“ไม่เอานะคะ แชมเปญไม่ชอบอิตานั่น แชมเปญไม่อยากหมั้น!” คราวนี้ได้ยินชัดเต็มสองรูหูเลย ทำไมมันกลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้ เธอยังไม่มีโอกาสที่จะเข้าไปพูดคุยกับพ่อแม่ของเธอเลยด้วยซ้ำเรื่องที่ไม่อยากให้น้องๆรวมไปถึงตัวเธอเองด้วยต้องไปหมั้นกับทางไบรอัน(ทางบ้านไบรอันเขาเลือกหนูนะลูกแล้วจะให้พ่อกับแม่ปฏิเสธเขาได้ยังไง)“เดี๋ยวหนูจะไปคุยกับนายนั่นเองค่ะพ่อ แค่นี้ก่อนนะคะ”ผับ Storm Night22.00 นหญิงสาวที่แต่งตัวด้วยชุดเดรสเกาะอกสีแดงตัวสั้นหยิบยกแก้วเหล้าราคาแพงยกขึ้นมาดื่มไม่หยุด เธอเริ่มเมาเพราะมีเรื่องให้คิดหนักและกำลังกลุ้มใจที่ต้องหมั้นกับคนที่ไม่ได้รัก คนที่เธอไม่อยากให้ใจ คนที่คอยคิดแต่จะเอาเปรียบเธอ“ชะเอมม~ พี่จะทำยังดี พี่ไม่อยากหมั้นกับไอ้บ้านั่น” ร่างบางวางแก้วเหล้าลงกับโต๊ะพูดกับน้องสาวว่าตัวเธอเองจะทำยังไงดีคิดยังไงก็คิดไม่ออกจึงได้ใช้เหล้าเป็นตัวแก้ปัญหาซะเลย“พี่ไบรอันเขาก็ดูโอเคอยู่นี่คะทำไมพี่ถึงไม่ลองเปิดใจชอบเขาดูก่อน” คนน้องบีบมือให้กำลังพี่สาวคนโตเธออยากให้พี่เธอลองเปิดใจให้กับพี่ไบรอันดูในเมื่อทั้งสองก็มีอะไรกันไปแล้วแต่ทำไมพี่สาวเธอถึงไม่ชอบพี่ไบรอันกันนะ อยากรู้แต่ไม่อยา
“ก็ได้อยู่ค่ะแต่พี่ห้ามพูดอีกนะไม่งั้นไม่ทำให้” คนตัวเล็กที่อยู่บนตักของชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เขาจะถามอะไรนักหนาไม่พูดก็แปลว่าจะทำให้ไง“ครับ ปิดปากฉันด้วยอะไรดีน้า” คำตอบของเธอทำให้เขาพอใจ ชายหนุ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างบอบบางพลางส่งสายตาแทะโลมร่างกายเธอไปพร้อมๆกัน“พี่จะทำอะไร!!” คนตัวเล็กนั่งแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกเมื่อโดนเขาลูบคลำเนื้อตัวอย่างถือวิสาสะ“ปิดปากฉันด้วย..นม..ของเธอไง นะ~” พายุใช้มือหนาค่อยๆเลื่อนชุดเดรสเกาะอกสีเทาของเธอดึงลงมากองเอาไว้ที่หน้าท้องแบนราบ มือหนารีบแกะแผ่นปิดจุกทั้งสองข้างออกพร้อมกับส่งฝ่ามือหนาเข้าบีบขยำหน้าอกอวบ“ไม่เอา! เดี๋ยวมีใครเข้ามาเห็น อะ อ๊ะ พี่พายุ อื้อ~” ร่างบางรีบแกะมือของเขาออกเพราะกลัวว่าอาจมีใครเข้ามาเห็นเข้า เธอดึงชุดให้เลื่อนขึ้นมาปกปิดเหมือนเดิมแต่ก็โดนพายุดึงกระชากกลับลงไปอีกและโน้มตัวลงไปดูดเลียหัวนมจนเธอส่งเสียงครางออกมา“แค่แปบเดียวฉันหิว!” พายุจับมือทั้งสองข้างของชะเอมเอาไว้ด้วยเพียงมือข้างเดียวของเขาส่วนมืออีกข้างผลักดันหลังเธอให้แอ่นเข้าหาริมฝีปากเขา ความเสียวที่ได้รับทำเธอแหงนใบหน้าหลับตาพริ้มชายหนุ่มเกร็งปลายลิ้นสากต
