Masukจีบรุ่นพี่มันจะยากแค่ไหนกันเชียว อยากเมินก็เมินไปเถอะ เพราะฉันจะรุกจนกว่าจะได้เป็นแฟน
Lihat lebih banyak@คอนโด
.
#KhanomTalk.
.
วันนี้ทั้งวันวิ่งวุ่นอยู่กับการขนของเข้ามาอยู่คอนโดใหม่ที่แม่ซื้อเอาไว้ให้เพื่อเป็นของขวัญวันเรียนจบ แต่ฉันคงต้องย้ายเข้ามาอยู่ก่อนเพราะถึงวัยที่ต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว และอีกหนึ่งเหตุผลก็คือทนอยู่ที่บ้านไม่ไหวเพราะลูกติดภรรยาใหม่ของพ่อ
มือสองข้างถือของพะรุงพะรังเข้ามาในลิฟต์ และยังมีกล่องเล็กอีกสองกล่องวางอยู่ที่พื้น ด้วยความสูงของฉันที่สูงเพียงแค่ 160 เซนติเมตรเท่านั้น แถมยังถือของอีกทำให้ไม่มีมือข้างไหนว่างที่จะกดลิฟต์ได้เลย
แต่แล้วก็มีชายหนุ่มใจดีคนหนึ่งที่สวมเสื้อสเวตเตอร์สีดำ กางเกงยีนสีซีดขาดหัวเข่านิดๆ แถมยังใส่หมวกแก๊ปอาดิดาสสีดำที่ถูกดึงลงมาจนแทบไม่เห็นดวงตา เดินตามหลังเข้ามาในลิฟต์แล้วก็กดปุ่มชั้นให้ เพราะฉันพยายามเอาข้อศอกกดปุ่มลงไปแล้วแต่มันก็ไม่โดนสักที
“ขอบคุณค่ะ”
ดวงตากลมโตดุจตุ๊กตาบาร์บี้ของฉันเมื่อช้อนสายตาขึ้นมองคนตัวสูงที่กดลิฟต์ให้ถึงกับตาโต โอ้แม่เจ้า ด้วยรูปร่างของคนตัวสูงที่มองจากสายตาดูแล้วเขาน่าจะสูงราว ๆ180 เซนติเมตรได้ ผิวพรรณขาวผ่องออร่ามาก จมูกก็โด่งเป็นสันเห็นแล้วอยากลองลูบดู โดยรวมแล้วคือหล่อมาก หล่อตะโกน พระเอกเกาหลีสุดๆ เห็นแล้วแอบเขินจนเกือบบิดตัว ‘โอปป้า’ เผลอแอบเรียกในใจ หวังว่าเขาคงจะพักอยู่ที่นี่นะ เราจะได้เจอหน้ากันบ่อยๆ
“...” เงียบ ไร้เสียงตอบกลับใดๆ
ได้แต่แอบมองเพราะไม่กล้าจ้องตรงๆ เขาดูเย็นชาและก็หยิ่งมาก ตั้งแต่เข้ามาในลิฟต์ยังไม่มองมาทางฉันเลย
ขนาดฉันเอ่ยขอบคุณก็แล้วเขาก็ยังไม่มองหน้าด้วยซ้ำ เฮ้อ โอปป้าไม่สนใจ แต่ไม่เป็นไรค่ะหล่อแบบนี้ยัยขนมให้อภัย โดนผู้ชายตกแล้วค่ะตอนนี้
ลิฟต์ก็ได้หยุดนิ่งเมื่อขึ้นมาถึงชั้น 20 จากทั้งหมด 35 ชั้น ผู้ชายที่ดูมีอายุมากกว่าฉันเพียงแค่ไม่กี่ปีก็ได้ก้าวขายาวๆ ออกไปทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ได้แต่มองตามแผ่นหลังของเขากระพริบตาปริบๆ
สองมือยังคงถือของเต็มไม้เต็มมือ แถมยังมีกล่องเล็กวางข้างล่างอีก ฉันจึงใช้เท้าค่อยๆ เขี่ยออกไปทีละนิด ทีละนิด เพื่อให้พ้นประตูลิฟต์ เป็นคนตัวเล็กก็เหนื่อยแบบเนี่ย แถมวันนี้ยังต้องขนของเข้ามาอยู่ที่คอนโดใหม่คนเดียวอีก เฮ้อ ชีวิต
“อยู่ห้องไหน” คนตัวสูงเอ่ยถามเสียงเรียบ พร้อมกับก้มลงยกกล่องที่วางตรงพื้นขึ้นมาทั้งสองกล่อง
