หลิ่วชิงเหอถอนหายใจลึกๆ ที่จริงสีหน้าหลิ่วหรูเยียนเผยคำตอบที่ดีที่สุดแล้ว“แต่… หนู…”หลิ่วหรูเยียนชะงัก เธออยากจะพูดว่าเธอยังมีราชันมังกร บางทีราชันมังกรอาจจะสามารถเป็นที่พึ่งให้เธอสองแม่ลูกได้แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่อาจพูดออกไปได้เป็นไปตามที่หลิ่วชิงเหอเคยพูดไว้ ฉู่เฉินเป็นคนที่ออกโรงในตอนที่เธอต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด ซึ่งไม่ใช่ราชันมังกรก็เหมือนอย่างตอนนี้ ราชันมังกรดูเหมือนจะอยู่แค่ในจินตนาการของเธอเท่านั้นและในความเป็นจริงอู่จวิ้นเจี๋ยพาลูกน้องสิบกว่าคนเข้ามาใช้กำลังพาตัวเธอจากชั้นบนไปยังห้องประชุมซึ่งดูเหมือนว่าเป็นสถานที่ที่ไม่มีใครสักคนยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าคืออู่จวิ้นเจี๋ยกระทำเรื่องเสื่อมเสียกับเธอต่อหน้าผู้ติดตามสิบกว่าคนนั้นการปรากฏตัวของฉู่เฉินทำให้เธอเลี่ยงภัยอันตรายนี้ไปได้ในตอนที่เธอไร้เรี่ยวแรงขัดขืน “อันที่จริงฉู่เฉินมีอะไรไม่ดีเหรอ? ติดตามเขา ไม่มีใครกล้ารังแกพวกเราสองแม่ลูก ติดตามเขา บริษัทเราสามารถเป็นบริษัทร่วมลงทุนยาบำรุงปราณได้ทันที” “อีกทั้งฉู่เฉินยังหนุ่มยังแน่น หล่อเหลา กำลังวังชาก็ไม่เลว…”หลิ่วชิงเหอกล่าวถึงตรงนี้แล้วก็เ
แต่หลิ่วหรูเยียนเพิ่งจะพูดเสร็จ ฉู่เฉินก็ออกแรงหันหน้าเล็กของเธอไปอีกทางและเอามือปิดปากเล็กๆ เธอไว้เสียงเคาะและตะโกนจากนอกประตูเร็วขึ้น ฉู่เฉินก็ยิ่งร้องขออย่างเหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆหลิ่วหรูเยียนหัวใจตกมาอยู่ตาตุ่ม เธอกลัวว่าประตูจะถูกผลักเปิดออก และก็กลัวว่าหลิ่วชิงเหอจะเกิดเรื่องอะไรไม่คาดฝันขึ้นนั่นคือตระกูลหลูเชียวนะตระกูลใหญ่อันดับต้นๆ ของเมืองเจียงจง ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าแทบจะมีอำนาจมีอิทธิพลล้นฟ้าราวกับพลิกฝ่ามือทำไมจนถึงตอนนี้ฉู่เฉินยังมีกะจิตกะใจทำเรื่องนี้อยู่?แต่ไม่ว่าเธอจะขัดขืนยังไง ฉู่เฉินก็กดเธอแนบหน้าต่างบานกระจกของตึกไว้อย่างแน่นหนาเอี๊ยดอ๊าด!เมื่อได้ยินเสียงแหลมดังขึ้น ต้าหลิงจื่อที่อยู่นอกประตูก็ดูเหมือนจะตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง และค่อยๆ ผลักประตูเปิดออกเป็นช่องว่างเล็กๆ อย่างเบามือยังไม่ทันที่เธอชะโงกหน้าไปมองก็ได้กลิ่นฟีโรโมนผสมผสานกันกระแทกหน้า“อ๊า!”ต้าหลิงจื่อตกใจจนรีบปิดประตูแน่น กลับไปหลบซ่อนในทางเดิน“ทำยังไงดี ทำยังไงดีนะ”ต้าหลิงจื่อก็เคยผ่านประสบการณ์มามาก รู้ดีเลยว่าฉู่เฉินในเวลานี้ต่อให้ฟ้าพังทลายก็ไม่สามารถไปขัดจังหวะเขาได้แต่ค
