หยางเส้าหัวล้วงโทรศัพท์ออกมาต่อทุกคนในงาน ก่อนจะค้นหาเบอร์โทรศัพท์แล้วโทรออกไปไม่นานนัก ชายวัยกลางคนที่สวมชุดเครื่องแบบสีน้ำเงินก็เบียดฝ่าผู้คนออกมาอยู่ตรงหน้าหยางเส้าหัวแล้วเอ่ยว่า “คุณชายหยาง”หยางเส้าหัวชี้ไปที่ชายวัยกลางคนด้วยใบหน้าลำพองใจก่อนจะกล่าวว่า “ท่านนี้คือหัวหน้าแผนกจ้าวจากกรมขนส่ง ต้องขอโทษมาก ๆ ครับ วันนี้ทางกรมขนส่งหยุด รถทุกคันไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ ถูกต้องไหมครับ? หัวหน้าแผนกหลิว?”หัวหน้าแผนกหลิวอึ้งไปก่อน จากนั้นถึงค่อยพยักหน้าติดต่อกันแล้วเอ่ยว่า “ใช่ ๆๆ วันนี้ไม่สามารถ...” “หัวหน้าแผนกหลิวใช่ไหม? ฉันขอแนะนำคุณสักประโยค คิดให้ดีก่อนแล้วค่อยพูด”หัวหน้าแผนกหลิวยังไม่ทันเอ่ยจบ จ้าวเจวียนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ฉู่เฉินก็มองหัวหน้าแผนกจ้าวด้วยใบหน้ายิ้มหยัน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย็นชาซี้ด!ทำไมหัวหน้าแผนกหลิวยิ่งฟังเสียงนี้ก็ยิ่งรู้สึกคุ้น ๆ?เมื่อหันหน้าไปมอง เขาก็ตกใจจนวิญญาณแทบหลุดลอยปีศาจโลหิต!ยัยนี่เป็นคนโหดเหี้ยมเลยนะ!“อุ๊ย นะ...นี่หัวหน้าจ้าวไม่ใช่เหรอครับ ลมอะไรหอบคุณมาถึงที่นี่ได้ครับ?”หัวหน้าแผนกหลิวดูหวาดกลัวขึ้นมาในพริบตาแม้ว่าหยางเส้าหั
ทว่าฉู่เฉินกลับทำหน้าจริงจัง เย่ชิ่นเหยียนได้แต่ถอนหายใจกล่าวว่า “เขานอกใจ”คำธรรมดาสามคำก็เหนือกว่าคำพูดนับพันนับหมื่นแล้วฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “ไม่เป็นไร เรื่องในอดีตก็ปล่อยให้มันผ่านไป ตอนที่อายุยังน้อยใครไม่เคยเจอคนโง่เง่าบ้างล่ะ?” พรืด! ในกลุ่มคนรอบข้างที่เฝ้าดูความคึกคัก ในที่สุดก็มีคนอดไม่ไหวหัวเราะออกมาสถานการณ์ของหยางเส้าหัวในตอนนี้เลยดูกระอักกระอ่วนมากยิ่งขึ้น ถูกฉู่เฉินชี้หน้าด่าว่าโง่เง่า เขากลับไม่อาจพูดแย้งกลับอะไรได้“คุณฉู่ คุณคิดดีแล้วจริง ๆ เหรอว่าจะเป็นศัตรูกับตระกูลหยาง?”หยวนคุนที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยปากขึ้นมาอีกครั้ง“ทำไมครับ?” ฉู่เฉินหันหน้ามองไปทางหยวนคุน “คุณฉู่อย่าเข้าใจผิดครับ ผมหมายความว่าในเมื่อคุณเป็นลูกค้าของบริษัทจำหน่ายรถเรา ถ้าเกิดมีความต้องการ บริษัทจำหน่ายรถของเราสามารถให้บริการคุ้มครองคุณได้ทุกเมื่อ” “การรับประกันว่าลูกค้าทุกท่านสามารถออกไปได้อย่างปลอดภัยคือหน้าที่ของบริษัทจำหน่ายรถเราครับ” หยวนคุนทำสีหน้าสงบนิ่ง ไม่มีความหวั่นไหวเลยสักนิดเดียว ทว่าได้แสดงจุดยืนออกมาแล้วหยางเส้าหัวที่ได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทั
“ฉู่เฉิน”หลังจากที่รับนามบัตรแล้ว ฉู่เฉินก็เอ่ยปากพูดอย่างเฉยชาก่อนจะโทรศัพท์ไปตามหมายเลขบนนามบัตร เมื่อเสียงดังขึ้นเพียงหนึ่งครั้ง ฉู่เฉินก็วางสายหยวนคุนอดอึ้งไม่ได้ ก่อนจะเข้าใจทันทีแล้วแหงนหน้าหัวเราะเสียงดังลั่นขึ้นมา“ไม่มีนามบัตร ขอโทษด้วยนะครับ แต่ว่าเป็นเพื่อนกันได้”ฉู่เฉินกล่าวจบก็ยัดนามบัตรเข้าไปในอกหยวนคุนพยักหน้าเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นกล่าวว่า “น้องชาย ถ้าเกิดต้องการอะไร สามารถโทรเข้าเบอร์นั้นได้ตลอดเวลา ไม่มีใครในเจียงจงทำร้ายคุณได้หรอก”ฉู่เฉินก็ลุกขึ้นมาเช่นกัน ก่อนจะจับมือกับหยวนคุนแล้วพูดว่า “คนที่ทำร้ายผมได้ยังไม่เกิดมาหรอกครับ” หยวนคุนตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าเอ่ยด้วยรอยยิ้มทันทีว่า “น้องชายมีมาดไม่ธรรมดาจริง ๆ ผมขอตัวก่อนนะ” เมื่อเห็นหยวนคุนเดินไปไกลแล้ว ใบหน้าของหยางเส้าหัวก็เผยรอยยิ้มหยันที่ดุดันออกมาตราบใดที่หยวนคุนไม่สอดมือ วันนี้ฉู่เฉินจะต้องตายอย่างแน่นอน!ในขณะที่เย่ชิ่นเหยียนขับรถสปอร์ตกลับมาที่โชว์รูมรถ ชายชราผมสีดอกเลาสวมเสื้อคอจีนสองคนก็เดินลงมาจากรถเก๋งสีดำเมื่อเห็นชายชราสองคนนี้ หลายคนในที่แห่งนี้ก็ร้องอุทานออกมาเย่ชิ่นเหยียนตกใจจนสะ
หมอนี่บ้าไปแล้วหรือไง?นั่นคือผู้อาวุโสฮวากับผู้อาวุโสกู่ เป็นตัวตนที่แม้แต่ปรมาจารย์จินเจิ้นหลงเห็นก็ต้องคุกเข่าโขกหัวคารวะคนอื่นเขาไม่ได้หาเรื่องคุณก็โชคดีมากแล้วคุณกลับกล้าหาเรื่องเองเนี่ยนะ?!เย่ชิ่นเหยียนเครียดจนพูดไม่ออกแล้ว มือเล็ก ๆ ที่ดึงแขนของฉู่เฉินไว้ก็สั่นเทาไม่หยุด ถึงแม้เธอจะรู้จักกับฉู่เฉินได้ไม่นาน แต่เธอไม่อยากให้ฉู่เฉินเกิดเรื่องขึ้นมาจริง ๆ“สหายน้อย คุณกำลังพูดกับผมเหรอ?” ฮวาว่านโหลวหันตัวกลับมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะมองฉู่เฉินด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ“ถ้าไม่ได้พูดกับคุณ แล้วพูดกับอากาศหรือไง?”ฉู่เฉินหยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวนแล้วจุดไฟทันที เขาสูบพ่นควันพลางเอ่ยปากพูดอย่างเรียบนิ่งว่า “คนที่เที่ยวข่มผู้อื่นโดนอาศัยว่าตัวเองอาวุโสกว่า ผมเห็นมาเยอะแล้ว แต่ว่าคนที่อายุเท่าคุณแต่ยังทำตัวอวดเก่ง ผมไม่ค่อยเห็นจริง ๆ” แค่ก ๆๆ...ฮวาว่านโหลวอดกระแอมไอแรง ๆ ไม่ได้ เขาอวดเก่งตั้งแต่เมื่อไหร่?ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าวันนี้ยังมีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า นายคิดว่าเรื่องนี้จะแล้วกันไปแบบนี้เหรอ? ให้ทางรอดนายแท้ ๆ แต่นายจะหาเรื่องตายเองให้ได้“ดูเหมือ
