ขุนพลที่เงียบอยู่นานก็พูดขึ้นมาบ้าง เขารู้นิสัยของพายุเป็นอย่างดีเพราะรู้จักและเป็นเพื่อนสนิทกันมานานแต่ก็ยังอยากที่จะถามย้ำๆให้ได้ยินกับหูอีกสักครั้ง
“กูยังชอบผู้หญิงเหมือนเดิมแต่แค่ยังหาคนที่ใช่ไม่ได้ก็เท่านั้น” พายุจึงได้ตอบกลับเน้นน้ำเสียงดังฟังชัดแน่นอนไปยังเพื่อนๆของเขาให้ได้รับรู้ให้แน่ชัดอีกครั้ง
คอนโดพายุ
เช้าวันต่อมา
7.30 น.
เมื่อคืนพายุกับเพื่อนดื่มกันจนเกือบจะโต้รุ่ง เขาได้กลับมานอนยังคอนโดของเขาและนอนได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะไปทำงานยังบริษัทของผู้เป็นพ่อ มันเหมือนเป็นความเคยชินไม่ว่าจะนอนดึกแค่ไหนก็ตามพายุก็จะตื่นเช้าอยู่เสมอ
พายุหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาด 10นาทีผ่านไป เขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อเชิ้ตสีดําแบรนด์ดังนำขึ้นมาสวมใส่ ทุกๆอย่างในห้องนี้ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยสีดำไปซะส่วนใหญ่
ในตอนเช้าถึงช่วงเย็นเขาเป็นถึงรองประธานบริษัทแต่พอช่วงดึกๆเป็นต้นไปก็จะกลายเป็นเจ้าของผับดูแลควบคุมสั่งการกิจการร้านผับ บ่อนคาสิโน และธุรกิจสีเทาอีกหลายอย่าง
แต่งตัวเสร็จอะไรเสร็จก็เดินออกจากห้องเพื่อไปทำงานที่บริษัทของผู้เป็นพ่อก่อนในทันที
บริษัทธันเดอร์กรุ๊ป
พายุได้เดินทางมาถึงยังที่บริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาจอดรถสปอร์ตคันหรูตรงโซนลานจอดรถวีไอพีของทางบริษัทที่จัดเอาไว้ให้สำหรับผู้บริหารโดยเฉพาะ ชายหนุ่มเดินขึ้นลิฟท์มายังชั้นระดับผู้บริหาร เดินมาถึงบริเวณหน้าห้องก็ต้องพบกับเลขาของผมที่ใครๆก็ต่างพากันบอกว่าเธอนั้นสวย ดูดี เซ็กซี่ แต่สำหรับเขาคือไม่ เขาไม่ชอบผู้หญิงประเภทนี้ และเธอคนนี้มีชื่อว่า ฮันน่า
“สวัสดีค่ะคุณพายุ” หญิงสาวที่ใส่กระโปรงสั้นรัดรูปก็ได้รีบลุกขึ้นยืนแล้วรีบเดินเข้ามาเสนอหน้าทักทายผู้เป็นเจ้านายของเธอเสียก่อน
“อืม” พายุตอบกลับในลำคอพร้อมกับเดินเปิดประตูแล้วเข้าไปในห้องทำงานของตนเองทันที
“จะรับกาแฟเลยมั้ยคะ ฮันน่าจะได้ไปชงมาให้เลย” เลขาสาวรีบเดินตามท่านรองประธานเข้าไปในห้องทำงานทันที พูดถามอย่างคนที่พร้อมจะเอาอกเอาใจ
“วันนี้ผมขอกาแฟดำ” พายุเปิดดูเอกสารที่อยู่บนโต๊ะแล้วพูดตอบเธอกลับไปว่าเขาต้องการที่จะดื่มอะไรในตอนเช้าๆแบบนี้ เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสนใจไปกับความสวยความสาวของเลขาของเขาเลยแม้แต่น้อย
