สิ้นประโยคนี้ ไม่เพียงดวงหน้าเรียวของโจวเทียนเฟิ่งที่ตะลึงค้าง เรียวคิ้วงามของเธอปรากฏแววเย็นยะเยือก แม้แต่พนักงานในร้านที่กำลังแนะนำสิ่งของให้โจวเทียนเฟิ่งก็ทำหน้าไม่พอใจอย่างมาก พร้อมกับตำหนิว่า“เงียบไปเลยนะ! คุณพูดจาเหลวไหลอะไรของคุณ? ของฝังศพอะไร ไอศพอะไรกัน?”“หอสมบัติของเราไม่เคยขายสิ่งของที่ไม่สะอาด!”“ถ้าคุณยังพูดจาไร้สาระอีก ระวังฉันจะแจ้งตำรวจมาจับคุณ!”พนักงานในร้านสีหน้าขมึงทึงเย็นชา ถลึงตาจ้องฉู่เฉินอย่างไม่สบอารมณ์สุดขีดโจวเทียนเฟิ่งยักคิ้วงาม ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณฉู่ อย่าคิดว่าเคยแสดงฝีมือต่อหน้าฉันนิดหน่อย แล้วจะคิดว่าตัวเองเป็นปรมาจารย์จริงๆ”“ในสายตาของฉัน คุณก็เป็นแค่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเท่านั้น”“ฉันเรียกคุณว่าคุณฉู่ก็เพราะไว้หน้า ถ้าไม่ไว้หน้า ฉันคงสั่งให้คนทุบฟันในปากให้แหลกไปแล้ว!”โจวเทียนเฟิ่งไม่พอใจอย่างมากไม่เคยมีใครกล้าพูดจาอย่างนี้กับเธอสิ่งของฝังพร้อมคนตายอะไรกัน ไหนจะไอศพ และผิวเน่าเปื่อยอะไรของเขาอีก คำพูดเหลวไหลทั้งเพ!ตั้งแต่ที่หน้าร้านแล้ว โจวเทียนเฟิ่งรู้สึกว่าสายตาที่ฉู่เฉินมองเธอไม่ปกติเจ้าหมอนี่ คงคิดอยากจะโชว์ฝี
“ใช่” จินอ้าวเทียนยิ้ม ก่อนจะเหวี่ยงหวัดใส่อากาศสองสามทีในท่าที่คิดว่าตัวเองหล่อที่สุด และบอกว่า “บ้านผมสืบทอดศิลปะการต่อสู้มารุ่นต่อรุ่น เปิดสำนักมวยในเมืองเจียงจงติดต่อกันมาสามรุ่นแล้ว”“ผมเองก็เรียนทุกอย่าง อย่างเทควันโด้ มวยซ่านโฉ่วอะไรพวกนั้น ผมเป็นหมดทุกอย่าง”“โดยปกติ คนสิบคนเข้าใกล้ผมไม่ได้ด้วยซ้ำ”หลิ่วหรูเยียนเผยยิ้มเย็นชาที่มุมปาก “คุณชายจิน ช่วยฉันสั่งสอนไอ้ฉู่เฉินนั่นที จะให้ดีทำให้มันพิการไปเลย!”“ไม่มีปัญหา แต่จบเรื่องแล้วคุณต้องไปกินข้าวกับผมนะ” จินอ้าวเทียนหรี่ตายิ้มหลิ่วหรูเยียนไม่รังเกียจ “ได้ ไม่มีปัญหา”เธอมั่นใจในหุ่นและความสวยของเธอมากถ้าใช้ประโยชน์จากเรือนร่างสั่งให้ผู้ชายทำงานแทนเธอได้ แล้วจะมัวรออะไรล่ะ?นี่ก็เป็นหนึ่งในความสามารถเหมือนกันนี่“ที่อยู่คือที่ไหน? อีกเดี๋ยวผมจะพาคนไป รับรองได้ว่าจะช่วยตัดแขนตัดขาไอ้หมอนั่นให้คุณแน่นอน” จินอ้าวเทียนพูดอย่างยโสชั่วร้าย……ขณะเดียวกันทางฝั่งฉู่เฉิน เขาพกกระถางหลอมยาไปที่ร้านขายยาอีกหลายร้าน ใช้บัตรที่ถังจิ้งจือให้ซื้อสมุนไพรมาล็อตหนึ่ง จากนั้นก็กลับไปที่บ้านใหญ่ตระกูลฉู่หลังจากมาถึงบ้านใหญ่ ฉู่เฉินก
ไอสังหารขุมนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว!ฉู่เฉินตกใจ พูดในใจว่าแย่แล้ว!พลังนั่นพุ่งมาทางเขา!หลิ่วชิงเหอส่งมาเหรอ?ไม่มีเวลาให้คิดมาก ฉู่เฉินรีบปลดปล่อยพลังซ่อนกลิ่นอายที่มังกรเฒ่าถ่ายทอดให้เขา เพื่อบดบังบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ทั้งหลังให้หายวับไปกับตาขณะเดียวกัน เหยาฉือที่กำลังพุ่งตัวมาทางนี้พลันขมวดเรียวคิ้วงาม เธอยืนอยู่กลางอากาศ ราวกับเทพเซียนผู้งดงามและเย็นชา“กลิ่นอายนั่นหายไปแล้ว?”ดวงหน้างามล่มเมืองของเหยาฉือเย็นยะเยือกสุดขีด“ไอ้มังกรลามกบัดซบ! อย่าคิดว่าหลบพ้นครั้งหนึ่ง แล้วจะหลบพ้นไปตลอดชีวิต!”“ข้าจะหาตัวเจ้าให้พบสักวัน ขอดเกล็ดมังกรของเจ้า กระชากเอ็นมังกรของเจ้า ตรึงวิญญาณของเจ้าไว้หมื่นปี!”พูดจบ เหยาฉือปลดปล่อยดวงจิตของตัวเองออกไปเพื่อตามหาอีกหลายรอบอย่างแค้นใจ แต่ก็หากลิ่นอายของมังกรลามกไม่เจอต้องเป็นวิชาลับอำพรางของเผ่ามังกรแน่ตอนนั้น ไอ้มังกรลามกก็ใช้วิชานี้ของเผ่ามังกรเพื่อลักลอบเข้ามาในสำนักเซียนเหยาฉือ และบุกเข้ามาแอบดูนางอาบน้ำที่สระน้ำ…น่าชังนัก!เหยาฉือกำฝ่ามือเรียวงามเข้าหากันแน่น นางแค่นเสียง ก่อนจะหันหลังเหินตัวจากไปณ บ้านใหญ่ตระกูลฉู่ฉู่เฉินสัม
คนขับรถคนเดิมรีบเดินพรวดพราดเข้ามา ก่อนจะถามว่า “เจ๊ใหญ่ มีอะไรเหรอครับ?”“สืบหาที่อยู่ของฉู่เฉินเจอหรือยัง?” โจวเทียนเฟิ่งถามอย่างร้อนใจเพราะเธอรู้สึกเจ็บที่ผิวหนังมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว แม้แต่อวัยวะภายในก็เริ่มรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาด้วย“สืบเจอแล้วครับ เจ๊ใหญ่ จะจัดการเขาเหรอครับ?” เสียวหู่ฉีกยิ้มมุมปากเขาแทบอดใจลงมือสั่งสอนไอ้ฉู่เฉินนั่นไม่ไหวแล้ว!กล้าพูดจาล่วงเกินเจ๊ใหญ่ บัดซบ!“จัดการอะไรล่ะ! รีบเตรียมรถ ฉันจะไปหาฉู่เฉิน!” โจวเทียนเฟิ่งถลึงตาใส่เสียวหู่พอขึ้นมาบนรถ โจวเทียนเฟิ่งเจ็บจนเหงื่อเริ่มซึม ผิวของเธอเน่าเปื่อยเร็วกว่าที่เธอคิดเสียอีก ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ เริ่มมีกลิ่นเน่าเหม็นโชยออกมาจากตัวเธอแล้ว กลิ่นนั้นเหมือนกลิ่นเหม็นเน่าของศพไม่มีผิด“เร็วเข้า! ไปหาฉู่เฉินที่บ้านใหญ่ตระกูลฉู่!” โจวเทียนเฟิ่งร้อนรน“ครับ!” เสียวหู่เองก็ร้อนใจเช่นกัน ดูก็รู้ว่าอาการของเจ๊ใหญ่ไม่สู้ดีย้อนกลับมาฝั่งฉู่เฉิน เขาพ่นลมหายใจออกมา พลังวิญญาณในจุดตันเถียนถูกเติมเต็มเกือบเจ็ดแปดส่วนแล้วฉู่เฉินลุกขึ้นเดินไปทางลานสวน เด็ดใบไม้ติดมือมาหนึ่งใบ จากนั้นก็ตวัดออกไป!ใบไม้พุ่งแหวกอากาศออ
