ถ้าไม่ติดว่าจะจ่ายค่าตอบแทนให้กับเขา เขาไม่มีวันไปด้วยเด็ดขาด
ก๊อกๆเสียงเคาะประตูดังขึ้น“เข้ามา” พายุจึงได้ส่งเสียงบอกให้เข้ามาได้“ขออนุญาตครับคุณพายุ คุณอิทธิมาขอพบคุณพายุครับ” ลูกน้องคนสนิทอย่างวีรวิทย์ได้เดินเข้ามาและแจ้งไปยังผู้เป็นเจ้านายของเขา“อืม ให้เขาเข้ามาได้”“ครับ” โค้งคำนับและเดินออกไปยังหน้าห้องทำงานของพายุ ผายมือเชิญแขกที่มาขอพบให้เข้ามาพบกับผู้เป็นเจ้านายของเขา“เชิญครับ”“สวัสดีครับ ผมอิทธินะครับคุณพายุ” คนมาใหม่ได้เริ่มกล่าวแนะตัวเองให้พายุได้รู้จักอย่างเป็นทางการ“ครับยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน เชิญนั่งก่อน” พายุยิ้มรับพร้อมกับบอกให้เขานั้นนั่งลงก่อนแล้วค่อยมาเริ่มพูดคุยกัน“เชิญพูดเรื่องของคุณมาได้เลยครับ” พายุที่เห็นว่าทางฝั่งเขานั้นยังเงียบ จึงได้เริ่มพูดขึ้นมาก่อน“ครับ วันนี้ผมจะมาเสนอยาตัวใหม่ที่ทางผมพึ่งคิดค้นได้ครับ มันเป็นยากล่อมประสาทชนิดรุนแรง และนี่ครับผมจะให้ทางคุณพายุได้นำไปทดลองใช้ก่อน ใช้ไม่กี่หยดก็เห็นผลแล้วครับ”“ครับ เอาไว้ผมจะติดต่อไปแล้วกัน”“ถ้างั้นวันนี้ผมขอตัวลาก่อนแล้วกันนะครับและนี่เป็นนามบัตรของผมครับ หวังว่าคุณจะพอใจไปกับสินค้าของผม” อิทธิได้ขอตัวลากลับไปก่อน เขาทิ้งตัวอย่างทดลองเอาไว้กับพายุ“ผมว
อลิสกับชะเอมหายออกไปเดินเล่นกันที่ริมชายหาดประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง พอเมื่อเธอกลับมาก็รีบขึ้นมาบนเตียงนอนทันที เพราะอากาศข้างนอกยังค่อนข้างแดดร้อนอยู่ด้วย ความเพลียจึงทำให้เธอเผลอหลับไปเมื่อเห็นว่าเธอหลับไปแล้ว สายฟ้าเดินมาเคาะประตูห้องของชะเอม หญิงสาวเดินมาเปิดประตูให้เขา ไม่รอช้าเขาจึงได้พูดขึ้น“ชะเอม เราช่วยไปซื้อของและก็ซื้อเค้กแทนพี่หน่อยได้มั้ยครับ”“เค้กเหรอคะ” ชะเอมทำใบหน้างุนงงเอ่ยปากถามกลับไปยังพี่สายฟ้าอย่างคนที่ลืมในวันเกิดของเพื่อนสนิทตนเอง“ใช่ครับ วันนี้วันเกิดอลิส” สายฟ้ายิ้มรับพร้อมกับเฉลยว่าวันนี้คือวันเกิดของอลิสเพื่อนสนิทของเธอเอง“เออจริงด้วย! ลืมได้ไงเนี่ย งั้นได้เลยค่ะพี่ เดี๋ยวชะเอมจัดการให้” ชะเอมเบิกตาโตอย่างตกใจ พอพี่สายฟ้าบอกว่าวันนี้เป็นวันเกิดของอลิส เธอก็จำขึ้นมาได้ทันที ยิ้มตอบกลับไปพร้อมกับบอกว่าจะจัดการเรื่องเค้กให้เรียบร้อยและระหว่างที่พูดคุยกันอยู่พายุก็ได้เดินออกมาพอดี“ขอบคุณครับ พายุ มึงช่วยไปเป็นเพื่อนน้องชะเอมหน่อย” สายฟ้าหันไปมองสบตากับพี่ชายเมื่อทุกอย่างได้เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ เอ่ยปากพูดให้พายุช่วยไปเป็นเพื่อนชะเอมหน่อย“เอ่อ ไม่ต้องก็ได
