LOGIN#InjaeTalk.
.
เหมือนคนตัวเล็กจะลืมตัวว่าตนเองยังอยู่ในร่างเปลือยเปล่าที่มีแค่ผ้าขนหนูปกคลุมอยู่แค่นั้น ผมก็เป็นผู้ชายทั้งแท่งนะครับจะไม่ให้มองเลยมันก็จะผิดวิสัยผู้ชายแท้ แต่หุ่นเธอนี่ซ่อนรูปใช่ย่อย เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ ตรงก้อนกลมที่อยู่หน้าอกไม่ได้เล็กตามตัวเลย สีผิวของเธอที่ว่าขาวมากอยู่แล้ว พอมาอยู่ในร่างที่นุ่งน้อยห่มน้อยแบบนี้แล้ว มันกลับขาวผ่องมีน้ำมีนวลน่าสัมผัสเข้าไปใหญ่ นี่คิดอะไรอยู่เนี่ยไอ้อินแจ
“รีบไปใส่เสื้อผ้าได้ละ หรือว่าตั้งใจจะอ่อย” พูดไล่เพื่อข่มสายตาไม่ให้มอง ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเลยว่าเธอเข้าหาผมเพราะแค่ต้องการแค่เรื่องบนเตียงหรือเปล่า จึงได้เผลอดุและพูดส่อไปในทางไม่ดีออกไปเพื่อให้เธอรีบไปแต่งตัวให้เรียบร้อยกว่านี้
“ไม่ได้อ่อยสักหน่อย” เสียงคนตัวเล็กเอ่ยเถียงตอบเสียงเบา
ใบหน้าขาวของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำราวกับลูกตำลึงอย่างเห็นได้ชัด น่าจะเขินอยู่ไม่น้อยที่ได้ฟังคำพูดของผมไป
หลังจากที่เธอพูดจบก็หายเข้าไปในห้องทันที คงจะรีบไปใส่เสื้อผ้าตามที่ผมบอก
.....
#KhanomTalk.
.
พี่อินแจบ้ามาหาว่าฉันอ่อย โดยเฉพาะเวลาที่สายตาคู่นั้นมองไปยังส่วนต่างๆ ตามเรือนร่างแล้วนั้น บอกเลยว่าเขินมาก
ฉันตั้งใจจะจีบไม่ใช่จะอ่อยแบบเอาตัวเข้าแลกสักหน่อย อือ เขาจะมองว่าเป็นผู้หญิงไม่ดีไหมนะ ที่ผ่านมาไม่เคยทำตัวแบบนี้กับใครเลยนะ แต่เขากลับได้เห็นผิวกายแบบใกล้ชิดแล้วยังคิดว่าฉันอ่อยเขาอีก
แค่คิดก็อยากจะม้วนตัวสักสิบตลบ เพราะน้ำไม่ไหลเลยเชียวที่ทำให้เขามองฉันแบบนี้ เฮ้อ โทษน้ำไปอีก
ฉันเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนลายการ์ตูนแต่เป็นแบบเสื้อและกางเกงนะ ขืนใส่แบบกระโปรงสายเดี่ยวเหมือนทุกคืน มีหวังมาโดนมองว่าอ่อยเขาอีก
“พี่อินแจ ยังอยู่เหรอคะ” ฉันถามออกไปเพราะเห็นว่าเขายังนั่งอยู่ในห้อง
“ก็ว่าจะกลับแล้วล่ะ รอบอกเธอก่อน” ว่าเสร็จเขาก็ลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วเดินตรงไปที่ประตู
ฉันรีบเดินตามหลังเขาไป “ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” เอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนที่พี่อินแจจะออกจากห้องไปและเขาก็ยิ้มตอบมาด้วย ‘อร๊าย~’ ร้องกรี๊ดไปเลยสิคะหลังจากปิดประตู นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาเผลอยิ้มให้ ใจละลายเลยเรา คืนนี้คงจะนอนฝันดี
…..
@มหาวิทยาลัย
.