หลูไคหมิงกุมท่อเหล็กมุ่งตรงไปยังหลิ่วชิงเหอ เจียงถิงเริ่มลนลานรีบไปข้างหน้าของหลิ่วชิงเหอกันทางไว้และกล่าวกับหลูไคหมิง “ไคหมิง นายทำอะไร? รีบวางมันลงซะ!”“ทำอะไร? ฉู่เฉินมันคิดจะซ่อนตัวไม่ใช่เหรอ? งั้นฉันจะรอดูว่ามันจะซ่อนไปถึงเมื่อไหร่!”สิ้นเสียงหลูไคหมิงก็ผลักเจียงถิงออกไป ยกท่อเหล็กขึ้นกะจะฟาดไปที่ศีรษะของหลิ่วชิงเหอ!“ว๊าย!”หลิ่วชิงเหอตกใจกรีดร้องออกมาปิดตาโดยไม่รู้ตัวทันทีช่วงขณะที่ท่อเหล็กของหลูไคหมิงใกล้จะฟาดถึง เสียงปังดังลั่นขึ้นมา ทำเอาท่อเหล็กในมือหลูไคหมิงค้างกลางอากาศ“แกกล้าแตะต้องเธอก็ลองดู!”จากนั้นน้ำเสียงเย็นชาก็ดังขึ้นหลูไคหมิงหันหน้าไปมองทางประตูก็เห็นฉู่เฉินกำลังพังประตูเข้ามาและพุ่งมาหาเขาทางนี้“เหอะๆ คุณฉู่!”เมื่อเห็นฉู่เฉินแล้วหลูไคหมิงฉีกยิ้มขึ้นมาจากนั้นโยนท่อเหล็กในมือไปอีกทางทันทีพ่อลูกอู่เย่าปังตกใจตื่นจนไปหลบข้างหลังหลูไคหมิง และจ้องมองฉู่เฉินด้วยสายตาขลาดกลัว“คุณหลู ระวังไอ้หนุ่มนี่ลงมือกะทันหันนะครับ”อู่เย่าปังที่หลบอยู่ด้านหลังของหลูไคหมิงกระซิบกล่าวเตือนหลูไคหมิงกลอกตาใส่อู่เย่าปังอย่างดุ จากนั้นเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้มประดับหน้า ย
“กล้าพูดอีกคำเดียว ตาย!”สายตาฉู่เฉินโหดเหี้ยม จ้องเขม็งอู่เย่าปังพร้อมกล่าว “เมื่อกี้ผมพูดไปแล้ว วันนี้ต่อให้เง็กเซียนฮ่องเต้มา พวกคุณสองพ่อลูกไม่ให้ตอบตามที่ผมพอใจละก็ ใครก็อย่าคิดรอดไปจากที่นี่ได้เลย”อู่เย่าปังสับสนมึนงงสุดๆทำไมฉู่เฉินมันกล้าขนาดนี้ ตบหน้าเขาต่อหน้าคุณหลูก็ช่างมันเถอะ ยังกล้าข่มขู่เขาได้ขนาดนี้อีก?ทำเหมือนคุณหลูเป็นอากาศธาตุไปแล้วจริงเหรอ?ขณะนี้สีหน้าหลูไคหมิงขรึมขึ้นมาทันที จ้องเขม็งฉู่เฉินพร้อมกล่าว “คุณฉู่ ผมเห็นแก่ที่คุณเคยช่วยพูดกับผู้ว่าการเฉียวให้ตระกูลหลูถึงไม่เอาความกับคุณ”“แต่มาทำร้ายสุนัขของผมต่อหน้าผมคุณเห็นตระกูลหลูสามารถรังแกได้ง่ายๆ อย่างนั้นจริงๆเหรอะ?!”ได้ยินคำพูดนี้แล้วฉู่เฉินก็อดขำขึ้นมาไม่ได้ กวาดตามองหลูไคหมิงแวบหนึ่ง “รังแกตระกูลหลูคุณ? เป็นเรื่องตลกร้ายจริงๆ คุณคิดว่าคุณคู่ควรให้ผมลงมือรังแกคุณเองเหรอะ?”“ตบหน้าเขาหนึ่งครั้งก็คือรังแก?”ฉู่เฉินพูดถึงตรงนี้แล้วก็หัวเราะเยาะขึ้นมา “หลูไคหมิง ผมให้โอกาสคุณครั้งสุดท้าย คิดให้ดี เรื่องในวันนี้จะจัดการยังไงกันแน่”ได้ยินคำนี้แล้วแม้แต่เจียงเหวินป๋อก็เริ่มสับสนขึ้นมา นี่ฉู่เฉินกำลังพู