ฉันรีบเงยหน้าขึ้นมองทันทีพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ หล่อแล้วยังมีน้ำใจ ไม่คิดว่าเขาจะหันหลังกลับมาแล้วยังช่วยถือของอีกด้วย
“ห้อง 2029 ค่ะ”
หลังจากที่รู้คำตอบเขาก็เดินนำหน้าไป “เห็นเย็นชาแบบนี้แต่ใจดีที่สุดเลย” เผลอชมขณะเดินตามหลัง ดีใจจังได้อยู่ชั้นเดียวกันด้วย อันนี้มโนเองนะว่าต้องใช่ ฉันแอบยิ้มแล้วรีบเดินตามไปจนมาถึงหน้าห้องของตัวเอง
“ย้ายมาอยู่ใหม่” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามด้วยใบหน้าเรียบเฉยหลังจากที่เขาวางกล่องลงที่พื้นเสร็จ แต่ฉันก็รู้สึกดีใจนิดๆ นะที่พี่เขาถามฉันกลับมาบ้างแล้ว
“ค่ะ พี่ก็พักอยู่ที่นี่เหรอคะ” ฉันรีบถามออกไป แต่สิ่งที่ได้รับคือใบหน้าเย็นชาที่เดินจากไปโดยไร้เสียงตอบกลับมา
ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรเขามากหรอกอาจจะเป็นคนมีบุคลิกแบบนี้อยู่แล้วก็ได้ ว่าแล้วก็หาคีย์การ์ดเปิดประตูเข้าห้องไป เพราะวันนี้ยังมีของที่ต้องจัดอีกเยอะ
พ่อนะพ่อ ตั้งแต่แต่งงานใหม่ก็ไม่ค่อยมีเวลาให้เลย ทิ้งให้ฉันอยู่ที่บ้านกับยัยลูกพีชลูกติดภรรยาใหม่ที่เอาแต่หาเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน จะว่าแอบน้อยใจพ่อก็ได้นะแต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรท่านหรอก
ตั้งแต่แม่ของฉันเสียไปเมื่อสองปีก่อน พ่อก็เอาแต่เศร้าไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานอยู่หลายเดือน จนทำให้บริษัทที่ร่วมกันสร้างกับแม่เกือบจะไปไม่รอด ดีที่ได้น้าโสเข้ามาช่วย
เธอทุ้มเงินหลายล้านเพื่อช่วยพยุงบริษัทให้กลับมาดีได้ดังเดิม พ่อจึงตอบแทนด้วยการแต่งงานและรับเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย
อีกไม่กี่วันฉันก็ต้องเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยแล้ว จึงได้ขออนุญาตย้ายมาอยู่ที่คอนโดเพื่อที่จะได้มีสมาธิในการเรียน และไม่ต้องคอยทะเลาะกับยัยลูกพีชทุกวี่ทุกวัน
ต่อหน้าพ่อกับน้าโสเธอก็พูดคุยกับฉันดี แต่พอลับหลังก็หาว่าฉันกับพ่อติดหนี้บุญคุณแม่ของเธอ แค่คิดก็เสียอารมณ์ไปเก็บของต่อดีกว่า
ฟู่~ เหนื่อยชะมัด กว่าจะเก็บของเสร็จก็ปาไปเกือบสองทุ่ม ขณะที่ฉันกำลังจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูร้านอาหารที่อยู่แถวนี้เพราะท้องนั้นหิวเอามากๆ ก็ได้เห็นข้อความที่เพื่อนรักเพียงคนเดียวที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกัน ได้ส่งเข้ามาตั้งแต่ห้าโมงแต่ยังไม่ได้เปิดอ่าน
…..