วันนี้คาบบ่ายฉันมีเรียนภาษาอังกฤษรวมกับนักศึกษาคณะอื่นประมาณร้อยกว่าคนเลย ขออย่างเดียว ขออย่าให้ยัยลูกพีชเลือกลงเรียนในวันนี้เลย เพี้ยง
ขณะที่ฉันและณิชากำลังเดินขึ้นบันไดเพื่อไปยังห้องเรียนก็มีเสียงรองเท้าส้นสูงเดินตามหลังแบบเน้นน้ำหนักลงเท้าอย่างหนักหน่วงและ ปึก! คนที่เดินตามหลังเดินชนเข้าที่ไหล่ของฉันเต็มแรง
“โอ๊ย” เธอเข้ามาชนตอนที่ฉันกำลังก้าวขาขึ้นบันไดพอดี ด้วยความที่ไม่ทันตั้งตัวจึงทำให้ล้มลงจนได้แผล
“ยัยลูกพีช เธอตั้งใจชนใช่มั้ย” เสียงของณิชากำลังเอ่ยคาดโทษลูกพีชอยู่ แต่เธอกับแสยะยิ้มและไหวไหล่เดินขึ้นบันไดไปโดยที่ไม่สนใจเลยว่าจะทำให้ฉันบาดเจ็บ
สองมือเลื่อนขึ้นไปจับราวบันไดและพยายามพยุงตัวให้ลุกขึ้นยืน แต่มันเจ็บมากและเลือดก็ไหลออกเยอะมากด้วย ที่สำคัญ ‘ฉันเป็นคนกลัวเลือด’
“ณิชา” เรียกเสียงเบาเพราะตอนนี้รู้สึกว่าร่างกายมันเบาหวิวเหมือนจะวูบ
“ขนม แกเป็นยังไงบ้าง เลือดออกอะแก เจ็บมากมั้ย เราไปห้องพยาบาลกันเถอะ” ณิชาก้มมองดูขาที่กำลังสั่นเทาจากความเจ็บปวดจึงรีบเข้ามาช่วยประคองอย่างเร็วพลัน สีหน้าเธอทั้งตกใจและโกรธที่ครั้งนี้ลูกพีชเล่นแรงจนฉันเลือดตกยางออก
กว่าจะก้าวขาเดินลงบันไดได้แต่ละขั้นบอกเลยว่าแทบหมดแรง สีหน้าตอนนี้คือซีดอย่างกับไก่ต้ม
ฉันเป็นคนกลัวเลือดมาตั้งแต่เด็ก ถ้าแค่หยดเล็กๆ มันก็ไม่มีผลกระทบอะไรมาก แต่แผลที่เกิดจากการกระแทกกับขอบบันได ทำให้เป็นรอยแผลถลอกยุบเป็นแนวยาวและมีเลือดไหลออกมามาก จึงทำให้รู้สึกหน้ามืดขึ้นมาในทันที
“ฉันว่าแกนั่งรอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันให้ไปหาคนมาช่วย” ณิชาเอ่ยจบก็รีบร้อนออกไปจากตึกทันที โดยปล่อยให้ฉันนั่งรอที่ม้าหินอ่อนหน้าตึกคณะตามลำพัง
เพื่อนรักของฉันก็เล่นใหญ่เสียเหลือเกินแค่พาไปล้างแผลที่ห้องพยาบาลเอง ฉันก็ไม่ได้อ้วนสักหน่อยไม่เห็นต้องหาคนมาช่วยเลย
“ขนม” เสียงทุ้มต่ำคุ้นหูเอ่ยเรียกชื่อ ฉันจึงหันขวับมองหาเจ้าของเสียงนั้นทันที “พี่อินแจ”
ใช่แล้วค่ะ ณิชาไปเรียกพี่อินแจให้มาช่วย ให้มันได้อย่างนี้สิเพื่อนรัก แอบยิ้มในใจจนลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ
“พี่อินแจรีบพาขนมไปห้องพยาบาลทีค่ะ ยัยขนมกลัวเลือด” ณิชารีบเน้นย้ำและขอความช่วยเหลืออีกครั้ง
