“ขู่ไห่ คุณแก่แล้ว”ปรมาจารย์ขู่ไห่หน้าแดงก่ำ เขาละอายใจและอึดอัดใจมา “ปรมาจารย์ฉู่ ผมแก่แล้วจริงๆ ความสามารถสู้คุณไม่ได้”“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะปิดเขา”ว่าแล้วปรมาจารย์ขู่ไห่กัดฟัน ก่อนจะคุกเข่าลงบนพื้น โขกหัวพร้อมกับกล่าวว่า “ผมขู่ไห่ ไม่ใช่คนผิดสัจจะ วันนี้ ขอกราบคุณเป็นอาจารย์!”เหตุการณ์นี้ทำให้ถังจิ้งจือตกตะลึงอย่างมากปรมาจารย์ขู่ไห่คุกเข่าเรียกฉู่เฉินว่าอาจารย์จริงๆฉู่เฉินยิ้มน้อยๆ “ลุกขึ้นมาเถอะ”ปรมาจารย์ขู่ไห่ลุกขึ้น ใบหน้าแดงก่ำ ก่อนเอ่ยว่า “อาจารย์ฉู่อยู่เหนือกว่า นับแต่นี้ไป วงการฮวงจุ้ยของเมืองเจียงจง อาจารย์ฉู่นับว่าเป็นผู้มีเกียรติสูงสุด”“เอาล่ะ ผมไม่ได้สนใจฮวงจุ้ยอะไรพวกนั้น” ฉู่เฉินโบกมือปรมาจารย์ขู่ไห่ยืนอยู่ด้านหนึ่งด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน“หลังจากนี้ เรื่องการขจัดอาถรรพ์มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของคุณแล้วกัน” ฉู่เฉินเอ่ยขู่ไห่รีบรับคำ “ครับๆๆ”จากนั้น ขู่ไห่หาพู่กัน หมึก และผ้ายันต์สีเหลืองมา ก่อนจะวาดยันต์ผนึกวิญญาณติดไว้บนผ้าห่อศพผืนนั้นไอโลหิตrพิฆาตที่แผ่อยู่รอบๆ ผ้าห่อศพผืนนั้นพลันหายไปในพริบตาขู่ไห่หยิบผ้าห่อศพผืนนั้นขึ้นมากับมือตัวเอ
“สตรีศักดิ์สิทธิ์ เป็นอะไรไปหรือ?”หญิงสาวเบี่ยงตัว ขณะที่ชายวัยกลางคนคนหนึ่งถามด้วยท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตนต้วนหลงไห่ ประธานสมาคมศิลปะการต่อสู้ของเมืองเจียงจงหญิงสาวขมวดเรียวคิ้วงามเล็กน้อย ก่อนเอ่ยว่า “เปล่า ไปกันเถอะ”ก่อนจะไป หญิงสาวมองหอสมบัติด้วยสายตาเย็นยะเยือกเวลานี้ ฉู่เฉินเดินเข้าไปข้างในหอสมบัติ พอเข้าไป เขาก็ต้องตกตะลึงไปทันทีหอสมบัติแห่งนี้ สมแล้วที่เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนและซื้อขายของเก่าโบราณที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเจียงจงของโบราณในที่แห่งนี้ มีมากมายนับไม่ถ้วน หลากหลายละลานตาแต่ละชิ้นล้วนแล้วแต่มีราคาหลายล้าน!“คุณคะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?” ในขณะที่ฉู่เฉินกำลังยืนอึ้ง พนักงานหญิงในชุดสูทสีแดงตัวเล็กกับกระโปรงรัดสะโพกคนหนึ่ง เดินประสานมือไว้ใต้หน้าอกอันน่าภาคภูมิใจเข้ามาอย่างเป็นมิตรพร้อมกับรอยยิ้มเรียวขายาวๆ คู่นั้นสวมใส่ถุงน่องสีดำบางๆนี่สิมืออาชีพ! ต้อนรับแขกทุกคนด้วยความจริงใจและรอยยิ้ม“มีกระถางหลอมยาอายุสามร้อยปีขึ้นไปไหมครับ?” ฉู่เฉินถามพนักงานหญิงมองพิจารณาฉู่เฉินเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มตอบว่า “มีค่ะ เชิญตามฉันมาทางนี้ได้เลยค่ะ”ถานเชี่ยนเชี่ยนเพิ่งมาทำงา