“ได้ค่ะ คุณพายุรอฮันน่าสักครู่นะคะ” ร่างบางสุดเย้ายวนพูดบอกไปยังเจ้านายหนุ่มสุดหล่อของเธอพร้อมกับเดินทอดน่องออกจากห้องทำงานของพายุเพื่อไปชงกาแฟมาให้กับเขา
“อ้าววันนี้เข้ามาทำงานด้วยเหรอเจ้าลูกชาย” เสียงของชายวัยกลางคนดังขึ้นพร้อมกับเขาที่เดินเปิดประตูเข้ามายังภายในห้องทำงานของลูกชายคนโต
“ครับ ผมมีเอกสารสำคัญที่ต้องเซ็น” พายุเงยหน้าขึ้นมองไปยังผู้เป็นพ่อที่กำลังเดินเข้ามาหาเขาที่โต๊ะทำงานพร้อมกับเอ่ยบอกไปยังพ่อของตนถึงสาเหตุที่เขาได้เข้ามาทำงานในวันนี้ เพราะปกติพายุนั้นไม่ได้เข้ามาทำงานที่นี่ทุกวันจะเข้ามาก็ต่อเมื่อมีงานสำคัญและเอกสารที่ต้องเซ็นก็เท่านั้น
“แล้วได้เจอกับน้องบ้างมั้ย เจ้านั่นมันหายหัวไปเลย” พ่อของเขาพยักหน้ารับรู้ไปกับคำพูดของเจ้าลูกชายคนโตแล้วก็ได้ถามไถ่ไปยังเจ้าลูกชายคนเล็กที่ตอนนี้ไม่ค่อยติดต่อหรือเห็นหน้าคร่าตาเลย
“ช่วงนี้มันติดหญิงนะครับก็เลยไม่ค่อยได้เห็นหัว” พายุพูดบอกพ่อไปตามความเป็นจริงว่าน้องชายของเขานั้นตอนนี้ติดผู้หญิงคนนึงอยู่
“หึ แล้วแกล่ะ เมื่อไรจะมีสาวๆกับเขาบ้าง นี่แม่แกก็ถามๆอยู่” พ่อถึงกับหลุดขำออกมาไปกับคำพูดของเจ้าลูกชายที่กำลังพูดแซวน้อง เสียงทุ้มถามไปยังพายุอีกครั้งว่าเมื่อไหร่จะถึงตาของพายุบ้างที่จะได้มีสาวๆเข้ามาในชีวิตเหมือนอย่างเช่นน้องชาย
“จริงๆผมยังไม่อยากที่จะคิดเรื่องพวกนี้หรอกครับ ผมอยากทำงานมากกว่า” พายุถอนหายใจออกมาและสบตาบอกกับพ่อของเขาให้เข้าใจอีกสักครั้งว่าตอนนี้เขานั้นยังไม่อยากคิดอะไรไปกับเรื่องแบบนี้
“ยังไม่คิดก็เริ่มคิดได้แล้ว ฉันอยากอุ้มหลาน” ชายวัยกลางคนพูดสวนกลับไปยังลูกชายคนโตในทันที
‘จะมาบอกว่าไม่คิดได้ยังไงกันอายุก็เริ่มเยอะแล้ว ไม่มีตอนนี้แล้วจะมีเมื่อไหร่’ได้แต่คิดเอาไว้ในใจไม่ได้พูดบอกเจ้าลูกชายออกไป
“พ่อรอไอ้สายฟ้ามันจะดีกว่าครับ รายนั้นน่าจะพร้อมมากกว่าผม” พายุก้มหน้าเริ่มเปิดดุเอกสารขึ้นมาอีกครั้งบอกให้ผู้เป็นพ่อรอหลานจากทางไอ้สายฟ้าน่าจะดีกว่า
“กาแฟได้แล้วค่ะ อุ้ย ท่านประธานสวัสดีค่ะ” เสียงหวานใสดังกังวานขึ้นมาพร้อมกับร่างบางของฮันน่าเลขาสาวสุดสวยของพายุที่ได้เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วกาแฟดำในมือ แต่เมื่อเดินเข้ามาก็พบว่าท่านประธานบริษัทก็อยู่ด้วย เธอจึงทำได้เพียงกล่าวคำสวัสดีพร้อมกับยิ้มทักทายให้กับผู้เป็นเจ้าของบริษัท
“สวัสดี งั้นพ่อไปทำงานก่อนก็แล้วกัน” พ่อพายุหันไปส่งยิ้มรับกับเลขาของลูกชายและหันมาบอกกับพายุ ในเมื่อพูดออกไปแล้วเจ้าลูกชายตัวดีก็ยังเฉยไม่รับรู้ใดๆก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้เป็นแม่บ้างแล้ว พ่อพูดเสร็จก็เดินออกจากห้องไปยังห้องทำงานของตนเอง