“นี่ยัยเด็กบ้า ตื่นแล้วก็กลับไปนอนที่ห้องของเธอซะ” พายุตะคอกเสียงใส่คนเมาอีกครั้งอย่างคนที่เหลืออด เธอกำลังนอนที่เตียงและหมอนที่มันควรจะเป็นเขาที่ได้นอนคนเดียวถึงจะถูก“อืม อลิสอย่าบ่นมากน่า เดี๋ยวแก่เร็วนะ” คนเมารับรู้ถึงเสียงบ่นที่หลุดออกมาจากปากของชายหนุ่มแต่เธอนึกว่ามันเป็นเสียงของอลิส เพื่อนสาวของเธอ ชะเอมจึงได้พูดตอบกลับไป“พูดบ้าอะไรของเธอ” พายุเริ่มไม่พอใจชะเอมเข้าไปใหญ่ เขาไม่ชอบความวุ่นวายแบบนี้ ไม่ชอบเลย“มานี่ มานอน อย่าพูดมาก ฉันง่วง” ชะเอมที่คิดว่าพายุนั้นเป็นเพื่อนสนิทของเธอจึงได้ดึงแขนของเขาให้ล้มตัวลงนอนข้างๆเธอพร้อมกับเริ่มกอดก่ายไปยังร่างหนาของชายหนุ่ม“นี่ออกไปให้ห่างฉัน!” พายุตกใจเบิกตาโตตะลึงไปกับการกระทำของชะเอม ออกคำสั่งเสียงแข็งว่าให้คนเมารีบออกห่างจากร่างกายเขา“อืม ไม่เอาน่า แกเปิดแอร์เย็นไป ฉันหนาว” คนเมาไม่มีสติและคิดว่าพายุเป็นเพื่อนก็ได้พูดขึ้นอีกครั้ง เธอขยับกายแนบชิดไปทุกสัดส่วนเลยก็ว่าได้ เพราะอากาศจากอุณหภูมิแอร์มันหนาวทำให้เธอนอนบดเบียดแนบชิดกายไปยังเขา“อืม ไม่เอาน่า แกเปิดแอร์เย็นไป ฉันหนาว” คนเมาไม่มีสติและคิดว่าพายุเป็นเพื่อนของตนเองก็ได้พูดขึ้น
“ได้สิคะ” ชะเอมพยักหน้าตอบรับเป็นอันว่าตกลงรับคำของชายหนุ่ม เธอค่อยๆเอื้อมมืออันสั่นเทาเข้าไปสัมผัสท่อนเอ็นใหญ่โตของชายหนุ่ม เธอกำมันไม่มิดด้วยซ้ำ เส้นเลือดปูดเต็มลำไปหมด มันน่ากลัวมากสำหรับเธอ“มันใหญ่มากเลยนะคะและก็น่ากลัวมากด้วยค่ะ ขอบคุณนะคะ” ชะเอมปล่อยมือจากท่อนเอ็นของเขาและรีบดึงมือของตนเองกลับมา ก้มใบหน้าแดงระเรื่อไปพูดบอกกับเขา“ก็ 62”“62 คุณบอกหวยเหรอคะ เอมเล่นหวยไม่เป็นหรอกค่ะ” หญิงสาวรีบปฏิเสธเสียงแข็ง เขาไม่ต้องมาบอกเรื่องหวยกับเธอหรอก เพราะเธอนั้นเล่นหวยไม่เป็น“พูดมาก ลุกขึ้นมาแล้วอมให้ฉัน เดี๋ยวนี้!” พายุที่ใกล้จะแตกเต็มที่ก็จับร่างบางของชะเอมให้ลุกขึ้นนั่งส่วนเขานั้นยังคงนอนเหมือนเดิม“อมอะไรคะ? อื้อ~” ชะเอมที่ไม่เข้าใจในคำพูดของพายุก็ได้พูดถามออกมาอีกครั้ง พายุจึงดึงร่างเธอให้ก้มลงมาพร้อมกับกดศีรษะของเธอให้อยู่ตรงส่วนนั้นของเขา“อ้าปากแล้วจัดการอมมันซะ” ชายหนุ่มเลือดร้อนได้ออกคำสั่งเสียงแข็งอีกครั้ง หญิงสาวสะดุ้งตกใจไปกับเสียงดังของเขา เธอค่อยๆอ้าปากตามที่เขาบอก เขาจ่อท่อนเอ็นเข้าไปในโพรงปากนุ่มของเธอ“อ่าส์..” เขากดศีรษะของชะเอมให้ขยับเคลื่อนไหวขึ้นลงไปตามจังหวะ และไ
“แล้วนี่เราจะไปเที่ยวไหนกันมั้ยคะ” อลิสถามพี่สายฟ้าว่าจะพาเธอกับชะเอมไปเที่ยวที่ไหนกันในวันนี้“เย็นๆไปพายเรือกันมั้ยล่ะ” แพลนในวันนี้ของสายฟ้าก็คือพายเรือ ที่นี่น้ำสีสวย วิวก็ดี“ดีค่ะ อลิสตกลงไปค่ะ” หญิงสาวยิ้มออกมาจนแก้มแทบปริ และรีบตอบตกลงทันทีเมื่อรับประทานอาหารกันจนอิ่มแล้วทั้งสี่ก็ได้พากันไปหามุมนั่งเล่นแถวริมชายหาด สายฟ้าสั่งเบียร์พร้อมกับแกล้มมานั่งกินกับพายุอย่างชิวๆ “วิวที่นี่สวยมากๆเลยนะคะ น้ำทะเลก็ใสน่าเล่นมากเลย” อลิสพูดขึ้นอีกครั้งมองไปทางไหนก็สวย เธออยากลงไปเล่นน้ำ“พูดแบบนี้อยากเล่นใช่มั้ย” สายฟ้าที่รู้ทันไปกับคำพูดของอลิสก็รีบพูดขึ้น“เล่นได้มั้ยคะ” หญิงสาวรีบยิ้มทำหน้าออดอ้อนชายหนุ่มรุ่นพี่ กระพริบตาปิ๊งๆทันที“ได้แน่นอน ไปสิ ลงไปเล่นชวนเพื่อนไปด้วยนะ ฉันจะรออยู่ตรงนี้” สายฟ้าอนุญาตและบอกให้อลิสนั้นได้ชวนชะเอมลงไปเล่นน้ำด้วยกัน“ขอบคุณค่ะ”แล้วหญิงสาวก็พากันลงไปเล่นน้ำทะเลสีสวย ก่อนที่จะลงก็ไม่ลืมที่จะทาโลชั่นกันแดดก่อน เมื่ออยู่กันสองคนพายุก็ถามน้องชายออกมาตรงๆ“นี่มึงจริงจังกับน้องเขาใช่มั้ย” พายุเอ่ยปากถามไปยังน้องชายที่ตอนนี้เอาแต่มองไปยังแฟนสาวคนสวยของมันอย่าง
คอนโดชะเอม“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง ขับรถดีๆนะคะ อลิสถึงแล้วทักมาบอกด้วยนะ” ชะเอมได้กล่าวคำขอบคุณไปยังพี่สายฟ้าและบอกให้อลิสเมื่อถึงห้องแล้วให้ทักมาบอกยังเธอด้วย“ครับ”“อื้อ โอเคเลย ฉันกับพี่สายฟ้าไปก่อนนะ” อลิสหันมาส่งยิ้มหวานให้กับทางชะเอมพร้อมกับโบกมือร่ำลากัน ชะเอมเปิดประตูแล้วก้าวเดินลงจากรถคันหรูของสายฟ้าชะเอมเดินขึ้นมาบนคอนโดเปิดประตูเข้ามาก็พบเข้ากับพี่สาวคนสวยของเธอที่กำลังนั่งดูรายการทีวีอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก แชมเปญหันมามองน้องสาวคนสุดท้องพูดถามเธอถึงเรื่องไปเที่ยวทะเล“เป็นไงไปเที่ยวทะเลสนุกมั้ย?”“ก็สนุกดีค่ะ นานๆจะได้ไปที แล้วนี่มีอะไรให้เอมกินบ้างคะเนี่ย” ชะเอมเดินมานั่งลงด้านข้างของพี่สาว เธอวางสัมภาระเอาไว้กับพื้นห้องพูดถามพี่สาวของเธอว่าวันนี้มีอะไรให้กินบ้าง“วันนี้พี่ทำข้าวยำไก่แซ่บ อยู่ในครัวน่ะ” พี่สาวพูดพร้อมกับชี้มือเข้าไปในครัว“ว้าวว พูดแล้วหิวเลยค่ะงั้นเอมไปกินก่อนนะ พี่แชมเปญ” ชะเอมเมื่อฟังว่าวันนี้พี่ของเธอทำอะไรเอาไว้ให้เธอกินก็ถึงกับลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความหิว เธอรีบเดินดุ่มๆเข้าไปในครัวทันที“ย่ะ”“ยัยเชอ เขาฝากขนมมาให้เราด้วยนะ อยู่ในถุงสีฟ้าๆน่ะ พี่แวะเข
“อ๋อค่ะ” รุ่นน้องสาวยิ้มรับดีใจอยู่นะที่ได้กลับมาเจอกับพี่ชายที่สนิทกันมากๆในวัยเด็กอีกครั้ง“แล้วนี่เรากำลังจะไปหาอะไรกินใช่มั้ย” ไบรอันที่กำลังรู้สึกหิวอยู่เหมือนกันก็ได้ถามไปยังรุ่นน้องที่เคยสนิทกันเมื่อวัยเด็กเนื่องมาจากในช่วงเช้าเขาก็ยังไม่มีอะไรรองท้องเลย“ใช่ค่ะ ชะเอมหิวยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย” ชะเอมพูดพร้อมกับเอามือลูบท้องของเธอเอง“ถ้างั้นพี่ขอไปด้วยคนนะ ไปได้หรือเปล่า” เขาจึงได้ขอไปกินข้าวกับชะเอมแต่ก็ถามเธอก่อนว่าจะให้เขาไปด้วยได้หรือไม่“ได้ซิคะ โรงอาหารที่นี่ไม่ใช่ของชะเอมสักหน่อย