-Chat-
Nicha: แกทำอะไรอยู่
Khanom: ฉันพึ่งจัดของเสร็จ เหนื่อยมากแล้วก็หิวด้วย
Nicha: ขอโทษนะแกที่วันนี้ฉันไม่ว่าง ไม่งั้นฉันจะไปช่วยแกแล้วเนี่ย
Khanom: ไม่เป็นไรแก ของไม่ได้มากมายอะไร
Nicha: นอนคนเดียวไม่กลัวผีเหรอ ให้ฉันไปนอนเป็นเพื่อนมั้ย เดี๋ยวฉันให้พี่ณัฐไปส่ง
Khanom: ฉันนอนได้ แกไม่ต้องห่วง
Nicha: (อ่านไม่ตอบ)
Khanom: วันนี้ฉันเจอเพื่อนบ้านด้วยนะ เป็นผู้ชาย หล่อ เกาหลีฝุดๆ แถมยังช่วยฉันถือของมาวางไว้หน้าห้องด้วย
Nicha: อร๊าย อิจฉาแกอะ ถ้าถึงขั้นแกเอ่ยปากชมขนาดนี้แสดงว่าหล่อเวอร์ อยากเห็นหน้าเลยอะ
Khanom: หล่อมากกกกก แต่เย็นชาอะ
Nicha: สมัยนี้เค้ากำลังฮิตผู้ชายเย็นชา
Khanom: ไม่คุยกับแกแล้ว ฉันขอไปหาอะไรกินก่อน หิว ง่วง เดี๋ยวจะอาบน้ำนอนละ
Nicha: โอเค ฉันไม่กวนแกละ บาย
Khanom: บาย
…..
มัวแต่พิมพ์คุยกับณิชาจนเวลาล่วงเลยเกือบสามทุ่มฉันเลยไม่ได้สั่งอะไรมากิน ดีที่ซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากซูเปอร์มาร์เก็ตติดมาด้วยอย่างน้อยก็คลายความหิวไปได้หนึ่งมื้อ ‘เห็นฉันเป็นลูกคุณหนูแบบนี้ฉันก็กินง่ายอยู่ง่ายนะคะ’
หลังจากที่ท้องอิ่มและอาบน้ำเสร็จแล้วฉันเลยเลือกที่จะออกไปรับลมชมบรรยากาศกลางคืนของที่อยู่ใหม่ที่นอกระเบียง
คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงและมีดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้าเลย ‘อากาศดีจัง’ หลับตาพริ้มพร้อมกับกางสองแขนพาดราวระเบียงสูดกลิ่นสดชื่นเข้าปอด
พอลืมตาขึ้นเหลียวไปทางซ้ายกลับพบพี่ชายเย็นชาคนนั้นกำลังยกโทรศัพท์ออกจากหูคล้ายกำลังวางสาย “พี่อยู่ห้องข้างๆ นี้เองเหรอคะ” ฉันถามออกไปพร้อมกับคลี่ยิ้มหวาน
“...” เงียบ ไร้เสียงตอบกลับแล้วเดินหนีเข้าห้อง
อ๊าก อ๊าก~ เสียงอีกาลอยขึ้นมาทันทีเลยจ้า
ฉันถึงกับทำหน้าไม่ถูก นี่เขากล้าเมินฉันเหรอ คนอะไรคุยด้วยก็ไม่ตอบแถมยังเดินหนีฉันอีก ชิ แลบลิ้นทำหน้าล้อเลียนก่อนจะเดินกลับเข้าห้องไปนอน อยากจะรู้นักว่าจะเย็นชาแบบนี้ไปได้ตลอดเลยรึเปล่า
@โรงพยาบาล.พี่อินแจเข้าไปสวมทับด้วยชุดสีเขียวเข้มปลอดเชื้อ เพื่อที่เข้าไปให้กำลังใจภรรยาสาว ที่กำลังนอนรอคลอดอยู่บนเตียง“ไม่ต้องกลัวนะครับที่รัก พี่อยู่นี่แล้ว” พี่อินแจคว้ามือของฉันที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเข้ามากุม ริมฝีปากหยักได้รูปบรรจงจูบที่หน้าผากอย่างอ่อนโยนเพื่อให้กำลังใจ“ฮือ ขนมปวดท้องค่ะ”“ปากมดลูกเปิดเจ็ดเซนแล้วค่ะคุณแม่ อดทนอีกนิดนะคะ” เสียงของพยาบาลที่เข้ามาตรวจเช็กการขยายตัวของปากมดลูกเพื่อเตรียมทำคลอดเอ่ยกับฉันฉันตั้งใจเอาไว้แล้ว ว่าอยากคลอดแบบธรรมชาติ เพราะฉะนั้นต้องทนให้ได้ อีกนิดเดียวเราก็จะได้เจอกันแล้วนะลูกรักนอนรอคลอดพร้อมกับความเจ็บปวดบนเตียงนานเกือบสามชั่วโมง ก็ถึงเวลาที่จะได้เจอกันเสียที“คุณแม่คะ ออกแรงเบ่งค่ะ”“อือ... อือ...”กลั้นใจออกแรงเบ่งเกือบสิบครั้ง อินแจน้อยก็ออกมาลืมตาดูโลกแล้วค่ะ เจ้าตัวน้อยของเราเนื้อตัวจ้ำม่ำ หน้าตาน่ารักน่าชังได้ทั้งพ่อทั้งแม่ ผิวขาวเนียนละเอียด และผมมีกระปู๋ครับ“ยินดีด้วยนะคะ คุณพ่อคุณแม่ได้ลูกชายค่ะ”พี่อินแจเดินเข้าไปรับเจ้าอินแจน้อยที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าอ้อมขาวสะอาด เข้ามาอุ้มไว้ในอ้อมแขน“ขนม เราได้ลูกชายครับ” พี่อินแจเอ่
หลังจากกล่าวให้คำมั่นสัญญา เราก็จูบกันตามคำเรียกร้องของแขกที่มาร่วมงาน เสร็จจากนั้นก็จะเป็นโยนช่อดอกไม้ และตัดเค้ก ก่อนที่พิธีกรจะกล่าวปิดงานและร่วมกินเลี้ยงมื้อค่ำกันฉันกับพี่อินแจควงกันออกมาต้อนรับแขก และเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวอีกสองคน ก็ควงคู่กันมาช่วยดูแลความเรียบร้อยภายในงาน“สวัสดีค่ะพี่ไอดิน” เพื่อนเจ้าสาวอีกคนเอ่ยทักทายดูหน้าอีกฝ่ายทั้งตกใจและสับสนที่ไม่ได้เจอกันเสียนาน“สวัสดีครับ ลูกพีช ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”“ค่ะ ไม่ได้เจอกันนาน พี่สบายดีมั้ยคะ”“ครับ พี่สบายดี แล้วลูกพีชอยู่ทางนั้นเป็นยังไงบ้างครับ”“สบายดีค่ะ แต่เหงา”“เหงา”“ค่ะเหงา เพราะต้องอยู่คนเดียว”ทั้งสองจ้องมองแล้วยิ้มให้กัน เป็นรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น โหยหา และเฝ้ารอ“ถ้าลูกพีชยังไม่มีใคร พี่ยังอยู่ตรงนี้นะครับ”“งั้นเรามาลองคบกันมั้ยคะ ลูกพีชขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมานะคะพี่ไอดิน พี่คือคนที่ดีกับลูกพีชที่สุด ขอโทษที่เมื่อก่อนไม่เคยเข้าใจความรักที่พี่มีให้”“ไม่เป็นไรครับลูกพีช ตกลงครับ เราคบกันนะ”“พี่รอลูกพีชอีกปีนึงได้มั้ยคะ รอลูกพีชเรียนจบ”“ครับ พี่รอได้”“ขอบคุณนะคะพี่ไอดิน”ฉันกับพี่อินแจ พร้อมกับณิชาและพี