ได้! นี่คุณพูดเองนะ หวังว่าอีกเดี๋ยวคุณยังคงหยิ่งยโสได้เหมือนตอนนี้!”ฉู่เฉินพูดพร้อมกดเบอร์โทรศัพท์โทรหาหยางเทียนหลงทันทีไม่นานก็มีคนรับสาย เสียงนอบน้อมของหยางเทียนหลงดังขึ้นจากปลายสาย “คุณฉู่ ผมหยางเทียนหลง ไม่ทราบคุณต้องการให้รับใช้อะไรครับ?”หยางเทียนหลงขณะนี้เชื่องเหมือนแมวตัวหนึ่งโดยสิ้นเชิงเรื่องที่ลูกชายของเขาตาย หยางเทียนหลงจะไปกล้าคิดเล็กคิดน้อยได้ที่ไหนอีก?เมืองหลงเฉิงล้วนสยบอยู่ใต้เท้าของฉู่เฉินทั้งสิ้น อีกทั้งยังพบว่าได้สาบานและจงรักภักดีต่อฉู่เฉิน แค่มีใจคิดคดทรยศเพียงเล็กน้อย คนของตระกูลหยางจะต้องถูกจำกัดสลายกลายเป็นเถ้าถ่านชั่วพริบตา“รีบยุติการค้าความร่วมมือทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตระกูลหลูเดี๋ยวนี้”ฉู่เฉินกล่าวราบเรียบหลูไคหมิงฟังแล้วก็คิ้วกระตุกโดยไม่ทราบสาเหตุฉู่เฉินมีอิทธิพลถึงขั้นนั้นเชียวหรือขนาดหยางเทียนหลงที่เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมืองเจียงจงยังเคารพนอบน้อมต่อฉู่เฉิน ทั้งยังฟังคำสั่งอีกด้วย?ในช่วงที่หลูไคหมิงกำลังสงสัยอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงของหยางเทียนหลงจากปลายสายตอบกลับมาว่า “ครับ! ภายในห้านาที ตระกูลหยางจะตัดขาดความร่วมมือทางการค้าทั้งหมดก
เขาจะไปรู้ได้ยังไงว่าฉู่เฉินไม่เพียงแต่ช่วยท่านเฉียวเท่านั้น แต่ยังช่วยท่านหลง และให้ข้อมูลสำคัญอย่างยิ่งแก่แก๊งมังกรฉู่เฉินในตอนนี้ เป็นบุคคลที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากท่านหลงและถานเฟยไปแล้ว เฉียวเทียนฉี่จะไปทำให้ขุ่นเคืองได้ง่ายๆเสียที่ไหน?แตะต้องฉู่เฉิน ไม่ใช่แค่ท่านหลงฝั่งเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด่านนายท่านใหญ่เฉียวที่เขาผ่านไปไม่ได้“ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็แค่รู้สึกว่านิสัยของคนตระกูลหลูมีปัญหาก็เท่านั้น ผมได้ยินมาว่าผู้ว่าการเฉียวสนิทกับตระกูลหลูมาก แต่อย่าติดร่างแหไปกับตระกูลหลูเด็ดขาดนะครับ”คำพูดของฉู่เฉินดังขึ้น เฉียวเทียนฉี่จากทางปลายสายก็ตกสู่ห้วงแห่งความคิดในทันทีคำพูดนี้ฟังแล้วเหมือนกำลังพูดถึงนิสัยของตระกูลหลู แต่ในความเป็นจริงกลับกำลังเตือนเฉียวเทียนฉี่ว่าตระกูลหลูกำลังโชคร้ายครั้งใหญ่แล้วถึงยังไงฉู่เฉินในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมากนัก มีสายใยแน่นแฟ้นกับสำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรหรือจะบอกว่า แก๊งมังกรเตรียมจะจัดการตระกูลหลูแล้ว?เฉียวเทียนฉี่คิดถึงความเป็นไปได้ในจุดนี้ก็สูดลมหายใจเข้าโดยไม่รู้ตัว ชั่วพริบตาเดียวก็ตรัสรู้เจตนาของฉู่เฉินจึงรีบกล่า