พี่จะมาขออนุญาตก่อนทำไม”ทั้งคู่พากันเดินมายังโต๊ะที่อาหารที่กลุ่มของเธอนั้นได้นั่งกินอาหารเช้ากันอยู่อย่างเอร็ดอร่อย โดยไม่ลืมที่จะแนะนำรุ่นพี่ให้กับเพื่อนๆได้รู้จัก“พวกแก นี่พี่ไบรอันนะ เป็นพี่ชายที่สนิทของฉันเอง”“อ๋อ สวัสดีค่ะพี่ไบรอัน ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” มายูเงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่มรุ่นพี่พร้อมกับรีบยกมือขึ้นไหว้ไปยังเขาทันที“สวัสดีค่ะพี่” พราวก็เช่นกันรีบยกมือไหว้รุ่นพี่“พี่ไบรอันที่เคยเล่นละครเป็นแฟนให้แกตอนที่พวกเราอยู่ชั้นประถมอ่ะนะ” อลิสที่ความจำดีก็ได้พูดขึ้นเมื่อได้เห็นใบหน้าของ
ไบรอัน : หวัดดี กลับถึงห้องแล้วหรือยัง ทำอะไรอยู่ชะเอมจึงกดส่งข้อความตอบกลับไปหายังรุ่นพี่หนุ่มลูกครึ่งชะเอม : พึ่งถึงห้องได้สักพักแล้วค่ะพี่ไบรอัน ตอนนี้ชะเอมกำลังนั่งกินข้าวอยู่ค่ะ พี่แชมเปญทำเอาไว้ให้ไบรอัน : พี่แชทมากวนเราหรือเปล่า ไหนส่งรูปมาดูซิว่าหน้าตาจะอร่อยหรือเปล่า ฝีมือของพี่สาวเราน่ะชะเอม : (รูปภาพอาหาร) เป็นยังไงบ้างคะ มันน่ากินมากๆเลยใช่มั้ยคะไบรอัน : ก็พอกินได้อยู่ครับ ฮ่าฮ่า ถ้างั้นเรากินข้าวไปก่อนแล้วกัน พี่ไม่กวนแล้ว พี่ไปธุระกับเพื่อนๆของพี่ก่อนนะ แล้วถ้าว่างเดี๋ยวพี่ทักไปหาครับชะเอม : โอเคค่ะหลังจากนั้นชะเอมก็กินอาหารต่ออย่างอร่อย กินไปเปิดดูโซเชียลไป จนเมื่อเธออิ่มแล้วก็ได้เดินไปนั่งดูซีรี่ย์เกาหลีที่เธอนั้นชื่นชอบเป็นชีวิตจิตใจ ดูไปได้สักพัก เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมาอีกอลิส คือคนที่โทรเข้ามา“ฮัลโหลว่าไงอลิส”(แก ฉันอกหัก)“ห๊ะ! เรื่องมันเป็นมายังไงไหนเล่าดิ๊”(ฉันแวะไปหาพี่สายฟ้าที่ร้านก็เจอเขากับผู้หญิงคนนึงที่เขาบอกว่าเป็นเพียงเพื่อนเก่าของเขา ฉันเห็นพวกเขากำลังยื่นจูบกัน ฮึก..)“เฮ้ย! แกอย่าร้อง แล้วอินั่นมันเป็นใครกันทำไมพี่สายฟ้าของแกเขา
พราวได้เดินเข้ามานั่งยังโซฟาตัวโปรดและธาวินก็เดินตามเธอมานั่งลงข้างๆเธอหญิงสาวจึงได้ถามธาวินว่าเขานั้นอยากได้เพศไหนมากกว่ากัน"พี่วินอยากได้ผู้ชายหรือผู้หญิงคะ""อืม คนแรกพี่อยากได้ผู้ชาย จะได้ดูแลน้องได้"ธาวินเขาลูบไปที่หน้าท้องของพราวและพูดว่าเขานั้นอยากได้เด็กผู้ชายเพื่อที่จะได้ปกป้องน้องสาวได้"พี่หมายถึง..พี่อยากมีอีกคนอย่างงั้นเหรอคะ""ได้ไหมล่ะพราว มากกว่า2ก็ได้นะ"ธาวินมองหน้าเธอและพูดขึ้นเจ้าน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ"2คนก็พอแล้วค่ะ กำลังดี"พราวจึงรีบเบรกเขาในทันทีว่าแค่2คนก็พอแล้ว"แล้วเมื่อไหร่จะได้รู้เพศอ่ะ"ชายหนุ่มยังคงตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้พูดถึงเรื่องลูกที่อยู่ในท้องของเธอ"ประมาณ4-5เดือนค่ะ"เขาลูบไปที่ท้องของพราวอีกครั้งพร้อมกับก้มใบหน้ากระซิบพูดคุยกับลูกในท้อง"โอเคลูกพ่อ อย่าแกล้งแม่เขานะ เป็นเด็กดีนะครับ"และพอเขาพูดเสร็จธาวินก็รู้สึกเวียนหัวจะอ้วกขึ้นมาทันทีอุ๊บ!"