“ขอบคุณ วางไว้ตรงนั้นเดี๋ยวผมเดินไปกินเอง” พายุหันมองไปทางฮันน่าบอกให้เธอวางแก้วกาแฟดำของเขาเอาไว้ที่โต๊ะรับแขก
“ค่ะ แล้วมีอะไรให้ฮันน่าช่วยมั้ยคะ” ฮันน่าวางแก้วกาแฟดำลงไว้ที่โต๊ะตามคำสั่งของชายหนุ่มและส่งยิ้มพูดถามค่อยๆเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม
“มี ช่วยออกไปทำงานของคุณ” พายุเอ่ยปากรีบบอกว่ามีและนั่นก็คือให้เธอนั่นออกไปทำงานของตัวเองที่อยู่ด้านนอกห้องของเขานั่นเอง
“ค..ค่ะ” ฮันน่าดูอึ้งไปเล็กน้อยกับคำพูดหยาบและตรงของชายหนุ่มหน้าตาคมคายที่ชื่อว่าพายุแต่ก็ต้องรีบเดินออกไปตามคำสั่งของเขาทันที
“น่ารำคาญชะมัด” ปากหนาส่งเสียงพูดบ่นพึมพำออกมาอย่างคนที่ไม่ชอบอะไรแบบนี้เอาเสียเลย ในทันทีที่เลขาสาวได้เดินออกไปจากห้องทำงานของเขาแล้ว เขาบอกกับตัวเองว่าให้รีบๆทำงานแล้วจะได้รีบไปร้านไปนอนพักเอาแรงที่ห้องทำงานจะดีกว่า ขืนอยู่ที่นี่ก็ต้องเจอกับอะไรแบบนี้ เดี๋ยวเดินๆเข้ามาอยู่ได้
ผับ Storm Night
21.00 น.
เมื่อเช้าพอทำงานเสร็จในช่วงตอนบ่ายๆชายหนุ่มก็รีบออกมาจากที่ทำงานทันทีและเขาก็ขับรถไปยังร้านผับบาร์ของเขา ในตอนนี้พายุกำลังไล่ดูความเรียบร้อยอยู่ภายในร้าน เสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูก็แผดเสียงดังขึ้น
“ฮัลโหลว่า”
(ทำไรอยู่ครับไอ้พายุ)
“กำลังวุ่นๆกับงานที่ร้านอ่ะดิ มึงมีอะไร”
(เสาร์ อาทิตย์นี้ มึงว่างมั้ย? กูจะชวนไปเที่ยว)
“ชวนกูเนี่ยนะ มีอะไร มึงบอกกูมาเลยดีกว่า”
(หึ! สมกับที่เป็นพี่น้องกันดีจริงๆ เอาตรงๆก็ กูอยากจะให้มึงไปช่วยเป็นไม้กันหมาให้หน่อย)
“ไอ้สัสพูดซะกูไม่อยากช่วยเลย”
(ช่วยกูหน่อย เดี๋ยวกูจ่ายค่าตอบแทนให้อย่างงาม)
“ดีล ตามนั้น มึงพูดแล้วนะ”
(เออแค่นี้ก่อนแล้วกัน ไปที่ไหนเดี๋ยวกูส่งข้อความไปบอกอีกที)
“เออ”
เมื่อกดวางสายจากน้องชาย ชายหนุ่มก็ได้เดินขึ้นไปยังห้องทำงานของตนเอง หึ! ไม้กันหมาอย่างงั้นเหรอ ไอ้เด็กนี่ถ้าไม่ติดว่าจะจ่ายค่าตอบแทนให้กับเขา เขาไม่มีวันไปด้วยเด็ดขาด
