“อ๊ะ!”ในตอนนั้นเอง หลินชือหย่าก็กรีดร้องออกมา เอามือกุมไปที่หน้าอกด้านซ้ายของเธอ เธอเจ็บจนล้มนั่งลงไป ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลซึมออกมาตามผิวหนังของหลินชือหย่าอีกทั้งทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอก็เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อที่เยือกเย็นเมื่อเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ ฉู่เฉินก็หลับตาลง หลังจากนั้นเขาชี้นิ้วของเขาเหมือนกระบี่ พลังวิญญาณก็เข้าสู่ร่างกายของหลินชือหย่าทันที หลังจากที่พลังวิญญาณเข้าสู่ร่างกายแล้ว สถานการณ์ของหลินชือหย่าก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความเจ็บปวดก็ค่อยๆ บรรเทาลงไปฉู่เฉินถึงโบกมือให้หลินชือหย่า “คุณหลิน ใส่เสื้อผ้าเถอะครับ”หลินชือหย่าลังเลไปครู่หนึ่ง เธอที่สวมแค่ชุดเดรสเพียงชิ้นเดียว ข้างในโล่งไปหมด สีหน้ากระวนกระวายนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง ดวงตางดงามมองไปที่ฉู่เฉิน ถามขึ้นมาว่า “คุณฉู่คะ ฉันจัดอยู่ในสถานการณ์ไหนเหรอคะ?” ฉู่เฉินจิบชาเข้าไปหนึ่งอึก ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “คุณหลินไปมีเรื่องกับใครมาไหมครับ? ผมไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมฝ่ายตรงข้ามถึงใช้หนอนกู่ที่ร้ายแรงแบบนี้มาทำกับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งได้”หนอนกู่งั้นเหรอ?!หลินชือหย่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก ขนลุก
“ใช่แล้วล่ะ!”ฉู่เฉินพยักหน้าอย่างแรงแล้วพูดว่า “อีกอย่างที่เมื่อกี้คุณบอกว่าการเสียชีวิตของพ่อแม่ของคุณไม่ชอบมาพากลใช่ไหมครับ? ผมจะบอกให้เลยนะครับว่าการเสียชีวิตของพ่อแม่คุณ จะต้องเกี่ยวข้องกับหนอนกู่อย่างแน่นอน”เมื่อได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของหลินชือหย่าก็เปลี่ยนเล็กน้อย ในดวงตาของเธอมีความเคียดแค้นปรากฏขึ้นมา “จะบอกว่าอาสองของฉันเป็นผู้วางแผนตั้งแต่แรกงั้นเหรอคะ?”ตอนนั้นเธอคิดว่าการเสียชีวิตกะทันหันพ่อแม่ของเธอมันน่าสงสัยแต่ว่าถึงจะเป็นการชันสูตรศพก็ตรวจไม่พบข้อสงสัยใดๆ ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่ปล่อยผ่านไปแต่ดูจากวันนี้แล้ว ทั้งหมดเป็นแผนที่หลินฟางเจิ้งวางแผนไว้ตั้งแต่แรกฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย “หนอนกู่ชนิดนี้ที่จริงแล้วเป็นหนอนกู่ตัวแม่ชนิดหนึ่ง ตราบใดที่มีมันอยู่ มันจะไม่มีทางมีอยู่ตัวเดียวเป็นแน่ พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ญาติคนอื่นในตระกูลของคุณก็มีปัญหาเช่นนี้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าอาการอาจจะแค่ยังไม่แสดงออกมา”ตามบันทึกของวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์ หนอนกู่กลืนวิญญาณมาจากการรวมตัวกันของหนอนกู่ตัวแม่และตัวลูกหนอนกู่ตัวแม่จะมีแค่ตัวเดียว แต่กลับสามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นผ่านอาหารและน้ำ
“ฉันสามารถนำออกมาได้ยี่สิบถึงสี่สิบล้านค่ะ”ฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย “เรื่องเงินไม่เป็นไรครับ เพียงแต่ว่าผมจำเป็นต้องบอกคุณก่อน ตั้งแต่วันที่เริ่มรักษาวันแรก คุณไม่สามารถแตะต้องผู้ชายเด็ดขาด ผมว่าคุณคงเข้าใจที่ผมจะสื่อนะครับ”เมื่อได้ยินประโยคนี้ ใบหน้าเล็กของหลินชือหย่าก็แดงระเรื่อ “คุณ... คุณฉู่คะ พูดตามตรงจนถึงตอนนี้ฉัน... ฉันยังไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลยค่ะ เงื่อนไขไม่ได้ยากเลยค่ะ”หืม?ฉู่เฉินมองไปที่หลินชือหย่าด้วยความประหลาดใจอย่างอดไม่ได้ออนเซ็นวันนั้นผู้หญิงคนนี้ดูช่ำชองมากๆ เลยนะถ้าฉู่เฉินไม่หยุดเธอจากการไปถึงจุดนั้น แม้แต่หลิ่วชิงเหอที่เคยผ่านสิ่งนี้มาก่อนก็อาจไม่เก่งเท่าเธอนี่มันเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด!“แล้วนอกจากนี้ล่ะคะ?”กู้รั่วเสวี่ยถามขึ้นมาอย่างกังวล“ต้องมาทำการรักษาทุกๆ ครึ่งเดือน ประมาณสองเดือนหนอนกู่ในตัวคุณจึงจะถูกจำกัดออกไปจนหมด”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเคร่งขรึมหลินชือหย่าถึงโล่งใจขึ้นมา อย่างน้อยก่อนที่เธอจะล้างแค้นให้พ่อแม่ของเธอ เธอจะตายไม่ได้เด็ดขาดจะไม่มีทางให้หลินฟางเจิ้งสมหวังเป็นอันขาด!“ได้ค่ะคุณฉู่ ต้องรักษาอย่างไรฉันจะทำตามคุณทั้งอย่างเลยค่ะ
อินซู่ซู่ใช้ความกล้าทั้งหมดมองไปที่ฝ่ามือของฉู่เฉิน เห็นได้ชัดว่ามีแมลงพิษที่ยังไม่ตายยังคงดิ้นอยู่ในมือของฉู่เฉิน“นายท่าน... มือของคุณ...”ฉู่เฉินหัวเราะเบาๆ เมื่อพลังวิญญาณนั้นค่อยๆ ออกมาจากฝ่ามือของเขา แมลงพิษเหล่านั้นก็เหมือนพบกับศัตรู พวกมันดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งหลังจากนั้นก็สลายกลายเป็นเลือด!“ช่วยเธอจัดการหน่อย”ฉู่เฉินพูดกับอินซู่ซู่ และชี้ไปที่เลือดบนหน้าอกของหลินชือหย่า “ได้ค่ะ”อินซู่ซู่ตอบกลับไป หลังจากนั้นเธอก็รีบนำผ้าเช็ดตัวร้อนมา ช่วยหลินชือหย่าเช็กเลือดบนร่างกาย หลินชือหย่าถึงจะสวมเสื้อผา กลับไปนั่งบนเก้าอี้ฉู่เฉินล้างมือที่เปื้อนเลือดแล้ว จึงพูดกับหลินชือหย่าว่า “ตอนนี้ตรงหน้าอกยังมีอาการอะไรอยู่ไหมครับ?”“อืม”หลินชือหย่าพยักหน้าอย่างแรง “ร้อน... นิดหน่อย...”ฟู่!ฉู่เฉินเกือบจะสำลักเลือดออกมา เอามือปิดไว้ครึ่งชั่วโมง แม้แต่ภูเขาน้ำแข็งก็ร้อนขึ้นมาปัญหาคือที่เขาถามไม่ใช่อันนี้“งั้น... นอกจากความรู้สึกนี้ล่ะครับ?”ฉู่เฉินถามขึ้นมาด้วยความจำใจ“ไม่มีแล้วค่ะ ความรู้สึกก่อนหน้านี้ที่เหมือนมีอะไรเข้ามาก็ไม่มีแล้วค่ะ อีกทั้งยังรู้สึกเหมือนเด็กลงไปเยอะด้วยค