“พวกเรายินดีกับพี่ทั้งสองคนด้วยนะคะ” ฉันกับพี่เชอรีนเดินมาถึงยังตรงที่พี่ไบรอันยืนอยู่กับทางเพื่อนๆของเขา มองไปรอบๆก็ไม่ยักจะเห็นพี่แชมเปญเลย“ขอบคุณครับน้องชะเอม น้องเชอรีน” พี่ไบรอันยิ้มรับและกล่าวคำขอบคุณพวกเราสองพี่น้องตอนนี้พี่เขาถือว่าเป็นพี่เขยของพวกฉันแล้วมั้ยนะ“แล้วนี่พี่แชมเปญไปไหนแล้วคะเนี่ย” ฉันถามหาพี่สาวของตัวเองเพราะไม่รู้จริงๆว่าเธอนั้นหายไปไหนทั้งๆที่วันนี้เป็นงานหมั้นของเธอเองแท้ๆ“น่าจะหนีกลับไปคอนโดแล้วล่ะแต่ไม่ต้องห่วงนะเดี๋ยวพี่จะตามไปจัดการให้เข็ดหลาบ” เขาชูโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมา ไบรอันรู้ว่าแชมเปญกลับไปหลบซ่อนตัวยังคอนโดของเธอเป็นที่เรียบร้อยและถามว่าเขารู้ได้อย่างไรนะเหรอก็เพราะพี่ไบรอันติดจีพีเอสเอาไว้ที่โทรศัพท์มือถือของพี่แชมเปญแล้วยังไงล่ะ“ช่วยเบามือกับพี่สาวของพวกเราด้วยนะคะพี่เขย ฮ่าๆ” ฉันพูดติดตลกบอกพี่ไบรอันให้ช่วยถนอมพี่แชมเปญของพวกเรา“ขอคิดดูก่อนแล้วกันนะ งั้นพี่ไปจัดการกับพี่สาวของพวกเราก่อนแล้วกัน เอาไว้เจอกันนะ พี่ไปก่อน” ไบรอันบอกลาเพื่อนรวมไปถึงพวกฉันสองพี่น้องที่ยืนอยู่ตรงนั้น ฉันคิดว่าพี่เขาคงมูฟออนจากฉันได้แล้วแหละขอให้พี่ไบรอันกับพ
หญิงสาวตรงหน้าลนลานรีบขอโทษไปยังชายหนุ่มเจ้าของผับทันที ถ้าเผลอพูดอะไรผิดไปก็กลัวว่าเขาจะยกเลิกไวน์จากทางบริษัทเธอ“….” พายุยังคงทำท่าทีไม่พอใจเธอจนหญิงสาวคนดังกล่าวต้องพูดออกมาอีกครั้ง รีบพูดและรีบออกไปจากตรงนี้คงจะดีที่สุดแล้วในตอนนี้“เรื่องไวน์ตัวใหม่เชิญทางคุณเลือกและตัดสินใจได้เลยนะคะว่าต้องการตัวไหนจากทางเรา นี่เป็นนามบัตรของฉันค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ พี่ไปก่อนนะคะคนสวย” ร่างบางพูดบอกเจ้าของผับพร้อมทั้งหยิบนามบัตรของเธอเอาออกมาจากกระเป๋าสะพายใบสวยแล้ววางลงบนโต๊ะทำงานของเขา เธอยิ้มแย้มไม่ลืมที่จะทักทายไปยังชะเอมก่อนที่จะเดินออกไปอีกด้วย“สวัสดีค่ะ” ชะเอมยกมือขึ้นไหว้ผู้หญิงคนนั้นเพราะดูจากใบหน้าแล้วเธอคงจะอายุเยอะกว่าเธอแน่ เมื่อเธอคนนั้นได้เดินออกไปจากห้องทำงานของพายุแล้ว ชะเอมก็ได้เดินเข้าไปหาพายุที่ซึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้ทำงานตัวโปรด“ใครเหรอคะ สวยมากเลย” คนตัวเล็กยิ้มถามชายหนุ่มตรงหน้าว่าเธอคนนั้นคือใคร ดวงตากลมโตมองไปยังขวดไวน์บนโต๊ะที่วางเอาไว้เยอะแยะจนเต็มไปหมดแต่ว่าก็ต้องยอมรับเลยนะว่าผู้หญิงคนเมื่อกี้เธอสวยมาก“เจ้าของบริษัทที่ฉันซื้อไวน์จากเขาน่ะ เธออย่าไปถือสาคำพูด
“รู้จักค่ะ บริษัทของลินดาส่งไวน์ให้กับทางร้านของคุณพายุค่ะคุณแม่” ลินดาหันหน้าไปบอกคุณแม่พายุด้วยใบหน้าที่ดูเขินอายเล็กน้อย“อ่อแบบนี้นี่เอง ไปกินอาหารเย็นกันเถอะเด็กๆ” แม่พายุพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้และลุกขึ้นยืนบอกกับหนุ่มสาวทั้งคู่ให้ไปกินอาหารเย็นกันได้แล้วเพราะตอนนี้แม่บ้านได้จัดโต๊ะเสร็จเป็นที่เรียบร้อย“แล้วคุณพ่อไม่อยู่เหรอครับ” เมื่อเดินมาถึงยังโต๊ะรับประทานอาหาร