พราวได้เดินเข้ามานั่งยังโซฟาตัวโปรดและธาวินก็เดินตามเธอมานั่งลงข้างๆเธอหญิงสาวจึงได้ถามธาวินว่าเขานั้นอยากได้เพศไหนมากกว่ากัน"พี่วินอยากได้ผู้ชายหรือผู้หญิงคะ""อืม คนแรกพี่อยากได้ผู้ชาย จะได้ดูแลน้องได้"ธาวินเขาลูบไปที่หน้าท้องของพราวและพูดว่าเขานั้นอยากได้เด็กผู้ชายเพื่อที่จะได้ปกป้องน้องสาวได้"พี่หมายถึง..พี่อยากมีอีกคนอย่างงั้นเหรอคะ""ได้ไหมล่ะพราว มากกว่า2ก็ได้นะ"ธาวินมองหน้าเธอและพูดขึ้นเจ้าน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ"2คนก็พอแล้วค่ะ กำลังดี"พราวจึงรีบเบรกเขาในทันทีว่าแค่2คนก็พอแล้ว"แล้วเมื่อไหร่จะได้รู้เพศอ่ะ"ชายหนุ่มยังคงตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้พูดถึงเรื่องลูกที่อยู่ในท้องของเธอ"ประมาณ4-5เดือนค่ะ"เขาลูบไปที่ท้องของพราวอีกครั้งพร้อมกับก้มใบหน้ากระซิบพูดคุยกับลูกในท้อง"โอเคลูกพ่อ อย่าแกล้งแม่เขานะ เป็นเด็กดีนะครับ"และพอเขาพูดเสร็จธาวินก็รู้สึกเวียนหัวจะอ้วกขึ้นมาทันทีอุ๊บ!"พี่วินเป็นอะไรไปคะ"เมื่อเห็นว่าธาวินมีอาการคล้ายๆตนจึงได้พูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง"พี่รู้สึกจะอ้วก พี่ขอไป..." ธาวินพูดกับพราวและรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันทีพราวก็รีบโทรไปปรึกษาแม่ของเธอทันทีว่าอาการแบบนี
เขาพูดเสร็จธาวินก็แทรกกลางหว่างขาเธอและกดจ่อท่อนเอ็นเข้ามาภายในตัวเธอทีเดียวจนสุดโคนสวบ!ธาวินเริ่มกดกระแทกเข้าออกร่องของเธอและก้มตัวลงไปประกบริมฝีปากจูบเธอ เขาควานลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากนิ่มของเธอและพราวก็เริ่มจูบตอบเขากลับทันทีเมื่อจูบจนพอใจชายหนุ่มก็ยันกายลุกนั่งจับสะโพกของพราวไว้แน่นและเริ่มกระแทกท่อนเอ็นเข้าออกร่องรักของเธอ"อ่าาส์ เสียว" ธาวินครางเสียงแหบพร่าออกมาด้วยความเสียวไม่ว่าจะกี่ครั้งร่องของเธอก็ยังคงแน่นและตอดรัดเขาเป็นอย่างดีปึก! ปึก! ปึก!10นาทีผ่านไปธาวินจับพราวเปลี่ยนท่าไปมาจนเธอนั้นเริ่มที่จะไม่มีแรงเหลือแล้วไหนจะโดนกระแทกทั้งข้างล่างและข้างบนก็โดนทั้งลิ้นและมือที่บีบเคล้นของธาวินอีก"หนูไม่ไหวแล้ว..อ๊ะ" ชายหนุ่มรู้ว่าเธอนั้นใกล้จะเสร็จแล้วจึงได้จับขาเธอให้กว้างขึ้นและเริ่มตอกอัดกระแทกท่อนเอ็นร้อนใส่เข้าออกแบบเน้นๆจนสุดท้ายหญิงสาวที่โดนกระแทกแบบนั้นก็ได้ถึงจุดสุดยอดเธอครางออกมา"อ่าาส์ อ๊ะ อร้ายย"เธอได้ไปถึงสวรรค์อีกครั้งด้วยฝีมือของแฟนหนุ่มที่ตอนนี้ต้องเรียกว่าสามีแล้วสินะและธาวินก็เสร็จตามเธอไปแบบติดๆเขาได้ปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นไว้ในร่องของเธอ"พี่จะเสร็จ ม