“คุณฉู่”เมื่อหลูไคหมิงเห็นฉู่เฉินก้มหน้ากดเบอร์โทรอีกก็หวาดกลัวจนตัวสั่น เกือบเผลอคุกเข่าให้ฉู่เฉินต่อหน้าทุกคนแล้ว“ฉันจำได้ว่าตระกูลหลูของพวกแกเหมือนจะมีกิจการสถานบันเทิงไม่น้อย ในเมื่อรากเหง้าก็ไม่มีแล้ว อย่าเก็บไว้อีกเลย เปลืองพลังงานเปล่าๆ ฉันจะช่วยแกให้มีชีวิตที่ราบเรียบเอง”สิ้นเสียงฉู่เฉินก็กดเบอร์โทรหาจางหลง“คุณฉู่ คุณหาผมเหรอครับ?”น้ำเสียงจางหลงมีความเคารพนอบน้อมสุดขีดในช่วงก่อนหน้านี้พรรคมังกรหาญได้กลับตัวกลับใจและชำระล้างตัวเองอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นกองกำลังใต้ดินเพียงกลุ่มเดียวที่ทำแต่สิ่งดีๆในมณฑลเจียงแห่งนี้และเขายังพบว่ากำไรจากการเก็บสมุนไพรวัตถุดิบยาให้ฉู่เฉินยังสร้างรายได้ให้มากกว่าธุรกิจสีเทาเหล่านั้นมากจริงๆเหตุผลหนึ่งคือฉู่เฉินให้ราคาส่วนต่างสูงมากพอ ทั้งยังหลังจากที่ยาบำรุงปราณผลิตออกมาแล้วก็จะเพิ่มกำไรให้เพิ่มอีกร้อยละห้ามีบางครั้งที่รายได้เข้าบัญชีมากกว่าห้าสิบล้าน จางหลงมีความสุขมากจนยิ้มไม่หุบแล้วถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่ามีธุรกิจที่ดีขนาดนี้ ใครมันจะไปทำเรื่องที่ผิดกฎหมายกัน?พูดจริงๆ คือ พวกที่คลุกคลีกับวงการใต้ดินอย่างจางหลงก็คิดจะปกป้องเมียและลูก
เวลานี้เอง หลิ่วหรูเยียนที่เพิ่งจะเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงสั้นสำหรับทำงานก็ผลักประตูเข้ามา และได้เห็นฉากที่หลูไคหมิงโขกศีรษะให้ฉู่เฉินพอดี เธอยืนมองจนตะลึงนั่นคือหลูไคหมิงผู้นำรุ่นที่สองของตระกูลหลูที่ทุกคนในเมืองเจียงจงสั่นผวาเหมือนเห็นเสือเห็นหมาป่าเชียวนะนี่… นี่มีเกิดอะไรขึ้นกันแน่?หลิ่วชิงเหอไม่สามารถซ่อนความตกใจในใจได้ และไม่รู้ว่าเป็นเพราะความตื่นเต้นหรือความกลัวกันแน่ที่ทำให้ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุดจนก้อนกลมทั้งสองข้างบนหน้าอกสั่นสะเทือนตามไปด้วย“คุณฉู่…”เพียะ!หลูไคหมิงเพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมายังไม่ทันได้เปิดปาก ฉู่เฉินก็สะบัดมือตบเข้าที่ใบหน้าของเขาจนเกิดเสียงดังตบจนหลูไคหมิงหน้าหันชนขอบเก้าอี้ด้านข้างเลือดไหลพุ่งขึ้นมาทันทีแต่หลูไคหมิงในเวลานี้กลับไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่ผายลมก็ยังไม่กล้า และยิ่งไม่กล้าร้องว่าเจ็บออกมาต่อหน้าฉู่เฉิน“ตระกูลหลูคุณเจ๋งไม่ใช่เหรอ?”“ผู้หญิงของฉัน ผมบทจะตบก็ตบ? ใครแม่งให้ความกล้าคุณมาวะ!”ฉู่เฉินในขณะนี้ดูแตกต่างไปเมื่อกี้ราวกับเป็นคนละคน ความเย็นชาอำมหิตปรากฏในดวงตาจ้องมองหลูไคหมิงจนเขารู้สึกขนลุก ถึงขั้นที่ไม่กล้าเงยหน้าสบตาฉู่เฉิน“
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก