LOGINตอนนี้เราทั้งสองจ้องกันอย่างไม่มีใครยอมละสายตาออกจากกันเลย ตึกตัก ตึกตัก โอ๊ย ฉันยอมแพ้แล้วจ้า หล่อเกินต้านทานแบบนี้ขนมทนไม่ไหวแล้วค่ะ
ฉันกระพริบตาปริบๆ เอนศีรษะไปทางด้านหลังเพื่อให้หน้าของเราออกห่างจากกันก่อนที่จะหัวใจวายตายไปเสียก่อน
“ขะ…ขอบคุณนะคะที่ให้กลับมาด้วย” ฉันเอ่ยขึ้นเพื่อทำลายความเงียบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ใบหน้าสวยเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อและร้อนผ่าวลามไปจนถึงใบหู
“อยู่คนเดียวได้รึเปล่า” คนตัวสูงหยัดกายขึ้นตรงและถามฉันกลับ น้ำเสียงของเขาดูอ่อนโยนนุ่มนวลขึ้นมากกว่าแต่ก่อน
“ขนมอยู่ได้ค่ะ” ส่งยิ้มหวานแล้วแสร้งตอบออกไป แม้จะเดินได้ไม่สะดวก แต่หญิงแกร่งอย่างขนมจะทำตัวเป็นภาระคนอื่นไม่ได้หรอกนะ ฉันไม่ใช่คนอ่อนแอขนาดนั้น แม้จะอยากอ้อนเขามากก็เถอะ
“งั้นเดี๋ยวพี่มา” พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ฉันมองตามแผ่นหลังของเขาแบบงงๆ
‘เดี๋ยวพี่มา’ เขาจะกลับมาอย่างนั้นเหรอ ฉันเข้าใจถูกใช่มั้ย เวลาที่เขาทำตัวแปลกไปจากเดิมมันทำให้รู้สึกว่าหัวสมองจะหยุดทำงาน หรือเรียกง่ายๆ ว่าโง่ขึ้นมานั่นเอง
พวกเรากลับมาถึงคอนโดกันประมาณบ่ายสองโมง ตอนนี้ฉันกำลังนอนดูซีรีส์เรื่องโปรดอยู่แล้วรู้สึกว่าง่วงขึ้นมาจึงได้เผลอหลับไป
ฉันไม่รู้ตัวเลยว่านอนไปนานเท่าไร แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าปวดตรงแผลขึ้นมานิดหน่อย น่าจะถึงเวลาที่ยาแก้ปวดหมดฤทธิ์แล้ว ทำให้ต้องฝืนลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย แล้วก็ต้องเบิกตาโพลงกว้างเมื่อเห็นใครอีกคนนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ที่โซฟาอีกตัว
“พะ…พี่อินแจ” ฉันเรียกชื่อเขาทันทีที่ตื่นขึ้นมาเห็น เรียกได้ว่าตื่นเต็มตาเลยจ้า “พี่เข้ามาได้ยังไงคะ ประตูมันล็อกอัตโนมัตินี่”
ฉันยังงงๆ บวกกับเบลอที่เพิ่งจะตื่นนอนใหม่ หรือว่าระบบล็อกจะมีปัญหาจะได้แจ้งให้เขามาซ่อม
“ก่อนไปหยิบคีย์การ์ดไปด้วย” เงยหน้าขึ้นและตอบกลับมา ก่อนจะก้มลงกดโทรศัพท์ดังเดิม ตอนนี้เขากำลังเล่นเกมส์อยู่ ฉันไม่เคยเห็นเขาในมุมนี้เลย ดูแล้วก็น่ารักเหมือนเด็กน้อยไปอีกแบบ
“พี่เข้ามานานรึยังคะ”
“อืม นานพอที่จะได้ยินเสียงกรน” ฮะ! ‘เสียงกรน’ ฉันเคยนอนกรนด้วยเหรอเป็นไปไม่ได้
“อือ พี่อินแจ ขนมไม่ใช่คนนอนกรนสักหน่อย อย่าล้อกันสิคะ” หมอนที่ฉันกอดไว้ในอ้อมแขนถูกยกขึ้นมาปิดหน้าอย่างเขินอาย ล้อกันแบบนี้ได้ยังไงคะพี่อินแจ ผู้หญิงมารยาทงามอย่างขนมไม่เคยนอนกรนนะคะ
“แล้วนี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะคะ” ฉันเห็นถุงหิ้วขนาดใหญ่ถูกวางอยู่ที่โต๊ะหน้าโซฟาเลยถามออกไป
“ของกินเธอไง เผื่อตื่นขึ้นมาหิว แล้วก็มียาแก้ปวดด้วย”
อินแจโอปป้าน่ารักจัง ไม่ได้รู้สึกโกรธเลยที่เขาถือวิสาสะเข้ามาแบบนี้ แต่มันแอบดีใจมากกว่า เขาก็ดูเป็นห่วงเป็นใยฉันดี และที่สำคัญยังซื้อของกินมาให้อีกด้วย ยิ้มกริ่มไปเลยสิคะรออะไร
ฉันขยับตัวลุกนั่งและค่อยๆ เลื่อนขาลงข้างล่างเพื่อเอื้อมไปเปิดถุงดูว่าเขาซื้ออะไรมาบ้าง พูดง่ายๆ คือหิวนั่นแหละ
ฉันเป็นคนที่ชอบกินจุกจิก เวลาอยู่คอนโดมักจะมีของกินติดห้องเอาไว้ตลอดกันหิว
“บราวนีช็อกโกแลต” ขนมชิ้นโปรดของฉัน เห็นแล้วตาโตจนเผยยิ้มกว้างและเลือกหยิบมันขึ้นมาเป็นอันดับแรกโดยที่ไม่ได้สนใจของที่เหลือในถุงเลย
บราวนีของโปรดที่หยิบขึ้นมาแล้วจัดการแกะซองพลาสติกออกและกัดเข้าปากคำโต หืม หลับตาเคี้ยวขนมในปากอย่างมีความสุข จนลืมตัวว่ายังมีชายหนุ่มอีกคนอยู่ในห้อง
รุ่นพี่สุดหล่อที่นั่งอยู่ที่โซฟาอีกตัวลอบมองฉันแล้วหัวเราะในลำคอ แต่เจ้าของห้องได้ยินและได้สติขึ้นมาในทันที
“พี่หัวเราะอะไรคะ” ฉันกลืนบราวนี่ลงคอและถามออกไป
เขายกนิ้วขึ้นชี้ที่มุมปากของตัวเองมันทำให้รู้ได้เลยทันทีว่าฉันกินเลอะค่ะ แง ขายขำอีกแล้วเรา น่าอายชะมัด
“ยัยโก๊ะ” งื้อ อินแจโอปป้าว่าฉันเป็นยัยโก๊ะอีกแล้ว
“ระวังจะได้ยัยโก๊ะเป็นแฟนนะคะ” เจอฉันหยอดกลับไปเลยสิคะ และเขาก็ไม่ตอบกลับมาด้วยนะ เอาก้มหน้าเล่นเกมต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่คงไม่ใช่วิธีปฏิเสธทางอ้อมใช่มั้ยคะพี่อินแจ
“ล้อเล่นค่ะ ฮ่าฮ่า” คนตัวเล็กเอ่ยพร้อมกับหัวเราะร่าเหมือนเป็นคำพูดเล่นๆ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เงยหน้าขึ้นฟังที่ฉันพูดเลยก็ตาม
แต่ฉันเห็นนะว่ามุมปากของเขากระตุกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ได้เห็นแค่นี้ก็สบายใจแล้วล่ะ คิดได้ดังนั้นก็จัดการกับขนมต่อ
พี่อินแจนั่งเล่นอยู่ในห้องของฉันอยู่นานโดยที่เขาจดจ่ออยู่แต่เกมในมือถือโดยที่ไม่ได้คุยอะไร ส่วนเจ้าของห้องก็เปิดซีรีส์ที่ดูค้างไว้เมื่อตอนบ่ายเพื่อฆ่าเวลาและความเงียบที่เกิดขึ้น
