เช้าวันต่อมา เย่ชิ่นเหยียนตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ เธอแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงสีขาวพลิ้ว คอแหวกลึกเป็นรูปตัววี ลูกแพร์อวบอิ่มขาวเนียนสองลูกโผล่พ้นสายตาออกมาครึ่งหนึ่ง เห็นแล้วชวนให้จินตนาการไปไกลเธอเดินลากรองเท้าแตะสีขาวคู่หนึ่งออกจากบ้านตั้งแต่เช้าพอมาถึงหน้าบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ เป็นเวลาแปดโมงห้าสิบนาทีพอดี หลังจากส่งข้อความหาฉู่เฉินขณะที่นั่งอยู่ในรถเสร็จ เย่ชิ่นเหยียนเปิดประตูรถ ก่อนจะยกมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปผู้ชายที่มาส่งดิลิเวอร์รีคนหนึ่ง เหลือบมองมาทางเย่ชิ่นเหยียนโดยบังเอิญเพียงแวบเดียว ผู้ชายคนนั้นถึงขั้นไม่อาจละสายตา ทำเอาเกือบพุ่งชนเข้ากับเสาไฟฟ้าเย่ชิ่นเหยียนเห็นแล้วก็หัวเราะเสียงเล็กแหลมอย่างอารมณ์ดีรอยยิ้มของเธอดูสวยสะดุดตา ทั้งสดใสเป็นประกายผ่านไปไม่นาน ฉู่เฉินอ้าปากหาวกว้างๆ สาวเท้าเดินออกจากประตูบ้านช่วยไม่ได้ เมื่อคืนแทบจะไม่ได้นอน ถึงจะเป็นฉู่เฉินก็ยังรู้สึกเหนื่อย“เป็นอะไรไป เมื่อคืนไม่ได้นอนหรือ”เย่ชิ่นเหยียนเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าเป็นห่วง พลางถามฉู่เฉิน“พอไหวครับ ฝึกเหวี่ยงหมัดมาทั้งคืน เหนื่อยนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร”ฉู่เฉินหาว ก่อนตอบ“ขึ้นรถสิ บนรถฉันมีก
ดูจากอายุ ฉู่เฉินน่าจะอายุน้อยกว่าเย่ชิ่นเหยียนสี่ห้าปี นอกจากนี้ ด้วยนิสัยของเย่ชิ่นเหยียน เธอไม่มีทางคบเด็กผู้ชายแบบนี้เป็นเพื่อนแน่แขกพวกนั้นของเธอมีคนไหนบ้างที่ไม่ใช่ผู้ชายอายุสามสิบสี่สิบปี บางคนถึงขนาดเป็นนักธุรกิจร่ำรวยวัยกลางคนด้วยซ้ำไม่ต้องถามก็รู้ เจ้าแซ่ฉู่คนนี้ต้องเป็นไอ้หนุ่มหน้าอ่อนที่เย่ชิ่นเหยียนเลี้ยงต้อยไว้แน่ๆพอนึกมาถึงตรงนี้ สีหน้าของเชอฮุยยิ่งดูแย่ลงกว่าเดิมเขาเคยตามจีบเย่ชิ่นเหยียนอยู่สองปี นับรวมแล้วก็เสียเงินไปหลายล้าน แต่กลับไม่เคยได้จับแม้แต่มือของเธอ สุดท้ายก็ทำได้เพียงยอมตัดใจแต่ไอ้หน้าอ่อนที่หน้าตาไม่ได้สะดุดตา ฐานะทางบ้านก็ดูจะสู้เขาไม่ได้อย่างฉู่เฉินกลับได้หญิงงามไปครอง เรื่องนี้แหละที่เขาไม่พอใจสุดๆ“เอาคันนี้ก็แล้วกัน เอาตัวท็อป”ฉู่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบฉู่เฉินไม่ได้ติดใจเรื่องราคารถ ขอแค่รูปลักษณ์ภายนอกของรถต้องดูเรียบหรู ไม่ดูสะดุดตาเกินไป อีกเรื่องหนึ่งก็คือขับคล่องมือ ที่เหลือเขาล้วนไม่สนใจ“เอาตัวท็อป?”เชอฮุยได้ยินก็ขมวดคิ้ว หันไปมองเย่ชิ่นเหยียนที่ยืนอยู่ข้างๆชั่วขณะหนึ่ง ปลายจมูกของเย่ชิ่นเหยียนมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาบอกต
“เรื่องเป็นมายังไง?!”หยางเส้าหัวขมวดคิ้ว หันไปถามเชอฮุยที่อยู่ข้างๆ ด้วยน้ำเสียงเย็นชาเชอฮุยเขย่งเท้าชะโงกหน้าเข้าไปข้างหูของหยางเส้าหัว กระซิบกระซาบอยู่ครู่หนึ่ง เขายังจงใจแต่งเติมประวัติความเป็นมาของฉู่เฉิน บอกว่าเขาเป็นลูกคนรวยที่มาจากชนบทพอได้ยินอย่างนั้น หยางเส้าหัวสีหน้าดำทะมึนในพริบตาเขาคบกับเย่ชิ่นเหยียนเกือบครึ่งปีก็จริง แต่เขาไม่เคยได้นอนกับเธอเลยสักครั้งเดียวแต่นังสารเลวนั่นกลับซื้อรถให้ไอ้บ้านนอกนั่น หนำซ้ำยังซื้อรถหรูราคาหลายสิบล้านให้ด้วย ดูก็รู้ว่าไอ้หมอนั่นต้องได้เธอแล้วแน่ๆว่ากันว่ารักแต่ไม่ได้มา เป็นเรื่องที่เจ็บปวดที่สุด ที่จริงประโยคนี้ไม่ได้ถูกทั้งหมดรักแต่ไม่ได้มา ซ้ำยังต้องทนมองคนอื่นได้มันไป นี่ต่างหากที่ทำให้คนเราเคียดแค้นยิ่งกว่า!โดยเฉพาะยิ่งกับหยางเส้าหัวแล้ว เขาคิดว่าในเมืองเจียงจงไม่มีใครเทียบเขาได้เรื่องการคั่วสาว แต่กลับถูกไอ้บ้านนอกนั่นทำพังหมด เรื่องนี้ทนไม่ได้เด็ดขาดนึกมาถึงตรงนี้ หยางเส้าหัวผลักเชอฮุยออก สาวเท้าเดินไปทางเย่ชิ่นเหยียนกับฉู่เฉิน“คุณชายหยาง… คุณชายหยางอย่าวู่วาม…”“ไสหัวไป!”หยางเส้าหัวตะคอกเสียงดัง ทำเอากลุ่มคนที่ก
เขาลอบคิดในใจ ‘ไอ้แซ่ฉู่เอ๋ย ฉันจะคอยดูว่าวันนี้แกจะมีจุดจบยังไง!’เอาตัวท็อปงั้นเหรอ ท็อปบ้านเอ็งสิวะ!“หยางเส้าหัว! นี่นาย…”เย่ชิ่นเหยียนยังไม่ทันพูดอะไร ฉู่เฉินยักคิ้วอย่างเย็นชา ตวัดสายตามองหยางเส้าหัว ยิ้มเยาะพลางเอ่ยว่า “แค่นิ้วเดียวก็บดขยี้ฉันให้แหลกได้แล้ว?”“จนถึงตอนนี้ ฉันยังไม่เคยเจอใครที่มีเงินมากกว่าฉันเลย”คำพูดของเขาทำให้คนที่กำลังมุงดูอยู่หัวเราะออกมาเป็นไอ้บ้านนอกที่มาจากชนบทจริงๆ สินะ คงจะเป็นลูกเศรษฐีจากเมืองไหนล่ะมั้งปัญหาคือที่นี่เจียงจง ถึงจะเทียบไม่ได้กับระดับมณฑล แต่ที่นี่ก็เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของมณฑลเจียงเชียวนะ!หยางเทียนหลง เศรษฐีอันดับต้นๆ ของเมืองเจียงจง มีทรัพย์สินมูลค่าเกินห้าหมื่นล้าน ท่ามกลางหมู่คนรวยของเมืองเจียงจง เขานับว่าเป็นแนวหน้าเลยก็ว่าได้นอกจากนี้ ได้ยินมาว่าหยางเทียนหลงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของตระกูลหยางเท่านั้น ทั้งตระกูลหยางมีลูกหลานมากมาย อำนาจล้นฟ้า!ฉู่เฉินกลับกล้าพูดจายโสโอหังขนาดนั้นออกมา นั่นไม่เท่ากับรนหาที่ตายเหรอหยางเส้าหัวเองก็หัวเราะลั่น จากนั้นก็จ้องพิจารณาฉู่เฉิน มือข้างหนึ่งโอบนางแบบสาวสวยข้างกาย มืออีกข้างสอดเข้า
นี่มันลาภลอยชัดๆ ถึงฉู่เฉินจะไม่มีเงินในกระเป๋า แต่เชอฮุยมั่นใจว่าจะเอาเงินมาได้แน่นอนถึงยังไงหยางเส้าหัวก็อยู่ที่นี่แล้ว เขาไม่มีทางปล่อยให้ฉู่เฉินพูดจาอวดดีต่อหน้าคนมากมาย จากนั้นก็สะบัดตูดหนีไปง่ายๆ แน่นอน!ต้องบอกก่อนว่า ตั้งแต่ที่หยางเทียนหลงก้าวขึ้นเป็นคนรวยอันดับต้นๆ ของเมืองเจียงจง ยังไม่เคยมีคุณชายบ้านรวยคนไหนกล้าอวดดีต่อหน้าหยางเส้าหัวขนาดนี้คำนวณจากกำไรสิบเปอร์เซ็นต์ของรถยนต์คันนี้ ก็เท่ากับรายรับหลายล้านบาทแล้ว การยุแยงตะแคงรั่วครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่ามากจริงๆ“อืม…”ฉู่เฉินเงียบไปครู่หนึ่ง หลังจากถูกถามไม่ใช่เพราะไม่มีเงิน แต่เพราะไม่ใช่ว่าจะซื้อให้ใครก็ได้ อันดับแรกต้องตัดกู้รั่วเสวี่ยกับหลินชือหย่าออกไปก่อนเจียงรั่วเหยียนยิ่งไม่ได้เข้าไปใหญ่ถ้าหากเธอขับรถหรูราคาหลายสิบล้านกลับไป วันถัดไปอธิบดีเจียงต้องถูกนำตัวไปตรวจสอบแน่ๆด้วยเหตุนี้ เจียงรั่วเหยียนจึงถูกตัดออกจากตัวเลือกเหมือนกัน“เป็นอะไรไป ไม่ใช่ว่าไม่มีปัญญาซื้อสักคันหรอกนะ”เชอฮุยแยกเขี้ยว ถามอย่างดูถูกสุดๆในสายตาของเขา เดาว่าฉู่เฉินคงยังไม่เห็นราคาของรถคันนั้นชัดๆ ถึงได้กล้าพูดจาบ้าบิ่นแบบนี้ออกมา
จ้าวเจวียนถึงขั้นเสียดายที่ไม่ลาออกมาทำงานกับฉู่เฉินตั้งแต่แรกถึงทำงานที่กรมตำรวจทั้งชีวิต เธอก็ไม่มีทางหาเงินซื้อรถหรูคันหนึ่งได้แน่ๆเห็นอย่างนั้น กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเชอฮุยถึงขั้นกระตุกสั่นฉู่เฉินมีเงินจริงๆ เหรอเนี่ยเขาค่อนข้างไม่อยากเชื่อ จึงรีบเรียกพนักงานขายคนหนึ่งให้หยิบเครื่องรูดบัตรมารูดบัตรเครดิตของฉู่เฉินดู จากนั้นก็พูดกับฉู่เฉินอย่างกระอักกระอ่วนสุดขีดว่า “คุณฉู่ กรุณากดรหัสของคุณด้วยครับ”พริบตาต่อมา เมื่อมีเสียงแจ้งเตือนว่าได้รับเงินสามร้อยล้านแล้ว ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ตะลึงตาค้างไปทันทีโดยเฉพาะจ้าวเจวียนกับกวนเหล่ย พวกเธอแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองรถคนละหนึ่งคัน รวมทั้งหมดสามร้อยล้านบาทงั้นฉู่เฉินก็ซื้อรถหรูราคาร้อยห้าสิบล้านให้พวกเธอคนละคันน่ะสิ?ความสุขมาเยือนกะทันหันเกินไป กวนเหล่ยควบคุมอารมณ์ตื่นเต้นไม่ไหว วิ่งเข้าไปกอดคอฉู่เฉิน และหอมแก้มเขาอย่างบ้าคลั่งภาพนั้นทำให้เย่ชิ่นเหยียนถึงขั้นยืนอึ้งค้างไปกับที่ไม่ใช่แค่เธอที่อึ้ง แม้แต่หยางเส้าหัวที่หันไปมองหน้าเชอฮุย ก็มีสีหน้าที่ดำทะมึนจนน่ากลัวแม่งเอ๊ย ใช้เงินสามร้อยล้านง่ายๆ โดยไม่แม้แต่จะกระ
