มุมหนึ่งของรีสอร์ตเอกวัสกำลังรายงานสถานการณ์ของเช้านี้ให้เจ้านายฟังเหมือนทุกวัน แต่สายตาของวิเนตย์กลับไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เขากำลังบอกเล่าแต่อย่างใด หนุ่มใหญ่ลองเบนสายตาตามก็พบว่าเจ้านายกำลังมองไปยังร่างสมส่วนที่กำลังเดินไปอีกทาง
“คุณวิเนตย์...คุณวิเนตย์ครับ”
“ว่าไงคุณวัสถึงไหนแล้วครับ” คนรู้ตัวว่ากำลังเหม่อลอยไปอีกทางรีบหันกลับมาแล้วทำหน้าปกติตามเดิม เอกวัสถึงกับอมยิ้มทันทีเพราะนานทีปีหนไม่เคยเห็นวิเนตย์เป็นอย่างนี้มาก่อน
“ผมพูดจบแล้วนะครับ”
“อะไรกันผมยังฟังไม่หมดเลย คุณพูดใหม่เลยแล้วกัน”
‘อ้าว ก็มัวแต่มองเมียอยู่นั่นแหละ’ เอกวัสค้อนเจ้านายเล็กๆ ก่อนจะเริ่มต้นรายงานสถานการณ์ประจำวันใหม่อีกรอบ วิเนตย์ชอบที่จะฟังจากปากของตนมากกว่าการอ่านจากเอกสารเป็นแผ่นๆ
“มีเท่านี้ครับวันนี้ลูกค้าน้อย”
“งั้นคุณวัสก็ไปทำงานของคุณต่อเถอะครับ ผมไม่มีอะไรแล้ว”
“ได้ครับ ว่าแต่คุณวิเนตย์จะไปฮันนีมูนวันไหนเหรอครับ ผมจะได้ดูวันพักร้อนของตัวเองไว้ก่อนเผื่อจะแพลนตรงกัน”
“ฮันนีมูน?” วิเนตย์หันมามองหน้าผู้จัดการของตนเองแบบคนเพิ่งนึกออกว่าต้องมีวันนี้ด้วย
“ครับแต่งงานก็ต้องไปฮันนีมูนสิครับ ไม่แปลกหรอก ต่อให้แต่งเพื่ออะไรก็ตามแต่ ยังไงเสียคุณวิเนตย์ก็สมควรจะพาคุณวาทเธอไปฮันนีมูนนะครับ” เอกวัสยิ้มทิ้งท้ายให้เจ้านายได้คิด ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
เจ้าของวิเนตย์ธารารีสอร์ตถึงกับคิดหนักกับเรื่องนี้ จะเป็นไรไหมหากเขาไม่จำเป็นต้องมีวันฮันนีมูนเหมือนคู่อื่นเขา ชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ไม่มีวันไหนที่จะไม่เข้าไปในห้องพิเศษห้องนี้ อยู่ชั้นสองห้องริมขวาสุดเป็นห้องที่เก็บความทรงจำแสนมากมายไว้ในนั้น แล้วลูกกุญแจสุดรักก็ถูกนำออกมาไขประตูเข้าห้อง
ความรักของเขาอยู่ที่นี่กับภรรยาและลูกตัวน้อยผู้ล่วงลับไป ห้าปีแล้วเขาก็ยังไม่เคยลืมรอยยิ้มแสนหวานของเพียงฝันกับลูกสาวตัวน้อยวัยห้าขวบเพียงฤทัย ผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเขาทั้งสองคน มือใหญ่ยื่นออกไปลูบภาพถ่ายครอบครัวที่มีเขายืนอุ้มลูกสาวตัวน้อยเคียงข้างด้วยภรรยาคนสวย เป็นภาพสุดท้ายที่พวกเขาได้ถ่ายรูปครอบครัวร่วมกัน เตียงนอนของลูกสาวก็ยังตั้งอยู่ที่เดิม ใช่นี่คือห้องเพียงฤทัย และเมื่อทั้งคู่ได้จากไปเขาก็ขนทุกอย่างที่เกี่ยวกับสองแม่ลูกมารวมไว้ในห้องนี้
วิเนตย์ไม่อาจอยู่ในห้องที่มีแต่ความทรงจำของทั้งคู่ได้ เขาย้ายห้องนอนใหม่ทันทีที่ทำการฌาปนกิจศพเสร็จสิ้นลง ตลอดหนึ่งปีแรกชายหนุ่มต้องอาศัยยานอนหลับแทบทุกคืน กระทั่งร่างกายเริ่มเจ็บป่วยลง การเตือนสติจากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเอกวัสหรือมารดา ที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยือนและให้กำลังใจ จนเขาคิดสู้ขึ้นใหม่อีกครั้ง