ในขณะที่ทุกคนคิดว่าวินาทีต่อมาฉู่เฉินจะถูกพลังกดดันอันน่าสะพรึงกลัวสองสายนี้กดดันจนคุกเข่าลงทันที ฉู่เฉินกลับแค่นเสียงเย็นแล้วโบกมือหนึ่งที พลังกดดันอันน่ากลัวสองสายหายไปอย่างไร้ร่องรอยในพริบตา!เมื่อเห็นฉากนี้ ฮวาว่านโหลวกับกู่ฉางเซิงตกตะลึงไปเล็กน้อย แม้แต่หยางเส้าหัวก็ไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง ยังนึกว่าตัวเองมองผิดไปใช่หรือเปล่า พลังกดดันสองสายของผู้แข็งแกร่งระดับฝึกปราณชั้นเจ็ดถูกฉู่เฉินจัดการง่ายดายขนาดนี้เชียวเหรอ?“เจ้าหนุ่ม คิดไม่ถึงว่าคุณจะเก็บงำฝีมือไว้ลึกมากเลย”กู่ฉางเซิงหรี่ตา จ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉิน!จนกระทั่งตอนนี้เอง เขากับฮวาว่านโหลวถึงตระหนักได้ว่าที่แท้ฉู่เฉินก็เป็นสุดยอดฝีมือระดับฝึกปราณชั้นเจ็ดเหมือนกัน! แม้ในใจของเขาจะตกตะลึงอย่างยิ่ง แต่ว่าต่อให้ฉู่เฉินเอาชนะหนึ่งในพวกเขาได้ก็ไม่อาจพลิกสถานการณ์ได้เลย สองต่อหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้อย่างยุติธรรมระหว่างระดับเดียวกัน ฉู่เฉินก็ไม่มีทางรอดไปได้เด็ดขาด“เลิกพูดจาไร้สาระ พวกคุณสองคนจะเข้ามาทีละคน หรือว่าเข้ามาพร้อมกัน?” ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง ไม่เห็นกู่ฉางเซิงกับฮวาว่านโหลวอยู่ในสายตาเลย แค่ระดับ
“ผู้อาวุโสกู่กับผู้อาวุโสเป็นยอดคนเร้นกาย เมื่อกี้ไว้หน้าเขามากพอแล้ว แต่เขากลับไม่รู้ผิดชอบชั่วดี คนแบบนี้ไม่ช้าก็เร็วจะก่อเภทภัยใหญ่หลวงขึ้นมา”เย่ชิ่นเหยียนกลอกตาใส่เชอฮุย เธอไม่ได้คิดแบบนี้เลยฉู่เฉินทำแบบนี้ก็มีต้องมีเหตุผลของฉู่เฉิน อีกอย่างเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเธอ เธอจะทอดทิ้งฉู่เฉินได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น อาการป่วยของคุณย่ายังต้องพึ่งพาฉู่เฉินด้วย ต่อให้ฉู่เฉินยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตระกูลหยางจริง ๆ เย่ชิ่นเหยียนก็ไม่มีทางถอยหนีเป็นอันขาด!หยางเส้าหัวยิ่งมองฉู่เฉินด้วยสีหน้าเหมือนกำลังชมละครสนุก ๆ พูดตามตรง ฐานะนักสู้ของฉู่เฉินทำให้เขาค่อนข้างรู้สึกแปลกใจจริง ๆ แต่แล้วอย่างไรล่ะ?มีผู้อาวุโสฮวากับผู้อาวุโสกู่อยู่ ฉู่เฉินยังสร้างความปั่นป่วนอะไรได้อีก?หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่รู้ว่าพวกเขาสองคนช่วยตระกูลหยางต้านทานคลื่นยักษ์โหมกระหน่ำมาแล้วกี่ครั้ง และช่วยตระกูลหยางกำจัดเภทภัยต่อหนทางในการพัฒนามาแล้วกี่ครั้งฉู่เฉินกล้าท้าทายพวกเขาสองคน นี่เท่ากับเป็นการรนหาที่ตาย!ถ้าเกิดฉู่เฉินยอมถอยทันที ฮวาว่านโหลวกับกู่ฉางเซิงก็คงมอบทางรอดให้ฉู่เฉินเพราะเกรงต่อคำวิพากษ์ว