การรักษาโรค…สบายขนาดนี้เชียวเหรอ?ในตอนนี้เอง จู่ๆ เสียงฝีเท้าเบาๆ ก็ดังเป็นระยะเข้ามาจากนอกประตูแม้อีกฝ่ายจงใจปิดซ่อนร่องรอย แต่อินซู่ซู่ก็ยังจับสังเกตได้ถึงความผิดปกติแม้จะน้อยนิดก็ตาม“ใคร!”อินซู่ซู่หันไปมองป่าที่อยู่นอกลานบ้านเสียงสวบสาบนั่น เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะก่อนหน้านี้ เธอก็เป็นนักฆ่ามืออาชีพคนหนึ่ง เพียงแค่ไม่เคยสังหารเป้าหมายในยามกลางวันเห็นได้ชัดว่า อีกฝ่ายใจกล้ากว่าเธอมาก และใช้วิธีการที่ดั้งเดิมกว่าด้วย!เมื่อสิ้นเสียงตะโกนของเธอ เสียงฝีเท้าด้านนอกหยุดชะงักไปทันที ราวกับทุกอย่างเป็นเพียงเสียงที่เกิดจากลมพัดเท่านั้น!“เหอะ ต่างก็เป็นมืออาชีพกันทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นมือสมัครเล่นแบบนี้หรอก!”อินซู่ซู่ตะโกนเสียงต่ำ ก่อนจะกระโดดข้ามกำแพงสวนออกไป เธอมองเห็นสีแดงเลือดรางๆ ในป่าที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากอินซู่ซู่เพ่งมองอย่างละเอียด ก่อนจะค้นพบว่า นั่นเป็นเงาแผ่นหลังที่เคลื่อนไหวห่างออกไปแล้วดูจากท่าทางของอีกฝ่าย น่าจะเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่งทีเดียว“คิดจะหนีเหรอ?”สิ้นเสียง อินซู่ซู่สาวเท้าวิ่งตามไปด้วยความเร็วเหมือนโบยบินแต่ในตอนที่เธอใกล้จะไล
ในห้อง ฉู่เฉินที่กำลังรบอย่างเมามันเพิ่งจะพลิกกลับมาเป็นฝ่ายคุมเกม กลับต้องชะงักนิ่งไปเสี้ยววินาทีหนึ่ง!ทำไมถึงได้มีไอสังหารแผ่ปกคลุมแถวๆ นี้ได้ล่ะ?เขาครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะพลิกตัวกระโดดลงจากเตียง“มีอะไรเหรอ?”กู้รั่วเสวี่ยปาดเหงื่อบนหน้าผากกลมมน ก่อนมองฉู่เฉินอย่างแปลกใจ“เปล่า คุณอยู่ในห้องก่อนนะ อย่าออกไปเด็ดขาด”กำชับเสร็จ ฉู่เฉินก็หยิบเสื้อคลุมมาใส่ จากนั้นก็สวมรองเท้าแตะและเดินไปที่ลานสวน เขาปล่อยดวงจิตออกไป แล้วภาพที่อินซู่ซู่กำลังตกอยู่ในอันตรายก็ผุดขึ้นมาในหัวทันทีหญิงสาวชุดแดงลงมือว่องไวดังสายฟ้า มีดผีเสื้อที่มีความยาวเพียงสามนิ้วตวัดออกไปพร้อมกับประกายแสงอันเย็นเยียบ พุ่งไปทางลำคอของอินซู่ซู่!“กรี๊ด…”อินซู่ซู่เบิกตากว้าง ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากขัดขืนแต่ในเสี้ยววินาทีที่หญิงชุดแดงใช้มีดพุ่งแทงออกมา ร่างกายของอินซู่ซู่หนักอึ้งไปทั้งตัว แม้แต่แขนก็ยังยกไม่ขึ้นหญิงชุดแดงยังคงมีรอยยิ้มที่งดงามล่มเมืองประดับอยู่บนใบหน้า ราวกับว่าการฆ่าคนเป็นแค่ความบันเทิงอย่างหนึ่งเท่านั้น“สวบ!”เสียงปลายมีดอันแหลมคมแหวกอากาศดังมา อินซู่ซู่หลับตาทั้งสองข้างอย่างสิ้นหวัง หากโดนใบม