พายุเลือกที่จะนั่งฝั่งตรงข้ามกับลินดา เขาถามหาผู้เป็นพ่อไม่แน่ใจว่าอยู่ข้างบนห้องหรือออกไปข้างนอก“วันนี้คุณพ่อเขามีนัดกับเพื่อนเก่าน่ะลูกออกไปทานอาหารกันข้างนอก” แม่พายุตอบให้ลูกชายได้หายสงสัยว่าคุณพ่อของเขาไปไหนกันแน่ เธอหันไปบอกกับลินดาให้นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเธอ“นั่งเลยนะหนูลินดา”“ขอบคุณค่ะคุณแม่” ลินดายิ้มรับและค่อยๆลากเก้าอี้ออกมาเล็กน้อยและนั่งลงที่เก้าอี้อย่างเรียบร้อย“แม่ก็ลืมไปเลยว่าที่บ้านหนูผลิตไวน์ส่งออกทั้งในและต่างประเทศ” แม่พายุเริ่มชวนลินดาพูดคุยอีกครั้ง เพราะทั้งคู่ ทั้งลินดากับพายุต่างคนต่างเงียบกันเกินไป“ใช่ค่ะคุณแม่ว่าแต่คุณพายุชอบกินอะไรเหรอคะ” ลินดาเมื่อได้โอกาสทำความรู้จักก็เริ่มถามพายุให้มา
“พายุ! หนูชะเอมนี่~” หญิงวัยกลางคนเรียกชื่อลูกชายตัวเองก่อนที่จะหลุบตามองไปยังหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างกายลูกชายของเขา ดวงตากลมสวยเบิกตากว้างขึ้นด้วยความดีใจเธอจำได้ทันทีว่าหญิงสาวตรงหน้าคือใคร“คุณแม่ สวัสดีค่ะ” ชะเอมยิ้มออกมาด้วยความดีใจเช่นกันที่วันนี้ได้เจอกับคุณแม่ของผู้ชายที่เธอรักและท่านก็ใจดีกับเธอเป็นอย่างมาก เธอรีบยกมือขึ้นไหว้ไปยังคุณแม่ของพี่พายุ“หนูชะเอมคิดถึงจังเลยลูก พวกเราไม่ได้เจอกันกี่ปีแล้วเนี่ย เป็นยังไงบ้างหนูสบายดีนะ” แม่พายุรีบเดินเอามาโอบกอดร่างกายของเด็กสาวเอาไว้ด้วยความคิดถึง พวกเขาไม่ได้เจอกันหลายปีจึงเริ่มถามไถ่กันเป็นเรื่องธรรมดา“ชะเอมสบายดีค่ะคุณแม่ ช่วงนี้ฝึกงานอยู่ค่ะใกล้เรียนจบแล้วน่ะค่ะ” ชะเอมตอบไปตามความเป็นจริงช่วงนี้เธอสบายมากอีกทั้งยังมีความสุขดี ชีวิตดี ความรักดี ครอบครัวการทำงานดีหมดทุกอย่าง“แล้วนี่ทำไมหนูถึงมาอยู่ที่บริษัทแม่ล่ะ?” แม่พายุถามเธอถึงเรื่องที่ยังคงสงสัยว่าทำไมถึงได้เห็นชะเอมที่บริษัทของเธอ เด็กสาวคนนี้เข้ามาทำอะไรที่บริษัทแห่งนี้กันนะ“เอ่อคือ” ชะเอมที่ไม่กล้าตอบคำถามก็ทำได้เพียงอ้ำๆ อึ้งๆอยู่แบบนั้นและดีที่พี่พายุเรียกความสนใจคุณแม
ทีแรกลินดาก็ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมแต่พอได้เห็นแววตาของพายุเข้า หญิงสาวก็เริ่มตอบตกลงที่จะกลับไปก่อนในทันที“มีเรื่องอะไรเหรอลูก” พายุพาคุณแม่ของเขาขึ้นลิฟท์เดินขึ้นมายังห้องทำงานของเขา แม่เอ่ยถามลูกทันทีเมื่อเดินเข้ามาภายในห้องทำงาน“คุณแม่คงสงสัยใช่มั้ยครับว่าทำไมถึงได้เจอชะเอมที่บริษัทของเรา” ทั้งคู่เดินไปนั่งยังเก้าอี้รับแขกมุมห้อง พายุเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน เขาต้องการที่จะบอกเรื่องของเขากับชะเอมให้คุณแม่ได้รับรู้ เขาจะไม่ยอมเสียเธอไปโดยเด็ดขาด“ใช่ แม่สงสัยอยู่” แม่มองไปยังลูกชายคนโตเพื่อรอฟังคำตอบจากปากของพายุ“ผมจะบอกกับคุณแม่ครับ ผมกับชะเอม พวกเรารักกัน คบกันมาได้ตั้งแต่ตอนที่น้องยังอยู่ปี2 จน ตอนนี้เธอใกล้จะเรียนจบแล้ว”“จะ จริงเหรอ! ทำไมเราไม่เห็นจะบอกแม่เลย” ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำสารภาพจากปากของลูกชายคนโตเป็นอย่างที่เธอได้คิดเอาไว้นั่นแหละ นี่ลูกชายของเธอคบอยู่กับหนูชะเอมแล้วอย่างนั้นเหรอ เด็กพวกนี้เนี่ยนะแอบซุ่มเงียบไม่ยอมบอกเธอเลยนะ“ผมกลัวว่าคุณแม่จะเข้ามาวุ่นวายกับพวกเรายังไงละครับ แล้วอีกอย่างน้องก็ขอผมเอาไว้ว่าเรียนจบค่อยบอกทั้งสองฝ่าย เธออยากที่จะลองใช้ชีวิตศึกษาด
ทางด้านชะเอมฉันเลือกที่จะเข้าไปนอนที่บ้านของฉันแทนยังไงซะบ้านของฉันก็น่าจะเป็นสถานที่เดียวที่น่าจะปลอดภัยและช่วยฮีลใจได้ดีที่สุด“อ้าว! เป็นไงมาไงเนี่ยน้องรัก ทำไมถึงเข้ามาบ้านได้แล้วไปฝึกงานมาเหนื่อยมั้ยเรา” พี่เชอรีนถามฉันใหญ่เลยเมื่อเห็นว่าฉันเดินถือกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่เดินดุ่มๆเข้าไปในบ้าน“เบื่อๆน่ะค่ะก็เลยว่าจะเข้ามานอนบ้าน” ฉันแสร้งตอบไปว่าเบื่อก็เลยอยากจะกลับมานอนที่บ้านดูบ้างแต่สงสัยหน้าตาของฉันคงเหมือนกับคนที่ทะเลาะกับแฟนมาแหละมั้งจึงทำให้พี่สาวของฉันเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัยและก็ถูกของพี่เชอรีน“ทะเลาะกับแฟนมาชัวร์ ใช่มั้ยล่ะ” พี่เชอรีนเดินเข้ามาใกล้มือเรียวจับหมับเข้าที่ใบหน้าเรียวของฉันพร้อมกับโยกศีรษะของฉันไปมาเล็กน้อย“ไม่อยากพูดถึงเลยค่ะ พูดแล้วหงุดหงิด!” สุดท้ายฉันจำต้องบอกพี่เชอรีนไปตามตรงแต่จะให้มาเล่าเรื่องของเขาตอนนี้ฉันคงได้หงุดหงิดตายก่อนอย่างแน่นอน“เอาเถอะ! เราขึ้นไปพักบนห้องก่อนไป คุณพ่อกับคุณแม่ไม่อยู่นะออกไปเลือกซื้อของกัน” พี่เชอรีนรู้นิสัยของฉันดี เธอจึงบอกให้ฉันขึ้นไปนอนพักผ่อนให้สบายใจและก่อนที่ฉันจะเดินขึ้นบันได เธอก็บอกกับฉันอีกว่าทั้งคุณพ่อกับคุณแม
พราวได้เดินเข้ามานั่งยังโซฟาตัวโปรดและธาวินก็เดินตามเธอมานั่งลงข้างๆเธอหญิงสาวจึงได้ถามธาวินว่าเขานั้นอยากได้เพศไหนมากกว่ากัน"พี่วินอยากได้ผู้ชายหรือผู้หญิงคะ""อืม คนแรกพี่อยากได้ผู้ชาย จะได้ดูแลน้องได้"ธาวินเขาลูบไปที่หน้าท้องของพราวและพูดว่าเขานั้นอยากได้เด็กผู้ชายเพื่อที่จะได้ปกป้องน้องสาวได้"พี่หมายถึง..พี่อยากมีอีกคนอย่างงั้นเหรอคะ""ได้ไหมล่ะพราว มากกว่า2ก็ได้นะ"ธาวินมองหน้าเธอและพูดขึ้นเจ้าน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ"2คนก็พอแล้วค่ะ กำลังดี"พราวจึงรีบเบรกเขาในทันทีว่าแค่2คนก็พอแล้ว"แล้วเมื่อไหร่จะได้รู้เพศอ่ะ"ชายหนุ่มยังคงตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้พูดถึงเรื่องลูกที่อยู่ในท้องของเธอ"ประมาณ4-5เดือนค่ะ"เขาลูบไปที่ท้องของพราวอีกครั้งพร้อมกับก้มใบหน้ากระซิบพูดคุยกับลูกในท้อง"โอเคลูกพ่อ อย่าแกล้งแม่เขานะ เป็นเด็กดีนะครับ"และพอเขาพูดเสร็จธาวินก็รู้สึกเวียนหัวจะอ้วกขึ้นมาทันทีอุ๊บ!"