จะหยอดไปบ่อยๆ ก็กลัวเขาจะรำคาญจนไม่สนใจฉันขึ้นมาอีก แล้วตอนนี้ก็เจ็บขาอยู่ด้วยทำอะไรก็ไม่สะดวก เขามาอยู่เป็นเพื่อนก็ถือว่าดีเท่าไรแล้ว เรื่องจีบไว้ค่อยคิดทีหลังก็แล้วกันนะยัยขนม
“เย็นนี้อยากกินอะไร” ประโยคคำถามที่ฟังแล้วรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เขาละสายตาออกจากหน้าจอมือถือเลื่อนมามองหน้าของฉันแทน
ถามแบบนี้แสดงว่าจะหาของอร่อยมาให้กินอีกแน่เลย จะใจดีเกินไปแล้วนะคะอินแจโอปป้า นี่ขนาดฉันเป็นแค่รุ่นน้องที่อยู่ข้างห้องเขายังดูแลดีขนาดนี้ ถ้าได้เป็นแฟนจะดูแลดีขนาดไหน
“เดี๋ยวขนมต้มบะหมี่กินก็ได้ค่ะ ง่ายดี” ขอเล่นตัวหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวจะมองว่าฉันอยากพึ่งพาเขามากเกินไป
“พี่ถามก็ตอบ” น้ำเสียงเข้มเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้ฉันคงต้องตอบเขาสินะ เดี๋ยวโอปป้าจะงอน
“เออ อยากกิน สเต๊กเนื้อนุ่มๆ เฟรนช์ฟรายส์ทอดโรยเกลือ น้ำส้มคั้นสด อะไรประมาณนี้ค่ะ” นึกอะไรที่อยากกินขึ้นได้ก็ตอบเขาไปตามนั้น
ในเมื่อเขาถามฉันก็ตอบอย่างที่คิดไปเลยสิคะ ก็ตอนนี้ท้องมันหิวมากแม้จะยัดบราวนี่ไปแล้วชิ้นใหญ่แต่มันก็ยังมีที่ว่างสำหรับอาหารอย่างอื่นอีกเยอะ อย่ามาว่าขนมตะกละนะ ก็แค่บริหารกระเพาะลำไส้แค่นั้นเอง
“พี่จะไปไหนคะ” เมื่อเห็นว่าพี่อินแจลุกขึ้นออกจากโซฟาทำท่าจะเดินออกจากห้องไปฉันเลยรีบถามขึ้น
“เดี๋ยวมา แล้วห้ามต้มอาหารสิ้นคิดนั่นกินเด็ดขาด” ใบหน้าเคร่งขรึมหันมาเอ่ยตอบ พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องไป และไม่ลืมที่จะพกคีย์การ์ดติดตัวไปด้วย ชิ ทำอย่างกับเป็นห้องของตัวเอง
อาหารสิ้นคิดสำหรับเขา แต่มันเป็นอาหารที่ทำง่ายสำหรับฉันและของใครหลายๆ คน ก็มันสะดวกและรวดเร็วดี ไม่ต้องพิถีพิถันอะไรมาก แค่เติมน้ำร้อนและใส่เครื่องปรุงก็กินได้เลย ง่ายจะตาย และประหยัดเงินด้วย
เขาหายออกจากห้องไปราว ๆ หนึ่งชั่วโมงได้ ก็กลับเข้ามาพร้อมกับกล่องใส่อาหารที่มีกลิ่นหอมโชยเข้ามาเตะจมูก ยั่วให้น้ำลายสอพอๆ กับท้องที่กำลังส่งเสียงดังสนั่นน่าอาย
“หึ หิวแล้วล่ะสิ” พี่อินแจแค่นหัวเราะในลำคอแล้วเอ่ยกับฉัน น่าอายชะมัดเลยยัยขนม