รอยช้ำบนหน้าผากของอินซู่ซู่ ก็คงจะเกิดจากกระบวนท่านี้ของเธอเหมือนกันสินะ“จะทดลองใช้งานไม่ใช่เหรอ? หลบทำไมล่ะ”หญิงชุดแดงยิ้มหวาน ทว่าไอสังหารในดวงตากลับยิ่งเข้มขึ้น ฉู่เฉินยังไม่ทันตอบโต้ เธอก็พุ่งสังหารเข้ามาด้วยความเร็วปานสายฟ้าฉู่เฉินหรี่ตา ยกนิ้วมือขึ้นมาแตะกลางอากาศ บึ้ม!เพียงนิ้วเดียวก็ทำให้หญิงชุดแดงถอยหลังไปไกลหลายก้าว ขณะที่หญิงชุดแดงฝีเท้าซวนเซ กระดุมตรงรอยแหวกบนกระโปรงกี่เพ้าก็กระเด้งหลุดออกไปถึงสองเม็ดชั่ววินาทีนั้น เรียวขายาวงามสองข้าง และเอวคอดบางปรากฏสู่สายตาในทันใดสายลมเย็นๆ พัดผ่านร่างกาย ทำให้หญิงชุดแดงตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังเปลือยอยู่ รอยยิ้มหวานหยดย้อยพลันหุบลง สีหน้าขึ้งเคียดและอับอายเข้ามาแทนที่แต่การที่เขาสามารถทำให้เธอถอยหลังได้เพียงใช้นิ้วเดียว นั่นแสดงว่าข้อมูลที่สมาคมจันทราโลหิตให้เธอมามีความผิดพลาดฉู่เฉินไม่ใช่ปรมาจารย์ยุทธ์แต่อย่างใด แต่เป็นยอดฝีมือที่เหนือกว่าขั้นมหาปรมาจารย์ยุทธ์ซะอีกดูท่าเธอคงประมาทเกินไป ไม่น่ารีบลงมือโดยไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนเลยในเมื่อแหวกหญ้าให้งูตื่นไปแล้ว เธอก็ไม่ควรอยู่ที่นี่ต่อไม่อย่างนั้น ถ้าถูกฉู่เฉินโจมตีบาดเ
“เหอะ!”หญิงชุดแดงตวัดมองมีดผีเสื้อด้วยแววตาไม่ยี่หระ ก่อนจะหันหน้าเรียวงามไปทางอื่น ท่าทางเหมือนไม่กลัวตายอย่างไรอย่างนั้นก็แค่ตาย อย่าคิดว่าฉู่เฉินจะได้ข้อมูลอะไรจากปากเธอไปแม้แต่นิดเดียวในฐานะนักฆ่าระดับเอสเอส เธอยังพอมีจิตสำนึกในอาชีพอยู่บ้างหนำซ้ำ นับตั้งแต่วันที่เธอเริ่มเดินเส้นทางนี้ เธอก็เคยคิดไว้แล้วว่าตัวเองอาจต้องมีจุดจบแบบนี้ ก็แค่ขึ้นอยู่กับเวลาว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้นเองเพียงแต่การที่ต้องตายด้วยน้ำมือของฉู่เฉิน เป็นเรื่องที่เธอเจ็บใจจริงๆถ้าไม่ใช่เพราะข้อมูลผิดพลาด บวกกับเธอประมาทศัตรูเกินไป ฉู่เฉินคงตายไปแล้ว!“ฉันขอเตือนเธอให้สารภาพมาซะดีกว่า ไม่งั้นเธอจะได้ตายด้วยวิธีการที่หอมหวานเชียวล่ะ ฉันคิดว่าเธอเข้าใจดีว่าฉันหมายถึงอะไร”พูดจบ ฉู่เฉินก็เลื่อนมีดผีเสื้อที่จ่อลำคอยาวระหงลงไปด้านล่างช้าๆ ก่อนจะหยุดอยู่บนภูเขาสองลูกตรงหน้าอกของเธอ“แคว่ก!”ปลายมีดแหลมคมกรีดกี่เพ้าของหญิงชุดแดง เผยให้เห็นขอบชุดชั้นในลูกไม้สีแดงที่อยู่ด้านใน“แกจะทำอะไร!”หญิงชุดแดงเริ่มลนลานอย่างเห็นได้ชัดแต่จนใจที่ฉู่เฉินสกัดจุดลมปราณของเธอไว้ ตอนนี้แม้จะอยากฆ่าตัวตาย แต่แค่จะยกแขน