พี่วินเป็นอะไรไปคะ"เมื่อเห็นว่าธาวินมีอาการคล้ายๆตนจึงได้พูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง"พี่รู้สึกจะอ้วก พี่ขอไป..." ธาวินพูดกับพราวและรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันทีพราวก็รีบโทรไปปรึกษาแม่ของเธอทันทีว่าอาการแบบนี
เขาพูดเสร็จธาวินก็แทรกกลางหว่างขาเธอและกดจ่อท่อนเอ็นเข้ามาภายในตัวเธอทีเดียวจนสุดโคนสวบ!ธาวินเริ่มกดกระแทกเข้าออกร่องของเธอและก้มตัวลงไปประกบริมฝีปากจูบเธอ เขาควานลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากนิ่มของเธอและพราวก็เริ่มจูบตอบเขากลับทันทีเมื่อจูบจนพอใจชายหนุ่มก็ยันกายลุกนั่งจับสะโพกของพราวไว้แน่นและเริ่มกระแทกท่อนเอ็นเข้าออกร่องรักของเธอ"อ่าาส์ เสียว" ธาวินครางเสียงแหบพร่าออกมาด้วยความเสียวไม่ว่าจะกี่ครั้งร่องของเธอก็ยังคงแน่นและตอดรัดเขาเป็นอย่างดีปึก! ปึก! ปึก!10นาทีผ่านไปธาวินจับพราวเปลี่ยนท่าไปมาจนเธอนั้นเริ่มที่จะไม่มีแรงเหลือแล้วไหนจะโดนกระแทกทั้งข้างล่างและข้างบนก็โดนทั้งลิ้นและมือที่บีบเคล้นของธาวินอีก"หนูไม่ไหวแล้ว..อ๊ะ" ชายหนุ่มรู้ว่าเธอนั้นใกล้จะเสร็จแล้วจึงได้จับขาเธอให้กว้างขึ้นและเริ่มตอกอัดกระแทกท่อนเอ็นร้อนใส่เข้าออกแบบเน้นๆจนสุดท้ายหญิงสาวที่โดนกระแทกแบบนั้นก็ได้ถึงจุดสุดยอดเธอครางออกมา"อ่าาส์ อ๊ะ อร้ายย"เธอได้ไปถึงสวรรค์อีกครั้งด้วยฝีมือของแฟนหนุ่มที่ตอนนี้ต้องเรียกว่าสามีแล้วสินะและธาวินก็เสร็จตามเธอไปแบบติดๆเขาได้ปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นไว้ในร่องของเธอ"พี่จะเสร็จ ม
งานแต่งงานธาวินและพราวงานได้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ครอบครัวของเขาได้เชิญเพื่อนนักธุรกิจของพ่อและคนที่รู้จักมาในงาน อีกทั้งยังมีญาติของทั้งสองฝ่ายอีกไหนจะบรรดาเพื่อนๆของทั้งธาวินและพราวด้วยโดยที่ธีมของงานยังคงคอนเซ็ปต์เดิมนั่นคือธีมสีขาว-ม่วงพาสเทลพิธีกรของงานเริ่มพูดขึ้นเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม“ขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นมาบนเวทีด้วยนะครับ”เจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ได้พากันขึ้นมาบนเวทีในวันนี้ธาวินสวมชุดสูทสีดำส่วนพราวนั้นใส่ชุดเจ้าสาวเป็นชุดเกาะอกสีขาวละมุน"ขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวพูดอะไรหน่อยครับ"ธาวินจึงได้เริ่มเป็นคนพูดก่อน“ขอบคุณแขกทุกท่านที่มางานแต่งของผมกับพราวนะครับ ผมดีใจมากที่มีวันนี้ ผมขอสัญญาว่าผมจะรักและดูแลเธอให้ดีที่สุดครับ”จากนั้นเขาก็ยื่นไมค์ให้กับพราวได้พูดต่อจากเขา“ค่ะ พราวขอขอบคุณทุกท่านที่มาเป็นพยานรักในงานแต่งงานของเราอีกครั้งนะคะ วันนี้พราวมีความสุขมากๆเลยค่ะ พราวมีครอบครัวที่ดี มีเพื่อนที่น่ารักและตอนนี้ก็มีสามีที่ดีที่ทั้งรักพราวและรักพ่อกับแม่ของพราวอีกด้วย รับได้กับทุกอย่างที่เป็นพราว พราวขอบคุณพี่วินมากเลยนะคะ ที่พี่เป็นคนดีและขอให้พี่ดีแบบนี้ตลอดไปเลยนะคะ”เมื่
“ฝากไว้กับเธอก่อน ฉันกลัวหายน่ะ ส่วนเข็มกลัดนั่นก็ของเธอไม่ใช่เหรอไง” เขาพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยแต่ฉันก็เห็นแววตาร้ายกาจในตาของเขา เขานี่มัน.. อึก..อลิสถึงกับต้องกลืนน้ำลายแล้วหันไปทางกลุ่มเพื่อนของเธอเองว่ามีสีหน้ายังไงเพราะเธอนั้นได้โกหกเพื่อนสาวเอาไว้เรื่องเข็มกลัด“ไอ้สัสมึงนี่นะเก็บเงียบเลยนะ ที่แท้ก็น้องอลิสนี่เอง” เวหาเพื่อนของเขาก็พูดแซวสายฟ้าขึ้นทันทีแต่สายฟ้าทำแค่เพียงยิ้มกริ่มไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรกลับไปจนอลิสต้องรีบแก้ตัวออกไปเพราะกลัวพวกรุ่นพี่นั้นจะเข้าใจผิด“ไม่ใช่นะคะพี่ พวกพี่อย่าเข้าใจหนูผิดเด็ดขาด”เวหาที่เห็นว่าอลิสเริ่มใบหน้าแดงก้มหน้าก้มตาด้วยความเขินอายจึงได้พูดขึ้นอีกครั้ง“พวกพี่ไม่แซวแล้วก็ได้ครับ ฮ่าฮ่า ไอ้สายฟ้าแฟนมึงเขินหน้าแดงยันหูแล้ว”“ไม่ใช่แฟนนะคะพวกพี่ จิ๊ เพราะพี่คนเดียวเลย คนอื่นเข้าใจผิดกันไปหมดแล้ว พี่ไม่คิดจะแก้ตัวให้อลิสบ้างเลยเหรอคะ”“ฉันไม่ชอบโกหกใครนะ ถ้าฉันพูดเกรงว่าเธอจะไม่พอใจเอาได้นะ” สายฟ้าก็พูดตอบไปยังอลิสด้วยใบหน้านิ่งเรียบ“ถ้างั้นก็ไม่ต้องพูดและเอาดอกไม้ของพี่คืนไปเลย ขอตัวก่อนนะคะ” เธอโกรธเขาและยัดช่อดอกไม้คืนไปให้แก่เขาและรีบเดินออก
ธาวินพูดขึ้นแล้วหันไปมองคู่หมั้นสาวที่ยืนอยู่เคียงข้างกันวันนี้เขามีความสุขมากไม่คิดเลยว่าผู้ชายอย่างเขาจะมีวันนี้เกิดขึ้นได้ วันนี้เขามีผู้หญิงที่เขารักและเธอก็ยืนอยู่เคียงข้างเขา“พี่มีความสุขมากเลยขอบคุณที่เรายอมกลับมาหาพี่อีกครั้งนะ”“หนูก็มีความสุขมากๆเลยค่ะ หนูรักพี่นะคะ ต่อไปนี้พี่วินเป็นของหนูคนเดียวแล้วนะคะ” พราวจึงยิ้มและพูดตอบกลับไปยังคู่หมั้นหนุ่มของตนเช่นกันว่าเธอนั้นรักเขาและต่อไปนี้เขานั้นเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียวธาวินเมื่อได้ฟังคำบอกรักของพราวก็บอกความในใจของตนว่าเขานั้นตกเป็นของเธอมาตั้งนานแล้วและพูดบอกเธอเอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยว่าเขานั้นอยากมีลูกแล้ว “พี่เป็นของเราคนเดียวมานานแล้วครับ ไว้รอเราเรียนจบ พวกเราแต่งงานกันเลยนะ พี่อยากมีลูกแล้ว”“ค่ะ พี่รอไปก่อนนะคะ” พราวหน้าแดงขึ้นเพราะความเขินและตอบกลับธาวินว่าให้รอเธอเรียนจบก่อนและจู่ๆพราวก็เห็นเพื่อนสนิทอย่างอลิสกำลังรีบเดินหนีไปอีกทางจึงได้ชี้ให้ธาวินได้เห็นและพูดขึ้นอย่างคนที่สงสัย“เอ๊ะนั่นอลิสนี่ เดินหนีใครมากันนะ”และเหมือนทั้งคู่จะได้คำตอบแล้วเพราะสายฟ้านั้นก็ได้เดินตามอลิสไปติดๆเช่นกันจนธาวินพูดขึ้นมาว่า“นั่น