แต่เคราะห์ร้ายสำหรับวิเนตย์เมื่อเขาต้องสูญเสียมารดาจากโรคชราหลังจากนั้นเพียงสามปี ส่วนผู้เป็นบิดาก็ได้ลาโลกนี้ไปด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ตั้งแต่ที่ชายหนุ่มยังเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ หลังจากได้รับมรดกเป็นที่ดินบ้านเกิดของบิดา ชายหนุ่มก็กลับมาจัดการกับที่ดินรกร้างแห่งนี้ ธรรมชาติที่งดงามทำให้เขาเกิดความหลงใหลและตัดสินใจสร้างบ้านหลังใหญ่อยู่ที่นี่ จากนั้นก็ร่างโครงการทำวิเนตย์ธารารีสอร์ตขึ้น มารดาของเขาไม่ยอมตามมาอยู่ที่นี่ด้วย บอกว่าต้องการใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านในกรุงเทพฯ เพราะที่นั่นมีแต่ความทรงจำอันดีงามของบิดานั่นเอง
วิเนตย์เป็นหนุ่มสุขภาพแข็งแรงด้วยการออกกำลังกายในฟิตเนส ส่วนตัวในบ้านเป็นประจำ แม้ว่าจะล่วงเข้าสี่สิบปีไปแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ยังดูอ่อนเยาว์ราวชายหนุ่มสามสิบกว่าๆ เขาไม่ได้มีหน้าตาหล่อเหลาเหมือนดารานายแบบ แต่ก็ได้ชื่อว่าหล่อพอสมควรเหมือนกัน คิ้วดกหนาเข้มพอดีรับกับดวงหน้าคมได้รูป และด้วยความสูง 183 เซนติเมตร กับลอนกล้ามเนื้อจากการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้เขาเหมือนหนุ่มคาวบอยทางฝั่งตะวันตก มีเสน่ห์น่าค้นหาอยู่ไม่น้อยสำหรับสาวเล็กสาวน้อยแถวนี้ เพียงแต่หญิงสาวทุกคนที่รีสอร์ตก็รู้ซึ้งถึงความรักของเจ้านายที่มีต่อภรรยาและลูกสาว ว่ายากที่จะมีใครเข้ามาแทนที่ได้
ดังนั้นเมื่อมีงานแต่งงานเกิดขึ้น จึงกลายเป็นเรื่องราวน่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก คนงานต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา และย่อมเป็นเสียงอยากรู้อยากเห็นลับหลังผู้เป็นนาย ทว่าไม่มีใครกล้าเอ่ยต่อหน้าตรงๆ แม้แต่คนเดียว เพราะนั่นจะหมายความถึงว่าชะตาของพวกเขาจะขาดลง และอาจจะกระเด็นออกจากงานที่มีผลตอบแทนดีที่สุดในละแวกนี้ก็ว่าได้
“คุณจะโกรธผมไหมฝันถ้าผมไปฮันนีมูนกับคนอื่น” ชายหนุ่มถามภรรยาที่อยู่ในรูปถ่าย แม้จะรู้ว่าเพียงฝันคงไปเกิดใหม่ในภพชาติที่ดีกว่านี้แล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังคงหลอกตัวเองมาตลอดว่าภรรยาสุดที่รักยังคงอยู่กับตัวเองตลอดเวลา
“ถ้าผมไม่ไปทุกคนก็จะต่อว่าผมได้ คุณอย่าโกรธผมเลยนะ ไม่มีใครแทนที่คุณได้หรอกฝัน ผมรักคุณและลูกคนเดียวจริงๆ” นิ้วแกร่งลูบเศษฝุ่นที่มีเพียงน้อยนิดออกจากแก้มของเพียงฝัน แม้จะให้น้ำเพลินเข้ามาทำความสะอาดที่นี่ทุกวัน แต่ก็ไม่วายยังมีฝุ่นละอองหลงเหลืออยู่ เขาปิดประตูแล้วล็อกห้องเอาไว้ตามเดิม เดินลงมาชั้นล่างแล้วเรียกหาแม่บ้านน้ำเพลินในทันที
“เพลินอยู่ไหม เพลิน!” เสียงเรียกดังไปทั่วจนคนที่เพิ่งเดินขึ้นมาบนบ้านต้องสนใจมองตาม
“เพลิน!”