เพียะ!เสียงดังสนั่นดังขึ้นอีกครั้ง ตู้หรงเฉิงถูกฉู่เฉินตบจนล้มคว่ำลงกับพื้น หน้าผากกระแทกพื้นอย่างแรงจนหัวโนห้อเลือดขนาดเท่าลูกซาลาเปาทันที!ใบหน้าที่หล่อเหลาแต่เดิมนั้น ขณะนี้ดูเหมือนเทพเจ้าแห่งอายุวัฒนะในภาพวาด“แม่งเอ๊ย คนชั้นต่ำอย่างแกร่วมมือกับเขาใช่ไหม! ยังไม่ไสหัวไปอีก!”ตู้หรงเฉิงกุมศีรษะตรงที่ปูดโนขึ้นมา กัดฟันจ้องมองผู้หญิงเจ้ามารยา และพยายามลุกขึ้นจากพื้นอย่างยากลำบากเขาเป็นถึงคุณชายใหญ่แห่งตระกูลตู้ กลับถูกทำให้เสียหน้า ความแค้นนี้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องชำระ!เพียงข้างกายเขาไม่มียอดฝีมืออยู่ จึงทำอะไรฉู่เฉินไม่ได้เลยดังคำกล่าวที่ว่าคนฉลาดจะไม่ดันทุรังในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ ตู้หรงเฉิงจึงตัดสินใจและคุกเข่าลงต่อหน้าฉู่เฉินเสียงดังตุบ“ท่านผู้อาวุโส เป็นความผิดของผมที่ตาไร้แววมารบกวนการพักผ่อนของท่านผู้อาวุโส หวังว่าท่านผู้อาวุโสจะจะไม่ถือโทษ และโปรดยกโทษให้ผมสักครั้งด้วยเถอะครับ”ตู้หรงเฉิงสมแล้วที่เป็นทายาทของตระกูลผู้บำเพ็ญพรต เข้าใจความหมายของคำสี่คำอย่างประนีประนอมอย่างถ่องแท้ ก่อนจะก้มศีรษะโขกพื้นเสียงดังปั่กๆ ๆโดยไม่พูดอะไรอีกเมื่อเห็นฉากนี้ กลุ่มชายหนุ่ม
ปัง!สิ้นเสียงของตู้หรงเฉิง ฉู่เฉินก็ลุกขึ้นทันที จิกผมเขาและกระแทกกับโต๊ะน้ำชาอย่างแรง!เมื่อเกิดเสียงดังปังขึ้น โต๊ะน้ำชากระจกในโซนพักผ่อนก็ถูกตู้หรงเฉิงกระแทกจนแตกละเอียด“ตระกูลตู้เก่งมากเลยงั้นเหรอ? ใครให้คุณกล้าเข้ามาถึงก็โวยวายเสียงดัง?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินก็จิกผมของตู้หรงเฉิงแล้วดึงเขาขึ้นมาจากพื้น ในขณะนี้ ใบหน้าหล่อเหลาของตู้หรงเฉิงเต็มไปด้วยเศษแก้วและคราบเลือดเขาตกตะลึงไปทั้งคน ไม่ว่าจะมองยังไง ฉู่เฉินก็ไม่ดูเหมือนคนที่จะใช้กำลังเมื่อมีเรื่องขัดแย้งยิ่งกว่านั้น เมื่อกี้เขาได้แสดงตัวแล้วว่าเขาคือคุณชายของตระกูลตู้ฉู่เฉินกล้าลงมือกับเขาได้ยังไง?“แค่ตระกูลผู้บำเพ็ญพรตเล็กๆ ก็คิดว่าตัวเองไร้เทียมทานแล้วงั้นเหรอ? ยังกล้าเข้ามายุ่งกับชู้รักของผมอีก คุณรู้สึกว่าชีวิตยาวนานไปหรือว่าอยากตายตั้งแต่ยังหนุ่ม? ”ทันทีที่คำเหล่านี้กล่าวออกมา สีหน้าของหลิงเสวี่ยก็ดูน่าเกลียดขึ้นมาทันทีเธอได้กลายเป็นชู้รักของฉู่เฉินได้ยังไง?เมื่อคืนเธอโดนบังคับไม่ใช่เหรอ?“แก…แกกล้า…”พลั่ก!ไม่รอให้ตู้หรงเฉิงกล่าวจบ ฉู่เฉินก็ได้จิกผมของเขาแล้วตีเข่าใส่ร่างของตู้หรงเฉิงหงายหลังอย่างแรง ถู