คำพูดนี้แทบจะเหมือนเชื้อเชิญตรงๆ แล้วผู้ชายทั่วไป คงไม่มีใครทนการยั่วยวนของผู้จัดการร้านคนนี้ได้อย่างไรเสีย เธอก็ไม่ได้หน้าตาขี้เหร่เลย ทรวดทรงองค์เอวนับว่าร้อนแรง โดยเฉพาะยิ่งเธอแต่งตัวเซ็กซี่อย่างนี้ จึงทำให้รู้สึกได้ถึงแรงยั่วยวนเกินต้านทางนั้น ถานเชี่ยนเชี่ยนเบ้ปาก น้ำตาแทบจะร่วงลงมาแล้วเธอรู้ว่าตัวเองถูกแย่งบิลซะแล้วแต่ก็ช่วยไม่ได้คนอื่นเขาเป็นถึงผู้จัดการร้านนี่นาบิลนี้ ค่าคอมมิชชั่นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ได้ตั้งหนึ่งแสนห้าหมื่นกว่าเชียวนะ!แต่เพื่อเงินหนึ่งแสนห้าหมื่น จะยอมเสียหม้อข้าวอย่างหอสมบัติไปก็ไม่คุ้มค่าเพราะอย่างไร พอคนที่บ้านหรือพวกญาติสนิทมิตรสหายได้ยินว่าเธอได้มาทำงานที่หอสมบัติ ต่างก็ภูมิใจแทนเธอกันสุดๆงานที่หอสมบัติได้เงินเดือนสามสี่หมื่น ปีหนึ่งก็ได้สี่ห้าแสนกว่าบาทเชียวนะ!ภายใต้ความจนใจ ถานเชี่ยนเชี่ยนทำได้แค่ปาดน้ำตาอย่างกล้ำกลืนฝืนทน ก่อนจะหันตัวเดินไปอีกทางแต่ฉู่เฉินกลับเลือกที่จะมองข้ามผู้จัดการร้าน และหันไปตะโกนเรียกถานเชี่ยนเชี่ยน “คุณอย่าเพิ่งไป มานี่ก่อนครับ”ถานเชี่ยนเชี่ยนอึ้ง เธอหันหน้ามามองฉู่เฉินอย่างอึ้งๆผู้จัดการร้านเองก็อึ้งเช่น
สิ้นประโยคนี้ ไม่เพียงดวงหน้าเรียวของโจวเทียนเฟิ่งที่ตะลึงค้าง เรียวคิ้วงามของเธอปรากฏแววเย็นยะเยือก แม้แต่พนักงานในร้านที่กำลังแนะนำสิ่งของให้โจวเทียนเฟิ่งก็ทำหน้าไม่พอใจอย่างมาก พร้อมกับตำหนิว่า“เงียบไปเลยนะ! คุณพูดจาเหลวไหลอะไรของคุณ? ของฝังศพอะไร ไอศพอะไรกัน?”“หอสมบัติของเราไม่เคยขายสิ่งของที่ไม่สะอาด!”“ถ้าคุณยังพูดจาไร้สาระอีก ระวังฉันจะแจ้งตำรวจมาจับคุณ!”พนักงานในร้านสีหน้าขมึงทึงเย็นชา ถลึงตาจ้องฉู่เฉินอย่างไม่สบอารมณ์สุดขีดโจวเทียนเฟิ่งยักคิ้วงาม ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณฉู่ อย่าคิดว่าเคยแสดงฝีมือต่อหน้าฉันนิดหน่อย แล้วจะคิดว่าตัวเองเป็นปรมาจารย์จริงๆ”“ในสายตาของฉัน คุณก็เป็นแค่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเท่านั้น”“ฉันเรียกคุณว่าคุณฉู่ก็เพราะไว้หน้า ถ้าไม่ไว้หน้า ฉันคงสั่งให้คนทุบฟันในปากให้แหลกไปแล้ว!”โจวเทียนเฟิ่งไม่พอใจอย่างมากไม่เคยมีใครกล้าพูดจาอย่างนี้กับเธอสิ่งของฝังพร้อมคนตายอะไรกัน ไหนจะไอศพ และผิวเน่าเปื่อยอะไรของเขาอีก คำพูดเหลวไหลทั้งเพ!ตั้งแต่ที่หน้าร้านแล้ว โจวเทียนเฟิ่งรู้สึกว่าสายตาที่ฉู่เฉินมองเธอไม่ปกติเจ้าหมอนี่ คงคิดอยากจะโชว์ฝี