พี่อินแจก็รีบเข้ามาหาตัวฉันทันที แล้วเขาก็ช้อนร่างเล็กที่อยู่ในชุดนักศึกษาขึ้นในท่าเจ้าหญิงแบบไม่ทันตั้งตัว “พะ…พี่อินแจ” ตึกตัก ตึกตัก ดวงตากลมโตเบิกตาโพลงพร้อมกับใจเต้นรัว ณิชาก็ไม่ต่างกันที่มองตาค้างกับการกระทำดังกล่าว
ไม่คิดว่าเขาจะอุ้มฉันในท่านี้ คิดแค่ว่ามาช่วยพยุงก็ดีมากแล้ว ตอนนี้มันแทบจะลืมตัวไปเลยว่าเจ็บขาอยู่ อยากจะบอกว่า ‘เขินมากจ้า’
ทำไมมันไกลจังอยากให้ถึงห้องพยาบาลเร็วๆ รู้สึกว่าตอนนี้มีแต่สายตาจับจ้องมาที่พวกเราทั้งสามคน จนอยากจะเอาหน้าซุกที่อกอุ่นเพื่อหลบสายตาที่มองมา
เมื่อมาถึงห้องพยาบาลพี่อินแจก็วางฉันลงที่เตียงพยาบาล และเดินไปเรียกให้พยาบาลมาทำแผลให้
“ณิชา แกไปเรียนก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวก็ไม่ทันเช็กชื่อกันพอดี” ฉันก้มมองดูนาฬิกาข้อมือที่อีกห้านาทีก็ใกล้จะถึงเวลาเรียน จึงได้บอกให้ณิชาไปเรียนก่อน
อีกอย่างฉันก็ไม่อยากเป็นต้นเหตุให้เพื่อนรักต้องขาดเรียนด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ส่วนตัวเองดูแล้วคงเข้าเรียนไม่ทันแน่ ๆ
“ได้ไงล่ะแก แล้วใครจะอยู่เป็นเพื่อนแกล่ะ” ขณะที่ณิชาเอ่ยออกมาเหมือนจะเป็นห่วงเป็นใย แต่สายตาของนางกลับมองตามแผ่นหลังของพี่อินแจและยกยิ้มอย่างมีเลศนัย
“อ๋อ ฉันว่าฉันไปเรียนดีกว่า แกมีคนช่วยดูแล้วฉันก็หายห่วง ไปละนะ บาย” ณิชาคลี่ยิ้มกว้างใบหน้าแพรวพราวอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะออกไปยังเอามือมาบีบแก้มของฉันอีก
“ไปได้แล้วเดี๋ยวไม่ทัน” ฉันรีบตะโกนตามหลัง คนที่รู้ทันความคิดของเพื่อนรักมีหรือจะไม่เข้าใจที่ณิชาพยายามจะสื่อออกมา
บอกได้คำเดียวไม่มีความมั่นใจเลยว่าพี่อินแจจะดูแลฉันเหมือนที่ณิชาคาดหวังเอาไว้หรือเปล่า เขาออกจะดูเป็นคนเย็นชาขนาดนั้น
“พี่อินแจ แล้วพยาบาลล่ะคะ” ทันใดที่เห็นคนตัวสูงเดินเข้ามาฉันก็รีบถามทันที เพราะเขาเดินกลับมาแค่คนเดียว
“ไม่อยู่” เสียงทุ้มตอบสั้นๆ โดยที่ไม่มองหน้าฉันเลย
เวลาเขาเงียบและตอบสั้นแบบนี้มันทำให้ทำตัวไม่ถูก แต่ตอนนี้ฉันต้องตกใจมากกว่าเพราะพี่อินแจกำลังย่อตัวนั่งลงและยื่นมือมาจับขาข้างที่เป็นแผล “พะ…พี่จะทำอะไรคะ”
“ล้างแผลไง” ใบหน้าหล่อตี๋เงยขึ้นมองและจ้องอยู่ครู่หนึ่ง “เจ็บมั้ย”
“คะ” เออ สติค่ะขนม เขาถามอยู่ แค่โดนจ้องฉันก็เริ่มสติหลุดไปแล้ว “เจ็บค่ะ” พอได้สติก็รีบตอบออกไปทันที