ชายหนุ่มหญิงสาวเหล่านี้แต่ละคนล้วนมีกลิ่นอายของผู้บำเพ็ญเพียร ต่อให้เป็นคนที่มีพลังฝึกปรืออ่อนด้อยที่สุดก็มีพลังฝึกปรือราว ๆ ระดับหลอมปราณชั้นแปดต่อให้เป็นปรมาจารย์ที่สามารถสั่นคลอนทั้งเมือง เมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขาก็ไม่มีค่าพอให้เอ่ยถึงเลย และตู้หรงเฉิงก็เป็นตัวตนที่อยู่จุดสูงสุดในกลุ่มพวกเขา ด่าตู้หรงเฉิงก็เท่ากับด่าพวกเขาทุกคน!สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาดูไม่ออกจริง ๆ ว่าฉู่เฉินมีอะไรโดดเด่นเหนือคนอื่น ราวกับว่าไม่มีแม้กระทั่งคลื่นพลังลมปราณเลยสักนิดดัยว คนธรรมดาคนหนึ่งถึงกับกล้าสบประมาทผู้บำเพ็ญเพียรเนี่ยนะ? “ไอ้หนู คุณบ้าดีเดือดมากเลยนะ”ตู้หรงเฉิงหรี่ตา ลมปราณระดับสร้างรากฐานชั้นหนึ่งรอบกายพลันระเบิดออกมา พรืด!หลิงเสวี่ยที่นั่งอยู่ข้างฉู่เฉินเห็นแบบนั้นก็แทบจะหลุดหัวเราะออกมาทันทีระดับสร้างฐานชั้นหนึ่งก็ไม่เลวจริง ๆ แต่นั่นต้องดูด้วยว่าเทียบกับใคร อย่าว่าแต่ฉู่เฉินเลย แค่เธอก็สามารถตบตู้หรงเฉิงให้ตายได้ในฝ่ามือเดียว! เพียงแต่ว่า ตอนที่ออกจากโลกแห่งการหยั่งรู้ ฉู่เฉินใช้ยันต์ซ่อนวิญญาณเก็บซ่อนลมปราณของพวกเธอสองคนไว้ ดังนั้นดูแล้วถึงไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดาต้องพูดว
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา หลินซานก็อึ้งไปด้านหนึ่งคือหลินเยว่หรูกับลั่วหัวเอ๋อร์เข้าพักแล้ว อีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินก็เป็นแขกผู้มีเกียรติที่หลินเยว่หรูเชิญมาจะปล่อยให้ฉู่เฉินถูกเมินตรงนี้ไม่ได้หรอกใช่ไหม?แต่ตู้หรงเฉิงคนนี้ หลินซานเองก็ล่วงเกินไม่ไหวเช่นกันต่อให้เป็นตระกูลหลินก็ต้องไว้หน้าตระกูลตู้เล็กน้อย ถึงอย่างไรคนหนุนหลังของตระกูลตู้ก็แข็งแกร่งไม่ธรรมดาพอเห็นหลินซานอึ้งอยู่กับที่ ตู้หรงเฉิงก็เอ่ยด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยว่า “ว่ายังไง ลูกน้องตระกูลหลินอย่างคุณกล้าไม่ไว้หน้าผมด้วยเหรอ?” เมื่อคำพูดนี้ออกมา กลุ่มชายหนุ่มหญิงสาวที่อยู่รอบ ๆ ก็พากันมองไปทางหลินซานด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ในขณะเดียวกัน ชายร่างกำยำที่แต่งกายทะ มัดทะแมงไว้ผมเกรียนคนหนึ่งก็มองหลินซานอย่างพิจารณาด้วยสายตาเย็นชาหลังจากสิ้นเสียงของตู้หรงเฉิง“คุณชายตู้เข้าใจผิดแล้วครับ ผะ...ผมแค่...”ในตอนนี้เอง ชายร่างท้วมวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินลงมาจากชั้นสอง ก่อนจะเอ่ยตัดบทหลินซานว่า “ท่านทั้งหลาย เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอครับ?”ตู้หรงเฉิงหันหน้าไปมองชายวัยกลางคนแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าเย่อหยิ่งเล็กน้อยว่า “คุณเป็นเจ้าของ