“ใช่” จินอ้าวเทียนยิ้ม ก่อนจะเหวี่ยงหวัดใส่อากาศสองสามทีในท่าที่คิดว่าตัวเองหล่อที่สุด และบอกว่า “บ้านผมสืบทอดศิลปะการต่อสู้มารุ่นต่อรุ่น เปิดสำนักมวยในเมืองเจียงจงติดต่อกันมาสามรุ่นแล้ว”“ผมเองก็เรียนทุกอย่าง อย่างเทควันโด้ มวยซ่านโฉ่วอะไรพวกนั้น ผมเป็นหมดทุกอย่าง”“โดยปกติ คนสิบคนเข้าใกล้ผมไม่ได้ด้วยซ้ำ”หลิ่วหรูเยียนเผยยิ้มเย็นชาที่มุมปาก “คุณชายจิน ช่วยฉันสั่งสอนไอ้ฉู่เฉินนั่นที จะให้ดีทำให้มันพิการไปเลย!”“ไม่มีปัญหา แต่จบเรื่องแล้วคุณต้องไปกินข้าวกับผมนะ” จินอ้าวเทียนหรี่ตายิ้มหลิ่วหรูเยียนไม่รังเกียจ “ได้ ไม่มีปัญหา”เธอมั่นใจในหุ่นและความสวยของเธอมากถ้าใช้ประโยชน์จากเรือนร่างสั่งให้ผู้ชายทำงานแทนเธอได้ แล้วจะมัวรออะไรล่ะ?นี่ก็เป็นหนึ่งในความสามารถเหมือนกันนี่“ที่อยู่คือที่ไหน? อีกเดี๋ยวผมจะพาคนไป รับรองได้ว่าจะช่วยตัดแขนตัดขาไอ้หมอนั่นให้คุณแน่นอน” จินอ้าวเทียนพูดอย่างยโสชั่วร้าย……ขณะเดียวกันทางฝั่งฉู่เฉิน เขาพกกระถางหลอมยาไปที่ร้านขายยาอีกหลายร้าน ใช้บัตรที่ถังจิ้งจือให้ซื้อสมุนไพรมาล็อตหนึ่ง จากนั้นก็กลับไปที่บ้านใหญ่ตระกูลฉู่หลังจากมาถึงบ้านใหญ่ ฉู่เฉินก
ไอสังหารขุมนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว!ฉู่เฉินตกใจ พูดในใจว่าแย่แล้ว!พลังนั่นพุ่งมาทางเขา!หลิ่วชิงเหอส่งมาเหรอ?ไม่มีเวลาให้คิดมาก ฉู่เฉินรีบปลดปล่อยพลังซ่อนกลิ่นอายที่มังกรเฒ่าถ่ายทอดให้เขา เพื่อบดบังบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ทั้งหลังให้หายวับไปกับตาขณะเดียวกัน เหยาฉือที่กำลังพุ่งตัวมาทางนี้พลันขมวดเรียวคิ้วงาม เธอยืนอยู่กลางอากาศ ราวกับเทพเซียนผู้งดงามและเย็นชา“กลิ่นอายนั่นหายไปแล้ว?”ดวงหน้างามล่มเมืองของเหยาฉือเย็นยะเยือกสุดขีด“ไอ้มังกรลามกบัดซบ! อย่าคิดว่าหลบพ้นครั้งหนึ่ง แล้วจะหลบพ้นไปตลอดชีวิต!”“ข้าจะหาตัวเจ้าให้พบสักวัน ขอดเกล็ดมังกรของเจ้า กระชากเอ็นมังกรของเจ้า ตรึงวิญญาณของเจ้าไว้หมื่นปี!”พูดจบ เหยาฉือปลดปล่อยดวงจิตของตัวเองออกไปเพื่อตามหาอีกหลายรอบอย่างแค้นใจ แต่ก็หากลิ่นอายของมังกรลามกไม่เจอต้องเป็นวิชาลับอำพรางของเผ่ามังกรแน่ตอนนั้น ไอ้มังกรลามกก็ใช้วิชานี้ของเผ่ามังกรเพื่อลักลอบเข้ามาในสำนักเซียนเหยาฉือ และบุกเข้ามาแอบดูนางอาบน้ำที่สระน้ำ…น่าชังนัก!เหยาฉือกำฝ่ามือเรียวงามเข้าหากันแน่น นางแค่นเสียง ก่อนจะหันหลังเหินตัวจากไปณ บ้านใหญ่ตระกูลฉู่ฉู่เฉินสัม