“ขาคุณวิเนตย์ เพลินมาแล้วค่า” แม่บ้านสาวน้อยของวิเนตย์แทบจะวิ่งมาจากหลังบ้านเป็นการด่วน
“เธอทำความสะอาดห้องนอนน้องเพียงแล้วหรือยัง”
“เอ่อ เพลินทำแล้วค่ะคุณวิเนตย์” น้ำเพลินคอตกเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนดุเรื่องนี้
“แล้วนี่อะไร ฝุ่นเต็มกรอบรูปเลย ขึ้นไปทำใหม่เดี๋ยวนี้เลยนะ” วิเนตย์ชูนิ้วชี้ที่เปื้อนคราบฝุ่นให้น้ำเพลินดูผลงานของตนเอง
“ค่าคุณวิเนตย์” แม่บ้านสาวน้อยไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายด้วยซ้ำ
วธุกาเห็นและได้ยินทุกคำพูดที่ทั้งคู่สนทนากัน จับใจความได้ชัดเจนพอสมควร น้องเพียง? หญิงสาวไม่อยากจะคิดต่อว่าน้องเพียงของเขาคือใคร ลูกสาวอย่างนั้นหรือ เฮ้อ!
“คุณวาทมาตั้งแต่เมื่อไหร่” วิเนตย์หันไปถามภรรยาที่เพิ่งเดินเข้ามาภายในห้องรับแขกของบ้าน
“เพิ่งมาค่ะ กำลังจะขึ้นไปนอนบนห้องพอดีเลย”
“นอนตอนสิบโมงนี่นะ” คนพูดชี้นาฬิกาตรงข้อมือไปด้วย
“ก็ใช่สิคะฉันไม่มีอะไรทำ เลยต้องนั่งๆ นอนๆ กินไปวันๆ เอาไว้สมัครงานได้เมื่อไหร่ค่อยไปทำก็แล้วกัน ความจริงก็สบายดีนะคะ ขอตัวก่อนค่ะ” ว่าจะไม่ประชดประชันเขา แต่หญิงสาวก็อดไม่ได้
“ให้มันได้อย่างนี้สิ เฮ้อ!” วิเนตย์ถอนหายใจใส่เสียงดัง จะโทษใครได้ก็เขาเองไม่ใช่เหรอที่ต้องการให้วธุกาทำแบบนี้ แต่ทำไมมันหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ลึกๆ ในใจเหมือนอะไรๆ บางอย่างมันไม่ถูกต้อง
ตอนที่ : 61 แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ (จบ)23แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ แวมสกาวสาวน้อยในวัยสี่ขวบกลายเป็นขวัญใจของทุกคน เด็กน้อยโตขึ้นมากับการเลี้ยงดูที่ดีจนเกินเหตุ หรือว่าเป็นที่ตัวเด็กเองที่ชอบการรับประทานอาหารเป็นที่สุดก็ไม่รู้ จึงทำให้กลายเป็นเด็กตัวอ้วนปุ๊กลุกเกินกว่าปกติ วธุกาเองก็ตัดสินใจเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองว่าวาทตามความต้องการของสามี ในขณะเดียวกันก็เรียกเขาสั้นๆ ว่าคุณเนตย์เหมือนกัน วันนี้วธุกาได้พาลูกสาวไปเยี่ยมเยียนนนท์นทีตั้งแต่ช่วงสายแล้ว เที่ยงนี้วิเนตย์จึงต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง หลังรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จเขาก็เดินเข้าไปในห้องรับแขก เพื่อที่จะเอนหลังตรงโซฟา แต่แล้วสายตาของชายหนุ่มก็มองไปเห็นสมุดเล่มหนึ่งวางเอาไว้บนโต๊ะในห้องร
ตอนที่ : 60 ปล่อยวาง 3 วธุกาเปลี่ยนชุดเป็นบิกินีสีแดงเพลิง เป็นชุดเดียวกับที่เคยใส่ตอนฮันนีมูนครั้งแรก ส่วนสามีของเธอก็เดินไปปิดม่านตรงหน้าบ้านพักไม่ให้คนข้างนอกมองผ่านเข้ามาได้ ปิดไฟตรงหน้าบ้านให้เหลือเพียงโคมสลัวๆ แสงนวลตา ในบ้านหากลูกร้องก็สามารถได้ยินเสียงได้เช่นเดียวกัน เมื่อพร้อมเสร็จสรรพทุกสิ่งอย่าง ภรรยาคนงามก็เดินลงไปแช่ตัวอยู่ในสระว่ายน้ำขนาดเล็ก มีน้ำผลไม้วางไว้บนขอบสระพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มของสามี มองเห็นเขาเดินเข้าไปเปลี่ยนเป็นกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วแล้วหัวใจของภรรยาอย่างเธอก็เต้นแรง “กินเบียร์ก่อนไหมคุณวิเนตย์ มีของว่างด้วยนะคะ” พยายามเบี่ยงความสนใจไปที่เครื่องดื่มและของว่าง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเอาเสียเลย เพราะเขาเดินลงสระว่ายน้ำและตรงดิ่งมาหาเธอในทันที