พี่วินเป็นอะไรไปคะ"เมื่อเห็นว่าธาวินมีอาการคล้ายๆตนจึงได้พูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง"พี่รู้สึกจะอ้วก พี่ขอไป..." ธาวินพูดกับพราวและรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันทีพราวก็รีบโทรไปปรึกษาแม่ของเธอทันทีว่าอาการแบบนี
เขาพูดเสร็จธาวินก็แทรกกลางหว่างขาเธอและกดจ่อท่อนเอ็นเข้ามาภายในตัวเธอทีเดียวจนสุดโคนสวบ!ธาวินเริ่มกดกระแทกเข้าออกร่องของเธอและก้มตัวลงไปประกบริมฝีปากจูบเธอ เขาควานลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากนิ่มของเธอและพราวก็เริ่มจูบตอบเขากลับทันทีเมื่อจูบจนพอใจชายหนุ่มก็ยันกายลุกนั่งจับสะโพกของพราวไว้แน่นและเริ่มกระแทกท่อนเอ็นเข้าออกร่องรักของเธอ"อ่าาส์ เสียว" ธาวินครางเสียงแหบพร่าออกมาด้วยความเสียวไม่ว่าจะกี่ครั้งร่องของเธอก็ยังคงแน่นและตอดรัดเขาเป็นอย่างดีปึก! ปึก! ปึก!10นาทีผ่านไปธาวินจับพราวเปลี่ยนท่าไปมาจนเธอนั้นเริ่มที่จะไม่มีแรงเหลือแล้วไหนจะโดนกระแทกทั้งข้างล่างและข้างบนก็โดนทั้งลิ้นและมือที่บีบเคล้นของธาวินอีก"หนูไม่ไหวแล้ว..อ๊ะ" ชายหนุ่มรู้ว่าเธอนั้นใกล้จะเสร็จแล้วจึงได้จับขาเธอให้กว้างขึ้นและเริ่มตอกอัดกระแทกท่อนเอ็นร้อนใส่เข้าออกแบบเน้นๆจนสุดท้ายหญิงสาวที่โดนกระแทกแบบนั้นก็ได้ถึงจุดสุดยอดเธอครางออกมา"อ่าาส์ อ๊ะ อร้ายย"เธอได้ไปถึงสวรรค์อีกครั้งด้วยฝีมือของแฟนหนุ่มที่ตอนนี้ต้องเรียกว่าสามีแล้วสินะและธาวินก็เสร็จตามเธอไปแบบติดๆเขาได้ปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นไว้ในร่องของเธอ"พี่จะเสร็จ ม
งานแต่งงานธาวินและพราวงานได้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ครอบครัวของเขาได้เชิญเพื่อนนักธุรกิจของพ่อและคนที่รู้จักมาในงาน อีกทั้งยังมีญาติของทั้งสองฝ่ายอีกไหนจะบรรดาเพื่อนๆของทั้งธาวินและพราวด้วยโดยที่ธีมของงานยังคงคอนเซ็ปต์เดิมนั่นคือธีมสีขาว-ม่วงพาสเทลพิธีกรของงานเริ่มพูดขึ้นเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม“ขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นมาบนเวทีด้วยนะครับ”เจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ได้พากันขึ้นมาบนเวทีในวันนี้ธาวินสวมชุดสูทสีดำส่วนพราวนั้นใส่ชุดเจ้าสาวเป็นชุดเกาะอกสีขาวละมุน"ขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวพูดอะไรหน่อยครับ"ธาวินจึงได้เริ่มเป็นคนพูดก่อน“ขอบคุณแขกทุกท่านที่มางานแต่งของผมกับพราวนะครับ ผมดีใจมากที่มีวันนี้ ผมขอสัญญาว่าผมจะรักและดูแลเธอให้ดีที่สุดครับ”จากนั้นเขาก็ยื่นไมค์ให้กับพราวได้พูดต่อจากเขา“ค่ะ พราวขอขอบคุณทุกท่านที่มาเป็นพยานรักในงานแต่งงานของเราอีกครั้งนะคะ วันนี้พราวมีความสุขมากๆเลยค่ะ พราวมีครอบครัวที่ดี มีเพื่อนที่น่ารักและตอนนี้ก็มีสามีที่ดีที่ทั้งรักพราวและรักพ่อกับแม่ของพราวอีกด้วย รับได้กับทุกอย่างที่เป็นพราว พราวขอบคุณพี่วินมากเลยนะคะ ที่พี่เป็นคนดีและขอให้พี่ดีแบบนี้ตลอดไปเลยนะคะ”เมื่
“ฝากไว้กับเธอก่อน ฉันกลัวหายน่ะ ส่วนเข็มกลัดนั่นก็ของเธอไม่ใช่เหรอไง” เขาพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยแต่ฉันก็เห็นแววตาร้ายกาจในตาของเขา เขานี่มัน.. อึก..อลิสถึงกับต้องกลืนน้ำลายแล้วหันไปทางกลุ่มเพื่อนของเธอเองว่ามีสีหน้ายังไงเพราะเธอนั้นได้โกหกเพื่อนสาวเอาไว้เรื่องเข็มกลัด“ไอ้สัสมึงนี่นะเก็บเงียบเลยนะ ที่แท้ก็น้องอลิสนี่เอง” เวหาเพื่อนของเขาก็พูดแซวสายฟ้าขึ้นทันทีแต่สายฟ้าทำแค่เพียงยิ้มกริ่มไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรกลับไปจนอลิสต้องรีบแก้ตัวออกไปเพราะกลัวพวกรุ่นพี่นั้นจะเข้าใจผิด“ไม่ใช่นะคะพี่ พวกพี่อย่าเข้าใจหนูผิดเด็ดขาด”เวหาที่เห็นว่าอลิสเริ่มใบหน้าแดงก้มหน้าก้มตาด้วยความเขินอายจึงได้พูดขึ้นอีกครั้ง“พวกพี่ไม่แซวแล้วก็ได้ครับ ฮ่าฮ่า ไอ้สายฟ้าแฟนมึงเขินหน้าแดงยันหูแล้ว”“ไม่ใช่แฟนนะคะพวกพี่ จิ๊ เพราะพี่คนเดียวเลย คนอื่นเข้าใจผิดกันไปหมดแล้ว พี่ไม่คิดจะแก้ตัวให้อลิสบ้างเลยเหรอคะ”“ฉันไม่ชอบโกหกใครนะ ถ้าฉันพูดเกรงว่าเธอจะไม่พอใจเอาได้นะ” สายฟ้าก็พูดตอบไปยังอลิสด้วยใบหน้านิ่งเรียบ“ถ้างั้นก็ไม่ต้องพูดและเอาดอกไม้ของพี่คืนไปเลย ขอตัวก่อนนะคะ” เธอโกรธเขาและยัดช่อดอกไม้คืนไปให้แก่เขาและรีบเดินออก
ธาวินพูดขึ้นแล้วหันไปมองคู่หมั้นสาวที่ยืนอยู่เคียงข้างกันวันนี้เขามีความสุขมากไม่คิดเลยว่าผู้ชายอย่างเขาจะมีวันนี้เกิดขึ้นได้ วันนี้เขามีผู้หญิงที่เขารักและเธอก็ยืนอยู่เคียงข้างเขา“พี่มีความสุขมากเลยขอบคุณที่เรายอมกลับมาหาพี่อีกครั้งนะ”“หนูก็มีความสุขมากๆเลยค่ะ หนูรักพี่นะคะ ต่อไปนี้พี่วินเป็นของหนูคนเดียวแล้วนะคะ” พราวจึงยิ้มและพูดตอบกลับไปยังคู่หมั้นหนุ่มของตนเช่นกันว่าเธอนั้นรักเขาและต่อไปนี้เขานั้นเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียวธาวินเมื่อได้ฟังคำบอกรักของพราวก็บอกความในใจของตนว่าเขานั้นตกเป็นของเธอมาตั้งนานแล้วและพูดบอกเธอเอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยว่าเขานั้นอยากมีลูกแล้ว “พี่เป็นของเราคนเดียวมานานแล้วครับ ไว้รอเราเรียนจบ พวกเราแต่งงานกันเลยนะ พี่อยากมีลูกแล้ว”“ค่ะ พี่รอไปก่อนนะคะ” พราวหน้าแดงขึ้นเพราะความเขินและตอบกลับธาวินว่าให้รอเธอเรียนจบก่อนและจู่ๆพราวก็เห็นเพื่อนสนิทอย่างอลิสกำลังรีบเดินหนีไปอีกทางจึงได้ชี้ให้ธาวินได้เห็นและพูดขึ้นอย่างคนที่สงสัย“เอ๊ะนั่นอลิสนี่ เดินหนีใครมากันนะ”และเหมือนทั้งคู่จะได้คำตอบแล้วเพราะสายฟ้านั้นก็ได้เดินตามอลิสไปติดๆเช่นกันจนธาวินพูดขึ้นมาว่า“นั่น