โจวเทียนเฟิ่งกับเสียวหู่ตะลึงตาค้างไปทันทีไม่มีใครคาดคิดว่าฉู่เฉินจะบ้าบิ่นได้ขนาดนี้ เขาไม่เห็นโจวเทียนเฟิ่งอยู่ในสายตาเลยสักนิด“ฉู่เฉิน! รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไรอยู่?”โจวเทียนเฟิ่งเบิกดวงตางามกว้าง สายตาคมกริบสีหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวดที่ได้รับจากการเน่าเปื่อยของผิวหนัง เธอเป็นถึงเจ๊ใหญ่แห่งเมืองเจียงจงเชียวนะ!เป็นบุคคลที่เมื่อขานเรียกใคร ผู้นั้นก็ต้องตอบรับฉู่เฉินที่ยืนอยู่ตรงหน้ากลับกล้าไล่เธอให้ไสหัวไป?เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ?“ผมย่อมรู้ดีแก่ใจว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่ ขอบอกให้รู้ว่าปัญหาของคุณเกิดจากพิษศพ เป็นโรคที่เกิดจากพลังหยิน หมอทั่วไปรักษาไม่หายหรอก”“ถึงคุณจะรักษายังไงก็ต้องตาย พูดง่ายๆ ก็คือ โรคของคุณมีแต่ผมที่รักษาได้!”ฉู่เฉินพูดอย่างเย็นชา“ฉู่เฉิน อย่าคิดว่าอวดฉลาดโชว์ความสามารถต่อหน้าผู้คนได้นิดหน่อยแล้วจะยกย่องตัวเองเป็นปรมาจารย์ได้จริงๆ! รีบรักษาให้ฉันซะ ก่อนที่ฉันจะโมโห!”โจวเทียนเฟิ่งพูดอย่างไม่พอใจสุดขีดหลายปีแล้วที่ไม่มีใครกล้าพูดอย่างนี้กับเธอ“ไอ้เด็กเปรต! รีบรักษาให้เจ๊ใหญ่เดี๋ยวนี้! ไม่งั้นฉันตัดไอ้จ้อนของแก!
“มีแต่ฉู่เฉินที่รักษาได้จริงเหรอ?” โจวเทียนเฟิ่งขมวดคิ้ว มองลำคอที่เริ่มเน่าเปื่อยของตนเองในกระจกสุดท้าย เธอได้แต่กัดฟันแล้วเลือกที่จะก้มหัวเพื่อยอมประนีประนอม “ไปหาฉู่เฉิน”เสียวหู่พยักหัว เขาเหยียบคันเร่งพาโจวเทียนเฟิ่งกลับไปยังบ้านใหญ่ตระกูลฉู่อีกครั้งเพียงแต่ ครั้งนี้เสียวหู่และโจวเทียนเฟิ่งไม่ได้วางตัวสูงส่งไม่เห็นหัวใครอย่างก่อนหน้านี้อีกแล้ว“คุณฉู่ๆ ได้โปรดช่วยชีวิตเจ๊ใหญ่ของเราด้วย”พริบตาเดียว เสียวหู่ตะโกนเข้าไปในห้องรับแขกอย่างนอบน้อม ทิ้งความอวดดีไปจนสิ้น“ไม่ช่วย ไสหัวไป!”เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังออกมาจากในบ้านเสียวหู่ขมวดคิ้ว เขากัดฟันคุกเข่าอยู่หน้าประตู ตะโกนอีกครั้งว่า “คุณฉู่ ได้โปรดช่วยชีวิตเจ๊ใหญ่ของเราด้วย”“ขอแค่คุณยอมช่วย จะให้ผมจงอาหู่คนนี้ทำอะไรก็ยอม!”“แม้จะสั่งให้ผมเอาหัวโขกจนตายตอนนี้เลย ผมก็ยอม”เสียวหู่โขกหัวกับพื้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเลือดไหลอาบหน้าผากโจวเทียนเฟิ่งทบทวนครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ลดมาดอวดดีลง ก่อนจะตะโกนว่า “คุณฉู่ ก่อนหน้านี้ล่วงเกินแล้ว ได้โปรดเมตตาให้อภัยผู้น้อยสักครั้งเถอะ”“ขอแค่คุณยอมช่วย