ตอนที่ : 59 ปล่อยวาง 2 “อยากไหม จูบน่ะ” เจอคำถามจี้ใจดำกับสายตาประกายหยาดเยิ้ม วธุกาเลยต้องก้มหน้าลงต่ำจนปากนุ่มแตะกับริมฝีปากหนาของสามี เพียงเท่านั้นท้ายทอยของเธอก็ถูกเขารั้งเอาไว้แน่น แล้วแทรกชิวหาอุ่นซ่านเข้าหาอย่างรวดเร็ว จูบของเขาช่างหอมหวานละมุนละไม อ่อนนุ่มนาบเนิบตามความปรารถนา เนิ่นนานพอสมควรก่อนที่ทั้งคู่จะผละออกจากกัน ริมฝีปากของวธุกามันวับจนเขาต้องยกมือขึ้นเช็ดป้ายให้“หวานมากคุณวาท”“ปากคนนะคะไม่ใช่น้ำตาล” “เอางี้ดีไหมคุณวาท ครั้งนี้ถือว่าเรามาฮันนีมูนกันรอบสองดีไหม บรรยากาศให้ด้วยดูสิท้องฟ้าสีสวย ทะเลก็แสนงาม มีหาดทรายสีขาวนวลพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว ให้นึกถึงวันที่เราฮันนีมูนกันคุณว่าไหม” “จะดีเหรอคะ” 
ตอนที่ : 58 ปล่อยวาง22ปล่อยวาง สองเดือนหลังจากนั้นวธุกาก็ได้รับข่าวร้าย บิดาของเธอได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งไม่ได้มีการแจ้งอาการป่วยของท่านมาก่อนหน้านี้ แต่มีโทรศัพท์มาที่บ้านยายนวลน้อยในวันที่ท่านเสียไปแล้ว นางอารตีบ่นแล้วบ่นอีกเพราะบิดาของวธุกาไม่เคยติดต่อมาถามไถ่ข่าวคราวลูกสาวเลย แต่พอเสียชีวิตลงฝ่ายภรรยาใหม่ก็โทรศัพท์มาบอกเสียอย่างนั้น “ไม่ตายก็ไม่โทรมานะคะคุณแม่ นึกว่าลืมเบอร์โทรไปแล้วที่ไหนได้... แสดงว่าตั้งใจทอดทิ้งยัยวาทชัดๆ” “เขาเป็นพ่อลูกกัน แกก็จะอะไรนักหนายัยตี”&
ตอนที่ : 57 ผลผลิตจากการขโมย 2 “มิน่าล่ะ ผมก็สงสัยทำไมคืนนั้นเมียผมถึงได้เร่าร้อนนักนะ รุกผมทั้งคืนเลย ที่ไหนได้ก็มีแผนอันพิลึกพิลั่นแบบนี้นี่เอง” เขาโคลงตัวไปมาเบาๆ พร้อมกับขำในเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต “ก็ต้องโทษคุณนั่นแหละที่ไม่ยอมมีลูกกับฉันเอง ก็เลยต้องใช้เล่ห์กลอุบายกันบ้าง มีเท่าไหร่ก็งัดใส่ทั้งหมด ดูซิ เคยอ่อยใครที่ไหนล่ะ แล้วยังจะทำเรื่องแบบนั้นอีก ไม่ด้านพอทำไม่ได้นะนั่น” หญิงสาวประชดประชันตัวเองไปพร้อม ดันตัวออกห่างเพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะได้มองสบสายตากับเขาได้ถนัด “ผมขอเดานะว่าความคิดนี้คุณนนท์นทีต้องมีส่วนร่วมด้วยใช่ไหม ลำพังคุณคงไม่คิดได้ประหลาดขนาดนี้” “ก็พูดไปนั่น ความจริงฉันตั้งใจจะไปขออสุจิที่โรงพยาบาล แต่นนท์เขาแนะ
ตอนที่ : 56 ผลผลิตจากการขโมย21ผลผลิตจากการขโมย เสียงร้องไห้กระซิกๆ ของคนที่อยู่หลังโต๊ะตรงจุดบริการ ทำให้วธุกาต้องชะโงกหน้าเข้าไปมองด้วยความสงสัย พบประชาสัมพันธ์สาวสวยของวิเนตย์ธารารีสอร์ตกำกระดาษทิชชูเพื่อซับคราบน้ำตาอยู่ ท่าทางเหมือนคนกำลังเสียอกเสียใจอย่างรุนแรง “ดาเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” วธุการีบเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่รู้จักศิรดามาหญิงสาวก็ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ “ฮะ...ฮึก ฮือ คุณวาท ฮือๆ” คนร้องเงยหน้าขึ้นมามองแล้วสะอื้นฮักๆ อย่างน่าสงสาร ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่อีกคน “แล้วกัน ยิ่งร้องใหญ่เ