พ่อของธาวินยกยิ้มขึ้นทันทีเมื่อได้ฟังคำตอบของลูกชายพร้อมทั้งพูดและหยิบโทรศัพท์ยื่นไปทางปฐวีเพื่อให้เขานั้นได้กดเบอร์มือถือส่วนตัวให้แก่เขา“ดี ถ้างั้นทางฉันจะจัดเตรียมงานหมั้นเอาไว้และจะบอกเอ็งกับเมียอีกทีนะว่าจะได้ฤกษ์วันไหน เอาเบอร์ของเอ็งมาด้วยไอ้วี หวังว่าต่อไปพวกเราคงไม่ขาดการติดต่อกันอีกแล้วนะโว้ย”พ่อของพราวหยิบโทรศัพท์มากดเบอร์และยื่นคืนให้เพื่อนสนิทและพูดขอบคุณที่ยอมรับในตัวลูกสาวของเขา“หึ ขอบใจนะที่เอ็งยอมรับในตัวพราว”“ก็ต้องขอโทษลูกของเอ็งกับเจ้าวินด้วยเหมือนกัน เมื่อก่อนฉันคิดแต่จะให้เจ้าวินจับคู่กับพวกผู้หญิงที่อยู่ในเครือข่ายธุรกิจด้วยกันเพื่อหวังขยายอำนาจและธุรกิจจนลืมนึกถึงใจลูกๆไปเลย เห้ออ”ธาวินจึงได้เอ่ยพูดกับพ่อของเขาอีกครั้งพร้อมกับยื่นมือไปบีบฝ่ามือของพ่อเบาๆ“ทุกอย่างมันได้ผ่านไปแล้วครับพ่อ พวกเรายังเริ่มใหม่ได้เสมอนะครับ”“อืม เอาสิ พ่อขอเริ่มใหม่กับลูกทั้งสองด้วยนะ แล้วนี่เอ็งจะกลับต่างจังหวัดเลยงั้นหรือ” พ่อของธาวินใช้อีกมือทาบทับไปบนมือของลูกชายและยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ลูกยอมยกโทษให้กับตนและถามไปยังเพื่อนสนิทอีกครั้ง“อือ ช่วงนี้ธุรกิจกำลังไปได้ดีมีลูกค้าเพ
“ฉันมีนัดคุยงานกับลูกค้าน่ะ งั้นเดี๋ยวฉันขอไปทำงานก่อนแล้วกันนะ เอ็งอย่าพึ่งหนีไปไหนล่ะ”“เออๆ ข้ามากินข้าวกับลูกสาว ลูกเขย และเพื่อนๆของลูกสาวข้าน่ะ พราวนี่เพื่อนของพ่อเองพวกเราไม่ได้ติดต่อกันนานมาก เอ็งไปทำธุระก่อนได้เลย เดี๋ยวข้าจะรอที่นี่” พ่อแนะนำธนภพให้กับลูกสาวได้รู้จักและบอกให้เพื่อนไปทำธุระให้เสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยมานั่งคุยกัน“เด็กคนนี้คือลูกสาวเอ็งหรอกเหรอ?” พอได้ฟังปฐวีแนะนำว่าพราวนั้นเป็นลูกของเขา ธนภพก็อึ้งไปเล็กน้อยและพูดถามไปยังปฐวีเพื่อยืนยันอีกครั้ง“เออก็ใช่อ่ะดิ ทำไมหรือ” ปฐวีได้ทำการยืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขาเห็นเพื่อนเก่ามองพราวกับตนเองสลับกันไปมาเลยถามไปยังธนภพอีกครั้งว่าทำไมหรือ“นี่ธาวินลูกชายของฉันเอง” ธนภพจึงได้แนะนำลูกชายของตนแก่เพื่อนเก่าบ้างปฐวีที่ได้ฟังธนภพแนะนำลูกชายของตนก็ตกใจไม่คิดว่าธาวินจะเป็นลูกของธนภพลูกชายของเพื่อนสนิทตนเองได้แต่ก็แนะนำให้เพื่อนนั้นไปคุยธุระเรื่องงานให้เสร็จสรรพก่อน“หาเด็กสองคนนี้ งั้นก็..เออๆไว้ค่อยคุย เอ็งไปทำธุระให้เสร็จก่อนเถอะ”ธนภพจึงพยักหน้าตอบรับและหันไปพูดคุยกับทางลูกค้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและชวนลูกค้าไปนั่งยังโต๊ะที่