ตอนนี้ฉันขึ้นปีสี่แล้ว และพี่อินแจก็เรียนจบออกไปทำงานที่บริษัทหลักทรัพย์ เพื่อบริหารงานต่อจากคุณตา ท่านอายุมากแล้วจะได้พักผ่อนใช้ชีวิตในวัยชราอยู่ที่บ้านแทน โดยที่มีคุณแม่และเลขาส่วนตัวของคุณตาคอยให้คำปรึกษาอยู่ส่วนณิชาเพื่อนรัก ตอนนี้เธอก็ได้คบกับพี่องศาไปเรียบร้อยแล้ว ฉันว่าแล้วว่าสองคนนี้มีอะไรแปลกๆ ตั้งแต่ตอนที่ไปเที่ยวทะเลด้วยกันแล้วนะ สรุปก็คือแอบชอบกันตั้งแต่ตอนนั้นจริงๆ.....@คลับ.การนัดกันครั้งนี้ของพวกเรา ก็มีหนึ่งหนุ่มโสดกับสองคู่รัก หนุ่มโสดของเราก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่ไอดินนั่นเอง“อิจฉาคนมีคู่จังเลยครับ นี่กูคิดผิดหรือคิดถูกวะเนี่ย ที่มาตามนัดของพวกมึง” เสียงบ่นของพี่ไอดิน ที่บ่นให้เพื่อนรักทั้งสองของเขาจะบอกว่าพี่เขาเฮิร์ตหนักเรื่องของลูกพีชก็ได้นะ จากผู้ชายที่ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แต่พอโดนลูกพีชหลอกใช้ในครั้งนั้น พี่ไอดินก็ไม่คุยกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย จึงกลายมาเป็นหนุ่มโสดเพียงคนเดียวในกลุ่มของพวกเราส่วนพี่องศารายนั้นพอได้คบกับณิชา ก็เปลี่ยนไปเป็นผู้ชายคลั่งรักเหมือนกับพี่อินแจไปอีกคน ยัยณิชาปลื้มมาก ก็เล่นเอาใจเสียทุกอย่างแถมเรื่องอย่างว่าก็ไม่มีแผ่วเลยเช่นกัน“มึงก
เมื่อได้ฟังคำถามของคุณตา พี่อินแจก็กระตุกยิ้มมองมาทางฉัน แล้วยื่นมือมาจับกันอีกครั้ง“ถ้าคุณตาหมายถึงผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ผม ครับ ผมจะหมั้น และหมั้นให้เร็วที่สุดด้วยครับ”“ใจร้อนจริงๆ เลยนะเรา ไหนบอกกับแม่ไม่ใช่เหรอว่าไม่อยากหมั้น”“ใครจะไปรู้ล่ะครับ ว่าคุณแม่จะหมายถึงขนม”“เห็นมั้ยคะคุณพ่อ คุณเขม อังว่าแล้ว ว่าเด็กๆ จะต้องยอมหมั้น” แม่พี่อินแจเอ่ยขึ้น ทุกคนก็พากันยกยิ้มชอบใจฉันมองไปทางพ่ออย่างสงสัย มันสงสัยจริงๆ ว่าทำไมพวกผู้ใหญ่ถึงคุยกันอย่างนั้น หรือว่า…“ใช่แล้วลูก พวกเรารู้กันแต่แรกแล้วว่าลูกทั้งสองแอบคบหาดูใจกัน”“รู้แต่แรก” ขมวดคิ้วถามขึ้น มันก็ยังสงสัยอยู่ดี และคนที่นั่งข้างๆ ฉันก็เช่นกัน กำลังรอฟังคำตอบจากปากของผู้ใหญ่“ใช่แล้วจ้ะหนูขนม ป้ากับแม่ของหนูเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนตอนที่พาอินแจกลับมาอยู่เมืองไทยใหม่ๆ หนูก็เคยไปเล่นกับพี่เขานะลูกแต่อาจจะจำไม่ได้ พวกเราสองคนเลยคุยกันไว้ว่าอยากให้ลูกของเราได้ลงเอยกัน จึงได้วางแผนซื้อคอนโดที่พวกหนูอยู่กันตอนนี้เอาไว้ให้คนละห้อง ให้อยู่ห้องติดกันเลย โตมาจะได้ทำความรู้จักกัน” แม่พี่อินแจอธิบายมาแบบนี้ฉันก็เริ่มจับต้นชน