งานแต่งงานธาวินและพราวงานได้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ครอบครัวของเขาได้เชิญเพื่อนนักธุรกิจของพ่อและคนที่รู้จักมาในงาน อีกทั้งยังมีญาติของทั้งสองฝ่ายอีกไหนจะบรรดาเพื่อนๆของทั้งธาวินและพราวด้วยโดยที่ธีมของงานยังคงคอนเซ็ปต์เดิมนั่นคือธีมสีขาว-ม่วงพาสเทลพิธีกรของงานเริ่มพูดขึ้นเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม“ขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นมาบนเวทีด้วยนะครับ”เจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ได้พากันขึ้นมาบนเวทีในวันนี้ธาวินสวมชุดสูทสีดำส่วนพราวนั้นใส่ชุดเจ้าสาวเป็นชุดเกาะอกสีขาวละมุน"ขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวพูดอะไรหน่อยครับ"ธาวินจึงได้เริ่มเป็นคนพูดก่อน“ขอบคุณแขกทุกท่านที่มางานแต่งของผมกับพราวนะครับ ผมดีใจมากที่มีวันนี้ ผมขอสัญญาว่าผมจะรักและดูแลเธอให้ดีที่สุดครับ”จากนั้นเขาก็ยื่นไมค์ให้กับพราวได้พูดต่อจากเขา“ค่ะ พราวขอขอบคุณทุกท่านที่มาเป็นพยานรักในงานแต่งงานของเราอีกครั้งนะคะ วันนี้พราวมีความสุขมากๆเลยค่ะ พราวมีครอบครัวที่ดี มีเพื่อนที่น่ารักและตอนนี้ก็มีสามีที่ดีที่ทั้งรักพราวและรักพ่อกับแม่ของพราวอีกด้วย รับได้กับทุกอย่างที่เป็นพราว พราวขอบคุณพี่วินมากเลยนะคะ ที่พี่เป็นคนดีและขอให้พี่ดีแบบนี้ตลอดไปเลยนะคะ”เมื่
“ฝากไว้กับเธอก่อน ฉันกลัวหายน่ะ ส่วนเข็มกลัดนั่นก็ของเธอไม่ใช่เหรอไง” เขาพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยแต่ฉันก็เห็นแววตาร้ายกาจในตาของเขา เขานี่มัน.. อึก..อลิสถึงกับต้องกลืนน้ำลายแล้วหันไปทางกลุ่มเพื่อนของเธอเองว่ามีสีหน้ายังไงเพราะเธอนั้นได้โกหกเพื่อนสาวเอาไว้เรื่องเข็มกลัด“ไอ้สัสมึงนี่นะเก็บเงียบเลยนะ ที่แท้ก็น้องอลิสนี่เอง” เวหาเพื่อนของเขาก็พูดแซวสายฟ้าขึ้นทันทีแต่สายฟ้าทำแค่เพียงยิ้มกริ่มไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรกลับไปจนอลิสต้องรีบแก้ตัวออกไปเพราะกลัวพวกรุ่นพี่นั้นจะเข้าใจผิด“ไม่ใช่นะคะพี่ พวกพี่อย่าเข้าใจหนูผิดเด็ดขาด”เวหาที่เห็นว่าอลิสเริ่มใบหน้าแดงก้มหน้าก้มตาด้วยความเขินอายจึงได้พูดขึ้นอีกครั้ง“พวกพี่ไม่แซวแล้วก็ได้ครับ ฮ่าฮ่า ไอ้สายฟ้าแฟนมึงเขินหน้าแดงยันหูแล้ว”“ไม่ใช่แฟนนะคะพวกพี่ จิ๊ เพราะพี่คนเดียวเลย คนอื่นเข้าใจผิดกันไปหมดแล้ว พี่ไม่คิดจะแก้ตัวให้อลิสบ้างเลยเหรอคะ”“ฉันไม่ชอบโกหกใครนะ ถ้าฉันพูดเกรงว่าเธอจะไม่พอใจเอาได้นะ” สายฟ้าก็พูดตอบไปยังอลิสด้วยใบหน้านิ่งเรียบ“ถ้างั้นก็ไม่ต้องพูดและเอาดอกไม้ของพี่คืนไปเลย ขอตัวก่อนนะคะ” เธอโกรธเขาและยัดช่อดอกไม้คืนไปให้แก่เขาและรีบเดินออก