คนขับรถคนเดิมรีบเดินพรวดพราดเข้ามา ก่อนจะถามว่า “เจ๊ใหญ่ มีอะไรเหรอครับ?”“สืบหาที่อยู่ของฉู่เฉินเจอหรือยัง?” โจวเทียนเฟิ่งถามอย่างร้อนใจเพราะเธอรู้สึกเจ็บที่ผิวหนังมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว แม้แต่อวัยวะภายในก็เริ่มรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาด้วย“สืบเจอแล้วครับ เจ๊ใหญ่ จะจัดการเขาเหรอครับ?” เสียวหู่ฉีกยิ้มมุมปากเขาแทบอดใจลงมือสั่งสอนไอ้ฉู่เฉินนั่นไม่ไหวแล้ว!กล้าพูดจาล่วงเกินเจ๊ใหญ่ บัดซบ!“จัดการอะไรล่ะ! รีบเตรียมรถ ฉันจะไปหาฉู่เฉิน!” โจวเทียนเฟิ่งถลึงตาใส่เสียวหู่พอขึ้นมาบนรถ โจวเทียนเฟิ่งเจ็บจนเหงื่อเริ่มซึม ผิวของเธอเน่าเปื่อยเร็วกว่าที่เธอคิดเสียอีก ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ เริ่มมีกลิ่นเน่าเหม็นโชยออกมาจากตัวเธอแล้ว กลิ่นนั้นเหมือนกลิ่นเหม็นเน่าของศพไม่มีผิด“เร็วเข้า! ไปหาฉู่เฉินที่บ้านใหญ่ตระกูลฉู่!” โจวเทียนเฟิ่งร้อนรน“ครับ!” เสียวหู่เองก็ร้อนใจเช่นกัน ดูก็รู้ว่าอาการของเจ๊ใหญ่ไม่สู้ดีย้อนกลับมาฝั่งฉู่เฉิน เขาพ่นลมหายใจออกมา พลังวิญญาณในจุดตันเถียนถูกเติมเต็มเกือบเจ็ดแปดส่วนแล้วฉู่เฉินลุกขึ้นเดินไปทางลานสวน เด็ดใบไม้ติดมือมาหนึ่งใบ จากนั้นก็ตวัดออกไป!ใบไม้พุ่งแหวกอากาศออ
โจวเทียนเฟิ่งกับเสียวหู่ตะลึงตาค้างไปทันทีไม่มีใครคาดคิดว่าฉู่เฉินจะบ้าบิ่นได้ขนาดนี้ เขาไม่เห็นโจวเทียนเฟิ่งอยู่ในสายตาเลยสักนิด“ฉู่เฉิน! รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไรอยู่?”โจวเทียนเฟิ่งเบิกดวงตางามกว้าง สายตาคมกริบสีหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวดที่ได้รับจากการเน่าเปื่อยของผิวหนัง เธอเป็นถึงเจ๊ใหญ่แห่งเมืองเจียงจงเชียวนะ!เป็นบุคคลที่เมื่อขานเรียกใคร ผู้นั้นก็ต้องตอบรับฉู่เฉินที่ยืนอยู่ตรงหน้ากลับกล้าไล่เธอให้ไสหัวไป?เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ?“ผมย่อมรู้ดีแก่ใจว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่ ขอบอกให้รู้ว่าปัญหาของคุณเกิดจากพิษศพ เป็นโรคที่เกิดจากพลังหยิน หมอทั่วไปรักษาไม่หายหรอก”“ถึงคุณจะรักษายังไงก็ต้องตาย พูดง่ายๆ ก็คือ โรคของคุณมีแต่ผมที่รักษาได้!”ฉู่เฉินพูดอย่างเย็นชา“ฉู่เฉิน อย่าคิดว่าอวดฉลาดโชว์ความสามารถต่อหน้าผู้คนได้นิดหน่อยแล้วจะยกย่องตัวเองเป็นปรมาจารย์ได้จริงๆ! รีบรักษาให้ฉันซะ ก่อนที่ฉันจะโมโห!”โจวเทียนเฟิ่งพูดอย่างไม่พอใจสุดขีดหลายปีแล้วที่ไม่มีใครกล้าพูดอย่างนี้กับเธอ“ไอ้เด็กเปรต! รีบรักษาให้เจ๊ใหญ่เดี๋ยวนี้! ไม่งั้นฉันตัดไอ้จ้อนของแก!