ครืด~เสียงโทรศัพท์ของพราวดังขึ้นเธอจึงรีบกดรับสายทันที“ค่าแม่ โทรมาคิดถึงหนูเหรอคะ”(ยัยตัวแสบของแม่ แม่คิดถึงเราอยู่แล้วแหละ แม่โทรมาบอกว่าแม่ได้ออเดอร์ใหญ่จากทางกรุงเทพ ตอนนี้พ่อกับแม่กำลังเข้าไปส่งดอกไม้ที่กรุงเทพและคงจะแวะไปหาหนูด้วย พ่อกับแม่น่าจะถึงช่วงเย็นๆ)“จริงเหรอคะ ดีมากๆเลยค่ะ หนูจะรอพ่อกับแม่นะคะ วันนี้หนูมีเรียนแค่ช่วงบ่ายวิชาเดียว เดี๋ยวหนูส่งโลเคชั่นคอนโดของพี่วินไปให้พ่อนะคะ”(โอเคจ้ะ ไว้เจอกันนะลูกสาวแม่ ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ)เมื่อพราวกดวางสายแล้วอลิสจึงได้ถามขึ้นทันทีให้แน่ใจว่าเธอได้ยินไม่ผิดว่าพ่อกับแม่ของพราวจะลงมาหา“พ่อกับแม่พราวจะมาหาเหรอ?”พราวจึงได้ยิ้มพร้อมกับถามไปยังกลุ่มเพื่อนของเธออีกครั้งว่าพวกเธอนั้นอยากจะเจอกับพ่อแม่ของตนไหม“ช่าย อยากเจอพ่อกับแม่ของฉันกันไหม”“อยากเจอสิ พาพวกท่านไปกินอาหารที่ร้านกันนะ” มายูจึงรีบตอบพราวเพราะเธอนั้นคิดถึงและอยากเจอกับพ่อแม่ของพราว“ฉันก็ว่าดีเหมือนกันนะ เดี๋ยวบอกพี่วินไว้ก่อนดีกว่า” ว่าแล้วเธอก็กดพิมพ์ข้อความแล้วกดส่งไปบอกชายหนุ่มว่าพ่อกับแม่ของเธอลงมาส่งดอกไม้ที่กรุงเทพและจะแวะเข้ามาหาพวกเราน่าจะถึงในช่วงเย็น“ได้เวล
“แล้วไอริสว่าไงลูก” พ่อของเธอหันมาถามไปยังไอริสว่าจะเอายังไงกับผู้ชายคนนี้เธอหันไปมองใบหน้าหล่อเหล่าของชายหนุ่มคู่นอนที่เธอนั้นไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของเขาด้วยซ้ำคิดชั่งใจว่าจะเอายังไงดีจะชอบเขาดีไหม หน้าตาก็ดี รวยก็คือของแถม แต่ลีลาเซ็กส์ของเขานี่ซิที่ทำให้เธอชอบ“ไอริสก็ชอบคุณค่ะงั้นพวกเราลองมาคบกันดู คุณว่าดีไหมคะ?”“ตกลงครับ” ทั้งคู่ต่างตกลงที่จะลองคบหากันดูเพราะต่างก็ชื่นชอบในเซ็กส์ของกันและกันช่วงเวลาสายๆของวันถัดมาธาวินลืมตาตื่นขึ้นมามองไปรอบข้างก็ไม่เห็นแฟนสาวของเขาแล้ว ชายหนุ่มจึงได้ยันกายลุกขึ้นนั่งบิดกายไปมาเพื่อสลัดความง่วงทิ้งแล้วจึงเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อออกมาดูว่าแฟนของเขานั้นหายไปไหนซึ่งก็ได้คำตอบแล้วก็คือ เธอนั้นกำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัวธาวินจึงเดินย่องเข้าไปทางด้านหลังของเธอ หญิงสาวที่กำลังร้องฮัมเพลงไปตามเสียงเพลงที่เธอเปิดไว้ก็ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนด้านหลังเขาเดินเข้าไปโอบกอดเธอจากทางด้านหลังจึงทำให้หญิงสาวเกิดอาการสะดุ้งโหยงเล็กน้อยและพูดใส่หูของแฟนสาว“เช้านี้เมียพี่ทำอะไรให้พี่กินครับ”“หนูตกใจหมดเลย พี่ทำไมเดินเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลยล่ะคะ”“เรานั