คนตัวสูงนำกล่องอาหารมาวางไว้ที่โต๊ะแล้วเปิดกล่องออก ฉันที่นั่งอยู่โซฟาได้แต่ชะเง้อมองจนคอจะยาวเหมือนยีราฟอยู่แล้ว สักพักเขาก็เข้ามาประคองคนที่เจ็บขาแล้วพาไปนั่งที่โต๊ะอาหาร
‘ว้าว น่ากินจัง’ ฉันก้มลงสูดกลิ่นหอมของสเต๊กเนื้อที่ถูกย่างมาอย่างชุ่มฉ่ำพร้อมกับหลับตาพริ้ม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามพลางคิดในใจ ‘น่ากินทั้งคนทั้งอาหารเลย’
“พี่ทำเองกับมือ หิวก็กินได้เลย” โอปป้าบอกว่าทำเอง ‘อร๊าย’ ยัยขนมอยากกรี๊ดอีกแล้ว
หล่อ รวย ใจดี ดูแลเอาใจใส่ ส่วนเย็นชานั้นช่างเถอะฉันไม่ถือ คนอะไรมันจะเฟอร์เฟกต์ขนาดนี้ พี่อินแจไม่ควรมีคนเดียวในโลก ไม่สิ พี่ควรมีคนเดียวเท่านั้นและสำหรับขนมแค่คนเดียวด้วยนะคะ อิอิ
เมื่อได้รับอนุญาตฉันก็ลงมือจัดการอาหารตรงหน้าไป เนื้อนุ่มๆ ถูกตัดเป็นชิ้นและจิ้มเข้าใส่ปากคำโตเต็มสองแก้ม อยากจะบอกว่า ‘อร่อยมาก’ ฉันอยากจะกินฝีมือของเขาทุกวันเลย
นอกจากจะได้กินสเต๊กแล้ว ยังมีเฟรนช์ฟรายส์และน้ำส้มคั้นด้วยนะ ไม่คิดว่าเขาจะทำมาให้ทั้งสามอย่าง แสนดีแบบนี้จะไม่ให้ปลื้มได้ยังไงกัน
“ขอบคุณนะคะอินแจโอปป้า” เอ่ยพร้อมส่งยิ้มหวานให้ วันนี้ฉันมีความสุขมากเลย แม้จะเจ็บตัวแต่มันก็คุ้มที่มีพี่อินแจคอยดูแลอย่างใกล้ชิด แถมยังได้กินอาหารอร่อยๆ แบบนี้ด้วย
เขากระตุกยิ้มให้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จะเย็นชาไปถึงไหนขนาดอยู่ด้วยกันตั้งครึ่งค่อนวันแล้วนะ
“กินข้าวเสร็จกินยาด้วย แล้วก็ไปอาบน้ำ” เสียงเข้มเอ่ยออกคำสั่งกับฉันอีกแล้ว
“อือ พี่อินแจอะ ชอบสั่ง” ฉันทำหน้าหงอย เพราะปกติจะชอบอาบน้ำดึก
“แล้วจะฟังรึเปล่า” ใบหน้าหล่อตี๋จ้องคนคนตัวเล็กเพื่อรอฟังคำตอบ
@โรงพยาบาล.พี่อินแจเข้าไปสวมทับด้วยชุดสีเขียวเข้มปลอดเชื้อ เพื่อที่เข้าไปให้กำลังใจภรรยาสาว ที่กำลังนอนรอคลอดอยู่บนเตียง“ไม่ต้องกลัวนะครับที่รัก พี่อยู่นี่แล้ว” พี่อินแจคว้ามือของฉันที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเข้ามากุม ริมฝีปากหยักได้รูปบรรจงจูบที่หน้าผากอย่างอ่อนโยนเพื่อให้กำลังใจ“ฮือ ขนมปวดท้องค่ะ”“ปากมดลูกเปิดเจ็ดเซนแล้วค่ะคุณแม่ อดทนอีกนิดนะคะ” เสียงของพยาบาลที่เข้ามาตรวจเช็กการขยายตัวของปากมดลูกเพื่อเตรียมทำคลอดเอ่ยกับฉันฉันตั้งใจเอาไว้แล้ว ว่าอยากคลอดแบบธรรมชาติ เพราะฉะนั้นต้องทนให้ได้ อีกนิดเดียวเราก็จะได้เจอกันแล้วนะลูกรักนอนรอคลอดพร้อมกับความเจ็บปวดบนเตียงนานเกือบสามชั่วโมง ก็ถึงเวลาที่จะได้เจอกันเสียที“คุณแม่คะ ออกแรงเบ่งค่ะ”“อือ... อือ...”