ซี้ด!จนกระทั่งโจวเทียนเฟิ่งถอดชุดกี่เพ้าออกจนหมด ฉู่เฉินจึงได้เห็นอย่างแท้จริงว่าผู้หญิงคนนี้มีเรือนร่างราวกับนางพญามาร!ความอวบอิ่มด้านหน้า ทั้งกลมกลึงและเต่งตึง เว้าโค้งได้รูปจนน่าทึ่ง งดงามมากจริงๆเอวคอดแบบบาง โอบมือเดียวก็รอบแล้วส่วนบั้นท้ายก็ยิ่งผายกลมได้รูปตามแบบฉบับบั้นท้ายลูกพีช!ปกติผู้หญิงคนนี้ออกกำลังกายด้วยเหรอ?ถึงได้รักษาหุ่นได้ดีขนาดนี้!เรือนร่างของนางพญามารชัดๆ!หลิ่วชิงเหอเทียบกับเธอไม่ติดฝุ่นเลยแม้แต่น้อยเรียกว่านางพญามารไม่เกินจริงเลยแม้ว่าผิวหนังของเธอในตอนนี้จะเน่าเปื่อยไปบางส่วน แต่ก็ยังไม่อาจบดบังเสน่ห์อันเหลือล้นของเธอได้อยู่ดีนี่สิที่เรียกว่าผู้หญิงที่โตเต็มวัย และโตเต็มที่ทุกส่วนแล้วเสียด้วย“พู่…”ฉู่เฉินพ่นลมหายใจ ข่มอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ข้างใน ก่อนพูดว่า “นอนคว่ำลงไปครับ”“อืม…” โจวเทียนเฟิ่งรับคำ อดทนต่อความเจ็บปวดที่เกิดจากการเน่าเปื่อยของผิวหนัง และนอนคว่ำลงไปจากนั้น ฉู่เฉินเริ่มทายาสีดำสนิทลงตามตัวของโจวเทียนเฟิ่งเริ่มจากแผ่นหลัง ทาไล่ลงมาถึงบั้นท้ายฉู่เฉินอดไม่ได้ที่จะทึ่งกับความกลมกลึงและแน่นของบั้นท้ายของโจวเทียนเฟิ่
“ฉู่เฉิน...”โจวเทียนเฟิ่งพึมพำชื่อของฉู่เฉิน พ่นลมหายใจออกมา ถึงจะพบว่าไม่มีผ้าเช็ดตัวหรือเสื้อคลุมอาบน้ำอยู่ข้างในนี้“คุณฉู่ ช่วยเอาผ้าเช็ดตัวกับเสื้อคลุมอาบน้ำให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?”ภายในห้องอาบน้ำ มีเสียงของโจวเทียนเฟิ่งดังออกมาฉู่เฉินตอบกลับว่า “สักครู่นะครับ”ทันใดนั้น เขาหยิบผ้าห่มจากข้างนอก ส่งให้โจวเทียนเฟิ่งอยู่ข้างในผ่านช่องแยกระหว่างประตู และพูดว่า “ที่บ้านผมไม่มีเสื้อคลุมอาบน้ำ ดังนั้นใช้ผ้าผืนนี้เช็ดไปก่อนนะครับ”“ขอบคุณค่ะ” โจวเทียนเฟิ่งแอบอยู่หลังประตู แง้มประตูออก เธอยืนแขนขาวออกไปรับผ้าห่มจากฉู่เฉินฉู่เฉินกลอกตา เห็นทรวงอกอวบอ้วนสีขาวเหมือนหิมะและร่องเนินที่ชวนให้คนหลงใหลซี้ดๆ!นี่มันลูกแตงโม!ลูกแตงโมชัดๆ!โจวเทียนเฟิ่งรับรู้ได้ถึงสายตาของฉู่เฉิน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ภายในใจก็มีความคิดแปลกๆ ผุดขึ้นมา เธออยากจะแกล้งผู้ชายคนนี้มุมปากของเธอเผยรอยยิ้มเล่ห์เหลี่ยมขึ้นมา ทันใดนั้นช่องระหว่างประตูก็เปิดกว้างขึ้น“ฟู่!”ฉู่เฉินพ่นเลือดออกมาเต็มปาก เขารับไม่ได้กับภาพความงามอันหอมกรุ่นที่กำลังอาบน้ำอยู่ ดังนั้นเขาจึงรีบหันหลังกลับและจากไปโจวเทียนเฟิ่งยิ้ม