ในความคิดของเขา แม้ว่าจะอยู่ระดับเดียวกัน แต่การต่อกรกับเด็กรุ่นหลังอย่างฉู่เฉินไม่จำเป็นต้องลงแรงมากมายเลยแค่ใช้กระบวนท่าเดียวก็สามารถทำให้ฉู่เฉินพิการได้ง่าย ๆ แล้วนอกจากนี้ถ้าเกิดจัดการฉู่เฉินได้ในกระบวนท่าเดียวก็สามารถสร้างบารมีต่อหน้าผู้คนได้พอดี!ถึงอย่างไรตั้งแต่ห้าปีก่อน เขากับกู่ฉางเซิงก็ไม่เคยได้ลงมือเลยผ่านมาหลายปีขนาดนี้ ต้องทำให้ผู้คนในวงการเดียวกันของเจียงจงรู้ว่าเขาฮวาว่านโหลวยังคงแข็งแกร่งแม้ว่าจะอายุมากแล้ว!ใช้เรื่องนี้มาสร้างความสั่นสะเทือนให้กับพวกคนถ่อยที่พยายามท้าทายเขานอกจากนี้การฆ่าฉู่เฉินยิ่งฆ่าอย่างเด็ดขาด ยิ่งสามารถสร้างชื่อเสียงบารมีให้กับเขาได้เพียงแต่ว่าสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเสียดายคือฉู่เฉินเป็นเพียงคนรุ่นเยาว์ที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนามเท่านั้น ถ้าเกิดวันนี้คนที่เขาเผชิญหน้าด้วยเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมานาน เช่นนั้นการต่อสู้ครั้งนี้ก็จะมีความหมายต่อเขามากขึ้นฉู่เฉินเห็นว่าปลายเท้าของอีกฝ่ายพุ่งตรงมาที่หน้าอกของตัวเอง เขาก็เบี่ยงตัวเล็กน้อยอย่างไม่รีบร้อนตื่นตระหนก หลบลูกเตะทะลวงหัวใจของฮวาว่านโหลวทันที “ไม่เลว คนที่สามารถหลบลูกเตะนี้ของผมได้
ฉากนี้ทำให้ทุกคนในเหตุการณ์สูดลมหายใจเย็นเยียบติดต่อกันเย่ชิ่นเหยียนก็ลอบหวาดเสียวแทนฉู่เฉินในใจ เมื่อเห็นฉู่เฉินหลบการโจมตีเข้าเป้าของตัวเองอีกครั้ง ฮวาว่านโหลวก็หงุดหงิดเล็กน้อยเช่นกัน เขาไม่รอให้ออกกระบวนท่าจนเสร็จก็ทะยานตัวขึ้นมาตามไล่ฆ่าฉู่เฉินตูม! ฉู่เฉินกับฮวาว่านโหลวปะทะกระบวนท่ากันกลางอากาศอีกครั้ง ก่อนที่ร่างทั้งสองพากันลอยออกไปสิ่งเดียวที่แตกต่างกันคือฉู่เฉินกางแขนสองข้างลอยละล่องลงพื้นราวกับห่านป่าแต่ฮวาว่านโหลวกลับต้องลำบากมากกว่า เขาตีลังกาในอากาศหลายที ตอนที่สองเท้าร่อนลงพื้นก็ถอยหลังไปหลายก้าวถึงจะฝืนยืนทรงตัวได้เมื่อเทียบกับท่าทางสบาย ๆ ของฉู่เฉินแล้ว เวลานี้ฮวาว่านโหลวกลับมีสีหน้าย่ำแย่สุดขีดการโจมตีที่ปะทะด้วยเมื่อครู่นี้ทำให้เลือดลมในกายของเขาพลุ่งพล่านไม่หยุด เหมือนมีลมปราณกลุ่มหนึ่งพุ่งขึ้นมาที่หน้าอก ไม่อาจควบคุมได้เลย“พรวด!” วินาทีต่อมา ฮวาว่านโหลวกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ทันที ตัวสั่นโงนเงนอยู่หลายครั้งกู่ฉางเซิงที่อยู่ข้าง ๆ เห็นฉากนี้ก็อดตกใจยกใหญ่ไม่ได้ไม่จำเป็นต้องถามเลย จะต้องเป็นเพราะกระบวนท่าที่ปะทะกันเมื่อครู่นี้อย่างแน่นอน ฉู่เฉินไ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก
ในความเป็นจริงทั้งเมืองชิงหลง แทบจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสำนักชิงอวิ๋นตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ก็ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเช่นกันถ้าตระกูลหลินเป็นฝ่ายเริ่มเสนอการสังหารฉู่เฉินพื่อแย่งชิงสมบัติ จากนั้นนำหยกโลหิตกิเลนไปมอบให้กับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ดูเหมือนว่าตระกูลหลินของพวกเขาก็คงจะได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวเต๋อฉวนเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจ้าวและยังเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นอีกด้วยถ้าใจร้อนอยากได้ความดีความชอบโดยปกปิดตระกูลจ้าว ทันทีที่เป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าในอนาคตจะไม่ถูกจ้าวเต๋อฉวนกีดกันดังนั้น ข้อเสนอของหลินฮ่าวจึงได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากบรรดาผู้เฒ่าตระกูลหลินอย่างรวดเร็วในไม่ช้า ตระกูลหลินก็เริ่มดำเนินการ โดยส่งยอดฝีมือจำนวนมากติดตามหลินฮ่าวไปดักรอฉู่เฉินนอกเมืองชิงหลงอีกด้านหนึ่ง ยังได้ส่งลูกหลานตระกูลหลินไปจำนวนไม่น้อยไปแจ้งตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่แค่ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานขั้นที่หกของตระกูลหลิน ก็มีมากถึงสิบกว่าคนแล้วเมื่อรวมกับตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ ภายใต้การร่วมมือของสามตระกูล ไม่ต้องพูดถึง
แม้ว่าจะไม่มีตึกสูง แต่ที่นี่ก็มีสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่บางชนิดจำหน่ายด้วยเหมือนกันหลังจากฟังคำแนะนำของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ งั้นไปที่เมืองชิงหลงกันก่อน”อันที่จริง ในด้านหนึ่งฉู่เฉินต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการหยั่งรู้ และในอีกด้านหนึ่งก็ต้องการค้นหาวัตถุดิบยาในเมืองชิงหลงด้วยอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าทึ่มก็ถึงคอขวดแล้ว และจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นผีดิบเหินฟ้าโดยเร็วที่สุดไม่อย่างนั้น ฉู่เฉินก็คงจะขาดคู่ซ้อมที่แข็งแกร่งไปคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ“คุณจะไปเมืองชิงหลงจริงๆ เหรอ? คุณควรรู้ไว้ว่าตอนนี้คุณในโลกแห่งการหยั่งรู้ก็เหมือนกับเป็นสมบัติที่มีชีวิต ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่กำลังเล็งคุณอยู่”หลิงเสวี่ยกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่นไม่ใช่ว่าเธอเป็นห่วงฉู่เฉินมากขนาดนั้น แต่ถ้าฉู่เฉินตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย“เมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ยังมีใครกล้าคิดร้ายกับผมอีกงั้นเหรอ?”ฉู่เฉินถามด้วยความสงสัยชิ!หลิงเสวี่ยกลอกตามองฉู่เฉินและกล่าวด้วยสีหน้าจนใจ “คุณคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน แม้ว่า