กลั้นใจออกแรงเบ่งเกือบสิบครั้ง อินแจน้อยก็ออกมาลืมตาดูโลกแล้วค่ะ เจ้าตัวน้อยของเราเนื้อตัวจ้ำม่ำ หน้าตาน่ารักน่าชังได้ทั้งพ่อทั้งแม่ ผิวขาวเนียนละเอียด และผมมีกระปู๋ครับ“ยินดีด้วยนะคะ คุณพ่อคุณแม่ได้ลูกชายค่ะ”พี่อินแจเดินเข้าไปรับเจ้าอินแจน้อยที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าอ้อมขาวสะอาด เข้ามาอุ้มไว้ในอ้อมแขน“ขนม เราได้ลูกชายครับ” พี่อินแจเอ่
หลังจากกล่าวให้คำมั่นสัญญา เราก็จูบกันตามคำเรียกร้องของแขกที่มาร่วมงาน เสร็จจากนั้นก็จะเป็นโยนช่อดอกไม้ และตัดเค้ก ก่อนที่พิธีกรจะกล่าวปิดงานและร่วมกินเลี้ยงมื้อค่ำกันฉันกับพี่อินแจควงกันออกมาต้อนรับแขก และเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวอีกสองคน ก็ควงคู่กันมาช่วยดูแลความเรียบร้อยภายในงาน“สวัสดีค่ะพี่ไอดิน” เพื่อนเจ้าสาวอีกคนเอ่ยทักทายดูหน้าอีกฝ่ายทั้งตกใจและสับสนที่ไม่ได้เจอกันเสียนาน“สวัสดีครับ ลูกพีช ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”“ค่ะ ไม่ได้เจอกันนาน พี่สบายดีมั้ยคะ”“ครับ พี่สบายดี แล้วลูกพีชอยู่ทางนั้นเป็นยังไงบ้างครับ”“สบายดีค่ะ แต่เหงา”“เหงา”“ค่ะเหงา เพราะต้องอยู่คนเดียว”ทั้งสองจ้องมองแล้วยิ้มให้กัน เป็นรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น โหยหา และเฝ้ารอ“ถ้าลูกพีชยังไม่มีใคร พี่ยังอยู่ตรงนี้นะครับ”“งั้นเรามาลองคบกันมั้ยคะ ลูกพีชขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมานะคะพี่ไอดิน พี่คือคนที่ดีกับลูกพีชที่สุด ขอโทษที่เมื่อก่อนไม่เคยเข้าใจความรักที่พี่มีให้”“ไม่เป็นไรครับลูกพีช ตกลงครับ เราคบกันนะ”“พี่รอลูกพีชอีกปีนึงได้มั้ยคะ รอลูกพีชเรียนจบ”“ครับ พี่รอได้”“ขอบคุณนะคะพี่ไอดิน”ฉันกับพี่อินแจ พร้อมกับณิชาและพี
ตอนนี้ฉันขึ้นปีสี่แล้ว และพี่อินแจก็เรียนจบออกไปทำงานที่บริษัทหลักทรัพย์ เพื่อบริหารงานต่อจากคุณตา ท่านอายุมากแล้วจะได้พักผ่อนใช้ชีวิตในวัยชราอยู่ที่บ้านแทน โดยที่มีคุณแม่และเลขาส่วนตัวของคุณตาคอยให้คำปรึกษาอยู่ส่วนณิชาเพื่อนรัก ตอนนี้เธอก็ได้คบกับพี่องศาไปเรียบร้อยแล้ว ฉันว่าแล้วว่าสองคนนี้มีอะไรแปลกๆ ตั้งแต่ตอนที่ไปเที่ยวทะเลด้วยกันแล้วนะ สรุปก็คือแอบชอบกันตั้งแต่ตอนนั้นจริงๆ.....