“ซี้ด จะ…เจ็บ” ฉันสูดปากและเผลอร้องออกมา เมื่อน้ำยาล้างแผลถูกเช็ดบริเวณรอยถลอกก็รู้สึกเจ็บแสบจนน้ำตาแทบไหล ฮือ อยากจะร้องไห้แต่กลั้นเอาไว้ก่อนนะขนมอย่าขี้แยให้พี่อินแจเห็น
“ทำไมถึงไม่ระวังขนาดนี้ ยัยโก๊ะ” ฟู่~ ลมเย็นๆ ที่ถูกเป่าออกจากปากของคนที่กำลังดุฉันอยู่ ทำให้รู้สึกเจ็บแสบที่แผลน้อยลง
อินแจโอปป้านี่หลอกด่าเก่งจริงๆ เลย เดี๋ยวก็ยัยบื้อ เดี๋ยวก็ยัยโก๊ะ เดี๋ยวจะทำให้รักยัยบื้อ ยัยโก๊ะคนนี้จนโงหัวไม่ขึ้นเลยคอยดู
นี่ฉันแค่แอบคิดนะแต่มันดันถูกแสดงออกมาทางสีหน้า ที่ตอนนี้กำลังยิ้มหวานชวนฝันให้กับความคิดของตัวเองอยู่จนเผลอลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ
“เสร็จแล้วครับ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น ทำให้ฉันตื่นขึ้นจากภวังค์
“เสร็จแล้วเหรอคะ เร็วจัง”
“เร็ว?” เขาขมวดคิ้วถามขึ้น นี่ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย
“เออ ขนมหมายถึงพี่อินแจทำแผลเสร็จเร็ว เก่งจังเลยค่ะ” แถให้น้ำขุ่นทั้งคลองไปเลยสิคะ ฮ่าฮ่า
“จะไปเรียนอยู่รึเปล่า เดี๋ยวขึ้นไปส่ง” ขึ้นไปส่ง เขาจะอุ้มฉันไปอย่างเมื่อกี้อย่างนั้นเหรอ
หยุดค่ะขนม หยุดความคิดก่อน เธอเลยเวลาเรียนมามากแล้วจ้า “คงไม่เข้าเรียนแล้วล่ะค่ะ” ตอบพลางก้มหน้ามองแผลที่ถูกปิดทับด้วยผ้าขาวสะอาดเป็นอย่างดี
“งั้นกลับคอนโดกัน”
@โรงพยาบาล.พี่อินแจเข้าไปสวมทับด้วยชุดสีเขียวเข้มปลอดเชื้อ เพื่อที่เข้าไปให้กำลังใจภรรยาสาว ที่กำลังนอนรอคลอดอยู่บนเตียง“ไม่ต้องกลัวนะครับที่รัก พี่อยู่นี่แล้ว” พี่อินแจคว้ามือของฉันที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเข้ามากุม ริมฝีปากหยักได้รูปบรรจงจูบที่หน้าผากอย่างอ่อนโยนเพื่อให้กำลังใจ“ฮือ ขนมปวดท้องค่ะ”“ปากมดลูกเปิดเจ็ดเซนแล้วค่ะคุณแม่ อดทนอีกนิดนะคะ” เสียงของพยาบาลที่เข้ามาตรวจเช็กการขยายตัวของปากมดลูกเพื่อเตรียมทำคลอดเอ่ยกับฉันฉันตั้งใจเอาไว้แล้ว ว่าอยากคลอดแบบธรรมชาติ เพราะฉะนั้นต้องทนให้ได้ อีกนิดเดียวเราก็จะได้เจอกันแล้วนะลูกรักนอนรอคลอดพร้อมกับความเจ็บปวดบนเตียงนานเกือบสามชั่วโมง ก็ถึงเวลาที่จะได้เจอกันเสียที“คุณแม่คะ ออกแรงเบ่งค่ะ”“อือ... อือ...”