พูดจบ ฉู่เฉินก็โทรศัพท์หาสองพี่น้องต้วนหลิงเสวี่ยทันทีถึงแม้กวนเหล่ยกับจ้าวเจวียนจะผิดหวังอยู่บ้างแต่การได้เจอกับเจ้านายที่รวยขนาดนี้ ขอแค่ปรนนิบัติพัดวีให้เขาผ่อนคลายสบายใจ วันข้างหน้าไม่แน่อาจได้รถหรูราคาสามร้อยกว่าล้านมาครองก็ได้หลังจากผ่านไปประมาณสิบนาที ณ ประตูทางเข้า แสงแดดยามสายัณห์สาดส่องเข้าสู่ม่านตาของทุกคนผู้หญิงหน้าตาสะสวยดัดผมลอนใหญ่ในชุดกี่เพ้าสีแดงสด เดินเฉิดฉายเข้ามาพร้อมกับบั้นท้ายอันอวบอิ่ม และหน้าอกอันสูงเชิดข้างๆ เธอ มีผู้หญิงสวยเพริศพริ้งที่เรือนร่างมีส่วนเว้าส่วนโค้งอันสมบูรณ์แบบในชุดเดรสสีขาวยืนอยู่ด้วย ภาพที่เห็นกลายเป็นทิวทัศน์อันงดงามและสมบูรณ์แบบอย่างยิ่งพอเห็นสองพี่น้องสกุลต้วน พวกเฒ่าลามกที่ตั้งใจมาถ่ายรูปพริตตี้ถึงขั้นลืมพวกพริตตี้สาวไปทันที พวกเขาหันกล้องมากดชัตเตอร์ใส่สองพี่น้องรัวๆชุดแดงเย้ายวน ชุดขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องพอสองสาวปรากฏตัว ก็ทำให้สาวสวยที่อยู่ในนี้กลายเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ไปในพริบตาแม้แต่เย่ชิ่นเหยียนก็ยังต้องเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงในผิวอันเรียบลื่นดูชุ่มชื่น รวมถึงองคาพยพอันประณีตงดงามของพวกเธอที่จริงนั่นก็มีความดีความชอบข
แววตาที่มองฉู่เฉิน เต็มไปด้วยความรักและเทิดทูนผู้ชายคนนี้ตอนรูดบัตรจ่ายเงิน ช่างหล่อและมีเสน่ห์อะไรอย่างนี้!ยิ่งพอทุ่มเงินให้ผู้หญิงหลายร้อยล้าน แต่กลับยังพูดจาด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้คลื่นอารมณ์อย่างนี้ บวกกับน้ำเสียงทุ้มมีเสน่ห์ของเขา น่าหลงใหลเกินไปแล้วแม้แต่นางแบบสาวที่อยู่ข้างกายหยางเส้าหัว จู่ๆ ก็รู้สึกว่าหยางเส้าหัวไม่ได้เนื้อหอมอะไรขนาดนั้นราวกับว่าฉู่เฉินต่างหากที่คู่ควรกับความงามและคุณค่าของเธอเย่ชิ่นเหยียนในตอนนี้ถูกการกระทำอันบ้าคลั่งไร้การควบคุมของฉู่เฉินทำให้ช็อกค้างไปนานแล้ว เธอถึงขั้นเริ่มตั้งคำถามกับชีวิตของตัวเองขึ้นมาหรือหมอแผนจีนตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะมีเงินได้ขนาดนี้จริงๆ ถึงขั้นที่ว่าจ่ายเงินไปหลายร้อยล้านโดยที่ไม่กระพริบตาเลยแม้แต่น้อย?แล้วผู้หญิงสวยสองคนที่เพิ่งมานั่น เป็นอะไรกับเขากันนะคงไม่ใช่ว่าเป็นคนรักของเขาหมดหรอกนะพอนึกถึงความเป็นไปได้นี้ขึ้นมาได้ เย่ชิ่นเหยียนอดเบนสายตาไปมองจ้าวเจวียนกับกวนเหล่ยไม่ได้ถ้าหากกวนเหล่ยเป็นคนรักของฉู่เฉิน เธออาจจะเชื่อ แต่จ้าวเจวียน…จ้าวเจวียนอายุมากกว่าเธอถึงสามสี่ปีด้วยซ้ำ…ไม่น่าจะใช่คนรักของเขานั่นก็หมา
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก
ในความเป็นจริงทั้งเมืองชิงหลง แทบจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสำนักชิงอวิ๋นตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ก็ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเช่นกันถ้าตระกูลหลินเป็นฝ่ายเริ่มเสนอการสังหารฉู่เฉินพื่อแย่งชิงสมบัติ จากนั้นนำหยกโลหิตกิเลนไปมอบให้กับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ดูเหมือนว่าตระกูลหลินของพวกเขาก็คงจะได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวเต๋อฉวนเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจ้าวและยังเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นอีกด้วยถ้าใจร้อนอยากได้ความดีความชอบโดยปกปิดตระกูลจ้าว ทันทีที่เป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าในอนาคตจะไม่ถูกจ้าวเต๋อฉวนกีดกันดังนั้น ข้อเสนอของหลินฮ่าวจึงได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากบรรดาผู้เฒ่าตระกูลหลินอย่างรวดเร็วในไม่ช้า ตระกูลหลินก็เริ่มดำเนินการ โดยส่งยอดฝีมือจำนวนมากติดตามหลินฮ่าวไปดักรอฉู่เฉินนอกเมืองชิงหลงอีกด้านหนึ่ง ยังได้ส่งลูกหลานตระกูลหลินไปจำนวนไม่น้อยไปแจ้งตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่แค่ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานขั้นที่หกของตระกูลหลิน ก็มีมากถึงสิบกว่าคนแล้วเมื่อรวมกับตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ ภายใต้การร่วมมือของสามตระกูล ไม่ต้องพูดถึง
แม้ว่าจะไม่มีตึกสูง แต่ที่นี่ก็มีสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่บางชนิดจำหน่ายด้วยเหมือนกันหลังจากฟังคำแนะนำของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ งั้นไปที่เมืองชิงหลงกันก่อน”อันที่จริง ในด้านหนึ่งฉู่เฉินต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการหยั่งรู้ และในอีกด้านหนึ่งก็ต้องการค้นหาวัตถุดิบยาในเมืองชิงหลงด้วยอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าทึ่มก็ถึงคอขวดแล้ว และจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นผีดิบเหินฟ้าโดยเร็วที่สุดไม่อย่างนั้น ฉู่เฉินก็คงจะขาดคู่ซ้อมที่แข็งแกร่งไปคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ“คุณจะไปเมืองชิงหลงจริงๆ เหรอ? คุณควรรู้ไว้ว่าตอนนี้คุณในโลกแห่งการหยั่งรู้ก็เหมือนกับเป็นสมบัติที่มีชีวิต ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่กำลังเล็งคุณอยู่”หลิงเสวี่ยกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่นไม่ใช่ว่าเธอเป็นห่วงฉู่เฉินมากขนาดนั้น แต่ถ้าฉู่เฉินตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย“เมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ยังมีใครกล้าคิดร้ายกับผมอีกงั้นเหรอ?”ฉู่เฉินถามด้วยความสงสัยชิ!หลิงเสวี่ยกลอกตามองฉู่เฉินและกล่าวด้วยสีหน้าจนใจ “คุณคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน แม้ว่า