การที่แม็กซ์เข้ามาสืบคดีลักเล็กขโมยน้อยในตลาด ทำให้เขามีโอกาสได้ใกล้ชิดและพูดคุยกับมินตรามากขึ้น แม้ว่าในช่วงแรกทั้งคู่จะยังคงมีปากเสียงกันบ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็เริ่มทำความเข้าใจในมุมมองของอีกฝ่ายมากขึ้น
แม็กซ์ได้เห็นความขยันขันแข็งและความมีน้ำใจของมินตราที่มีต่อลูกค้าและเพื่อนพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ส่วนมินตราก็ได้เห็นความตั้งใจในการทำงานและความใส่ใจที่แม็กซ์มีต่อความปลอดภัยของชุมชน วันหนึ่ง ขณะที่แม็กซ์กำลังสอบถามข้อมูลจากมินตราเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยที่อาจจะเข้ามาในตลาด มินตราสังเกตเห็นรอยแผลเป็นเล็กๆ ที่ข้อมือของแม็กซ์ เธอเผลอเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “คุณตำรวจคะ นั่นรอยแผลเป็นอะไรเหรอคะ?” แม็กซ์ชะงักไปเล็กน้อย มองไปยังรอยแผลเป็นที่ข้อมือด้วยความทรงจำที่เลือนราง “อ๋อ… มันเป็นอุบัติเหตุนานมาแล้วครับ ไม่เป็นอะไรมาก” “ดูเหมือนจะเจ็บมากเลยนะคะ” มินตรากล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด “ก็ผ่านมานานแล้วครับ” แม็กซ์ตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ “ขอบคุณที่เป็นห่วงนะครับ” ความห่วงใยเล็กๆ น้อยๆ ที่มินตราแสดงออกมา ทำให้แม็กซ์รู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาด เขาสังเกตเห็นความอ่อนโยนที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีแข็งกระด้างของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ ขามที่ยังคงตามจีบมินตราอย่างสม่ำเสมอ สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ของทั้งสองคน เขารู้สึกกระวนกระวายใจและพยายามที่จะเข้ามาแทรกกลางอยู่เสมอ “มิน เย็นนี้ไปกินข้าวด้วยกันไหม? ฉันเพิ่งเก็บผลไม้ที่สวนมาเยอะเลย อยากจะเอาไปฝากที่บ้านแกด้วย” ขามเอ่ยชวนด้วยความหวัง “ขอบใจนะไอ้ขาม แต่เย็นนี้ฉันว่าจะอยู่ช่วยแม่เก็บร้านน่ะ” มินตราตอบปฏิเสธอย่างสุภาพ ทำให้ขามรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ในขณะเดียวกัน มุขก็ยังคงพยายามที่จะสร้างความสัมพันธ์กับแม็กซ์อย่างต่อเนื่อง เธอหาโอกาสมาพบเขาที่สถานีตำรวจ หรือชวนไปทำกิจกรรมต่างๆ ที่เธอรู้ว่าเขาชอบ “แม็กซ์คะ เสาร์อาทิตย์นี้ว่างไหมคะ? ที่บ้านมุขมีงานเลี้ยงรุ่นพอดี ไปสนุกด้วยกันไหมคะ?” มุขเอ่ยชวนด้วยรอยยิ้มหวาน “เอ่อ… เสาร์อาทิตย์นี้ผมอาจจะมีงานพิเศษน่ะครับ ไว้โอกาสหน้านะครับ” แม็กซ์ตอบปฏิเสธอีกครั้ง ทำให้มุขเริ่มรู้สึกหงุดหงิดกับท่าทีที่ดูห่างเหินของเขา วันหนึ่ง ขณะที่แม็กซ์กำลังเดินตรวจตราความเรียบร้อยในตลาด เขาก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อที่คุ้นเคย “แม็กซ์!” เขาหันไปตามเสียงเรียก ก็พบกับหญิงสาวสวยสง่าในชุดทนายความ เธอเดินเข้ามาหาเขาด้วยรอยยิ้มที่สดใส “จำฉันได้ไหม แม็กซ์? นานมากแล้วนะที่เราไม่ได้เจอกัน” หญิงสาวเอ่ยทักทาย แม็กซ์มองหน้าเธอด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่ความทรงจำในอดีตจะไหลกลับมา “คุณ… ฟ้า! ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นคุณ” ฟ้าเป็นเพื่อนสนิทของแม็กซ์ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม พวกเขาเคยสนิทสนมกันมาก แต่หลังจากที่ฟ้าไปเรียนต่อกฎหมายที่กรุงเทพฯ ทั้งสองก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย การปรากฏตัวของฟ้าในอำเภอเล็กๆ แห่งนี้ ทำให้แม็กซ์รู้สึกประหลาดใจและสงสัย มินตราที่เห็นแม็กซ์คุยกับหญิงสาวสวยอย่างสนิทสนมก็รู้สึกถึงความรู้สึกบางอย่างในใจ ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยและคล้ายกับความไม่สบายใจเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ เงาอดีตที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างไม่คาดฝัน ดูเหมือนจะเข้ามาท้าทายความสัมพันธ์ที่กำลังก่อตัวขึ้นระหว่างแม็กซ์และมินตราเสียแล้ว...หลายเดือนผ่านไป ชีวิตคู่ของแม็กซ์และมินตราดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีความสุข พวกเขาปรับตัวเข้าหากันและเติมเต็มซึ่งกันและกันในทุกๆ ด้าน บ้านของแม็กซ์อบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะและความรักของทั้งสองคนมินตรายังคงเป็นแม่ค้าส้มตำรสเด็ดขวัญใจชาวตลาด แต่ก็มีแม็กซ์คอยเป็นกำลังใจและช่วยเหลืออยู่เสมอ ในขณะที่แม็กซ์ก็ยังคงทุ่มเทให้กับการเป็นตำรวจที่ดี ดูแลความสงบสุขของอำเภอเล็กๆ แห่งนี้ โดยมีมินตราเป็นคู่คิดและที่ปรึกษาคนสำคัญความผูกพันของทั้งสองแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นทุกวัน พวกเขาเรียนรู้ที่จะให้อภัยและเข้าใจในข้อบกพร่องของกันและกัน ความรักของพวกเขาไม่ใช่แค่ความรู้สึกหวานชื่นในตอนแรก แต่เป็นความรักที่เติบโตและหยั่งรากลึกตามกาลเวลาวันหนึ่ง แม็กซ์และมินตราพากันไปเยี่ยมเข้มและพราวที่บ้าน ทั้งสี่คนนั่งคุยกันอย่างอบอุ่นถึงเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต“เมื่อไหร่จะมีหลานให้พวกเราอุ้มเสียทีล่ะน้องแม็กซ์ น้องมิน” พราวเอ่ยแซวด้วยรอยยิ้มแม็กซ์และมินตรามองหน้ากันด้วยรอยยิ้มเขินอาย “พวกเราก็กำลังคิดๆ อยู่เหมือนกันครับพี่พราว” แม็กซ์ตอบ“ถ้ามีหลานเมื่อไหร่ บอกพวกเราคนแรกเลยนะ พวกเราจะช่วยเลี้ยงอย่างดี” เข้มกล่าวเสริมบรรยาก
หลังจากพิธีหมั้นที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความรัก แม็กซ์และมินตราก็เริ่มวางแผนสำหรับการเริ่มต้นชีวิตคู่ พวกเขาตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของแม็กซ์ ซึ่งเข้มและพราวก็ยินดีต้อนรับมินตราเข้าสู่ครอบครัวด้วยความอบอุ่นมินตรายังคงเปิดร้านส้มตำรสเด็ดของเธอที่ตลาด ซึ่งก็ยังคงได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างเหนียวแน่น แม็กซ์มักจะแวะเวียนมาช่วยเธอที่ร้านในช่วงพักเที่ยง หรือหลังเลิกงาน ทำให้บรรยากาศที่ร้านเต็มไปด้วยความสุขและความหวานชื่นชาวบ้านในตลาดต่างก็เอ็นดูและชื่นชมคู่รักตำรวจหนุ่มและแม่ค้าส้มตำสาว พวกเขามองเห็นความรักและความจริงใจที่ทั้งสองมีให้กัน และต่างก็อวยพรให้ชีวิตคู่ของทั้งสองมีความสุขตลอดไปแม็กซ์ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะดูแลความสงบสุขและความปลอดภัยให้กับชุมชน เขามักจะได้รับคำแนะนำและความคิดเห็นดีๆ จากมินตรา ซึ่งเป็นคนท้องถิ่นและเข้าใจวิถีชีวิตของชาวบ้านเป็นอย่างดีความสัมพันธ์ระหว่างแม็กซ์และมินตราแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นทุกวัน พวกเขาเรียนรู้ที่จะเข้าใจและยอมรับซึ่งกันและกันในทุกๆ ด้าน แม้ว่าจะมีเรื่องให้ขัดแย้งกันบ้างในบางครั้ง แต่ทั้งสองก็สามารถปรับความเข
หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายที่กระท่อมร้าง แม็กซ์ดูแลและเอาใจใส่มินตราอย่างใกล้ชิด ความรักและความห่วงใยของเขาเป็นเหมือนยาที่ช่วยเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำของเธอ มินตราค่อยๆ กลับมาสดใสและเข้มแข็งขึ้นได้อีกครั้งแม็กซ์ตัดสินใจที่จะไม่ปล่อยให้ความหวาดกลัวมาครอบงำชีวิตของพวกเขาอีกต่อไป เขาพามินตราไปพักผ่อนในสถานที่ที่สวยงามและเงียบสงบ เพื่อให้เธอได้ผ่อนคลายและลืมเรื่องราวที่น่ากลัวเหล่านั้นทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เดินเล่นริมทะเล ชมพระอาทิตย์ตกดิน และพูดคุยถึงอนาคตที่สดใสที่จะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน“แม็กซ์… ขอบคุณนะคะสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าไม่ได้คุณ ฉันคง…” มินตราเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ยังคงมีความเศร้าซ่อนอยู่แม็กซ์กุมมือมินตราไว้แน่น “ไม่ต้องคิดถึงเรื่องนั้นอีกแล้วนะครับ ผมจะดูแลคุณตลอดไป”“ฉันรักคุณนะคะ” มินตรากล่าวด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยม“ผมก็รักคุณครับ มินตรา” แม็กซ์ตอบพร้อมกับจูบเธออย่างอ่อนโยนเมื่อกลับมาที่อำเภอเล็กๆ แห่งเดิม แม็กซ์ตัดสินใจที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับมินตราอย่างเป็นทางการ เขาอยากจะสร้างความมั่นคงและความสุขให้กับเธอวันหนึ่ง แม็กซ์พาพราวและเข้มมาที่ร้านส้มตำของมิน
ภาพที่มุขกำลังจี้มีดมินตราไว้ ทำให้แม็กซ์หัวใจแทบหยุดเต้น ความโกรธและความเป็นห่วงถาโถมเข้ามาในใจ เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยมินตราให้ปลอดภัย“มุข ปล่อยมินเถอะ เรื่องทั้งหมดมันจบไปแล้ว” แม็กซ์พยายามเกลี้ยกล่อมด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นแต่ยังคงมีความอดทน“ไม่จบ! ตราบใดที่ยัยนี่อยู่ข้างแก ความแค้นของฉันก็ไม่มีวันจบ!” มุขตวาดเสียงดัง มือที่ถือมีดสั่นเทิ้มจ่ออยู่ที่คอของมินตรามินตราพยายามควบคุมความกลัว จ้องมองแม็กซ์ด้วยแววตาที่สื่อถึงความเชื่อมั่นในตัวเขา“แม็กซ์…” มินตราเอ่ยเสียงแผ่วเบา“ไม่ต้องกลัวนะมิน ผมจะช่วยคุณเอง” แม็กซ์ตอบกลับด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความมั่นใจแม็กซ์ค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้มุขอย่างช้าๆ พยายามหาจังหวะที่จะเข้าชาร์จโดยไม่ให้มินตราได้รับอันตราย ตำรวจที่มาด้วยกันก็เตรียมพร้อมที่จะเข้าช่วยเหลือเมื่อได้รับสัญญาณ“มุข ผมขอร้อง ปล่อยมินเถอะ แล้วผมจะช่วยคุณเอง” แม็กซ์ยังคงพยายามพูดเกลี้ยกล่อม“แกมันโกหก! แกมันรักแต่ยัยนี่!” มุขตะโกนด้วยความคลุ้มคลั่งมากขึ้น เธอออกแรงกดมีดลงบนคอของมินตราเล็กน้อย ทำให้มินตรานิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดในเสี้ยววินาทีนั้นเอง แม็กซ์ตัดสินใจเข้าชา