@คลับ.การนัดกันครั้งนี้ของพวกเรา ก็มีหนึ่งหนุ่มโสดกับสองคู่รัก หนุ่มโสดของเราก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่ไอดินนั่นเอง“อิจฉาคนมีคู่จังเลยครับ นี่กูคิดผิดหรือคิดถูกวะเนี่ย ที่มาตามนัดของพวกมึง” เสียงบ่นของพี่ไอดิน ที่บ่นให้เพื่อนรักทั้งสองของเขาจะบอกว่าพี่เขาเฮิร์ตหนักเรื่องของลูกพีชก็ได้นะ จากผู้ชายที่ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แต่พอโดนลูกพีชหลอกใช้ในครั้งนั้น พี่ไอดินก็ไม่คุยกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย จึงกลายมาเป็นหนุ่มโสดเพียงคนเดียวในกลุ่มของพวกเราส่วนพี่องศารายนั้นพอได้คบกับณิชา ก็เปลี่ยนไปเป็นผู้ชายคลั่งรักเหมือนกับพี่อินแจไปอีกคน ยัยณิชาปลื้มมาก ก็เล่นเอาใจเสียทุกอย่างแถมเรื่องอย่างว่าก็ไม่มีแผ่วเลยเช่นกัน“มึงก
เมื่อได้ฟังคำถามของคุณตา พี่อินแจก็กระตุกยิ้มมองมาทางฉัน แล้วยื่นมือมาจับกันอีกครั้ง“ถ้าคุณตาหมายถึงผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ผม ครับ ผมจะหมั้น และหมั้นให้เร็วที่สุดด้วยครับ”“ใจร้อนจริงๆ เลยนะเรา ไหนบอกกับแม่ไม่ใช่เหรอว่าไม่อยากหมั้น”“ใครจะไปรู้ล่ะครับ ว่าคุณแม่จะหมายถึงขนม”“เห็นมั้ยคะคุณพ่อ คุณเขม อังว่าแล้ว ว่าเด็กๆ จะต้องยอมหมั้น” แม่พี่อินแจเอ่ยขึ้น ทุกคนก็พากันยกยิ้มชอบใจฉันมองไปทางพ่ออย่างสงสัย มันสงสัยจริงๆ ว่าทำไมพวกผู้ใหญ่ถึงคุยกันอย่างนั้น หรือว่า…“ใช่แล้วลูก พวกเรารู้กันแต่แรกแล้วว่าลูกทั้งสองแอบคบหาดูใจกัน”“รู้แต่แรก” ขมวดคิ้วถามขึ้น มันก็ยังสงสัยอยู่ดี และคนที่นั่งข้างๆ ฉันก็เช่นกัน กำลังรอฟังคำตอบจากปากของผู้ใหญ่“ใช่แล้วจ้ะหนูขนม ป้ากับแม่ของหนูเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนตอนที่พาอินแจกลับมาอยู่เมืองไทยใหม่ๆ หนูก็เคยไปเล่นกับพี่เขานะลูกแต่อาจจะจำไม่ได้ พวกเราสองคนเลยคุยกันไว้ว่าอยากให้ลูกของเราได้ลงเอยกัน จึงได้วางแผนซื้อคอนโดที่พวกหนูอยู่กันตอนนี้เอาไว้ให้คนละห้อง ให้อยู่ห้องติดกันเลย โตมาจะได้ทำความรู้จักกัน” แม่พี่อินแจอธิบายมาแบบนี้ฉันก็เริ่มจับต้นชน
#InjaeTalk.@คฤหาสน์สิงหพัฒน์พิศุจน์.ย้อนไปเมื่อ 3 ชั่วโมงก่อน“คุณแม่เรียกผมกลับบ้านมีเรื่องอะไรเหรอครับ”“เย็นนี้ไปเจอลูกสาวของเพื่อนแม่กัน แม่จองภัตตาคารเอาไว้ละ ลูกห้ามปฏิเสธ” อังคณาเอ่ยออกคำสั่งกับลูกชาย“ไหนเราตกลงกันแล้วไงครับ ว่าจะรอให้ผมเรียนจบก่อน ถ้าผมยังไม่มีแฟนค่อยว่ากัน”“แม่ไม่อยากรอละ วันนี้ลูกต้องไปพบน้องกับแม่ ยังไงเราทั้งสองคนก็ต้องหมั้นกันเอาไว้ก่อน”“หมั้นเหรอครับแม่ แม่อย่าบีบบังคับผมสิครับ ผมไม่หมั้น” ผมเอ่ยน้ำเสียงหนักแน่น“แต่แกต้องหมั้น เรื่องนี้แกไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ” อัครเดชเอ่ยเสียงแข็งกับหลานชาย“ทำไมต้องทำแบบนี้กับผมด้วยล่ะครับคุณตา ผมมีแฟนแล้ว ผมไม่หมั้นครับ” ยังคงยืนยันคำเดิม อย่างไรผมก็ไม่ยอมหมั้นเด็ดขาด“ถ้าแกไม่ยอม จะให้ฉันกับแม่แกเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เรื่องนี้สองครอบครัวได้คุยกันเอาไว้หมดแล้ว”“แม่กับตาก็เอาไว้ที่เดิมนั่นแหละครับ ผู้ใหญ่คุยกันแต่เด็กไม่รู้เรื่อง นี่มันสมัยไหนละครับ ไม่มีใครเขาบีบบังคับเรื่องแบบนี้กันแล้วครับ ผมขอตัวขึ้นข้างบนก่อนนะครับ”“ถ้าแกไม่อยากให้ฉันหัวใจวายตาย ยังไงเย็นนี้แกก็ต้องไปพบกับครอบครัวนั้นพร้อมกับฉันและแม่ของแก” คนแก
“ไปถึงแล้วหนูก็จะรู้เอง” เขมชาติกระตุกยิ้มมองหน้าลูกสาวคุณพ่อพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วก็ลุกออกไป ฉันเลยกลับขึ้นมาบนห้องก๊อก ก๊อก “ขนม เธออยู่ในห้องรึเปล่า” เสียงของลูกพีชเอ่ยเรียกอยู่หน้าห้อง“อืม เข้ามาสิ”วันนี้เธอก็กลับมานอนที่บ้านเหมือนกัน แปลกที่กลับมาวันเดียวกัน หรือว่าเธอก็จะไปพบกับใครคนนั้นพร้อมกับฉันด้วย“มีอะไรเหรอลูกพีช”“เมื่อกี้คุณลุงเรียกเธอไปคุย เรื่องที่จะพาไปพบใครคนหนึ่งใช่มั้ย แล้วท่านได้บอกกับเธอรึเปล่าว่าเป็นใคร”“ไม่ได้บอกน่ะ”“ฉันได้ยินคุณลุงคุยกับแม่ ว่าจะพาเธอไปแนะนำตัวกับคนที่เธอจะต้องหมั้นด้วย”“หมั้น” เอ่ยย้ำคำพูดดังกล่าวอย่างตกใจ คุณพ่อจะให้ฉันหมั้นกับใคร ไม่นะ ฉันไม่อยากถูกคลุมถุงชน แล้วตอนนี้ก็มีแฟนแล้วด้วย“ใช่ หมั้น เห็นว่าเป็นลูกชายของเพื่อนแม่เธอน่ะ”“ลูกชายเพื่อนคุณแม่ ใครกัน ทำไมฉันไม่เคยได้ยินคุณแม่พูดถึงเรื่องนี้เลย”“แล้วเธอจะทำยังไงล่ะ ตอนนี้ก็คบกับพี่อินแจแล้วนี่ แล้วเรื่องที่ผู้ใหญ่คุยกันไว้แล้วล่ะ”ฉันนั่งครุ่นคิดอย่างลำบากใจ จะทำอย่างไรดี จะไปกับคุณพ่อแล้วบอกกับทางนั้นไปเลยดีไหมว่าฉันมีคนรักอยู่แล้ว เรื่องหมั้นจะได้ถูกยกเลิกไป ยิ่งคิดก็ยิ่