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก
ในความเป็นจริงทั้งเมืองชิงหลง แทบจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสำนักชิงอวิ๋นตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ก็ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเช่นกันถ้าตระกูลหลินเป็นฝ่ายเริ่มเสนอการสังหารฉู่เฉินพื่อแย่งชิงสมบัติ จากนั้นนำหยกโลหิตกิเลนไปมอบให้กับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ดูเหมือนว่าตระกูลหลินของพวกเขาก็คงจะได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวเต๋อฉวนเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจ้าวและยังเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นอีกด้วยถ้าใจร้อนอยากได้ความดีความชอบโดยปกปิดตระกูลจ้าว ทันทีที่เป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าในอนาคตจะไม่ถูกจ้าวเต๋อฉวนกีดกันดังนั้น ข้อเสนอของหลินฮ่าวจึงได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากบรรดาผู้เฒ่าตระกูลหลินอย่างรวดเร็วในไม่ช้า ตระกูลหลินก็เริ่มดำเนินการ โดยส่งยอดฝีมือจำนวนมากติดตามหลินฮ่าวไปดักรอฉู่เฉินนอกเมืองชิงหลงอีกด้านหนึ่ง ยังได้ส่งลูกหลานตระกูลหลินไปจำนวนไม่น้อยไปแจ้งตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่แค่ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานขั้นที่หกของตระกูลหลิน ก็มีมากถึงสิบกว่าคนแล้วเมื่อรวมกับตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ ภายใต้การร่วมมือของสามตระกูล ไม่ต้องพูดถึง
แม้ว่าจะไม่มีตึกสูง แต่ที่นี่ก็มีสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่บางชนิดจำหน่ายด้วยเหมือนกันหลังจากฟังคำแนะนำของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ งั้นไปที่เมืองชิงหลงกันก่อน”อันที่จริง ในด้านหนึ่งฉู่เฉินต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการหยั่งรู้ และในอีกด้านหนึ่งก็ต้องการค้นหาวัตถุดิบยาในเมืองชิงหลงด้วยอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าทึ่มก็ถึงคอขวดแล้ว และจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นผีดิบเหินฟ้าโดยเร็วที่สุดไม่อย่างนั้น ฉู่เฉินก็คงจะขาดคู่ซ้อมที่แข็งแกร่งไปคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ“คุณจะไปเมืองชิงหลงจริงๆ เหรอ? คุณควรรู้ไว้ว่าตอนนี้คุณในโลกแห่งการหยั่งรู้ก็เหมือนกับเป็นสมบัติที่มีชีวิต ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่กำลังเล็งคุณอยู่”หลิงเสวี่ยกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่นไม่ใช่ว่าเธอเป็นห่วงฉู่เฉินมากขนาดนั้น แต่ถ้าฉู่เฉินตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย“เมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ยังมีใครกล้าคิดร้ายกับผมอีกงั้นเหรอ?”ฉู่เฉินถามด้วยความสงสัยชิ!หลิงเสวี่ยกลอกตามองฉู่เฉินและกล่าวด้วยสีหน้าจนใจ “คุณคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน แม้ว่า