ธาวินพูดขึ้นแล้วหันไปมองคู่หมั้นสาวที่ยืนอยู่เคียงข้างกันวันนี้เขามีความสุขมากไม่คิดเลยว่าผู้ชายอย่างเขาจะมีวันนี้เกิดขึ้นได้ วันนี้เขามีผู้หญิงที่เขารักและเธอก็ยืนอยู่เคียงข้างเขา“พี่มีความสุขมากเลยขอบคุณที่เรายอมกลับมาหาพี่อีกครั้งนะ”“หนูก็มีความสุขมากๆเลยค่ะ หนูรักพี่นะคะ ต่อไปนี้พี่วินเป็นของหนูคนเดียวแล้วนะคะ” พราวจึงยิ้มและพูดตอบกลับไปยังคู่หมั้นหนุ่มของตนเช่นกันว่าเธอนั้นรักเขาและต่อไปนี้เขานั้นเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียวธาวินเมื่อได้ฟังคำบอกรักของพราวก็บอกความในใจของตนว่าเขานั้นตกเป็นของเธอมาตั้งนานแล้วและพูดบอกเธอเอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยว่าเขานั้นอยากมีลูกแล้ว “พี่เป็นของเราคนเดียวมานานแล้วครับ ไว้รอเราเรียนจบ พวกเราแต่งงานกันเลยนะ พี่อยากมีลูกแล้ว”“ค่ะ พี่รอไปก่อนนะคะ” พราวหน้าแดงขึ้นเพราะความเขินและตอบกลับธาวินว่าให้รอเธอเรียนจบก่อนและจู่ๆพราวก็เห็นเพื่อนสนิทอย่างอลิสกำลังรีบเดินหนีไปอีกทางจึงได้ชี้ให้ธาวินได้เห็นและพูดขึ้นอย่างคนที่สงสัย“เอ๊ะนั่นอลิสนี่ เดินหนีใครมากันนะ”และเหมือนทั้งคู่จะได้คำตอบแล้วเพราะสายฟ้านั้นก็ได้เดินตามอลิสไปติดๆเช่นกันจนธาวินพูดขึ้นมาว่า“นั่น
พ่อของธาวินยกยิ้มขึ้นทันทีเมื่อได้ฟังคำตอบของลูกชายพร้อมทั้งพูดและหยิบโทรศัพท์ยื่นไปทางปฐวีเพื่อให้เขานั้นได้กดเบอร์มือถือส่วนตัวให้แก่เขา“ดี ถ้างั้นทางฉันจะจัดเตรียมงานหมั้นเอาไว้และจะบอกเอ็งกับเมียอีกทีนะว่าจะได้ฤกษ์วันไหน เอาเบอร์ของเอ็งมาด้วยไอ้วี หวังว่าต่อไปพวกเราคงไม่ขาดการติดต่อกันอีกแล้วนะโว้ย”พ่อของพราวหยิบโทรศัพท์มากดเบอร์และยื่นคืนให้เพื่อนสนิทและพูดขอบคุณที่ยอมรับในตัวลูกสาวของเขา“หึ ขอบใจนะที่เอ็งยอมรับในตัวพราว”“ก็ต้องขอโทษลูกของเอ็งกับเจ้าวินด้วยเหมือนกัน เมื่อก่อนฉันคิดแต่จะให้เจ้าวินจับคู่กับพวกผู้หญิงที่อยู่ในเครือข่ายธุรกิจด้วยกันเพื่อหวังขยายอำนาจและธุรกิจจนลืมนึกถึงใจลูกๆไปเลย เห้ออ”ธาวินจึงได้เอ่ยพูดกับพ่อของเขาอีกครั้งพร้อมกับยื่นมือไปบีบฝ่ามือของพ่อเบาๆ“ทุกอย่างมันได้ผ่านไปแล้วครับพ่อ พวกเรายังเริ่มใหม่ได้เสมอนะครับ”“อืม เอาสิ พ่อขอเริ่มใหม่กับลูกทั้งสองด้วยนะ แล้วนี่เอ็งจะกลับต่างจังหวัดเลยงั้นหรือ” พ่อของธาวินใช้อีกมือทาบทับไปบนมือของลูกชายและยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ลูกยอมยกโทษให้กับตนและถามไปยังเพื่อนสนิทอีกครั้ง“อือ ช่วงนี้ธุรกิจกำลังไปได้ดีมีลูกค้าเพ