กลั้นใจออกแรงเบ่งเกือบสิบครั้ง อินแจน้อยก็ออกมาลืมตาดูโลกแล้วค่ะ เจ้าตัวน้อยของเราเนื้อตัวจ้ำม่ำ หน้าตาน่ารักน่าชังได้ทั้งพ่อทั้งแม่ ผิวขาวเนียนละเอียด และผมมีกระปู๋ครับ“ยินดีด้วยนะคะ คุณพ่อคุณแม่ได้ลูกชายค่ะ”พี่อินแจเดินเข้าไปรับเจ้าอินแจน้อยที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าอ้อมขาวสะอาด เข้ามาอุ้มไว้ในอ้อมแขน“ขนม เราได้ลูกชายครับ” พี่อินแจเอ่
หลังจากกล่าวให้คำมั่นสัญญา เราก็จูบกันตามคำเรียกร้องของแขกที่มาร่วมงาน เสร็จจากนั้นก็จะเป็นโยนช่อดอกไม้ และตัดเค้ก ก่อนที่พิธีกรจะกล่าวปิดงานและร่วมกินเลี้ยงมื้อค่ำกันฉันกับพี่อินแจควงกันออกมาต้อนรับแขก และเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวอีกสองคน ก็ควงคู่กันมาช่วยดูแลความเรียบร้อยภายในงาน“สวัสดีค่ะพี่ไอดิน” เพื่อนเจ้าสาวอีกคนเอ่ยทักทายดูหน้าอีกฝ่ายทั้งตกใจและสับสนที่ไม่ได้เจอกันเสียนาน“สวัสดีครับ ลูกพีช ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”“ค่ะ ไม่ได้เจอกันนาน พี่สบายดีมั้ยคะ”“ครับ พี่สบายดี แล้วลูกพีชอยู่ทางนั้นเป็นยังไงบ้างครับ”“สบายดีค่ะ แต่เหงา”“เหงา”“ค่ะเหงา เพราะต้องอยู่คนเดียว”ทั้งสองจ้องมองแล้วยิ้มให้กัน เป็นรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น โหยหา และเฝ้ารอ“ถ้าลูกพีชยังไม่มีใคร พี่ยังอยู่ตรงนี้นะครับ”“งั้นเรามาลองคบกันมั้ยคะ ลูกพีชขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมานะคะพี่ไอดิน พี่คือคนที่ดีกับลูกพีชที่สุด ขอโทษที่เมื่อก่อนไม่เคยเข้าใจความรักที่พี่มีให้”“ไม่เป็นไรครับลูกพีช ตกลงครับ เราคบกันนะ”“พี่รอลูกพีชอีกปีนึงได้มั้ยคะ รอลูกพีชเรียนจบ”“ครับ พี่รอได้”“ขอบคุณนะคะพี่ไอดิน”ฉันกับพี่อินแจ พร้อมกับณิชาและพี
ตอนนี้ฉันขึ้นปีสี่แล้ว และพี่อินแจก็เรียนจบออกไปทำงานที่บริษัทหลักทรัพย์ เพื่อบริหารงานต่อจากคุณตา ท่านอายุมากแล้วจะได้พักผ่อนใช้ชีวิตในวัยชราอยู่ที่บ้านแทน โดยที่มีคุณแม่และเลขาส่วนตัวของคุณตาคอยให้คำปรึกษาอยู่ส่วนณิชาเพื่อนรัก ตอนนี้เธอก็ได้คบกับพี่องศาไปเรียบร้อยแล้ว ฉันว่าแล้วว่าสองคนนี้มีอะไรแปลกๆ ตั้งแต่ตอนที่ไปเที่ยวทะเลด้วยกันแล้วนะ สรุปก็คือแอบชอบกันตั้งแต่ตอนนั้นจริงๆ.....@คลับ.