หลังจากเหตุการณ์ที่สมุนของมุขเข้ามาข่มขู่มินตรา แม็กซ์ก็ยิ่งเพิ่มความระมัดระวังในการดูแลเธอมากขึ้น เขาไม่ยอมให้มินตราคลาดสายตา และพยายามที่จะสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของมุขในเรือนจำแม็กซ์ได้รับข่าวกรองจากเพื่อนตำรวจว่ามุขกำลังวางแผนที่จะหลบหนี โดยมีสมุนภายนอกให้ความช่วยเหลือ แผนการนั้นซับซ้อนและอันตราย ทำให้แม็กซ์รู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก“มิน… ผมว่าช่วงนี้คุณอย่าเพิ่งกลับบ้านคนเดียวเลยนะครับ มาพักที่บ้านผมก่อนดีกว่า” แม็กซ์เสนอด้วยความเป็นห่วงมินตราลังเลเล็กน้อย “แต่ว่า…”“ผมไม่อยากให้คุณต้องตกอยู่ในอันตรายอีกแล้วนะครับ ผมจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ” แม็กซ์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมินตรายอมพยักหน้า เธอรู้ว่าแม็กซ์หวังดีและต้องการปกป้องเธอ “ขอบคุณนะคะแม็กซ์”ทั้งสองคนไปพักที่บ้านของแม็กซ์ชั่วคราว เข้มและพราวเมื่อรู้เรื่องราวทั้งหมดก็รู้สึกเป็นห่วงน้องชายและมินตรามาก พวกเขายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือและให้กำลังใจอย่างเต็มที่ในขณะที่แม็กซ์กำลังวางแผนรับมือกับการหลบหนีของมุข มุขและสมุนก็ดำเนินการตามแผนอย่างลับๆ พวกเขาสามารถหาช่องทางหลบหนีออกจากเรือนจำได้สำเร็จในช่
ความสุขและความรักที่แม็กซ์และมินตรามีให้กันนั้นเบ่งบานขึ้นทุกวัน พวกเขาเริ่มวางแผนถึงอนาคตที่สดใสร่วมกัน แม็กซ์ตั้งใจที่จะขอหมั้นมินตราในเร็ววัน และเริ่มต้นชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นในอำเภอเล็กๆ แห่งนี้แต่ความสุขนั้นก็ดูเหมือนจะอยู่บนความไม่แน่นอน แม็กซ์ยังคงรู้สึกถึงลางร้ายบางอย่างที่คืบคลานเข้ามา เขามักจะฝันร้ายถึงเหตุการณ์ที่มุขทำร้ายมินตรา และความกังวลในใจก็ไม่เคยจางหายไปแม็กซ์เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยของมินตรามากขึ้น เขาขอให้เพื่อนตำรวจช่วยกันสอดส่องดูแลบริเวณร้านส้มตำและบ้านของมินตราอย่างใกล้ชิด และเขามักจะไปรับไปส่งมินตราด้วยตัวเองเสมอ“มิน… ช่วงนี้คุณต้องระวังตัวให้มากขึ้นนะครับ ผมยังไม่ไว้ใจมุข” แม็กซ์กำชับด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขณะที่เขาส่งมินตราที่หน้าบ้านมินตราเข้าใจความหวังดีของแม็กซ์ เธอกอดเขาแน่น “ฉันจะระวังตัวค่ะแม็กซ์ ฉันเชื่อมั่นว่าคุณจะปกป้องฉันได้”ในขณะเดียวกัน มุขที่อยู่ในเรือนจำก็ยังคงติดต่อกับสมุนภายนอกอย่างลับๆ เธอวางแผนที่จะหลบหนีและกลับมาแก้แค้นแม็กซ์และมินตราให้สาสม เธอเชื่อว่าความรักของทั้งสองคนเป็นสิ่งที่เปราะบางและสามารถทำลายได้สมุนของมุขเริ่มเ
หลังจากเหตุการณ์ร้ายแรงที่มุขก่อขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างแม็กซ์และมินตราก็ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น ความรักและความเข้าใจที่มีให้กันนั้นเติบโตขึ้นทุกวัน แม็กซ์ยังคงดูแลและปกป้องมินตราอย่างใกล้ชิด ทำให้มินตรารู้สึกปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้นทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเคียงข้างกันที่ร้านส้มตำ การออกไปเที่ยวพักผ่อนในวันหยุด หรือแม้แต่การใช้เวลาเงียบๆ อยู่ด้วยกันที่บ้าน ความรักของพวกเขาเรียบง่ายแต่ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความผูกพันแม็กซ์เริ่มคิดถึงอนาคตที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับมินตราอย่างจริงจัง เขาอยากจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุขกับเธอที่อำเภอเล็กๆ แห่งนี้วันหนึ่ง ขณะที่แม็กซ์และมินตรานั่งทานอาหารเย็นด้วยกันที่ร้านริมน้ำ แม็กซ์ก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง“มิน… ผมรักคุณมากนะ”มินตรายิ้มให้แม็กซ์ด้วยความรัก “ฉันก็รักคุณค่ะแม็กซ์”“ผมอยากจะดูแลคุณไปตลอดชีวิต อยากจะสร้างบ้านและมีครอบครัวกับคุณที่นี่” แม็กซ์กล่าวต่อด้วยความตั้งใจมินตรามองหน้าแม็กซ์ด้วยความรู้สึกตื้นตัน เธอไม่เคยคิดว่าความรักของเธอกับแม็กซ์จะพัฒนามาถึงจุดนี้ “ฉันก็อยากใช้ชีวิตอยู่กับคุณตลอดไปค่ะ
เหตุการณ์ที่มุขพยายามทำร้ายมินตรา สร้างความตกใจและความหวาดกลัวให้กับมินตราเป็นอย่างมาก แม้ว่าเธอจะปลอดภัยดี แต่ภาพเหตุการณ์ในคืนนั้นก็ยังคงวนเวียนอยู่ในความคิด ทำให้เธอหวาดระแวงและไม่กล้าที่จะกลับบ้านคนเดียวแม็กซ์รู้สึกผิดและเป็นห่วงมินตรามาก เขาโทษตัวเองที่ไม่สามารถปกป้องเธอได้ดีพอ เขาตัดสินใจที่จะดูแลและอยู่เคียงข้างมินตราอย่างใกล้ชิดในช่วงนี้“มิน… ต่อไปนี้ผมจะไปส่งคุณที่บ้านทุกวันนะครับ ผมไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก” แม็กซ์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยมินตราพยักหน้าเบาๆ เธอรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเมื่อมีแม็กซ์อยู่เคียงข้าง “ขอบคุณนะคะแม็กซ์”ขามเองก็รู้สึกเสียใจและเป็นห่วงมินตราไม่น้อย เขารู้สึกผิดที่ตามไปดูแลเธอได้ไม่ทันท่วงที“มิน… ฉันขอโทษนะที่ดูแลแกไม่ดีพอ” ขามเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกไอ้ขาม แกช่วยฉันไว้มากแล้ว ขอบคุณแกมากจริงๆ นะ” มินตรากล่าวพร้อมกับจับมือขามอย่างจริงใจมุขถูกจับกุมและนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย การกระทำของเธอสร้างความตกใจและความเสียใจให้กับเพื่อนร่วมงานและคนรู้จัก ไม่มีใครคาดคิดว่าพยาบาลสาวที่ดูอ่อนหวานจะมีความแค้นรุนแรง
ความสัมพันธ์ระหว่างแม็กซ์และมินตราดำเนินไปอย่างราบรื่น ความเข้าใจและความเชื่อใจที่มีให้กันนั้นแน่นแฟ้นขึ้นทุกวัน พวกเขาเริ่มวาดฝันถึงอนาคตที่จะได้ใช้ชีวิตร่วมกันในอำเภอเล็กๆ แห่งนี้แต่ในมุมมืด มุขที่เต็มไปด้วยความแค้นและความอิจฉาริษยา ก็ยังคงไม่ละทิ้งแผนการร้ายของเธอ หลังจากที่ปล่อยข่าวลือเรื่องหนี้สินของมินตราแล้วไม่ได้ผล มุขก็คิดหาวิธีการที่ร้ายแรงกว่าเดิมมุขสังเกตเห็นว่ามินตรามักจะกลับบ้านคนเดียวในช่วงเย็นหลังเลิกขายของ และเส้นทางกลับบ้านของเธอนั้นค่อนข้างเปลี่ยว มุขเริ่มวางแผนที่จะใช้จุดนี้ในการทำร้ายมินตรา เพื่อหวังจะทำให้แม็กซ์มองว่ามินตราไม่ปลอดภัยและหันกลับมาสนใจเธอวันหนึ่ง มุขแอบสะกดรอยตามมินตรากลับบ้านในตอนเย็น เมื่อถึงช่วงที่เปลี่ยว มุขก็ลงจากรถและทำทีเป็นประสบอุบัติเหตุรถเสียอยู่ข้างทาง“ช่วยด้วยค่ะ! ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย!” มุขแกล้งร้องขอความช่วยเหลือด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสารมินตราที่เดินผ่านมาได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือก็รู้สึกตกใจ เธอรีบเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วง“เป็นอะไรไปคะ?” มินตราเอ่ยถามด้วยความกังวลมุขเงยหน้าขึ้นมองมินตราด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ “รถฉันเ