หลินเยว่หรูพูดจบก็รูดคีย์การ์ดห้องทันที ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทลั่วหัวเอ๋อร์อึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นถึงค่อยเข้าใจจุดประสงค์ของหลินเยว่หรูว่าต้องการโยนเคราะห์ให้คนอื่น ลั่วหัวเอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อยแล้วค่อยเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง .....อีกทางด้านหนึ่ง เมื่อหลินซานมาถึงเจียงจง ฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยก็เดินออกมาจากทางออกของเมืองชิงหลงที่อยู่ในเจียงจงพอดี เมื่อเห็นฉู่เฉิน หลินซานก็รีบเข้าไปต้อนรับแล้วเอ่ยด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มว่า “คุณฉู่ ผมได้รับคำสั่งจากคุณนายให้มารับคุณครับ” ฉู่เฉินมองหลินซานแวบหนึ่งแล้วขมวดคิ้วกล่าวว่า “คุณนาย? คุณนายไหน?”“คุณนายของบ้านชื่อหลินเยว่หรูครับ!”หลินซานรีบแนะนำตัวเองฉู่เฉินถึงค่อยพยักหน้า แล้วจูงมือหลิงเสวี่ยเดินไปยังรถเอสยูวีที่จอดอยู่ทางด้านข้าง“ไปกันเถอะ”ฉู่เฉินจูงหลิงเสวี่ยมานั่งที่เบาะหลัง แล้วออกคำสั่งอย่างเฉยชา หลินซานสตาร์ตรถทันที ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังโรงแรมในชานเมืองปินเฉิน หลายชั่วโมงต่อมา รถก็จอดอยู่ที่หน้าประตูโรงแรม“คุณฉู่ครับ เนื่องจากโรงแรมนี้อยู่ใกล้กับตระกูลลั่วมากที่สุด ดังนั้นเลยจัดเตรียมห้องเพ
เมื่อลั่วเทียนเต๋อเอ่ยคำพูดนี้ออกมา ลั่วหัวเอ๋อร์ก็อดรู้สึกหนักอึ้งในใจไม่ได้!เธอเคยเจอเจ้าสำนักน้อยคนนั้นแค่ครั้งเดียว แต่ว่าต่อให้เห็นผ่าน ๆ แค่แวบเดียวเท่านั้น เธอก็ดูออกได้ไม่ยากว่า นั่นเป็นคนไร้ประโยชน์ที่ดูดีแค่ภายนอกตามมาตรฐานเลย ถ้าต้องแต่งกับผู้ชายแบบนั้นจริง ๆ ชีวิตนี้ของเธอมีหวังได้จบสิ้นแล้วไม่ใช่หรือไง?และถ้าครั้งนี้กัวเฟิงช่วยตระกูลลั่วให้ผ่านพ้นวิกฤติได้จริง ๆ เธออยากปฏิเสธการแต่งงานก็คงไม่ได้แล้ว“เจ้าสำนักน้อย? ไอ้กัวเฟิงนั่นมันตัวอะไรกัน! ลูกสาวฉันจะไปแต่งงานกับเขาได้ยังไง!”หลินเยว่หรูกัดฟันกรอด ดึงลั่วหัวเอ๋อร์ให้มาอยู่ด้านหลังตัวเอง ก่อนจะเอามือชี้หน้าลั่วเทียนเต๋อแล้วพูดว่า “ไอ้คนแซ่ลั่ว คุณเป็นคนหาเรื่องเอง เลิกลากพวกเราแม่ลูกเข้าไปเกี่ยวข้องได้แล้ว” พอลั่วเทียนเต๋อได้ยินคำพูดนี้ โทสะก็พุ่งพล่านขึ้นมาเช่นกัน ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยใบหน้าแดงก่ำว่า “ดี! คุณมันแพศยาไร้ยางอาย รีบไสหัวออกไปจากบ้านตระกูลลั่วเดี๋ยวนี้เลยนะ!”“ไม่ต้องพึ่งตระกูลหลินของพวกคุณ ฉันก็จัดการเรื่องนี้ได้อยู่ดี!” อะไรนะ?หลินเยว่หรูถลึงตาใส่ลั่วเทียนเต๋อ กัดฟันกรอแล้วกล่าวว่า “คุณ
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่