พ่อของธาวินยกยิ้มขึ้นทันทีเมื่อได้ฟังคำตอบของลูกชายพร้อมทั้งพูดและหยิบโทรศัพท์ยื่นไปทางปฐวีเพื่อให้เขานั้นได้กดเบอร์มือถือส่วนตัวให้แก่เขา“ดี ถ้างั้นทางฉันจะจัดเตรียมงานหมั้นเอาไว้และจะบอกเอ็งกับเมียอีกทีนะว่าจะได้ฤกษ์วันไหน เอาเบอร์ของเอ็งมาด้วยไอ้วี หวังว่าต่อไปพวกเราคงไม่ขาดการติดต่อกันอีกแล้วนะโว้ย”พ่อของพราวหยิบโทรศัพท์มากดเบอร์และยื่นคืนให้เพื่อนสนิทและพูดขอบคุณที่ยอมรับในตัวลูกสาวของเขา“หึ ขอบใจนะที่เอ็งยอมรับในตัวพราว”“ก็ต้องขอโทษลูกของเอ็งกับเจ้าวินด้วยเหมือนกัน เมื่อก่อนฉันคิดแต่จะให้เจ้าวินจับคู่กับพวกผู้หญิงที่อยู่ในเครือข่ายธุรกิจด้วยกันเพื่อหวังขยายอำนาจและธุรกิจจนลืมนึกถึงใจลูกๆไปเลย เห้ออ”ธาวินจึงได้เอ่ยพูดกับพ่อของเขาอีกครั้งพร้อมกับยื่นมือไปบีบฝ่ามือของพ่อเบาๆ“ทุกอย่างมันได้ผ่านไปแล้วครับพ่อ พวกเรายังเริ่มใหม่ได้เสมอนะครับ”“อืม เอาสิ พ่อขอเริ่มใหม่กับลูกทั้งสองด้วยนะ แล้วนี่เอ็งจะกลับต่างจังหวัดเลยงั้นหรือ” พ่อของธาวินใช้อีกมือทาบทับไปบนมือของลูกชายและยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ลูกยอมยกโทษให้กับตนและถามไปยังเพื่อนสนิทอีกครั้ง“อือ ช่วงนี้ธุรกิจกำลังไปได้ดีมีลูกค้าเพ
“ฉันมีนัดคุยงานกับลูกค้าน่ะ งั้นเดี๋ยวฉันขอไปทำงานก่อนแล้วกันนะ เอ็งอย่าพึ่งหนีไปไหนล่ะ”“เออๆ ข้ามากินข้าวกับลูกสาว ลูกเขย และเพื่อนๆของลูกสาวข้าน่ะ พราวนี่เพื่อนของพ่อเองพวกเราไม่ได้ติดต่อกันนานมาก เอ็งไปทำธุระก่อนได้เลย เดี๋ยวข้าจะรอที่นี่” พ่อแนะนำธนภพให้กับลูกสาวได้รู้จักและบอกให้เพื่อนไปทำธุระให้เสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยมานั่งคุยกัน“เด็กคนนี้คือลูกสาวเอ็งหรอกเหรอ?” พอได้ฟังปฐวีแนะนำว่าพราวนั้นเป็นลูกของเขา ธนภพก็อึ้งไปเล็กน้อยและพูดถามไปยังปฐวีเพื่อยืนยันอีกครั้ง“เออก็ใช่อ่ะดิ ทำไมหรือ” ปฐวีได้ทำการยืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขาเห็นเพื่อนเก่ามองพราวกับตนเองสลับกันไปมาเลยถามไปยังธนภพอีกครั้งว่าทำไมหรือ“นี่ธาวินลูกชายของฉันเอง” ธนภพจึงได้แนะนำลูกชายของตนแก่เพื่อนเก่าบ้างปฐวีที่ได้ฟังธนภพแนะนำลูกชายของตนก็ตกใจไม่คิดว่าธาวินจะเป็นลูกของธนภพลูกชายของเพื่อนสนิทตนเองได้แต่ก็แนะนำให้เพื่อนนั้นไปคุยธุระเรื่องงานให้เสร็จสรรพก่อน“หาเด็กสองคนนี้ งั้นก็..เออๆไว้ค่อยคุย เอ็งไปทำธุระให้เสร็จก่อนเถอะ”ธนภพจึงพยักหน้าตอบรับและหันไปพูดคุยกับทางลูกค้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและชวนลูกค้าไปนั่งยังโต๊ะที่
ครืด~เสียงโทรศัพท์ของพราวดังขึ้นเธอจึงรีบกดรับสายทันที“ค่าแม่ โทรมาคิดถึงหนูเหรอคะ”(ยัยตัวแสบของแม่ แม่คิดถึงเราอยู่แล้วแหละ แม่โทรมาบอกว่าแม่ได้ออเดอร์ใหญ่จากทางกรุงเทพ ตอนนี้พ่อกับแม่กำลังเข้าไปส่งดอกไม้ที่กรุงเทพและคงจะแวะไปหาหนูด้วย พ่อกับแม่น่าจะถึงช่วงเย็นๆ)“จริงเหรอคะ ดีมากๆเลยค่ะ หนูจะรอพ่อกับแม่นะคะ วันนี้หนูมีเรียนแค่ช่วงบ่ายวิชาเดียว เดี๋ยวหนูส่งโลเคชั่นคอนโดของพี่วินไปให้พ่อนะคะ”(โอเคจ้ะ ไว้เจอกันนะลูกสาวแม่ ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ)เมื่อพราวกดวางสายแล้วอลิสจึงได้ถามขึ้นทันทีให้แน่ใจว่าเธอได้ยินไม่ผิดว่าพ่อกับแม่ของพราวจะลงมาหา“พ่อกับแม่พราวจะมาหาเหรอ?”พราวจึงได้ยิ้มพร้อมกับถามไปยังกลุ่มเพื่อนของเธออีกครั้งว่าพวกเธอนั้นอยากจะเจอกับพ่อแม่ของตนไหม“ช่าย อยากเจอพ่อกับแม่ของฉันกันไหม”“อยากเจอสิ พาพวกท่านไปกินอาหารที่ร้านกันนะ” มายูจึงรีบตอบพราวเพราะเธอนั้นคิดถึงและอยากเจอกับพ่อแม่ของพราว“ฉันก็ว่าดีเหมือนกันนะ เดี๋ยวบอกพี่วินไว้ก่อนดีกว่า” ว่าแล้วเธอก็กดพิมพ์ข้อความแล้วกดส่งไปบอกชายหนุ่มว่าพ่อกับแม่ของเธอลงมาส่งดอกไม้ที่กรุงเทพและจะแวะเข้ามาหาพวกเราน่าจะถึงในช่วงเย็น“ได้เวล
“แล้วไอริสว่าไงลูก” พ่อของเธอหันมาถามไปยังไอริสว่าจะเอายังไงกับผู้ชายคนนี้เธอหันไปมองใบหน้าหล่อเหล่าของชายหนุ่มคู่นอนที่เธอนั้นไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของเขาด้วยซ้ำคิดชั่งใจว่าจะเอายังไงดีจะชอบเขาดีไหม หน้าตาก็ดี รวยก็คือของแถม แต่ลีลาเซ็กส์ของเขานี่ซิที่ทำให้เธอชอบ“ไอริสก็ชอบคุณค่ะงั้นพวกเราลองมาคบกันดู คุณว่าดีไหมคะ?”“ตกลงครับ” ทั้งคู่ต่างตกลงที่จะลองคบหากันดูเพราะต่างก็ชื่นชอบในเซ็กส์ของกันและกันช่วงเวลาสายๆของวันถัดมาธาวินลืมตาตื่นขึ้นมามองไปรอบข้างก็ไม่เห็นแฟนสาวของเขาแล้ว ชายหนุ่มจึงได้ยันกายลุกขึ้นนั่งบิดกายไปมาเพื่อสลัดความง่วงทิ้งแล้วจึงเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อออกมาดูว่าแฟนของเขานั้นหายไปไหนซึ่งก็ได้คำตอบแล้วก็คือ เธอนั้นกำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัวธาวินจึงเดินย่องเข้าไปทางด้านหลังของเธอ หญิงสาวที่กำลังร้องฮัมเพลงไปตามเสียงเพลงที่เธอเปิดไว้ก็ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนด้านหลังเขาเดินเข้าไปโอบกอดเธอจากทางด้านหลังจึงทำให้หญิงสาวเกิดอาการสะดุ้งโหยงเล็กน้อยและพูดใส่หูของแฟนสาว“เช้านี้เมียพี่ทำอะไรให้พี่กินครับ”“หนูตกใจหมดเลย พี่ทำไมเดินเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลยล่ะคะ”“เรานั