การนัดกันครั้งนี้ของพวกเรา ก็มีหนึ่งหนุ่มโสดกับสองคู่รัก หนุ่มโสดของเราก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่ไอดินนั่นเอง“อิจฉาคนมีคู่จังเลยครับ นี่กูคิดผิดหรือคิดถูกวะเนี่ย ที่มาตามนัดของพวกมึง” เสียงบ่นของพี่ไอดิน ที่บ่นให้เพื่อนรักทั้งสองของเขาจะบอกว่าพี่เขาเฮิร์ตหนักเรื่องของลูกพีชก็ได้นะ จากผู้ชายที่ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แต่พอโดนลูกพีชหลอกใช้ในครั้งนั้น พี่ไอดินก็ไม่คุยกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย จึงกลายมาเป็นหนุ่มโสดเพียงคนเดียวในกลุ่มของพวกเราส่วนพี่องศารายนั้นพอได้คบกับณิชา ก็เปลี่ยนไปเป็นผู้ชายคลั่งรักเหมือนกับพี่อินแจไปอีกคน ยัยณิชาปลื้มมาก ก็เล่นเอาใจเสียทุกอย่างแถมเรื่องอย่างว่าก็ไม่มีแผ่วเลยเช่นกัน“มึงก
เมื่อได้ฟังคำถามของคุณตา พี่อินแจก็กระตุกยิ้มมองมาทางฉัน แล้วยื่นมือมาจับกันอีกครั้ง“ถ้าคุณตาหมายถึงผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ผม ครับ ผมจะหมั้น และหมั้นให้เร็วที่สุดด้วยครับ”“ใจร้อนจริงๆ เลยนะเรา ไหนบอกกับแม่ไม่ใช่เหรอว่าไม่อยากหมั้น”“ใครจะไปรู้ล่ะครับ ว่าคุณแม่จะหมายถึงขนม”“เห็นมั้ยคะคุณพ่อ คุณเขม อังว่าแล้ว ว่าเด็กๆ จะต้องยอมหมั้น” แม่พี่อินแจเอ่ยขึ้น ทุกคนก็พากันยกยิ้มชอบใจฉันมองไปทางพ่ออย่างสงสัย มันสงสัยจริงๆ ว่าทำไมพวกผู้ใหญ่ถึงคุยกันอย่างนั้น หรือว่า…“ใช่แล้วลูก พวกเรารู้กันแต่แรกแล้วว่าลูกทั้งสองแอบคบหาดูใจกัน”“รู้แต่แรก” ขมวดคิ้วถามขึ้น มันก็ยังสงสัยอยู่ดี และคนที่นั่งข้างๆ ฉันก็เช่นกัน กำลังรอฟังคำตอบจากปากของผู้ใหญ่“ใช่แล้วจ้ะหนูขนม ป้ากับแม่ของหนูเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนตอนที่พาอินแจกลับมาอยู่เมืองไทยใหม่ๆ หนูก็เคยไปเล่นกับพี่เขานะลูกแต่อาจจะจำไม่ได้ พวกเราสองคนเลยคุยกันไว้ว่าอยากให้ลูกของเราได้ลงเอยกัน จึงได้วางแผนซื้อคอนโดที่พวกหนูอยู่กันตอนนี้เอาไว้ให้คนละห้อง ให้อยู่ห้องติดกันเลย โตมาจะได้ทำความรู้จักกัน” แม่พี่อินแจอธิบายมาแบบนี้ฉันก็เริ่มจับต้นชน
#InjaeTalk.@คฤหาสน์สิงหพัฒน์พิศุจน์.ย้อนไปเมื่อ 3 ชั่วโมงก่อน“คุณแม่เรียกผมกลับบ้านมีเรื่องอะไรเหรอครับ”“เย็นนี้ไปเจอลูกสาวของเพื่อนแม่กัน แม่จองภัตตาคารเอาไว้ละ ลูกห้ามปฏิเสธ” อังคณาเอ่ยออกคำสั่งกับลูกชาย“ไหนเราตกลงกันแล้วไงครับ ว่าจะรอให้ผมเรียนจบก่อน ถ้าผมยังไม่มีแฟนค่อยว่ากัน”“แม่ไม่อยากรอละ วันนี้ลูกต้องไปพบน้องกับแม่ ยังไงเราทั้งสองคนก็ต้องหมั้นกันเอาไว้ก่อน”“หมั้นเหรอครับแม่ แม่อย่าบีบบังคับผมสิครับ ผมไม่หมั้น” ผมเอ่ยน้ำเสียงหนักแน่น“แต่แกต้องหมั้น เรื่องนี้แกไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ” อัครเดชเอ่ยเสียงแข็งกับหลานชาย“ทำไมต้องทำแบบนี้กับผมด้วยล่ะครับคุณตา ผมมีแฟนแล้ว ผมไม่หมั้นครับ” ยังคงยืนยันคำเดิม อย่างไรผมก็ไม่ยอมหมั้นเด็ดขาด“ถ้าแกไม่ยอม จะให้ฉันกับแม่แกเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เรื่องนี้สองครอบครัวได้คุยกันเอาไว้หมดแล้ว”“แม่กับตาก็เอาไว้ที่เดิมนั่นแหละครับ ผู้ใหญ่คุยกันแต่เด็กไม่รู้เรื่อง นี่มันสมัยไหนละครับ ไม่มีใครเขาบีบบังคับเรื่องแบบนี้กันแล้วครับ ผมขอตัวขึ้นข้างบนก่อนนะครับ”“ถ้าแกไม่อยากให้ฉันหัวใจวายตาย ยังไงเย็นนี้แกก็ต้องไปพบกับครอบครัวนั้นพร้อมกับฉันและแม่ของแก” คนแก
“ไปถึงแล้วหนูก็จะรู้เอง” เขมชาติกระตุกยิ้มมองหน้าลูกสาวคุณพ่อพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วก็ลุกออกไป ฉันเลยกลับขึ้นมาบนห้องก๊อก ก๊อก “ขนม เธออยู่ในห้องรึเปล่า” เสียงของลูกพีชเอ่ยเรียกอยู่หน้าห้อง“อืม เข้ามาสิ”วันนี้เธอก็กลับมานอนที่บ้านเหมือนกัน แปลกที่กลับมาวันเดียวกัน หรือว่าเธอก็จะไปพบกับใครคนนั้นพร้อมกับฉันด้วย“มีอะไรเหรอลูกพีช”“เมื่อกี้คุณลุงเรียกเธอไปคุย เรื่องที่จะพาไปพบใครคนหนึ่งใช่มั้ย แล้วท่านได้บอกกับเธอรึเปล่าว่าเป็นใคร”“ไม่ได้บอกน่ะ”“ฉันได้ยินคุณลุงคุยกับแม่ ว่าจะพาเธอไปแนะนำตัวกับคนที่เธอจะต้องหมั้นด้วย”“หมั้น” เอ่ยย้ำคำพูดดังกล่าวอย่างตกใจ คุณพ่อจะให้ฉันหมั้นกับใคร ไม่นะ ฉันไม่อยากถูกคลุมถุงชน แล้วตอนนี้ก็มีแฟนแล้วด้วย“ใช่ หมั้น เห็นว่าเป็นลูกชายของเพื่อนแม่เธอน่ะ”“ลูกชายเพื่อนคุณแม่ ใครกัน ทำไมฉันไม่เคยได้ยินคุณแม่พูดถึงเรื่องนี้เลย”“แล้วเธอจะทำยังไงล่ะ ตอนนี้ก็คบกับพี่อินแจแล้วนี่ แล้วเรื่องที่ผู้ใหญ่คุยกันไว้แล้วล่ะ”ฉันนั่งครุ่นคิดอย่างลำบากใจ จะทำอย่างไรดี จะไปกับคุณพ่อแล้วบอกกับทางนั้นไปเลยดีไหมว่าฉันมีคนรักอยู่แล้ว เรื่องหมั้นจะได้ถูกยกเลิกไป ยิ่งคิดก็ยิ่