หลินเยว่หรูพูดจบก็รูดคีย์การ์ดห้องทันที ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทลั่วหัวเอ๋อร์อึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นถึงค่อยเข้าใจจุดประสงค์ของหลินเยว่หรูว่าต้องการโยนเคราะห์ให้คนอื่น ลั่วหัวเอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อยแล้วค่อยเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง .....อีกทางด้านหนึ่ง เมื่อหลินซานมาถึงเจียงจง ฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยก็เดินออกมาจากทางออกของเมืองชิงหลงที่อยู่ในเจียงจงพอดี เมื่อเห็นฉู่เฉิน หลินซานก็รีบเข้าไปต้อนรับแล้วเอ่ยด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มว่า “คุณฉู่ ผมได้รับคำสั่งจากคุณนายให้มารับคุณครับ” ฉู่เฉินมองหลินซานแวบหนึ่งแล้วขมวดคิ้วกล่าวว่า “คุณนาย? คุณนายไหน?”“คุณนายของบ้านชื่อหลินเยว่หรูครับ!”หลินซานรีบแนะนำตัวเองฉู่เฉินถึงค่อยพยักหน้า แล้วจูงมือหลิงเสวี่ยเดินไปยังรถเอสยูวีที่จอดอยู่ทางด้านข้าง“ไปกันเถอะ”ฉู่เฉินจูงหลิงเสวี่ยมานั่งที่เบาะหลัง แล้วออกคำสั่งอย่างเฉยชา หลินซานสตาร์ตรถทันที ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังโรงแรมในชานเมืองปินเฉิน หลายชั่วโมงต่อมา รถก็จอดอยู่ที่หน้าประตูโรงแรม“คุณฉู่ครับ เนื่องจากโรงแรมนี้อยู่ใกล้กับตระกูลลั่วมากที่สุด ดังนั้นเลยจัดเตรียมห้องเพ
เมื่อลั่วเทียนเต๋อเอ่ยคำพูดนี้ออกมา ลั่วหัวเอ๋อร์ก็อดรู้สึกหนักอึ้งในใจไม่ได้!เธอเคยเจอเจ้าสำนักน้อยคนนั้นแค่ครั้งเดียว แต่ว่าต่อให้เห็นผ่าน ๆ แค่แวบเดียวเท่านั้น เธอก็ดูออกได้ไม่ยากว่า นั่นเป็นคนไร้ประโยชน์ที่ดูดีแค่ภายนอกตามมาตรฐานเลย ถ้าต้องแต่งกับผู้ชายแบบนั้นจริง ๆ ชีวิตนี้ของเธอมีหวังได้จบสิ้นแล้วไม่ใช่หรือไง?และถ้าครั้งนี้กัวเฟิงช่วยตระกูลลั่วให้ผ่านพ้นวิกฤติได้จริง ๆ เธออยากปฏิเสธการแต่งงานก็คงไม่ได้แล้ว“เจ้าสำนักน้อย? ไอ้กัวเฟิงนั่นมันตัวอะไรกัน! ลูกสาวฉันจะไปแต่งงานกับเขาได้ยังไง!”หลินเยว่หรูกัดฟันกรอด ดึงลั่วหัวเอ๋อร์ให้มาอยู่ด้านหลังตัวเอง ก่อนจะเอามือชี้หน้าลั่วเทียนเต๋อแล้วพูดว่า “ไอ้คนแซ่ลั่ว คุณเป็นคนหาเรื่องเอง เลิกลากพวกเราแม่ลูกเข้าไปเกี่ยวข้องได้แล้ว” พอลั่วเทียนเต๋อได้ยินคำพูดนี้ โทสะก็พุ่งพล่านขึ้นมาเช่นกัน ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยใบหน้าแดงก่ำว่า “ดี! คุณมันแพศยาไร้ยางอาย รีบไสหัวออกไปจากบ้านตระกูลลั่วเดี๋ยวนี้เลยนะ!”“ไม่ต้องพึ่งตระกูลหลินของพวกคุณ ฉันก็จัดการเรื่องนี้ได้อยู่ดี!” อะไรนะ?หลินเยว่หรูถลึงตาใส่ลั่วเทียนเต๋อ กัดฟันกรอแล้วกล่าวว่า “คุณ
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